มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

อีกนิดค่ะ ถ้าใครเคยสัมผัสธรรมโดยเราเป็นแค่ร่างผ่าน แต่มีการสื่อจากองค์ธรรม ภาษานั้นจะรู้ได้เลยว่า เป็นธรรมของใคร ใช่มนุษย์หรือไม่

 

เลิกเชื่อพระพุทธองค์แต่ไปเชื่อ จจว. ก็อย่าเขัามาเล่น "เว็บพุทธศาสนา" เหอะ

 

ถ้าไม่มีคำสอนพระพุทธเจ้ายืนยัน แล้วจะรู้คำตอบได้ไงว่าความจริงเป็นเช่นไร นี่คำตอบครั้งสุดท้ายที่เราจะตอบแก่ท่านสำหรับเรา

 

ก็ใช่ไง แล้ว จจว.มันมีห่านอะไรยืนยัน? นี่มึงพลิกลิ้นอีกแล้วเนี่ย อะไรของมึงวะ
สงสัยมึง "วิปลาศ = รับรู้ไม่ตรงตามจริง" ซะแล้วนะมึงอะ กรรมมัน 4G จริงๆวะ ยังไม่ผ่านวันเลยนะเนี่ย สาธุ

 

หลักจักรวาลทั้งหมดอยู่ภายใต้ หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ ท่านเป็นเหมือนผู้นำทางให้เราหลุดพ้น...ธรรมมะ คือ ธรรมชาติ

 

ใช้หลักจักรวาลเพื่อดำรงชีพอยู่ให้สมบูรณ์ เยียวยารักษาและคงไว้ เพื่อการบอกต่อสรรพชีวิตให้หลุดพ้นไปด้วยหลักธรรม ผ่านแต่ละช่วงของกาลเวลา ทุกอย่างผ่านมา และก็ผ่านไป อยู่ที่ว่าเราจะผูกเข้าด้วยกันหรือปล่อยผ่านไป สงสารก็สงสารนะ แต่ก็กลัวว่าตัวเองจะเดินผิดทาง เพราะตัวเองเป็นผู้น้อยด้อยปัญญา

 

ถ้าคำที่ผมพูดเป็นการปรามาสหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็ขออภัยต่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำไว้ ณ ที่นี้ครับ

จริง ๆ ผมก็อยากทำตัวทำใจให้ตั้งมั่นว่่าสิ่งรอบ ๆ ตัว ทุกสิ่งอย่างมันก็อยู่ในกฏ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตานะครับ
คือ ภัยพิบัติ พระยาธรรม พระจักรพรรดิ
จะมาก็มา จะไม่มาก็ไม่มา เราจะไม่คิดมาก อะไรประมาณนี้

แต่ด้วยความซวยของผมที่ดันมาเจอคำทำนาย พระจักรพรรดิ์ ที่ตรงกะผมเนี่ย แถมยังอ้างว่า ลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเป็นผู้ทำนายเนี่ย ด้วยความโง่ของผมเลยทำให้ผมมาติดบ่วงความสงสัยได้โดยง่ายเลยแหละท่าน

 

คนที่รู้ก็น่าอิจฉาล่ะนะ ส่วนไอ้คนที่มืดตึ๊บอย่างผมนี่ก็คงต้องคลำทางโดยมี พระธรรมของพระพุทธเจ้าที่ยังรู้ไม่ดีมากเท่าไรเป็นสายรัดเอว กันพลาด หรือหลง ในการผจญภัยในความมืด

ว่าแต่ หลับไม่นาน พอตื่นมาก็มีอะไรให้อ่านยาวเลยเนาะ

 

อวตาร มาทำไมครับ....
ไหนว่าติดภารกิจนอกโลกสุดจักรวาลกาแลกซี่ไม่ใช่หรือครับ???

ขนาดผมไม่ได้ใช้คำว่า กรู มรึง ก็ยังหลังไมค์มาด่าผม
ผู้หญิงอะไร ขนาด เพศที่สามใจเป็นหญิงยังสำรวมกว่าพวกคุณมากนะ....อย่าเอาสันดาน อเวจี มาใช้ไม่เอาครับ...

ส่วนที่จะชำระ ไม่ชำระ กรรมมันอยู่กะทุกคนน่ะครับ
เบสิค ไม่ต้องมาสาธยายโอเคมั้ยครับ!
หลักแห่งพระสูตรก็มีให้เรียนรู้อยู่ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมครับ...

