ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

เป็นตัวชี้วัดว่าดูช้างน้อยชินชังบ่อยแค่ไหน
แค่ไหนถึงเข้าใจ55

 

เราเลยขุดคลองสัญญาให้ใกล้กุศลไว้นะครับ
พลาดมากะล้มบนฟูก

 

เริ่ด เพิ่งมานึกขึ้นได้เพราะคำว่าขุดคลองของคุณร่อนเลยนะนี่ แหล่มๆ

 

ช้างน้อยนี่คืออะไรฮับ... แม่ชอบเรียกผมว่า "หนอนน้อย"

#อันนี้บอกถึงขนาดหรือเปล่าฮับ ผมไซส์มินิ55

 

อ่านึกสาวเซเว่นเลยสมัยหนุ่มๆซื้อผิดไซต์
ไม่กล้าดูละเอียดอาย
ไปซื้อไซต์ฝรั่งมา
เราว่าอยู่ทำมัยคนขายทำหน้าตาแปลกๆๆ555

 

อย่าหยามกระร่อน10นิ้ว555

 

จขกท. อาจจะงงว่า "พวกนี้คุยไรกันว่ะ"
นี่เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียด
ระหว่างคุยธรรมะกันหนักๆ...

ลีดเดอร์ตัวหลักคือ "คุณมาเปิดเพลง" ครับ

 

ขำทำไหมอ่าปกติคนเรากะมี10นิ้วไม่ใช้เหรอ

 

# "นิกกี้พริ้ม" ยังอายเลยนะฮับ

 

ลุงพยาธิ ไม่มาคุยกับเพื่อนซี้(ซั้ว) หน่อยหรอ ...

ว่าแต่รับจ๊อบสวดตั้งศาล งานขึ้นบ้าน งานไล่ผีมั่งยัง รวยนะเออ

อิอิ

 

อันนั้นมัน คนละมนต์ของพระพุทธเจ้า

ที่พวกเงิบ ชอบ จับ ยำปนกัน แหลๆ เห็นคนสวดมนต์ ก็ได้แต่แหลๆ

 

มนต์รากศัพท์มาจากมนะที่แปลว่าใจไม่ใช่เหรอครับ

 

พวกสวดมนต์จบแผ่เมตตา ก้อมีขอทั้งนั้นแหล่ะ ทั้งที่จริงตนเป็นที่พึ่งแห่งตนทั้งน้านน

อย่าเถียงนะเว่ย มียันต์กันปลวก อิอิ

 

ใครจะไล่ผี ตั้งศาล ปรึกษาปลวกเทวดาได้ นะฮับ ผู้ชำนาญการ

อะคี อะคึ

 

เจ้เหมือนโดนเจ้ปราบไล่มาเหรอเหมือนแค้นๆๆ55

 

คนไม่ได้เรื่องก้อแบบนี้แหล่ะ ไม่เคยหายใจด้วยผลงานตัวเอง

 

คนสมัยก่อนเขาไม่มีเครื่องจดบันทึกที่มันมีคุณภาพเขาเลยใช้การสวดมนต์ในการจดจำ ได้ง่ายขึ้น
ทีjให้ท่องหลายรอบเพื่อให้ให้ขึ้นใจหากใครทำได้แล้วก็เก็บเอาไว้

 

เขาเรียกว่า สัชฌายะ จำมาทั้งดุ้น มีประโยชน์ก็ตอนที่เวลาจะบรรยายหรือถกธรรมกันเนี่ยละ ยกมาบางประโยคอธิบายได้ไหลลื่น หรือ พิจารณาใคร่ครวญสิ่งที่จำได้ เหมือนแม่โคเล็มหญ้าไป ก็ชำเลืองมองลูกน้อยไป กิจเล็กก็ไม่ลืม แม้เวลามีกิจอื่นอยู่ ใครที่ยังรอมาใคร่ครวญตอนสวดปักธูป 3 ดอก ลุงว่าเสียเวลาชำเลืองมองลูกน้อยไปทั้งวันฟรีๆ

 

สมัยก่อนพระไตรไทยไม่ถูกแปล ใบลานมีแต่ภาษาขอม คนจะรู้ธรรมได้ต้องอ่านภาษาขอมออก(ก่อนจะถูกแปลไทยครบเมื่อไม่นานมานี้) อดีตจะเรียกว่าเมืองพุทธลุงว่ายังไม่ค่อยจะถูกเลย ต้องไปถามพระที่รู้ถาษาขอมสอบถามพระไตร หายากหรือง่ายก็คิดเอาเอง. ชาวพลังจิตทุกวันนี้โชคดีมีบุงเยอะหน่อย ไม่ต้องอ่านขอมกันแล้ว แค่ค้นกูเกิลพี่เขาก็จัดให้

 

ประโยชน์ที่ได้จากการถกเถียงกันเรื่องสวดมนต์คืออะไรหรอครับ เพื่อความเห็นถูก? เพื่อรู้เเจ้งธรรม? หรือเพื่อเอาชนะ? (อันนี้ตัวเพิ่มทิฐิมานะ เเทนที่จะลดลง กลายเป็นว่า กูถูก กูเก่ง กูรู้ยิ่งกว่าใคร ไปซะอย่างนั้น..)

เหนือสิ่งอื่นใด ก็มีศาสดาองค์เดียวกัน มีหลักคำสอนเดียวกัน มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเช่นเดียว จะปรารถนานิพพาน ปรารถนาเทวดา พรหม หรือจะปรารถนาพุทธภูมิ ก็เเล้วเเต่ทางเลือกของเเต่ละคน ตนนั่นเเหละลิขิตตน ท้ายที่สุดเเล้วขอเเค่มีพื้นฐานคือ เป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี นี่เเหละคือพื้นฐานของกุศลทั้งปวง คือพื้นฐานของการเเจ้งพระนิพพานเช่นเดียวกับพระอริยเจ้าทั้งหลาย

ใครยินดีจะสวดมนต์เเบบไหน ก็ทำไป
ใครไม่ได้ยินดีจะสวดมนต์ ก็ไม่ต้องทำ
ขอเเค่ไม่เบียดเบียนกันเเละกันเป็นพอ

เพราะ "สัมมาทิฏฐิ" บังคับให้เกิดไม่ได้ครับ.