ผมสงสัยมากครับ สรุปพระศาสดามีผมหรือหัวล้าน

เรื่องของเรื่องคือ ผมไปดูหนังที่เป็นละครเรื่องพระพุทธเจ้ามาน่ะคครับ เห็นในหนังว่าพระพุทธเจ้ามีผมอ่ะครับ แต่พระสงฆ์ที่เป็นสาวกของท่านโกนผม

ผมจึงสงสัยว่าพระพุทธเจ้าทำไมถึงให้พระสงฆ์คนอื่นๆโกนผม แล้วท่านไม่โกนล่ะครับ ถ้าอย่างนั้นจะเป็นตัวอย่างให้แก่พระสงฆ์ได้อย่างไร ผมว่าความจริงแล้วท่านน่าจะหัวโล้นมากกว่านะครับ พอผมไปค้นในพระไตรปิฏกก็เจอกับพระสูตรนี้น่ะครับ

ครั้งนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ครั้นบูชาไฟ บำเรอการบูชาไฟอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำสุนทริกา
ครั้งนั้นแลสุนทริกภารทวาชพราหมณ์ครั้นบูชาไฟบำเรอไฟแล้วลุกขึ้นจากอาสนะ เหลียวดูทิศทั้งสี่
โดยรอบด้วยคิดว่า ใครหนอแล ควรบริโภคเข้าปายาสที่เหลือนี้ สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็น
พระผู้มีพระภาคประทับนั่งทรงคลุมพระกายตลอดพระเศียรอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง จึงถือเอาข้าว
ปายาสที่เหลือด้วยมือซ้าย ถือเต้าน้ำด้วยมือข้างขวา เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคได้ทรงเปิดพระเศียรออก เพราะเสียงฝีเท้าของสุนทริกภารทวาช
พราหมณ์ ครั้งนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์คิดว่า ท่านผู้นี้เป็นคนโล้นๆดังนี้แล้ว ปรารถนา
จะกลับจากที่นั้น ลำดับนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ดำริว่าแม้พราหมณ์บางพวกในโลกนี้ก็
เป็นคนโล้น ผิฉะนั้นเราพึงเข้าไปถามถึงชาติ ทีนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ท่านมีชาติอย่างไร ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต


***ถ้าจะตอบคำถามของผมในอ้างอิงด้วยนะครับว่ามาจากไหน(แต่ผมว่าถ้ามาจากพระไตรปิฏกน่าจะดีสุดครับ) เพราะผมไม่อยากให้มีการทะเลาะกันเกิดขึ้นน่ะครับ

 

อุตส่าห์ยกพระสูตรมาได้ แต่กลับลังเลสงสัยเพราะดูหนัง....

ตกลงท่านจะเชื่อใคร?..

ระหว่างแขกที่สร้างหนัง กับพระสูตรที่พระอรหันต์รวบรวมไว้..!!

 

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=358

 

ขอบคุณมากครับ ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ และยังมีอีกหลายเรื่องทีี่ผมก็ว่าผิดอยู่ ^^

 

ผมว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้โกนผมนะครับ แต่เหล่าสาวกจะโกน ดังที่เราจะพบว่ามีพระเกศาธาตุบรรจุไว้ในเจดีย์ต่างๆหลายที่ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้น ยังมีที่พม่าด้วยและอาจมีที่อินเดียด้วย

ถ้าเป็นผมที่ปลงริมแม่น้ำอโนมาอันนั้นยังไม่ใช่พระเกศาธาตุเพราะท่านยังไม่ได้ตรัสรู้ ยังไม่บรรลุอรหันต์ ผมที่ตัดตอนนั้นถูกท้าวมหาราชทั้ง 4 นำไปบรรจุในเจดีย์จุฬามณีที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และท่านก็ไม่ได้โกนหัวจนโล้นนะครับประมาณว่าใช้กริชตัดผมให้สั้นพอเป็นพิธีเท่านั้น

ถ้าจะยกพระไตรปิฎกมาอ้าง ก็ควรนำเรื่องราวที่พระพุทธเจ้าท่านมอบพระเกศาให้ชาวบ้านบูชามาด้วย ผมก็ไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ระบุในพระไตรปิฎกด้วยหรือไม่ เพราะผมคิดว่าช่วงเวลาหลังจากที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ท่านน่าจะมีการมอบพระเกศาให้ผู้อื่นไว้บ้างนะ อีกทั้งเมื่อดูตามรูปต่างๆที่เคยเจอก็ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าหัวโล้นเลย อีกทั้งตอนนั้นในสมัยพุทธกาลแถบเนปาลนั้นน่าจะหนาวเย็นมากพอสมควร การจะตัดผมจนหัวโล้นนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นง่ายๆ

ดังนั้นถ้าพระพุทธเจ้าท่านโกนผม แล้วพระเกศาธาตุนั้นมาจากไหนละครับ

 

พระภิกษุสมัยนี้แม้โกนผม .. แต่ก็ยังมีพระเกศาธาตุนะครับ ซึ่งจะเป็นเส้นผมที่ยาวในระยะครึ่งเดือน

