บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วันโกนอย่าละ วันพระอย่าเว้น
    ทำดีได้ทุกวันไม่ต้องเลือกวันโกนวันพระ
    อานาปานสติ= สติที่กำกับอยู่กับลมหายใจ
    ลงท้ายด้วยสติ
    อนุสสติ 10
    อานาปานสติ
    กายคตานุสสติ
    มรณานุสสติ
    สติปัฏฐาน 4
    ล้วนเป็นเรื่องของสติ
    ลงท้ายคือต้องมีสติ เป็นไปเพื่อสติ
    สติอันเป็นไปในกาย สติระลึกถึงความตาย สติกำกับทุกอิริยาบท สติอันเป็นไปในกาย เวทนา จิต ธรรม ฯลฯ
    นี่ท่านย้ำแต่เรื่องสติทั้งนั้น มีสติกำกับทุกช่องทาง
    มัวแต่ไก่กา
    ก็เลยจิกกันทุกวัน
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นำมาแบ่งปันค่ะ ก๊อปมาจากที่ไหนไม่รู้...ลืม

    ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับมหายาน

    พระโพธิสัตว์มีกี่ประเภท

    คำว่า “ พระโพธิสัตว์” แปลว่า ผู้ข้องอยู่ในโพธิ คือความรู้ คือผู้จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในเบื้องหน้า ซึ่งมหายานแบ่งโพธิสัตว์ออกเป็น 2 ประเภทคือ

    1. พระฌานิโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีบริบูรณ์ครบถ้วนแล้ว และสำเร็จเป็นพระธยานิโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์ในสมาธิโดยยับยั้งไว้ยังไม่เสด็จเข้าสู่พุทธภูมิ เพื่อจะโปรดสรรพสัตว์ต่อไปอีกไม่มีที่สิ้นสุด พระธยานิโพธิสัตว์นี้เป็นทิพยบุคคลที่มีลักษณะดังหนึ่งเทพยดา มีคุณชาติทางจิตเข้าสู่ภูมิธรรมขั้นสูงสุดและทรงไว้ซึ่งพระโพธิญาณอย่างมั่นคง จึงมีสภาวะที่สูงกว่าพระโพธิสัตว์ทั่วไป พระธยานิโพธิสัตว์มักจะมีภูมิหลังที่ยาวนาน เป็นพระโพธิสัตว์เจ้าที่สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์มาเนิ่นนานนับแต่สมัยพระอดีตพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ สุดจะคณานับเป็นกาลเวลาได้ พระธยานิโพธิสัตว์ที่พุทธศาสนิกชนมหายานรู้จักดี เป็นพระโพธิสัตว์ที่กำหนดไม่ได้ว่าเกิดเมื่อใด แต่เกิดก่อนพระศากยมุนีพุทธเจ้า เป็นผู้บรรลุพุทธภูมิแล้วแต่ไม่ไปเพราะมุ่งจะช่วยสัตว์ให้พ้นทุกข์ จึงไม่เสด็จเข้านิพพาน พระฌานิโพธิสัตว์ที่สำคัญที่ควรทราบคือ
    1. พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ คุณธรรมพิเศษคือ มหากรุณา
    2. พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ มีความสามารถพิเศษในการเทศนาให้คนเกิดปัญญา
    3. พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ สามารถรู้ถึงความต้องการทางสติปัญญาของสรรพสัตว์ ทรงมีปัญญาเยี่ยม ใช้ปัญญาทำลายอวิชชา
    4. พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งความกรุณาหน้าที่สำคัญคือ การรื้อขนสัตว์ออกจากนรก
    5. พระวัชรปาณีโพธิสัตว์ มีสัญลักษณ์เด่นคือ ทรงสายฟ้าในพระหัตถ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งการฟาดฟันกิเลส ตัณหาทั้งปวง

