ไม่พยายามจะเจริญภาวนาจะรอดจากความเป็นผู้ประมาทไหม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 27 กรกฎาคม 2016.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คำสอนที่มีต่อพุทธศาสนิกว่า"จงตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท"
    หากไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ประมาทแต่ไม่พยายามบำเพ็ญ
    ภาวนาหรือไม่ขวนขวายที่จะฝึกฝนภาวนา
    จะมีทางเลือกอื่นแก่พุทธศาสนิกเหล่านี้
    เพื่อพ้นจากความประมาทอีกไหม??
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ส่วนมองว่า การเจริญภาวนาเป็นตัวช่วยเสริม ช่วยสร้างสติทางธรรมได้ครับ
    และสติทางธรรม(ไม่ใช่ทางโลกที่รู้มาจากการอ่าน การได้ยิน ได้ฟังมานะครับ)
    เป็นตัวช่วยควบคุมไม่ให้ประมาทครับ...

    เพราะดูจากกิริยาของตัวสติทางธรรมแล้ว..พบว่ามันเป็นตัวควบคุมความคิด
    ควบคุมพฤติกรรมของจิต

    เพื่อให้จิตคลายจากความคิดที่เกิดจากจิต(คือคิดปรุงแต่งยังไงก็ได้เช่น
    ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ ดำก็ได้ ขาวก็ได้ แบ่งแยก แบ่งข้าง ฯลฯ)
    ความคิดตรงนี้ที่สร้างเป็นตัวตนขึ้นมา สร้างความยึดในสิ่งที่ตนเองเชื่อ
    และก็จะเชื่อแต่สิ่งที่ตนเชื่อ สิ่งที่ตนไม่เชื่อไม่ถูกเป็นเหตุ
    ให้จิตขาดอิสรภาพ เป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้ง เป็นเหตุให้จิตไม่เจริญเติบโต
    ทางด้านจิตวิญญานครับ

    และสติทางธรรมยังช่วยให้คลายความคิดจากขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรม
    (ความคิดที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไม่เลือกที่ เลือกเวลา
    เลือกเรื่องที่จะขึ้นมา)ที่พอมันเกิดขึ้นมาแล้ว ใจเรามักจะเกิด โลภะ โมหะ
    โทสะอย่างใดอย่างหนึ่ง...

    แล้วก็มักพลั้งเผลอ ไปยึดไปดึงเข้ามาจนเกิดกลายเป็นพฤติกรรมต่างๆนาๆ
    และโลภะ โทสะ โมหะ ในใจนี้ยังไปส่งออก
    ไปติด ไปดึงเอา ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อย่างใดอย่างหนึ่งเข้ามาอีก
    จนสร้างจนกลายเป็นตัวเรา ของเรา ของๆเรา
    อย่างไม่รู้ตัวอีกเช่นกันนั่นหละครับ

    ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การเจริญภาวนาเป็นส่วนช่วยเสริม ให้เกิดความสงบได้ครับ..
    เมื่อสงบแล้วจิตก็จะนิ่งจะเฉยๆไว้ก่อน
    แต่ถ้าจะไม่ให้สร้างความประมาทจริงๆแล้วนั้น
    มันต้องเริ่มควบคุมตั้งแต่ที่ตัวจิต
    เพื่อไม่ให้สร้างความคิดที่เกิดจากจิต และไม่ให้ตัวจิตส่งออกไปดึงเอาสิ่ง
    ต่างๆจากภายนอกจากการรรับรู้ผ่านอายตนะต่างๆเข้ามาครับ

    อย่าลืมว่าทั้ง ๒ ส่วนนี้แยกขาดจากกันไม่ได้ บางคนไม่ได้ฝึกสมาธิ
    แต่รูปแบบการใช้ชีวิตเค้าเป็นการฝึกไปในตัวอย่างที่เค้าไม่รู้ตัว
    เช่น บุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานสูง เป็นต้น
    บางคนไม่ได้ฝึกเจริญสติแต่รูปแบบการใช้ชีวิตเค้าก็เป็น
    การสร้างสติไปอย่างไม่รู้ตัวเช่นกัน เช่น บุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวกับ
    การวางแผน ดูแลองค์กรเป็นต้น

    แต่ถ้าอย่างเราๆก็ต้องมาดูว่า ทำไมเราฝึกอะไรไม่สำเร็จซักอย่าง
    อาจเพราะเราตึงเกินไปไหม เรายึดในสิ่งที่เราเชื่อมากไปไหม
    เราเชื่อแต่สิ่งที่เราเชื่อ โดยไม่เชื่อสิ่งอื่นๆมากไปไหม
    พวกนี้ ล้วนแล้วแต่สร้างความยึดติดให้จิตเราได้ทั้งนั้นครับ
    ถึงจะเชื่อว่าไม่เชื่อมันก็คือการยึดติดครับ..
    ปล.ประมาณนี้ครับ
     
