ท่านใดเคยได้พบเจอเหล่าเทวดามาหาบ้างหรือไม่

ตามที่ตั้งกระทู้นะครับอยากทราบว่าท่านใดเคยได้พบเจอเหล่าเทวดามาหาบ้างหรือไม่ อาจจะมาช่วยเหลือหรือมาสนธนาธรรมด้วย

 

ฮูๆปลาๆเอางั้นเลยนะ ยังไม่เคยเจอะเคยเจอนะเทวดา เคยแต่...แต่เราสองคนสนทนากันในนี้แหละนะ

 

ผู้ปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกัมมัฏฐาน เป็นต้น ซึ่งมีความคิดมีทัศนคติทำนองนี้แหละ เมื่อทำการภาวนาไปๆๆ จนจิตสงบถึงสมาธิระดับหนึ่ง (ระดับต้นๆ) จะเห็นผู้นั้นผู้นี้มาสอนธรรมบ้าง สอนปฏิบัติบ้าง ได้ยินเสียงสอนธรรมบ้างเป็นต้น ผู้นั้นเองคิดเห็นเป็นจริงเป็นจริงจัง พากันหลงเตลิดเปิดเปิง ถึงขั้นเพี้ยนไปก็มี ตย.เทียบ

เพิ่งปฏิบัติมาได้ไม่นานเท่าไรค่ะ แต่ว่าในบางครั้งที่นั่งสมาธิอยู่ๆ ก็จะมีเสียงพูดขึ้นมาสอนบ้าง หรือพูดประโยคบางประโยคซึ่งมั่นใจว่า ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน (เพราะดิฉันไม่น่าจะคิดคำ พูดแบบนั้นได้แน่ๆ) และก็ไม่ได้เป็นการได้ยินจากข้างนอกนะคะ มันไม่ได้เป็นการกระทบ หรือรับรู้จากภายนอก แต่เป็นการได้ยินจากข้างในค่ะ (ไม่รู้จะอธิบายอย่าง ไรดี) หรือในบางครั้ง ที่ดิฉันนอนหลับอยู่ และตื่นขึ้นมา ก็เคยได้ยินจิตมันร้องเพลงขึ้นมาเองได้ ซึ่งอาการไม่ได้เหมือนเราร้องเพลงในใจนะคะ คือ แบบว่า เราไม่ได้คิดนะ แต่จิตมันร้องออกมาเองได้ ซึ่งเป็นเพลงที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย (เป็นเพลงธรรมะ) รบกวนผู้รู้อธิบายด้วยคะ ดิฉันพยายามอธิบายเพื่อให้เข้าใจที่สุดแต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ขอบคุณค่ะ

 

ไป หนามหลวง จิฮับ

 

ไม่ใช่อย่างตัวอย่างที่ยกมาสิครับท่าน มจด แต่ว่าก้มีคนที่หลงตรงนี้กันเยอะจริงๆนะครับพวกที่พบเจอจิตตนเองหลอกตนเองเลยทึกทักไปว่าเป็นเทวดาบ้างผีบ้าง แล้วก้กลัวหรืองมงายไปต่างๆนาๆ แต่ประเภทที่งูๆปลาๆหมายถึงหมายถึงเทวดาจริงๆอย่างเช่นที่พระเนมิราชพบเจอน่ะครับ

 

พบทุกวันค่ะ คือบุพการี และผู้เลี้ยงดู เทวดาเดินดิน

 

เป็นเทวดา
แล้วใยต้องมา เดินดิน
ลืมเพดานดิน
ถึงกินข้าวแกง ทุกมื้อ
เจียมตัวตน
เพราะเราเป็นคน ซื่อๆ.
สองมือนี่สร้าง ตัวเอง

“ เคยแต่ ร้องไห้หนักแบบสะเทือนใจมากๆ ไปร้องไห้ในป่าช้า.ฝรั่ง.ตอนห้าทุ่ม. แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายหน้าตาดีหุ่นดี ใส่ชุดวิ่ง มาจากไหน?!?? มาถามว่าโอเคป่าว แล้วถามว่าคุณต้องการให้ผมกอดคุณไหม (ตอนนั้นเสียใจมากๆ เลยส่ายหัว ) เขามองครู่นึงก้อวิ่งไป เอ่อ วิ่งไปในป่ารก ตอนสี่ห้าทุ่ม หายไปเลย ก็ร้องไห้ต่อเพราะเครียดจัด สักพัก เป็นผู้หญิงแก่ฝรั่งแบบคุณยาย ใส่แว่นกลมอ้วนๆ
แต่งตัวแบบแม่บ้าน เดินมา ถามว่าเป็นอะไรมั้ย ที่แปลกคือถามคำถามเดิมกับผู้ชายเมื่อกี้ ว่า เธอต้องการกอดฉันไหม แล้วยายก็กอดปลอบใจเรา .. แล้วสักพักคุณยายคนนั้นก็บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนนะ เราบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ... บ้านหนูอยู่ติดป้าช้าด้านหลังสวนแอ้ปเปิ้ลกับป่าเมเปิ้ล นี้ แกก้เลย บ้ายบาย”

