มงคลวัตถุ สิริแห่งชีวิต ที่สุดแห่งศรัทธา : รูปถ่ายนิโรธสมาบัติ มหาจักร มหาสังข์ โคนนทสูร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย studio214, 19 กรกฎาคม 2015.

  1. progress por

    progress por สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +45
    จองรายการที่ 187 ตามที่pmไปครับ
     
  2. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 189 รูปถ่ายนิโรธสมาบัติ หลวงพ่อกัสสปมุนี หลังยันต์พุทธเกษตร
    ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท จอง

    รูปถ่ายเล็กยุคต้น หายากมาก ราคาตามสภาพ เก่าขึ้นปรอท องค์หลวงพ่อยังชัดสมบูรณ์ ภาพยุดแรกๆจะหายากมาก ราคาสูง เนื่องจากภาพนี้สร้างหลายครั้งหลายยุคมาก กระทั่งหลวงพ่อสิ้นแล้วก็ยังมีสร้างขึ้น ดังนั้นจึงนิยมภาพเก่าในยุคต้นมากกว่า

    หากใครเคยอ่านเรื่องราวที่หลวงพ่อท่านได้บันทึกไว้เมื่อครั้งไปปฏิบัติที่ภูกระดึง ย่อมทราบได้ว่าหลวงพ่อนั้นท่านสร้างบารมีมาแต่อดีตมากมายนับไม่ถ้วน ในชาติสุดท้ายนี้ท่านจึงบรรลุธรรมได้แม้จะบวชเมื่ออายุเข้า52 ปี ผลจากมหาบารมีในอดีตชาติ จึงส่งผลให้ท่านมีพลังจิตที่สูงมาก

    หลวงพ่อกัสสปมุนีเคยว่า สกุล"กัสสปะ"สมัยพุทธองค์มี 7 ท่าน คือ
    1.มหากัสสปะ
    2.อุรุเวลกัสสปะ
    3.นทีกัสสปะ
    4.คยากัสสปะ
    5.กุมารกัสสปะ
    6.อเจลกัสสปะ
    7.จุลกัสสปะ
    ซึ่งเป็นที่รู้กัน"ภายใน"ก็คือ หลวงพ่อกัสสปมุนีนั้น ก็คือท่าน "จุลกัสสปะ"แต่กาลก่อนนั่นเอง มาในชาตินี้ สมเด็จพระอุปัชฌาย์(สังฆราชป๋า วัดโพธิ์) จึงประทานนามเป็นพิเศษว่า "กัสสปมุนี" แทนชื่อจริง

    เมื่อปีพ.ศ. 2507 หลวงพ่อกัสสปมุนีได้เดินทางไปยังชมพูทวีปหรือประเทศอินเดีย และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานถึง 5 เดือน ตลอดเวลาที่ท่านเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ท่านจะห่มดองหรือห่มลดไหล่ตลอด ในขณะที่พระเถระองค์อื่น ๆ จะห่มคลุมตามพระวินัยบัญญัติว่า เมื่อภิกษุออกนอกบริเวณวัด ต้องห่มคลุมให้เป็นปริมณฑลคือข้างบนจีวรต้องติดคอ ด้านล่างต้องคลุมครึ่งแข้งจึงถูกต้อง แต่การที่หลวงพ่อห่มดองตลอดรายการนั้น ท่านให้เหตุผลว่าชมพูทวีปเป็นดินแดนแห่งพระพุทธองค์ ทุกหนแห่งล้วนแต่เป็นแผ่นดินของพระองค์ที่ทรงจาริกไปแสดงธรรม จึงถือว่าเป็น ‘เขตพุทธาวาส’ ทั้งสิ้น ท่านจึงไม่ห่มคลุม

    และทุกแห่งที่ท่านไปนมัสการ ตามพุทธประวัติก็ดี ตามโบราณาจารย์กล่าวอ้างก็ดี ตามที่แขกอินเดียเล่าให้ฟังก็ดี ว่าสถานที่นี้พระพุทธเจ้าทรงกระทำพุทธกิจอย่างนั้นอย่างนี้ หลวงพ่อท่านยังไม่เชื่อทีเดียว หากท่านลงมือนั่งภาวนา ‘ตรวจสอบ’ ด้วยองค์ท่านเองในที่ทุกแห่ง

    กระทั่งจิตท่านเห็นชัดว่า ณ สถานที่นี้พระพุทธองค์ได้ทรงทำกิจดังกล่าวอ้างมาแล้วจริง ๆ ท่านจึงปลงใจเชื่อ และเป็นที่น่ายินดีว่าเมื่อท่าน ‘พิจารณา’ ด้วยอำนาจฌาน-ญาณ อันสูงยิ่งของท่านแล้ว ปรากฏว่าในทุกสถานที่ล้วนเป็นของจริงทั้งสิ้น ทุกแห่งแฝงเร้นด้วยพระพุทธบารมีที่ยังคงอบอวลแผ่รัศมีอยู่ทุก ๆ เวลา รอคอยผู้มีบุญญาธิการมานมัสการให้เกิดมหาบุณย์-มหากุศล
    ดังนั้นท่านใดที่คิดจะไปหรือไปมาแล้ว...ก็จงสบายใจและจงอิ่มบุญในใจให้เต็มที่เถิด

    ดังภาพถ่ายหน้าสถูปที่ถาม หลวงพ่อท่านกำลังนั่งภาวนาอยู่ที่ถ้ำอจันตา ขณะที่ใช้อำนาจจิต ‘ตรวจสอบ’ อยู่นั้น ก็มีฝรั่งคนหนึ่งผ่านมาเห็นท่านเข้า เวลานั้นท่านเปลื้องจีวรและสังฆาฏิออกแล้วคงเหลือเพียงสบงและอังสะ อีกทั้งยังพาดลูกประคำเส้นเบ้อเริ่ม ทำให้ฝรั่งนายนั้นนึกว่าท่านเป็นเณร จึงเกิดความเอ็นดูและทำการบันทึกภาพท่านไว้

