เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 18 มกราคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,946
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +26,205
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,946
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +26,205
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ อันดับแรกเลย ขอต้อนรับคณะของท่านปรีชญา มหารัศมี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่นำคณะมาร่วมปฏิบัติธรรม ถ้าหากทุกคนสังเกตจะเห็นว่า พระวัดท่าขนุนช่วงนี้แบ่งออกเป็น ๓ ชุด ก็เพราะว่าตรงกับวันปฏิบัติธรรมประจำปี ของพระนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์

    อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้เมื่อช่วงเพล ได้มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ (สว่าง จนฺทวํโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี ที่เสียชีวิตลงเพราะว่าโดนผู้ก่อการร้ายยิงตายพร้อมกับเพื่อนพระอีก ๒ รูป ซึ่งตรงจุดนี้ต้องบอกว่า ไม่ว่าในฐานะส่วนหนึ่งของคณะสงฆ์ไทยก็ดี หรือว่าในฐานะของสหธรรมิกที่คุ้นเคยและร่วมงานกันมาเกิน ๒๐ ปีก็ตาม นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องระลึกถึงและทำบุญให้กับท่านทั้งนั้น

    อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้ตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย ถ้าถามว่าวันกองทัพไทยคือวันอะไร ? บางคนเรียกว่า วันนเรศวรชนะศึก ก็คือหลังจากปี พ.ศ. ๒๑๑๒ ที่เราโดนพม่ายึดเป็นเมืองขึ้น โดยเฉพาะนำเอาสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาและพระนเรศวรซึ่งตอนนั้นยังเป็นราชกุมารไปเป็นตัวประกันที่หงสาวดี หลังจากนั้นมาเป็นระยะเวลา ๒๐ กว่าปี ที่ไทยเราต้องส่งบรรณาการให้แก่พม่าโดยตลอด

    จนกระทั่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลับมาเมืองไทย และรวบรวมกำลังพลประกาศอิสรภาพ ซึ่งทำให้พระเจ้านันทบุเรงกษัตริย์พม่าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของประเทศราช ทำให้คนอื่นเลียนแบบทำตามได้ จึงส่งพระมหาอุปราชยกทัพเข้ามา เพื่อที่จะจับตัวพระนเรศวรมหาราช หรือว่ายึดกรุงศรีอยุธยาที่พม่าเรียกว่า "โยเดีย" โยเดียนี่เป็นการพูดเร็ว ๆ ถ้าหากว่าพูดช้า ๆ ก็คือ โยธยา แต่ออกเสียงแบบพม่า โย-ดะ-ยา พอออกเสียงเร็ว ๆ ก็กลายเป็นโยเดีย
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,946
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +26,205
    ปรากฏว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้นเปลี่ยนวิธีการตั้งรับข้าศึก จากที่ปกติแล้วก็คือปล่อยให้ข้าศึกล้อมกรุง จนกระทั่งหมดเสบียงอาหารหรือว่าน้ำท่วม ก็ต้องกลับไปเอง เปลี่ยนเป็นยกทัพไปต้านทัพข้าศึกนอกพระนคร ซึ่งตอนนั้นมาเผชิญหน้ากันที่บริเวณเจดีย์ยุทธหัตถี อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีของเรานี่เอง ตามประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ตรงกับวันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช ๙๕๔ ซึ่งตอนหลังมีการคำนวณกันออกมาว่าตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๑๓๕

    แต่เดิมมากองทัพไทยของเราใช้วันที่ ๘ เมษายนเป็นวันกองทัพไทย เพราะถือว่าเป็นวันสถาปนากระทรวงกลาโหม พอมาปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ ก็มีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ ๒๕ มกราคมเป็นวันกองทัพไทยแทน ถือว่าเป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราช

    แต่แล้วก็มีบรรดานักดาราศาสตร์คำนวณปฏิทินใหม่ว่า วันที่แท้จริง ถ้าหากว่าระบุกันตามในบันทึกประวัติศาสตร์แล้ว ต้องเป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ซึ่งการคำนวณนั้นก็ต้องบอกว่า มีผู้ทำได้ตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ แต่ก็ต้องรอจน ๑๐ ปีให้หลัง คือปี ๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีถึงได้อนุมัติให้วันที่ ๑๘ มกราคมเป็นวันกองทัพไทย แต่กระทรวงกลาโหมและกองทัพบกไทย ก็ไปจัดงานฉลองกันจริง ๆ ในปี ๒๕๕๐ ก็คือบ้านเราเมืองเรานั้น อะไรดี ๆ มักจะทำช้ากัน