ก็ไม่รู้ว่าเทวดาหรือเปล่า ? หรือผี ?

ที่สำคัญ เจอ แมวเทวดา ด้วยล่ะ วันนั้นนั่งเครียด เป็นวันแรกที่เราเจอกัน ... แมวอาไร้
ใจง่ายให้เราจกพุง

พอถามว่า “ ยูเป็นเทวดาเหรอ มันตอบเมี้ยววว แล้วหงายท้องให้เราจกพุงฟรีๆ”

ส่วนวันอื่นที่ได้ พระธรรมธาตุมาใหม่ๆ
แล้วเราทำบุญไปกะมูลนิธิอื่นๆตามกำลังที่ตั้งใจ เดินกลับบ้าน เจอกวางสวยมาก สีทอง
เสียดายกล้องไม่ชัด ถ่ายติดแต่พอจะถ่ายรูปอีกที มันหายไปไหนนะ ?!?!

ยังไม่รวม วันนึง ลูกค้าไม่เข้าร้านเพราะหยุดยาวคนออกนอกเมือง...
หนูมนแหง่ว ... อือ ขอให้ได้ตังค์บ้างจิเจ้าคะ...

มีลูกค้าแบบครอบครัว มานั่งสองโต้ะ ..
ทุกคนสั่งอาหารอย่างดีและแพงที่สุด ...
หน้ายิ้ม แต่งตัวดี แต่ว่า... ทุกคนเอาแต่จ้องอาหาร ดื่มแต่ไวน และชาและโซดา แม้แต่เด็กก็ไม่ทานอะไร จนเพื่อนและเราถามว่า อาหารผิดปกติเหรอ ....ก้อนั้นน่ะ เอาแต่ยิ้มเงียบๆ บอกเราว่า อาหารอร่อยดีนะ ก้อ งง เพราะเหลือ ซีฟูดเอย ปลา เอย ของดีดีๆ ไม่เห็นเขากิน ทั้งสองโต้ะ.... สักครู่ใหญ่เราถามว่า ต้องการห่อกลับบ้านไหมคะ ก้อบอกไม่ต้อง แต่บอกว่า ขอข้าวเหนียวมะม่วงด้วย เราก็เห็น ว่าทุกคนทานของหวานแฮะ ... ไอ้อีกโต้ะก้อเป็น.... อาหารเหลือ เก็บจาน เชฟถามว่า อาหารผิดปกติ ทำไมลูกค้าไม่ทาน... เราเลยชิม เรากับเด็กฝรั่งเสริฟ แม่ครัว มองหน้ากัน ทำไมมันจืดจังฟระ ?!?!อ้อ ตอนเก็บเงินนี้ บัตรเหล็กแพลตตินั่มอเมริกันเอ้กเพรส แบบโคตรรวย ต้องมีวงเงิน เป็นแสนดอลล์อ่านะจะมีบัตรพิเศษเยี่ยงนั้น ค่ากับข้าวสามร้อย เขาให้ทิป สองร้อย เหรียญ. ?!????? กรี้ดสิ ดีใจมากโต้ะอีกโต้พก้อให้มา ร้อยเหรียญ ซึ่งถือว่า ทิป เวอร วังแบบ เรากะน้องฝรั่งดีใจ .....

ยังไม่รวมเหตุการณ์ ตลกๆแปลกๆ ที่ไม่ใช่อุปทาน ที่เล่าไป ก็ไม่รู้ว่า ชีวิตเจอ วิญญาณ หรือ จักรวาลคู่ขนานหรือเปล่า ?

เพราะหลวงปู่ต่างๆ ท่านว่า เทวดาท่านหอม ท่านสถิตยทิพยวิมาน ท่านจะมา ใกล้คนที่เหม็นไปด้วยกิเลสทำไม ...

