ถ้าผมบวชไม่สีกนี่ จําเป็นไหมที่ต้องไปเรียน เอก โท ตรีครับ ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 15 เมษายน 2008.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,465
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    คือ ผมมีความคิดอยากบวชไม่สึกในอนาคต เเต่้ถ้าผมบวช ผมคิดว่า ผมไม่อยากเรียนนักธรรม เอก โท ตรี คือ อยากบวชอยู่อย่างสงบๆ อ่านธรรมะ ศีกษาธรรมะ อ้อ หนักไปทางธรรมะนะครับ ผมไม่ชอบพวกบาลี สันสกฤต ไม่ทราบว่าจะผิดไหม ? เเละ พระที่บวชไม่สึกนี่ ต้องมีหน้าที่ทําอะไรบ้างในประจําวันครับ ? รบกวนพี่ๆช่วยเเนะนําด้วย ขอบคุณครับ อ้อ ผมก็คงศีกษาธรรมะไป เเละก็ให้คําเเนะนําเเก่ญาติโยมที่มาวัด เเละก็นั่งสมาธิไปด้วยครับ เพราะส่วนตัว ผมชอบการนั่งสมาธิให้จิตสงบอยู่เเล้ว ขอเเค่นี้ก่อนครับ ขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกคนมากครับที่เเนะนํา
     
  2. VickiesII

    VickiesII เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +491
    ควรจะเรียนนักธรรมตรี เป็นพื้นฐานครับ เพราะสอนเกี่ยวกับวินัยพระ การปฦฏิบัติตัว พุทธประวัติ แบบคร่าวๆไม่ละเอียด ถ้าจะละเอียดต้องอ่านในพระไตรปิฏก

    เช่น วินัยพระ ในนักธรรมตรี มันเขียนคร่าวๆใช้ไม่ได้เลย พระเลยมั่วศีลกันไปหมดเดี๋ยวนี้ วินัย1ข้อ นักธรรมตรีอธิบายไม่กี่บรรทัด แต่ในพระไตรปิฏกอธิบายเป็นสิบๆหน้า

    นักธรรมโท เอก จะเรียกหรือไม่เรียน ก็ได้ แต่ถ้าเรียนมากภาระก็มาก ส่วนมาก ก็จะหยุดที่นักธรรมโท หรือ เอก แล้วก็ไปปฏิบัติเอา
     
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    ก่อนอื่นควรจะถามตัวเองก่อนว่า

    บวชทำไม
    แล้วทำไม จะต้องบวชไม่สึก

    ถ้าตอบคำถามสองข้อนี้ได้ เรื่องอื่นก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,465
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    บวชเพราะอยากสงบ ละกิเสสทั้งปวงครับ ทุกวันนี้ผมก็พยายามละกิเลสให้ลดลงไปให้ได้เรื่อย ๆ แต่อย่างเดียวที่ยังไม่ได้คือ อยากตอบแทนผู้มีพระคุณให้ได้ก่อนบวชครับ คือ อยากประสบความสําเร็จซื้อบ้านให้คนมีพระคุณให้ได้ก่อน เรื่อง รถ ผุ้หญิง อะไรนี่ ผมไม่สนเลยครับ มีที่กิน ที่อยู่ ร่างกายเเข็งแรงนี่ก็ถือว่า สวรรค์สําหรับผมแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2015
  5. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ขออนุโมทนา

    แนะนำให้ท่านศึกษาจาก

    ธรรมะบรรยาย

    ท่านพุทธทาสภิกขุ
    การบวชคืออะไร ?
    ที่มา http://www.buddhadasa.in.th/site/sounds.php

    หลวงปู่ชา
    "บวชเพื่ออะไร"
    ที่มา http://www.dhammathai.org/sounds/bhodhiyanthera.php

    หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต

     
  6. max77

    max77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +493
    อยู่ที่ว่า จะเอาความรู้เหล่านั้นไปทำอะไร

