อยู่อย่างเบิกบานด้วยตนเอง

ซักท่านละ 10 โพสต์ที่แนะให้พึ่งตนเองตามหลักพุทธะ
คือ ไม่ต้องหวังพึ่งผู้อื่นนอกจากพระธรรม
และขอเชิญผู้ตรวจภาคอาสาสมัครทำหน้าที่
ด้วยคับโผม

 

เอ... อยากเล่นด้วยคับ แต่นึกไม่ออก เดียวมาใหม่คับ

 

1.เปิดรับข้อมูลข่าวด้านลบต่างๆ
สิ่งลบๆ จะถูกบันทึกไว้ในจิตใต้สำนึก
ไม่ส่งเสริมอินทรีย์พละ จิตตะ
ให้แก่กล้านะฮับ

 

มาเป็นผู้ตรวจก็ได้ฮับ

 

ไม่กล้าหรอกคับ ความรู้เพียงหางอึ่ง สอบทานผู้อื่น อาจผิดพลั้งพลาดไป ย่อมไม่เกิดผลดีใน ทุกๆ ทางคับ

 

คิดว่า ถ้าคนไทยทุกคน มีศิล 5 ประเทศเราจะเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดเลย ไม่ต้องระวังภัย
จากคนไทยด้วยกัน อ่อนน้อม สุภาพ ไม่ด่าทอกัน ไม่แข่งขันกันเกินไป ถ้อยทีถ้อยอาศัย
เริ่มจากตัวเราก่อนเลย

 

ไปแล้วค่ะ ขอไปเอาปากหมาออกก่อน 5555

 

2.คนเราไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับตนเอง
และไม่กังวล
แต่กลับไปกังวลกับความจริงภายนอก
ตัวเอง
จนกลายเป็นมหาวิตกมวลรวม

 

ข้อ1. ถ้าไม่เอาไปวางไว้ที่ใดที่นึง คงพอกรองได้ด้วย ความเข้าใจว่า เป็นธรรมชาติ ของสมมุติ อาจพอยับยั้งและระบายออกในรูปของการพิจารณา
ข้อ2. อันนี้ต้องถามคุณ หงบคับ น่าจะมาทางนั้น

(ผิดถูกขอ อภัย มือใหม่มากคับ)

 

ต่อคับ เห็นเงียบๆไป อาจเพราะผมขัดจังหว่ะ (ขออภัย)
ผมเสนอความวิเวกภายในคับ ทั้งนี้ จะแก้การหยิบฉวยได้ระดับนึง ทั้งภายนอก ภายใน แต่คิดว่า คงได้แค่หยาบ ไปถึงกลางๆ เพราะละเอียดคงไม่ได้ใช้แล้วหล่ะ

วิเวกในที่นี้ ถ้าเทียบแล้วก็เหมือน เดินอยู่ในป่า ไม่ดูฟ้า ไม่ดูต้นไม้ ดูแต่พื้นที่เหยียบ มีแต่ลมที่พัดผ่าน รกก็เห็นอยู่ ทางเตียนก็เห็นอยู่ ไม่เน้น เหลียวหลัง มองหน้า ซ้าย ขวา

น่าจะพอเข้าคอนเซ็ปทู้บ้างนะคับ

 

3.คนเราทั่วไป ถ้าไม่สวดมนต์ ไม่ภาวนา
ไม่ได้ทำงานแล้วชำเลืองดูจิต
สมองมันก็จะคิด คิด คิด คิดแทบทุกลมหายใจ
ทั้งกุศลและอกุศล ทั้งที่เป็นคุณและเป็นโทษ
ตามข้อมูลที่รับเข้า
มาทางตา หู จมูก ปาก
แต่หากได้สวดมนต์ หรือเจริญสติอยู่
หรือทำงานแล้วชำเลืองดูจิตเป็นระยะ
เท่าที่ระลึกได้
โอกาสเห็นธรรมะก็ใกล้เข้ามาฮับ

 

4.คนเราควรใช้เวลาให้ความสนใจ
กับสิ่งภายนอก
ต่างๆ เช่น ความเลวร้ายของธรรมชาติ
เช่น ภัยธรรมชาติน้ำท่วม แผ่นดินไหว
ซึ่งจะเกิดขึ้นอีกมากมาย ทุกมุมโลก
หรือ
ความอุบาทว์ชาติชั่วของคนที่
ขาดศีลธรรมประจำใจ
ขูดรีด กดขี่หลอกลวง ที่เกิดขึ้นมากมาย
มีตัวตายตัวแทนไม่จบสิ้น
ถามว่าเรามีเวลาพอหรือฮับ??

 

ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ยุคนี้ขับรถซ้ายขวาตูม พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์นิดหน่อย

 

ข้อ3 และข้อ4 ศีลและกรรมบถ 10 น่าจะพอกล้อมแกล้มผ่านไปได้ เอิ้กๆ

 

หึย์หึย์... กระมู้ว์นี้ผู้วิเศษไม่กล้าเข้า

 

มันก้อต้องดูหน้าดูตาคนโพส/ เจ้าของห้องด้วยนะลุง ว่าชอบฝึกจิตไปติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ชอบฤทธิ์) ชอบแนวแฟนตาซีไหม ถ้าชอบแนวๆ นี้ก้อเข้าทางมัน

แต่ถ้าชอบฝึกแค่หนีสงสาร (เห็นฤทธิ์ของจิงมีบ้าง เพราะมันเปนทางผ่านของจิต แต่ไม่สนใจ) พวกนี้มันไม่เข้ามาหรอก

 

เอ.. นึกขึ้นได้ ข้อนี้เข้าแก็ปแน่นอน

เรื่องความคิดเนอะ หากแต่ไม่อยากแช่ ในความคิด ความติดขัดทางความรู้สึก ก็พึงระงับความใคร่รู้นั้น ด้วยคำตอบที่เป็นธรรมชาติว่า ทุกอย่างทำเนินอยู่ที่ปัจจุบัน ตัวเราก็มีชีวิตอยู่ที่ปัจจุบัน ความคิดที่ไม่เนื่องกับปัจจุบันนี้ เวลานี้คำตอบจะมาถึงเมื่อ เวลาดำเนินไปตามปกติ ความกังวลวิตก เป็นเครื่องเศร้าหมอง หาความสิ้นสุดไม่ได้ เหตุนั้นคำตอบจึงไม่มีแก่ความวิตกนั้น ไม่เกิดประโยชน์ พึงระงับเสียด้วยการรู้ตัวเป็นปกติว่า ปัญหาทุกอย่างไม่มีคำตอบเสมอไป ยิ่งสืบค้น ยิ่งสงสัยไม่สิ้นสุด..... ยิ้มเข้าไว้โลกสดใส

เอิ้กๆ น่าจะประมานนี้.... ย่อสั้นได้เท่านี้ พยายามเข้าใจหน่อยคับ

 

ก็ต้องมีสติการระลึกได้บ่อยๆฮับ
ถึงจะหยุดการคิดอดีตและอนาคต
และอยู่กับปัจจุบัน
แต่มันจะทำได้เป็นช่วงๆ เวลา

 

ก็ลุงแมว อยากว่างนี่คับ ทางนี้ น่าจะถูกจริต

เอิ้กๆ แซวนะคับ ไม่มีอะไร

 

จิตปลอดความคิดและเหตุผลต่างๆ
จะกลายเป็นจิตที่มีกำลัง
และพัฒนาเป็นปัญญาเห็นความจริง
ของธาตุธรรมต่างๆได้
ไม่ปฏิบัติก็ไปไม่ถึงฮับ