แต่ผู้รักษาศีล และทรงไว้ซึ่งพรหมวิหารสี่
เทวดาเค้าจะหอมด้วยศีล ......จะติดตามอารักษ์ผู้ซึ่งทรงไว้ด้วยศีลและคุณธรรม...

อนุโมทนาสาธุผู้ที่เคยพบเทวดาเจ้าค่ะ

 

เคยครับ..ตั้งแต่สูงสุดลงมา...
ประเด็นที่ถามจะต้องการรู้เพื่อ
ประโยชน์ทางด้านใดเอ่ย...
ที่เจอหมายถึงลืมตาเปล่าๆเห็น
แบบในสภาพแวดล้อมปกตินะครับ...

แบบหลับตาเห็น หรือนั่งเห็น มโนเห็น
ฝันเห็นไม่นับรวม...

 

ใช่ครับหมายถึงแบบนั้นนั่นแหละครับแบบลืมตาเห็น จริงๆแล้วท่านไหนที่ฝึกทางด้านที่เอื้อแก่ญานทัศนะเชื่อว่าก้ย่อมได้เคยพบเจอกันมาบ้างแล้ว การพบเจอไม่ใช่สิ่งที่วิเศษแต่อย่างใดเชื่อว่าคุณนพก้เข้าใจดี เหทิอนเราพบเจอผู้คนโดยทั่วไปไม่ได้มีประโยชใดต่อเราหากเราไม่ปติบัติดีเอง แต่ว่าเทวดาหรือภพภูมิอื่นที่หลากหลายมีทั้งสัมมาทิฐิมิจฉาทิฐิ คุณนพพบเจอพวกไหนมากกว่ากันครับ

 

ครับ ลืมตาเห็นๆและไม่ใช่วิสองวิครับ เป็นหลักนาทีก็มีครับ
ที่แบบว่า มีรูปปั้น รูปแทน ส่วนตัวก็มีประสบการณ์
แต่คงไม่เล่าอะไร เพราะไม่มีประโยชน์อะไร แบบ
เดินๆตามไปแล้วก็ลอยไปต่อหน้าต่อหน้าก็มี ฯลฯ และก็(ช่วยย้ำ)
ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดที่จะบอกว่า คนที่เห็นได้เป็นคนที่ดี
หรือว่าเป็นคนที่มีอะไรพิเศษเลย ณ เวลานั้น
เพราะว่า การเห็นได้ในระดับที่ไม่ต้องการกำลังบุญนั้น(พอเข้าใจนะครับ) ไม่ใช่เกิดจากจิตของเรา หรือเพราะว่าเกิดจาก
ความสามารถทางจิตของเราโดยตรงนั่นเองครับ
เนื่องด้วยการเห็นจะประกอบด้วยองค์ประกอบคือ ๑.มาจากภายในของเรา ๒ มาจากภายนอก และ ๓.คือทั้งภายในและภายนอก(หมายถึงที่ผ่านการฝึกมาบ้างแล้ว)...
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การเห็นได้นั้น จะเกิดเพราะ ๑.แบบไม่ได้ตั้งใจหรือสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย ถึงไปเห็นได้ แต่ในระดับที่ไม่ต้องการกำลังบุญนั้น จะเป็นการทำให้เราเห็นคือแบบที่ ๒. ดังนั้น
เข้าใจไว้ได้เลยว่า ถ้าเป็นแบบที่ ๑ และ ๒ อยู่ ก็แสดงว่า
เรายังเป็นคนปกติ ไม่ใช่ผู้วิเศษ และไม่ได้บอกว่า การที่เราเห็นได้
เพราะเรามีบารมี มีบุญ หรือมีอะไรมากกว่าใครเค้า......
ถ้าจะบอกว่า มะรึงไม่ได้มีส้นเท้าอะไรหรอก
ก็เกรงว่าจะแรงไปครับ เห็นโม้กันจัง ในนิมง นิมิต หลับตาเห็น
เห็นตอนครึ่งหลับครึ่งตื่น เห็นก่อนจะนอน.
เห็นแว๊บๆแว๊มๆวิสองวิ
คุยเป็นตุเป็นตะ(นิสัยไม่ดีอีกแระไปเหน็บคนอื่น ๕๕)

