บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ได้ซิคะ เพราะเหตุบริสุทธิ์ ผลก็ย่อมต้องบริสุทธิ์ด้วย แต่ถ้าคุณไปคิดว่าวัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึงแล้วไปตำหนิติเตียน คือทำให้ใจตนเองพร่องไป ผลของทานบารมีก็พร่องตามไปด้วยค่ะ
     
  2. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เล่านิทานสักเรื่อง

    ว่าง เป็นยังไง นิมิตรไปว่า เมื่อเดินจิตสาย สมถะ

    1.เมื่อเข้าสมาธิถึง ฌาน 4 ครั้งแรก จะมีอาการเหมือนกับความคิดไหลออกจากจิตอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง เรียกกันว่า ธรรมผุด

    2.รู้สึกได้ว่ามีตัวรู้เกิดขึ้น ไม่รวมกับจิต และ สัมปชัญญะ สามารถเลือกได้ว่าสัมปชัญญะจะไปจับที่จิตหรือตัวรู้ เมื่อสัมปชัญญะไปจับที่ตัวรู้ จิตจะเป็นผู้ดู

    3.ตัวรู้มีกำลังมากขึ้นจากการปฎิบัติ จะทราบได้ว่าตัวรู้ลอยออกไปจากร่างกาย เริ่มจากลอยอยู่เหนือร่างกาย ถ้ามีกำลังมากขึ้นอีกจนถึงจุดหนึ่ง

    ตัวรู้จะลอยขึ้นไป ข้ามขอบเขตมิติขึ้นไป พบกับอีกมิติหนึ่งที่มีแต่แสงสว่าง มองผ่านตัวรู้ลงมาจะเหมือนมองผ่านม่านบางๆ

    ที่นี่จะมีองค์ความรู้อยู่ เมื่อต่อเชื่อมเข้าไปจะเรียก อิทัปปัจจยตา เป็นความรู้เรื่อง เหตุและ ผล

    สภาวะตามข้อ 3 นี้เรียกว่า วิกขัมภนวิมุตติ

    4.เมื่อฝึกมากขึ้นอีกจะรับรู้ได้อีกว่ามีตัวรู้เพิ่มขึ้นมาอีก อยู่ในร่างกาย โดยที่ตัวรู้ที่อยู่ที่มิติหนึ่งก็มีอยู่ สัมปชัญญะ สามารถเลือกได้ว่า

    จะวางไว้ที่จิต ตัวรู้ในร่าง หรือ ตัวรู้ในอีกมิติ ได้

    เมื่อฝึกมากขึ้นไปอีก ตัวรู้ที่อยู่ในร่างจะลอยขึ้นไปอยู่เหนือหัว

    เมื่อฝึกมากขึ้นไปอีก จะมีบางอย่างลอยจากตัวรู้ที่อยู่เหนือศรีษะ ขึ้นไปหาตัวรู้ที่อยู่อีกมิติ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

    จุดนี้จะมีสภาวะทางกายเกิดขึ้น เปลือกตาจะกระพริบเองอย่างรวดเร็ว

    และเส้นที่แบ่งเขตมิติจะต่ำลงมาเรื่อยๆ จนวิมุตติทั้งสองรวมกันที่เหนือศรีษะ

    แต่เส้นแบ่งเขตมิติจะต่ำลงมาอีก ตามกำลังของสมาธิ บางคนอาจจะถึงแค่ศรีษะ บ่า กลางตัว ทั้งร่างกาย

    จุดนี้จะเรียกว่า เจโตวิมุตติ

    และบางคน วิมุตตินี้จะลอยขึ้นไป ผ่านอีกมิติที่มีแสงสว่างมากกว่าเดิม ไปสู่นิพพาน

    และจะมีจุดแยกต่อไปอีก เป็น ที่ค่อนข้างสลัว ว่างเปล่า เป็นมิติเดียวกับจักรวาลเราแต่ไม่มีเวลา