ที่น่าละอายคือหลอกว่าเป็นสมณะเพศ ห่มขาว
...ทั้งที่ลาสิกขา..แล้วยังติด...อยู่ ทั้งธรรม ทั้งโลก
มั่วชิ...หายเลย น่าสงสารสุดๆเลยนะ...
ไปๆมาๆ แพร่เมล็ดพันธุ์แห่งความอหังการ ไปทุกเวบธรรมมะ ..

สตรีบางท่านชอบให้โดนรุม แล้วมาร้องขอความเห็นใจ กี่ปีๆๆๆๆๆๆ ผมเห็นมาหลายครั้ง และไม่ใช่แค่เธอจะโดนครั้งนี้ครั้งแรก เห็นต่อปากต่อคำมาหลายคนละ กั่สิบปีเหมือนเดิม ไปค้นดูเอง ....

อุเบกขาเถิดครับ.... ผมรู้ทั้งไม้แข็งไม้อ่อน ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะครับ ...
เวบนี้ เลยพาลให้กระแสขุ่นมัว เกิดขึ้น แต่มันก็เป็น

“อาณัติสัญญา” ว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด

การได้มาซึ่ง วิชชาสามอภิญญาสี่ การปรารถนาพุทธภูมิ ต้องตั้งใจตรงไปตรงมา มีเหตุผล เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ดำเนินอยู่ และสูญไป
ไม่จำเป็นว่า ตอนนี้จะโม้ขี้ฟันหลุดแค่ไหน มันเป็นอยู่นะ อธิบายได้ แต่ไม่หลงไหลมัน ผมก็บอกอยู่ว่า
ไอ้ที่แปป ๆใช้งานไม่ได้ ก็ไม่ต้องอวดกะอีแค่ก้อปปี้ข้อความธรรมมะบาลี พาคนที่กะลังอ่อนแอทางใจทั้งหลายที่ต้องวิบากกรรม ว่าคนนี้เป็นพระอรหันต์บ้าง เป็นพญาธรรมมิกราชบ้าง เป็นนิตยโพธิสัตว์บ้างให้ติดบ่วงไป และยังสอนผิดๆอีก ตั้งตนเป็นลัทธิใหม่ก็ไม่ปาน....

ถ้าใครถามผมว่า ผู้หญิงโดนรุม แม่ชี โดนรุม สงสารไหม ผมก็จะเอาข้อความเธอมาสอนเธอนั้นล่ะครับ
ปากบอกไม่อยากได้เขา ละได้ แต่การกระทำสวนทาง
นี้ก็ กรรมเขา ไม่ใช่กรรมผม ...

กรรมผม การกระทำผม ก็จิตคิดเป็นส่วนรวมครับ
ผมไม่ได้เดือดร้อน ไม่ได้วุ่นวาย สบายๆครับ

สาธุครับ

 

ก็ขอให้สมความตั้งใจละกันครับ

 

เพราะมีคนคิดเช่นนี้ ศาสนาจึงได้เป็นฉะนี้แล มีทั้งธรรมกลาย และอีกมากมายที่มอมเมาประชาชี และดูเถิดเพราะมีการปล่อยเอาไว้นี่ละ ถึงได้มีคนหลงผิด 1 2 3 และอีกมากมาย เพราะปล่อยไปเรื่อยๆ

แน่นอนว่าคนเรามีสิทธ์คิด แต่สิ่งที่สรุปว่าคิดผิดไม่ผิด คือ "ผล" ผลลัพธ์ของการปล่อยไปเรื่อยๆ = มีมากมายหลายลัทธิที่อ้างว่าตนถึงที่สุดแห่งธรรม

หรือจะเดินทางโปรดผู้หลงผิด = ผู้หลงผิด(ขั้นหนัก)รับฟังหรือไม่? ก็เห็นกันอยู่ บัวมี 4 เหล่าฉันใดก็ฉันนั้น โปรดบัวเหล่าที่ 4 พระพุทธเจ้ายังไม่ทำแต่พระโพธิสัตว์บางองค์อาจจะทำ เพราะอยู่ในช่วงกำลังเรียนรู้ ซึ่งหากมีปัญญาก็จะพบได้ว่า "สัตว์บางประเภท มันโปรดไม่ได้" ขนาดพระพุทธองค์ยังไม่ทำแล้วมึงเป็นใครไปโปรดสัตว์มั่วซั่ว?

