ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

เขาพ้นแล้วไม่ใช่หรอ เขาบรรลุธรรมแล้วไม่ใช่หรอ

บรรลุธรรมแล้วไง อธิบายจากปลายมาต้น คุยกับใครเขาก็ไม่เข้าใจคนปฏิบัติตามไม่ถูก

บรรลุแบบนี้นี่เราจะด่าให้ดู

 

เรารู้ พวกท่านพยายามเร่งให้เราปฏิบัติทุกวิถีทางเท่าที่พวกท่านจะสามารถทำได้ ต้องการให้เราปฏิบัติให้จบ

แต่ด้วยเหตุแห่งวิบากที่เราต้องรับอยู่ในขณะนี้ ทำให้เราติดอยู่กับสภาวะธรรมนั้นๆ

เราก็ต้องการข้ามฝั่งให้เร็วที่สุดเหมือนกันนั้นละ..แต่มันยังแก้วิบากไม่ได้

 

วิบากที่ว่า เกิดจากกรรมในชาติปัจจุบันนี้ละ ไม่ใช่อดีตชาติ

 

วิบาก. อธิบายไปหลาย หงแว้วว่า

หมายถึง. ควันมันต้องเกิด. หากมีเหตุ

คนที่ฟังไม่เข้าใจ. ก้จะ สำคัญตนเรื่อง
แก้กรรม แก้วิบาก แล้วก้พูดว่า. ตนสามารถ
ห้ามควันไม่ให้เกิดได้ แบบ. มหายาง
สุขาวดี ดุสิกบุรี. เมืองขวด เมาปลิ้น

ฟังไม่ได้สับ จับ กระเดียด

วิบาก. หาก. เหนถูกต้อง. จะเกิดอนุโลมิกญาณ
ก้าวข้าม. ก้าวผ่าน. แบบสมเหดสมผล. ไม่ใช่
ก้าวข้ามไม่มีตาม้าตาเรือ

และ....

ขันธ์5เปนของกลาง. ถ้าแก้ วิบากที่ตน
ตรงธรรม. โลกธาตุจำนวนล้าน. จะแก้
ไปด้วย. หลุดบ่วง ได้อานิสงค์ไปด้วย
โดย. ไมต้องแก้แบบ. ลิงแก้แห(มหายาน)
ยิ่งแก้ ยิ่งเมาปลิ้น. มีซ้าย. มีขวา
มีหญิง มีชาย. ไม่เหน. รากของปัญหา

 

ตามเกณฑ์เดิมการมาเกิดของเรา เราต้องปฏิบัติจนจบกิจตั้งแต่เดือนตุลาคม 62 ที่ผ่านมานั้นละ

แต่ด้วยวิบากต่างๆทำให้ล่าช้า ก็เราไม่รู้กิจแห่งเราตั้งแต่เกิดนี่นา ก็เผลอสร้างกรรมต่างๆด้วยความไม่รู้

ปล. ถ้าไม่แก้เรื่องนี้เราก็ไม่สบายใจ ปฏิบัติไปต่อก็เท่านั้น เราไม่ใช่คนประเภททิ้งปัญหาไว้ข้างหลัง

 

เราก็ขอพวกท่านทุกคนให้ช่วยมาหลายครั้งแล้ว

เราก็บอกอยู่ว่าจะไปปลดล็อคอะไรบางอย่าง

เจ้าชายสิทธัตถะก็สละก่อนออกบวช

พระเจ้าตากสินก็สละก่อนออกบวช

หากเราจะเดินตามทางนี้จะเป็นอะไร มีน้อยสละตามน้อยขอแค่คนอยู่หลังได้อยู่อย่างสบายใจ

 

เนี่ยะ ขาดการสดับธรรม

ไปฟังธรรม มหายาง เยอะไป เลยเมาปลิ้น
เสถียรโบ๋กะทินานกะทะ

ถ้าหมั่นสดับ คำว่า "นาบุญ" ถามไปจะต้องตอบได้ "รู้จัก"
"เนื้อนาบุญ" ถามไปจะต้องตอบได้ "รู้จัก"

เมื่อรู้จัก จะทราบว่า ผู้ที่ให้ประโยชน์ได้จริง มีแค่ 4คู่
นอกนั้น พวกเมาปลิ้น ให้ได้ไม่แน่ไม่นอน ให้แล้วแถม
เรือพ่วง กรรมพ่วง เพราะ ......