    ภายหลังฝรั่งก็ได้นำรูปนั้นมาให้ท่านดู ปรากฏว่าท่านไม่พอใจมาก คงเพราะแอบถ่ายโดยไม่ขออนุญาตท่านก่อนประการหนึ่ง และคงเพราะท่านแต่งตัวไม่เรียบร้อยประการหนึ่ง ท่านจึงดุเขา(เพราะท่านพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม)และยึดทั้งรูปทั้งฟิล์มกลับมา

    ครั้นกลับเมืองไทยแล้ว คณะศิษย์อยากได้ของที่ระลึกจากท่าน ท่านจึงให้นำฟิล์มนี้ไปอัดออกมาเป็นรูปใบน้อย และยังเมตตาเขียนยันต์วิเศษที่ชื่อว่า ‘ยันต์พุทธเกษตร’ มอบให้ด้วยลายมือท่านเอง (ท่านได้มาเมื่อครั้งไปเที่ยววิเวกภาวนาใน จ.ลพบุรี ยันต์พุทธเกษตรได้ปรากฏขึ้นในนิมิตท่าน ท่านบอกว่ายันต์นี้มีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่ผู้ใช้จะอธิษฐานให้เป็นไปดังปรารถนา)
    ศิษย์ได้นำยันต์พุทธเกษตรลายมือท่านไปบันทึกเป็นภาพถ่ายใบน้อยออกมาอีก 1 ใบ จากนั้นก็นำรูปหลวงพ่อกับรูปยันต์พุทธเกษตรนี้ประกบเข้าด้วยกัน แล้วนำมาถวายให้ท่านอธิษฐานจิตแจกผู้ศรัทธาในราวปี พ.ศ. 2508 –2509

    ต่อมาเมื่อท่านประสงค์จะตอบแทนคุณของเสี่ยไซ โยมอุปการะเป็นที่ยิ่ง ท่านก็ดำริเข้า ‘สัญญาเวทยิตนิโรธ’ เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2510 เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน

    และรูปนี้ก็อยู่ในวาระนิโรธสมาบัติด้วย

    หลวงพ่อเคยบอกว่า นิโรธสมาบัตินี้มีอานุภาพมากนัก มิใช่แต่กุฏิของท่านเท่านั้น แต่กำลังแห่งนิโรธยังครอบคลุมไปทั่วภูเขา ‘สุนทรีบรรพต’ อันเป็นที่ตั้งวัด อย่าว่าแต่ของในกุฏิท่านเลย แม้กรวดหินหน้าวัดหากจะหยิบขึ้นมาแล้วตั้งจิตระลึกถึงท่านก็ยังมีอานุภาพได้

    ดังนั้น ท่านจึงไม่ใคร่แจกรูปนี้ให้ใครง่าย ๆ แม้มีคนขอกันมาก ท่านก็ยังเลือกคนให้ ท่านบอกว่า ของดีต้องให้กับคนดีและนับถือเราจริงเท่านั้น

    หากจะมีคนขอเหรียญรุ่นแรกของท่านที่สร้างในปี พ.ศ. 2518 บางทีท่านก็มอบรูปนี้ให้ ครั้นคนนั้นบ่นว่าอยากได้เหรียญต่างหากเล่า ท่านจะบอกดุ ๆ ทันทีว่า

    “อะไร ให้ของดีแล้วยังไม่รู้จัก รูปนี่เก่งกว่าเหรียญอีกนะ”

    หลวงพ่อกัสสปมุนี เกิดที่กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อประจงวาส ต่อมาเปลี่ยนเป็นประยุทธิ วรวุธิ นามสกุลอาภรณ์สิริ บิดาท่านคือพระพาหิรรัชฏพิบูลย์(ประวัติ อาภรณ์สิริ) นามมารดาคือนางพาหิรรัชฏพิบูลย์ สมัยเป็นฆราวาส ท่านได้สมรสกับนางประชุมศรี อาภรณ์สิริ มีบุตรชาย2 คน บุตรหญิง 2 คน หลวงพ่อกัสสปมุนีเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ต่อมาจึงได้ย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญ โดยเลือกภาษาอังกฤษเป็นวิชาเลือก จนจบชั้นม.6 หลวงพ่อกัสสปมุนีท่านบวช เมื่ออายุ ๕๒ ปี สมัยที่ยังไม่บวชท่านทำงานอยู่ฝ่ายสรรพสามิตท่านจะดื่มเหล้าเก่ง ตอนหลังท่านเห็นโทษของการดื่มเหล้า และเกิดเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส จึงได้ลาออกจากราชการ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ โดยได้โอนบ้านที่ดินและทรัพย์สินให้กับครอบครัวท่านจนหมดสิ้น จากนั้นท่านได้ไปฝากตัวอยู่กับสมเด็จ พระวันรัต (ต่อมาทรงได้รับสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช วัดโพธิ์ ท่าเตียน) โดยเป็นอุบาสก นุ่งขาวห่มขาว ถือศีลอุโบสถอย่างเคร่งครัด ในที่สุดจึงได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ แม้บวชได้เพียงพรรษาเดียว หลวงพ่อกัสสปมุนี ได้ออกธุดงค์ ไปบำเพ็ญเพียรภาวนา อยู่บนยอดเขาภูกระดึง อันแสนจะหนาวเหน็บ (เดือน พ.ย. ๒๕๐๖) หลังจากนั้นถัดมาอีกเพียง พรรษาเดียว ท่านก็ได้จาริกแสวงบุญ ไปบำเพ็ญภาวนาในแดนไกล คือเมือง ฤาษีเกษ ประเทศอินเดีย เมืองนี้เป็นที่ชุมนุม ของโยคี ฤาษี มุนีไพร ผู้ทรงตบะและฤทธาอันแก่กล้ามากมาย ต้องเก่งจริงๆ ถึงจะอยู่ได้อย่างสันติอิสระอานุภาพของพุทธศาสนานั้น เป็นของมีจริง ที่พระสาวกของพระพุทธองค์ สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ เมื่อถึงคราวจำเป็น หรือวาระอันสมควรจะพึงแสดง