หรือหากกรณีอีกฝ่ายถูก = แน่นอนย่อมไม่มีใครเชื่อจึงต้องนำผลลัพธ์มาแสดงซึ่งหลักฐานของการบรรลุที่สุดแห่งธรรมของ "ศาสนาพุทธ คือ พระธาตุ" นี่ฉะแล

สรุปผมให้โอกาสผู้อื่นหรือไม่ ?
สรุปผมเอะอะด่าอย่างเดียวหรือไม่ ? หากย้อนไปอ่านก็จะรู้เองว่า ใครกันแน่ที่กล่าวถึงธรรม(ชาติ)ที่มันขัดกันนะครับ

แลสุภาพบุรุษบลาๆ สุภาพชนบลาๆ ย่อมไม่ทำร้ายใคร = เมียท่านโดนลากไปข่มขืนหรือสามีท่านจะไม่ทำร้ายใครได้หรือไม่ ? หากมีคนคิดเช่นท่านประเทศชาติคงไม่มีวันนี้ฉะแล ดังนั้นท่านนั่นแลที่มองไม่ตรงตามจริง หากเขาจู่โจม เราจะโง่ไม่ทำอะไรหรือ ? หรือหากเขาพูดผิดทำไมจึงไม่แก้ให้ถูก ?

หรือหากจะอ้างว่าคำกล่าวนี้ถูก พระอริยะหลายๆท่าน ที่ไม่ใช้คำสวยหรูแบบที่พวกคุณพูดกัน แต่กลับด่าไปเลย เพื่อให้เข้าถึง ยอมลงทิษฐิลง แน่นอนผมไม่ได้บอกว่าผมเป็น แต่โลกที่พวกคุณอยากให้คนอื่นมองหรืออยากให้คนอื่นเป็นน่ะ พวกคุณคิดไปเอง(มโนไปเอง)ว่าสิ่งนี้คือดี สิ่งนี้ควร หรือไม่ควร สิ่งที่ตัดสินว่าความคิด(มโน) และ การกระทำของคุณว่าอะไรถูกหรือผิด คือ "ผล" อีกนั่นแหละ

ไม่ได้จะว่าคุณแต่จะให้ลองคิดหลายๆรอบออกจากกรอบซะบ้าง เพราะว่าความจริงคำตอบคือ = ไม่รู้ ไงล่ะ คุณรู้หรือว่าที่คุณทำมันใช่แล้ว? ที่คุณคิดมันถูกแล้ว? ก็ไม่รู้นั่นแหละ แล้วทำไมถึงยึดเป็นทิษฏิละ ? เพราะคุณเห็นเธอโดนด่า? งั้นมาฟัง



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------




*สรุปผลการด่ากันทั้งหมดผู้อ่านใช้วิจารณญาณเอาเองว่าใคร "แถ"

อย่างผมก็ให้วิธีการตรวจสอบกับนางมารไปแล้ว แต่เขาก็แถ ซึ่งแน่นอนบางทีมันอาจจะเกี่ยวด้วยว่าภาษานั้นไม่ตรง เช่นรูปญาณของเธอ ญาณ = รู้ ,รูป = ลักษณะของบางสิ่งที่มองออกว่าเป็นอะไร

ดังนั้นคำว่า รู้ = สติ พวกคุณหันไปมองให้ทั่วเลยสติอยู่ที่ไหน มีรูปร่างยังไง ? ลองหาคำตอบดูแล้วก็จะรู้เองผมพูดผิดไหม แต่คุณนางมารเขากล่าวว่าอย่างไรก็ลองกันเอาเอง และแถไม่ได้ด้วยเพราะมีคำว่า "เห็น" นั่นแหละ แสดงว่าต้องมองเห็นใช่หรือไม่ ?

ซึ่งผมก็ตอบเขาไปว่า

แต่เธอก็ยังตอบกลับมาว่า

ซึ่งไอ้พลังงานของคุณมารที่ผม พยายามไปทำมาให้ตรงตามคำพูดของเธอคือ "อัตตาจิต"ที่เวลาเพ่งไปไหนรู้สึกที่นั่น จิตส่งออกไปที่ไหนก็รู้สึกที่นั่น ซึ่งพลังงานที่เธอบอกมันคือการกำหนดจิต ว่าจะสร้างธรรมารมณ์ใดๆ(ความรู้สึกใดๆ)ตรงจุดที่เขากำหนด แน่นอนมันเป็นรูปแต่รูปในกรณีที่ผมกล่าวคือ กลุ่มก้อนที่เรากำหนด แต่รูปของคุณมารคือ "รูปกาย" ตามที่เขาสื่อ ดังนั้นผมจึงตอบเธอไปว่า