    ดังนั้น...ถ้าจะว่าไปแล้ว วันนี้ในอดีตก็คือวันจันทร์ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช ๙๕๔ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๑๓๕ เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชได้ด้วยทั้งความสามารถเฉพาะตัวและไหวพริบปฏิภาณ

    สมัยก่อนกระผม/อาตมภาพก็สงสัยว่า ถึงเวลาทหารเขาโยกย้ายตำแหน่งกัน เขารู้ได้อย่างไรว่าคนไหนเหมาะกับตำแหน่งไหน พอมาถึงปัจจุบันก็มีญาติโยมถามว่า อย่างลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังศึกษาอยู่กับท่าน มี ๔๐ กว่ารูป ทำไมเขาถึงรู้ว่าใครมีความสามารถเท่าไร ? ก็มาเลิกสงสัยตรงนี้เอง เพราะว่าการอยู่ร่วมกันมา ศึกษาด้วยกันมา ย่อมรู้ว่าแต่ละคนมีฝีไม้ลายมือเท่าไร ถึงเวลาจึงจัดวางตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งได้
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,946
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +26,205
    คราวนี้อย่าลืมว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมัยเป็นราชกุมาร โดนจับเป็นตัวประกันที่หงสาวดี ศึกษาเล่าเรียนมากับบรรดาราชกุมารของทางด้านราชสำนักพม่า ทุกคนรู้ดีว่าพระนเรศนั้นฝีมือร้ายกาจแค่ไหน ทุกวันนี้พวกเราอ่านชื่อพระนเรศวรมหาราช พม่าเรียกว่าพระนเรศ นเรศวรฤทธิ์ คราวนี้ นเรศ+วร มารวมกัน กลายเป็นนเรศวร พวกเราก็อ่านไปเรื่อยเปื่อย

    ในเมื่อรู้อย่างนั้น พระมหาอุปราชที่ได้รับคำสั่งจากพระเจ้านันทบุเรงให้ยกทัพมาจับตัวพระนเรศวรมหาราช "พ่อส่งกูไปตายชัด ๆ เลย..!" ก็เลยรวบรวมบรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเคยศึกษาวิชาการอยู่ราชสำนักเดียวกันมา ๑๒ คน แต่งตัวเหมือน ๆ กัน ช้างทรงแบบเดียวกัน กั้นเศวตฉัตรอุปราชเหมือนกัน พอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถพระอนุชา หลุดเข้าไปกลางกองทัพพม่า มีหวังเจอ ๑๒ รุม ๑ แน่นอน เก่งแค่ไหนก็มีสิทธิ์ตายคาที่..!

    ด้วยไหวพริบปฏิภาณเฉพาะพระองค์ ถึงได้เอ่ยท้าทายพระมหาอุปราชว่าให้ออกมากระทำยุทธหัตถีด้วยกัน เพื่อฝากชื่อไว้คู่แผ่นดิน ด้วยขัตติยมานะ เมื่อระบุชื่อท้าทายกันตรง ๆ พระมหาอุปราชก็ต้องรับ ออกมาชนช้างกับพระนเรศวรมหาราช แล้วก็อย่างที่ทราบกันอยู่ ก็คือพ่ายแพ้ถึงแก่เสียชีวิต เราถึงสามารถที่จะประกาศเอกราช กอบกู้แผ่นดินไทยคืนมา ซึ่งตอนนั้นยังไม่ใช่สยามประเทศ ไม่ใช่ประเทศไทย แต่เป็นอาณาจักรอโยธยา

    ตรงจุดนี้ที่บางท่านบางคนกำลังคัดค้านในเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเรื่องของมาตรา ๑๑๒ ที่เป็นกฎหมายเอาไว้สำหรับป้องกันสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า การที่คุณมีแผ่นดินเหยียบได้เต็มเท้า ไปไหนมีเกียรติมีศักดิ์ศรีเสมอชาติอื่น ๆ ในโลก ก็เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เอาเลือดเนื้อและชีวิตแลกแผ่นดินนี้มา บรรพบุรุษและตัวคุณถึงได้มีที่อยู่ที่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้