  3. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +248
    ภาวนาแปลว่าเจริญ ทีนี้ถ้าไม่ใช่ฤาษีชีไพร เป็นพุทธะก็ต้องเจริญศีลสมาธิปัญญาควบกันไป เพื่อดับเหตุไฟกิเลส เหตุดับอุปาทานก็ดับ เย็นใจหายร้อน

    ประเด็น ศีลรู้จักแล้ว สมาธิทำได้รึยัง ปัญญาทำให้เจริญได้ยังไง เหตุนี้ถ้าไม่ใช่พระพุทธเจ้าถึงต้องมีปริยัติ(การฟังอ่าน ครูอาจารย์) ถึงปฏิบัติได้ สมควรแก่ปฏิเวธธรรม

    อยากจะพูดอะไรให้มันดูหล่อดีมั่ง ไม่รู้จะใช่รึป่าวเพราะทำไม่ได้ เอาหล่อนะ (ฮา)
     
  4. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ใส่บาตรทุกวัน ทานบารมี นำทางพ้นทุกข์

    .....
     
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    วันนี้จิตปราศจากนิวรณ์กิเลสและความทะยานอยาก ขณะอยู่ในอิริยาบถเดินไปทำธุระ สาธุทุกท่าน
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็ขึ้นกับว่า จะ เอาธรรมะแบบลูบหน้าปะจมูก ตีความคำว่า ประมาท แบบ ปุถุชน

    หรือว่า จะเอา ความไม่ประมาท แบบ พุทธศาสนา

    ถ้าเอา ความไม่ประมาท แบบ พุทธศาสนา ต่อให้ สำเร็จอรหันต์ ก็ต้อง ภาวนาต่อ
    หยุดเมื่อไหร่ คือ ประมาท

    ยกตัวอย่าง พระโมคคัลลานะ ด้วยความ ประมาท(แบบพุทธ) คนเขามาล้อมฆ่า
    ก็ดัน เหาะหนี !!! ด้วยฤทธิ์จานลาย อันเป็น อาสวะ ประจำตัวที่ ละนิสัยได้ไม่หมด
    เพราะ เจริญอิทธิบาทสี่มามาก

    ทำไมถึงเป็น ความประมาท

    เพราะ ครอบครัวลูกเมีย ของ โจรที่ถูกบังคับให้มารุมฆ่า ต้องลำบาก แสนเข็ญ
    หากทำงานไม่เสร็จ

    ทำไมเป็นความประมาท เพราะ กรรมที่เคยทุบตีพ่อแม่ ในอีดตชาติจะมาให้ผล
    ต่อให้เหาะหนี เจริญอิทธิบาท4 อยู่มาจนถึงปัจจุบัน ก็ต้อง ถูก ฆ่า ทุบให้แหลก
    เหลวครั้งแล้ว ครั้งเล่า ไม่มีทางจบสิ้น แล้ว ก็จะมี ครอบครัวอีกหลายครอบครัว
    จะต้อง เรือหาย เพราะกรรมที่ไปทำกับ พระอรหันต์

    ด้วยความไม่ประมาท ของพระโมคคัลลานะ จึง กำหนด ลา ปรินิพพาน
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ตอบได้ตรงคำถามและกระชับแต่ไม่ทราบว่าถูกหรือไม่
    เพราะประมาทในทางศาสนาพุทธนั้นมุ่งหมายไปที่เรื่องการ
    หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารเป็นที่สุด
     