ดังนี้และนางมารก็ตอบมาว่า

ยิ่งกล่าวถึงแรงดึงดูดยิ่งชัดเจนว่ามันคือ "อัตตาจิต" ที่มีแรงดึงดูดไปรับ ธรรมารมณ์จากภายนอก(จิตส่งออก)/กามาวจร จึงเป็นการคอนเฟิร์มว่าคุยเรื่องเดียวกันแน่นอน ซึ่งกรณีนี้จึงกลับมาที่ ข้อความข้างบน ผม วางให้เห็นกันชัดๆคือ "พลังงานเป็นรูป ไปตามนึกคิดของจิต เป็นรูปธรรมารมณ์" แน่นอนมันเป็นรูป(กลุ่มก้อนพลังงาน) แต่พลังงานบ้านใครเขาเป็นรูปกาย?(ที่เธอพูดเองว่ากายสวย) กันละ ? หา?

และมารจึงตอบว่า

ก็ใช่ไงมันคือพลังงานแต่มันไม่ใช่ กาย ซึ่งมาร ก็ยังไม่ตอบคำถามของผมและถามกลับมาแบบนี้ ผมก็งงสิ

และก็ต่อด้วยประโยคฟายๆ ที่ว่า

อ้าวไอ้ห่านนี่ แล้วไอ้ตัวไหนดันบอก "กายสวยเลยโดนข่มขืนในหน้าแรกๆฟะ ?"

อะเนี่ย crop มาให้ดูอีกรอบและ ลอง อ่านให้หมดเลยนะ ว่าใครกันที่ "แถ" นะครับ และก็โยงไปยังเสียหน้าเรื่องจิตจักรวาลหรือเปล่า โอเคมาต่อนะ ลองดูกันต่อไป

อ่ะผมก็เลยตอบไปว่า

พอผมตอบการแถของเธอไปอันแรกผมจึงตอบการแถอันที่สอง

สรุปคำพูดมารง่ายๆคือ "จิตวิญญาณ = รูปพลังงาน และรูปพลังงานนั้นที่เธอบอกไปรับความรู้สึกชาวบ้านมาจากเม้นท์บนๆเลยคือ = อัตตาจิต/ตัวดู และ อัตตาจิต = แก่นแท้ของอนัตตา นี่คือคำแปลที่ผมแปลมาให้แล้วนะ หรือผมอาจจะแปลผิดในกรณีที่มารหมายถึง ตัวพลังงาน(คลื่น)ที่ส่งออกไปภายนอกไม่ได้หมายถึงตัวการที่คอยส่งออกไป ซึ่งแน่นอน มันคือ "วิญญาณขันธ์" ดังนั้น สิ่งที่มารพูด ที่ว่าเป็นแก่นแท้อนัตตา ไม่ว่าจะเป็นอัตตาจิต หรือ วิญญาณขันธ์ มันก็ไม่เกี่ยวห่านอะไรกับนิพพานเลย เพราะคนปกติมันก็มีทั้งสองตัวนี้อยู่แล้ว และส่วนใหญ่มักเรียกรวมไปเลยเพราะมันทำงานร่วมกันอยู่แล้ว

แล้วยัง ยังมีต่อ และอะไรคือ ลัทธิใช่ไหม ? ก็จิตจักรวาลนี่ละ ลัทธิ เพราะจำนวนคนยังไม่เยอะพอจะเรียกว่า "ศาสนา" ได้ไง เอ้าแถหน้าถลอกอีกแล้ว แถมยังอ้างนิพพานทั้งๆที่ยังไม่พ้นแม้กระทั่ง วิญญาณขันธ์ แล้วยังกล้าพูดว่านิพพานเป็นแบบนี้ ผมจึงถามตอบไปว่า

เนี่ยคำถามที่ใช้ เหตุ-ผล ที่สุดแล้ว เพราะหากเป็น "สุญญตา" จริงย่อมมี "พระธาตุ" ปรากฏ ถ้ามันมีผมก็พร้อมโมทนาด้วย แต่มารก็ยังไม่ตอบคำถามนี้ แต่กลับไปตอบคำถามที่ผมแซวกลับเรื่อง จจว. เม้นท์บนๆ


ซึ่งเธอ quote ment ของผมอันนี้เพื่อตอบ

"ก็ไม่ใช่ท่านจิตพูดเองหรือ? ว่ารูปกายภายในของท่าน ที่บอกว่ารูปญาณ? แล้วถ้ามันเป็นแรงดึงดูดแบบที่ท่านพูดมันจะเป็นรูปกายได้ยังไง พูดอะไรให้ตรงจริงบ้างท่านจิตยิ้มและท่านกำลังจะเสียหน้าเรื่องจิตจักรวาลหรือเปล่า? อะพิจารณาคำตนให้ดีกลับกันไปไหน ฮาๆ ตอบด้วยนะครับไม่เอาดริฟท์"

