บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ลำดับนั้นพระปิณโฑลภารวาช จึงขยับหนังตาขึ้น พร้อมๆกับขยับมือทั้งสอง และมองไปที่พระราชาแล้วกล่าวว่า “ จริงแล้ว อาตมาได้เห็นพระพุทธเจ้า หลายต่อหลายครั้ง พระรัศมีสุกสกาวดังทองอันขัดเงาเป็นอย่างยิ่ง พระมหาปุริสลักษณะครบทั้งสามสิบสองพยัญชนะ พระพักตร์ดุจพระจันทร์วันเพ็ญ พระสุรเสียงบ่งถึงพลังยิ่งกว่าเสียงพระพรหม พระองค์ทรงพ้นจากกิเลสตัณหาทั้งปวงโดยสิ้นเชิง ”

    พระเจ้าอโศกตรัสถามพระเถระว่า “ พระคุณเจ้าเห็นพระพุทธเจ้าที่ไหนและอย่างไร ”
    พระเถระทูลว่า “ ครั้งแรกที่อาตมาภาพเข้าเฝ้าพระพุทธองค์หลังจากที่ทรงชนะกองทัพมาร ขณะประทับอยู่ที่กรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยพระอรหันต์ห้าร้อยองค์ อาตมาภาพก็อยู่ในที่นั้นด้วย ครั้งที่สองคราวเมื่อพระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์สวรรค์ พร้อมด้วยเทพยดาเป็นอันมากหลังจากที่ทรงจำพรรษาในหมู่เทพ เพื่อทรงแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา คราวนั้นอาตมาภาพก็ได้เห็นการแสดงออกของเทวดาและมนุษย์ และเมื่อพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ที่นครสาวัตถี ทรงเนรมิตพระพุทธรูปบนอวกาศเป็นอันมาก จนถึงอกนิษฐพรหมโลก เพื่อปราบพวกมิจฉาทิฏฐิ คราวนั้น อาตมาภาพก็ได้แลเห็นพระปาฏิหาริย์อยู่ใกล้ๆ และอีกหลายเหตุการณ์ ” มหาบพิตร ในครั้งสุดท้ายเมื่อนานมาแล้ว อาตมาภาพก็อยู่ในที่นั้น คราวที่มหาบพิตรทรงพระชาติเป็นเด็ก กอบธุลีดินในอุ้งมือ แล้วใส่ในบาตรของพระพุทธเจ้า เพราะทรงเข้าใจว่าจะถวายอาหาร ท่านราธคุปตะอนุโมทนากุศลกรรมของมหาบพิตรในครั้งนั้น และพระพุทธองค์ก็ทรงพยากรณ์ว่า “ ร้อยปีแต่เสด็จดับขันธปรินิพพาน มหาบพิตรจะได้ทรงเป็นธรรมิกธรรมราชา ในนครปาฏลีบุตร และจะทรงขึ้นเป็นพลจักรพรรดิ ครอบครองหนึ่งในสี่ทวีป และจะได้ทรงแพร่พระบรมสาสรีริกธาตุออกไปให้กว้างและไกล ทั้งยังจะได้ทรงสร้างธรรมราชิกเจดีย์แปดหมื่นสี่พันองค์อีกด้วย ”
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    พระเจ้าอโศกตรัสถามพระปิณโฑลภารวาชว่า “ พระเถรเจ้า บัดนี้พระคุณเจ้าพำนักอยู่ ณ ที่ใด ”
    พระปิณโฑลภารวาชทูลว่า “ มหาบพิตร อาตมาภาพพำนัก ณ เขาคันธมาทน์ ไปทางเหนือจากสระอโนดาต พร้อมด้วยบริวารในพระศาสนา ”
    พระเจ้าอโศกตรัสถามว่า “ พระคุณเจ้ามีบริวารมากน้อยเท่าใด ”

    พระปิณโฑลภารวาชทูลว่า “ มหาบพิตร อาตมาภาพพำนักร่วมกับพระอริยบุคคลหกหมื่นรูป ท่านทั้งนั้นล้วนปราศจากตัณหาและละบาปหมดสิ้นแล้ว มหาบพิตร ทรงถามปัญหาพวกนี้ไปทำไมกัน ขอจงทรงประเคนภัตราหารแด่พระภิกษุสงฆ์เถิด เมื่อเสร็จภัตกิจแล้ว อาตมาภาพจะได้ปราศรัยกับพระเถระเหล่านี้ ”
    พระเจ้าอโศกทรงตรัสว่า “ สาธุ แต่โดยที่ข้าพเจ้ากำลังคิดถึงพระพุทธคุณอยู่อย่างแจ่มจ้าในดวงจิต ขอให้ข้าพเจ้าได้สรงต้นพระศรีมหาโพธิก่อน หลังจากนั้นข้าพเจ้าจะถวายภัตราหารแด่พระภิกษุสงฆ์ด้วยอาหารอันประณีต ”
    จากนั้นพระเจ้าอโศกจึงตรัสเรียกผู้เป็นราชโฆษกมา แล้วตรัสว่า “ เราต้องการถวายทองแสนกหาปณะแด่พระอริยสงฆ์เหล่านั้น และต้องการสรงโพธิฤกษ์ด้วยน้ำหอมแสนหม้อ ขอเจ้าจงประการในนามของเรา เพื่อจัดงานมหกรรปัญจวราษิกะ ”

    ขอจบเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดรแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะ (เขาเล่ามาแค่นี้ค่ะ)
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา
    โสก ปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ
    อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส
    สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺฐานาฯ

    แปลความว่า "ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ทางที่ไปอันเอก
    เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลาย
    เพื่อความก้าวล่วงจากความโศก ความร่ำไห้ เพื่อความดับสิ้นไปจากทุกข์และโทมนัส
    เพื่อบรรลุธรรมวิเศษที่ควรรู้ เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ทางนั้น คือ สติปัฏฐาน ๔"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ชื่อกระทู้...บทความกระดานเล่าสู่กันฟัง...ขึ้นชื่อว่าเล่าสู่กัน มันก็ต้องมีความหลากหลายอ่ะนะ แล้วแต่ว่าผู้เล่าจะเล่าเรื่องอะไร เนื้อหาจึงไม่จำเป็นต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันเสมอไป เหมือนต้มจับฉ่าย มีผักอะไรก็นำมาต้ม มาเคี่ยว รวมกัน ก็ได้รสชาดดี ทานง่าย ถ่ายคล่อง ดีต่อสุขภาพ :D:D

    สุขภาพกายดีก็ส่งผลไปยังสุขภาพจิต
    สุขภาพจิตดีก็แสดงออกทางสุขภาพกาย

    ล้วนเป็นธรรมดา;)
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ท่านครุฑราชบอกว่า...

    เกิดเป็นชาย มีเมียท่านก้อเบื่อเมียไปบวช
    เกิดเป็นหญิง เป็นเมียสามีท่านก็จะอยู่ด้วยไม่นานหนอ ร่างกายท่านแม้นงามจะไม่ดึงดูด เพราะมีเพียงกระแสธรรม และความสงบหนอ

    :(:(:(
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    คืนหนึ่งเมื่อปี 2014

    ปีนั้นได้ไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดนานหลายเดือนเลย คืนหนึ่งขณะที่หลับไปแล้วก็นิมิต เห็นกษัตริย์หนุ่มผู้หนึ่ง ผิวพรรณขาวผ่อง รูปร่างสูง ไม่อ้วนไม่ผอม หน้าตาหล่อเหลา แต่งองค์ทรงเครื่องสีทองอร่าม สวมมงกุฏสีทอง มาหา มาสนทนาด้วย ท่านบอกว่าชื่ออะไร แต่พอตื่นมาก็ลืม เพราะต้องรีบไปทำงานวัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2018
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จัดจังหันและภัตตาหารเพล ถวายพระเรียบร้อย ก็มานั่งเล่นแชทในกลุ่ม อยู่ๆ น้องก็รับสาส์นและสื่อลงในห้อง....

    " ใครกันหลงลืมสัญญา
    จะกลับมาแม้นจักเนิ่นนานสักแค่ไหน
    ใครกันพร่ำคำสัญญาไว้
    เมื่อไปแล้วใยลืมคำ
    เมื่อให้ความหวังให้คอย
    ด้วยใจเศร้าสร้อยยังคอย
    แม้นหมดสิ้นความหวัง
    ห่างร้างไกลลับไม่กลับคืนเวียงวัง
    ไม่หวนกลับหลังปล่อยเราเฝ้าแต่รอ
    กัลยานารีเจ้าหนีไกลไม่หวนกลับ
    นี่ก้อนานนับล่วงมาเวลาเปลี่ยน
    กาลนั้นหนอไม่อาจหมุนเปลี่ยน
    คงเปลี่ยนเรื่อยไปเหมือนใจนาง
    ตรอมตรมขมขื่นสะอื้นให้
    ใจชายสลายด้วยใฝ่หา
    เจ้าจะกลับมาหรือไม่น้องยา
    จงเอ่ยวาจามาเยือน..."

    ตามหาผู้หญิงชื่อปทุมมาศ
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ความพลัดพราก แม้ได้ครองคู่ก็มีเหตุให้ต้องพลัดพราก เป็นอย่างนี้หลายๆ ชาติที่ผ่านมา

    เมยาวีปรีญ่า กษัตริย์หญิงแห่งนครเตรมันดู นางบูชาเทพ นางมีคู่ครองและพระธิดา นางผู้เลอโฉมและเก่งในการปกครอง นางปกครองอาณาประชาราษฎร์ของนางด้วยเมตตาธรรม นางจึงเปรียบเสมือนดวงใจของทุกคนในเมืองนี้ พระสวามีของนางเป็นนักรบผู้เก่งกาจ

    นางถูกศัตรูจับไปโดยใช้กลอุบายให้พระธิดาแห่งศัตรูนั้น ซึ่งเป็นพระสหายของพระนาง มาเชิญนางไปร่วมงานพิธี.... แล้วกักขังนางไว้ เพื่อเป็นตัวประกันไม่ให้พระสวามีนางยกทัพมาตี ฝ่ายศัตรูนั้นหวังครอบครองนาง แต่นางไม่ยินยอม นางไม่รับอาหารที่เมืองนั้นจัดให้ นางยอมตายโดยการอดอาหารด้วยการเข้าฌาน......

