ทหารไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย tadah, 17 เมษายน 2008.

  1. tadah

    tadah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +25
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนทหารทุกนายครับ
    ขอให้ปลอดภัย ทุกๆๆนายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2008
  3. Kanita

    Kanita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +381
    ขอเป็นกำลังใจให้ทหารหาญทุกๆท่านครับ ขอให้ทุกท่านปลอดภัยทุกๆประการ
     
  4. เทพมารพรหม

    เทพมารพรหม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอบคุณทหารผู้หาญกล้า ทุกๆท่าน ที่ทำให้เรามีความสุขได้ทุกวันนี้
    หากไม่มีพวกท่านแล้ว พวกเราคงยิ้มกันไม่ได้ คงต้องนั่งร้องไห้ทุกวี่วัน
     
  5. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    เป็นห่วงและเป็นกำลังใจให้กับทหารไทยใจกล้าทุกคนครับ
     
  6. พระสิรภพ

    พระสิรภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +83
    ด้วยอำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบุญบารมีที่อาตมาได้สั่งสมมาทุกภพทุกชาติ
    รวมทั้งบุญบารมีพระสยามเทวาธิราช เทพยดาฟ้าดิน
    ทุกระดับชั้น จงดลบันดาลปกป้องและคุ้มครองเหล่าทหาร
    ไทยที่ปฎิบัติหน้าทีในสามจังหวัดชายแดนไทย ให้ปลอดภัยด้วย
    ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนเหล่านั้นรับรู้ ความปรารถนาดีของอาตมา
    ขอให้มีความสงบสุข สันติภาพ แ่ก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าโดยเร็วพลันด้วยเทอญ
     
  7. ชนณพัฒน์

    ชนณพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2008
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +72
    ขอส่งกำลังใจให้ทหาร ข้าราชการทุกหน่วยงาน ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกคน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองทุกท่านปลอดภัย และขอให้มีความสงบสุขโดยเร็ว
     
  8. ภาวิโต

    ภาวิโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +268
    "จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฎิมา" ชาติของเราเป็นไทยอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะบรรพบุรุษของเรา เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิต เข้าแลกไว้ เฉกเช่นเหล่าท่านทั้งหลายกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ ขอจงเป็นสุขเถิดทหารกล้า
     
  9. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    ประเทศไทย...รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
    เป็นประชารัฐ ผไทผองไทยทุกส่วน
    อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล
    ด้วยไทยล้วนหมาย...รักสามัคคี
    ไทยนี้รักสงบ...แต่ถึงรบไม่ขลาด
    เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่..
    สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี
    เถลิงประเทศชาติไทยทวี..มีชัยชโย..
     
  10. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออาราธนาอำนาจบารมีอันไม่มีประมาณแห่งพระรัตนตรัยทั้งในอดีตกาลที่ล่วงลับไปแล้ว ในปัจจุบันกาลนี้ และอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า คุ้มครองรั้วของชาติผู้เสียสละทุกท่านให้แคล้วคลาด ปลอดภัย
    สาธุ

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  11. tanin5

    tanin5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +289
    ไม่มีชาติ ก็ไม่มีศาสนา และถ้าไม่มีศาสนาแผ่นดินคงลุกเป็นไฟมากกว่านี้
     
  12. ณิช

    ณิช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,391
    กำลังใจ

    ดูรูปแล้วทำไมน้ำตาจะไหลก็ไม่รู้ ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยได้โปรดคุ้มครองทหารทุกคนปลอดภัย และทุกๆคนที่อยู่ใน3จังหวัดชายแดนใต้และหลายอำเภอในจ.สงขลาด้วย
     
  13. joey&kumannoi

    joey&kumannoi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    ขออำนาจพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จงดลบันดาลบุญของข้าพเจ้าและสามี ที่สะสมมาตั้งแต่อดีตชาติ และปัจจุบันชาติ มายังเทวดาประจำตัวของทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทหารของสมเด็จพระราชินีนาถทุกคน ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อประเทศชาติ เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องประชาชน และเทวดาประจำตัวของทุกคนในครอบครัวเค้า และญาติทิพย์ของทหารทุกคน กุศลผลบุญจะเกิดกับข้าพเจ้าและสามีเช่นไร ขอให้พวกท่านได้รับแบบที่ข้าพเจ้าและสามีได้รับ ตลอดกาล


    ขออำนาจพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จงดลบันดาลบุญของข้าพเจ้าและสามี ที่สะสมมาตั้งแต่อดีตชาติ และปัจจุบันชาติ มายังนายเวรและญาติผู้ที่จะมาเอาชีวิตของทหารเหล่านี้ กุศลผลบุญจะเกิดกับข้าพเจ้าและสามีเช่นไร ขอให้ท่านได้รับแบบที่ข้าพเจ้าและสามีได้รับ ได้รับบุญแล้ว โปรดจงอโหสิสิ่งที่ทหารเหล่านั้นได้เคยฆ่าและเบียดเบียนชีวิต พวกท่าน เลิกจองเวรต่อกันเถิด

    ขออำนาจพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ โปรดจงปกป้องคุ้มครองผู้ที่เสียสละเพื่อแผ่นดิน เพื่อประเทศชาติ


    หลวงปู่สอนเรื่องการอุทิศบุญ
    http://www.samyaek.com/mambo/index.php?option=com_content&task=view&id=317&Itemid=44
     
  14. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุนบอกว่า ทหารตำรวจประจำการขณะลาดตระเวณ ถ้ารู้สึกไม่ดีท่องอิติโสไว้ให้พระรัตนไตรคุ้มครองค่ะ ขอให้เชื่ออย่างหมดใจนะคะ
     
  15. montri_p

    montri_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +467
    ขอให้เกิดและมีสิ่งศักดิ์สิทธ์จริง ที่สามารถคุ้มครองทหารดีให้ปลอดภัยด้วยเทอญ สาธุ
     
  16. malee123

    malee123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,843
    ขอสดุดีเหล่าทหารกล้าที่ได้พลี เลือด....เนื้อ....ทุกหยาดหยด เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยไว้ ให้ลูกหลานรุ่นต่อไปได้อยู่อาศัย

    พวกเราขอสำนักในความดีของเหล่าทหารไทย
     
  17. tadah

    tadah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +25
    หนึ่งในวีรบุรุษ

    ร้อยตำรวจเอกธรณิศ ศรีสุข ยอดวีรบุรุษ ตชด.-โดย พันทิวา (น.อ.วิพันธุ์ ชมะโชติ)
    คัดลอกมาจาก :http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5333371&Ntype=12


    ร้อยตำรวจเอกธรณิศ ศรีสุข ยอดวีรบุรุษ ตชด.
    โดย พันทิวา (น.อ.วิพันธุ์ ชมะโชติ)

    ปลายปี 2550 ไฟใต้ยังคงลุกโชนอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนด้ามขวาน ถึงแม้จะดูเหมือนว่ากำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจะปฏิบัติการเชิงรุกอย่างได้ผล สามารถปิดล้อมตรวจค้นจับกุมทั้งแกนนำฝ่ายตรงข้ามกับแนวร่วมและสามารถยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมากก็ตาม

    แต่ความรุนแรงของเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยังคงปรากฏให้เห็น เพราะกลุ่มโจรใต้อาศัยความชำนาญภูมิประเทศและการเป็น " เจ้าของพื้นที่' เป็นกลยุทธหลักและข้อได้เปรียบในการก่อเหตุร้ายอย่างไม่เลิกรา

    ด้วยเหตุนี้ปฏิบัติการอย่างทุ่มเทของทหารตำรวจในพื้นที่ภาคใต้จึงยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นที่มาของเรื่องราวดุจดังตำนานแห่ง "วีรชนคนกล้า' ของชาติอันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าแผ่นดินไทยยังคงมีผู้ที่พร้อมจะสละทุกสิ่งแม้กระทั่งชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมืองและน้อมเกล้า ฯ ถวายเป็นราชพลี

    เช้าวันเสาร์ที่ 29 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ผู้คนในกรุงเทพและในอีกหลาย ๆ จังหวัดได้พักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากหน้าที่การงานมาตลอดทั้งสัปดาห์

    [​IMG]

    [​IMG]

    แต่ที่จังหวัดยะลาบนเส้นทางสายบันนังสตา - เขื่อนบางลาง " ชุดเคลื่อนที่เร็ว' จำนวน 12 นาย ซึ่งเป็นกำลังจากกองร้อยรบพิเศษที่ 1 กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดนหรือที่รู้จักกันในนาม " พลร่ม ตชด.' แห่งค่ายนเรศวร หัวหิน ได้ออกปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่ต้องสงสัยเพื่อรักษาความปลอดภัยหลังได้เบาะแสว่ากลุ่มโจรใต้วางแผนที่จะดักซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่และประชาชนที่จะใช้เส้นทางดังกล่าว

