นักปฏิบัติที่ไม่อาศัยตำรา เชิญแก้ข้อสงสัยให้หน่อย

ธรรมกถึก..ที่ผมอ้างหมายถึง เถรใบลานปล่าวท่าน จ่ายักษ์มิใช่นักปฏิบัติ สาธุ:'(

 

ท่านผู้เจริญในธรรม ธรรมอันใดที่พระองค์ทรงแสดงไว้ดีแล้ว
เมื่อผู้มีปัญญาเห็นมันเยิ่นเย้อเกินไป และเห็นว่าไม่เหมาะไม่สมควรแก่สถานะของตน ก็ยกคำกล่าวนี้ไว้เสีย จงแสวงหาคำใดๆที่ยังพอเหมาะสมที่จะมีประโยชน์นั้น ยังมีอีกมากมายในพระธรรมวินัยนี้ จะยังไม่แร้งเกินไปที่จะไฝ่หาได้มาบรรเทาความหนาแน่นของกิเลสตัณหาไปก่อน ถ้ามันหนักเกินไปก็ขอให้ข้ามๆพ้นไปบ้างก็ได้ เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านแล

 

ท่านอาจใช้เรียกเพื่อเปรียบเทียบเสียดสีเบียดเบียนลุงหมานหรือเปล่า อย่าเอาตัวลุงหมานไปเปรียบกับท่านจะเป็นบาปเปล่าๆ เพราะท่านเป็นอรหันต์ที่ทรงคุณค่ากับพระศาสนานี้เป็นอย่างยิ่ง คำว่าพระเถระใบลานเปล่า จะมีพระพุทธองค์เท่านั้นที่ใช้เรียกพระเถระใบลานเปล่า เพื่อจะลดมานะของพระเถระรูปนี้เท่านั้น ผู้อื่นไม่ทรงอนุญาติให้เรียกได้

ลองมาดูประวัติพระโปฐิละ
ดังได้สดับมา พระโปฐิละนั้นเป็นผู้ทรงพระไตรปิฎกในศาสนาของพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ บอกธรรมแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูป. พระศาสดาทรงดำริว่า "ภิกษุนี้ ย่อมไม่มีแม้ความคิดว่า "เราจักทำการสลัดออกจากทุกข์แก่ตน เราจักยังเธอให้สังเวช."
จำเดิมแต่นั้นมา พระองค์ย่อมตรัสกะพระเถระนั้น ในเวลาที่พระเถระมาสู่ที่บำรุงของพระองค์ว่า "มาเถิด คุณใบลานเปล่า, นั่งเถิด คุณใบลานเปล่า, ไปเถิด คุณใบลานเปล่า แม้ในเวลาที่พระเถระลุกไป ก็ตรัสว่า "คุณใบลานเปล่าไปแล้ว."
พระโปฐิละนั้นคิดว่า "เราย่อมทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกพร้อมทั้งอรรถกถา บอกธรรมแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูป ถึง ๑๘ คณะใหญ่ ก็เมื่อเป็นเช่นนั้น พระศาสดายังตรัสเรียกเราเนืองๆ ว่า "คุณใบลานเปล่า" พระศาสดาตรัสเรียกเราอย่างนี้ เพราะความไม่มีคุณวิเศษ มีฌานเป็นต้นแน่แท้."
ท่านมีความสังเวชเกิดขึ้นแล้ว จึงคิดว่า "บัดนี้ เราจักเข้าไปสู่ป่าแล้วทำสมณธรรม" จัดแจงบาตรและจีวรเองทีเดียว ได้ออกไปพร้อมด้วยภิกษุผู้เรียนธรรม แล้วออกไปภายหลังภิกษุทั้งหมดในเวลาใกล้รุ่ง. พวกภิกษุนั่งสาธยายอยู่ในบริเวณ ไม่ได้กำหนดท่านว่า "อาจารย์." พระเถระไปสิ้น ๑๒๐ โยชน์แล้ว, เข้าไปหาภิกษุ ๓๐ รูป ผู้อยู่ในอาวาสราวป่าแห่งหนึ่ง ไหว้พระสังฆเถระแล้ว กล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของกระผม."

