"นางมณีเมขลา ...ข้าราชการในรัชกาลที่ ๙"

"นางมณีเมขลา ...ข้าราชการในรัชกาลที่ ๙"


ในช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๘ มีการพยากรณ์ทั้งจากต่างประเทศ และกรมอุตุนิยมของไทยว่าประเทศไทยกำลังจะประสบกับพายุลูกใหญ่ซึ่งเมื่อตอนที่พัดผ่านฟิลิปปินส์ก็มีผู้เสียชีวิตกว่าพันคน
อธิบดีกรมอุตุนิยมฯ กราบบังคมทูลว่า พายุนี้เป็นซุปเปอร์ใต้ฝุ่น ชื่อ "แอลเจลล่า" อาจทำความเสียหายมาก แล้วก็แปลกที่ปรกติเมื่อพายุพัดผ่านฟิลิปปินส์แล้วก็น่าจะลดกำลังลง แต่นี่กลับเพิ่มกำลังมากขึ้นไปอีก เป็นพายุที่น่ากลัวมาก
ทั้ง CNN และ BCC ต่างก็รายงานว่ายังไงๆ พายุลูกใหญ่นี้ก็ยังไม่ลดกำลังและจะเข้าไทยแน่ แต่...แอลเจลล่าก็พ่ายแพ้นางมณีเมขลา!
ในหลวงทรงเป็นห่วงมาก เฝ้าติดตามการเคลื่อนตัวของพายุแอลเจลล่าอยู่จนดึกจนดื่น จนถึงตีหนึ่ง พระองค์มั่นใจว่าพายุลดกำลังและกำลังเคลื่อนตัวไปโดยไม่ผ่านไทย พระองค์จึงทรงรับสั่งไปทางกรมอุตุนิยมฯ ว่าพรุ่งนี้ซุปเปอร์ใต้ฝุ่นนี้จะลดกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น และต่อไปอีก ๒ วัน จะเหลือเพียงแค่หย่อมความกดอากาศต่ำ ที่อยู่แถวๆ ไหหลำหรือเข้าไปประเทศจีน
...แล้วเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ภายหลังอธิบดีกรมอุตุนิยมฯ มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ กราบทูลถามพระองค์ว่าเป็นไปได้อย่างไร พระองค์ทรงตรัสว่า "ได้มอบให้นางมณีเมขลาไปเจรจา ก็ได้ผลดี"
บางทีนอกจากการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยหลักวิชาการแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ผมจึงขออนุญาตตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า "นางมณีเมขลา ...ข้าราชการในรัชกาลที่ ๙"


Cr. Sith PorOr

 

เหตุการณ์ ตอนนางมณีเมขลา ปรากฏ่ตัว ก่อนพายุใหญ่จะเข้าไทย

ในช่วงเวลาที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
ทรงอำนวยการหน่วยงานที่ควบคุม ดูแล ป้องกันภัยพิบัติขณะนั้น มีจริง

แล้วจะมาเล่าครับ

 

รอขออนุญาตบุคคลที่เกี่ยวข้องครับ บุคคลคนนี้ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ(พระราชพรหมยาน)วัดท่าซุง

 

หลายท่านสามารถคิดได้ครับว่าเป็นเพียงพระราชอารมณ์ขัน หรือเล่าเปรียบเทียบ

แต่เหตุการณ์ที่อยากเล่านั้น เกิดกับพระ และ
ครูสอนมโนมยิทธิ ให้ได้เห็น ได้พบนางมณีเมขลา ก่อนเวลาพายุเปลี่ยนทาง
พร้อมทั้งเห็นกายทิพย์ของพระผู้เป็นบิดาของแผ่นดิน ก่อนที่จะทรงออกมาเล่า
เป็นข้อยืนยันประการหนึ่งว่าท่านไม่ธรรมดามากๆ
(ต้องขอใช้คำว่า "ยิ่งกว่าไม่ธรรมดา แต่ดูธรรมดา " )

และเป็นบุญของคนไทยที่มีท่านมาช่วยบำบัดทุกข์ให้

 

วันหนึ่ง เป็นเวลาหัวค่ำประมาณ18-19 น. เป็นปกติที่คุณครู ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนมโนมยิทธิให้กับสาธุชนทั่วไป ทำการตอบปัญหา และสนทนาธรรมกับสาธุชนอยุ่สองสามคน

จู่ๆ คุณครูก็บอกว่า เห็นกายทิพย์ขององค์พระบาทสมเด็จฯท่านได้พูดคุยกับเทพธิดา
ตนหนึ่ง ที่มีดวงแก้วที่มีอานุภาพมากในมือ เรื่องพายุใหญ่ที่กำลังจะมาทำความเสียหาย
ให้ประเทศไทย ประชาชนของพระองค์จะต้องเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ตามข่าวที่เห็นว่าได้ทำลายและสร้างความเสียหายแก่ประเทศเพื่อนบ้านมา
เทพธิดาได้ทูลว่า ข้าพเจ้าจะทำการช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ
แล้วเธอก็ลอยขึ้นสูงไป มือชูแก้วส่องสว่าง

คุณครูบอกว่า เธอชื่อมณีเมขลา

หลังจากนั้นอีกวัน ก็มีข่าวการเบี่ยงทิศทางและการอ่อนตัวลงของพายุใหญ่ลูกนั้น

เมื่อพวกเรามานั่งสนทนากันอีกวัน ก็ทราบกันดีว่า สิ่งที่ปรากฏเมื่อวานนั้นไม่ใช่อุปาทานใดๆเลย และยิ่งตระหนักในพระเมตตากรุณา และเดชานุภาพแห่งพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และซึ้งในน้ำพระราชพระหฤทัยของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทยมากยิ่งขึ้น