  8. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    เมื่อไม่พยายาม เจริญภาวนา จิตก็ไม่ตั้งมั่น เมื่อจิตไม่ตั้งมั่น สมาธิก็ไม่เกิด จิตย่อมฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ที่พอใจ ไม่พอใจ ซึ่งเป็นภพแห่งทุกข์ ผู้ที่มีจิตไม่ตั้งมั่น คือ ผู้ประมาทโดยแท้ ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง สิ้นลมเวลาใดก็ได้ จิตที่ยังเกาะเกี่ยวอยู่ในภพ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก อย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่าประมาทจะเรียกว่าอะไร? ส่วนทางเลือกที่จะพ้นจากความประมาทก็มีอยู่ ทางเดินนั้นมีอยู่ เมื่อยังเดินไม่ถึงจุดหมายก็ยังได้ชื่อว่า ประมาทอยู่ เหมือนคนหลงป่าหาทางกลับบ้าน ก็ต้องเดินด้วยความไม่ประมาท ถ้าเผลออาจจะถูกเสือคาบไปกินก่อนจะถึงบ้าน ถ้าไม่ภาวนาตอนนี้จะไปภาวนาตอนไหน ตอนจะตายพะงาบๆๆ ถึงตอนนั้นภาวนาไหวหรือป่าวล่ะ :cool:
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คำตอบนี้น่าจะตรงคำถามและตรงใจเพราะรู้สึกว่า
    มันใช่จนหนีไม่ออก
    ตอนใกล้สิ้นลมสติสตังมันคุมไม่ไหวอยู่แล้ว
    จะพุทโธ พุทธัง ก็คงไม่ได้หรือได้แค่ปากออกเสียง
    แต่จิตไปไม่ถึงพุทธะละอะไรไม่ลงซักอย่าง
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    จิตที่ไม่ผ่านการเจริญภาวนาย่อม
    ไม่พ้นเป็นจิตที่มีความประมาทและไม่สามารถจะก้าวพ้นภพชาติได้หรือ
    อีกนัยหนึ่งไม่สามารถพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง
    นั่นเอง
     
  11. boy1

    boy1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +51
    ผมเพิ่งเข้าใจว่าห้องนี้ไม่ใช้ห้องอภิญญา
    ถึงมิน่าทำไมอารมณ์เดือดง่ายจัง
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ผู้กำลังจะสนใจหรือเป็นผู้มีทักษะในด้านสมาธิ ด้านอภิญญา
    ก็สามารถใช้เวทีนี้ถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้
    ดังนั้น ห้องนี้จึงมีตั้งแต่ผู้เริ่มก้าวจนถึงผู้ชี่ยวชาญ
    โอกาสที่จะมีความเข้าใจในการปฏิบัติที่แตกต่างกันไปย่อม
    มี และอาจมีการถก การเถียงรวมถึงการถองกันบ้าง
    เมื่อถึงเวลาของธรรมดำทำงาน ฝ่ายธรรมขาวย่อมแยกแยะได้
    เพราะช่องนี้
    ไม่ใช่ช่องของผู้บรรลุธรรมทั้งหมดดังกล่าว
     
  13. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ความไม่ประมาท คือ การระลึกรู้ที่จะไม่กระทำอกุศล ซึ่งจะมีผลเป็นวิบาก
    ซึ่งมีความลุ่มลึกไปจนถึงระดับ ดับกิเลสอันเป็นบ่อเกิดของอกุศลทั้งปวง จนถึงขั้นดับอวิชชา ซึ่งเป็นตัวประมาทสุดท้ายและรากของความประมาททั้งปวง

    การภาวนา ถ้อยคำ จขกท ที่ใช้อาจสื่อถึงสมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา ที่อาจเน้นรูปแบบหลักที่เห้นภายนอก คือ การนั่งสมาธิ เดินจงกรม และการพิจารณาธรรม อาทิ ระลึกถึงความตาย ถึงพระไตรลักษณ์ ก็ดี เป็นกรรมฐาน ที่บำเพ็ญเพียรอย่างมีรูปแบบ

    ถ้าตีความรูปแบบที่เคร่งครัด อาจได้รูปแบบที่ไปจำกัดเกินไป ซึ่งอินทรีย์และพละของบุคคลหลายคนอาจไม่ถึงกับสามารถทำ รูปแบบ ที่เน้นเด่นชัด ว่าจะตะลุยให้บรรลุ ดับอวิชชา ภายใน ๗ ปี ซึ่งเป็นอุดมคติที่เสริมสร้างกำลังใจให้ทำความเพียรอย่างเอาเป็นเอาตายกับกิเลส แบบตายกันไปข้างหนึ่งเลย

    คำว่า มีทางเลือกหรือไม่ จึงเหมือนพยายามหาทางออกสำหรับคนชาวบ้านที่อินทรีย์และพละมีจำกัด หรือยังอยู่ภายใต้วิบากกรรมซึ่งขัดขวางการหลุดพ้นในชาติเดียว ซึ่งหากสามารถทำความเพียรตามรูปแบบ ภาวนา ที่เคร่งครัด หรือ ตรงทางจริงๆ ก็ต้องภาวนา แบบกรรมฐาน อย่างเดียว ไม่มีทางอื่น

