นักปฏิบัติที่ไม่อาศัยตำรา เชิญแก้ข้อสงสัยให้หน่อย

ในที่นี้มีผู้ทำตัวให้รู้ว่าเป็นนักปฏิบัติโดยแท้ มีด้วยกันหลายคน โดยจะกล่าวว่าไม่ให้อิงตำรา ไม่ต้องอาศัยตำราก็หวังให้คนอื่นรู้ว่าตนนั้นรู้มาเองจากการปฏิบัติโดยแท้ ยังกล่าวได้อย่างถูกต้องได้ขนาดนี้โดยไม่ต้องอาศัยตำรา

ถ้าคนอื่นพูดบ้างก็ถูกกล่าวหาว่าจำมาจากตำรา หรือจำมาจากครูบาอาจารย์ที่กล่าวสืบทอดตามๆกันมา ข้าฯ นั้นผู้เดียวที่กล่าวถูกต้อง (เลยกลายเป็นว่าได้เกิดพระศาสดาองค์ใหม่เกิดขึ้นอีก) เมื่อปฏิเสธตำราเสียแล้วก็เท่ากับปฏิเสธคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างสิ้นเชิง ก็ควรบอกให้ชัดแจ้งไปเลยว่า อย่าไปเอาอย่างในพระไตรปิฎก

ยังมีข้อถามอีกว่าที่นักปฏิบัติไม่อิงตำรานั้นน่ะแล้วออกมาพูดปาวๆ อย่างนั้นอย่างนี้ มีตรงไหนบ้างที่ไม่มีอยู่ในตำรามีอยู่ในคำสอนลองยกตัวอย่างสักวรรคสักตอนมาให้ดูหน่อยซิ จะได้ก้มกราบอย่างสนิทใจ

อ้าว...ช่วยมาแก้ข้อสงสัยให้หน่อยสำหรับนักปฏิบัติไม่อิงตำรา ที่ไม่ว่าตามในพระไตรปิฎก...ถ้าผู้ยังอิงตำราว่าตามพระไตรปิฎกก็ไม่ต้องเข้ามา...รออ่านเฉยๆ

 

ก่อนชอบมากอ่านตำรา แต่เดี๋ยวนี้อ้างอ่านตำราน้อยลง อ่านหัวใจมากขึ้ัน (u)

https://www.youtube.com/watch?v=MS7acw5dWTA

 

ตั้งคำถามได้ดีมากๆครับจะคอยอ่านอีกคน ขออนุญาติด้วยนะครับ

 

..............ในความเห็นผม การคิดอะไร ตั้งแง่อย่างไร มันก็ไม่ได้มีผลอะไร กับใคร อย่างไร ได้เลย จริงจริง จะจับเอาอะไรมา เป็นสาระจริงจัง ไม่ได้เลย จริงจริง

 

ตามความเข้าใจ
ลุงแมวว่า พระอริยสาวกที่บรรลุอรหันต์ในสมัย
นั้น ล้วนรู้แจ้งด้วยการสดับพุทธพจน์จากพระโอวาท
โดยตรงโดยไม่ต้องอ่านตำรา

เมื่อเวลาล่วงเลยมาหลังพุทธปรินิพพาน
และหมดยุคของพระอริยสาวก
ได้มีการบันทึกพระโอวาทเป็นพระไตรปิฎก
แน่นอนว่าผู้ใฝ่ใจในการปฏิบัติธรรมของ
พุทธบริษัท4 ย่อมต้องอาศัยการอ่านพระไตร
ปิฎกเพื่อเป็นโรดแมพในการปฏิบัติตามรอย
พุทธพระองค์เพื่อแจ้งพระนิพพานกันเป็นส่วนใหญ่

จะมีบ้างที่ไม่ต้องอาศัยตำรา
แต่ก็ต้องอาศัยครู
อาจารย์ที่เชี่ยวชาญในการอบรมสั่งสอนเป็น
โค้ชติวเข้มให้

ที่ไม่อ่านตำรา ไม่มีครูบาอาจารย์แล้วปฏิบัติจน
ได้มรรคได้ผล จะมีได้อย่างไร!?!

