เรื่องเด่น ไม่ต้องตั้งท่าให้มาก*เลี้ยงกำลังใจให้ทรงตัว ทำอย่างไร? * เวลาจะเคลื่อนไป ทำอย่างไร? - ระวังพระพุทธเจ้าอุปาทาน

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

☆☆☆☆☆
◇ ☆ มโนมยิทธิ ☆ ไม่ต้องตั้งท่าให้มาก
◇ ☆ มโนมยิทธิ ☆ เลี้ยงกำลังใจให้ทรงตัว ทำอย่างไร...?
◇ ☆ มโนมยิทธิ ☆ เวลาจะเคลื่อนไป ทำอย่างไร...?
◇ ☆ มโนมยิทธิ ☆ ระวังพระพุทธเจ้าอุปาทาน...?
◇ ☆ มโนมยิทธิ ☆ การจะป้องกันตัวอุปาทานไม่ให้เกิด ทำอย่างไร...?
☆☆☆☆☆

◇◇◇
มโนมยิทธินี่ไม่ต้องตั้งท่า นึกขึ้นมาเมื่อไรไปได้เมื่อนั้นทันที นึกมาเมื่อไรปุ๊ปไปทันที นี่เป็นการเข้าฌาณ ไอ้ตัวไปนี่มันฌาณ ๔
◇◇◇

☆ ต้องเลี้ยงกำลังใจให้ทรงตัว อยู่เฉยๆ ก็จับลมหายใจเข้าออก ภาวนา "นะมะ พะธะ"

☆ เลี้ยงอารมณ์ให้อยู่แบบนั้น นี่ต้องมีหนึ่งเวลาหรือสองเวลาคือให้มีกำลังจิตมันทรงตัว

▪และเวลาที่เราจะเคลื่อนไปก็ใช้สองอย่าง..

☆ อันดับแรก จับภาพพระพุทธเจ้าให้ชัด ถ้าชัดแจ่มใสดีก็ไป เคลื่อนไป อาศัยบารมีท่าน อันนี้อย่าพลาด

☆ อีกจุดหนึ่ง การรวบรวมเอาเลย ปุ๊บปั๊บไม่สนใจคำภาวนาและไม่สนใจลมหายใจเข้าออก

รวมใจแล้วไปตามจุดนั้น ต้องเล่นสองแบบ แล้วก็ลองวิธีที่จะพิสูจน์ ไม่ยาก เล่นมันคนละวัน

☆ อย่างเช้ามืดตื่นขึ้นมาพั๊บ จับลมหายใจเข้าออกให้สบายทรงอารมณ์ให้ดีเห็นภาพพระพุทธเจ้าใสแล้วก็ถามท่านว่า

☆ วันนี้ใครจะมาบ้าง ผู้หญิงกี่คน ชายกี่คน ใครจะกวนใจ รูปล่างลักษณะแบบไหน แต่งตัวแบบไหน แล้วเราก็จดไว้..

☆ อีกวัน รวบรวมกำลังใจพั๊บ ดูว่าใครจะมาบ้าง ดูอย่างไหนถูกอย่างไหนผิด ไอ้อันหลังนี่ผิด อย่างก่อนไม่มีผิด ทีนี้เราต้องพยายามทำทั้งสองอย่างให้เสมอกัน

▪ทำไมจึงไม่ผิด พอรวบรวมกำลังใจพั๊บแทนที่จะเคลื่อนปุ๊บ จับภาพพระพุทธเจ้าทันที แต่ว่าเราไม่เลี้ยงลมหายใจก่อน เอาเร็วเข้าว่า

☆ แต่อันนี้ต้องหัดให้คล่องนะ การทรงตัวนี่ให้ทรงอยู่เสมอและรวบรัด คือ
ไม่สนใจลมหายใจ
ไม่สนใจคำภาวนา
พอจับลมหายใจได้พั๊บ เห็นพระพุทธเจ้าก็ถามเลยทันที ถามแล้วต้องรีบจด ถ้าขืนทิ้งไว้เดี๋ยวลืม ตัวนี้ต้องระวัง

▪ก่อนนี้ถ้าจะทำ "หลวงพ่อปาน" เคยบอกว่ากระดาษดินสออย่าให้ขาด

ใครบอกอะไรรีบจดทันที หมายถึงเทวดาหรือพรหมหรือพระ ท่านบอกต้องรีบจดทันที ไม่งั้นเช้าหาย มันหายไม่หมดแต่มันหายเหลือไม่ได้เรื่อง

◇◇◇
บางทีพระพุทธเจ้าบอกแล้วเขายังไม่แน่ใจเลย

☆ แต่ว่าพระพุทธเจ้าถามได้ไม่เกิน ๓ ครั้งนะ
☆ เรื่องเดียวเกินไม่ได้ ถ้าถึงวาระที่ ๓ ท่านยืนยันใช้ได้
◇◇◇

▪ทีนี้ก็ระวังพระพุทธเจ้าอุปาทาน คือ อารมณ์อุปาทานที่คิดว่าเราดีแล้ว แต่ความจริงมันไม่ดีพอ เราคิดว่าเราดีแล้วนี่แหละ

เราจะเห็นพระพุทธเจ้าชัดเจนมาก ตัวนี้เป็นตัวอุปาทาน เป็นตัวหลอก ต้องระวังให้มาก ของปลอมจะชัดกว่าของจริง

▪การจะป้องกันตัวอุปาทานไม่ให้เกิด
ต้องถือพุทธสุภาษิตให้มั่นคงว่า
"อัตตนา โจทยัตตานัง"
จงกล่าวโทษโจทย์ความผิดของตัวเองไว้เสมอ

◇◇◇
ต้องมองว่าเรายังไม่ดีเสมอ ถ้าหาจุดไม่ดีไม่พบก็นึกว่าถ้ายังมีขันธ์ ๕ อยู่นี่มันยังไม่ดี ทรงอารมณ์ไว้เป็นปกติ ตัวอุปาทานมันจะไม่มา
◇◇◇

อ้างอิงจาก
หนังสือ พ่อสอนลูก เล่มที่ ๑ ปีที่ ๑ หน้า ๒๐๖ - ๒๐๘
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)

**************************************************************

CR. https://www.facebook.com/punyawat.tuntommarat?hc_ref=NEWSFEED&fref=nf