บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    พึงเจริญเมตตา เพื่อละพยาบาท
    คำนี้.../?
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ทำไมถึงคิดว่าเราพยาบาท
     
  3. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    ใครหนา กล่าวว่า อีกกายหนึ่งงดงามกว่ากายแรก แต่มีกระแสของความเหี้ยมโหด พร้อมที่จะทำลายฝ่ายตรงข้าม///?
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เราก็แค่จดจำว่าเคยเดินสะดุดหกล้ม พิจารณาว่าเดินอย่างไรจึงสะดุด และหกล้มอย่างไร ได้รับบาดแผลแบบไหน จะได้เพิ่มความระมัดระวัง ไม่ประมาทในการเดินก้าวต่อไปอีกก็แค่นั้น

    เราไม่เคยจองเวรใคร พยาบาทมันเผาจิตของผู้พยาบาท ไม่ได้ไปเผาใคร เราโง่ก็จริงอยู่ แต่ไม่โง่เผาตัวเองแน่นอนค่ะ
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แค่นี้ก็คิดมาก 555 สิ่งที่เราเคยเห็นและนำมาเล่านั้นมันนมนานแล้วค่ะ ปัจจุบันกายในก็เปลี่ยนไปอีก แต่ไม่บอกหรอก
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อย่าให้คิดนะ คิดทีไร...ขำทุกที มันตลก เราเป็นคนสดใสร่าเริงมาตั้งแต่เด็กๆ

    ทุกข์ที่เรามองเห็น คือทุกข์ที่เกิดกับสรรพสัตว์ เรารับความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้นได้ เราไม่เคยคิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ มีแค่บางครั้งที่รู้สึกแปลกใจว่าทำไมต้องมาเห็นแต่ทุกข์ โน่นก็ทุกข์ นี่ก็ทุกข์ นั่นก็ทุกข์

    ตอนเด็กๆ อายุประมาณ 4 ขวบ เราเคยไปยืนดูวัวที่หน้าโรงเชือด บ้านเราอยู่ใกล้กับโรงเชือดวัว ทุกเช้าจะมีวัววิ่งมาลงแช่ในบ่อน้ำหน้าบ้านเรา และร้องไห้คร่ำครวญเสียงดัง เราได้ยินเสียงนั้นทุกวัน แต่เพราะเป็นเด็ก เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมันๆ ร้องไห้น้ำตาไหล มีกลุ่มคนจำนวนเป็นสิบ มาช่วยกันงัด ช่วยกันต้อนวัวขึ้นจากน้ำและนำไปโรงเชือด

    เราถามพ่อว่าเค้าทำอะไรกัน ทำไมวัวจึงหนีมาที่นี่ทุกวันและร้องไห้ พ่อบอกว่าเค้าจะเอามันไปเชือด เราก็ยังไม่รู้อยู่ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2018
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    และด้วยความอยากรู้ถึงเหตุ วันหนึ่งเราจึงไปยืนที่หน้าโรงเชือด เราเห็นคนเอาเชือกผูกตรึงขาวัวทั้ง 4 ขาเอาไว้ จากนั้นใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ทุบลงไปที่หัวของมัน เสียงดังโผล๊ะ เลือดกระเด็นมาถูกเสื้อผ้าเรา จากนั้นเค้าก็เอามีดปลายแหลมยาวๆ ปาดที่คอของมัน มีกาละมังรองรับเลือดวางอยู่

    เสียงร้องโหยหวนและกลิ่นคาวเลือดนั้น มันทำให้เรารู้สึกสงสารจับใจ อะไรนะทำให้คนและวัวต้องทำกันอย่างนี้ เรายืนมองและคิดหาคำตอบ สภาวะตอนนั้นเราเห็นความสงสารแล่นขึ้นมาจับที่ใจ ความทุกข์บีบคั้นต้องการออกจากทุกข์ของสัตว์ทั้งหลายแล่นมาสู่ใจเรา เวลานั้นเราอยู่ในสภาพของเด็กตัวเล็กๆ ไม่มีอำนาจจะไปช่วยใครได้ทั้งนั้น

