นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (ที่สุดแห่งปี...รุ่นอภิญญาใหญ่)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย konun88, 20 มิถุนายน 2016.

  1. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    ◎กำนันรำหนังเหนียว◎ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

    ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นมีดหมอที่เรียกว่ามีดหมอควาญช้างของไพฑูรย์ครั้งหนึ่งเป็นมีดที่ใบทำด้วยเหล็กกล้าด้ามทำด้วยงาช้างและฝักทำด้วยไม้สีดำมีปลอกเงินคาดปลายปลอกด้านบนหุ้มด้วยเงิน ใบมีดกร่อนด้วยสนิมแต่ไม่เสียรูปทรงมากนักปลายแหลมงอนขึ้นดังที่เซียนมีดหมอหลวงพ่อเดิมเรียกว่า’’หัวปลาหมอ’’

    ไพฑูรย์บอกว่าก่อนจับให้พนมมือรําลึกถึงหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพเสียก่อนและต่อจากนั้นก่อนจะดึงมีดออกจากฝั่งให้ระลึกถึงวิญญาณที่ตายด้วยมีดอาถรรพ์นี้อีกครั้ง

    ผู้เขียนก็ทำตามแต่ดึงมีดไม่ออกไพฑูรย์หัวเราะ หึๆ แล้วดึงมีดไปจากมือของผู้เขียนแล้วดันด้ามมีดขึ้นไปข้างบนจนเสียงดังกึก จึงส่งคืนให้ผู้เขียนอธิบายว่า

    ‘’ คนทำปลอกมีดของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพจะทำร่องไว้ที่ด้านล่างของฝักที่รองรับคมมีดเมื่อสอดมีดเข้าไปในฝักจนหมดใบมีดแล้วให้ดันด้ามมีดลงด้านล่างนิดนึงให้เกิดเสียงดังกึกเป็นการตึงใบมีดให้ติดกับฝักดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกเมื่อจะชักออกจึงดันด้ามมีดขึ้นด้านบนให้ดังกึกจึงจะดึงมีดออกจากฝักได้’’

    เป็นอนุสติเตือนเจ้าของมีดให้นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อเดิมที่ว่ามีดหมอใช้ได้ทั้งกันและแก้ก่อนจะใช้มีดจึงควรไตร่ตรองให้รอบคอบคนเราเมื่อเกิดโทสะจริตเข้าครอบงำแล้วส่วนมากจะลืมดันด้านมีดขึ้นข้างบนจึงชักมีดไม่ออกทำให้ได้สติว่ากำลังจะใช้มีดหมอในทางแก้มิใช่การป้องกัน อาจลดอำนาจโทสะลงได้ไม่มากก็น้อย

    สำหรับไพฑูรย์นั้นบอกว่าจะดันด้ามมีดขึ้นข้างบนเพื่อดึงออกเฉพาะเพื่อป้องกันชีวิตเท่านั้นเหมือนครูดาบที่สอบวิชาดาบที่เมืองตากก่อนจะมาเป็นบุตรบุญธรรมของท่านผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิตที่ว่าจงเก็บดาบไว้ในฝักเสมออย่าชักเข้าชักออก

    นักดาบจะชักดาบออกจากฝั่งเพื่อการป้องกันตัวและทุกครั้งที่ดาบออกจากฝักจะต้องได้เลือดเซ่นดาบทุกครั้งจะเป็นอุปทานหรือไม่นั้นผู้เขียนก็ไม่รู้แต่เมื่อมีดเปลือยออกจากฝักแล้วจมูกได้กลิ่นคาวเลือดฉุนกึกตามมาด้วยกลิ่นคล้ายกลิ่นอับอับของกำยานมากระทบจมูกอย่างเเรงรู้สึกขย้อน

    ไพฑูรย์ดูเหมือนจับสังเกตได้รีบปลดมีดออกจากมือผู้เขียนยัดคืนเข้าฝักเก็บใส่กระเป๋าหิ้วตามเดิมแล้วพูดกับผู้เขียนว่า ไม่ว่าใครหรอกหากได้จับมีดหมอเล่มนี้แล้วก็เป็นต้องมีอาการเหมือน บ.กนี่แหละมันกลืนชีวิตคนมามากแล้วถ้าเป็นโบราณออกสึกครั้งหนึ่งพอกลับบ้านจะต้องทุบด้ามดาบให้แตกเป็นเคล็ดว่าได้ปล่อยวิญญาณศัตรูที่ตายใต้คมดาบออกไปให้พ้นจึงทำด้ามใหม่

    ไพฑูรย์กล่าวเสมอว่ามีดหมอแบบควาญช้างนี้คุ้มชีวิตไพฑูรย์ได้ไว้โดยตลอดไม่ว่าจะในด้านใด จะเป็นมหาอุด คงกระพัน นะจังงังก็ได้ทั้งนั้น

    มีดหมอด้ามครูของหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อเดิมเคยบอกกับไพฑูรย์ว่า

    ‘’เมื่อน้ำเหนือหลากจะล้นบึงบอระเพ็ดเจ้าเมืองนครสวรรค์จะมานิมนต์ให้หลวงพ่อไปลอยเรืออยู่ที่ปากบึงเพื่อใช้มีดหมอสะกดเหล่าจระเข้เหราทั้งปวงให้สงบอยู่แต่ภายในอาณาเขตบึงไม่ให้ออกไปก่อความเดือดร้อนแก่ผู้คนส่วนจระเข้นอกบึงที่มาจากทางเหนือจะไหลตามน้ำไปแต่ไม่ต้องห่วงเพราะหลวงพ่อศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าท่านเสกหินไว้ตลอดท่าน้ำหน้าวัดจรเข้ไม่ว่าจะเป็นจระเข้อาคมหรือจระเข้ตามธรรมชาติจะลอยขึ้นเหนือน้ำกบดานไม่ได้อ้าปากไม่ขึ้นเล่นงานพระหรือชาวบ้านไม่ได้