    ตลอดชีวิตในสมณเพศของหลวงพ่อ ท่านได้สมาทานธุดงควัตร ๔ ข้อมาตลอด คือ ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ครองจีวรชุดเดียว (จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อเก่าหรือชำรุด) เป็นวัตร รับบิณฑบาตเป็นวัตรและอยู่ป่าเป็นวัตร จนกระทั่งท่านมรณภาพ

    ย้อนหลังไปในสมัยที่หลวงพ่อยังไม่ได้บวชแต่ได้ปฏิบัติธรรมเป็นผ้าขาว ท่านเล่าว่าท่านได้พบ “ท่านอริยวังโส” ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่บรรลุอรหันต์ตั้งแต่สมัยพุทธกาลแต่ได้อธิษฐานขอให้ตนเองมีอายุอยู่ถึงห้าพันปีจึงจะเข้าสู่ปรินิพพาน

    พระอริยวังโสได้มาพบท่านในสมาธิและบอกกับท่านว่า “เธอชื่อกัสสปมุนี” (ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้ใช้ชื่อนี้มาตลอดจนกระทั่งอุปสมบท ซึ่งสมเด็จพระอุปัชฌาย์ก็ทรงอนุญาตให้ใช้ชื่อนี้โดยมิได้ตั้งฉายาให้ใหม่)

    หลวงพ่อเล่าว่า ท่านเป็นหนึ่งใน “กัสสปโคตร” ในสมัยพุทธกาล เป็นน้องเล็กสุดท้องมีชื่อว่า “จุลกัสสปะ” พี่ชายทั้งหกของท่านที่ได้บรรลุเป็นอรหันต์ทั้งหมดแล้ว คือ มหากัสสปะ อุรุเวลกัสสปะ คยากัสสปะ นทีกัสสปะ กุมารกัสสปะ และอเจลกัสสปะ ส่วนที่ว่าทำไมท่านยังคงอยู่ ท่านเคยเล่าว่า ท่านเคยบวชในสมัยพุทธกาลแต่สึกออกมาใช้ชีวิตฆราวาสเสียก่อน

    “การใช้พลังจิตช่วยขบวนรถไฟให้เคลื่อนที่ไปจอดยังสถานีที่มีความชันในประเทศอินเดีย”

    ย้อนหลังไปในสมัยที่หลวงพ่อกัสสปมุนีได้เดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย คุณเอื้อ บัวสรวง หนึ่งในผู้ติดตามได้เล่าถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ว่า...

    ในการเดินทางครั้งนั้นมีอุปสรรคเกิดขึ้นกับคณะของเรา ในตอนเช้ามืดวันหนึ่งตู้นอนรถไฟที่เราเช่าไว้สำหรับคณะของเรา ณ สถานีรถไฟแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของอินเดีย ถูกจอดทิ้งไว้อยู่ห่างจากตัวสถานี ๒๐ เส้นและเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข็นมาไว้ที่ใกล้ๆสถานีเพื่อใช้ประกอบกิจส่วนตัว เมื่อไปขอร้องให้เจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟช่วยเข็นก็พบว่าทั้งสถานีมีเจ้าหน้าที่อยู่เพียงสองคน

    หมู่คณะจึงลงมติว่า”ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ด้วยการระดมแรงงานคนหนุ่มและแรงงานพระสงฆ์ที่ร่วมคณะอีก ๕-๖ รูปเพื่อช่วยกันเข็นรถไฟตู้นอนไปไว้ในสถานี แต่เนื่องจากสถานีตั้งอยู่บนเนิน การใช้แรงงานดังกล่าวจึงไม่ประสบความสำเร็จ เข็นเท่าไรก็ไม่ขยับ

    คุณเอื้อจึงได้ลองอาราธนาหลวงพ่อกัสสปมุนีด้วยสำเนียงที่เป็นเชิงเล่นว่า
    “ช่วยที หลวงพ่อ ช่วยที หลวงพ่อ”

    หลวงพ่อท่านตอบว่า

    “ก็ลองดูยังได้”
    ว่าแล้วหลวงพ่อกัสสปมุนีจึงได้ใช้ไม้เท้ายาวราว ๑.๕๐ เมตรยกชูขึ้นไปในอากาศแล้วก็ส่งหัวไม้เท้ามาที่คุณเอื้อ จากนั้นท่านจึงได้ตั้งท่าเดินนำหน้า คุณเอื้อจึงรีบคว้าไม้เท้าที่ท่านส่งมาทันที คุณเอื้อได้บันทึกถึงเรื่องราวตอนนี้ไว้ว่า

    “ทันใดนั้น ผมรู้สึกราวกับถูกไฟฟ้าดูด หรือเหมือนผมไปจับสายไฟฟ้าแบตเตอรี่รถยนต์ แล้วรถไฟก็เคลื่อนตามหลวงพ่อกัสสปมุนีไป ผมยังได้ร้องขอให้พระอาจารย์วิริยังค์ช่วยด้วย ท่านอาจารย์วิริยังค์ตอบว่าไม่ได้ศึกษามาทางนี้”

    เหตุการณ์ดังกล่าวจบลงตรงที่รถตู้นอนได้มาจอดที่ชานชาลาสถานีอย่างเรียบร้อย ซึ่งการที่หลวงพ่อกัสสปมุนีสามารถทำให้ตู้นอนรถไฟเคลื่อนที่จากที่ต่ำผ่านเนินสูงได้นั้น หลายความเห็นมีความเชื่อตรงกันว่า

    “เป็นผลมาจากอำนาจฌานสมาบัติที่หลวงพ่อได้บำเพ็ญเพียรมา”

    และเมื่อมีลูกศิษย์ถามว่าหลวงพ่อสามารถทำได้อย่างไร ท่านตอบว่า

    “ใช้การรวมพลังเข้ามาเป็นหนึ่งและออกเดินนำหน้าทันทีไม่เหลียวหลัง ไม่ใช่ อิทธิวิธี (อภิญญา)หากแต่เป็นการใช้ อาโลกกสิณ (ความว่าง) “