    รู้สึกคล้ายสติจะดับวูบลงไป สายตาเราพร่าระยับไปด้วยแสงสีเงิน แล้วมีเสียงดังขึ้นว่า...นี่คือทุกข์ นี่แหละทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากการเบียดเบียนกัน เจ้าต้องศึกษาเรื่องทุกข์ เรียนรู้ทุกข์ทั้งหมดของโลก เพื่อวันหนึ่งข้างหน้า เจ้าจะต้อง......จบ
     
  8. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จบแล้วค่ะคุณเมฆา ถ้าว่างๆ ระลึกอะไรได้ค่อยมาเล่าใหม่นะ

    ทุกโขติณณา
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    พระโพธิสัตว์ในชาติก่อนที่จะเป็นพระพุทธเจ้า จะต้องเกิดในภพดุสิตเท่านั้น นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

    ส่วนในชาติที่ไม่ใช่ก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้า สามารถจุติจากพรหมโลกมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อบำเพ็ญบารมีให้ครบ ซึ่งพระโพธิสัตว์ในชาติที่เกิดเป็นพรหม ท่านจะทำกาลกิริยา จุติ(ตาย) ก่อนกำหนดอายุเพราะท่านเห็นว่า มนุษย์เป็นที่ที่บำเพ็ญบารมีได้มากกว่า

    ส่วนชาติก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้าต้องเกิดที่ภพดุสิตเท่านั้น และก็ดำรงอยู่ตลอดอายุ ดังข้อความในพระไตรปิฎก

    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒- หน้าที่ 312

    พรรณนาวงศ์พระโกณฑัญญพุทธเจ้าที่ ๒

    ดังได้สดับมา เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทีปังกรเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้วศาสนาของพระองค์ดำรงอยู่แสนปี. เพราะอันตรธานแห่งพระสาวกทั้งหลาย ของพระพุทธะและอนุพุทธะแม้ศาสนาของพระองค์ก็อันตรธาน.

    ต่อมาภายหลังศาสนาของพระองค์ ล่วงไปอสงไขยหนึ่ง พระศาสดาพระนามว่าโกณฑัญญะก็อุบัติในกัปหนึ่ง. พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงบำเพ็ญบารมีมาสิบหกอสงไขยแสนกัป อบรมบ่มพระญาณแก่กล้าแล้ว ทรงดำรงอยู่ในอัตภาพเช่นเดียวกับอัตภาพเป็นพระเวสสันดร จุติจากอัตภาพนั้นแล้วบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต ดำรงอยู่ในดุสิตนั้น จนตลอดพระชนมายุ ประทานปฏิญาณแก่เทวดาทั้งหลายจุติจากดุสิต ถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางสุชาดาเทวี ในราชสกุลของ พระเจ้าสุนันทะ กรุงรัมมวดี. ฯลฯ
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เราเป็นคนเลือกที่จะจำ และเลือกที่จะลืม เพราะระวังรักษาจิต ความเผลอไผลมีกันได้ทุกคนนะเราว่า ตราบใดที่ยังไม่หมดจดจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง

    เราให้อภัยตัวเองในความผิดพลาดต่างๆ เปิดใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นนั้นๆ มันเกิดและดับไปแล้ว...ผู้กล้า 555

    เมื่อวันเวลาล่วงผ่านไป นึกขึ้นมาคราใดอดขำตัวเองไม่ได้ทุกที...ทำไปได้ยังไง คิดไปได้ยังไง เหมือนคนบ้า โทษของกิเลส.บางเรื่องก็รู้สึกสุขใจ สุขที่ได้เป็นผู้ให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน แม้จะมีไม่มากเหมือนใครๆ แต่ก็ยินดีถ้าจะทำให้ใครมีความสุขได้จากสิ่งเล็กๆ ที่เราหยิบยื่นให้ไป

    เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของตน โลกมันเป็นอย่างนี้ เราไปห้ามความคิด ความปรุงแต่งของใครไม่ได้

    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แม่ย่าเคยบอกว่าเราเป็นคนขี้สงสาร ชอบให้ มีอะไรก็ให้เขาหมด ใครขออะไรก็ให้ ให้จนไม่เหลืออะไรไว้ให้ตัวเอง ไม่ดีเลยเนอะ 555

    แต่เราก็ยังชอบให้อยู่ดี หรือเป็นเพราะเราไม่เห็นค่าในสิ่งใดมากกว่าจิตใจของมนุษย์ เสียสิ่งของ เสียแรงกาย แรงใจ เพื่อแลกกับความสุขใจของใครหลายคน

    ความสุขของเราอยู่ตรงนั้น ตรงที่ได้เห็นรอยยิ้มจากทุกๆ คนที่เราได้รู้จัก

    เรามาเพื่อสิ่งนี้ และเมื่อถีงเวลาเราก็จากไป ไม่อยู่ในความทรงจำของใคร กลับบ้านเรา...รักรออยู่
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    พอมีตัวตนก็ยึดว่าเป็นตน ของตน จึงมีการสู้กันของตนกับกิเลส
    ความจริงไม่มี เพราะไปยึดมาจึงมี แค่วางยึดก็ไม่มี
    เป็นแค่เพียงธรรมชาติของกิเลส ไม่มีเจ้าของ
    เพราะมีตัวตนเข้าไปรับ ตัวตนที่ว่าฉันต้องไม่มีกิเลส
    เห็นตัวฉันไหม จิตฉันไหม a20.gif
    ไอ้ตัว"ฉัน"นี่แหละที่มันทำเดือดร้อน
    ผู้ที่อิงอาศัยสมถะเพื่อกดข่มอารมณ์ จึงมองไม่เห็นสภาพธรรมตามจริง
    ครั้นพออำนาจของสมถะคลายออก จึงทุกข์กับอารมณ์
    เพราะกิเลสยังไม่ถูกประหาน แต่เข้าใจว่าสมถะเผากิเลสไปแล้ว
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ไม่ปรุงจ้ะ ซื้อกิน a20.gif
    รู้มากจะยากนานนะ a16.gif
    สมาธินำมาซึ่งสติ คือตื่น a16.gif
    ตื่นรู้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่กายที่จิต a16.gif
    รู้อะไร รู้สภาพนั้นๆ จ้ะ a16.gif
    ตามกำลังความสามารถที่รู้ได้ ณ ขณะนั้นๆ a16.gif
    กฏเกณฑ์ทั้งหลายเราเองเป็นผู้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นกำแพงกั้น a16.gif
    กำแพงนี้เกิดขึ้นจากความกลัว ความไม่รู้ a16.gif
    กักขังสิ่งที่เรียกว่าตน ด้วยความรักหวงแหนตน
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เพื่อนที่สนทนาธรรมกับเราบ่อยๆ ชอบพูดว่ายอมแพ้กับสัพพัญญุตญาน หรือปัญญาญานของพระพุทธเจ้า

    047 ความหมายของสัพพัญญู

    ปัญหา คำว่า “สัพพัญญู” ผู้รู้สิ่งทั้งปวง ซึ่งเป็นพระนามประการหนึ่งของพระพุทธเจ้านั้นหมายความว่า พระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในสากลจักรวาลทั้งเวลาหลับและเวลาตื่น หรือหมายความแค่ไหนแน่?