    ไพฑูรย์บอกว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมนี้ฉมังนักใครมีไว้เหมือนมีอาวุธพิเศษไว้ติดตัว ‘’สัพเพเทวาปีศาเจวะ อันว่าเทวดาฝ่ายมิจฉาทิฐิและภูตผีปีศาจทั้งหลายทั้งปวง ปะรายันติจะพ่ายแพ้แก่อำนาจแห่งมีดอันเปรียบเสมือนประดุจอาวุทสำคัญ 5 ชนิดที่ถือว่ามีอานุภาพร้ายแรงที่สุดในโลก

    วิชามีดหมอนี้หลวงพ่อเดิมได้ถ่ายทอดให้ ศิษย์ 2 องค์คือหลวงพ่อกันวัดเขาแก้วกับหลวงพ่อน้อยวัดหนองโพ (ปัจจุบันมรณภาพไปแล้วทั้งสององค์) สำหรับหลวงพ่อน้อยวัดหนองโพองค์นี้เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองโพสืบต่อจากหลวงพ่อเดิมเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2487- 88

    เป็นช่วงสำคัญของประเทศไทยเพราะเป็นระยะเวลาที่หน่วยเสรีไทยสายอเมริกาได้กระโดดร่มลงมาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติการร่วมกับเสรีไทยสายอังกฤษที่มุ่งหน้าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยที่สร้างความพินาศแก่กองทัพรูปพระอาทิตย์ที่มีชื่อว่า ‘’กองทัพงิ’’

    เป็นช่วงที่ไพฑูรย์กับสามสหายออกมาร่วมงานกับเสรีไทยทำงานใต้ดินโดยตำรวจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ถือว่าช่วยชาติ อธิบดีตำรวจ ณ เวลานั้นคือหลวงอดุลเดชจรัสที่มีรหัสเสรีไทยว่า ‘’พูเลา’’

    เสรีไทยคนไหนถูกญี่ปุ่นจับแล้วส่งมาให้ฝ่ายไทยจะรอดหมดทุกคนตอนหลังจึงไม่ยอมส่งมาโดยอ้างกฎอัยการของกองทัพพระเจ้าจักรพรรดิที่ว่าหากเหตุเกิดในค่ายทหารหรือในกองบก. ญี่ปุ่นจะต้องถูกพิจารณาโทษตามกฎอัยการศึกของทหารเพราะสนธิสัญญาระหว่างไทยญี่ปุ่นไม่ได้มีกำหนดไว้เสรีไทยส่วนหนึ่งจึงต้องสังเวยชีวิตในค่ายทหารญี่ปุ่นอย่างน่าทุเรศเวทนา

    เหมือนไพฑูรย์จะนึกขึ้นได้จึงหวนมาหาเรื่องของมีดหมอควาญช้างโดยเล่าว่าเมื่อตอนที่ไปมอบตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพนั้นได้ยินเรื่องราวของกำนันสมบัติหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่ากำนันรึ นั้นกำนันรึสมบัติเป็นกำนันอยู่บ้านหัวหวาย

    เป็นกำนันหนุ่มฉกรรจ์ที่เป็นศิษย์หลวงพ่อเดิมได้มีดหมอควาญช้างไปจากหลวงพ่อเดิมชุดแรก 9 เล่มกำนันรำได้ไป 1 ใน9 เล่มเมื่อจะต้องเดินทางไปไล่ล่าเสือปล้นฆ่าชาวบ้านหรือพวกโจรขโมยควายที่ทางการได้ขอให้ไปช่วยกำนัน จะมีปืนพาราเบลลั่มพกติดเอวไปด้วย

    สมัยก่อนโน้นใช้ขี่ม้าหรือไม่ก็นั่งเกวียนแต่บรรดาตำรวจที่ออกไปปราบโจรมักเอารถแวะมารับกำนันรำถึงบ้านพอรถออกก็ไม่มีอะไรแต่พอใกล้จะถึงจุดที่จะปะทะนายตำรวจสั่งเตรียมพร้อมกำนันสมบัติจะลุกขึ้นรำป้อลอยหน้าลอยตาเหมือนกับว่าการเข้าไปจับเสือร้ายที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันเหมือนกับกำลังจะขึ้นเวทีรำวงทั้งนี้เพราะกำนันรำนั้นเชื่อมั่นในอำนาจพระพุทธคุณมีดหมอควาญช้างของหลวงพ่อเดิมที่ติดตัวมาเพราะมีประสบการณ์มามากในการเผชิญหน้ากับเสือร้าย

    ตามั่ง บ้านหัวหวายเล่าให้ไพฑูรย์ฟังว่าที่นับว่าเป็นเรื่องที่ทำกำนันรำมีชื่อเสียงก็คือการเข้าไปปราบเสือชุ่มที่ลักพาตัวนางสาวเกสรลูกสาวเศรษฐีแจ้ง ไปเรียกค่าไถ่ตำรวจออกติดตามข่าวจนพบว่าเสือชุ่มพานางสาวเกสรไปกักไว้ที่ท้ายเขาพนมรอกจึงวางแผนเข้าจับกุมกำนันรำไปร่วมด้วยช่วยกัน รำเฉิบๆ ไปกับตำรวจผู้หมวดที่เป็นหัวหน้าชุดร้องบอกกำนันสมบัติที่กำลังรำป้อว่า

    ‘’น้ากำนันเลิกรำได้แล้วล่ะใกล้ถึงจุดปะทะแล้วเดียวโจรมันสาดกระสุนใส่ถูกเข้าจะยุ่งกันใหญ่’’

    จ่านิดต้องสะกิดผู้หมวดหนุ่มหน้าใหม่พึ่งจบมาหมาดๆให้หยุดพูดทันทีโดยพูดกับผู้หมวดหนุ่มว่า

    ‘’อย่าไปยุ่งกับกำนันสมบัติเลยครับแกมีฉายากำนันรำเพราะไม่ว่าแกจะไปปะทะกับวายร้ายที่ไหนแกก็จะรำอย่างนี้แหละแกชื่อในมีดหมอควาญช้างของหลวงพ่อเดิมที่แกพกติดตัวมาด้วยครับผู้กอง’’