 

มีรูอยู่ 6 รู จงปิดรูทั้ง5 และจงจับเหี้ยระหว่างรูทั้งสองเถิด

 

หลวงปู่สาวกโลกอุดร เทศน์สอนเรื่องพระโปฐิละไว้อย่างนี้เป็นปริศนาธรรม

 

หลักคำสอน สำหรับผู้ปฎิบัติธรรมขั้นอุกฤษฏ์

คำทำนาย ของหลวงปู่และ..



คำทำนายจากหลวงปู่สาวกโลกอุดร ธมฺมปาโล

ทุกวันนี้เข้ากลียุคสังคมจะสอนพระ
หากพระไปสอนสังคมเขาจะเห็นเป็นเรื่องไร้สาระเหลวไหล
ถ้าใครวิ่งตามสังคม ความล่มจมจะมาถึง
ถ้าใครวิ่งตามความเจริญความยับเยินย่อยยับจะมาถึง
สังคมเดี๋ยวนี้ได้เข้าถึงจุดกลียุค จึงลุกเป็นฟืนเป็นไฟ
อนาคตต่อไปภายหน้า น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว
ชาวเมืองคนจะล้มตายคล้ายเขาเบื่อปลา
ชาวประชาจะหูเบา เชื่อตามกระแสข่าวลือโลกาธิปไตย
คือเชื่อถือตามคนส่วนมากลากไป

บางยุคบางสมัย
ในน้ำจะไม่มีปลา ในนาจะไม่มีข้าว
คนผิวขาวจะเข้าครอง น้ำอยู่ตามห้วยหนองคลองบึงจะเหือดแห้ง
ข้าวปลาอาหารสิ่งของต้องการบริโภคจะไม่เพียงพอ
สิ่งก่อสร้างจะพุ่งแพง ภัยแล้งจะเผาผลาญ
ทั่วจักรวาลดินฟ้าอากาศจะเปลี่ยนแปลงเกิดอาเพศ
พวกอวดตัวว่าเป็นผู้วิเศษอย่างออกหน้า
นับถือศาสนาเหมือนดั่งว่าเขาเป็นสาวกพญามาร
ฝูงชนจะหลงใหลกันไปบนบานบูชากราบไหว้

มือใครยาวสาวได้สาวเอา
พวกงี่เง่าเจ้าเล่ห์เพทุบาย จะหลอกขายข่าวลือ
แบบผีกระสือกระหายให้คนหลงเชื่อแบบงมงาย
จะทำลายพระศาสดา พวกหน้าหนาปัญญาปีศาจฉลาดแกมโกง
จะกอบโกยกินบ้านเมืองอย่างน่าทุเรศ
พวกอัญญะสัตตถุเทสเหมือนเข้ารีตเดียรถีย์
มีบริวารเป็นคนมารยาจะพากันรุ่งเรือง
ชาวบ้านชาวเมืองจะอดอยากหิวโหยทุกข์ยากลำบากใจไปทั่วโลก
พวกโสโครกจะมั่งมีได้ดีเป็นใหญ่
ต่อไปฝูงชนจะยกพวกเข้ารบราฆ่าฟันลันแทงกัน
จนเลือดไหลนองกองท่วมพสุธาน่าอุจาด

ไฟสงครามกลียุคจะระบาดไปทั่วทุกประเทศ
พวกกิเลสหนาพากันประจบสอพลอจะได้ดี
อลัชชีจะขึ้นทรงสุขสบายร่ำรวยมีศักดิ์ศรี
พระสงฆ์องค์ชีผู้ปฏิบัติดีจะเดือดร้อนยิ่งกว่าตกเป็นทาสสมัยก่อน
หนอนในไส้จะแผลงฤทธิ์คิดขยาย
เชื้อโรคร้ายรักษาไม่หายจะมีมาอีก
เชื้อสารพิษร้ายจะเข้าเผาลนใจกายให้วอดวายตายไปทั้งโลก
ความเศร้าโศกโศกาประชาชาติจะพินาศล่มจม
นิสัยสังคมจะเปลี่ยนแปลงวิปลาสขาดสติไปทั่วโลกา
สงครามจอมซ่าส์บ้าคลั่งศาสนาแบบคนเถื่อนจะมีเกลื่อนแผ่นดิน
ฝูงชนจะแย่งกันอยู่แย่งกันกิน