แต่ละตนตื่นมา ต้องกินข้าว

คนที่ยังต้อง หุงหาอาหาร ปรุงกับข้าว ด้วยตัวเอง
ในทางธรรมเขาถือว่า มีเหตุของความเบียดเบียน
อันเป็นเหตุ ส่งไปนาหญ้าขึ้นรก ได้

เว้นแต่ บุคคลสี่คู่ ที่ รู้ ฐานะ อฐานะ จะเป็นกรรม
ไม่เป็นกรรมได้ เช่น ภรรยานายพราณโสดาบัน
ทำลูกศรอาบยาพิษให้สามีใช้ประกอบอาชีพนาย
พราณ แบบนี้ไม่ก่อความเบียดเบียน ( เจ้าแม่
เหมียวซ่า จีบไผ่ ไม่ได้คลี่ตี )

แต่ถ้าเป็น บักโงบะ มหายาง เอะอะ นิพพานไม่
ขอแตะแม้นโสดาปฏิมรรคบุคคล มันจะเอาอะไร
ไปเป็น นาบุญของโลก มีแต่ หยิบยื่นประโยชน์
อะไรให้ ก็แฝง นาหญ้าขึ้นรก แนบไปเสมอ

สรุป

การก้าวข้าม "ปุถุชนขาดการสดับ" บุคคลที่หนึ่ง
หรือ โสดาปฏิมรรค มันไม่ใช่ การเร่ง

แต่เป็น ข้อเท็จจริง ของคนที่ ทำประโยชน์ให้แก่
ญาติกาได้จริง ไม่ใช่แต่ที่เห็นกัน แต่จะแผ่กลับ
ไป อานันจักรวาล ที่เวียนว่ายตายเกิดมา หาเบื้อง
ต้นเบื้องปลายไม่ได้ ( เยอะ กว่า กระดิกสิครรภ์ อีก)

 

แล้วท่านรู้ได้ไงว่าเราไม่แตะโสดา สกิทา อนาคา

ท่านจะรู้ไปกว่าตัวเราเองได้ยังไง..

 

เห็นมะ ไม่รู้ว่า อะไรคือ ธรรมะ

เห็น ย้อนแย้งคงอื่งว่า อย่าเอา ผล มาคุย ให้พูดแต่ มรรค

ถ้า คนรู้ธรรมตามจริง กล่าวแต่ มรรค

ไม่มีหรอก จะมาย้อนถามคงอื่งว่า รู้ได้ยังไงว่า ku มะมีโน้น นั่นนี่

เพราะอะไร

เพราะ ถ้า กล่าวแต่ มรรค แล้ว มรรค นั้นถูก

ผล ไม่จำเป็นต้อง เอา สันติ ไปล้วง เฮีย อะไรขึ้นมาดู
ว่า ku มี มะอึง ไม่มี ให้เสียเวลา

 

มรรค ถ้า ปรารภ ถูก

มรรค มีหนึ่งเดียว กิจเดียว รสเดียว

ส่วนเรื่อง สี่คู่ เป็นเรื่อง กรรมนิยาม
ธรรมนิยาม ที่ (ทะลึ่ง)ไปตั้งความ
ปราถนาเอาไว้ ถ้าไม่เกิดอุปาธิ
ก็แทงตลอด พรวดเดียว

ดังนั้น ภาวนาแบบเซิ้งกระติบ ทีละ
นิดทีละหน่อย ไม่ใช่เรื่อง ละเอียด
ละออ เป็นนักแก้ปัญหา

แต่เป็นเรื่อง โค ตา รา .......
ที่ไม่ทัน อุปาธิ ตอนกระทบธรรม

 

ฟังอีกทีนะ บักโงบะ

ที่เห็น ป๋ม เสวนากับ บักโงบะ อย่าเข้าใจ
ว่าเป็นเรือง อี๋อ๋อ สัต คุย กับ สัต

มันเป็นเรื่องของ ปัจจัยการ คือ กตัญญู

บักโงบะ ปรารภเรื่อง มรรค ความเพียร
ในการ กตัญญู ทำให้ เกิด "วาทะ" หรือ
"วิวาทะ" ปรากฏ เป็นสิ่งที่โลกเรียกว่า
"การสนทนา"