แย้งตรงไหนไปเปิดวิกิดูเลยก็ได้ ลัทธิ = ความเชื่อที่จำนวนยังไม่มากพอจะเรียกว่าศาสนา แล้วมันไม่ใช่ตรงไหน ? ไอ้นี่ก็ยังจะแถ และยังบอกว่าเป็นสัจธรรม แน่นอนมันจะเป็นสัจธรรมจริงๆถ้ามี "พระธาตุ" ซึ่งก็ไม่มีอีก และมาบอกผมพูดเรื่องพลังงานใช่ผมพูดแล้วยังไง? ไม่รู้จะแถอะไรแล้วทั้งที่ผมก็ว่าพิมพ์ไปเคลียร์แล้วนะ ผมอุตส่าห์เปลี่ยนภาษาของพุทธศาสนาให้กลายเป็นภาษาคนบ้าก็แล้ว และยังจะแถว่าเสียหน้าไปได้อย่างไร ? ไม่เสียหน้าอะไร แถจนหน้าถลอกไปกี่ยกแล้ว นี่ยังจะบอกไม่เสียหน้า? หรือหน้าจะเป็นคอนกรีต? และพูดภาษาคนบ้า หรือแปลให้ คือพูดไม่รู้เรื่อง "ก็เมื่อความบริสุทธิ์ใจของเราในการเป็นแรงบททดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ" นี่คือประโยคของมาร ถ้าหากจะแปล ย่อมแปลได้ว่า "ความบริสุทธิ์ใจเป็นแรง(dynamic/การเคลื่อนที่/การกระทำ)บททดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ?" คือคุณมรึงพูดอะไร ? รู้ไหมว่าชาวบ้านเขาเสียเวลาแปล และภายหลังยังกล้าอ้างว่าเทศน์ธรรมได้ระดับ อนุศาสนีย์ อืม ครับ

นี่แหละผมเลยแปลใจความมาได้ตามที่ผมเข้าใจซึ่งอาจจะผิดหรือถูกก็ไม่รู้ตามนี้
ความบริสุทธ์ใจเป็นพลังของบททดสอบ ของความแข็งแกร่งของใจ ซึ่งนี่ขนาดพยายามแปลแล้วผมก็ยัง "งง" อยู่ดี คือความบริสุทธ์ใจมันจะทำให้การทดสอบมีพลังมากขึ้นว่างั้น ? และการทดสอบมันคือ ความแข็งแกร่งของจิตใจ ? เอ้าผมแกะมาให้แล้วนะครับ เผื่อคนอื่นๆแปลไม่ออก มาต่อนะครับ

เธอจึงตอบ Quote ผมอันต่อมาคือ
"ลัทธิตั้งแต่รับสารจากองค์จิตจักรวาลของท่านแล้วละครับ และบอกว่านิพพานเป็นสนามพลังงานหนึ่ง คำถามหลายๆกระทู้ท่านก็ตอบไม่ได้ สรุปแล้วถึงจริงหรือ ลัทธิ จจว. มีใครมีพระธาตุไปหามา หาไม่ได้ก็อย่าแถนะครับเอาสิ พูดดีๆไม่ได้จะเล่นก็มา หามาให้ได้นะแล้วจะรอดูว่าใช่ลัทธิไหม"

ซึ่งเธอตอบมาว่า

ไอ่ห่าน กรู ไม่เห็นมรึงจะตอบห่านอะไรเลย แถมยังจะดริฟท์ไปทั่ว นี่ตอบได้ตรงไหนวะเนี่ย ตูละงง ถึง งงสุดๆ

ต่อมาผมเห็นอีกคอมเม้นท์ของเธออันนี้

ผมจึงตอบไปว่า

ซึ่งยิ่งย้ำก็ยิ่งชัดเลย มันคือ "อัตตาจิต/ตัวดู/ตัวรู้/วิญญาณขันธ์" ที่ชาวบ้านเขาเรียกกัน ผมก็เลยบอกว่าก็อย่าไปเพ่งรับ ธรรมารมณ์จากภายนอกมาสิวะ ตามข้างบนนะครับ ซึ่งเม้นท์นี้มารตอบว่า