    เมยาวีปรีญ่ามหาราณี ได้จบชีวิตลง ณ เมืองนั้น โดยมิได้เห็นหน้าและสั่งลาผู้เป็นที่รัก

    ดวงจิตของนางกลับคืนสู่สวรรค์ เข้าเฝ้าพระมาตาเหมือนทุกครั้ง :(
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ณ ลานประหาร...

    นักศึกษาชายชาวอเมริกัน 3 คน เดินทางไปเที่ยวที่แม็กซิโก ในคืนวันหนึ่งทั้ง 3 คน ดื่มเหล้าในบาร์หนักไปหน่อย พอตอนเช้า ก็พบว่าทั้ง 3 คน ติดอยู่ในคุกและโดนตัดสินประหารชีวิตไปเรียบร้อย แต่ทั้ง 3 คนไม่มีใครจำได้ว่าไปทำอะไรมาบ้างเนื่องจากเมาจัด เลยเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด

    พอถึงวันประหารหลังจากที่นักศึกษาคนแรกถูกนำเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้า เขาก็พูดสั่งเสียออกมาว่า

    "ผมเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแถบแกรนด์แคนยอน ผมเชื่อในพลังของพระเจ้าและเชื่อว่าพระเจ้าจะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์"

    พอสิ้นเสียงเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์เก้าอี้ไฟฟ้า ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เลยเชื่อว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้นักศึกษาคนนี้ตายจึงปล่อยตัวไป

    เสร็จแล้วนักศึกษาคนที่ 2 ก็ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสับสวิทช์ไฟ นักศึกษาคนที่ 2 ก็กล่าวมาว่า

    "ผมเป็นนักศึกษากฏหมายอยู่ที่มหาวิทยาลัยอริโซน่า ผมเชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์จะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์เสมอ"

    พูดจบเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์ทันทีปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์ไม่ต้องการให้ชายผู้นี้ตายก็เลยยอมปล่อยตัวไป

    หลังจากนั้นพอนักศึกษาคนที่ 3 ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าเขาก็กล่าวว่า

    "ผมเป็นนักศึกษาวิศวะไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย(ขอสงวนสิทธิ์ไม่เอ่ยนามสถาบัน) และผมจะขอบอกพวกคุณว่าถ้าพวกคุณไม่ต่อสายไฟ 2 เส้นที่ขาดอยู่นั้นเข้าด้วยกัน 0000เก้าอี้ไฟฟ้าตัวนี้ก็จะไม่มีวันใช้การได้"

    หลังจากนั้นอีก 5 นาที วิญญานของนักศึกษาคนที่ 3 ก็ไปสู่สุขคติ

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา แต่สุดท้าย...รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดจริงๆ มั้ง

    555++++:rolleyes::p
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ก๊อปมาค่ะ...อ่านกันยาวๆ ไป:D

    ทำไมคู่แท้จึงเจอกันช้าได้

    คนเราไม่ได้เป็นนางเอกสำเร็จรูปแต่แรก แต่เป็นนางเอกด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองคนที่เกิดมาสวย รวย เก่งครบสูตร คุณเชื่อได้ว่าเธอจะต้องหลงตัว ไม่เห็นหัวใคร แต่คุณก็เชื่อได้เช่นกันว่าคนแบบนี้จะต้องประสบทุกข์ หาคู่ยาก และหากเหงามากพอ ก็ต้องเพียรทำทุกวิถีทางที่น่าเชื่อว่าจะได้เจอและอยู่คู่กับใครสักคน

    เรื่องของเรื่องคือ ถ้าเลือกทางแห่งความดี พยายามใช้ความดีเป็นใบเบิกทางไปหาคนดี และเมื่อใช้ความฉลาดในการทำดีอย่างเต็มที่ ก็น่าเชื่อว่าในที่สุดเราจะกลายมาเป็นนางเอกเต็มขั้นได้

    คู่บารมีจะถูกกระแสบุญหว่านล้อมให้หลงใหลติดใจกัน ทั้งในระดับหยาบ กลาง และละเอียดคือ

    ระดับหยาบ หมายถึงความดึงดูดให้ปรารถนาในรสสัมผัสของกันและกันอย่างยิ่งยวด อาจหมายถึงการแตะต้องเพียงแผ่วไล่ไปจนถึงความอยากกอด อยากจูบ หรืออยากมีสัมพันธ์สวาท มันจะไม่ใช่แค่ความรู้สึกอยากได้กระหายหื่น แต่เป็นความรู้สึกตื่นเต็ม และพร้อมรับผิดชอบเยี่ยงเจ้าของเดิม ซึ่งต่างก็มีความสามารถครอบครองกันและกันอยู่แล้ว