    ครับนี่คือตัวอย่างที่แสดงถึงบารมีของหลวงพ่อ อันเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความศรัทธาขึ้นในหมู่คณะ โดยมีความมหัศจรรย์ของพลังจิตเป็นแรงหนุน ซึ่งผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันก็เป็นการบอกให้เพื่อนๆทราบว่า

    “ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องที่จะได้มันมาโดยง่าย”

    คาถาบูชาหลวงพ่อ “นะโม อโห โอม กัสสโปมุนิ อะราธะนัง”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2016
  3. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 190 เหรียญหันข้างครูบาเจ้าศรีวิไชย วัดพระนอนแม่ปูคา เชียงใหม่ เนื้อทองแดง
    ปิด ค่าจัดส่ง 60 บาท จอง

    รูปแบบเหรียญสวยมาก แกะจากรูปถ่ายจริงของครูบาเจ้า ซึ่งเป็นรูปของทางวัด ปลุกเสกพิธีใหญ่ที่วัดโดยพระคณาจารย์สายเหนือ พิธีนี้ครูบากฤษดาไปร่วมเสกด้วย

    วัดพระป้าน หรือวัดพระนอนแม่ปูคา เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2203 ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก พระพุทธเจ้าทรงโปรดไวยเนยสัตว์ เสด็จมาถึงบริเวณทุ่งนา ทรงพักแรมไสยาสน์บนคันนาปูด้วยหญ้าคา ต่อมาในปี พ.ศ.2471 ขุนเปา เปรมประชา คหบดี พร้อมด้วยศรัทธาประชาชน วานิชพ่อค้า เข้ากราบครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา สร้างวิหารครอบองค์พระนอนปูคา และบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุในวัด สร้างวิหารหลวงครอบองค์พระนอน เรียกว่า วิหารตรีมุข ใช้เวลาในการสร้าง 3 ปี คือตั้งแต่ปี 2471-2473

    ในปี พ.ศ.2559 ครบรอบ 88 ปี วัดมีการบูรณะวิหารครั้งยิ่งใหญ่ บูรณะปิดทองคำเปลวหน้าบัน และซ่อมแซมฐานรอบวิหาร นับเป็นประวัติศาสตร์ที่มีการบูรณะวิหารหลวงพระนอนครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 88 ปี นับตั้งแต่การบูรณะครั้งแรก ดังนั้น วัดจึงได้จัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อสมทบทุนบูรณะวิหารครั้งใหญ่ บูรณะปิดทองคำเปลวหน้าบัน และซ่อมแซมฐานรอบวิหาร โดยวัตถุมงคลเป็นเหรียญหันข้างครูบาเจ้าศรีวิชัย สร้างจากรูปหันข้างครูบาเจ้าซึ่งเป็นรูปของทางวัด สันนิษฐานว่าเป็นรูปถ่ายตอนอิริยาบถที่นั่งคุมงานก่อสร้าง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2016
  4. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 191 พระสีวลีโภคทรัพย์ ผู้มีชัยชนะแห่งชัยยาปัถพี ด้านหลังประทับยันต์นกยูงทอง ครูบาชัยยาปัถพี ชัยยรัตนจิตโต สถานธรรมดอยดวงแก้วสัพพัญญู


    พระกริ่งสีวลีโภคทรัพย์ ผู้มีชัยชนะแห่งชัยยาปัถพี ด้านหลังประทับยันต์นกยูงทอง ครูบาชัยยาปัถพี ชัยยรัตนจิตโต สถานธรรมดอยดวงแก้วสัพพัญญู เนื้อทองทิพย์ พร้อมกล่องเดิม

    อธิษฐานโดยหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม และ ครูบาชัยยาปัถพี ชัยยรัตนจิตโต

    ครูบาชัยยาปัถพี ชัยยรัตนจิตโต หรือ “พระครูบาชัยยาปัถพี” แห่ง สถานธรรมดอยดวงแก้วสัพพัญญู บ้านทุ่งม่านเหนือ ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

    "ครูบาชัยยาปัถพี ชยฺยรตฺนจิตฺโต" แห่งสถานธรรมดอยดวงแก้วสัพพัญญู ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ผู้สืบทอดวิชาเก่าแก่ของล้านนา ท่านแตกฉานอักขระล้านนา(ตั๋วเมือง) เรียนมนต์คาถา สู่การลงอักขระยันต์ต่างๆ ซึ่งครูคนแรกของท่านคือ ตาทวด(อุ๊ยหม่อนสน) ผู้เชี่ยวชาญวิชาทำเทียนมงคลต่างๆ เช่น เทียนเศรษฐีเรือนคำ เทียน๙จันทร์ เทียนเมตตาบัลดาลโชค ซึ่งตาทวดของท่านได้รับถ่ายทอดจาก ครูบาหม่อง วัดศรีถ้อย และได้ถ่ายทอดมาถึงครูบาชัยยาปัถพี นอกจากนี้ตาทวดของท่านยังเชี่ยวชาญวิชานะหน้าทองพรหมสามหน้า และวิชามหาเสน่ห์เมตตามหานิยม นอกจากการเรียนสรรพวิชาต่างๆ ครูบาชัยยาปัถพียังมีความสนใจในด้านวิปัสสนากรรมฐาน โดยท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ครูบาอินตา วัดวังทอง ซึ่งนอกจากศึกษากรรมฐานแล้วนั้นยังได้คาถาอาคมต่างๆเพิ่มเติมอีกด้วย ครูบาชัยยาปัถพีใส่ใจในการฝึกสมาธิให้แก่กล้าจนสามารถบำเพ็ญภาวนาครั้งนึงได้เป็นเวลานาน การอยู่นิโรธกรรมเป็นที่นิยมของพระสงฆ์ทางภาคเหนือที่สนใจในการปฏิบัติกรรมฐาน ครูบาชัยยาปัถพีก็ใช้วิธีการปฏิบัติแบบนี้เช่นกัน โดยอยู่นิโรธกรรมครั้งละประมาณ7วัน ซึ่งท่านใช้วิธีปฏิบัติแบบนี้มาตั้งแต่เป็นสามเณร จนกระทั่วบวชเป็นพระ ซึ่งในแต่ละครั้งท่านมีความก้าวหน้าในทางกรรมฐาน และได้พบกับเรื่องอัศจรรย์ต่างๆมากมาย