ปล.ถ้านับจำนวน ก็ต้องระดับที่ยังต้องการกำลังบุญครับ...
โดยเฉพาะ ๒ ปีแรกที่เริ่มสนใจ จะนับวันไม่เจอได้ง่ายกว่า...
แต่ยังมีบางท่าน มาถามนะ ว่าเคยเห็นแบบนี้ไหม
นึกแล้วอดขำไม่ได้
(เป็นความกวนตรีนส่วนบุคคลไม่ควรเลียนแบบ)

นอกนั้นก็เอาไปเล่าพอฮาๆในห้องผีๆ ส่วนระดับที่ไม่ต้องการ
กำลังบุญขอยกไว้ เพราะบางท่านก็เป็นครูบาร์อาจารย์
ที่มาสอนกรรมฐานข้าพเจ้า จึงไม่ขอเอ่ยนาม
บางทีก็แปลกนะ ส่วนตัวใช้งานกรรมฐานกองที่ฝึก
จากมาจากครูบาร์อาจารย์ท่านนั้นมาหลายขวบปี

ก็ยังมีบางสมาชิก ที่มาบอกว่า ข้าพเจ้าสอนผิด นอกคอก
เป็นพวกนอกศาสนา เป็นโน้น เป็นพวกนี้บ้าง ๕๕๕
และที่หนักกว่า ก็ยังเข้าคำสอน ของท่านที่สอนข้าพเจ้า
มาให้ข้าพเจ้าอ่าน เอามาอ้างซ้ำอีก อันนี้ขำยิ่งกว่า ๕๕๕....

พอเข้าใจหรือยังว่า ทำไมส่วนตัวถึงกล้าฟันธงว่า
บุคคลนั้นชาตินี้จะไม่มีทางฝึกกรรมฐานกองนั้นสำเร็จ
และกล้าท้าพิสูจน์ในระดับที่ใช้งานได้(เข้าใจบางที
มันก็อาจดูแรงไป...แต่บางคนก็อย่างว่านะ
พูดดีๆไม่ค่อยชอบ โดยเฉพาะพวกสำเร็จสะสมมาทางด้าน
แถสญาน กับสะสมบารมีมาทางแหล กล่าวหาสญานทั้งหลาย
ยิ่ง พอพูดดีแล้วลามปามไม่พอ ยกตัวเองเก๊ทับเราด้วย ๕๕๕
ดีไม่ดี โม้ทับถมซ้าลงไปอีก ๕๕
และยังมาสอนย้อนเราคืนอีกนะ ทั้งๆที่ยังฝึกไม่สำเร็จ
อย่าว่าแต่ฝึกสำเร็จเลย ระดับเริ่มต้นยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ๕๕
แต่ตอนมากล่าวหา เหมือนประมาณตนเอง
เก่งระดับชาติ แต่พอท้าให้แสดงผลของกรรมฐาน
แล้วก็เงียบกริ๊บ...นี่ก็นิสัย
ไม่ดี ไม่ควรลอกเลียนแบบ ตอนท้ายว่าตัวเองนะครับ)
ปล.ออกทุกข์แล้ว...ขอจัดซักดอกสองดอกนะครับ...(^_^)
เพราะช่วงก่อนหน้านี้ พวกลูกเจ้าประคุณช่างติ
แต่ไม่มีความสามารถใช้งานจากกรรมฐานอะไรได้
เพื่อประโยชน์ผู้อื่น หรือไว้ถ่ายทอดเป็นประสบการณ์
สำหรับผู้ที่ติดขัด มีแต่เอาไว้โม้ยกเพื่อให้ตนเองดูดี
ประหนึ่งว่า ตรูเป็นเทพ เป็นพรหม ลงมาจุติ เป็นมนุษย์
แต่ไม่เคยมาแนะนำมาสอนอะไร และคิดว่าตนเองดีกว่า
คนอื่นๆมีเยอะ..พูดเพ้อเจ้อไปวันๆ หลงไปกับนิมิตสร้างภาพ
เพื่อยึด เพื่อพูดให้ตนเองดูดีไปวันๆ จนลืมว่า
เนื้อแท้พุทธศาสนา ท่านเน้นเรื่องอะไรนั่นเองครับ....(^_^)

 

เอาไปล้านไลค์ ชูป้ายไฟรัวๆ 55555555

ยานแม่รู้แล้วตอบด้วย เจออัดเข้าไป สลบ ตายเกลื่อนนนน ค่ะ

คาราวะหนึ่งจอก ส่วนกับแกล้ม หนูมนกินเองค่ะ อิอิ