    เมื่อชุดเคลื่อนที่เร็วทั้ง 12 นาย ไปถึง "เนินนวรัตน์' ซึ่งภูมิประเทศสองข้างทางเป็นเนินสูงปกคลุมไปด้วยป่ารกทึบเอื้ออำนวยต่อการวางกำลังรอคอยเป้าหมายที่จะผ่านเข้ามาใน "พื้นที่สังหาร' ที่กำหนดไว้

    ร้อยตำรวจเอกหนุ่มวัยสามสิบ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดเจ้าของร่างล่ำสันรู้สึกผิดปกติและสำเนียกได้ถึงความเงียบเชียบที่แตกต่างจากทุกครั้ง มันเป็นเสมือนสิ่งบอกเหตุว่ามี " อะไรบางอย่าง' ที่เป็นอันตรายรอคอยอยู่เบื้องหน้า

    "ผู้กองแคน' ของลูกน้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาโดยตลอดจึงสั่งหยุดเคลื่อนที่เพื่อปฏิบัติตามยุทธวิธีและขั้นตอนของการรบนอกแบบ นั่นคือการใช้ "ส่วนล่วงหน้า' เดินเท้าเข้าตรวจสอบในบริเวณต้องสงสัย

    ด้วยความองอาจและหัวใจแกล้วกล้าของนายตำรวจนักรบที่มีจิตวิญญาณความเป็น "ผู้นำ' อย่างเต็มเปี่ยม ผู้กองแคนอดีตนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 54 จึงทำหน้าที่ "ส่วนล่วงหน้า' ด้วยตนเองเหมือนเช่นทุกครั้งที่ออกปฏิบัติภารกิจซึ่งเขาจะต้องก้าวเท้านำหน้า พลร่ม ตชด. ที่อยู่ในทีมโดยไม่หวั่นไหวพรั่นพรึงต่ออันตรายใด ๆ

    [​IMG]

    [​IMG]

    อาวุธอัตโนมัติที่อยู่บนมือของร้อยตำรวจเอกแห่งตระกูล "ศรีสุข' กระชับแน่น สายตาที่เต็มไปด้วยประกายมุ่งมั่นมองกวาดไปยังแนวป่าบนเนินสองข้างทางอย่างระแวดระวัง

    นิ้วที่แตะอยู่บนไกปืนพร้อมที่จะเหนี่ยวยิงสาดกระสุนเข้าใส่บริเวณต้องสงสัยหากว่าเสียงปืนของฝ่ายตรงข้ามดังขึ้น

    ไม่ไกลจากตำแหน่งที่ผู้กองหนุ่มแห่งค่ายนเรศวรกำลังเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ กลุ่มโจรใต้ไม่ต่ำกว่า 20 คน พร้อมอาวุธกำลังเล็งศูนย์เข้าใส่เป้าหมายของพวกมัน

    กาลีแผ่นดินเหล่านั้นรู้จักหน้าค่าตาและชื่อเสียงของ "ผู้กองแคน' ในฐานะหัวหน้าชุด ตชด. แห่งฐานปฏิบัติการเขื่อนบางลาง ซึ่งเป็นนักรบจู่โจมที่มีผลงานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ทั้งในด้านยุทธการและการเข้าถึงมวลชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี จนทำให้ชาวบ้านหันมาให้ความร่วมมือกับทางการมากขึ้น

    การปรากฏตัวของผู้กองแดนในเช้าวันปะทะจึงเป็นเสมือนการปรากฏของ "เป้าหมาย' ที่มีค่ามากที่สุดสำหรับการซุ่มโจมตี โจรใต้กลุ่มนั้นจึงหันปากกระบอกเล็งเข้าหาร่างของนายตำรวจหนุ่มเป็นจุดเดียว เพื่อที่จะระดมปืนเด็ดชีพคนเป็น " หัวหน้าชุด' ให้ได้เป็นลำดับแรก

    แล้วในบัดดลนั้นกัมปนาทการยิงก็แผดสนั่นหวั่นไหวพร้อม ๆ กับวิถีกระสุนแดงวาบพุ่งลงมาเป็นห่าฝน