    ตอนที่เข้าไป เห็นภาพการก่อกำเหนิดของ จักรวาล

    และยังมีจุดที่แยกออกไปอีก เป็นที่มืด มีแสงสลัวแค่ประมาณหัวไม้ขีด

    เป็นมิติของจักรวาลก่อนหน้าที่กำลังดับลงเรื่อยๆ องค์ความรู้หายไปเกือบหมดแล้ว

    แสงนั้นคือ ดวงอาทิตย์ที่ 7 ที่กำลังดับ

    5.เมื่อถึงจุดนี้ จะรับรู้ว่าให้ทรง ฌาน 7 สัมปชัญญะ ไปวางไว้ที่นิพพาน จะพบกับความว่าง

    เมื่อเดินจิตสายปัญญา วาง อรูป วาง นิพพาน จะพบกับความว่างที่มากขึ้นไปอีก

    นิทานอ่านเล่นกันเพลินๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2021
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สาธุ อนุโมทนาค่ะคุณ hastin
    แล้วสภาวะที่มีกระแสไหลลงมาที่กลางกระหม่อม มีการดูดเข้านี่คืออะไรคะ?
     
  4. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    พยายามอย่ารับพลังภายนอกครับคุณ nouk

    ไม่มีอะไรได้มาฟรี

    ถ้ารู้ว่าจะต้องเสียอะไรไป แค่ไหน รับรองพวกที่ฝึก เลิกแน่นอน

    แต่ถ้าเราบังคับไม่ได้ ก็กำหนดรู้เฉยๆครับ ไม่ต้องมีเจตนา
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เป็นพลังไม่ดีหรือคะ เวลาที่เราวางจิตนิ่งๆ ตอนนอน จะสัมผัสได้ที่กลางกระหม่อมมีกระแสไหลลงมาเรื่อยๆ แค่สองครั้งได้นะ
     
  6. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ไม่ได้หมายถึงพลัง ดีหรือไม่ดีครับ

    หมายถึงว่า ร่างกายเรานี้เป็นผลจากกรรมที่เราทำมา บางทีมีเวทนาเกิด

    บางคนมีความสามารถ ใช้พลังมาแก้ไข ไม่ยอมรับผลของกรรม พวกนี้จะโดนลงโทษ

    ดึงพลังจากภายนอก ก็ผิดเหมือนกัน แต่ถ้ามาเอง ก็ไม่แน่ใจนะ
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ไม่เป็นไรค่ะ เพราะทุกคืนเราจะนอนสวดมนต์และภาวนาไปจนหลับ ก่อนที่จะมีพลังไหลเข้าที่กลางกระหม่อม เราจะเกิดปิติก่อน ช่างเถอะ...เราก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้ต้องการอยากรู้อะไรจริงๆ จัง
     
  8. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    จริงๆที่ถามเพราะ ผมเห็นเพื่อนคนหนึ่งเขาศึกษาและปฏิบัติตามพุทธวจน เขาบอกว่า การทำบุญหากทำกับสงฆ์ที่เพรียบพร้อมด้วยศีล เราจะได้บุญเยอะกว่า แล้ววสงสัย เพราะผมก็เขาไปประมาณนี้ แต่เขาก็ยังแย้ง
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ
    แต่ถ้าทำบุญกับเนื้อนาบุญ จะได้รับอานิสงส์ที่มากกว่าแน่นอนค่ะ

    เนื้อนาบุญก็คือพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้แก่ พระอริยบุคคล ตั้งแต่โสดาบันเป็นต้นไปค่ะ

    ผู้ให้...บริสุทธิ์ สิ่งของที่ให้...บริสุทธิ์ และ ผู้รับ...บริสุทธิ์
    ผลที่ได้รับก็บริสุทธิ์ตามไปด้วย...ดังนี้
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แต่ถ้าจะกล่าวเรื่องทานบารมี การที่มีจิตเมตตาแล้วให้ทาน (จาคะ)
    ไม่เลือกชนชั้นวรรณะคือให้ทานด้วยเมตตาอย่างแท้จริง
    ต้องการให้เขาพ้นทุกข์ ก็ได้ชื่อว่าได้สร้างทานบารมี
    เป็นการสั่งสมลงไปที่จิตของผู้สละออก
    ทำให้มีเมตตาอย่างไม่มีประมาณเป็นเมตตาอัปมัญญาได้เหมือนกันค่ะ
    เมตตาอัปมัญญานี้เมื่อเจริญมากๆ ก็เข้าถึงวิมุติได้เช่นกัน ลองไปศึกษาดูนะคะ
     