    และถึงแม้จะคิดว่า เป็นทางอื่น ที่ไม่ใช่รูปแบบที่เข้าใจว่าคือ ภาวนา แต่ความจริง การไม่ประมาท หรือการระลึกรู้ตัวเสมอที่จะไม่ตกไปในกิเลสอกุศล ก็จัดว่าเป็นภาวนา แม้ว่าจะเนิ่นช้าก็ตาม ทั้งนี้ สำหรับผู้เห็นภัยแห่งวัฎฎะสงสาร ก็เรียกว่า เป็นผู้ประมาทได้เพราะการเกิดอีกแม้ชาติเดียว ก็ประมาทนั้นเอง

    แต่ถ้าพิจารณาอินทรีย์และพละของบุคคลแต่ละคนที่ไม่เท่ากันแล้ว ก็ควรเต็มตามกำลังอินทรีย์ที่มี แต่ก็มีหลายท่านที่บรรลุอรหันต์โดยรูปแบบภาวนาที่ไม่ใช่รูปแบบที่สอนให้ทำเพื่อหลุดพ้น แต่นั้น ก็เพราะท่านเหล่านั้น ขาดโอกาส ที่จะตลุยกรรมฐาน ซึ่งเป็นผลจากวิบากกรรมนั้นเอง ท่านจึงเนิ่นช้า และส่วนใหญ่ ต้องรอพระพุทธองค์หรือพระสาวกมาโปรด และอินทรีย์พละที่สะสมได้ที่ ก็หลุดพ้นโดยไม่จำต้องทำตามรูปแบบที่ เป็น ภาวนา ที่เด่นชัด

    การพบพานบุคคลที่มีวิบากกรรม ที่ไม่อาจมาอยู่บนเส้นทางตลุยเดี่ยว และรอโอกาสชี้แนะ จึงต้องพิจารณาวิบากกรรมของบุคคลนั้นๆ ซึ่งถ้าชี้ทาง ภาวนา แบบตะลุยกิเลสได้ ก็ต้องบอกว่า ต้องตะลุย แต่ถ้าวิบากกรรมหนักมาก ภาวนาที่จะให้ก็คงต้องตามอินทรีย์พละของบุคคลคนนั้นๆ ไป ซึ่งก็จัดเป็น ภาวนา ในกรรมฐาน ๔๐ ที่มีความเข้มข้นน้อยลงได้ ซึ่งอาจยกตัวอย่าง กายคตาสติ ตามระลึกรู้ในลมหายใจ ในอิริยาบถ ในการสำรวมกาย วาจา ใจ ในการกิน การอยู่ การมีชีวิต หรือการตาย เป็นรูปแบบอย่างนี้ ก็จัดเป็น ภาวนา เช่นกัน

    ซึ่งก็เสนอเป็นทางเลือกแก่บุคคลที่อินทรีย์พละในการหลุดพ้นน้อยได้ ซึ่งถ้าทำจริงๆ การภาวนาแบบนี้ มันหนักและยากยิ่งกว่านั่งสมาธิวันละ 3 -4 ชั่วโมง แต่พอออกจากการนั่งสมาธิ สติสัมปชัญญะก็หลุดลอยไปไหนต่อไหน

    ดังนั้น ถ้าจะตอบ คือ ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทางที่พระพุทธองค์สอน ซึ่งยังไง ก็คือ การภาวนา อยู่ดี
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ร้อยวัน พันปี ก็ กล่าวออกมาจาก ความจำ ไม่ใช่ ความจริง

    ตรงไหนอีกละเนี่ยะ ถึง โดนเข้าอีก

    ก็ บรรทัดแรกเลย ฮับ

    เพราะอะไร

    เพราะ พุทธบริษัท ในธรรม วินัยของพระพุทธองค์
    จะประกอบ กุศล ตลอดเวลา

    แล้ว อาศัย กุศลธรรมแสดงความเกิด ดับ ให้ใช้ อาสัยระลึก เจริญสติปัฏฐาน

    ดังนั้น อกุศล ไม่ต้องไปพูดถึง ไม่มีทางเข้าใกล้ และ ห่างจาก ข้าศึก
    อยู่ในตัว เนี่ยะ หนทางที่พระพุทธองค์ทรงตรัส สอน ให้หมั่นประกอบ

    หลังจากนั้น ความที่เกิดสติ อันอาศัย กุศลธรรม เป็นเหตุ จิตจะมี ความสุข
    อันเกิดจากการห่างอกุศล ทำให้จิตมีเหตุใกล้ให้เกิด " สมาธิ " เกิด ฌาณ
    เกิด อัพยากฤติ ....เพื่อ อาศัย ระลึกอีกระลอกหนึ่ง โดยคราวนี้ จะอาศัย
    ลหุสัญญา (มหากุศลจิต กี่ดวงไปทวนเอาเอง) เพื่อเจริญ อิทธิบาทสี่