    ความรู้ทางธรรม กับ ความรู้ทางโลก จุดหมายปลายทางมันคนละอย่าง แต่หากไม่เดินทางในทางธรรมให้ถึงที่สุด (นิพาน หรืออย่างน้อยก็ระดับโสดาบัน) ก็เอาความรู้ทั้งสองมาประยุกต์ เพื่อพัฒนาจิตใจกับเหล่าสาธุชนได้ ก็เห็นตัวอย่งพระหลายๆ รูป ที่จบ ดร. แล้วมาบวชไม่สึกก็หลายรูป และท่านเหล่านั้นก็ใช้ความรู้ทั้งทางโลก และทางธรรม มาพัฒนาชุมชนที่ท่านอยู่ก็มี
     
  7. เดินผ่านมา

    เดินผ่านมา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +15
    การบวชเป็น กุศลอันสูงสุด
    ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะบวชตลอดชีวิต
    ให้เราลองปฏิบัติธรรมแบบฆราวาสดูก่อนก็ได้
    ซึ่งง่ายๆในชีวิตประจำวัน เช่น
    อ่านพุทธประวัติ รักษาศีล 5 ให้มีสัมมาทิฏฐิ
    อ่านประวัติครูบาอาจารย์ ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
    หากัลยาณมิตร สนทนาธรรม ที่ถูกต้องตามธรรมะของพระพุทธเจ้า
    และพยายามปฏิบัติธรรมบ่อยๆขึ้น
    บางอย่างการเป็นฆราวาสก็ สามารถปฏิบัติธรรม ได้อย่างสุข และสงบ
    ลดละความยึดมั่นถือมั่น ดังนั่นผู้บรรลุธรรม จะเห็นได้ด้วยตัวเอง
    เจริญธรรมทุกท่าน
     
  8. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ขออนุโมทนา ในดำริบวชไม่สึกครับ ถ้ามีโอกาสลุยเลยครับ

    ก่อนบวชต้องเรียนรู้เรื่องวิถี จารีต ประเพณี ข้อห้าม วินัย ศีล 227 ให้รู้เสียก่อน ถ้าไม่ต้องการเรียนนักธรรม หรือเรียนนักธรรมก็ดีเหมือนกันเพราะเป็นสิ่งที่รองรับความรู้ในวิชาชีพนักบวชโดยเฉพาะ อย่างน้อยก็ทำให้พูดได้เต็มปาก ถ้าไม่เรียนใครจะรับรอง

    ก่อนบวชขอให้เลือกสถานที่ที่จะไปบวชก่อนนะครับ เพราะสำคัญมาก ถ้าเจ้าวัดชอบปลุกเสกก็หนักไปในทางวัตถุมงคล ถ้าชอบพัฒนาก็หนักไปในการก่อสร้างจนหมดแรง ถ้าบวชทื่วัดป่าชอบปฏิบัติ เราก็ได้ปฏิบัติธรรมสมใจ

    ขอให้โชคดีในการได้บวช ในสถานที่ที่เหมาะสมกับความตั้งใจ.
     
  9. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ดูจิตเมื่ออยากศึก
     
  10. ธรรมทิพย์

    ธรรมทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +433
    ถ้าผมบวชไม่สึกนี่ จำเป็นไหมที่ต้องไปเรียน เอก โท ตรี ครับ

    ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญในกุศลจิต และการตั้งปณิธานที่แน่วแน หลายคนตั้งปณิธานไว้แต่ทำไม่ได้ หลายคนไม่คิดจะบวชนานแต่บุญบารมีนำพาทำให้สึกไม่ได้ก็มี เช่น หลวงพ่อ จรัญ วัดอัมพวัน

    การบวช หมายถึง การเว้นทั่ว คือ การเว้นความชั่วทุกอย่าง ในส่วนของภัยอันตรายของภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ จากพจนานุกรมฉบับพุทธศาสตร์กล่าวไว้ว่า