    ระดับกลาง หมายถึงความเต็มใจจะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตอีกฝ่าย คือเต็มใจดูแลกัน และพร้อมจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังขารกันและกัน จนกว่าความตายจะมาพราก คนเราอยากได้ความอบอุ่นจากอะไรอย่างนี้แหละ ถึงเพียรหาคู่แท้ ไม่ใช่คู่นอน

    ระดับละเอียด หมายถึงรู้สึกว่าร่าเริงบันเทิงใจที่จะได้ร่วมบุญร่วมกุศลเกินบรรยาย หากเคยทำบุญยิ่งใหญ่ร่วมกันมาหลายภพหลายชาติ แค่ครั้งแรกที่ใส่บาตรร่วมกันก็อาจบันดาลให้ตื้นตันเหมือนเห็นสวรรค์เลยทีเดียว ความปรารถนาจะทำอะไรดีๆร่วมกันนี้ ในกรณีส่วนใหญ่เป็นตัวชี้เลยว่าใช่คู่บุญแน่

    หากเป็นคู่บารมีประเภทว่าอะไรว่าตามกัน บนเส้นทางบุญจนเกิดมหาสมุทรแห่งบุญร่วมกันแล้ว ก็แทบไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเมื่อมาอยู่ด้วยกัน แม้นิสัยบางส่วนจะแตกต่าง หรือแม้บางความคิดจะเห็นไม่ลงรอย ก็ยังรู้สึกเป็นพวกเดียวกันเสมอ ยังผลให้ไม่รำคาญเมื่อมีสิ่งใดขัดหูขัดตาหรือแม้ทำอะไรขัดใจกันบ้าง

    บุญเก่าของคู่รักไม่ได้จัดสรรเฉพาะรูปร่างหน้าตาให้เข้ากันได้ แต่ยังเลือกเวลาเหมาะที่จะพบกันด้วย
    พูดง่ายๆคือ บุญเก่าจะไม่รู้จักความช้าความเร็ว ไม่เอาใจช่วยให้สมหวังในเวลาอันสั้นหรือต้องรอยาว บุญเก่าจะรู้จักแค่กาลอันควรแก่การต่อบุญเท่านั้น

    คู่แท้มีเวลาเหมาะสมที่จะพบกัน และเวลานั้นก็คือเวลาที่พบกันแล้วมีความพร้อมจะอยู่ร่วมกันตลอดไป ฉะนั้น คู่ที่เจอกันช้าก็ไม่ได้หมายความว่าทำบุญร่วมกันมาน้อยหรอก

    เราเดินทางไกลกันเป็นอนันตชาติ มีโอกาสร่วมบุญร่วมบาปไว้กับใครต่อใครมากมาย และแรงบุญแรงบาปนั้นก็เหวี่ยงเราให้เข้าคู่กับคนโน้นทีคนนี้ที ชั่วครู่บ้าง ยาวนานบ้าง ไม่มีหรอก คู่แท้ชนิดประกบติดอยู่กับเรา ตามเราเป็นเงาไปจนชั่วกัปชั่วกัลป์

    และในระหว่างแห่งการเกิดตายอันไร้ต้นไร้ปลายนี้ พวกเราต้องเงียบเหงากับการอยู่ตามลำพัง หรือต้องทรมานกับการจับคู่ผิดเสียยิ่งกว่าจับคู่ถูกไม่รู้เท่าไหร่ ตีเสียว่าจับคู่ร้อยครั้ง อาจมีที่ใช่คู่บุญกันจริงๆแค่ไม่ถึงสิบครั้งกระมัง คู่บุญดีๆของคุณอาจพลัดร่วงไปเสวยบาปในอบาย หรือเด้งดึ๋งขึ้นไปได้ดีมีสุขบนพรหมภูมิตลอดทั้งกัป

    ต่อให้พบคู่แท้ คุณก็อยู่กับเขาหรือเธอไม่ได้ตลอดไปหรอก ต่างฝ่ายต่างเป็นนักเดินทางผู้โดดเดี่ยวกันทั้งนั้น เลิกเดินทาง เลิกพบเพื่อพรากจากเสียได้นั่นแหละ จึงเรียกว่าเข้าถึงภาวะวิเศษสุดอย่างแท้จริง ซึ่งก็คือพระนิพพาน บรมสุขอันมีได้ด้วยการหลุดพ้นจากภาวะ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2018
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    5 ม.ค. 2014

    วันนี้ได้ยืนมองใบไม้ที่สูงร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน...มันค่อยๆ ปลิดจากขั้วที่แก่ แล้วปลิวคว้างกลางอากาศท่ามกลางกระแสลม ช่วงเวลานั้นช่างเคว้งคว้างสิ้นดี...แต่แล้วความเคว้งคว้างก็สิ้นสุดลงเมื่อใบไม้กระทบผืนดิน...วันเวลาที่ผ่านไปทำให้ใบไม้นั้นเน่าเปื่อยผุพังลงไปในที่สุด...คลุกเคล้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดิน

    แล้วใบใหม่ก็จะแตกออกมาแทนใบเก่าที่ร่วงจากขั้วไปแล้ว วัฏจักรนี้มีให้เราได้ดู ได้เห็นอยู่ทุกวัน แต่เราต่างมองข้ามมันไป...เพราะมัวแต่จ้องมองความสดใหม่บนต้นเพียงอย่างเดียว...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    เป็นครั้งแรกที่ได้ยืนมองพิจารณาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ต่างกับทุกวันที่ได้แต่กวาดใบไม้แห้งที่ร่วงลงมาเกลื่อนบนสนามหญ้าเท่านั้น
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่เกิดเป็นหญิง

    มานพหนุ่มช่างทอง

    กาลต่อมาพระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นบุตรของช่างทอง และเป็นมานพหนุ่มช่างทองมีรูปสิริเลิศงดงาม ในเมื่องแห่งนั้น มีฝีมือในการทำทองนั้นยอดเยียม ชื่อเสียงในการทำทองขจรไปไกล เพราะความมีฝีมือนี้เอง ได้มีเศรษฐีของเมื่องมาทำการว่าจ้างให้ทำทองรูปพรรณ ให้บุตรสาวที่จะเข้างานวิวาห์มงคล เมื่อเห็นรูปร่างของหนุ่มช่างทองก็เกิดรังเล แต่ไม่สามารถหาช่างทองที่ฝีมือดีกว่านี้ได้อีกเลย จึงกล่าวกับหนุ่มช่างทองว่า ถ้าท่านเห็นมือ และเท้าของบุตรสาวของเราอย่างเดียวท่านสามารถทำทอง ได้สวยสดงดงามหรือไม่? หนุ่มช่างทองก็บอกว่าทำได้ เหตุผลของท่านเศรษฐีทำแบบนี้ เพราะบุตรสาวเป็นหญิงที่สวดสดงดงาม เมื่อเห็นหน้าตากันจะทำให้ทั้งสองเกิดหวั่นไหว มีปัญหาในการแต่งงานของลูกสาวกับบุตรชายของเพื่อนเศรษฐี ที่หมั่นหมายไว้แล้วเป็นการตัดไฟเสียต้นลม

    เมื่อถึงวันที่หนุ่มช่างทอง ทำการตรวจวัดมือและเท้าของบุตรสาวเศรษฐี ที่บ้านของเศรษฐี ท่านเศรษฐีได้ทำฉากกั้น ให้บุตรสาวยื่นเฉพาะมือและเท้าออกมาเท่านั้น แต่บุตรสาวเกิดความสงสัยว่าทำไม่บิดาจึงทำอย่างนี้ ในขณะที่หนุ่มช่างทองกำลังตรวจวัดอยู่ บุตรสาวเศรษฐี ก็แอบดูตามช่องที่มองเห็นได้ เมื่อเห็นรูปร่างหนุ่มช่างทองเกิดหลงรักทันที จึงทำการเขียนอักษร นัดแนะหนุ่มช่างทองทันที่ ว่าในค่ำคืนนี้นัดเจอกันที่สวนหลังบ้านที่เป็นต้นไม้ใหญ่ ฝ่ายหนุ่มช่างทองเมื่อเสร็จภารกิจ ก็กลับไปยังเรือนของตน ทำงานทำทองตลอด
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อตกค่ำก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปตามนัด ที่ กาญจนวดีกุมารีบุตรสาวเศรษฐีได้เขียนอักษรไว้ แต่มานพหนุ่มช่างทองมาถึงต้นไม้ใหญ่ก่อน นั่งรออยู่ เพราะทำงานมาทั้งวัน เมื่อเจอบรรยากาศร่มรื่นจึงเผลอหลับไป เมื่อนางกาญจนวดีกุมารีมาถึงก็เห็นหนุ่มช่างทองหลับไปแล้ว ซึ่งในสมัยนั้นมีการถือกันว่า ถ้าผู้ใดนอนหลับอยู่ห้ามปลุกขึ้นมาเพราะจะเป็นบาป นางจึงนั่งรอเป็นเวลาพักใหญ่ เห็นว่าไม่ตื่น จึงว่าขันใส่ดอกไม้ไว้ แล้วเขียนอักษรไว้ว่า นางได้มาแล้วแต่ท่านหลับอยู่ จึงวางขันดอกไม้ไว้ให้ทราบ และในราตรีต่อไปขอนัดเจอที่เดิม แล้วจากไป เมื่อหนุ่มช่างทองตื่นขึ้นมาเห็นขันดอกไม้ จึงรู้ว่านางได้มาแล้วและได้อ่านข้อความที่นางเขียนไว้

    ตกค่ำวันต่อมาหนุ่มช่างทองก็ออกไปตามนัดเหมือนเดิม ก็ไปถึงต้นไม้ใหญ่ก่อนอีก ด้วยความอ่อนแรงจากการงานจึงเผลอหลับไปอีก นางกาญจนวดีกุมารีเมื่อมาถึงก็เห็นหลับเหมือนเดิม จึงเขียนอักษรนัดแนะเหมือนเดิม หนุ่มช่างทองเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบอักษรที่นัดแนะ ก็ให้นึกโกรธตนเองที่เผลอหลับมาสองวันแล้ว