ถ้าเป็น ตามกาล เป็นมงคล ก็เกิด จาก ปัจจัย

ถ้าเป็น อัปมงคล สนทนาตลอดกาล ก็เกิด
จาก เจตนา อยากคุย เต่างอย

ดังนั้น

ถ้าเมื่อไหร่ มีปัจจัย คือ ความไม่รู้คุณ ปรากฏ

ป๋ม ก็ บายบาย ไปตามเหตุ

 

ยกตัวอย่าง คนปรารภ มรรค

ปรารภ ความเพียร ทาง กตัญญู



ตราบใด ปรารภ ความเพียร ก็จะ ตำหนิไม่ได้

 

เราฟังคำสอนฮวงโป กับ คำสอนท่านโพธิธรรม(ปรมจารย์ตั๊กม้อ)เท่านั้นละ

แค่นี้ก็เหมือนศึกษาพระคัมภีร์ทั้งเล่มแล้ว

 

แล้วตรงไหนที่ว่าเราไม่มีความเพียร เราไม่กตัญญู

เราก็เพียรและกตัญญูในแบบของเรานั้นละ

 

มรรค ก็คือ มรรค จิฮับ

ปรารภ มรรค สิ่งที่ปรารภนั้น จะเป็นเรื่อง ทรงจำคำศาสดามากล่าว

มรรค ที่มี ตัวเรา เขา ไปจับเป็น เจ้าเข้า เจ้าของ

ป๋ม จะเรียกว่า เฮีย ส่งมาเกอะ

 

คง ในรูป หากได้ บวช

คง ที่ได้ บวช ในทางธรรม เขาจะถือว่า

ต้องเคย อุปถัมภ์ พระสมณธโคดม มาใน
กาลใดกาลหนึ่งมาก่อน

บักโงบะ เคยบวชๆ สึกๆ

ถ้า เคย บวชๆ สึกๆ แปลว่า ไม่ได้ ทำบุญ
กับ ศาสดาองค์ปัจจุบันมา แต่อาจเคย
ไปกราบ พระสักรูป ถวายปัจจัย ไทยธรรม
แล้ว ขอหวย อะไรงี้

จึงมี วาสนาได้บวช แต่ไม่มี วาสนา ครองผ้า

เพราะ ไม่มี ฉันทะ เป็น เหตุ รากเง้า ปรากฏ


สังเกต ไหมฮับ ไม่ต้อง เอา สันติ ไปล้วงคอ
ไปเตะตับ จึงจะทราบว่า ใครมี ใครไม่มี

ปัจจัยการ มันแสดงออกทาง ขันธ์5 ความ
อาการปรารภความเพียร( ไม่ใช่ ที่พูดๆ
บอกว่ามี บอกว่าเป็น แต่ ดูจาก กรรม หรือ
พืช หรือ กรรมพืช หรือ กรรมมาพัน หรือ
"กรรมตราหน้า" )

 

เราสมัครสมาชิกเข้ามารอบนี้ วันที่ 1 ธันวาคม 62

แล้ววันที่ 1 เป็นวันสำคัญอะไรพวกท่านรู้หรือเปล่า

วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันสำคัญอะไร

วันที่ 12 ธันวาคม เป็นวันสำคัญอะไร

วันที่ 21 ธันวาคม เป็นวันสำคัญอะไร

วันที่ 22 ธันวาคม เป็นวันสำคัญอะไร



โดยเฉพาะวันที่ 1 ธันวาคม นั้นละทุกอย่างย่อมมีเหตุ เกิดโดยธรรม เป็นไปตามธรรม

 

เหตุจากการได้บวช คือ แม่เราถวายเราให้เป็นลูกพระตั้งแต่เด็ก

ด้วยเราเกิดมามีโรคประจำตัวที่รักษาไม่ได้ เลี้ยงยาก แม่ทำทุกวิถีทางก็ไม่หาย

เหลือทางเดียวคือถวายให้เป็นลูกพระสงฆ์ตั้งแต่เด็ก โดยเมื่อถึงอายุครบบวชต้องให้บวช

 

มันจะเป็น อาราย

สีลทะลุ เขาไม่ถาม ก็อยากบอก ยิ๊กๆ อะจิ

เดี๋ยว ก็เหมือน สองคนนั้น หัวโต งัวสารวัน(เตี้ยลง นาหญ้าขึ้นรก)

กำหนดวัน 10 ธ.ค 15 ธ.ค ถ้าไม่กิน อาหารเสริม ร่างกาย จะสลาย

ฮิวววววววววส์ ผ่านไปจะข้ามปี แล้วฮับ