    1. อูมิภัย (ภัยคลื่น คือ อดทนต่อคำสั่งสอนไม่ได้ เกิดความขึ้งเคียดคับใจ เบื่อหน่ายคำตักเตือนพร่ำสอน)
    2. กุมภีลภัย (ภัยจรเข้ คือ เห็นแก่ปากแก่ท้อง ถูกจำกัดด้วยระเบียบวินัยเกี่ยวกับการบริโภค ทนไม่ได้ )
    3. อาวฏภัย (ภัยน้ำวน คือ ห่วงพะวงใฝ่ทะยานในกามสุข ตัดใจจากกามคุณไม่ได้ )
    4. สุสุกาภัย (ภัยปลาร้าย หรือภัยฉลาม คือ เกิดความปรารถนาทางเพศ รักผู้หญิง)

    ดังนั้นหากมีความปรารถนาที่จะบวชไม่สึก พึงระวังภัยดังกล่าวข้างต้นไว้ให้ดี

    ส่วนคำถามที่ว่า จำเป็นไหมที่ต้องเรียนนักธรรมตรี โท เอก ตอบว่าไม่ถึงกับจำเป็น เพราะคำว่าจำเป็น หมายถึง ไม่ทำไม่ได้ แต่ควรจะศึกษาเพราะเป็นองค์ความรู้ทางทฤษฎี เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นในเรื่องต่าง ๆ เช่น พุทธประวัติ ประวัติพุทธสาวก พระธรรมคำสอนต่าง ๆ พระวินัย และกระทู้ ธรรม ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในการเขียนเรียงความขยายพุทธศาสนสุภาษิต ทำให้เป็นคนละเอียดอ่อนมีเหตุมีผลในการคิดอย่างเป็นระบบ

    เรื่องดังกล่าวข้างต้น แม้แต่ฆราวาสก็ควรศึกษาในฐานะหนึ่งในพุทธบริษัท ๔ เด็กนักเรียนบางคนเรียนตั้งแต่อยู่ประถมศึกษา บางคนจบธรรมศึกษาชั้นเอก ตั้งแต่เรียนชั้น ม.๑ หรือน้อยกว่านั้นก็ยังมีค่ะ

    นับประสาอะไรกับนักบวช หากไม่รู้เรื่องดังกล่าวก็ทำให้ขาดความมั่นใจ ญาติโยมไม่ศรัทธา การเป็นนักบวช ต้องศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน ให้ทราบถึง ปริยัติ จึงจะปฏิบัติได้ดี จนถึง ปฏิเวธ ( และได้รับผลของการปฏิบัติ)

    นักบวชที่ดีต้องรอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อหาวิธีการสั่งสอนญาติโยมให้ประพฤติปฏิบัติดี ต้องเก่งปฏิสันถารจึงจะเผยแผ่ธรรมได้กว้างไกล ข้อสำคัญต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ญาติโยมเห็นด้วยค่ะว่าบวชเพื่อลดละตัดกิเลสจริง ๆ มิใช่ ทำหน้าที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไปวัน ๆ เท่านั้น


     
  11. ธรรมดีได้ดี

    ธรรมดีได้ดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +178
    คิดแบบเดียวกับผมเลยครับ ที่ว่าจะบวชแล้วไม่สึก แต่ติดอยู่ตรงที่อยากตอบแทนพระคุณพ่อแม่ก่อน ตอนนี้ผมยังลังเลอยู่เลยครับว่าจะเริ่มยังไงดี คิดดูแล้วถ้าเราไปทำงานหาเงิน สิ่งต่างๆ ที่จะทำให้พ่อแม่สบาย เช่นบ้าน รถยนต์ แต่ท้ายสุดแล้วผมว่าก็คงยังไม่หมดห่วงหรอกครับ เลยคิดได้ว่าเราไม่อยากเดินอ้อมโดยต้องรอให้ทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีทุกอย่างผมว่าแบบนั้น อาจจะไม่ดีก็ได้ครับ(ตัดช่องแต่พอตัว) เพราะคนเราจะตายตอนไหนก็ไม่รู้ สมมติว่าพอมีทุกอย่างแล้ว ตายก่อนที่จะได้บวช ได้หาอาจารย์ผู้รู้ ที่จะสอน แนะนำเราได้ แล้วเราก็จะรู้ได้ว่า อ้อ.. ไปอีกแล้ว 1 ชาติ ต้องวนอีกแล้วหรือ ผมเลยเอาธรรมะแทนคุณพ่อแม่ โดยแนะนำการนั่งสมาธิฯ อยากให้ท่านเลิกทำสิ่งอกุศลต่างๆ แต่ท่านกลับไม่ชอบเท่าไรนัก ทุกวันนี้เลยตัดสินใจไม่ได้ซักที ห่วงท่านก็ห่วง แต่เราเองก็ไม่อยากเสียเวลาที่มีอยู่ไปมากกว่านี้แล้ว กลัวจะหมดเวลาซะก่อน ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ ถ้ามีบารมีเราคงได้พบกัน อนุโมทนาด้วยครับ
     