    พอตกค่ำวันที่ 3 ครั้งนี้หนุ่มช่างทองพยายามเตือนตนเองอย่างเต็มที่ไม่ให้เผลอหลับ แต่ต้านไว้ไม่อยู่เลยเผลอหลับไปอีก เมื่อกาญจนวดีกุมารี มาเห็น ก็คิดว่า บุญไม่ต้องกันที่จะได้อยู่ร่วมกัน เพราะตนจะเข้างานวิวาห์ นางจึงวางขันดอกไม้ไว้อย่างเดียว ให้รู้ว่านางได้มาตามนัดแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้เขียนอักษรนัดแนะประการใด เมื่อหนุ่มช่างทองตื่นขึ้นมา ก็โกรธตนเองที่เผลอหลับ จึงกลับบ้านด้วยความผิดหวังที่จะดูหน้าและรูปร่างเพียงสักครั้ง
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แล้วนางกาญจนวดีกุมารี ก็เข้าวิวาห์กับบุตรชายเศษรฐี ตามกำหนดการ ฝ่ายหนุ่มช่างทองก็คร่ำครวญถึงนางกาญจนวดี ว่าสมควรจะอยู่ร่วมภิรมณ์กับตนและควรเป็นของเรา เพราะหญิงก็มีใจกับตน จึงคิดหาอุบาย ได้ทำเครืองทองที่ดีเลิศขึ้นมาชุดหนึ่ง แล้วนำไปถวาย มหาอุปราช มหาอุปราชทรงพอพระทัย จึงทรงถามหนุ่มช่างทองว่า มีประสงค์อันใดที่นำเครื่องทองอันดีเลิศมาถวาย หมุ่นช่างทองจึงบอกจุดประสงค์ มหาอุปราชจึงรับปากและจะออกอุบายช่วยเหลือ หลังจากนั้นก็ให้หนุ่มช่างทองแต่งตัวเป็นสตรี ปลอมเป็นน้องหญิงของมหาอุปราช แล้วทรงกระบวนช้างผ่านไปยังบ้านเศรษฐีแล้วตรัสบอกกับท่านเศษรฐีว่า จะเอาน้องหญิงมาฝาก ที่บ้านเศรษฐี เพราะออกไปปราบข้าศึกที่ชายแดน และเห็นว่าท่านได้สร้างเรือนใหม่ ที่พอจะฝากน้องหญิงได้
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แล้วมหาอุปราชถามอีกว่า "เรือนนั้นเป็นเรือนของใครหรือ? "
    เศรษฐีจึงตอบว่า "เป็นเรือนของบุตรสาวที่พึ่งแต่งงาน"

    มหาอุปราชกล่าว "อย่างนั้นก็ดีสิ ! จะได้ให้น้องหญิงพักอยู่ที่นั้น และจะได้ให้บุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพื่อนของน้องหญิง ให้นางงดการอยู่ร่วมกับสามีชั่วคราว ห้ามผู้ชายแม้กระทั่งสามีของบุตรสาวท่านเข้าไปในส่วนของชั้นเรือนที่น้องหญิงพักอยู่ โดยมีบุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพื่อน แล้วเราจะกลับมารับน้องหญิงในภายหลัง"

    เศรษฐีด้วยความเกรงในอำนาจของอุปราช และเห็นว่าท่านอุปราชทรงห่วงใยน้องหญิงคนนี้มาก จึงรับทำตามที่มหาอุปราชกำชับด้วยความเต็มใจ

    หลังจากนั้นหนุ่มช่างทองได้อยูร่วมกับนางกาญจนวดี เป็นเวลา 3 เดือนโดยไม่มีใครรู้เรื่องเลย จนมหาอุปราชมารับกลับไป

    ด้วยผลกรรมที่พระโพธิสัตว์ ผิดลูกผิดเมียของผู้อื่นเมื่อสิ้นอายุขัยของตกนรกทันที่ เวียนเกิดตายระหว่างอบายภูมิ(ภพต่ำ)เป็นเวลานาน แล้วเกิดเป็นกระเทยและเป็นผู้หญิง เป็นพันชาติ รวมเวลา ถึง 14 มหากัป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สัญญาณคู่แท้

    เนื่องจากคู่แท้ คือ คนที่เป็นเนื้อคู่กันมานานแสนนาน ความรักความผูกพันข้ามภพชาติจึงมีมากเหนือคู่แบบอื่น และอาจมีอธิษฐานร่วมกันมาแล้วในอดีตชาติ จึงพอจะสังเกตได้ว่าใครเป็นคู่แท้คู่บารมี

    ลักษณะอาการที่แสดงเมื่อคู่บารมีมาพบกัน เช่น

    เมื่อแรกพบก็รู้สึกคุ้นเคย อาจจำกันได้ บางคู่อาจไม่รู้สึกว่ารักตั้งแต่แรกพบ แต่มีความรู้สึกว่าผูกพันกันมากกว่า