    เมื่อครูบาเณรปัถพี มีอายุใกล้อุปสมบท จึงได้เข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่พระครูบาอินตาช่วงนั้นท่านป่วยหนัก สามเณรปัถพีกเข้าไปกราบเรียน
    “หลวงปู่ ลูกเณรจะอุปสมบทเป็นพระแล้วเน้อ”
    หลวงปู่พระครูบาอินตาจึงกล่าวกับครูบาเณรปัถพีว่า
    “หลวงปู่คงจะไม่ได้อยู่ไปงานบวชของเจ้าเน้อ ถ้าสูอุปสมบทวันใดให้นำคำว่า ชัยยา นำหน้าไปด้วยเน้อ”

    หลวงปู่พระครูบาอินตาได้ตั้งชื่อใหม่ให้แก่สามเณรปัถพี ใหม่โดยขอให้ใช้คำว่า ชัยยา ทางครูบาเณรปัถพีจึงได้นำคำว่า “ชัยยา” มาต่อหน้าชื่อ เพื่อความมีชัยชนะเหนือธรรมทั้งหลาย จนได้ชื่อใหม่ว่า “ชัยยาปัถพี” และต่อมาหลวงปู่พระครูบาอินตาก็ได้มรณภาพ

    ยันต์ประจำตัวยันต์พญานกยูงทอง (โมรปริตร)
    คราวหนึ่งครูบาชัยยาปัถพี นิมิตอยู่ในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ได้เห็นเทวดาปรากฏกายขึ้น มีรูปงามกว่ามนุษย์ทั้งหลาย และได้กล่าวกับครูบาชัยยาปัถพีว่า “ขอนิมนต์พระคุณเจ้า เพื่อไปกับข้าพเจ้า โดยข้าพเจ้าจะได้มอบพระยันต์อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นยันต์ประจำตัวท่าน เพื่อนำไปโปรดญาติธรรมทั้งหลาย” จากนั้นครูบาชัยยาปัถพีรู้สึกว่าตนเอง ได้ไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีพื้นสีขาวบริสุทธิ์ ดินแดนแห่งนั้นสะอาด งดงาม น่าเจริญหูเจริญตาและเจริญใจยิ่งนัก พร้อมกับเห็นแผ่นกระดานสีทองแผ่นหนึ่ง ลอยขึ้นมาในอากาศ พร้อมกับ มีพระยันต์ รูปนกยูงทอง ซึ่งครูบาก็ได้จดจำและท่องจนขึ้นใจ จากนั้นเทวดาองค์นั้นก็ได้ประสิทธิ์วิชาพระยันต์พญานกยูงทองนี้ให้ครูบาชัยยาปัถพี นำมาเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมต่อไป

    ในยันต์นกยูงทองนั้นจะประกอบด้วย จะพะทะวะ เป็นหัวใจของคาถานกยูง ที่จะมีอานุภาพแคล้วคลาด เมตตามหานิยม เป็นมหาอำนาจ คุ้มครองป้องกันภัย และมีคาถาหัวใจพระสีวลี นะชาลีติ เป็นมหาโชคมหาลาภแก่ผู้บูชา ซึ่งหลังจากได้ยันต์นี้ ครูบาท่านได้ใช้ในวัตถุมงคลของท่าน และใช้จารให้กับญาติโยมที่มาร่วมบุญ เกิดประสบการณ์ด้านเมตตาโภคทรัพย์กันมาก อีกทั้งยังมีประสบการณ์เรื่องแคล้วคลาดจากอันตราย และประสบการณ์ด้านยิงไม่ออกอีกด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  5. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +907
    จองรายการ 189 ครับ
     
  6. วิคิด

    วิคิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    784
    ค่าพลัง:
    +1,140
    ไม่มีพระพหรมของหลวงปู่ผาด บ้างหรอคับ
     
  7. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +2,226
    ขอจอง
    1) รายการที่ 190 เหรียญหันข้างครูบาเจ้าศรีวิไชย วัดพระนอนแม่ปูคา เชียงใหม่ เนื้อทองแดง
    2) รายการที่ 154 พระผงเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย รุ่นแผ่นดินไหว พิมพ์ธรรมจักร (กงจักร)
    3) รายการที่ 68 เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี หลังรอยพระพุทธบาท

    ขอจอง 3 รายการไว้ และขอชำระหลังเงินเดือนออกนะครับ
    (วันนี้วันที่ 27/7/2559)
     
  8. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +907
    โอนค่าบูชารายการที่ 189 แล้วครับ รายละเอียดทางpmครับ
     
  9. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +2,226
    เงินเดือนออกแล้ว พร้อมชำระเงินค่าบูชาแล้วครับ ^^

     
  10. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +2,226
    ได้ชำระเงินแล้วนะครับเมื่อวันที่ 30/07/2559 เวลา 08:05น. ครับ
    ส่วนรายละเอียดที่จัดส่งแจ้งทาง pm แล้วครับ

     
  11. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 192 พระพุทธนราวันตบพิธ 72 พรรษา ผสมมวลสารพระราชทาน เส้นพระเกศา พระจีวรและผงจิตรลดา พุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว
    ค่าจัดส่ง 60 บาท


    พระรุ่นนี้เนื้อหา มวลสารและพิธีดีมากๆ ทั้งมวลสารพระราชทาน ผงจิตรลดา เส้นพระเกศาพระราชทาน(เส้นพระเจ้า) และพระจีวรที่พระเจ้าอยู่หัวทรงครองเมื่อครั้งทรงผนวช รวมกับมวลสารอื่นๆอีกมากมาย
    พิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงร่วมเสก น่าบูชามากครับโดยเฉพาะผู้ที่เกิดวันจันทร์

    ในวาระอันเป็นมิ่งมงคลสมัยอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาติ ให้จัดสร้างพระพุทธนราวันตบพิธพระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปางห้ามสมุทร (พระประจำวันจันทร์)เพื่อให้พสกนิกรได้สักการะบูชา โดยนำรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายสนับสนุนมูลนิธิชัยพัฒนา