    วินาทีแรกที่เสียงปืนดังขึ้น ร้อยตำรวจเอกหนุ่มก็โผนเข้าหาที่กำบังด้วยสัญชาติญาณพร้อมกับร้องตะโกนสั่งให้ลูกทีมทำการยิงตอบโต้ ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มร่วงลงบนเนินมรณะ

    การปะทะดำเนินไปอย่างดุเดือดนานกว่า 20 นาที และกำลังอีกชุดหนึ่งภายใต้การนำของ "ผู้กองช้าง' หรือร้อยตำรวจเอกสมรัฐ อาวรณ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดปะทะได้รีบเดินทางมาช่วยก่อนที่เสียงปืนจะสงบลง เมื่อฝ่ายตรงข้ามล่าถอยออกไป

    [​IMG]


    [​IMG]
    นาทีชีวิตผู้กองแคนหลังการปะทะ

    "ผู้กองถูกยิง ! วิทยุไปที่บ้านภักดี ขอ ฮ. มารับด่วน !'

    รองหัวหน้าชุดร้องตะโกนเสียงหลงในทันทีที่มองเห็นร่างของร้อยตำรวจเอกหนุ่มแดงฉานไปด้วยเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ บอกให้รู้ว่าผู้นำของชุดเคลื่อนที่เร็วต้องคมกระสุนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการเป็นตายเท่ากัน.. !

    ภายในห้องประชุมกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศค่าย "นเรศวร' อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนสายวันเดียวกัน

    นายตำรวจพลร่มชั้นสัญญาบัตรกำลังประชุมอยู่กับผู้บังคับการเพื่อเตรียมการเคลื่อนย้ายกำลังไปสับเปลี่ยนหน้าที่กับหน่วยที่อยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามวงรอบทุก 6 เดือน

    ทุกคนต่างมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยมและกระหายที่จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อันตรายด้วยความมุ่งมั่น เพราะเท่าที่ผ่านมา "ชุดเคลื่อนที่เร็ว ' ซึ่งเป็นหน่วยพลร่มจาก ตชด. ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมและไม่เคยสูญเสียกำลังพล

    แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของผู้การก็ดังขึ้นขัดจังหวะการประชุม สายตาทุกคู่จ้องมองไปยังผู้บังคับบัญชาซึ่งมียศสูงสุดในที่นั้น ก่อนที่ทุกคนจะเห็นสีหน้าและแววตาซึ่งเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน

    "ชุดลาดตระเวนของเราถูกซุ่มโจมตีที่ยะลา'

    ผู้บังคับการพลร่มพยายามบังคับเสียงอย่างคนที่ข่มความรู้สึกขณะที่กล่าวถ้อยคำซึ่งไม่ต่างอะไรกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางหัวใจของทุกคนที่ได้ยิน

    "ไอ้แคนตาย.. เมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง'


    นายตำรวจหนุ่มผู้พลีชีพเพื่อชาติกลางสมรภูมิแดนใต้ในเช้าวันนั้นก็คือร้อยตำรวจเอก " ธรณิศ ศรีสุข' รองผู้บังคับการกองร้อยรบพิเศษที่ 1 กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดนผู้เป็นแบบฉบับของ " ชายชาตินักรบ'ซึ่ง สมควรได้รับการยกย่องในฐานะวีรบุรุษของชาติผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์อันสูงส่งตราบจนลมหายใจของชีวิต

    ร้อยตำรวจเอกธรณิศฯ หรือผู้กองแคน เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2520 ที่จังหวัดขอนแก่น เป็นบุตรชายของรองศาสตรจารย์ด็อกเตอร์เกรียงศักดิ์ ศรีสุข อดีตคณบดีคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยน้ำบาดาล ภาควิชาเทคโนโลยีธรณี ส่วนมารดาคือ รองศาสตราจารย์ทันตแพทย์หญิงนิธิภาวี อดีตคณบดีคณะทันตแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น

    ชีวิตในวัยเด็กของร้อยตำรวจเอกธรณิศเติบโตที่จังหวัดขอนแก่นพร้อมกับน้องชายเพียงคนเดียวคือนายแพทย์ธราธิป โดยบิดามารดาตั้งชื่อเล่นให้เขาว่า "แคน ' ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ของแผ่นดินอีสาน แคนเริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่นจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนจะติดตามบิดาไปศึกษาต่อที่ประเทศแคนนาดาเมื่อปี 2533