พวกจำศีลภาวนาตั้งอยู่ในศีลห้า
มีศีลธรรมนำหน้าประทับตราประจำใจ
จึงจะพ้นภัยอุบาทว์จากพวกวิหิงสา
ต่อแต่นี้ไปทุกชาติทุกศาสนาทั่วทั้งโลกใบนี้
จะเกิดมีแต่ภัยพิบัติไปจนถึงที่สุดพุทธันดร**
ต่อจาก พ.ศ. 5000 ไปอีก 80,000 ปี
ธรรมชาติในโลกใบนี้จึงจะกลับขึ้นมาสมดุลใหม่อีกครั้งหนึ่ง
และก็จะเข้าสู่ยุคของ พระศรีอริยเมตตรัยสัมมาสัมพุทธเจ้า
คือพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ในภัทรกัปนี้.

(**คือสิ้นศาสนาพุทธ 5,000 ปี ของยุคพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า)

หมายเหตุ: คำทำนายนี้หลวงปู่ไม่ระบุว่าเป็นประเทศใดประเทศหนึ่ง เป็นการทำนายโลกในภาพรวม ถ้าใครสงสัยคำทำนายว่าจะเกิดภัยพิบัติที่ไหน เวลาไหน หรือตีปริศนาธรรมไม่ได้ให้ไปถามหลวงปู่เป็นการส่วนตัว . (หลวงปู่สาวกโลกอุดร ธมฺมปาโล)

 

คุณกำลังบอกว่า การชักชวนคนอื่นทำบุญ เป็นการเบียนคนอื่น ไม่ใช่ทางตรงแต่เป็นทางอ้อม และเป็นการกระทำชั่วงั้นหรือครับ งั้นคุณเรียกการฆ่ากันในนามของพระเจ้าว่าอะไร เรียกว่าการทำความดีงั้นหรือครับ ถ้าคุณเลือกที่จะมองในมาตรฐานเดียวกันอย่างไร้อัคติ คุณไม่เห็นถึงการเบียดเบียนกันในศาสนาของคุณเลยหรือ การเบียนกันของคนที่เชื่อบัญญัติ 10 ประการ ของคนที่เชื่อคัมภีร์อัลกุรอาน การเบียดเบียนกันของคนที่เชื่อพันธะสัญญาใหม่ สงครามศาสนาที่เกิดขึ้นเพื่อพิสูจน์ความเชื่อของตัวเอง และประกาศว่าพระเจ้าอยู่ฝั่งของเขา และความขัดแย้งที่จะดำเนินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด คุณสนใจที่จะทบทวนแนวคิดในศาสนาอื่น แต่คุณเคยแม้แต่จะคิดทบทวนความเชื่อของศาสนาคุณไหมหรือการทบทวนความเชื่อในศาสนาของคุณเป็นการลบหลู่ คุณเคยใช้หลักการทางสถิติที่คุณอ้างมาสนับสนุนคำกล่าวของศาสนาคุณไหม

 

YKW

ทำไมไม่พิจารณาแล้วสวนกลับเราบ้าง

เหงาดีไหมเนี่ย! แขกไม่ได้รับเชิญอย่างเรา

 

..Athis..555 ..กาเฟย์

 

คุณมานีปากกับใจไม่ตรงกันซะแล้ว. ไม่อยากได้ความสุข(อมตะธาตุ)แล้วจะทำไปเพื่ออะไรอ่ะ. ยังมีหน้ามาบอกมีสติปัญญาเองได้. ถามหน่อยจะมาสนใจอยากทำเพื่ออะไรล่ะสติปัฎฐานนะ. ในเมื่อคุณไม่เคยนึกถึงบุญพระองค์เลย

 

ไอ้ศิลธรรมเรื่องคุณงามความดีนี้นั้นมันยังน่ารังเกลียดอยู่นะสำหรับแก่นของศาสนาพุทธ เครื่องชี้วัดหมายเอาจุดหมายสูงสุด. หนูมานีคิดว่าพระพุทธเจ้าเกิดมาเพื่อมาสอนความดีเท่านั้นเหรอผิดถนัดเลย. ความดีสูงสุดที่มนุษย์จะเข้าถึงได้คือ สภาวะของสมบัติทั้งแปด. สูงกว่าศิลอะไรที่มานีรักษาอยู่มากมายนัก. บนโลกนี้เขาวัดว่าอะไรให้ความสุขได้ละเอียดปราณีตแก่กันั่นแหล่ะความดีสูงสุด