    พระพิมพ์พระพุทธนราวันตบพิตร เป็นพระพุทธรูปยืนยกพระหัตถ์ทั้งสองปางห้ามสมุทร เนื้อผง ขนาดสูง ๓.๒ เซนติเมตร ด้านหลังประดิษฐาน ตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมายุ ๗๒ พรรษา

    เนื้อพระประกอบ ด้วยมวลสารจากสถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาและปรินิพพาน จากประเทศเนปาลและอินเดีย และจากวัดสำคัญและเก่าแก่หลายแห่งในประเทศศรีลังกา จีนและญี่ปุ่น รวมทั้ง มวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัดสำคัญๆทั่วประเทศ ผงพุทธคุณจากพระคณาจารย์ที่เคารพบูชาทั่วพระราชอาณาจักร ที่สำคัญยิ่งก็คือได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ พระราชทานเส้นพระเจ้า(พระเกศา) และจีวร เมื่อครั้งทรงผนวช
    และมวลสารส่วนพระองค์ (ผงจิตรลดา) โดยพระราชทานผ่านสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช อัญเชิญมาผสมอยู่ในเนื้อพระพุทธนราวันตบพิธนี้ด้วย โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน แทนพระองค์ ทรงเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก

    พระรุ่นนี้พบว่ามีของปลอมออกมาแล้ว


    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  12. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 193 พระขรรค์จักรพรรดิ์เล็ก หลวงปู่ศรี มหาวีโร
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    พระขรรค์มีประสบการณ์มาก ยิ่งช่วงนี้พระขรรค์หลวงปู่มีคนตามเก็บกันเยอะขึ้นมาก

    พระขรรค์จักรพรรดิ์เล็ก รุ่น 2 หลวงปู่ศรี มหาวีโร ผู้สร้างขอเมตตาหลวงปู่อธิษฐานจิตเมื่อ 27 ธ.ค.2552

    มีความเชื่อว่า พระขรรค์นั้น เป็นของสูง ผู้เสกต้องมีบารมีมาก มีจิตที่ดีมาก หรือเป็นพระอริยเจ้าเท่านั้น จึงจะเสกหรืออธิษฐานจิตได้ขลัง
    ยุคนี้ไสยศาสตร์มนต์ดำจะกลับมา ตามที่ครูบาอาจารย์หลายองค์ท่านทำนายและเมตตาบอกให้หาของที่กันของพวกนี้ได้ไว้บูชาติดตัว

    พุทธคุณป้องกัน และปราบสิ่งไม่ดีต่างๆ จัดสร้างขึ้นมาเพื่อให้พุทธบริษัทที่อยู่ในศีลในธรรมได้ป้องกันตัวเองจากภัยต่างๆทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น และยิ่งในอนาคตอันใกล้เวลาเกิดภัยพิบัติจะมีภัยใหม่ที่เกิดขึ้นคือภัยจากวิญญาณ ซึ่งเป็นเจ้ากรรมนายเวร และวิญญาณอื่นๆ เพราะเกิดจากที่นับวันคนยิ่งตายมากขึ้นๆ วิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดก็มากขึ้น จะทำร้ายคนที่ดวงตก หรือบาปอกุศลกรรมเข้ามาถึงอาจจะโดนพวกนี้เล่นเอาได้ง่ายๆ คณะผู้จัดสร้างจึงขอเมตตาหลวงปู่ในการปลุกเสกพระขรรค์รุ่นนี้ให้มีอานุภาพกันและแก้ได้ทุกประการ จากประสบการณ์จากคนใกล้ตัวเจอประสบการณ์กันมามากมายทั้งแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ และนำไปไล่วิญญาณได้ผลดีมาก

    อธิษฐานโดยวิธีอัญเชิญพลังงานครอบลงมาทั้งพลังเหนือโลกเพื่อป้องกันภัยพิบัติ
    ในอนาคตโดยเฉพาะ และจากศาสตราวุธต่างๆของครูบาอาจารย์ชื่อดังเช่น
    1.มีดหมอชาตรี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    2.มีดเสือสมิง หลวงปู่กวย
    3.มีดสายฟ้าปราบไตรจักร หลวงปู่ญาท่านสวน
    4.พระขรรค์เพชรพระพุทธเจ้าหลวงปู่ดู่
    ฯลฯ
    ตามที่หลวงพ่อฤษีลิงดำเมตตาบอกว่า "ถ้าอยากได้แบบไหนก็เอาสิ่งนั้นมาเป็นเชื้อ"
    หมายถึงถ้าอยากให้พุทธคุณแรงไปในทางไหน ให้ทำวัตถุมงคลที่มีคุณค่าในทางนั้นมาไว้ในพิธี แล้วขอเมตตาครูบาอาจารย์อธิษฐานครอบให้วัตถุมงคลที่จะเสกมีพุทธคุณเป็นไปตามของที่นำมาเป็นเชื้อ

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร องค์ท่านมากด้วยบารมี องค์หลวงตามหาบัวท่านยังพูดอยู่หลายครั้งว่า ท่านอาจารย์ศรีนั้นบารมีมากนะ บริษัทบริวารจึงมากมายนับไม่ถ้วน ของที่ท่านเมตตาอธิษฐาน มีประสบการณ์มากมายจนของแจกที่สร้างปริมาณมาก กลับกลายเป็นของที่หาได้ยาก ผู้ไม่แน่ใจต่างพิสูจน์กันตามความเชื่อของแต่ละคน ต่างก็ต้องยอมรับในพลังแห่งองค์ท่าน ทั้งให้ครูบาอาจารย์ที่นับถือจับพลัง ทั้งถ่ายพลังงานแสงออร่า แม้กระทั่งนำมาทดลองยิง จนปืนเสียเลยก็มี

    โทรศัพท์ 094 949 4633
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2017
  13. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +2,226
    ได้รับของแล้วคับ .. ขอบคุณมากครับ

    เอ ทำไมจับเหรียญ ลป พิศดู ขนลุกแขน
    พระผงเกศา รู้สึกเย็นนิดๆ
    แต่อีกเหรียญ ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไร .. แง่ๆ