    พุทธดำรัสตอบ “....ดูก่อนวัจฉะ ชนที่กล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมเป็นสัพพัญญู มีปกติเห็นธรรมทั้งปวง ทรงปฏิญาณญาณทัสสนะไม่มีส่วนเหลือว่า เมื่อเราเดินไปก็ดี หยุดอยู่ก็ดี หลับก็ดี ตื่นก็ดี ญาณทัสสนะปรากฏแล้วเสมอติดต่อกันไปดังนี้ ไม่เป็นอันกล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้วและชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำที่ไม่มี ไม่เป็นจริง

    “ดูก่อนวัจฉะ เมื่อบุคคลพยากรณ์ว่า พระสมณโคดมเป็นเตวิชชะ (ผู้ได้วิชชา ๓ ) ดังนี้แล เป็นอันกล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้ว ชื่อว่าไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่เป็นจริง ชื่อว่าพยากรณ์ถูกสมควรแก่ธรรม....

    “ดูก่อนวัจฉะ ก็เราเพียงต้องการเท่านั้น ย่อมจะระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง..... ตลอดสังวัฎวิวัฎกัปเป็นอันมาก ในภพโน้นเรามีชื่อย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้วได้ไปเกิดในภพโน้น... เราย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศด้วยประการฉะนี้

    “ดูก่อนวัจฉะ ก็เราเพียงต้องการเท่านั้น ย่อมจะเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติกำลังอุบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดีตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ซึ่งเป็นไปตามกรรมว่าสัตว์เหล่านี้ประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียน พระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจมิฉาทิฐิ เขาเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ส่วนสัตว์เหล่านี้ ประกอบด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ไม่ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นสัมมาทิฐิ..... เบื้องหน้า แต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์

    “ดูก่อนวัจฉะ เมื่อบุคคลพยากรณ์ว่า พระสมณโคดมเป็นเตวิชชะ เป็นอันกล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้ว ชื่อว่าไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่เป็นจริง...”

    จูฬวัจฉโคคตสูตร ม. ม. (๒๔๑-๒๔๒)
    ตบ. ๑๓ : ๒๓๗-๒๓๘ ตท.๑๓ : ๒๐๓-๒๔๒
    ตอ. MLS. II : ๑๖๐
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มงคลสูตร

    ประวัติ

    ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา อธิบายความโดยพิสดารถึงสาเหตุของการที่พระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรไว้ว่า ประมาณ 12 ปีก่อนพุทธกาล ประชาชนต่างตื่นตัวว่า อะไรคือเหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นมงคล กล่าวว่า บ้างก็ว่า วัตถุสิ่งของ เช่น ต้นไม้ สัตว์ หรือว่ารูปเคารพต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเป็นมงคล[1] เรื่องราวการอภิปรายเรื่องมงคล ก็ไปถึงภุมเทวา คือเทวดาในระดับพื้นดิน เทวดาก็สนทนากันว่าอะไรคือมงคล ประเด็นนี้ก็ลุกลามไปถึงอากาศเทวา ไปถึงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลกชั้นสุธาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ของผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้ว มีความเข้าใจในเรื่องมงคลชีวิตเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้ประกาศให้เทวดาทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงมาตรัสรู้ธรรมในอีก 12 ปี ให้ไปถามพระพุทธองค์ในตอนนั้น

    เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว คืนหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ใกล้เมืองสาวัตถี ท้าวสักกเทวราชได้นำหมู่เทวดาเข้าเฝ้า และบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งทูลถามพระองค์ว่า อะไรคือมงคลของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงหลักมงคลสูตร ซึ่งมีทั้งหมด 10 หมวด นับเป็นรายการได้ 38 ประการ*

    • (ผู้ทรงความรู้บางท่านที่จำแนกโดยการแปลจากภาษาบาลี นับได้ 37 ประการ เพราะ "การสงเคราะห์บุตรและคู่ครอง" เป็นสองข้อที่อยู่ในวลีเดียว).
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตามเนื้อหาในพระสูตร มงคลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ยึดถือวัตถุ แต่ยึดถือการปฏิบัติฝึกฝนตนเอง ซึ่งมีอยู่ 38 ประการ ทั้งหมดจำแนกอยู่ในเนื้อหาโดยแบ่งเป็น ๑๐ หมวด ดังนี้