    พูดยังไม่ทันจบคำดีเสียงกำนันรำก็สวนควันทันที
    ‘’ขอบคุณมากครับผู้กองไม่ต้องห่วงผมหรอกครับว่าแต่ว่าเตรียมอาราธนาของขลังไว้หรือยังสำหรับผมแล้วมีดหมอควาญช้างของหลวงพ่อเดิมที่ผมพกมาคือเกราะเพชรป้องกันชีวิตผมไม่เชื่อเดี๋ยวคอยชมเอาเอง’’

    ตามั่งบ้านหัวหวายเล่ามาถึงตรงนี้แล้วหยุดยืนแขนที่มีขนลุกซู่ให้ดูก่อนจะเล่าต่อ ตำรวจเข้าล้อมบ้านเป้าหมายสายสืบทำงานได้ดีผู้กองหนุ่มสั่งกระจายกำลังเข้าโอบล้อมบ้านเป้าหมายอย่างเงียบเชียบ

    เมื่อทุกอย่างเข้าที่ผู้หมวดได้ยื่นคำขาดด้วยการตะโกนให้เสือชุ่มมอบตัวแต่คำตอบคือลูกปืนตำรวจหลบเข้าที่กำบังกันอุตลุดเสียงกำนันรำร้องตะโกนว่า

    ‘’บุกโว้ย เสียเวลาหมอบๆ หลบ ๆ’’

    พูดจบกำนันรำวิ่งเข้าหาบ้านเป้าหมายมันน่าแปลกก็คือลูกปืนที่คนร้ายยิงมาแบบไม่เลี้ยงไม่มีนัดไหนแผ้วพานร่างของกำนันได้สักนัดเดียวผู้หมวดร้องสั่งด้วยเสียงอันดังกว่ายิงคุ้มกันกำนันรำแล้วบุกเข้าหาเป้าหมายเร็วเข้า บุกเข้าไป!

    การต่อสู้อย่างหนักเปิดขึ้นกำนันรำวิ่งออกไปทางด้านหลังปล่อยให้ตำรวจบุกเข้าไปช่วยตัวประกันในบ้านและจัดการศพลูกน้องเสือชุ่ม

    ผู้กองให้ตำรวจแม่นปืนตามหลังกำนันรำไปติดติดภาพที่ได้เห็นคือกำนันรำกับเสือชุ่มเดินถือปืนเข้าหากันสาดกระสุนใส่กันหูดับตับไหม้ แต่กำนันถือว่าเป็นกำไรชีวิตเสียงปืนขาดเสียง ร่างที่พรุนไปด้วยรูกระสุนของเสือชุ่มถูกส่งไปตายโรงพยาบาล กำนันรำถูกยิงเข้าที่สำคัญแต่ไม่เข้าซักนัดมีแต่รอยช้ำเป็นจ้ำๆด้วยแรงปะทะผลของกระสุนจากปืนเสือชุ่ม

    ไพฑูรย์ปิดท้ายว่ามีดหมอควาญช้างเป็นมีดรุ่นแรกที่หลวงพ่อเดิมสร้าง ก่อนที่จะลดขนาดลงมาเป็นมีดปากกากะทัดรัดพกพาสะดวกจิ๋วแต่มีพลานุภาพเสมือนมีดหมอควาญช้างขนาดใหญ่ที่หลวงพ่อสร้างยุคแรกทุกประการ ไพฑูรย์สรุปท้ายว่า มีดหมอมีสร้างกันหลายสำนักแต่ไม่ดังคับฟ้าเหมือนมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่ยังคงความเป็นอมตะตลอดกาล

    ที่มา

     
  2. kittipongc

    kittipongc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +3,648
    ปูเสื่อรอติดตาม ขั้นตอนที่ยากที่สุดครับ ^^
     
  3. ญานธรรม

    ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,936
    ค่าพลัง:
    +14,705
    รอติดตามเรื่องราวดีๆ ครับ หวังจะได้ฟังอานุภาพของกริชเมื่อยามเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมดว่าเป็นอย่างไรบ้าง
     
  4. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    ขั้นตอนที่หนักใจที่สุด และยากที่สุด คือ การปลุกเสกปิดท้ายนี่ละครับ... ดังที่ทราบชนวนหลายอย่างก็เสกมามาก เสกตั้งแต่ยังไม่นำมาหลอมด้วยซ้ำ ตีขึ้นรูป ก็เข้าพิธีปลุกเสกอีก ในพิธีสายปู่ฤาษี สายเทพ เหลือขั้นตอนสุดท้ายคือ เสกปิด

    เสกปิด
    คืออะไร ผู้รู้ที่ปรึกษาโครงการกล่าวว่า คือ เสกปิดท้าย และเราจะไม่เสกใด ๆ อีกแล้ว คือ จะไม่นำไปขอครูบาอาจารย์ท่านใดลงเพิ่มอีก เพราะ ได้ลงวิชาเฉพาะไว้ หมดแล้วในสายเครื่องราง


    ผมนึกออกครั้งหนึ่ง ผมเคยได้ตะกรุดกาสะท้อนหลวง (สะท้อนใหญ่) ซึ่งมีอานุภาพสะท้อนภัยมืด อวิชชาทั้งปวง ผมได้มาด้วยความไม่รู้ นำไปขอหลวงปู่ท่านหนึ่งเสกซ้ำ หวังว่าจะแรงยิ่งขึ้น ภายหลัง ผู้รู้ที่ปรึกษาโครงการนี้ แจ้งว่า ได้เคล็ดลับวิชาเพิ่ม...
    ...คือแต่เดิม ตะกรุดกาสะท้อน ต้องพอกครั่งพุทรา แต่ ณ ปัจจุบัน ครั่งพุทรานั้นหายาก ต้องไปหาในป่า แม้ได้มา ก็ได้ไม่มาก ...
    ...ที่ปรึกษาบอก ได้เคล็ดเพิ่มไม่ต้องไปหาครั่งพุทรา แต่ใช้วิธีง่าย ๆจาก ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งบอกเคล็ดมา ผมจึงส่งตะกรุดขึ้นไป