     
  14. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    ขอบคุณที่แจ้งครับพี่ เรื่องแบบนี้ผมตอบยากเลย ไม่มีความสามารถพอ แต่เชื่อมากว่าดีทั้งหมดนะครับ เหรียญรอยพระบาทนี้มีคนทักเยอะว่าดีมาก คนมักมองข้ามไป พระผงเกศาภายในบรรจุเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นมงคลมาก ส่วนเหรียญครูบาศรีวิชัยนั้น ครูบากฤษดาท่านไปร่วมเสกและยังบอกว่าเสกให้อย่างเต็มที่และที่วัดนี้ศักสิทธ์มาก ท่านมักจะแนะนำให้ศิษย์ไปกราบพระธาตุที่วัดนี้อยู่บ่อยๆครับ --- ลองอธิษฐานดูนะครับพี่ ขอบคุณมากๆครับผม
     
  15. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 194 สีผึ้งเสาร์ 5 พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
    ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท

    สีผึ้งและประคำเสาร์ 5 พิธีพุทธาภิเษกพระไพรีพินาศและเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน วันที่ 7 ธ.ค.56

    พระอาจารย์เล็กเมตตาบอกให้ใช้สีผึ้งด้วยคาถาเมตตาของ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก็ตดังนี้ "พระอรหัง สุคโต ภควา นะเมตตาจิต" และได้บอกว่าให้ใช้ในทางที่ดีใครใช้แล้วไปทำอะไรต้องรับผิดชอบด้วยนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2016
  16. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 194 เหรียญมหายันต์ พระอาจารย์นะดี อินทปัญโญ วัดเนินสาธารณ์ จ.อุทัยธานี
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    เหรียญมหายันต์รุ่นนี้ พระอาจารย์ท่านบอกว่าเหรียญนี้พิเศษและวิเศษ ตัวเหรียญประกอบด้วย"ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า" ผูกด้วยหัวใจพระคาถายอดพระไตรปิฏก หัวใจพระคาถาไตรรัตน์ และยันต์องค์พระอยู่โดยรอบ ตอกโค๊ตND
    พระคาถาที่ใช้กำกับเหรียญรุ่นนี้ คือ พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า
    "อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ"
    พระคาถาไตรปิฎก
    "มะ อะ อุ"
    พระคาถาไตรรัตน์
    "อิ สวา สุ"
    เลขยันต์และ ยันต์องค์พระ

    หรียญทองแดงสร้างเสร็จก่อนท่านทำการปลุกเสกในกุฏิมาเรื่อยๆจนถึงวันวิสาขะบูชา จึงได้นำ เหรียญมหายันต์ปลุกเสกในโบสถ์พร้อมกับเหรียญหล่อใบเสมามหาบารมีอีกวาระเสร็จ แล้วท่านก็นำมาแจกให้ลูกศิษย์ที่มาร่วมพิธี ท่านว่าหนุนดวงดีนักและป้องกันสรรพภัยพร้อมสรรพแบบครอบจักวาล

    พระอาจารย์นะดี (สมคิด) วัดเนินสาธารณ์ อุทัยธานี ท่านเชี่ยวชาญพุทธาคมแบบครอบคลุมในทุกๆด้าน ท่านมีสมาธิจิตสูงมาก องค์ท่านเองและวัตถุมงคลของท่านต่างมีปาฏิหารและประสบการณ์มากมาย ท่านสืบสานวิทยาคมสาย ลพ.เดิม วัดหนองโพ
    ลพ.เงิน วัดบางคลาน ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านบวชอยู่กับ ลป.คำ วัดสุวรรณรัตนาราม ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านมีอายุมากแล้ว ท่านได้ให้พระอาจารย์จารตะกรุดของท่าน นอกจากนี้ท่านยังได้ไปเรียนกรรมฐานจากลป.แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง และ ได้เรียนสรรพวิชาตำรับสายเขาอ้อ

    โทรศัพท์ 094 949 4633
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2017
  17. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 183 ตะกรุดเปิดสมอง หลวงปู่ผาด อภินันโท วัดไร่ จ. อ่างทอง
    รายการที่ 194 เหรียญมหายันต์ พระอาจารย์นะดี อินทปัญโญ วัดเนินสาธารณ์ จ.อุทัยธานี
    รายการที่ 194 สีผึ้งเสาร์ 5 พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
    ปิดรายการทาง PM ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2016
  18. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 195 วชิราวุธ พุทธาภิเษกพิธีมีดเพชราวุธ เนื้อชุบทอง ขนาด 3 ซม
    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    วชิราวุธเป็นอาวุธของท่านปู่พระอินทร์ เข้าพิธีพุทธาภิเษกมีดเพชราวุธ วัดท่าขนุน 24 มกราคม 2558 พิธีนี้ท่านปู่พระอินทร์เป็นผู้อนุญาตให้จัดสร้างมีดหมอเพชราวุธ เป็นสิ่งที่ดีตรงกันคือวชิราวุธนั้นก็คืออาวุธของท่าน และมีดวงแก้วอินทนิลของท่านปู่พระอินทร์ ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้สร้างมีดหมอในครั้งนี้ตั้งเป็นประธาน

    การพุทธาภิเษกมีดหมอเพชราวุธครั้งนี้ต้องบอกว่า พระ ตลอดจนพรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ ท่านสงเคราะห์ให้เต็มที่ แต่อาตมายังสงสัยอยู่ว่าโยมจะใช้ได้เท่าไร ? เหมือนอย่างกับท่านให้ขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีปไว้ แล้วเราก็ใช้ได้แค่หนังสติ๊กหรือปืนแก๊ปเท่านั้น”