และผมจึงค่อยถามกลับการแถของมารว่า

ตามนี้ แต่มารก็แถกลับมาว่า

พบเหรี้ยอะไร พบกับ จิตตัวเองที่ส่งออกนอกไปรับธรรมารมณ์จากข้างนอก นี่เอ็งประจักษ์แล้วเหรอวะเนี่ย ตูปวดหัวเลยวะ ซึ่งประโยคนี้ผมตอบไปว่า

และผมก็ตอบประโยคก่อนๆของเธอ ซึ่งผมขี้เกียจไปหา quote เลยก๊อบวางแทนคือ
"คุณยึดติดพระธาตุ พระธาตุในความหมายคุณคืออะไร เป็นสีลัพตัพปรามาสไปหรือเปล่า ทำไมไม่ยึดธรรม"

เนี่ย มันคือ "ความจริง" ล้วนๆเลย และใช่ด้วย ผมเห็นมารถามคำถามปัญญาอ่อนมาจึงถามกลับไปเช่นนี้ คำถามเดิมเลยแต่เปลี่ยนกลับให้ถูกทั้งๆที่ ลัทธิก็ไปก๊อบพุทธศาสนามาอยู่แล้ว มารจึงแหลกลับมาว่า

เอ้าไอ้หรรม(ลืมไปไม่มี) คือ ตูกำลังตรวจสอบว่าลัทธิเอ็งเนี่ย มันถึงธรรมระดับ นิพพานจริงๆไหม เหมือน ตำรวจซักจำเลย เพราะเล่นไปก๊อบคำสอนพุทธศาสนามาทั้งดุ้น ไอ้บ้านี่ดันถามตำรวจกลับ แถมถามประชดด้วย ไม่แสดงความบริสุทธ์ว่าลัทธินี้ของจริงแต่กลับ ฟันธงว่าลัทธิกรูของจริงโดยไม่ให้ตรวจสอบ ไอ้บ้ามีอย่างงี้ด้วยเรอะวะเนี่ย ตูละอยากจะขำ ผมเลยเกรียนกลับไปว่า

แต่แล้วมารกลับไปตอบเม้นท์เก่าๆอันนี้
"เอ้าแล้วตอนแรกพูดเองว่ามีสติ ละจะพ้นบ่วงมารได้เลือกรู้แต่ไม่รับ ยังจะบอกไม่ใช่ตรงไหน นี่วกไปวนมากลับไปกลับมานะครับนี่"

โหไอ้เหี้x มรึงจะแถไปไหนวะเนี่ย คอนกรีตเสริมเหล็กใช่มะ? และจากการที่ผมพยายามอ่านและแปล จึงได้รู้ว่า "มรึงแพล่มเหี้xอะไรวะเนี่ย พูดภาษาคนที กูไม่แปลละ เลยถามกลับไปเลย"

จึงกลายเป็นฉะนี้ และมารก็ตอบกลับว่า

โอเคไม่ตามกระแสไป หรือจะแปลว่า ไม่ส่งจิตออกนอก อยู่ภายใน หรือก็คือ จิตไม่ส่งออกนอก แต่ตั้งมั่นอยู่ภายใน แน่นอนความหมายมันตรงๆเลย = ทำฌานสมาธิ แล้วมันพ้นตรงไหนวะเนี่ย ? เอาเข้าไป

--------------------------------------------------------------------------------------------------



นี้แลบทสรุปการแถ Part 1 นะครับส่วน part 2 ขี้เกียจสาธยายตามอ่านกันเอาเองได้ในกระทู้อยู่แล้ว ซึ่งท่านที่สมัครใหม่มาตอบจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ตามที ก็ช่างคุณเพราะที่คุณทำ หากอธิบายให้เห็นภาพแบบทางโลกคือ "ช่วยผู้ร้ายเผาทำลายกฏหมาย" นี่แค่ยกตัวอย่างซึ่งเคสจริงเป็นยังไงก็เห็นอยู่ เวลาดูในข่าวเห็นคนไปปล้นธนาคารโดนตำรวจยิงตายเคยมาโชว์ตัวหล่อแบบนี้มะ ? ซึ่งนี่แหละตรงตามคอมเม้นท์ของท่านเลย

"บทความนี้ ไม่มีเจตนาเข้าข้างใคร
แต่อีกไม่นาน ธรรมแห่งความจริงจะบังเกิด
สาเหตุที่ยังไม่เกิด เพราะยังเต็มแก้ว
ถ้าวาสนามี เราคงได้เจอกัน...
ถ้ามีวาสนา คุณคงได้พบกับพระยาธรรมธิราชและพระจักรพรรดิ์ ในเร็วๆนี้"