    ...พอ ที่ปรึกษาได้รับตะกรุดปุ๊ป ถามเลย ไปเสกเพิ่มมาเหรอ ใช่ครับ เป็นไงแรงขึ้นไหม ท่านบอก พลังเปลี่ยนไปสิ เพราะตะกรุดนี้ลงแบบ พลังคล้ายมีดดาบ สะท้อนกลับ แบบมาแรงไปแรง แต่ครูบาอาจารย์ที่ลงใหม่ อาจเห็นว่าแรงไป เกลี่ย จัดพลังใหม่หมด จากมีดดาบเป็นดอกไม้เลย

    ...สุดท้ายตะกรุดนี้ ต้องไปจัดเรียงพลังใหม่ คือดึงเมตตาออกจัดกระแสใหม่ (ผมได้ฟังจาก ลำโพงโทรศัพท์ ได้ยินการจัดกระแสใหม่กับหู)

    ...สรุป นี่จึงเป็นความรู้ใหม่ที่ได้รับมา
     
  5. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    ดังจะทราบ สร้างเครื่องราง ย่อมต่างจากสร้างพระเครื่อง เพราะบางอย่างต้องทำตามตำรา สรรพวิชา ดังเช่น ทำตะกรุด ก็ไม่ใช่ ๆ อยู่ ๆ จะจารเลย ต้องดู ฤกษ์ยาม ทำขัน บูชาครู ฯลฯ

    แต่ ข้อดี คือเครื่องรางใช้ได้ แทบจะทุกคน แม้เป็นคนไม่ดี ดังเช่น โจรสมัยก่อนเป็นต้น มักจะมีเครื่องรางที่ทรงอานุภาพ เช่นตะกรุด คด ฯลฯ อาจมีบางท่านว่า อ้าว ก็เห็นมีห้อยพระปล้นฆ่า ก็คุ้มครองได้ ผู้รู้กล่าวว่า พระที่คุ้มครองแบบนั้น มักเป็นพระที่ ฤาษีสมัยโบราณสร้าง เช่นพระกรุ หรือมีธาตุกายสิทธิ์ผสมเป็นมวลสาร แล้วอาจนิมนต์พระเถระมหาสวดฉลอง เสริมมงคล แต่พลังที่บรรจุ จะเป็นของ ฤาษี ที่สร้างเป็นหลัก ดังเช่น พระสกุลลำพูน หรือ พระผงสุพรรณ เป็นต้นคือ พระมหาฤาษีสร้างไว้และมีว่านยารึธาตกายสิทธิ์ผสมเป็นมวลสาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2017
  6. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    คำถาม ปลุกเสกหมู่ กับเสกเดี่ยว ดีต่างกันอย่างไร คำถามนี้ เป็นคำถามที่พบบ่อย ผู้ที่ตอบคำถามได้ดีที่สุดคือผู้ปลุกเสกเอง..

    ..ได้ฟัง จาก ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า ไปนิมนต์พระเกจิมาอธิษฐานจิตที่วัดให้ ท่านกล่าวว่า ไปเสกเดี่ยวดีกว่า คือ นิมนต์ ท่านละวัน วันนี้ท่านนี้ วันต่อไปท่านอื่น พระเกจิท่านบอกมาเอง... เพราะเสกเดี่ยวไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา และเงียบสงบมากกว่า

    ...จึงนึกออกจากที่ ผู้รู้เคยกล่าวไว้ วัตถุมงคลที่มีประสบการณ์ และเป็นตำนานจำนวนมาก มักจะเป็นวัตถุมงคลที่เสกเดี่ยว...(
    ส่วนใหญ่นะครับ คำตอบนี้ ผู้ที่ห้อยหรือบูชาอยู่น่าจะทราบได้ดีที่สุด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2017
  7. ญานธรรม

    ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,936
    ค่าพลัง:
    +14,705
    ได้ความรู้มากมายเลยครับ เมื่อก่อนนึกว่าต้องเสกเยอะๆถึงจะดี แต่พอฟังแบบนี้ ความคิดเปลี่ยนเลย
     
  8. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    ผู้รู้กล่าวว่า การนำของไปขอครูบาอาจารย์ปลุกเสกก็สำคัญ ไม่ใช่ ยกลังวาง ขอเสก เสกเสร็จถวายปัจจัยกลับ ในสายท่านยึดตามตำรา คือมีขันตั้ง(เครื่องบูชาครู) อาจเป็นดอกไม้ ธูปเทีย หมากพลู หรืออะไรแล้วแต่ตามสูตร

    ผมนึกออกในสายครูบาอาจารย์ผมเช่นกัน หลวงปู่โน บันทึกสั่งไว้ หลวงปู่ประหยัดบุตรชาย หยิบให้ผมอ่านเองกับตา ท่านบันทึกตำรา ขั้นตอนเสก เตรียมอะไรบ้าง ฤกษ์ยามอย่างไร

    ทีนี้ผมเคยถาม อ้าวแล้วถ้า ยกกล่อง วางแป็ก ขอเสกหลวงปู่เป่า ๆ เสกจะได้ผลไหม ท่านว่าได้เหมือนกัน แต่จะไม่เท่า เตรียมพิธีกรรม เพราะอย่างไรเสียปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นพิธีพราหมณ์ มงคลพุทธอยู่ที่การกระทำ มงคลพราหมณ์อยู่ที่พิธีกรรม

    คำตอบนี้ วิญญูชนย่อมทราบคำตอบดี
     
  9. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547

    คำตอบนี้ อยู่ที่ ผู้ใช้ หรือบูชาวัตถุมงคลจะทราบดีที่สุดครับ... ห้อยแล้วเงียบ เหมือนไม่ได้ห้อยไร หรือ ดีช่วงแรก ๆ ประสบการ์เพียบ ผ่านไปไม่นาน เงียบ เราก็เบื่อเอง เปลี่ยนวัตถุมงคลใหม่...

    อย่างไรก็ตามทุกสิ่งย่อมไม่เกินกรรมครับ หากกรรมตามมา แม้ห้อยเบญจภาคีก็ต้อง โดน...
     