    พระอาจารย์กล่าวว่า “การพุทธาภิเษกครั้งนี้ ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่า อาตมาใช้มีดหมอของครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นมีดหมอของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองศรีนวล , หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หรือแม้กระทั่งของหลวงพ่อวัดท่าซุงตั้งเป็นประธานอยู่ โดย เฉพาะมีดวงแก้วอินทนิลของท่านปู่พระอินทร์ ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้สร้างมีดหมอในครั้งนี้ตั้ง เป็นประธาน วัตถุมงคลรุ่นนี้ท่านปู่พระอินทร์เป็นผู้อนุญาตให้สร้าง ท่านบอกว่าขออำนาจของเทพอาวุธให้ ๖ อย่าง อาตมางอนิ้วไล่นับไป ท่านบอกว่า มีวชิราวุธของพระอินทร์ ๑ มีดวงเนตรของพระยายมราช ๑ มีผ้าพันคอของอาฬวกยักษ์ ๑ มีกงจักรของพระนารายณ์ ๑ มีกระบองของท้าวเวสสุวรรณ ๑ อาตมานับแล้วนับอีกได้แค่ ๕ ท่านยืนยันว่า ๖ เมื่อถามว่าอย่างที่ ๖ คืออะไร ? ท่านบอกว่า “ความเมตตาเป็นอาวุธที่ไม่มีใครต่อต้านได้” ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายเจริญเมตตาเป็นปกติ อาตมาเชื่อว่ามีดหมอเพชราวุธรุ่นนี้คงจะมีอานุภาพเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็สามารถใช้อานุภาพของมีดหมอได้เต็มที่อย่างที่ต้องการ
    " พระครูวิลาศกาญจนธรรม งานบวงสรวงไหว้ครู -พุทธาภิเษกมีดหมอ วันเสาร์ที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธ)

    โทรศัพท์ 094 949 4633
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2017
  19. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 196 พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์ใหญ่ ผสมเกศา ปี๕๖ หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี


    บางท่านเรียกสมเด็จฟ้าผ่า เพราะมีประสบการณ์จากคนที่โดนฟ้าผ่าที่เพชรบูรณ์แล้วไม่ได้รับอันตราย มีเพียงรอยฟกช้ำและรอยไหม้เล็กน้อยเท่านั้น

    เป็นพระสมเด็จรุ่น ๒ หลังจากสมเด็จรุ่นแรกเข็มหัก มีประสบการณ์โชกโชน หากันไม่ได้ ครั้งนี้จึงเกิดการสร้างพระสมเด็จเกศไชโยขึ้นอีกครั้ง ได้รวบรวม
    ข้าวก้นบาตรวันพระ
    เกศาหลวงปู่พวง
    ผงเก่าสมเด็จเกศไชโยที่แตกหัก
    ผงพระสมเด็จรุ่นแรกหลวงพ่อทบ
    พระสมเด็จรุ่นแรกหลวงปู่พวง
    ผงปถมัง ผงอิธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห
    และมวลสารศักดิ์สิทธิ์และมวลสารต่างๆอีกกว่า ๙๙๙ ชนิด
    หลวงปู่พวงมอบจีวร ให้นำมาเพื่อเป็นมวลสารได้นำมาบดจนสีจากผ้าเหลืองแสงแห่งธรรมได้ใหลรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวในองค์สมเด็จเกศไชโย ทำให้พระสมเด็จมีสีเหลืองตระการตาสวยสดงดงามเสมือนได้เห็นหลวงปู่พวงอยู่ตรงหน้า พิมพ์สมเด็จเกศไชโยนี้ด้านหลังหลวงปู่พวงบอกว่า เอาท่านไว้ด้านหลัง เอาพระพุทธไว้ด้านหน้า ส่วนพิมพ์รูปเหมือนนั้นให้ทำเต็มองค์ พระสมเด็จเกศไชโยนี้ ขอบารมีสมเด็จโตมาเป็นประธาน หากใครนำไปใช้แล้วจะบังเกิดลาภทบทวีคูน ด้วยการสร้างแบบโบราณภายภาคหน้านั้นพระสมเด็จเกศไชโยจะแตกลายงาตามกาลเวลา จงอย่าตกใจ นี่แหละคือของดีที่หนึ่ง จำให้ดี จะมีค่าในภายหน้า จงนำไปใช้แล้วจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง พุทธคุณลงครบทุกด้าน เน้นเมตตามหานิยมเป็นหลักรองลงมาให้เป็นเรื่องชาตรี กิจการต่างๆจะรุ่งเรืองมีโชคมีชัย คิดหวังสิ่งใดจะสำเร็จ จัดสร้าง 1,999 องค์

    หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี ( เกิด พ.ศ.2468 ) บวชเมื่อเป็นเณร อายุครบบวชพระก็บวชเลย เรียนวิชากับหลวงพ่อทบ มากที่สุด หลวงพ่อทบรักมาก สอนให้หมด ทั้งพาไปฝากให้เรียนวิชากับหลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณร ด้วยตัวของท่านเอง ตอนอยู่กับหลวงพ่อทบ ท่านมีหน้าที่ช่วยหลวงพ่อทบ จารตะกรุดมั่ง ม้วนมั่ง ถักมั้ง ตอนอยู่กับหลวงพ่อเขียน ท่านมีหน้าที่ตักน้ำใส่ถัง ให้หลวงพ่อเขียนทำน้ำมนต์ ต่อมาท่านฝากตัวเรียนวิชากับหลวงพ่ออ้วน วัดดงขุย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า หลวงพ่ออ้วนรับศิษย์ยากมาก ถ้าไม่เก่งจริงไม่มีพื้นฐาน ท่านจะปฏิเสธแต่กับหลวงพ่อพวง ท่านทดสอบจนแน่ใจว่า จิตดี บารมีสูง จึงรับเป็นศิษย์ต่อวิชาชั้นสูงให้หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี มรณภาพเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลาเที่ยงคืนโดยประมาณ

    หลวงปู่พวงท่านเป็นพระแท้ ไม่ไช่ดังเพราะเพียงแรงโปรโมต ท่านเก่งจริง ท่านเป็นดั่งคมในฝักอย่างแท้จริง หลากหลายครูบาอาจารย์รับรองเมื่อได้สำผัสวัตถุมงคลท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image-1.jpg
      image-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      294.8 KB
      เปิดดู:
      50
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  20. poe

    poe Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +243
    ขอจองครับ

    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...