    2. พระมานุษิโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ที่อยู่ในสภาพมนุษย์ทั่วไป หรือเป็นสิ่งมีชีวิตในรูปแบบอื่น ๆ ยังต้องฝึกอบรมตนเอง และทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้อื่นไปพร้อมๆ กัน เป็นผู้ที่กำลังบำเพ็ญสั่งสมบารมีอันยิ่งใหญ่เพื่อพระโพธิญาณอันประเสริฐ ถ้าตามมติของฝ่ายเถรวาทก็คือผู้ที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารเพื่อบำเพ็ญ ทศบารมี ๑๐ ประการให้บริบูรณ์ เหมือนเมื่อครั้งสมเด็จพระผู้มีพระภาคได้ทรงกระทำมาในอดีต โดยที่ทรงเสวยพระชาติเป็นทั้งมนุษย์และสัตว์จนได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระศากยมุนีพุทธเจ้า การบำเพ็ญบารมีดังกล่าวนี้เป็นความยากลำบากแสนสาหัส สำเร็จได้ด้วยโพธิจิต อีกทั้งวิริยะและความกรุณาอันหาที่เปรียบมิได้ ต้องอาศัยระยะเวลายาวนานนับด้วยกัปอสงไขย สิ้นภพสิ้นชาติสุดจะประมาณได้


    ปล. ก๊อปลงกลุ่มในเฟสบุคไว้ ตั้งแต่ปี 2015
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ช่วงนี้จะมาโพสต์บ่อยๆ ค่ะ ทิ้งเรื่องไว้ให้อ่านกัน ออกพรรษาแล้วก็คงปลีกวิเวกเหมือนเดิม
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    บันทึกไว้เมื่อ 18 มี.ค. 2015

    เมื่อสองคืนก่อน อธิษฐานขอเห็นองค์อมิตดา แล้วก็ได้เห็น มีลักษณะเหมือนพระโพธิสัตว์กวนอิมนั่งบนดอกบัวสีขาว ท่านมีแสงสีขาวปนน้ำเงินเรืองๆ ทั้งองค์ ไม่ใช่รอบๆ องค์นะ ทำให้มองรายละเอียดได้ไม่ชัด แต่เห็นใบหน้าที่เต็มอิ่ม

    ท่านั่งแบบในภาพนี้ แต่ท่านลอยอยู่กลางอากาศ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อ่านเล่นขำๆ เด้อ

    22/4/59

    ข้อยเพิ่งฝันไปเมื่อคืน เรื่องคุณไสยนี่แหละ ข้อยเว่ากับไผก็บ่ฮู้ ข้อยบอกว่ามันเป็นมายา บ่มีอิหยัง เป็นแค่สมมติ บ่ต้องไปย่าน ข้อยคือผู้พ้นจากสมมติแล้ว 555

    บอกข้อยติ ข้อยฝันมะคืน

    แมนนนนน 555 มันเป็นคุณไสยแมะ

    มันมาหาข้อยๆ กะไล่มันไปแล้วแมะ

    ผู้ที่ทำคุณไสย มันฮู้โต มันกะเลยมาหาผู้ที่จะแก้ไข

    มันมาเฮ้ดหยังบ่ได้ดอกข้อยบ่ได้ไปเฮ้ดหยังมัน มันมาขู่ซือๆว่าอย่ายุ่งเรื่องของมัน แม๊น พวกนี้บ่เชื่อบาปบุญ

    ไปสักยันต์มาบ่ กร๊ากๆๆๆๆ เพิ่นไปฮับของมาไว้กับโต

    บุ๋ย

    เพิ่นเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาแมะ

    เพิ่นเป็นเจ้ากรรมกันแม่นยุ เป็นตะหน่ายเนาะ

    เหตุจากกิเลสของเพิ่นเอง เพิ่นมักโลภ กิเลสตัณหาปิดหูปิดตา อยากรวย

    ข้อยเว่าอิหยังบ่เคยผิด กร๊ากๆๆ แม่ย่าแก้ได้เด้ แต่อย่าไปยุ่งดีกว่า เพราะว่าหน่อยจะเดือดร้อน