  10. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    ระยะเวลาการปลุกเสก เกี่ยวไหม ... คำตอบนี้ต้องให้ผู้ปลุกเสกบอกเองครับ การเป่าพ้วง 1 นาที ผู้มีพลังจิตสูงเป่าย่อมขลังแน่นอน แต่อาจอยู่ระดับ ใช้ได้ โดยมากผมเองก็ถามบ่อย แรงไหมครับ ดีไหมครับ ครูบาอาจารย์มักบอกใช้ได้ คำว่าใช้ได้ คือ พก พา อาราธนาคุ้มครองได้แน่นอน เพราะหากถามต่ออยากให้สุดยอด ท่านมักบอก ใช้ได้แล้ว อย่ายึดติด ไม่มีอะไรเกินกรรม...

    ผมเคยนำวัตถุมงคลสำคัญอย่างหนึ่ง ไปขอครูบาอาจารย์ที่ไปมาหาสู่ท่านหลายปี เรียกว่าไปมาเป็นร้อย ๆ ครั้งได้ จนได้ทราบคุณธรรมระดับสูงของท่าน ปกติ ท่านไม่ส่งเสริมในด้านวัตถุมงคล ท่านประกาศเลยไม่เสกใด ๆ ทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าห้าม.. (ขนาดนั้นเลย) ไม่ทำน้ำมนต์ใด ๆ

    จนวันหนึ่ง โอกาสเหมาะมาก อาศัยตอนท่าน อารมณ์ดี ขออนุญาต นำลูกอมและวัตถุมงคลบางส่วน ขอท่านอธิษฐานจิต (ใช้คำว่าปลุกเสกไม่ได้ ท่านไม่ชอบ) ท่านถาม จะไปแจกใคร แจกคนสนิทครับ ท่านบอก ไม่อยากดังนะ อย่าให้ใครรู้ ครับ ให้เฉพาะสนิท ๆ ท่านย้ำ
    หลวงปู่ไม่ปลุกเสกนะ แต่จะอธิษฐานจิตให้ สวดมนต์ภาวนาให้

    ท่านถาม จะรีบเอากลับไหม ผมว่าไม่รีบครับ .... (ดีใจมาก ๆ )

    เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ ไปถามท่านเสร็จหรือยัง ท่านตอบว่า อย่าพึ่ง ๆ ยังไม่เสร็จ

    ผ่านไปอีกอาทิตย์ ท่านบอกเองเลย ยังไม่เสร็จ

    ผ่านไปอีกอาทิตย์ ท่านบอกยัง ๆ สิ้นเดือนค่อยมาเอา

    ผมอดสงสัยไม่ได้ จึงถาม หลวงปู่ทำไมนานจัง ปกติ เห็น พ้วงเดียว หรือไม่กี่วันก็ได้แล้ว

    ท่านกล่าวว่า
    "ทิ้งทวน" เจออย่างนี้ไม่ถามอีกเลยครับ

    จนถึงกำหนด ไปสิ้นเดือนรับ ท่านบอกค่อยมาพรุ่งนี้ ไม่ได้ถือฤกษ์ยามอะไร แต่อยากให้มารับวันที่ 1 (อ้าว ก็ต้องทำตาม)

    จนได้รับเสร็จ ท่านตั้งใจมาก ไม่ยอมไปทำวัตรเย็นเลย รอผมไปรับ ท่านย้ำ แจกเฉพาะคนดี ๆ นะ

    ผมได้นำไปขอผู้รู้ ท่านหนึ่งที่เชื่อได้ว่า ตรวจชมบารมีได้ ไม่มั่ว ผลปรากฎว่าชุดนี้ ดีมาก ๆ เขากล่าวว่า อาจกันนิวเคลียร์ได้เลย (เขาว่านะ ผมไม่ทราบได้ ผมคนธรรมดาดูไม่เป็นครับ)

    แต่แปลกอย่างชุดนี้ ทำไมขอชมเทพพรหมที่รักษามองไม่เห็น เขากล่าวว่า อาจเพราะเทพพรหม ไม่ให้เห็นมากกว่า เพราะเสกขนาดนี้ย่อมมีแน่...

    คำตอบของคำถามนี้ ต้องถามผู้อธิษฐานจิตละครับ ผมจึงไปถามหลวงปู่ท่าน

    ท่านกล่าวว่า ไม่เห็นหรอก หลวงปู่อธิษฐานไว้ ว่าไม่อยากดัง ถ้าเห็นเทพพรหมที่รักษาจะฮือฮา...

    จบ.... ไม่ต้องถามนะครับ รุ่นอะไร รุ่นกายสิทธิ์ทิ้งทวน... ไม่มีแจกไม่มีให้ใครครับ แจกเฉพาะคนสนิทตามท่านสั่งแล้ว

    ...นี่คือคำตอบว่า ระยะเวลาการปลุกเสกมีผลไหม....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2017
  11. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    เยิ่นเย้อมานาน มาถึง ขั้นตอนที่ยากที่สุด น่าหนักใจที่สุดซะที ดังที่กล่าวมาทั้งหมด ขั้นตอนนี้ยากที่สุดและได้ปรึกษาผู้รู้ที่ปรึกษาคือ

    1. หลังจากจัดหามวลสาร ชนวนตามตำรามีที่มาชัดเจน (ชัดเจนคือไม่มั่ว เช่นเอาเหล็กเก่า สนิมเขรอะไม่กี่อัน บอกสังฆวานร หรือเหล็กยอดเจดีย์มาถ่ายรูปโชว ถามเจดีย์ไหนวัดไหน มีที่มาไหมจะไปเช็คว่าของจริงไหม แล้วสะอึกงี้ 555 (ฮา) ) เหล็กยอดเจดีย์ไม่ใช่ใครจะไปสอยเอามาก็ได้นะครับ.. ติดหนี้สงฆ์ยุ่งเลย

    2. ทำตามตำรา ที่ผู้รู้สั่ง ควบคุมช่างไปดูเองมีรูป มีคลิป ชัดเจนตั้งแต่เสกชนวน เสกตอนขึ้นรูป พิธีสายเทพ ส่งภาพ ให้ท่านดูตลอด (ท่านชำนาญเรื่องดูพลังกะแสผ่านภาพถ่าย)