เนี่ยบทความของคุณข้างบน
ตรงไหมละธรรมแห่งความจริงจะบังเกิด สาเหตุที่ยังไม่เกิด เพราะยังเต็มแก้ว ถ้าวาสนามี หวังว่าคง "ตื่น"ได้แล้ว ถ้ามีวาสนาหวังว่า คุณคงมีปัญญาพอจะรอดไปถึงยุคพระเจ้าจักรพรรดิ์ อะนะ


EDIT : ที่สำคัญ คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรหากจะลงมาพูดคุยด้วยก็นึกถึงผลลัพธ์ให้ดี ตอนผมด่ากับมารก็ไม่เห็นมีใครทั้งๆที่มันก็ทำลายพุทธศาสนา ในเว็บไซต์ของพุทธศาสนาอยู่แล้ว ซึ่งแปลกมากแต่อันนี้ยังไม่เท่าไหร่ เพราะบางคนไม่กล้าตัดสินใจอะไรเพราะตนปฏิบัติไม่ถึง จึงไม่ว่าอะไร แต่ไอ้คนที่ปฏิบัติไม่ถึงแล้วดัน ไปชอบใจ ไปเสนอแนวคิดสุดหล่อทั้งๆที่ "ตนก็ไม่รู้" เนี่ยนะ มันถึงได้มีไอ้ลัทธิบ้าๆบออย่างนี้ขึ้นมาไง

Edit 2: "สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล" คำนี้พูดได้ถูกต้อง สำเนียงผมใช้ภาษาพ่อขุนรามแสดงว่าผมโมโหแล้วตอนผมตอบมารไปน่ะ แต่ผมไม่มีกริยา "มาโชว์หล่อในตอนจบทั้งๆที่ตอนเขาถกกัน คุณมรึงไปอยู่ไหนละนั่น? แล้วตอนศาสนาพุทธโดนเปลี่ยนแปลงธรรมะเนี่ย ผลของมันคือการตัดมรรควิธีการปฏิบัติของ "พระอริยะระดับพระอรหันต์"(เพราะอ้างสุญญตา) ใช่ไหม? และยังเป็นการชวนคนไปเข้าลัทธิใช่ไหม? เห็นๆกันอยู่ตามจริงเลย แล้วไอ้กริยาตูนั่งอยู่ข้างนอก รอมาเหนือเมฆทีหลังน่ะ มันเรียกว่า "ดัดจริต" อืม กริยาส่อสกุลจริงๆแฮะ เพราะเรื่องนี้มันแสดงแต่แรกแล้วว่า เอ็งมาแจกบทประพันธ์หล่อๆแล้วก็จากไป เพื่อ? คิดว่าเท่? จะมาแสดงว่าอย่าทะเลาะกันเลยว่างั้น? ใครจะบ้าอยากทะเลาะ ถ้าผลที่ตามมามันไม่ "เละ" ขนาดนี้ละก็นะ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้อะไรก็อย่ามาหล่อให้มากนะครับ เพราะไม่เห็นจะได้อะไรนอกจากการ "เฟค" อะนะ

 

ท่าน Zalievan มันเกิดขึ้นแล้วครับ พายุ 10 ลูกในวันเดียวกัน มีมาไม่ขาดสาย และ 30/9/2561 ที่ผ่านมา อินโด ผลแห่งดาว นิบิรุ ดาวเรียงตัว ดวงอาทิตย์ มีจุดระเบิดเกิดขึ้นเป็นระลอกๆ ส่งผลกระทบมายังโลก แต่ผมคิดว่า ปีกุน 2019/2562 หน้าจะหนักพอสมควร อย่างที่คำทำนายกล่าวเอาไว้ ที่รู้มานะครับ 3-10 วันที่จะถึงนี้ ไทยโดนเต็มๆ องค์การ Nasa ปิดข่าว คงจะกลัวโลกเกิดความวุ่นวายขึ้น เลยปิดข่าวไว้ การกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกอาจจะมีความเป็นไปได้ครับ มนุษย์ต่างดาวบินมาเป็นพันๆ ก็ไม่สามารถช่วยได้ครับ คงเป็นกรรม กรรมใครสร้าง ผูกขึ้นมายังไง ก็คงต้องแก้ไปตามกรรมที่ตนสร้าง...