  11. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    ปกติก็จะให้ทานกับขอทาน ทำบญด้วย แล้วก็เด็กกำพร้าด้วย แล้วแต่สะดวก แต่ส่วนมากกับวัด ผมยังถือว่าน้อย เพราะผมให้ คนมากกว่า สงฆ์ เพราะบางทีเห็นคนอื่นที่ลำบากกว่าสงฆ์ก็มีเยอะ ผมเห็นของบางอย่างที่วัดเวลาเราทำบุญไปมีเยอะจนพระสงฆ์ท่านก็ไม่ได้ใช้ไม่ได้เอาไปแจกจ่ายคนที่เขาเดือดร้อน
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สาธุค่ะ การให้ถือว่าเป็นความดีอยู่แล้ว จะให้ใครที่ไหนเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ การมองโลกในแง่ดีให้คุณมากกว่าโทษนะคะ เพราะสิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือใจที่สงบ อิ่มเอิบกับการทำความดีทุกครั้งที่ได้ทำ ปราศจากนิวรณ์ข้อวิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย)

    ก็ต้องค่อยๆ สั่งสมกันไปค่ะ มุมมองของแต่ละคนแตกต่างกันไปตามสติปัญญาและความรู้ การเห็นต่างจึงไม่ใช่ความผิดของใคร :cool:

    โดยส่วนตัวจะทำทานตามเหตุปัจจัยค่ะ ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องทำกับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ แต่มองการทำทานแล้วเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อผู้รับทานนั้น เป็นทานที่เอื้อต่อการปฏิบัติธรรม เป็นทานที่เอื้อต่อการบรรลุธรรม เป็นทานที่สืบทอดพระพุทธศาสนาได้
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิมิตเมื่อคืน (5/4/58).....ท่านบอกว่า เมตตาสภาวะ สมาธิสภาวะ สมถสภาวะ แก้ปัญหาข้อธรรมได้
     
  14. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เมตตา ดีนัก

    ตอนนี้เราถูกสั่งให้แผ่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ทุกลมหายใจ คำภาวนาอื่นหยุดหมด

    เป็นส่วนต้นของ เมตตาเจโตวิมุตติ

    คุณ nouk เมื่อไรจะว่างเดินวงจร อยากอ่านจากผู้ที่ปฎิบัติ แบบภาษาปฎิบัติ
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ยินดีด้วยค่ะคุณhastin กับเมตตาเจโตวิมุตติและขออนุโมทนาค่ะ

    ต้องขออภัยนะคะ ช่วงนี้วางเรื่องการปฏิบัติทางกายลงหมดเลย แล้วหันมามองสิ่งที่กระทบของแต่ละขณะจิตแทน ทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่ถือว่าน้อยลงกว่าเมื่อก่อนเยอะ หมายถึงพอผัสสะเกิดแล้วจะไหลไปตามอารมณ์ที่ปรุงแต่งทั้งกุศลและอกุศล ตอนนี้ก็คงไว้ซึ่งกุศลอย่างเดียว หรืออุเบกขาไปเลยค่ะ กระทบแล้ววางๆ ไม่เก็บมาคิด เวลาอ่านกระทู้หรือพูดคุยในห้องแชท ก็เลือกที่จะคุยหรือไม่คุย มองประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านเป็นหลัก เอื้อในทางธรรมหรือไม่

    การพูดคุยกัน บางครั้งก็เป็นการเอื้อต่อกิเลส บางครั้งก็เป็นการเอื้อต่อการปฏิบัติธรรม จึงใช้สติมากกว่าในการเลือกที่จะแสดงหรือวางลง

    ก็ยังมีอนุสัย มีอาสวะกิเลส อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าเรายังไม่หมดจดจากกิเลสทั้งปวง