    3. ถามที่ปรึกษาว่าจะหาครูบาอาจารย์ที่ทรงอภิญญา สามารถเสกเป็นระดับตำนานได้ไหม โดยที่ปรึกษาเรา ไปกำกับ นำมีดหมอ กริชไปเอง ท่านกล่าวว่า ยาก หายากมากในปัจจุบัน คือเคยมีอยู่อย่างครูบาอาจารย์ท่านเอง แต่ละสังขารไปหมดแล้ว หายากมาก ท่านเปรียบเทียบ หายากกว่าพระรอดมหาวันอีก (ฮามาก) สมมติมีอาจอยู่ในป่าลึก ต้องไปสอบถามจาก รุ่นเก่า ๆ

    4. ทางเลือกสุดท้าย หากหาเสกเดี่ยวแบบชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกินไม่ได้ ท่านกล่าวว่า อาจต้องอัดพลังไปเรื่อย ๆ คือ ไปฝากครูบาอาจารย์ที่รู้จัก สนิทคุ้นเคยกันดี องค์แรก ซักอาทิตย์ องค์ที่ 2 องค์ที่ 3 (ไม่เกิน 3 ท่าน) โดยเป็นครูบาอาจารย์ที่เด่นคนละด้าน กะแสจิต ทางเดียวกัน (ท่านเปรียบเทียบเหมือนทำอาหารรสจัด อย่าให้ปรุงแต่งมาก กะแสพลังจะไม่สมดุลกัน)

    มาลุ้นกันครับ จะหา แบบ ม้วนเดียวจบ หรือ 3 ม้วนจบได้ไหม.... อะไรก็ไม่แน่นอนครับ
     
  12. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    หลายท่านรวมทั้งผมเอง มีคำถาม ยากขนาดนั้นเลยเหรอ ครูบาอาจารย์ที่เก่งกล้า สุดยอดมีอยู่มากมาย ผมเองก็นำของไปขอท่านเสกบ่อย หลายท่านอยู่ ....

    ที่ปรึกษากล่าวว่า จริต ปฏิปทา วิชา กระแสจิตครูบาอาจารย์แต่ละท่านไม่เหมือนกัน เหมือนสมัยพุทธกาล พระอรหันต์ ยังเด่นคนละด้าน เช่น พระสารีบุตร เด่นด้านปัญญา พระสีวลี เด่นด้านลาภ ตามบุญวาสนาที่สั่งสมมา

    หมอยังเก่งคนละด้าน ด้านเฉพาะทางต่าง กัน หากลงแบบพื้นฐาน นะได้ แต่หากให้ เป็นระดับตำนาน ย่อม ต่างกัน

    สิ่งสำคัญ คือ สรรพวิชาท่านด้วย การเสกมีดหมอ ครูบาอาจารย์ย่อมต้องได้ศึกษามา จากตำรา หรือจากการถ่ายทอดมาจากรุ่นก่อน คงไม่ลงคาถาเมตตามหานิยมในมีดหมอ แน่ ท่านว่างั้น...

    หรือเสกรวม เสกแยก เสกเฉพาะย่อมต่างกันอีก นำมีดไปเข้าพิธีเสกพระ ย่อมเป็นมีดมงคลไปเลยย ผีชอบ ผียิ้ม พระมีเมตตาเสมอ (555 ฮา)
     
  13. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ใช่ครับ
    นี่คือ ปญหา โลกแตก..
     
  14. ญานธรรม

    ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,936
    ค่าพลัง:
    +14,705
    เสกให้เป็นระดับตำนาน ระดับความหายาก ยากกว่าหาพระรอดมหาวัน

    ที่ปรึกษาท่านช่างเปรียบเปรยจริงๆ รอชม รออ่านต่อไปครับ
     
  15. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    สวัสดั ครับ
    ตามอ่านมาตลอด....

    เคยทราบ แต่ไม่ละเอียดเท่านี้

    ขอบคุณ สาระดีๆ ครับ
     
  16. kittipongc

    kittipongc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +3,648
    ใช่ครับ ได้ความรู้มากจริงๆ
    ผมก็คนหนึ่งเวลาไปหล่อพระ ชอบเอาพระที่มีไปเข้าพิธี เข้าใจว่า น่าจะเพิ่มพลัง แต่ต่อไปคงต้องพิจรณาดีๆ เพราะมีเรื่อง กระแสพลัง ด้วย
     
  17. kittipongc

    kittipongc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +3,648
    รอติดตาม ตอนต่อไปครับ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2017
  18. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    ไขความลี้ลับ พุทธานุภาพกับพระเครื่อง