 

:boo: แล้วใครล่ะ..ตามที่ลุงเพ้อเจ้อมานี่ ใครล่ะกล่าวดังที่ท่านโพสต์มา..หลักฐาน ชื่อล็อคอิน เวบไหน ไปอ่านมาจากไหน หรือมาโพสต์หามูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองที่เป็นหนอนตำราขนาแท้..
..มาแฝงโฆษณาชวนเชื่อีกนะซิ ตำราดี-ผีคุ้ม-..ได้แต่อ่านจนจำเพี้ยนไม่ลงปฏิบัติสักที..พอพวกที่เขาทำปฏิบัติจริง นำผลปฏิเวธมาถ่ายทอดก็ฟังเขาไม่รู้เรื่องอีก แถมคอยมองจ้อง แต่ความผิดพลาดของนักปฏิบัติ แล้วก็ซ้ำเติมเขาด้วยวาทะ..ธรรมกถึก เพริศแพร้วด้วยวาทะศิลป์ ปลิ้นทรัพย์ชาวบ้าน..พวกหนอนตำรานี่ จับไปต้ม-ก็ยังเป็นหนอนแทนที่จะคายไหม..อิอิ :boo:

 

อ้าว...ได้ตัวแล้วนักปฏิบัติที่ขาดตำราอยู่นี่เอง บอกว่าปฏิบัติตามตำราไม่ต้องเข้ามา
ปฏิบัติจนถึงปฏิเวธโดยที่ไม่มีในตำราที่ได้มาน่ะบอกหน่อยซิที่มันไม่มีอยู่ในตำรานั้นมันเป็นยังไง มันดีจริงๆจะได้ก้มกราบ
ยกตัวอย่างมาหน่อยชัดๆนะ

 

ตอนหนีเมียมาวัดไงลุง..ไม่ต้องใช้ตำรา ใช้แต่ น้ำลายอำลาคาถา อิอิ:boo:

 

ถามหาของจริง แถ...เลย..

 

อ้าว..ตรงไหน..แถ
ก็ตัวเองเอาแต่อ่านตำรา..จนติดงอมแงม เข้าค่ายบำบัดไหม.. จะแนะนำให้ มายกปัญหาในเชิงนักปฏิบัติต้องพึ่งตำรา..(ตอนปฏิบัตินะอาจารย์เขาให้วางตำราไว้ก่อน)
:'(ทำไมไม่ยอมเข้าใจว่า..ลงมือปฏิบัติบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งอ่านตำราแล้วมาฝอยจนน้ำลายกระจายในบอร์ดล่ะ นี่มันห้องอภิญญา-ต้องปฏิบัติซิจึงจะเข้าใจที่เขาสื่อ-คุยกัน มันคนละด้านกับตำรา

 

ก็ถามผลของการปฏิบัตินอกตำราว่าดียังไง เป็นยังไง...จะได้ก้มกราบ

 

เดี๋ยวนอกเรื่อง..หยุดก่อนเมียน้อย..สับสน ตามมาให้รับผิดชอบและ เจ็บใจมันจัดสับสนเป็นกิ๊กคนที่เท่าใดก็ไม่รู้..น้อยใจอุตส่าห์ไม่แวะไปคุย
ไม่รู้พลาดท่าให้นางได้ยังไง หยวนๆยอมๆมันไป จะทำไรก็ทำสับสนยอมทั้งนั้นกับนางบัว อิอิ (k)

 

อ้าวก็ตำราที่อ่านนะ ได้มาจากใครเขียน สังคยะนาเมื่อใด คณะไหนคนทำ จะได้บอกถูก..ชื่อสำนักพิมพ์ คนแต่ง พศ.ใด:'(

 

อันนี้น่าจะเป็นคนนอกคำสอนตัวจริง....การกลับชาติมาเกิดไม่ใช่คำสอนทางพระพุทธศาสนา...มันเป็นความงมงายของคนไม่เชื่อ คำสอนในพระพุทธศาสนา เป็นลัทธิงมงาย ในพระพุทธศาสนาไม่มีคำสอนไว้เลยตอบไม่ได้