    เมื่อกลับมาเมืองไทยจึงเข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยาจนกระทั่งถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จึงไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเมื่อปี 2538 โดยเลือกเหล่าตำรวจด้วยความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็น ตชด. เพื่อรับใช้ชาติและปกป้องคุ้มครองพี่น้องประชาชนซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล

    รองศาสตรจารย์ด็อกเตอร์เกรียงศักดิ์ ซึ่งเดินทางมากรุงเทพเพื่อร่วมงาน " วันตำรวจ' และบันทึกเทปรายการ "เจาะใจ' ระหว่างวันที่ 13-14 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เล่าถึงเรื่องราวบางตอนของบุตรชายให้ผู้เขียนฟังว่า

    "สมัยนั้นนักเรียนวัยรุ่นในขอนแก่นจะรู้จักแคนมาก แคนเป็นคนรักเพื่อน ชอบการต่อสู้ผจญภัย เคยแอบไปชกมวยชิงรางวัลตามหมู่บ้านมา 2-3 ครั้ง จนหมอแจงซึ่งเป็นคุณแม่ตกใจ

    "ต่อมาแคนไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร โดยเลือกเหล่าตำรวจและสอบได้เป็นที่หนึ่งในส่วนของตำรวจทำให้ทุกคนในครอบครัวภูมิใจในตัวแคนมาก ระหว่างที่เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 38 แคน ซึ่งมีคะแนนสอบยอดเยี่ยมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายตอน 4 ทำหน้าที่นักเรียนปกครองบังคับบัญชาดูแลรุ่นน้องและเพื่อน ๆ และเมื่อขึ้นเหล่าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 54 แคนก็ได้เป็นนักเรียนบังคับบัญชา เป็นนักกีฬาหลายประเภท เป็นหัวหน้าชมรมยูโด นักแม่นปืน นักมวย ฯลฯ


    เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เขาเป็นที่รู้จักของรุ่นน้อง ๆ และรุ่นพี่ ๆ ในฐานะนักเรียนนายร้อยตำรวจที่เรียนเก่ง มีอุดมการณ์ และได้คะแนนสอบตอนเรียนจบในลำดับต้น ๆ ซึ่งมีสิทธิที่จะเลือกรับราชการที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงพักในท้องที่ " เกรด A' การเป็น "นายเวร ' หรือนายตำรวจติดตามผู้บังคับบัญชาระดับสูง หรือแม้กระทั่งการลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ

    แต่สิ่งที่แคนเลือกกลับกลายเป็นการหันหลังให้สิ่งเหล่านั้นอย่างคนมีอุดมการณ์ แรงกล้า เขาเลือกที่จะละทิ้งชีวิตแสงสีความศิวิไลซ์หรูหราแบบ " สุขนิยม' ทั้งที่สามารถกระทำได้แล้วมุ่งหน้าไปสู่การใช้ชีวิตกลางป่าของลำเนาไพรในฐานะ " ตำรวจตระเวนชายแดน'

    แม้จะรู้อยู่แล้วชีวิตของ ตชด. หมายถึงชีวิตที่ต้องนอนกลางดินกินกลางทรายแวดล้อมไปด้วยความยากลำบาก แต่สิ่งเหล่านั้นคือความเป็นไปที่จะทำให้ " ฝัน' ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หนุ่มในอันที่จะเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นเป็นความจริง

    " แคนพูดอยู่เสมอว่าถ้าเขาไม่ทำหน้าที่นี้แล้วใครจะทำ ถ้าคนหนุ่มทุกคนเอาแต่คิดถึงความสุขสบายโดยไม่เสียสละตนเองแล้ว ประเทศชาติจะมีใครที่ไหนคอยปกป้อง

    รองศาสตรจารย์ด็อกเตอร์เกรียงศักดิ์กล่าวถึงอุดมการณ์ความมุ่งมั่นของบุตรชายผู้จากไป

    "แคนจึงเลือกที่จะเป็น ตชด. และทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อให้ตนเองเป็น ตชด. ที่เก่งกล้ามีขีดความสามารถครบถ้วนพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด '


    แม้จะมีชีวิตราชการค่อนข้างสั้นและต้องออกปฏิบัติราชการสนามครั้งละ 6 เดือนมาโดยตลอด

    แต่นายตำรวจ "ไฟแรง' อย่างแคนก็ใช้เวลาในช่วงสับเปลี่ยนกำลังสมัครเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษต่าง ๆ มากมาย อาทิ หลักสูตรการทำลายวัตถุระเบิดหลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้าย หลักสูตรกระโดดร่มแบบกระตุกเอง

    นอกจากนี้ ยังเข้ารับการฝึกหลักสูตรการรบพิเศษของนาวิกโยธินหรือที่รู้จักกันในนาม "รีคอน' ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นการฝึกที่เข้มข้นยากลำบากไม่น้อยไปกว่าหลักสูตร "นักทำลายใต้น้ำจู่โจม' หรือมนุษย์กบ

    แคนได้เข้ารับการฝึก " มหาหิน' ของทหารนาวิกโยธินในปลายปี 2548 และเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรเพียงหนึ่งเดียวที่ผ่านหลักสูตรนั้นท่ามกลางสายตาชื่นชมของบรรดาครูฝึกและเพื่อนร่วมรุ่นรีคอน 36 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาวิกโยธินที่ต่างพากันนับถือในความเป็น "นายตำรวจใจเพชร' ผู้มีความเข้มแข็งอดทนเป็นเลิศจนสามารถฝ่าฟันการฝึกจู่โจมและลาดตระเวนรบสะเทินน้ำสะเทินบกไปได้อย่างน่ายกย่อง


    รองศาสตรจารย์ด็อกเตอร์เกรียงศักดิ์ เล่าต่อไปอีกว่า

    "แคนเป็นคนเสียสละ นึกถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวรักลูกน้องและเพื่อนร่วมงานมาก เขาเคยมาขอยืมเงินพ่อก้อนหนึ่งเพื่อนำไปเป็นกองกลางไว้ใช้จ่ายในทีมของเขา แคนบอกว่าลูกน้องของเขาเงินเดือนน้อยและมีครอบครัวต้องดูแล บางครั้งการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงหรือเงินสวัสดิการต่าง ๆ อาจจะล่าช้าตามขั้นตอนของทางราชการ แคนก็จะให้ลูกทีมใช้เงินกองกลางส่วนนี้สำรองไปก่อน

    "หรือแม้แต่รถยนต์ที่พ่อซื้อให้ แคนก็นำไปใช้ที่ภาคใต้เพื่อให้เป็นรถใช้สอยสำหรับการปฏิบัติงานของหน่วยโดยไม่ถือว่าเป็นของส่วนตัว แคนเคยมาขอเงินพ่อบอกว่าจะนำไปให้รุ่นพี่กับเพื่อนร่วมงานยืมซื้อปืนพกเป็นอาวุธส่วนตัวเพิ่มเติมไว้ปฏิบัติงาน พ่อก็ให้ไป

    แคนทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นมาโดยตลอดและมีความสุขที่จะทำเช่นนั้นเสมอมา สิ่งเดียวที่แคนไม่เคยทำก็คือการบอกกล่าวให้คนอื่นรู้ว่า แคนมาจากครอบครัวที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน '

    ผู้เป็นบิดากล่าวด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความอาลัย


    "แคนทำตัวสมรรถนะกินง่ายอยู่ง่าย ไม่มีทรัพย์สมบัติส่วนตัวมากมาย หลังจากแคนเสียชีวิต พ่อไปเก็บของจากที่พักของแคนปรากฏว่าแคนมีของใช้จำเป็นเพียง 2-3 กล่องเท่านั้น'

    หลังจากสำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานกระบี่จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2544 ร้อยตำรวจตรีธรณิศได้เลือกที่จะรับราชการในกองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดนในตำแหน่งผู้บังคับหมวด จากนั้นในปีรุ่งขึ้นก็เดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และอยู่ที่นั่นเรื่อยมา

    เรือเอกเกรียงไกร แสงอุทัย อดีตหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษนาวิกโยธิน ซึ่งเคยปฏิบัติงานในพื้นที่นราธิวาสเล่าถึง "เพื่อนร่วมงานต่างเหล่า' ว่า