    ผมไปกราบนมัสการ ( ผมขอสงวนนามและฉายาของท่าน ) พระอาจารย์ในการปฏิบัติธรรมของผม เพื่อกราบเรียนถามปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติ และในโอกาสเดียวกันนี้ผมได้กราบนมัสการถามข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องพระพุทธคุณในพระเครื่องและเครื่องรางของขลังต่างๆ
    สิ่งที่พระอาจารย์ ได้เมตตาอธิบาย ทำให้ผมได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นเป็นอันมาก ซึ่งผมคิดว่าไม่ควรจะเก็บเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวเพราะเมื่อทบทวนดูแล้ว เนื้อหาสาระน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่สนใจ
    ก่อนอื่น การที่เราพากันเรียกว่า พุทธาภิเษก นั้นไม่ถูกต้อง เพราะคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์นั้น มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอยู่แล้ว จึงไม่มีใครจะไปปลุกเสกท่านได้อีก อันที่จริงนั้น โบราณจารย์ ท่านใช้ คำว่า “ นั่งปรก “
    เคยมีคนไปถาม หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต วัดบางแก้วผดุงธรรม อ.บางแก้ว จ.พัทลุง
    พระอริยสงฆ์ที่ได้รับการยอมรับว่าทรงคุณธรรมขั้นสูง ( มรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ อายุ ๙๔ พรรษา ) ว่า เวลาท่านได้รับอาราธนานิมนต์ไปนั่งปรกนั้นท่านทำอย่างไร ท่านตอบว่า ก็ทำจิตให้เป็นหนึ่งเดียวเฉยๆ และเข้าถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้น ไม่ได้ไปปลุกเสก
    พระอาจารย์ของผมท่านอธิบายต่อไปว่า ผู้ที่จะนั่งปรก วัตถุมงคลต่างๆได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่สามารถทำระดับของจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเข้าถึงกระแสแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงจะสามารถทำให้วัตถุมงคลต่างๆมีพลังอิทธิฤทธิ์ขึ้นได้
    พลังที่จะลงไปอยู่ในพระเครื่องหรือวัตถุมงคลจะสูงหรือต่ำ แรงหรือไม่แรง เพียงไร ขึ้นอยู่กับ คุณธรรม ของผู้นั่งปรก หรือพูดง่ายๆว่า ระดับภูมิธรรมของ ผู้ที่ใส่พลัง ลงไปในวัตถุมงคล ซึ่งมีหลายระดับ เริ่มจากอริยบุคคลขั้นโสดาบัน ขึ้นไป จนถึงระดับพระอรหันต์ที่บรรลุมรรคผลนิพพาน
    พลังหรืออานุภาพที่พระท่านบรรจุลงไปนั้น อาศัยอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนจะให้สัมฤทธิ์ผลในทางใดนั้นท่านจะใช้พระคาถาเป็นสื่อ
    พระคาถาที่กล่าวถึงนี้เป็นพระคาถา หรือ อักขระโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ที่พระเถราจารย์ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และส่วนใหญ่แล้วจะพบว่าเป็นคำสรรเสริญพระพุทธเจ้า หรือ หัวใจของพระคาถาต่างๆที่ปรากฏ ในพระไตรปิฏก เช่น พระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ พระคาถาอิติปิโส หัวใจต่างๆ พระคาถาที่เรียกว่า ตับพระไตรปิฎก และอื่นๆ ซึ่งเป็นมงคลคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ในด้านต่างๆ
    พระคาถา เหล่านี้แตกต่างจาก คาถาทางไสยเวทย์ หรือ เวทย์มนต์ดำ ( ซึ่งมักจะมีคำที่ไม่สุภาพ) และการบรรจุพลังลงในเครื่องรางของขลังในสายไสยเวทย์ก็จะใช้เวทย์มนต์คาถาแบบนี้ ของขลังแบบไสยเวทย์นี้ผู้บรรจุพลังลงไปเป็นแต่เพียงผู้ที่ได้ฌานสมาบัติซึ่งอยู่ในระดับโลกียฌานเท่านั้น ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรมขั้นสูง
    ที่กล่าวไปแล้วนี้คือเป็นสิ่งที่พระอาจารย์ท่านเมตตาอธิบายและผมเอาเผยแพร่ต่อเท่าที่ความรู้ทางธรรมขั้นต่ำๆอย่างผมจะสามารถเข้าใจได้
    ต่อไปนี้คือข้อความที่ผมได้กราบนมัสการถามและพระอาจารย์ได้เมตตาให้ความกระจ่าง และผมได้พยายามเก็บความเท่าที่จะสามารถกระทำได้

    ถาม พระเครื่องที่จะมีพระพุทธคุณคุ้มครองนั้นเราต้องอาราธนาหรือไม่
    ตอบ การอาราธนานั้นคือการทำจิตให้ตั้งมั่นแบบหนึ่ง ดังนั้น จึงควรจะมีการทำจิตให้ตั้งมั่นก่อนเพื่อน้อมระลึกถึงคุณพระ แต่สิ่งที่จำเป็นต่อการที่บุคคลจะได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธคุณ คือ ต้องมีศีลเสียก่อน อย่างน้อยที่สุดก็มีศีล ๕

    ถาม เหตุใดพวกโจรผู้ร้ายบางคนก็ได้ข่าวว่ายิงไม่ออก ฟันไม่เข้า
    ตอบ ส่วนมากแล้วพวกโจรหรือนักเลงหัวไม้นั้นจะใช้เครื่องรางประเภทคุณไสยซึ่งแม้ไม่มีศีล ๕ ก็อาจสามารถปกป้องคุ้มครองได้ และโจรผู้ร้ายบางคนก็ ถือ สัจจะ ซึ่งสามารถมีผลช่วยปกป้องได้บ้าง แต่เมื่อกระแสกรรมชั่วที่ก่อขึ้นสะสมก็ไม่อาจจะมีอำนาจใดๆมาปกป้องได้


    ถาม พระเครื่องที่ได้รับการบรรจุพลังแล้ว เสื่อมได้หรือไม่ เคยได้ยินว่า ห้ามการลอดราวผ้า หรือนำไปในสถานที่ไม่บังควร
    ตอบ พระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่ผ่านการสร้างโดยท่านผู้ทรงคุณธรรมอย่างสูงแล้วจะไม่เสื่อม พุทธานุภาพจะดำรงอยู่ในนั้น วัตถุที่สร้างนั้นเสื่อมสลายไป แต่ผู้ใช้ต้องมีศีลดังที่ได้บอกไว้แล้ว

    ถาม วัตถุมงคลที่เป็นรูปสัตว์ สามารถคล้องคอรวมกับพระเครื่องได้หรือไม่ ( ผู้เขียนถาม โดยหมายถึงรูปหล่อหนุมานซึ่งเสกโดยหลวงปู่ ทิม อิสริโก )
    ตอบ ได้ เพราะรูปสัตว์ต่างๆนั้นเป็นรูปสมมติ เว้นแต่ของขลังจำพวกชิ้นส่วนของสัตว์ เช่น หนัง เขา เขี้ยว ล้วนเป็นชิ้นส่วนของสัตว์เดียรัจฉานที่ท่านบรรจุด้วยคุณไสย จึงไม่ควรแขวนรวมกับพระเครื่อง

    ถาม พระเครื่อง ใส่กระเป๋ากางเกงจะทำให้เสื่อมไหม
    ตอบ ไม่ทำให้เสื่อม แต่การที่เอาพระไปใส่กระเป๋าในที่ต่ำนั้นเป็นอาการแสดงออกซึ่งการไม่เคารพในพระเครื่อง ซึ่งไม่ควรทำ