แต่ปกติ แม้พระอรหันต์ท่านก็ไม่ให้คนไปเก็บเส้นผมท่านนะครับ
เพราะท่านมองว่ามันเป็นเรื่องภายนอก ซึ่งถ้าไม่ใช่กลุ่มคนที่นำไปแล้วระลึกถึงท่าน ความดีของท่าน .. ก็คงมีประโยนช์น้อยมาก

 

ผมไม่รู้ครับ อาจจะเป็นของจริงหรือปลอมก็ได้ เราพิสูจน์ไม่ได้นี่ครับ แต่ผมคิดว่าระเบียบต่างๆที่พระพุทธเจ้าตั้งไว้ ท่านน่าจะเป็นผู้ทำตามด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าจะมีผมท่านก็ต้องโกนออกให้หมดอยู่ดี

 

เอ่อ คุณคิดได้ยังไงว่าของปลอม เจดีย์เหล่านี้ถูกสร้างมาเป็นร้อยเป็นพันปีแล้วนะครับ อย่าเอาตรรกะมักง่ายของคนสมัยนี้ไปเทียบกับคนรุ่นนั้นเลยครับ

แล้วเรื่องกฎระเบียบอะคุณก็ควรไปศึกษาเรื่องการแสดงฤทธิ์ดูนะครับตอนที่เกิดเรื่องที่เศรษฐีเอาบาตรไปแขวน จากนั้นมันเป็นเรื่องต่อเนื่องกันพระพุทธเจ้าท่านเปรียบว่าตัวท่านเหมือนเจ้าของสวนมะม่วงท่านวางกฎเอาไว้ก็จริงแต่ท่านสามารถแสดงฤทธิ์ได้

ถ้าคุณอยากจะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าโกนผม ก็ตามใจนะครับเพราะผมไม่ได้คิดและไม่ได้เชื่ออย่างคุณ

ผมขอใช้คำพูดของคุณย้อนศรไปหาคุณด้วยนะครับ คุณใช้คำว่าพิสูจน์ไม่ได้ แล้วคุณเอาอะไรมาพิสูจน์ว่าท่านโกนหัว คุณเคยเห็นพระพุทธเจ้าตัวจริงหรอครับ

 

น่าจะมีทั้งสองแบบเพราะท่านใช้ดาบที่พกมาตัดออกให้นายฉันนะเป็นครั้งแรกก่อน เวลาผ่านมาขณะที่อยู่กับปัญจวัคคีก็น่าจะม้วนผมไว้ กระทั่งเมื่อตรัสรู้และมีสาวกมากๆเข้า ก็เริ่มมีการโกนให้เหมือนกันหมด เพื่อความเรียบร้อยของหมู่คณะ และแตกต่างจากนักบวชอื่น ทั้งยังช่วยป้องกัน หมัด เหา ไร

 

พระอาจารย์ กล่าวว่า "เวลาเห็นพวกแอฟริกันผิวดำที่ผมติดหนังศีรษะแล้วนึกถึง พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านปลงพระเกศาครั้งเดียวในชีวิต แล้วเส้นผมก็ขอดติดพระเศียร ไม่เคยต้องปลงอีกเลย พอไปดูพวกแอฟริกันผิวดำก็เห็นว่าผมเขาติดหนังศีรษะ ดูอย่างไรก็ไม่ยาว

พระพุทธเจ้า ทรงอนุญาตให้พระไว้ผมยาวได้ไม่เกิน ๒ ข้อนิ้ว สำหรับ ๒ ข้อนิ้วนั้น ถ้าตั้งใจตัดจะได้ทรงกำลังสวยเลยนะ แต่ว่าพระท่านโกน การโกนศีรษะพระพุทธเจ้าอนุมัติว่าอย่าให้เกิน ๒ เดือนต่อครั้ง หรือว่าอย่าให้ความยาวเกิน ๒ ข้อนิ้ว เพราะบางคนผมยาวเร็ว ถ้าผมยาวก่อน ๒ เดือนถึง ๒ ข้อนิ้วก็ต้องโกน แต่พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยยาวถึงสักที เพราะม้วนติดหนังศีรษะ ก็เลยไม่ต้องโกนตลอดชีวิต

เราจะเห็นว่า พวกฮินดูพราหมณ์ ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายจะไว้ผมยาวเสมอ แล้วก็จะเกล้ามวยผมแทน เขาไกรลาส อันเป็นที่สถิตย์ของ พระศิวะ ซึ่งเป็นเทพเจ้าสำคัญที่พวกเขาเคารพนับถือ