    แม้ว่าในปัจจุบันนี้ รัฐบาลของเราจะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ถูกอารมณ์ของท่านก็ตาม แต่ท่านต้องแยกแยะให้ออกว่า นั่นเป็นการใช้พระราชอำนาจของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พระมหากษัตริย์
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,946
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +26,205
    เนื่องเพราะว่าบ้านเราแบ่งพระราชอำนาจออกเป็นสถาบัน ก็คือวุฒิสภา รัฐสภา และสถาบันตุลาการ แต่ละฝ่ายนำเอาพระราชอำนาจไปใช้ ถ้าหากว่าคนที่ปราศจากสามัญสำนึก ไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อองค์พระมหากษัตริย์เจ้าของพระราชอำนาจ เหตุการณ์ก็จะเป็นอย่างปัจจุบันนี้ แต่ไม่ใช่พระองค์ท่านทำให้เป็น หากแต่คนอื่นทำให้เป็น โปรดใช้ปัญญาแยกแยะให้ออกด้วย ไม่ใช่ประท้วงไปเรื่อยเปื่อย

    แผ่นดินทุกตารางนิ้วในประเทศไทย เป็นของตระกูลพระมหากษัตริย์ ท่านช่วงชิงมาจากข้าศึก แม้แต่แบ่งให้พวกเรายึดครอง ก็ยังต้องมีโฉนดที่ลงด้วยคำว่า โดยพระบรมราชานุญาต
    แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าบุคคลระดับครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะสอนในมหาวิทยาลัยแล้ว ไปเอาแนวความคิดของต่างชาติต่างภาษา ที่ไม่มีสถาบันอันทรงค่า คอยปกปักรักษาประเทศชาติมาเป็นแบบอย่าง แล้วอยากจะให้บ้านเราเป็นเหมือนบ้านเขา

    ขอบอกให้รู้ว่า อีกไม่นานบ้านเมืองที่เราเห็นว่าเป็นประชาธิปไตย เป็นต้นแบบที่เราใฝ่ฝันหา อยากจะมี อยากจะเป็นอย่างที่หลายคนต้องการ จะเกิดความวุ่นวาย แตกแยก และก่อสงครามไปทั่วโลก

    เมื่อถึงเวลา ถ้าหากเขาหกล้มจมดินเมื่อไร อยากจะรู้ว่าท่านทั้งหลายยังอยากให้บ้านเราเมืองเราเป็นอย่างเขาหรือไม่ ? ตรงจุดนี้พวกท่านทั้งหลายสามารถใช้ปัญญาที่มีอยู่เล็กน้อยตรึกตรองดูและรอดูเหตุการณ์ก็พอ
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,946
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +26,205
    พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า ภูมิ เว สปฺปุริสานํ กตญฺญูกตเวทิตา การรู้คุณท่านแล้วกระทำตอบแทนคุณท่าน เป็นพื้นฐานของคนดี ท่านทั้งหลายอาศัยแผ่นดินนี้อยู่ สร้างความร่ำรวยจนกระทั่งมีชาติมีตระกูล มีหน้ามีตา ได้ศึกษาเล่าเรียนถึงต่างประเทศ ก็เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ของเราค้ำจุนแผ่นดินนี้เอาไว้

    ข้าราชการทั้งหลายคือบุคคลที่พระองค์ท่านมอบหมายให้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน แบ่งปันพระราชอำนาจให้ไปใช้ เพื่อความอยู่สุขของประชาชนและประเทศชาติ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสามัญสำนึก ตรึกตรองว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ใช้พระราชอำนาจด้วยความระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะสร้างความกระทบกระเทือน เพราะว่าทุกชาติทุกภาษาที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ก็มีกฎหมายคุ้มครองสถาบันนี้ด้วยกันทั้งนั้น แล้วกระผม/อาตมภาพก็มั่นใจว่า ถ้าสถาบันนี้ยังอยู่ ก็คงไม่ได้ไปหนักที่สวมหมวกของใคร...!

    การที่ท่านทั้งหลายดิ้นรนประท้วงไป อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้ว่า อันดับแรก สังคมจะเป็นผู้ตัดสินการกระทำของท่าน ถ้าสังคมเป็นผู้ตัดสินการกระทำของท่านแล้ว ยังรู้สึกว่าไม่สมกับสิ่งที่ท่านได้ทำลงไป ก็รอให้กฎแห่งกรรมเป็นผู้ตัดสินในภายหลัง

    จึงขอเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลาย ที่ได้ฟังผ่านทางช่องยูทูบแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...