  12. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,465
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    ถามพี่ธรรมทิพย์ อีกทีครับ เรื่องการเรียนตอนบวช จากที่พี่กล่าวมาว่าต้องเรียนพวกนี้ พุทธประวัติ ประวัติพุทธสาวก พระธรรมคำสอนต่าง ๆ พระวินัย และกระทู้ ธรรม ถ้าพวกนี้ผมชอบครับ เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือธรรมะอยู่แล้ว ไม่ชอบอยู่อย่างเดียวก็คงจะเป็นพวกบทสวด คือผมชอบสวดมนต์นะ แต่จะให้ไปศึกษาภาษาบาลีนั้น ผมว่ามันน่าปวดหัวสําหรับผม คือที่ผมไม่ค่อยอยากเีรียนคือพวกบาลีสันสกฤตนี่ละครับ ไม่ทราบว่า ถ้าบวชไม่สึกต้องเรียนไหมพวกนี้ว่าคําๆนี้ แปลว่าอะไร ส่วนตัวผม ผมว่าถ้าจะบวชไม่สึกทั้งที ควรเรียนเอาไว้ ไม่ควรไปยึดว่า อะไรชอบ ไม่ชอบ ผมเข้าใจดีครับ แต่แค่อยากรู้ว่า ต้องเรียนไหมภาษาบาลีนี่ มันรวมอยู่ในการสอนที่พี่บอกมารึเปล่าครับ ? โปรดชี้ทางสว่างด้วย ขอบคุณมากๆครับพี่ และทุกคนที่เข้ามาตอบ ผมสว่างขึ้นเยอะเลยครับ /\
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2015
  13. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    ขอให้ตั้งใจจริงนะคับ อนุโมทนาในบุญกุศลที่จะทำด้วยคับ ไว้เด๋วสักพัก เมื่อถึงเวลาผมก็จะตามไปด้วยคับ
     
  14. ธรรมทิพย์

    ธรรมทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +433
    ตอบ คุณ Tummaism

    ขอบคุณที่ไว้วางใจ และถามโดยระบุผู้ตอบ ก็ขอตอบตามความเข้าใจ หากผิดพลาดประการใดก็ขอความกรุณาจากผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

    น้องถามโดยสรุปว่า หากบวชไม่สึกจำเป็นไหมต้องเรียนพวกภาษาบาลี สันสกฤต เพราะไม่ชอบเรียนคิดว่าเรียนแล้วปวดหัว ขนาดยังไม่เรียนก็ยังรู้สึกปวดหัวเสียแล้วเพราะอคติหรือเปล่าคะ ?

    จริง ๆ แล้วภาษาเป็นเพียงเครื่องมือหรือสมมุติสัจจะไม่ใช่ปรมัตถ์สัจจะ แต่หากมีเครื่องมือที่ดีก็จะทำให้เราศึกษาได้อย่างเข้าถึง เข้าใจมากขึ้น เช่น เราต้องการศึกษาเรื่องราวของชนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ถ้าเราไม่เรียนรู้ภาษาของเขา เราก็ไม่สามารถเข้าถึง ความคิด วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเขา ในโลกนี้จึงมีภาษาสากลเพื่อเป็นสื่อในการเข้าใจกันและกันนั่นเองค่ะ