    ไม่ว่าทำสิ่งใดก็มักคล้อยตามกัน มีความคิดลงรอยกันมากกว่าปกติ แม้อยู่ห่างไกลกัน ต่างจังหวัด ต่างบ้านต่างเมือง ก็มีเหตุชักนำให้ได้มาพบกันเสมอ อาจพบกันด้วยหน้าที่การงาน ด้วยเหตุบังเอิญ หรือแม้แต่มีผู้ใหญ่จัดสรรให้ได้พบกันก็มี

    หากมีกรรมพลัดพรากเป็นเหตุให้ทั้งคู่ยังไม่ได้พบกัน ทั้งคู่จะมีความรู้สึกเหมือนรอคอยใครสักคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แม้มีหญิงชายมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต ก็ไม่ได้มีจิตคิดผูกพันกับใครอย่างจริงจัง อาจมีบ้างที่มีรักมีสัมพันธ์กับใครไปก่อน แต่มักมีเหตุให้เลิกราหย่าร้างกันไปด้วยจิตใจที่รอคอยใครสักคนที่เป็นคู่แท้ของตน

    และหากได้พบกับคู่แท้ของตนแล้ว แต่มีวิบากจากอกุศลกรรมอันเป็นกรรมพลัดพรากมาตัดรอน เป็นเหตุให้ต้องแยกจากกันในภายหลัง การพลัดพรากจากกันของคนทั้งคู่นั้นจะเต็มไปด้วยความอาลัยรัก แม้จะจากกันไปนานนับสิบๆ ปี ก็ไม่อาจลืมกันได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อ่านเจอในเฟสบุค ก็เลยนำมาแบ่งปันค่ะ

    (พระครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย )
    วัดบ้านปาง ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน

    ..เครื่องประดับขัตติยะนารีทั้งหลาย มีแก้วแหวนเงินทอง เป็นตัณหากามคุณ

    เหมือนดั่งน้ำผึ้งแช่ยาพิษ สําหรับนําความทุกข์มาใส่ตัวบ่มีประโยชน์สิ่งใดเลย

    แม่น้ำคงคา ยมนา อิรวดี มหิ มหาสรพู ซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่ทั้ง 5 แม่น้ำนี้แม้นจักเอามาอาบให้หมดทั้ง 5 แม่นี้ ก็บ่ อาจจะล้างบาป

    คือความเดือดร้อนภายในให้หายได้ ลมฝนลูกเห็บ แม้นจะตกลงมาหลายห่า เย็นและหนาวสักปานใด ก็บ่อาจเย็นเข้าไปถึงภายในให้หายจากความทุกขเวทนาได้

    .... ศีล 5 เป็นอริยทรัพย์ เป็นต้นเหตุแห่งความบริสุทธิ์ เป็นน้ำทิพย์สําหรับล้างบาป คือความเดือดร้อนภายในให้หายได้ เมื่อศีลบริสุทธิ์แล้ว สมาธิความตั้งมั่นก็จะมีมา แล้วให้ปลุกปัญญา ปัญญาก็จักเกิดมีขึ้นได้ คือให้หมั่นรําลึกถึงตัวตนอยู่เสมอ ว่า บ่ใช่ตัว บ่ใช่ตน จนเห็นแจ้งด้วยปัญญาของตน จึงเป็นสมุทเฉทประหานกิเลส หมดแล้ว จึงเป็นวิมุตติหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวลได้....

    การปฏิบัติรักษาศีล 5 อันเป็นบันไดขั้นต่ำ เบื้องต้นของพระพุทธศาสนา มีอานิสงส์ให้ได้รับความสุขในปัจจุบัน ประจักษ์แจ้งแก่ตาดังนี้
    ครั้นตายแล้วก็ได้ขึ้นไปเกิดบนสวรรค์ ครั้นจุติจากสวรรค์ก็ได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ มีรูปอันงาม มีปัญญาเฉลียวฉลาด มีทรัพย์สมบัติมาก มีอายุยืน มีเมียมีลูกมีหลาน ก็ว่านอนสอนง่าย ไม่มีศัตรูเบียดเบียนได้ และเป็นปัจจัยให้มีความสุขไปตราบถึงพระนิพพาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ผู้ที่รักษาศีล 8 ได้ ก็ได้รับความสุขในปัจจุบันมากกว่าศีลข้อ 5 ขึ้นไปอีก คือ ไปนอนอยู่ที่วัด เป็นกายวิเวก จิตวิเวก สงบอารมณ์ ปราศจากความพยาบาท จองเวร ถีนมิทธะ ปราศจากความง่วงเหงาหาวนอน อุทธัจจะ ปราศจากความฟุ้งซ่านรำคาญใจ ไม่มีสิ่งใดมารบกวน วิจิกิจฉา ปราศจากความสงสัยในพระธรรมคำสั่งสอนแล้ว คือ ไปอบรมทำใจให้บริสุทธิ์แยบคายเสมอดั่งพรหม