คุณก็ได้แต่ยกตัวอย่างที่เป็นรูปปฎิเสธมาทั้งนั้นในเรื่องความเชื่อของคุณ เพราะความไม่ยอมเชื่ออะไรๆของพวกคุณกันนั้นเองเพราะมันพิสูจน์จับต้องไม่ได้เป็นรูปธรรมไม่เหมือนหลอดไฟที่คิดค้นขึ้นมาได้. ถ้าผมยกตัวอย่างอย่างนี้ล่ะผมมีอาหารอร่อยมากอย่างนึงยากให้คุณกิน. แต่เด็กโง่ก็ไม่ยอมกินบอกว่ามันมีก้อนกวดอยู่ในนั้น. ผมก็บอกว่ามันไม่ใช้ก้อนกวดมันผักชนิหนึ่งที่อร่อยมากแต่เด็กน้อยอย่างคุณก็ไม่เชื่อปัดมันทิ้งไป. ในที่สุดเด็กน้อยอย่างคุณก็กินอาหารจานนั้น. และเด็กน้อยก็ตายจากไปโดยไม่ได้รับรู้ถึงความสุขจากรสอาหารที่อร่อยที่สุด. เกิดมาปล่อยให้. ความเจ็บความชราความตาย. กัดกินไปชาติๆก็แค่นั้นเอง.

พระพุทธท่านก็ท้าให้เข้ามาพิสจน์.ไง ศิล สมาธิ. ปัญญา ท่านก็เริ่มกล่าวเรื่องศิลธรรมคุณงามความดีเบื้องต้นที่จะพอมองออกจับต้องได้บ้าง. อันนี้เข้าใจตรงกันนะเพราะท่านก็ยอมรับว่าศิลดี. กระเถิบขึ้นมาหน่อยสมาธิ. อันนี้ผมไม่รู้ว่าคุณท่านไปถึงไหน. คนที่ทำสมาธิได้เท่านี้นถึงจะรู้ว่าสมาธิคืออะไร. พระองค์กล่าวว่าสมาธิเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา แม้แต่สมาธิที่นำเกิดในภูมิที่มีความสุขที่สุดเท่าที่มนุษย์จะหามาเป็นสมบัติแก่ตนเองได้. พระองค์ยังรังเกลียดเลย. เพราะมันก็แค่ชั่วคราว. สุดท้ายหมดฤทธิหมดเดชก็กลับมาเป็นแบบนี้อีก

คุณเคยสัมผัสมั่ยล่ะสมาธิน่ะถ้าไม่เคยคุณจะรู้เรื่องราวของการดับทุกข์ได้อย่างไร. ผมเคยบอกคุณแล้วนี่ว่าถ้าคุณไม่สนใจเรื่องการดับทุกข์ก็ไม่ต้องมาสนใจเรื่องงของเรา. เพราะเรื่องของเราไม่ใช่ตรรกะแบบโลกๆ เป็นเรื่องเหนือโลก. โลกมันมีแต่เกิดดับ. 011000111000011000. แต่ปัญญของพระองค์เข้าถึงสภาวะ0111000ไม่มี. แต่มีการปฎิบัติเข้าถึงได้. พวกคุณก็วนอยู่กับการหลงกลตัวเองอยู่กับทฤษฎีว่าจะต้องจับต้องได้ด้วยมือ ด้วยตาเห็น. ด้วยหูได้ยิน.ลิ้นอร่อย. จมูกดมกลิ่นหอมๆได้พวกคุณจึงเชื่อ.

แต่วิชาสูงสุดของเราสัมผัสได้ทางใจเท่านั้นปัญญาซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม. แต่ก็ต้องอาศัยกายกับใจเป็นเครื่องมือวิจัยเพื่อเข้าถึงจุดหมาย. นี่ไงแก่นของเราคือความดีก็ต้องปล่อยวาง เพราะความดีความชั่วล้วนนำเกิดตามภพภูมิที่ธรรมชาติวางไว้ทั้งนั้นเมื่อเกิดย่อมมีดับ มีดับย่อมมีเกิด. การเกิดย่อมมีทุกข์อยู่รำ่ไป. คุณเปิดไฟฉายที่ทำขึ้นมาคุณจะไม่เจอมังกร. แต่ถ้าคุณยอมที่จะเปิดใจเรียนรู้(ไม่ให้เชื่อนะให้เรียนรู้ฝึกหัดศึกษา)เปิดแสงสว่างจากปัญญาคุณจะพบมังกร