    หมวดที่ ๑

    1. ไม่คบคนพาล
    2. คบบัณฑิต
    3. บูชาคนที่ควรบูชา
    หมวดที่ ๒

    1. อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม
    2. มีบุญวาสนามาก่อน
    3. ตั้งตนชอบ
    หมวดที่ ๓

    1. เป็นพหูสูต
    2. มีศิลปะ
    3. มีวินัย
    4. มีวาจาสุภาษิต
    หมวดที่ ๔

    1. บำรุงมารดาบิดา
    2. เลี้ยงดูบุตร
    3. สงเคราะห์ภรรยา(สามี)
    4. ทำงานไม่คั่งค้าง
    หมวดที่ ๕

    1. บำเพ็ญทาน
    2. ประพฤติธรรม
    3. สงเคราะห์ญาติ
    4. ทำงานไม่มีโทษ
    หมวดที่ ๖

    1. งดเว้นจากบาป
    2. สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
    3. ไม่ประมาทในธรรม
    หมวดที่ ๗

    1. มีความเคารพ
    2. มีความถ่อมตน
    3. มีความสันโดษ
    4. มีความกตัญญู
    5. ฟังธรรมตามกาล
    หมวดที่ ๘

    1. มีความอดทน
    2. เป็นผู้ว่าง่าย
    3. เห็นสมณะ
    4. สนทนาธรรมตามกาล
    หมวดที่ ๙

    1. บำเพ็ญตบะ
    2. ประพฤติพรหมจรรย์
    3. เห็นอริยสัจจ์
    4. ทำพระนิพพานให้แจ้ง
    หมวดที่ ๑๐

    1. จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
    2. จิตไม่โศก
    3. จิตปราศจากธุลี
    4. จิตเกษม
    อย่างไรก็ตาม แม้พระพุทธองค์จะทรงแสดงธรรมไว้ชัดเจนดีแล้ว ก็มีผู้ที่เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง จึงได้ส่งผลมาถึงปัจจุบันนี้ แนวทางการยึดถือความเป็นมงคล จึงมีอยู่ 2 แนวทาง คือ

    1. มงคลจากการมีสิ่งนั้นมีสิ่งนี้
    2. มงคลจากการฝึกตัว


    Cr. Wikiwand
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วันนี้วันพระ มาคุยเรื่องความรักกัน:D

    เราทุกคนล้วนต้องพลัดพรากกันเป็นธรรมดา แม้แต่พระพุทธองค์กับคู่บารมี สร้างบารมีร่วมกันมานานขนาดไหน ก็ต้องพรากจากกันในชาติสุดท้าย

    ดังนั้น อย่าไปยึดมั่นถือมั่นกับใดๆ เลย
    รักก็รู้ว่ารัก แค่นั้นพอแล้ว
    มาเกิดก็เหมือนมาเล่นละคร ละครจบ ปิดฉากก็จากกัน
    อดีตนิทานของพระโพธิสัตว์ที่กำลังบำเพ็ญเพียร ยังมีเป็นเรื่องๆ เลย ชาติหนึ่งเรื่องหนึ่ง
    ปวดร้าว ทุกข์ทน ทั้งพระโพธิสัตว์และคู่บารมี

    :oops::oops::oops::oops::oops:
     
  19. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610
    วันพระคุยเรื่องรัก
    รักจ้ารัก ใครหลงรัก เป็นอย่างไร
    รักจ้ารัก ใช่หลงใหล รึว่างเปล่า
    รักจ้ารัก คงมิใช่ เพียงสองเรา
    รักจ้ารัก คงเป็นเงา ใช่เปล่าหนอ

    แต่งแบบงง
     
  20. &เมฆา

    &เมฆา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2017
    โพสต์:
    262
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +610

แชร์หน้านี้

Loading...