    ครั้นว่าตายก็ได้ขึ้นไปเกิดบนชั้นพรหม มีความสุขและอายุยืนยิ่งกว่าชั้นสวรรค์ ครั้นจุติก็ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลสูง มีรูปโฉมอันเงางาม มีปัญญาเฉลียวฉลาด อายุยืน มียศ มีบริวาร มีอำนาจมาก

    ปุถุชนทั้งหลาย อย่าได้สงสัยว่า พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะบำเพ็ญอย่างใด ก็ไม่ได้ถึงมรรคผลและนิพพานนั้น ความจริงพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรมแล้ว จึงได้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อท่านถึงนิพพานไปแล้ว ผู้ที่ปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมคำสั่งสอน ก็ได้เป็นอรหันต์ ได้ถึงนิพพานเหมือนกัน
    ถ้าผู้ใดเล็งเห็นว่า พระธรรมคำสั่งสอนเป็นความจริงบริสุทธิ์ ผู้นั้นย่อมเล็งเห็นพระพุทธเจ้าได้ทุกเมื่อ แม้นว่าท่านยังทรมานอยู่ก็ดี ผู้ใดมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องธรรม ก็ไม่อาจจะพ้นจากทุกข์ได้

    ข้อปฏิบัติที่จะให้พ้นทุกข์ได้ ก็คือรักษาศีลบริสุทธิ์เสียก่อน ความตั้งมั่นก็จะมีขึ้น

    ....เพราะฉะนั้น ปุถุชนทั้งหลาย ผู้แสวงหาความสุขใส่ตัว จงพากันรักษาศีลให้บริสุทธิ์เถิด เมื่อศีลบริสุทธิ์แล้ว สมาธิความตั้งมั่นก็จักเกิดมีมาแล้ว ให้ปลูกปัญญาๆ ก็หากจักเกิดมีขึ้น ให้หมั่นระลึกถึงตนอยู่บ่อยๆ ว่ามิใช่ตัวตน เป็นธาตุทั้ง 4 ขันธ์ 5 ทั้งอาการ 32 โสโครก เป็นตัวทุกข์ตัวแก่ ตัวเจ็บ ตัวตาย มิใช่ตัวอันจักตามไปในโลกหน้า ให้เห็นแจ้งด้วยปัญญาของตนเองแน่นอนลงไปแล้ว จึงเป็นสมุจเฉทปหาน กิเลสหมดแล้ว จักเป็นวิมุติ หลุดพ้นจากความทุกข์ได้เป็นอรหันต์จริง ...
     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ประมวลภาพงานปริวาสกรรม ครั้งที่ ๒๘ วัดภูเพียง จังหวัดน่าน ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน - ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ มีพระสงฆ์มาร่วมงานทั้งหมด ๙๙ รูป สามเณร ๑ รูป และอุบาสก อุบาสิกา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สาระ แก่นสาร ในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอก ขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีที่สั่งสมกันมา อย่าคิดว่าเขาต้องเห็นเหมือนเรา และอย่าคิดว่าเราต้องเห็นเหมือนเขา วางลงเถอะกับเรื่องราวของใครๆ หันมาใส่ใจกับเรื่องราวของตน

    มนุษย์เป็นสัตว์สังคมก็จริง แต่นั่นเป็นแค่เรื่องราว แวดล้อมภายนอก พบปะ เจรจา ทำกิจกรรมร่วมกันได้ แต่อย่าเอาใจไปติดข้อง เอาใจไปผูก ไปยึดว่าเป็นจริงเป็นจัง เพราะทุกสิ่งล้วนสมมติขึ้นมาทั้งนั้น เหมือนสมัยเด็กๆ ที่เราวิ่งเล่นเฮฮากับเพื่อนๆ เล่นขายของ เล่นเกมส์ เราก็ต่างสมมติกันขึ้นมาว่า เธอต้องเล่นเป็นอย่างนี้นะ และฉันจะเล่นเป็นอย่างนี้นะ ตั้งกฏกติกาการแพ้ ชนะ การได้รับรางวัล ได้รับโทษ เล่นกันไปเล่นกันมาก็ทะเลาะกัน ตีกัน ดีกัน เล่นไปเล่นมาหลงยึดโกรธ เกลียดกัน อาฆาต พยาบาท จองเวร ไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ จ้องทำลายล้างผลาญกัน เพื่อนบางคนก็ผูกสมานสามัคคี รักใคร่กลมเกลียว ไม่จืดจาง คอยให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปจนตายจาก

    เหตุของความผูกพันต่างๆ ก็มาจากการสมมติทั้งสิ้น ความจริงและแก่นสารที่แท้จริงที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ จึงมองไม่เห็น วันเวลาล่วงผ่านเราทำอะไรกันอยู่ รู้สึกตัวอีกทีก็ใกล้ตาย อย่ารอให้สายเกินไปกับการใส่ใจเรียนรู้กายจิตตน ขัดเกลาธาตุขันธ์ให้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสตามกำลังวาสนาบารมี ถ้ายังไม่เพียงพอก็หมั่นสั่งสมกุศล หมั่นถอดถอนอกุศลออกจากจิตตน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...