 

นั้นแน่น้องมานียกตัวอย่างฝรั่งทำความดีได้มากกว่าเราชาวพุทธซะอีกโดยเอาการคดโกงมาหักล้างว่าเขาดีกว่าชาวพุทธ. คุณต้องเข้าใจก่อนว่าพุทธะกับชาวพุทธที่แท้จริง(หมายเอาเผาพันธุ์ชาวพุทธจริงๆที่เข้าใจในคำสอน)ต่างกันอย่างไรกับชาวพุทธในทะเบียนบ้านนะครับ. มันเทียบกันไม่ได่เลยจริงๆครับลองพิจารณาดูนะครับพุทธแท้กับฝรั่งดองบางคน

 

ภาพนี้บรรยายอะไร. เขาเป็นคนที่คิดจะไม่เดินตามใคร เพียงเพราะเขาคิดว่าเขาฉลาด. แต่ถ้าเขาแกล้งโง่เขาจะเป็นคนฉลาดกว่านี้ฉลาดกว่าที่เขาเป็นอยู่

 

.................คุณ อย่าไป บ้า จี้ ตามเขา เลย...คำว่า ศาสนา ที่เขาว่ามาใน ตัวอย่างนี้ มันเป้น คำว่าศานา ในแบบที่เขา คิดเอง เออเอง มันเป็นบัญญัติทางโลกโลก เหมือนคำว่า "ประชาธิปไตย" นั้นแหละ ติดกับดัก ตัวเองเปล่าเปล่า ...........คนที่เข้าใจ พุทธ ในแง่ มุม ที่เป็น กุศล คงไม่ บ้าจี้ ตามบัญญัติ ตื้นตื้นแบบนี้ นะ.........คุณ มานี เขาติดกับบัญญัติ พ้นพิ้น พวกนี้แหละ เลย แหวกไม่พ้น ซะที

 

คุณเป็นแขกพิเศษ...คุณคือดวงประทีปที่คอยส่องแสงสว่าง
ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เพราะมันเป็นของร้อนผู้มีปัญญาเท่านั้นจึงจะใช้เป็น

 

ขอบคุณครับ. ผมว่าเขาเข้าไม่ถึงคำว่าประชาธิปไตยหรอก. เพราะคำว่าประชาธิปไตยคงอธิบายได้ดีที่สุดคงเป็นพระพุทธองค์เท่านั้น

 

บันใดการก้าวขึ้นสู่ความเป็นพระพุทธะ พระโพธิสัตว์ เทพเทวา
แต่แรกก็ต้องอาศัยตำรากางเป็นแผนที่
สำหรับก้าวเดิน ไปหาองค์ความรู้ ตามหลักปฏิบัติ
จึงต้องวางตำรา แผนที่ลง เพื่อให้จิตพัฒนาไปในแนว
วิปัสสนา จึงจะไม่ติดตำรา

 

ไม่มีศาสนาก็ยิ่งดี จะได้ไม่มีอคติ คุณเชื่อว่าความเชื่อหนึ่งสามารถทำให้คนเป็นคนชั่วได้หรือครับ คนเราก็รับฟังแนวคิดอะไรมามากมายเต็มไปหมด ทำไมเขาถึงเลือกเชื่ออะไรบางอย่างที่เขาอยากจะเชื่อ ไม่เลือกเชื่อทั้งหมด คุณคิดว่าคนเราทำชั่วเพราะสิ่งที่เขาฟังคนอื่นบอกมาหรือครับ หรือเขาเลือกที่จะทำชั่วด้วยตัวของเขาเอง แล้วคุณคิดว่ามีคนที่ทรงพลังอำนาจขนาดพูดอะไรไป ทุกคนก็ต้องเชื่อทุกอย่างโดยไม่สามารถเชื่อความเชื่ออิ่นได้เลย หรือเป็นเพราะแต่ละคนเลือกจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อ และทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำกันแน่

 

ยินดีต้อนรันอาคันตุกะมาสาธยายธรรมครับ