-----------------------------------

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือสิ่งศักดิ์ฺสิทธิ์คือกฏแห่งกรรมครับ

ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่า ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดกับจังหวัดใด หรือเกิดกับชนกลุ่มใหญ่ทั่วประเทศหรือไม่

สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว คนจำนวนหนึ่งอาจคิดว่า ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิฺ์มีจริง ปาฏิหาริย์มีจริงทำไมไม่ช่วย ทำไมปล่อยให้เกิด

แล้วถ้าจะย้อนถามว่า ท่านช่วยเต็มกำลังแล้ว ตามกำลังบุญที่พวกเค้าส่วนใหญ่มีในขณะนั้น และจะประมวลมาผ่อนหนักเป็นเบาได้เท่าที่เห็น ..ตรงนี้ ผู้ที่ทราบก็มี แต่ ก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร


อย่าว่าแต่พายุเกย์ แม้เหตุการณ์หลายอย่างเช่น น้ำท่วมหลายจังหวัด พายุถล่ม ฯลฯ นั้นมีเหตุจากคนทำขึ้นใหม่ในปัจจุบันมากมาย ผู้มีหน้าที่จะป้องกัน จะช่วยก็ย่อมทำหน้าที่เต็มที่แล้ว โดยเฉพาะเทพ เทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ซึื่อตรงต่อหน้าที่ ไม่เหมือนคนที่จะทำอะไรต้องมีเงินใต้โต๊ะ มีพรรคมีพวก ลำเอียงด้วยเลือกที่รักมักที่ชัง ฯลฯ

 

ความจริง มีหลายมุม ที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ครูบาอาจารย์ที่ยังมีชีวิตครองกายสังขารในสมัยนั้น แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อท่านได้ ซึ่งท่านได้กล่าวได้แย้มให้ฟังว่า ในหลวงทรงช่วยประชาชนทุกทาง ทั้งทางกำลังความคิด ความรู้และความสามารถในทางโลก ทางวิชาการ และทางทิพย์ โดยขอให้พระสงฆ์และครูบาอาจารย์หลายท่าน กระทำการหลายอย่างเพื่อช่วยพสกนิการให้ได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด มีความเป็นอยู่ที่ดี เท่าที่จะทรงทำได้

กายเนื้อของบุคคลหลายคน แม้แต่พระสงฆ์ครูบาอาจารย์ ที่เกี่ยวข้องกับภพภูมิที่ละเอียด เป็นเสมือนกลไกหนึ่ง ให้ทวยเทพ เทวาบางท่านที่มีหน้าที่ ได้ช่วยเหลือพระองค์ท่านเต็มที่ หลายท่านจึงได้เห็นได้ทราบว่า กำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นกับส่วนรวม และจะทำอะไรได้บ้าง จึงเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้

 

ได้มีโอกาสเข้าไปที่กรมแผนที่ เพื่อที่จะถ่ายรูปมาปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ มีอยู่1มุมที่เห็นแล้วน้ำตาจะไหล เป็นมุมวีดีทัศน์เกียวกับเรื่องพ่อ พ่อบอกเราไม่ได้บ้าแผนที่ แต่มันคือกำไรของประเทศชาติ เราไม่ทำก็ต้องไปจ้างเขา แผนที่ ที่พ่อถือเป็นสิ่งที่พ่อเขียนเองเดินเองแก้เอง ถึงแม้จะถ่ายมาจากเครื่องบิน แต่พ่อก็ลงเดินสำรวจ ว่ามีความถูกต้องแค่ไหนแล้วก็แก้จนกว่าจะถูกมากที่สุด สิ่งที่พ่อติดตัว กล้องถ่ายรูป ดินสอ และแผนที่ และวันนี้ผมก็ได้เห็นแผนที่ของพ่อเต็มๆ ทุกส่วนของแผนที่พ่อเต็มได้ด้วยเทปกาว ใครจะรักเราเท่าพระองค์

ทำไมพระราชาเดินไปในป่าเขา
ท่านทรงห่วงใยคนที่เขาอยู่ห่างไกล
ทำไมพระราชาถึงมีเหงื่อไหล
ท่านทุ่มเทแรงกาย ทรงงานมาหลายปี

ทำไมพระราชาถือแผนที่เอาไว้
ท่านอยากจะทรงเห็นเมืองไทยได้ทุกที่
เพราะอะไรพระราชาถึงต้องทำแบบนี้
ท่านอยากให้เรามีชีวิตที่เป็นสุข


https://www.facebook.com/photo.php?...81957101.1073741877.1583863009&type=3&theater

 

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/VSIwc2wc4Mk?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

พายุแองเจล่าแพ้แรงนางมณีเมขลา พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 ธันวาคม 2538

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/Zt_pLPCTkkE?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

แก้วมณีเมขลา เทอดไท้พระองค์ไว้บนฟ้า ดั่งบอกว่า ฉันและเทวา นั้นมีจริง



อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิด ถ้าไม่ใช่ภาพแต่ง ก็ทำให้ปลื้มใจ
ที่ฟ้า ยังประทับสัญลักษณ์แห่งพระองค์ไว้


น่าอัศจรรย์ !? "ชาวอัมพวา" แห่ดูปรากฎการณ์ "ฟ้าผ่ารูปเลข ๙ " ท้องฟ้าเหนือตลาดน้ำ "ช่างภาพ" ถึง��
น่าอัศจรรย์ !? "ชาวอัมพวา" แห่ดูปรากฎการณ์ "ฟ้าผ่ารูปเลข ๙ " ท้องฟ้าเหนือตลาดน้ำ "ช่างภาพ" ถึง

 

ขอบคุณในน้ำใจที่อาทรครับ