    หลังจากที่ผ่านสภาวะเบื่อเฉยเบื่อนั้นมานาน ไม่มีความฝัน จนมาถึงทุกวันนี้ เริ่มมีความฝันแต่ตื่นมาก็ลืมหมด รู้ว่าฝันตอนที่ฝันก็รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร ไปที่ไหนบ้าง เจออะไรบ้าง แต่ตื่นมาก็ลืม เล่าไม่ได้ ยกเว้นเป็นนิมิตจะจดจำได้ค่ะ

    ได้เห็นและเข้าใจอะไรๆ มากขึ้น รู้อย่างกว้างขวางแต่ยังอธิบายไม่ได้ค่ะ มัวแต่ไปดูภายนอก ภายในก็นิ่งสงบเหมือนเดิม สิ้นเดือนนี้ตั้งใจว่าจะไปปฏิบัติธรรมงานปริวาสกรรมที่จังหวัดน่านค่ะ
     
  16. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เคยโพสไว้นานแล้ว ในกระทู้คุณ nouk

    สภาวะคุณ nouk ตอนนี้ผ่านเบื่อ มาเข้าสู่ธรรมดา ในบรรทัดที่ 3

    โมทนาด้วยครับ



     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ใช่ค่ะ กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่อารมณ์ต่างๆ หายไป ความขุ่นมัวก็ลดลง จากที่ขัดใจง่ายๆ เวลาที่ถูกกระทบกับคำพูดหรือการแสดงที่ไม่ถูกใจ เห็นเรื่องธรรมชาติและกฏแห่งกรรมแทน ก็เลยกลายเป็นอุเบกขาวางเฉยไปค่ะ
     
  18. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ถึงจะใช้คำ เหมือนกัน แต่เป็นสภาวะอารมณ์คนละระดับกัน
     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แตกต่างกันอย่างไรคะ อ้อ...อีกเรื่องคือ ควบคุมกระแสของตนเองได้ กลายเป็นสงบนิ่งไป เพราะไม่ส่งจิตออกนอก ความคิดถึงก็กลายเป็นเฉยๆ ไป จากเมื่อก่อนเวลาคิดถึงใครจะรู้สึกกระวนกระวายใจ เดี๋ยวนี้ความรู้สึกนั้นไม่มีเลย มันหายไป

    เมื่อวันก่อนกลับไปอ่านเรื่องการทำสมาธิแบบธรรมจักร อ่านไปแล้วก็ปฏิบัติตามไปที่หน้าคอมค่ะ โดนให้ธรรมจักรหมุนที่กลางหน้าผาก สักพักก็เข้าห้องน้ำ นั่งมองขันน้ำที่ลอยอยู่ในถังน้ำที่มีน้ำอยู่เต็ม ไปเห็นออร่าสีน้ำเงินอมม่วงนิดๆ แผ่ออกมาจากขันน้ำสีขาวที่เรามองอยู่ ทีแรกนึกว่าตัวเองตาฝาดก็เลยเพ่งเข้าไป เห็นแสงสีน้ำเงินนั้นขยายออกและหดเข้า ก็ทดลองมองไปที่อื่นๆ ก็เห็นออร่าสีน้ำเงินอย่างเดิมในทุกที่ๆ สายตาไปเพ่งมอง

    ก็เลยพิจารณาว่านั่นคือออร่าของตนเอง มันเกาะติดอยู่กับวัตถุที่เราสัมผัสและเคยสัมผัส ใช่หรือเปล่าหนอ แต่เรื่องออร่าเนี่ย แม่ย่าเคยบอกไว้ว่าไม่ว่าเราจะสัมผัสอะไร จะมีออร่าของเราติดไปกับสิ่งของเหล่านั้นด้วย
     
  20. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    จะสังเกตว่ามีึ 4 บรรทัด

    มาตอนนี้คงต้องเขียนเพิ่ม

    ธรรมดา เบื่อ เฉย เบื่อ

    ธรรมดา เบื่อ เฉย เบื่อ

    ธรรมดา เข้าใจชีวิต เฉย เข้าใจธรรมชาติ

    ธรรมดา อุเบกขา วางมานะ เดินปัญญา เฉย เข้าใจ


    ส่วนเรื่องออร่า ก็แบบนั้นเหละ ไปไหนก็มีพลังตกค้างไว้ เหมือนกันทุกคน
     

แชร์หน้านี้

Loading...