    บ่ยุ่งดอกเด้อ

    กรรมของเพิ่น กรรมเราก็มากพอแล้ว

    อยู่ของข้อยเฉยๆดีกว่า บ่แม่นหน้าที่ข้อยดอก แม่ย่าว่าข้อยยังช่วยคนบ่ได้เด้

    แม่น

    ข้อยไปช่วยแต่ผีแมะ บารมีบ่ทันมีพอจะช่วยคน

    ช่วยคนต้องช่วยด้วยธรรมะ

    แม่ย่าพาข้อยไปช่วยผีส่งวิญญาณข้ามแม่น้ำ

    ให้ธรรมะแก่เพิ่น

    แม๊นเจ้รู้ธรรมเนาะ

    เอาธรรมะไปแก้กิเลส

    สายโปรดกะมาโปรด

    แม่ย่าปราบแต่มาร บ่แม่นปราบผี

    เพิ่นช่วยส่งวิญญาณแมะ ข้อยฝัน

    แมนนนนนนนนนน

    มีพระสวมจีวรสีแดงเหมือนธิเบตด้วย จั๊กคือไผ

    ป๊าดดดดดดดด

    สวดมนต์เพราะมาก

    ข้อยฝันว่าข้อยได้รับตาลปัตรพัดยศสีแดงแมะ

    แต่เพิ่นแปลบทสวดให้ข้อย เอ๋าติ

    แล้วข้อยกะได้ไปแสดงธรรมบนสวรรค์แมะ

    เอ๋า ขนลุกเนาะ พระจีวรแดง เจ้าติ

    ทุกวันนี้ข้อยบ่ได้ปฏิบัติอิหยังสักอย่าง แต่ฝันว่าไปพูดธรรมะเฉยเลย
    ข้อยห่มผ้าผืนเดียวสีแดง ห่มแบบพระ

    นั่นประไร เจ้านี่เนาะ บ่ได้เว้ากันยังมาเข้าฝันข้อย

    ข้อยบ่ฮู้ ฮู้อย่างเดียวว่าพูดธรรมะแบบกระจ่างแจ้ง

    เพิ่นเทศน์ม่วนขนาดเด้ แต่เพิ่นแปลให้ข้อยอ่านเป็นตัวหนังสือ

    ตอนนี้พระศรีอาริย์กำลังแสดงธรรมบนสวรรค์ชั้นดุสิตแมะ

    แล้วมีชายสวมมงกุฏนอนเอามือค้ำหัวพูดว่า เพิ่นให้ลูกสาวกับเมียเพิ่นตามพระองค์นั่นไปแล้ว

    ป๊าดดดดดดดด

    เพิ่นเหลือเมียไว้คนนึง

    มาอยู่นำข้อยอีก

    นั่นล่ะไผบาดนิ ผู้หญิงนุ่งขาวแม่กับลูกชายที่พูดมีเมีย 2 คน

    ข้อยไปแสดงธรรมเรื่องรูปนามสองคืนแมะ

    ข้อยสิบอกอีกอย่างนึง

    ส่วนสามคืนหลังนี่เรื่องสมมติล้วนๆ

    บ่เชื่อกะบ่ได้ว่าเด้อฟังเฉยๆก็ไได้ เพิ่นมาบอกข้อย

    เอ๋า

    ข้อยกะบ่รู้คือกัน

    ข้อยแค่รู้สึกว่าข้อยมีตำแหน่งในโลกทิพย์ ข้อยมีหน้าที่แล้ว บ่แม่นผู้ปฏิบัติคือเก่า

    เพิ่นว่า วันเพ็ญ 15 ค่ำเดือน 9 สิ้นพุทธ บ่รู้ปีเด้อ เพิ่นว่าให้สวดบูชาผู้มาใหม่

    ผ่านมาแล้ว แม่นบ่ เมื่อคืน

    บ่ 15 ค่ำเดือน 9 แมะ

    อ้อ พระศรีจะเสด็จลงมาโปรดมนุษย์ปี พ.ศ.3000

    :cool::cool::cool::cool::cool:
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เธอร้องได้ฟิวมากo_O
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ใครบางคนลืมหัวใจไว้ที่นี้...นานแสนนาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ใครลืมน้อ? ผุได๋หว้าาาา?
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    27 มิ.ย. 2013