 

ครับ ตรงนี้ผมเห็นด้วยเลย น่าจะเกิดตั้งแต่ พายุ 10 ลูกละ ล่าสุดก็สุึนามิเข้าอินโด ส่วนนิบิรุนี่ ผมไม่ทราบเพราะเห็นแต่เลนส์แฟลร์

 

ส่วนตัวไม่ได้อยากให้ลัทธิอื่นอ้างคำสอนในศาสนาพุทธ ปนกับคำสอนในความเชื่อของตัวเองเหมือนกันนะครับ

เพราะมันจะทำให้เกิดความสับสนในหมู่ คนที่มีปัญญาไม่มาก เช่นคนพวกที่ไม่ยอมศึกษาศาสนาพุทธเอง ฟังเทศเอาอย่างเดียว อย่างเนี้ย จะหลงง่าย

เพื่อกันความสับสน ถ้าจะเผยแพร่ลัทธิ ก็เอาแต่คำสอนของความเชื่อในลัทธิของตัวเองมาเผยแพร่ไปเลยดีกว่า ไม่ต้องปนกับศาสนาอื่น

 

อันนี้เห็นด้วยเลยครับ

 

ชอบหมด ยกเว้น

ผู้มีแสงสว่าง ย่อมถูกรังเกลียดโดยผู้ไม่ชอบแสงสว่าง

// แสงสว่างอาจเป็นมายา แต่ความจริงคือความจริง คนที่รู้ความจริง จะรังเกียจความลวง

ผู้ที่คิดนอกกรอบ ย่อมถูกรังเกลียดโดยผู้อยู่ในกรอบ

// ถ้าในกรอบถูก นอกกรอบก็เป็นสิ่งที่ควรรังเกียจ แต่ก็ไม่ควรทำตัวกีดกันไม่ให้นอกกรอบเข้ามาในกรอบ แค่ต้องทำให้พวกที่อยู่นอกกรอบ เข้ามาในกรอบเต็มตัวให้ได้โดยที่ไม่เข้ามาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ผมมีปัญญาทำข้อนี้ไม่ได้ จึงทำได้แค่พูดหล่อ ๆ

สุภาพบุรุษและสาธุชล ย่อมไม่เอาผิดหรือทำร้ายใคร
// ควรเอาผิด ถ้ามีความสามารถถึง หรือพอที่จะทำให้คนที่กำลังถูกเอาผิดอยู่ ตาสว่างได้
แต่บางทีผมก็อยากให้ใช้วิธีละมุนละม่อมหน่อย ไม่งั้นอีกฝ่ายอาจจะยิ่งเกิดมานะทิฐิ
เอางี้กีก่า ผมเคยพลาดตรงนี้มาแล้วครับ หลายครั้งด้วย

แม้บางคนเดินผิดทาง แต่เจตนาดี ไม่ทำร้ายใคร
// พอดีว่าคนเดินผิดทางส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองผิด (ผมเคยเดินผิดทางผมเลยพอรู้บ้าง) พวกเขาเลยเอาสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกมาเผยแพร่ ทำให้ผู้อื่นเดินทางผิดไปด้วย คำถาม เขาทำร้ายคนอื่นหรือไม่ได้ทำร้าย? ควรจะจัดการกับ คนคนนั้นอย่างไร?

คนที่รู้น้อยอย่างผม พูดไปก็คงจะไม่มีใครฟัง
หาน้ำเย็น ๆ ดื่ม แป๊บ

 

คริสเตียน ปฏิบัติตนตรงกะคริส ได้ไปสวรรค์
มุสลิม ปฏิบัติตนตรงต่อศาสนาอิสลาม ได้ไปสววรค์
พุทธศาสนิกชน ปฏิบัติตนตรงต่อศาสนาพุทธ ได้ไปสวรรค์

แต่ถ้าคำสอนมั่ว คนปฏิบัติถือสับสน ไม่ตรงกับศาสนาอะไรเลย หาความชัดเจนไม่ได้ เจ้านิกายเขาไม่รับ จะไปอยู่ไหนล่ะครับ

 

ธรรมของพระพุทธเจ้าชนะทุกสิ่งทุกอย่าง ผมคงต้องขอตัวลาในที่นี้ จะแวะไปหาท่านสักหน่อย...
ผมรู้สึกว่าผมหลงทาง

 

ขออนุญาต การไม่โต้ตอบด้วยเหตุผลอาจทำให้คนเข้าใจผิด สำหรับใครบางคน เราจะดำเนินการตามที่เห็นว่าถูกต้องชอบธรรมให้ถึงที่สุดค่ะ

 

มารไม่มี บารมีไม่เกิดจริง ๆ

พยายามหาสิ่งให้คนอื่นผิด เพื่อตนเองถูก

น่าสมเพศ เวทนา

ซาตาน ก็คือ ซาตาน