    ถาม การอาราธนาพระสงฆ์เป็นจำนวนมากๆ มานั่งปรก พระเครื่องหรือวัตถุมงคลนั้นๆย่อมมีพลังแรงกว่าการนั่งปรกองค์เดียว ดังนี้ใช่หรือไม่
    ตอบ พลังที่บรรจุลงไปจะแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับระดับคุณธรรมของผู้นั่งปรก ซึ่งถ้าพระสงฆ์ที่อาราธนานิมนต์มาไม่มีระดับคุณธรรมที่สูงถึงจุดที่สามารถเข้าสู่กระแสแห่งคุณพระแล้ว นั่งปรกกันสักกี่รูปพลังจะไม่เท่าพระที่มีคุณธรรมเพียงรูปเดียว
    พระอริยะที่ท่านคุณธรรมสูง เมื่อท่าน “ บรรจุ “ พลังลงไป พลังที่เกิดจากคุณธรรมขั้นสูงของท่านจะลบล้างพลังของคุณธรรมที่บรรจุอยู่ก่อนแต่มีระดับผู้ทรงคุณที่ต่ำกว่า แต่ถ้าเป็นพระที่อยู่ในระดับภูมิธรรมสูงด้วยกัน พลังของท่านจะปรากฏเป็นหนึ่งของแต่ละองค์โดยไม่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว
    ยกตัวอย่างเช่น พระเครื่ององค์นี้ผู้นั่งปรกองค์แรก เป็นอริยสงฆ์ระดับ อนาคามี ถ้าพระอรหันต์ซึ่งมีภูมิธรรมสูงกว่านั้น ทำการ บรรจุพลัง คุณธรรมอันสูงของท่านจะลบล้างพลังของเก่าที่มีคุณธรรมอันต่ำกว่า
    พระภิกษุที่อยู่ในคุณธรรมระดับพระอรหันต์เพียงแต่ใช้เวลาแค่ไม่ถึง ๕ นาที ก็บรรจุพลังลงไปในพระเครื่องหรือวัตถุมงคลเสร็จแล้ว

    ถาม เหตุใดจึงมีข่าวว่าหลวงปู่บางองค์นั่งปรกทั้งคืน
    ตอบ ท่านก็นั่งเจริญพระคาถา เป็นประธานไปอย่างนั้น เพื่อฉลองศรัทธาที่มีคนอาราธนานิมนต์ไป ความจริงนั้นท่านใช้เวลาไม่ถึง ๕ นาทีก็เสร็จแล้ว

    ถาม เหตุใดพระเครื่องแต่ละรุ่นของผู้นั่งปรกองค์เดียวกันจึงมีพลังหรือระดับของพระพุทธคุณไม่เท่ากัน
    ตอบ ดังที่อธิบายแล้วว่า พลังของพระเครื่องและวัตถุมงคลขึ้นระดับของคุณธรรมของผู้ที่ปลุกเสก ว่าในขณะนั้นท่านอยู่ในระดับใด ดังนั้น พระของหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมของท่านในขณะนั้น
    เมื่อเป็นเช่นนี้ พระเครื่องที่ท่านบรรจุพลังในระยะหลังๆจึงปรากฏว่ามีพลังสูงกว่ารุ่นแรกๆ ยิ่งถ้ารุ่นแรกห่างกันมากๆหลายปี ก็ยิ่งพบว่ารุ่นหลังมีระดับพลังสูงกว่า เพราะท่านมีการพัฒนาคุณธรรม หรือ ระดับแห่งจิตของท่าน
    สรุป ผมคิดว่าสาระข้างบนนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ที่ศรัทธาในพระเครื่องทุกคน ที่่หวังพึ่งพระพุทธคุณเพื่อปกป้องตนเองจากภยันตรายต่างๆ


    อ้างอิงที่มา

     
  19. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,905
    ค่าพลัง:
    +54,547
    หลังจาก คุยกับที่ปรึกษา ประมาณ 2 อาทิตย์ ซึ่งช่วงนั้นอยู่ระหว่างเร่งงานช่าง เพื่อให้ทัน ฤกษ์ยามที่ดีที่สุด....

    ท่านที่ปรึกษา ก็แจ้งข่าวดี พบแล้ว พระระดับตำนานในป่าลึก.... โดยท่านกล่าวว่าเคยพบครูบาอาจารย์ท่านนี้ 3 ครั้ง โดย เพื่อนท่านซึ่งเป็นคนแถวนั้นพาไปหา

    จากการสัมผัสของท่านเอง พบว่า ล้ำลึก ล้ำเลิศ และมีสรรพวิชาที่แปลก โดยหากไปสอบถามวิชาต่าง ๆ พระในตำนานท่านจะ เฉไฉเรื่องอื่น ไม่ยอมบอกกล่าวใด ๆ แต่ ที่ปรึกษาเรา แอบฟังขณะทำพิธี หรือลงอาคม พบว่าวิชาแปลกประหลาดมาก (
    อย่างที่บอกที่ปรึกษาเรา เป็นศิษย์ยอดเกจิอาจารย์ระดับครูบาอาจารย์ในแถบนั้น ยกย่องให้เป็นครูบาหลวง(ครูบาใหญ่) จึงย่อมรอบรู้วิชาต่าง ๆพอควร)

    นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความหวังอีกครั้งครับ... ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ โปรดคอยติดตาม....
     
  20. ญานธรรม

    ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,936
    ค่าพลัง:
    +14,705
    แต่ละขั้น แต่ละตอน อ่านแล้วลุ้นไปด้วย ประกอบกับองค์ความรู้ต่างๆที่ถ่ายทอดชนิดที่หาที่ไหนอ่านไม่มีแน่ อ่านจากประสบการณ์ล้วนๆของเจ้าของกระทู้ น่าสนใจมากมายทุกเรื่องเลยครับ ทำให้เกิดปัญญาในการหาเช่าบูชาวัตถุมงคลต่างๆได้ มิใช่ใครว่าดี ก็ขวนขวายหาให้ได้มาซึ่งของดี หวังเพียงเพื่อให้ตนเองดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น รวยขึ้น และอีกหลายๆขึ้นตามแต่ความต้องการของตน และก็หมดเงินหมดทองไปมากมาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...