    เมื่อคืนฝันเรื่องบารมี 10 ทัศน์ค่ะ ได้พูดคุยกับใครก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว และสถานที่บำเพ็ญบารมี รู้สึกว่าจะมีอยู่ 3 สถานที่เหมือนกันเป็นที่ๆ เราไปได้คนเดียว คนอื่นๆ เข้าไปไม่ได้ ก็เลยขอนำเรื่องราวของบารมีมาฝากกันนะคะ

    บารมี แปลว่า กำลังใจเต็ม บารมี 10 ทัศ มีดังนี้

    ทานบารมี จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
    ศีลบารมี จิตของเราพร้อมในการทรงศีล
    เนกขัมมบารมี จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะ แปลว่า การถือบวช แต่ไม่ใช่ว่าต้องโกนหัวไม่จำเป็น
    ปัญญาบารมี จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารให้พินาศไป
    วิริยบารมี วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ
    ขันติบารมี ขันติ มีทั้งอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
    สัจจะบารมี สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลา ว่าเราจะจริงทุกอย่าง ในด้านของการทำความดี
    อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
    เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น
    อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ เมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว ใช้คำว่า "ช่างมัน" ไว้ในใจ

    บารมี ที่องค์สมเด็จทรงให้เราสร้างให้เต็ม ก็คือ สร้างกำลังใจปลูกฝังกำลังใจให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์

    บารมีในขั้นต้นกระทำด้วยจิตอย่างอ่อนเป็นขั้นพระบารมี เมื่อจิตดำรงบารมีขั้นกลางได้ เรียกว่า พระอุปบารมี และเมื่อจิตดำรงบารมีขึ้นไปถึงที่สุดเลย เรียกว่า พระปรมัตถบารมี หรือบารมี 30 ทัศ หรือมีศัพท์เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พระสมติงสบารมี หมายถึง พระบารมีสามสิบถ้วน ซึ่งเป็นธรรมพิเศษหมวดหนึ่ง มีชื่อว่า พุทธกรณธรรม เป็นธรรมพิเศษที่กระทำให้ได้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้่า พระโพธิสัตว์ที่ต้องการจะเป็นพระพุทธเจ้า ต้องบำเพ็ญธรรมหมวดนี้ หรือมีชื่อหนึ่งเรียกว่า โพธิปริปาจนธรรม คือธรรมสำหรับพระพุทธภูมิ หรือชาวพุทธเราทั่วไปเรียกว่า พระบารมี หมายถึง ธรรมที่นำไปให้ถึงฝั่งโน้น คือ พระนิพพาน

    ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ
    ศีล เรามีก็ตัดความโกรธ
    เนกขัมมะ เป็นการตัดอารมณ์ของกามคุณ
    ปัญญา ตัดความโง่
    วิริยะ ตัดความขี้เกียจ
    ขันติ ตัดความไม่รู้จักอดทน
    สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก
    อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์
    เมตตา สร้างความเยือกเย็นของใจ
    อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกายเรา
     
  10. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ใช่แล้ว ;)

    ว่าแต่วิมาน 3 หลังหรือเปล่าน้อ ? :D
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จำไม่ได้แล้ว:p

    วิมานนี่ไปบ่อยนะ ไม่ซ้ำกันเลย:D
     
  12. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ไปบ่อย เก็บค่าเข้าชมเน้อ ฮ่าๆ

    :D
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ก็เพิ่งรู้นะว่าการบำเพ็ญบารมีแต่ละระดับ แต่ละขั้นที่เต็มแล้ว แบ่งแยกสถานที่กัน ไม่อยู่ปะปนกัน

    ชั้นของพระโพธิสัตว์ก็อยู่อีกที่หนึ่ง;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2018
  14. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ใช่แล้ว หล่ะ

    เลเวลก็จัดระดับกำลังกันตามนั้นไป ยกเว้น พิเศษ 50 ฿

    อิอิ
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิทานอวตาร
    กำเนิดองค์กฤษณายาตรา

    องค์แม่ท่านให้เห็นภาพ....