    "ผู้กองแคนเป็นคนที่มีอุดมการณ์แรงกล้า เราพบกันครั้งแรกเมื่อปี 45 แคนลงมาภาคใต้ทั้งที่ยังไม่มีคำสั่งเป็นทางการ แต่เขาก็เดินทางลงมาล่วงหน้า ตอนนั้นเป็นช่วงแรกที่พลร่ม ตชด. จากหัวหินเริ่มเข้ามาทำงานในพื้นที่สีแดง ผมเตือนเขาว่า ยังไม่มีคำสั่งรองรับอย่าเพิ่งออกทำงาน แต่แคนบอกว่าไม่เป็นไร เขาอยากทำให้ภาคใต้สงบ

    เรือเอกเกรียงไกร ซึ่งเคยเป็นครูฝึกหลักสูตร "รีคอน' เล่าต่อไปว่า

    " ทีม ตชด. ของแคนหลอมรวมกับชุดปฏิบัติการพิเศษนาวิกโยธินได้เป็นอย่างดี แคนมีความสามารถในการใช้ปืนสั้นอย่างยอดเยี่ยมและเชี่ยวชาญการรบในเมือง เพราะเคยผ่านหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้าย

    แคนจึงช่วยฝึกทีมของนาวิกโยธินให้มีความชำนาญการใช้ปืนพกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันแคนก็ขอให้นาวิกโยธินซึ่งเชี่ยวชาญการรบนอกแบบ ฝึกทบทวนการลาดตระเวนการเคลื่อนที่ในป่าแถบนั้น ซึ่งเรามีความชำนาญมากกว่า เพราะอยู่ในพื้นที่มาก่อน แคนขอให้ทหารนาวิกโยธินพาขึ้นเขาทุกลูกเพราะต้องการทำความรู้จักและจดจำลักษณะภูมิประเทศเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานครั้งต่อ ๆ ไป


    กองแคนมีความผูกพันกับนาวิกโยธินอย่างแนบแน่น เคยออกปฏิบัติภารกิจร่วมกันหลายครั้ง กินข้าวด้วยกัน ทั้งในที่ตั้งปกติและในป่า บางครั้งเราจัดเป็นทีมผสมระหว่าง ตชด. กับนาวิกโยธิน แคนจะเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร นย. อย่างองอาจจนได้ใจของทุกคนที่อยู่ในทีม

    เรือเอกเกรียงไกรรำลึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับวีรบุรุษ ตชด. ต่อไปว่า

    "ผู้กองแคนเป็นนายตำรวจที่กล้าหาญมาก มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จโดยไม่คำนึงถึงอันตรายใด ๆ ครั้งหนึ่งเขาวางแผนที่จะแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่อันตรายตามลำพังในเวลากลางคืนและนัดหมายให้ทีมสนับสนุนไปรอที่จุดนัดพบซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบ 5 กิโลเมตร แต่ผมห้ามเอาไว้ เพราะผู้กองแคนพูดภาษา ยาวีไม่ได้ มันจึงเสี่ยงเกินไปที่จะเข้าไปหาข่าวความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามในยามวิกาลเช่นนั้น พวกเราซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษนาวิกโยธินทุกคนรักนับถือในน้ำใจผู้กองแคนและรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นพี่น้อง
    ร่วมตายอย่างแท้จริงคนหนึ่ง'

    แม้จะเหนื่อยยากตรากตรำ แต่ผู้กองแคนยังคงมีชีวิตส่วนตัวเช่นปุถุชนทั่วไป โดยทุกครั้งที่ได้พัก นายตำรวจหนุ่มจะเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ขอนแก่นและกราบคารวะครูอาจารย์ ท่ามกลางความรู้สึกชื่นชมระคนห่วงใยของทุกคนที่ได้รู้จักและเคยเห็น "ผู้กองแคน' มาตั้งแต่ครั้งที่เขาเป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ในรั้ว มอ.ดินแดง ร่วมกับเพื่อนรุ่นเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของคณาจารย์มหาวิทยาลัยซึ่งรู้จักคุ้นเคยกับบิดามารดา

    "แคนมักจะถูกตั้งคำถามจากหลาย ๆ คนอยู่เสมอว่า เมื่อไหร่จะขึ้นมาจากภาคใต้ แต่คำตอบที่ทุกคนได้รับเหมือน ๆ กัน ก็คือ ยังไม่ถึงเวลา เพราะแคนต้องการสานต่อภารกิจให้ลุล่วงจนกว่าประชาชนในพื้นที่จะใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย '

    รองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์เกรียงศักดิ์ ผู้เป็นบิดาเล่าด้วยสีหน้าและแววตาอันสงบนิ่งอย่างคนที่ปลงใจในความเป็นไปที่เกิดขึ้นตามสัจธรรมแห่งชีวิต

    " ก่อนเสียชีวิต ผู้บังคับบัญชาของแคนถามว่า ครบวงรอบ 6 เดือนครั้งหน้า แคนจะกลับมาอยู่ที่ค่ายนเรศวรหรือเปล่า แคนตอบว่า ขออยู่ในพื้นที่อย่างเดิม เพราะเป็นห่วงชาวบ้าน อยากทำงานต่อ'


    " หมอนัตตี้ภรรยาของแคน ซึ่งกำลังเรียนต่อด้านทันตกรรมที่ฮ่องกง เคยขอร้องแคนเรื่องการไปทำงานภาคใต้ แคนตอบว่า นัตตี้มีความฝันในเรื่องการเรียน แคนก็มีความฝันในเรื่องของการทำให้ภาคใต้สงบสุข ถ้ามีคนขอให้ให้นัตตี้หยุดเรียน ล้มเลิกความฝัน นัตตี้ก็คงทำไม่ได้ เหมือน ๆ กับแคนที่ไม่อาจเลิกราการไขว่คว้าความฝันของตนเอง แคนฝันที่จะทำให้ภาคใต้สงบและแคนก็อยากทำให้ฝันนั้นเป็นจริงให้ได้ '

    "ถึงแม้วันนี้แคนจะจากไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าเขาคงรับรู้ว่าความฝันของเขาจะไม่มีวันตาย เพราะ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ทั้งที่เป็นตำรวจพลร่มและทหารทุกเหล่าทัพจะช่วยกันสานต่อภารกิจเพื่อให้ฝันของแคนเป็นจริงให้ได้ '

    คำกล่าวของรองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์เกรียงศักดิ์ผู้เป็นบิดาคงจะไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยไปจากความเป็นจริง เพราะการเสียชีวิตของร้อยตำรวจเอกธรณิศได้กลายเป็นแบบอย่างของวีรบุรุษผู้เสียสละและเป็นสิ่งที่ปลุกเร้ากระตุ้นขวัญกำลังใจและความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลร่ม ตชด. จากค่ายนเรศวรในอันที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างกล้าหาญเช่นเดียวกับที่ "ผู้กองแคน' ได้แสดงตัวอย่างไว้ให้ประจักษ์


    กลอนบทหนึ่งที่นักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 54 มอบให้แก่แคน นับเป็นสิ่งที่ฉายชัดถึงความเป็นตัวตนของนายตำรวจผู้เสียสละได้เป็นอย่างดี กลอนบทนั้นมีความว่า...

    กูนี้เกิดมาเพื่อชาติ ราชบังลังก์
    มึงจงฟัง ความแน่วแน่ ของกูไว้
    แม้นกูตาย พวกกูอยู่ สู้ต่อไป
    อย่าได้ให้ พวกจัญไร มายึดครอง
    กูนี้คือ สามพราน รุ่นห้าสี่
    พวกกูมี เรื่องราว ให้เล่าขาน
    ชื่อของแคน ยังอยู่ อีกยาวนาน
    เป็นตำนาน ผู้กล้า... เลือดทาดิน

    [​IMG]

    เพื่อเป็นอนุสรณ์ และรำลึกถึงบุตรชายผู้จากไป อีกทั้งยังเป็นการให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    รองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์เกรียงศักดิ์ ได้จัดตั้งกองทุน ร.ต.อ.ธรณิศ โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถดูรายละเอียดได้จากเวปไซด์. http://www.thoranitsrisuk.org
     
  18. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    ขอท่านทหารทั้งหลายได้ ภูมิ ใจ ท่านเป็นทหาร ของ คน ไทย และ เป็น ทหาร ขององค์สมเด็จ พระสัมมา สัมพุทธเจ้า ^^
     
  19. runchoo_man

    runchoo_man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    597
    ค่าพลัง:
    +593
    ขอให้ทหารทุกคนปลอดภัยครับ
     
  20. husk

    husk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอขอบคุณวีระบุรุษตัวจริงของคนไทย
     

แชร์หน้านี้

Loading...