คนที่ผมสั้นเขาถือว่าเป็นกาลกิณี ไม่มีใครคบด้วย พระพุทธเจ้า ทรง เสี่ยงที่สุดในโลก เพราะพระองค์ปลงพระเกศา ทำตัวเป็นคนกาลกิณี ไม่มีใครคบ ถ้าไม่บรรลุมรรคผล แปลว่าไม่สามารถจะถอยกลับไปที่เดิมได้อีกแล้ว ปิดทางถอยของพระองค์เองจนหมด ต้องเด็ดขาดแบบนั้นถึงจะเอาดีได้ ถ้าไม่เด็ดขาดอย่างนั้นจะเอาดีไม่ได้ เพราะฉะนั้น..โกน..!" (หัวเราะ)


สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔


ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=2938&page=4

 

[FONT=&quot]จาก หนังสือ [/FONT][FONT=&quot]เรื่องจริงอิงนิทาน (พิเศษ)[/FONT]

[FONT=&quot]ตัดตอนมาจาก เทปสรุปผลการท่องเชียงแสน[/FONT]​

[FONT=&quot]ลูก รักทั้งหลายจากรายงานผลการไปนมัสการปูชนียสถานพระธาตุจอมกิตติ และพระธาตุดอยตุง ตลอดจนบ้านเกิดเมืองเดิมที่เราตั้งประเทศไทยของบรรดาลูกรักทั้งหลายซึ่งสถาน ที่แห่งนี้ เชียงแสน หรือโยนกนคร ในสมัยที่องค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับบนดอย น้อย สมัยนั้นยังเป็นป่าอยู่ไม่ใช่เมือง ยังไม่มีถิ่นฐานบ้านช่องเป็นเมือง มีแต่บ้านเล็กๆ เวลานั้นองค์สมเด็จพระภควันต์ทรงเสยพระเกศาอธิษฐานให้หลุดมา ๓ เส้น[/FONT][FONT=&quot] (พระ เกศาพระพุทธเจ้าปกติไม่มีการร่วงหล่น) แล้วทางอธิษฐานวางพระเกศาลง จมลงไปในหินบนยอดดอยน้อย แล้วทรงพยากรณ์ว่า เขตนี้ต่อไปจะสามารถรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ถึง ๕,๐๐๐ ปี เราจึงถือว่าสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญสำหรับประเทศไทยทีเดียว[/FONT]




คำสอน พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
คำสอน พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ความสำคัญของพระจาตุจอมกิตติ | เว็บบอร์ด วิชาการ.คอม

 

ขอที่เป็นพระสูตรจากพระไตรปิฏกดีกว่าครับ จะน่าเชื่อถือได้มากกว่า

 

ไม่ได้มี ญาณ ไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง ตัวเองไม่เห็นไม่รู้ ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีจริง

อยู่ที่ภูมิธรรม ของบุคคลนั้นๆ เอง


ว่างๆ ก้ลองพิจารณาดูตัวเองก่อนดีกว่านะ

ผลของกรรมของตัวเอง เป็นตัววัดอยู่แล้ว ว่าจะสามารถฟังธรรม พระอริยเจ้าได้หรือไม่

หรือ ติดอยู่แค่ ตำรา ไม่รับฟังพิจารณาคำเทศน์สอนของพระอริยเจ้าพระสงฆ์ ก็คงเป็นกรรมของคนนั้น

 

ตำราที่คุณว่าคือสิ่งที่คัดมาจากคำพูดของพระพุทธเจ้าโดยตรง ถ้าเทียบกับพระสงฆ์คนอื่นๆบนโลก ต่อให้เป็นพระอรหันต์เลยเอา อะไรน่าเชื่อกว่ากันครับ

 

รู้ได้อย่างไร เกิดทันฟังธรรมพระพุทธเจ้าหรอ

คัดมากจาก พระสงฆ์ ที่บันทึก แล้วก็ แปลมาอีก

ไหนว่า จากคำพูดพระพุทธเจ้าโดยตรง

คงจะมีปัญญา พิจารณารู้ได้ด้วยตัวเอง

 

วันหลัง จะอ้าง ก็อ้างไปว่า คัด ตัดแปะ มาจากตำรา ไม่ใช่ได้ฟังโดยตรงด้วยตัวเอง มาจากพระพุทธเจ้า

ถ้าแค่นี้ ยัง มโน เอง ว่าได้ฟังคำพูดมาจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ก็ปล่อยไปตามกรรม
.

 

ไม่ได้คิดไปเองครับ หลักฐานมีอยู่ในประวัติศาสตร์ เสาหินอโศก, ยุคร.5 ,เศษพระไตรปิฏกที่พบให้ถ้ำเก่าแก่ มีหมดครับ ท่านไม่ศึกษาเอาเอง

 

แล้วท่านรู้ได้ไงว่าไม่ใช่ หลักฐานมีอยู่มากมายครับ เช่น เสาหินอโศก คุณไม่เคยศึกษาจากอะไรเลย ฟังอย่างเดียว ไม่พิจารณาแล้วมาบอกว่าผมคิดไปเอง

 

ไหนลองตอบสิครับ ว่า พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างเอง เป็นผู้บันทึกเองไหม

สั้นๆแค่นี้ คงเข้าใจไม่ผิดนะ

 

หัวโล้นชัวร์