    ฤาษีนาคนั้นมีเมียเป็นหญิงกษัตริย์ใส่ชุดขาวงามมาก เมียไปอยู่ด้วยในป่า แล้วมีน้ำไหลจากสระข้างอาศรมฤาษีตกลงไปที่น้ำตก แล้วมีคนสวมชฎาที่เป็นพระพุทธรูปแก้วขึ้นมาแทน

    นางถอดชฎาออกแล้วขึ้นจากสระน้ำ กายก็เปลี่ยนสี เป็นสีเขียวเข้ม จากกายมนุษย์ก็เปลี่ยนเป็นนาคเมื่อขึ้นไปบนพื้นดิน

    แล้วนางก็เลื้อยไปหาองค์แม่ไปคลอเคลียที่ขาท่านเหมือนก้มกราบ พอลืมตาขึ้น องค์แม่พูดว่ากำเนิดกฤษณายาตรา

    นางเป็นลูกฤาษีนาคกับมนุษย์

    มหาฤาษีที่เป็นนาคมีองค์เดียว นามว่าพระมหาฤาษีบรมครูเตโชนาคราช

    มหาฤาษีทั้งหมดบรรลุอรหันต์เป็นอมตะแล้วอยู่ที่นอกฟ้าป่าหิมพานต์

    ปล. บันทึกไว้เพื่ออ่านเล่นแก้ว่าง
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขอเรียบเรียงด้วยสมองอันน้อยนิด....
    ความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณาญาณในการอ่าน

    พุทธภูมิ....นางแก้ว สองสิ่งนี้เป็นเพียงสมมุติบัญญัติ ของดวงจิตที่จุติมาเพื่อสร้างบารมี เป็นบารมี เป็นภูมิธรรมในระดับพุทธภูมิและนางแก้ว ที่ต้องสร้าง ต้องทำเพื่อเข้าถึงการบรรลุของดวงจิตนั้นๆ แต่มนุษย์ต่างเอากิเลสตนเข้าไปปะปน ยึดมั่นถือมั่นว่า พุทธภูมิและนางแก้วนั้น เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา หลงพร่ำเพ้อกันไม่จบไม่สิ้น

    การปรารถนา การบำเพ็ญ การดำริ กว่าจิตนั้นๆ จะได้ชื่อว่าพุทธภูมิ ก็ต้องผ่านการพิสูจน์ความเป็นโพธิสัตว์ก่อน

    การบำเพ็ญบารมีเพื่อผ่านความเป็นโพธิสัตว์ยังไม่ใช่โพธิสัตว์นะ จนกว่าจะเวียนว่ายสั่งสมบารมีให้เต็มขั้นของโพธิสัตว์ การที่จะผ่านบททดสอบต่างๆ ของแต่ละบารมีจนได้ชื่อว่าโพธิสัตว์นั้น ก็ต้องเวียนว่ายในสังสารวัฏเป็นเวลาหลายกัปด้วยกัน เพื่อสร้างบารมี 10 ทัศ 20 ทัศ 30 ทัศ นั่นหมายถึงว่า ต้องตายเกิด ตายเกิด นับชาติไม่ถ้วน ลองผิดลองถูก ทำผิดทำถูก ขึ้นสวรรค์ ลงนรก จนครบ 31 ภูมินั่นแหละ รับทุกขเวทนาต่างๆ เพื่อสรรพสัตว์ กว่าจะระลึกได้ว่าตั้งความปรารถนาเอาไว้ ก็เมื่อบารมีใกล้จะเต็ม จิตที่บำเพ็ญนั้นจะระลึกได้เอง จะรู้เอง