 

แสดงว่าไม่เคยหยิบเคยอ่านเลย พระธรรมคำสอนน่ะ
พระพุทธเจ้าเคยกล่าวไว้ว่า เราไม่เคยมองเห็นไครเลยที่ควรบูชามากไปกว่าพระธรรม สับสนกำลังขาดไตรสรณคมม์ ที่ดูถูกพระธรรม หมิ่นพระสงฆ์

 

ลุงหมาน ตีความ-นัยยะ ตีอักขระข้างบนในเชิงนักปฏิบัติธรรม สมเป็นธรรมกถึกชั้นเอก โดยแท้ เฉียบขาดใจสั่งมาเก่งมาก..

(k)สับสน-โอ..หยุดก่อนพราหม์-พาล เรายังมิได้กล่าวคำดังที่ท่านกล่าวตู่เราดังข้างต้นเลย เราเพียงจำแนกการปฏิบัติที่แยบคาย-เทียบเคียงกับการเอาแต่อ่านตำรา ของท่านเพียงเท่านั้น

..ดูก่อนพราหม์-พาล..ท่านเคยมีแขกมาเยี่ยมบ้านบ้างรึไม่

ลุงหมาน. เคยครับ

ดูก่อนพาล ..ท่านเคยจัดอาหารต้อนรับแขกของท่านบ้างรึไม่ยามที่เขามาเยี่ยมท่าน

ลุงหมาน. ต้องแน่นอนอยู่แล้ว เคยครับ

ดูก่อนพาล..หากแขกท่านไม่กินอาหารที่ท่านยกมาแสดง อาหารนั้นจักตกเป็นของใคร

ลุงหมาน. ก็จักเป็นของเราเอง ซิท่าน

เช่นเดียวกัน พาล..คำกล่าวตู่ คำด่าทอ-คำที่ท่านตีความ ดังข้างต้นของท่าน หากเราไม่รับ..ย่อมตกแก่ใครล่ะ..
สาธุ:'(

 

อันนี้น่าจะไม่ตรงกับกระทู้ที่ตั้งชื่อไว้ว่า นักปฏิบัติที่ไม่อาศัยตำรา ถามหาผลของการปฏิบัตินอกตำรา อย่าแถออกนอกเรื่อง

 

บทสุนทรนี้เจ้าเขียนไว้ เราเคยอ่าน แล้วก็อปปี้มาวางไว้
มันเป็นปฎิเวธยังไง แสดงให้ดูจะได้เข้าใจไม่สงสัย

 

หาตัวนักปฏิบัตินอกตำราไม่ได้ มีแต่แถไปเรื่อยๆได้

 

เห็นแล้วคันขึ้นมาเลยพระองค์แสดงไว้อย่างนั้นจริงนั้นคือความเห็นถูกเบื้องต้นที่ปุถุชนควรเชื่อเพราะการเชื่ออย่างนั้นจะทำให้คนตั้งตนอยู่ในความดี ท่านกล่าวว่าคนเราถ้าไม่มีความเชื่อว่าบุญบาปมีจริงการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงสวรรค์นรกมีจริงคนเรานั่นจะทำในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดได้มากมาย เพราะจะไม่มีใครเกรงกลัวบาป โลกจะเดือดร้อนสังคมจะวุ่นวายอย่างที่เกิดขึ้นทุกย่อมหญ้าอย่างที่เห็นเกิดสงครามฆ่าล้างเผาพันธุ์กัน สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรเชื่อของผู้รู้กล่าวไว้แค่เชื่อแบบไร้เหตุผลก็เกิดผลดีแล้ว คนเราควรเขื่อถือว่าเป็นสัมมาทิฎฐิเบื้องต้น. ส่วนสัมมาทิฎฐิเบื้องปลายหมายความว่าอริยบุคคลขึ้นไปนั้นเขาเชื่อแบบมีเหตุผลดับความรังเรสงสัยในคำสอนนั้น. เขาจะต้องเข้าถึงไตรลักษณะทั้งนามกายและรูปกายจะยังไม่ขอกล่าวกล่าวไปก็มีแต่จะงงๆ