    ซึ่งจะมาติดกิเลส " อุปกิเลส " ( ไม่ใช่ความชั่ว แต่เป็น กิเลสฝ่ายดี ติดดี
    ติดกุศล โดยมี นิกันติ เป็นเกณฑ์ ระบุว่าติดหนึบ ) ตรงเนี่ยะ ถึงจะ งัด
    คำว่า " ไม่ประมาท " เข้ามาใช้ มันถึงจะถูกลำดับ ลำดา ของการภาวนา

    ไม่ใช่ลำดับ ลำดา สัทธรรมปฏิรูป ตรึก นึกเดา เปรียบแบบ ศัพท์ปุถุชนไม่เคยสดับ


    ต้นคด ปลายตรง ไม่มี !!!

    จะคั้นน้ำมันงา แต่ไปเอา ข้าวเม่า มาบีบคั้น ย่อมไม่มีทางได้ผล



    หมายเหตุ : การเริ่มต้น หากเริ่มอย่างพุทธ จะไม่มีเรื่องการ แบ่งคาบเวลา การฝึก
    ประเภท เข้าสมาธิ ออกสมาธิ ก็แบ่งคาบเป็น ส่องช่วง !! ถ้าฝึกแบบพุทธ จะเข้า
    จะออก จะอยู่ ล้วนมี สภาวะเดียว ให้ระลึก มีปัจจุบันธรรม เป็นตัวฝึก ไม่มี ล่วง
    ไปในอดีต ล้ำไปในอนาคต มี กาลเวลา ปรากฏ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2016
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ภาวนาทำได้ตลอดเวลาทุกลมหายใจ
    ไม่ต้องเอานาฬิกามากำหนดครับ
    วันนี้สติขาดกระจุยไป ๑ ครั้ง
    ใจไปคิดอย่างอื่นอย่างแรง
    จนไม่รู้ตัวว่ามือกำลังจับอะไรอยู่
     
  16. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231

    คือ ผมเองก็อยากจะรู้ว่า ไอ้นิวรณ์คนนี้มันเป็นใครกัน ตัวมันเองดีอย่างไร
    จึงกล้ามาพิพากษาการกระทำของพระอรหันต์

    ถ้าใครเคยอ่านประวัติเรื่องพระโมคคัลลาน์ถูกพวกโจรทุบตีนี้
    ก็จะทราบว่า แม้แต่พระพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังไม่เคยตำหนิติเตียนท่าน
    เพียงแต่นำบุพกรรมมาเล่าว่า เหตุที่ท่านถูกทุบตีในชาตินี้เป็นเพราะ
    กรรมในอดีตชาติที่เคยทุบตีบิดามารดา

    แต่ไอ้นิวรณ์นี้ มันใช้วิธี พูดตีหัว แล้วมาลูบหลัง เลวมาก :mad:
     
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ตำหนิแล้วได้ดี หรือได้เลวบอกมา 55!!!
     
  18. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ปล่อยไว้เฉยๆ แล้วให้คนที่มาอ่านเกิดเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย นึกตำหนิพระอรหันต์ตามคารมของนิวรณ์ จะเป็นสิ่งที่ดีไหม ???
     
  19. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ผมถือว่าผมด่าคนชั่วนะ ไม่ใช่อยู่ดีๆนึกจะด่าก็ด่าเมื่อไรกัน มันต้องมีเหตุผลที่สมควรถูกด่า
     
  20. Silverwind

    Silverwind สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +20
    คนที่ไม่ควรถูกด่า แต่ถูกด่า ก็มี
    คนที่ควรถูกด่า แต่ไม่ถูกด่า ก็มี

    เยเนว เอโก ลภเต ปสํสํ
    เหตุอย่างหนึ่ง อาจทำให้คนหนึ่ง ได้รับการสรรสริญ

    เตเนว อญฺโญ ลภเต นินฺทิตารํ
    เหตุอย่างเดียวกัน อาจทำให้อีกคน ได้รับการนินทา

    ตเถเวกสฺส กลฺยาณํ
    สิ่งๆหนึ่ง อาจดี สำหรับคนๆหนึ่ง

    ตเถเวกสฺส ปาปกํ
    สิ่งๆหนึ่ง อาจเสีย สำหรับอีกคนหนึ่ง

    สพฺพํ น กลยาณํ วาปิ ปาปกํ
    ไม่มีสิ่งใดดีไปทั้งหมด หรือเสียไปทั้งหมด
     

แชร์หน้านี้

Loading...