    แค่บารมีที่จะเป็นพระโพธิสัตว์ได้ก็เนิ่นนานนับเป็นอสงไขยกัปแล้ว นางแก้วก็คือพุทธภูมิ พุทธภูมิก็คือนางแก้ว เพราะหมายถึงการสร้างบารมีอันยิ่งยวดเช่นกัน แต่แยกให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นของคู่กัน สนับสนุนกัน

    พุทธภูมิมีหน้าที่โปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์ในอนาคต แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะ ต้องรอรับพุทธพยากรณ์ก่อน นางแก้วมีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างบารมีของพุทธภูมิ ไม่ใช่มีไว้ประดับบารมีนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ที่มีนั้น เพราะเป็นของคู่กัน ส่งเสริมซึ่งกันและกันทางด้านกำลังใจของแต่ละบารมีให้เต็ม ไม่ว่าจะเป็นขั้นต้น ขั้นกลาง

    บารมีขั้นปลาย ก็คือบารมีเต็ม 30 ทัศ บรรลุโพธิญาณ (ตรัสรู้) โปรดสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ จบกิจ

    ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพียงเพื่อให้เห็นกันอย่างชัดเจนของสมมุติบัญญัติสองคำนี้เท่านั้น อย่าเข้าไปหลงยึดมั่นถือมั่นว่า พุทธภูมิและนางแก้วต้องหล่อ ต้องงาม ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ ตามกิเลสมันพาไปนึก ไปคิด

    (พระโพธิสัตว์ ก็คล้ายๆ กับคนที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี โท ได้ชื่อว่า "ว่าที่บัณฑิต" "ว่าที่มหาบัณฑิต" แต่ยังไม่ได้เป็นบัณฑิตหรือมหาบัณฑิต เมื่อจบหลักสูตรแล้ว จึงได้ชื่อว่า "บัณฑิต" "มหาบัณฑิต")
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    แค่คำเรียกเนอะ ;)

    บางทีเรียนจบแล้ว ยังไม่รับใบประกาศก็ได้เนอะ

    ฮ่าๆ
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แล้วแต่จะคิดกันไปค่ะ ได้หมดถ้าสดชื่น:D

    ความจริงแล้วโพธิสัตว์มีหลายรูปแบบ เกิดขึ้นตามปณิธานที่ได้ตั้งจิตไว้ตั้งแต่ต้นชาติกันเลยทีเดียว ก่อนการจุติของจิตเพื่อเคลื่อนสู่วัฏสงสาร เรียกว่ามีได้ในทุกภพทุกภูมิ พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญเพียรจึงมีจำนวนมากกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทร

    กับอีกแบบคือความอยากเป็น เพราะศรัทธาในปฏิปทาขององค์โพธิสัตว์ที่ตนเคยพบเจอมา ก็เลยมาบำเพ็ญเพียรตาม

    ความเห็นส่วนตัวนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2018
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วิธีการหลุดพ้นมีสองแบบ หลุดพ้นด้วยสมถะ หลุดพ้นด้วยปัญญา
    ทั้งสองแบบมีอุเบกขาเป็นอารมณ์เหมือนกัน
    แต่อุเบกขาแบบสมถะก็อย่างหนึ่ง อุเบกขาแบบปัญญาก็อย่างหนึ่ง
    อุเบกขาแบบสมถะหลุดพ้นทุกข์แบบชั่วคราว
    อุเบกขาแบบปัญญา อวิชาดับ วิชชาเกิด จึงเป็นอุเบกขา
    เมื่อปัญญาแทงตลอดในผัสสะนั้นๆ จิตจึงทรงอุเบกขาสัมโพชฌงค์
    ไม่หวั่นไหวกับรูปนาม
    อัตตาเป็นเหตุทั้งนั้นกับทุกข์ทั้งหลายที่เกิด ที่มี
     
  20. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    นับว่าออกท่องโลกได้แล้วนะคับ

    ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว อิอิ

    :D
     

แชร์หน้านี้

Loading...