สวดถูกเคล็ด. เห็นปาฏิหาริย์

สวดถูกเคล็ด...เห็นปาฏิหาริย์

หลายท่านที่เคยร่วมบุญ
หรือร่วมสร้างหนังสือบุญเพื่อธรรมทาน
คงได้อ่านที่เขียนมาหลายปี

ที่ได้พยายามบอกทั้งหมดที่รู้
ที่ไม่รู้ ที่เป็นประโยชน์และไม่เกิดโทษ
ก็ไปขอเมตตาครูบอาจารย์มาให้

ทั้งนี้เพียงหวังให้ท่านพบความสุข ความเจริญทั้งปวง
ตามบุญและกรรมที่ทำมา

เป็นการบอกแบบเจาะลึกถึงวิธีทำ วิธีปฏิบัติ
เพื่อให้ทำได้จริง เกิดผลจริง

มีคาถาอยู่บทหนึ่งที่ครูบาอาจารย์ตั้งแต่อดีต
ท่านถือว่าเป็นคาถาสำคัญอันดับต้นๆ

คือ คาถา " มงกุฎพระพุทธเจ้า "

คาถานี้ศักดิ์สิทธิ์มาก บูรพาจารย์
ท่านใช้สวดเป็นองค์ภาวนาจนเกิดสมาธิที่ยิ่งใหญ่ทรงพลัง

หากท่านใดได้สวด คาถาบทนี้เป็นประจำ
และในทุกลมหายใจมีสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดเวลา

จะพบแต่ความรุ่งเรืองไม่มีตกอับ หากมีภัยจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือทันกาล เจ้ากรรมนายเวรจะให้อโหสิกรรมง่ายและบางเจ้ากรรมนานเวรไม่สามารถแทรกเข้ามาทำอะไรได้

เคล็ดศักดิ์สิทธิ์ในการสวด

ก่อนสวดให้ทำจิตให้สงบ เมื่อจิตนิ่งสงบแล้วน้อมจิตลงกราบระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ ให้จิตนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระเมตตามหาบารมีของพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสรู้ธรรมและทรงนำธรรมมาโปรดสรรพสัตว์ทั้งปวง

ปีติในพระธรรมคำสอนที่เป็นแสงสว่างที่อบอุ่นอย่างแท้จริง

นึกถึงพระคุณ พระสงฆ์ผู้เผยแผ่ ผู้สืบทอดดำรงให้พระพุทธศาสนามีจนถึงทุกวันนี้

จากนั้นให้จิตนึกภาพพระพุทธรูปที่เราเคารพที่สุด ให้เป็นเพื่อให้เป็นพุทธนิมิตสักครู่จนจับภาพได้ชัด จิตสงบนิ่งพอ และน้อมจิตลงอธิษฐานจิตว่า

“ ขอกราบอาธารณาบารมี พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้าเพื่อปกปักรักษาคุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเทอญ”

คาถา " มงกุฎพระพุทธเจ้า "

เริ่มสวดโดยให้สวดนะโม 3 จบ แล้วสวดอักขระคาถาดังนี้

" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
สวดครั้งแรก 3 จบ หรือตามที่ต้องการ จากนั้นให้สวดอีกครั้งและกำหนดจิตตามดังนี้

" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "

เมื่อว่าคาถาจบที่ 1 ก็กำหนดจิตเป็นพุทธนิมิต หรือภาพพระพุทธรูปที่เราระลึกถึง ให้อยู่เบื้องหน้าของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตนี้เอาไว้ แล้วสวดต่อ

" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิอิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ "

ว่าคาถาจบที่ 2 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์หนึ่ง อยู่เบื้องขวา
ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตทั้งหมดเอาไว้แล้วสวดต่อ



" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "

ว่าคาถาจบที่ 3 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านหลังของศีรษะเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้แล้วสวดต่อ

" อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "

ว่าคาถาจบที่ 4 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านซ้าย และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้แล้วสวดต่อ

" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "

ว่าคาถาจบที่ 5 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้แล้วสวดต่อ

" อิงติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "

ว่าคาถาจบที่ 6 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้แล้วสวดต่อ

" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 7 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้แล้วสวดต่อ

" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 8 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิต เอาไว้ทั้ง 8 พระองค์เรียงวนรอบศีรษะของเราแล้วสวดต่อ

" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "

ว่าคาถาจบที่ 9 กำหนดพุทธนิมิตพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่เสด็จประทับกึ่งกลางศีรษะเป็นยอดมงกุฎเปล่งประกายพร้อมกันทุกๆพระองค์เป็น มงกุฎเพชรพระพุทธเจ้าทั้งเก้าพระองค์บนเศียรเกล้าของเรา

เมื่อทำได้แล้วจะเข้าใจได้ทันทีว่าคาถานี้จึงศักดิ์สิทธิ์มาก

และเชื่อว่าทุกคนที่ได้สวดและทำแบบถูกเคล็ดนี้
จะรู้ด้วยตัวเองแล้วว่าทำไมถึงได้ชื่อว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า

และ ขอให้พยายามจับนิมิตมงกุฎพระพุทธเจ้านี้เอาไว้ตลอดเวลาในระหว่างวัน เป็นการทรงอารมณ์ในพุทธานุสติกรรมฐาน

ขอบุญรักษา
ธ.ธรรมรักษ์

.........................

 

สาธุ

 

สวดแล้วเห็นผลจริงๆครับ กราบสาธุครับ

 

ทุกวันนี้ก็สวดพระคาถานี้ล้างหน้าตอนเช้า เพราะจำไม่ได้ว่าสวดให้ถูกทิศทำยังไง กะว่าจะเปิดดูในเว็บก็ลืมทุกที มาเจอกระทู้นี้พอดีสาธุๆอนุโมทนา