    ในส่วนของภาษาบาลี (เข้ามาในรูปแบบการเผยแผ่ศาสนา) ส่วนภาษาสันสกฤต (เข้ามาในรูปแบบของวรรณคดี เช่น รามยณะ หรือ รามเกียรติ์ เป็นต้น) การศึกษาพุทธศาสนาจะใช้ภาษาบาลีค่ะ

    หากบวชแล้วเรียนนักธรรมตรี โท เอกเพื่อต้องการสอบให้ได้ใบ
    ประกาศนียบัตร เรื่องของภาษาบาลีนั้นไม่ต้องเรียนแบบลึกซึ้งจะมีเกี่ยวข้องอยู่บ้าง คือเรื่องของพุทธศาสนสุภาษิต ที่เราต้องพยายามท่องจำเป็นภาษาบาลีเพื่อนำมาเขียนขยายความกระทู้ธรรม เช่น อัตตาหิ อัตโน นาโถ, ตนแลย่อมเป็นที่พึ่งของตน. เป็นต้น ใคร ๆ ก็ท่องได้ไม่ยากหากตั้งใจจริงค่ะ

    ในส่วนของภาษาบาลี จะเกี่ยวข้องอย่างยิ่งในเรื่องของการศึกษาด้านเปรียญธรรมเพื่อจะสอบให้ได้วุฒิทางธรรมซึ่งมีหลักสูตรโดยเฉพาะ ต้องแปลภาษาบาลีเป็นภาษาไทย, ภาษาไทยเป็นภาษาบาลี เป็นต้น ยิ่งศึกษาในระดับสูง ยิ่งเพิ่มความยาก

    หากศึกษาเรื่องภาษาจะทำให้สามารถศึกษาพระพุทธวจะได้ลึกซึ้งไม่ผิดเพี้ยน ถือว่าเป็นการสืบต่ออายุพระศาสนา อีกทั้งทำให้เกิดความเข้าใจและอธิบายรากศัพท์ได้ดีขึ้นจึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง

    อนึ่ง หากมองในมุมกลับหากศึกษาเพื่อล่าลาภยศ มิใช่เพื่อประโยชน์ในการสั่งสอนอบรมก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร พระนักปฏิบัติ สายพระวัดป่าส่วนใหญ่ท่านจะเน้นการปฏิบัติมากกว่าการศึกษาเรื่องเหล่านี้ เคยสังเกตไหมว่าทำไมชาวต่างชาติจึงนิยมบวชมากในสายพระวัดป่า ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ภาษาบาลี

    จุดมุ่งหมายของการบวชคืออะไร เพื่อความหลุดพ้นใช่หรือไม่ การหลุดพ้นจึงไม่ได้อยู่ที่รู้ภาษาบาลีมากน้อยหรือไม่เพียงไร การรู้ภาษาบาลีไม่ใช่เครื่องวัดว่าใครจะพ้นทุกข์ได้เร็วกว่ากัน การเข้าใจถึงแก่นและรู้เรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา รู้หลักของอริยสัจ ๔ และเดินตามทางสายเอกก็น่าจะได้ประโยชน์กว่าการมุ่งเน้นเรียนเพื่อให้ได้เปรียญธรรมเพื่อล่าลาภยศ

    ในทางกลับกันหากเรามีความรู้ด้านภาษาบาลี ย่อมทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ดี ด้วยความเข้าใจมากกว่า อีกทั้งเป็นพระนักปฏิบัติด้วยเราก็สามารถสืบทอดพระพุทธศาสนาได้ดีกว่าผู้ไม่รู้ภาษาบาลี ใช่หรือไม่ ?

    ดังนั้นอยากแนะนำให้เปิดใจให้กว้าง เรียนรู้บ้างก็ไม่เสียหาย ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องสมัครสอบในระดับเปรียญธรรม ศึกษาพระไตรปิฎก ศัพท์คำใดไม่ทราบก็สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้จากประมวลคำศัพท์พระพุทธศาสน์ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน

    เจริญธรรมค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...