เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.

  1. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,733
    ค่าพลัง:
    +205,264
    2&ccb=1-5&_nc_sid=5cd70e&_nc_ohc=-t3YkQc1DVcAX-GrMdb&tn=EOjLHHWRPDelk6BA&_nc_ht=scontent.furt1-1.jpg
     
  2. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ใช่ครับ
    ตามที่น้องWhite.Fox เขียนครับ

    ส่วนพระพี่
    ผมเคยร่วม ไม่แน่ใจ 1หรือ2 ครั้ง
    ที่จำได้
    ครั้งหนึ่งคือ
    พระปิดตาจิ๋วหลวงปู่โต๊ะ

    เพร่ะผมศรัทธาท่านมากครับ
     
  3. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ผมเขียนไม่ชัดเอง
    พี่วันเลยคิดว่า
    ผมหมายถึงพี่วัน

    พี่ที่กล่าวถึงคือ เพื่อนพี่ชายครับ

    ขออภัยที่ไม่ชัดเจน
     
  4. suthamma

    suthamma ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,443
    ค่าพลัง:
    +36,661
  5. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,733
    ค่าพลัง:
    +205,264
    สาวมุสลามมี ๒ คนครับ ท่าน บก. ต้องบอกว่าอยู่ระหว่างสาวมุสลามคนล่างกับสาวใส่แว่นมีผ้าคาดหัวครับ
     
  6. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    (ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'!!!
    =============

    กองทัพคชสารหนึ่งในเบญจเทพตัวท็อปที่พรานไพรนักล่าล้วนปรารถนาสอยงาคู่งามมาประดับบารมี ทำพวกเราเสียเวลาไม่มากอย่างที่คิด เมื่อไอ้งาเดียวหายซ่า เตลิดสติแตกไม่คิดชีวิต...

    ช้างป่าตัวอื่น ๆ ก็หาได้อีนังขังขอบหรือติดใจอยากสืบสวนกลิ่นแปลก ๆ ของเรา พวกมันดุ่มลับหายไปทางป่าทึบ ที่น่าจะอุดมด้วยแหล่งดินโป่งของโปรด!

    เห็นความลำบากของผมในการหอบหิ้วลากหนีไอ้ยักษ์ใหญ่ ทำให้คุณชาติเปลี่ยนใจขอนอนเปลอีกรอบ เจ้าตัวรู้ทันทีว่าเป็นตัวถ่วง หากเกิดตัองใช้อาุธต่อสู้ในนาทีคับขัน

    ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นประกายน้ำสีเงินยวงสะท้อนแสงพระอาทิตย์วิบวับงามตาแต่ไกลหลายร้อยเมตร ลุงพรานทำหน้าที่มัคคุเทศก์ได้เฉียบขาด วางใจได้ทุกเมื่อ

    บึงน้ำกว้างใหญ่แลลิบตา เป็นหมายสำคัญบอกว่า เรามาถึงครึ่งทางเขาพราน โดยใช้เวลารวดเร็วเกินคาด มาถึงก่อนมื้อเที่ยงตั้งชั่วโมง!

    น้ำสวยอาบแสงแดดแวววาวตระการตาเบื้องหน้าช่างสงบน่าทัศนา มีคลื่นพลิ้วแผ่วเบาตามจังหวะสายลมโลมไล้ รอบขอบบึงใหญ่บ้างเป็นหญ้ายาว บางแห่งเป็นดินกรวดปนทรายเทลาดลงไปหาน้ำละม้ายริมหาด ขอบบึงหลายช่วงน้ำตื้นกระฉอกตามระลอกคลื่น ปลาช่อนตัวโตเท่าท่อนแขนชุกชุม ต่อให้คนตาถั่วก็ยังแลเห็นชัด

    พ่อครัวหัวป่าก์มีหรือจะปล่อยโอกาสงาม ๆ ให้อาหารมื้อสำคัญหลุดปากหมู่คณะ รีบชวนมะมอญหนุ่มกับดวงดาว ตัดไม้รวกเหลาเป็นฉมวกคนละด้ามทันที

    แต่ผมบอกไอ้น้องอย่าประมาท...โน่น..! ดูกลางบึงแต่ค่อนมาทางตลิ่งที่เรากำลังจะแทงปลา ขอนไม้ใหญ่ลอยเด่นชัดหลายขอน เจ้าชาละวันน้ำจืดหรือจระเข้สยามขนาดเขื่องไม่เบา แม้จะดูด้อยกว่าไอ้เข้แม่น้ำมรณะที่เราผ่านกันมา แต่ขึ้นชื่อ "ตะเข้" เจ้าแห่งลำน้ำ วางใจได้ที่ไหน

    "ตัดไม้ยาวทำถ่อ ทิ่มกับดันมันออกไป ถ้ามันเข้ามาใกล้"!!!

    หัวหน้าคณะที่ยืนอยู่ข้างผมบอกว่า เคยเห็นชาวอัฟริกาทำแบบนั้นกับจระเข้แม่น้ำตัวโตที่ดุร้ายกว่าบ้านเรามาก แต่ถ้ามันไม่หิว ไม่บาดเจ็บ ไม่แย่งตัวเมีย ไม่แย่งชิงอาหาร มันก็เป็นสัตว์เลือดเย็นแสนเกียจคร้าน ชอบนอนลอยคอโผล่แต่จมูกเหมือนก้อนขี้หมาเป็นขอนไม้อย่างนั้นได้ทั้งวัน

    พฤติกรรมทั้งปวงที่คุณเทพบรรยายของมัน ล้วนเป็นคุณสมบัติของสัตว์โลกทุกเผ่าพันธ์ุ รวมสปีซีส์ที่เรียกว่า "มนุษย์" อย่างเราด้วย!

    3 ทหารเสือรุ่นเล็กกระจายกันแทงปลา ผมวางไอ้ห้านัดชั่วคราวให้ลุงพรานดูแล ตัวเองถือถ่อรับหน้าที่ระวังหลัง เป็นการผจญภัยน้อย ๆ ที่สนุกเหมือนวัยรุ่นวัยคะนองออกแคมป์ลูกเสือ แม้แต่สาวงามยังตามมาช่วยลุ้น หลังจากจัดให้คุณชาตินั่งพักกับอาจารย์เลิศ

    พักเดียวได้ไอ้ช่อนตัวงามพอมื้อเที่ยงทุกท้อง แต่ทันใดคนตาไวที่เห็นสิ่งผิดปกติเร็วกว่าคนอื่น ก็เอะอะชี้มือ...

    "นั่นทางซ้าย..ระวังดวง ..มันซุ่มอยู่"!?


    ดวงดาวเกิดสมาธิหลุด ตกใจเสียงเตือน แทนที่จะกระโจนถอยหลัง ดันกระโจนไปข้างหน้าในพุ่มหญ้ายาวริมน้ำ เอาฉมวกจำเป็นแทงปึ้กปักกลางหลังตะเข้ตัวเขื่องเต็มแรง

    อดีตเณรน้อยเล่าตอนหลัง...มันนึกว่าคุณนงร้องให้แทงปลาที่ซุ่มอยู่ข้างหน้าตรงนั้น...คุณนงก็คงอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นเหมือนกัน ร้องบอกไม่ละเอียด

    ไอ้เข้ตัวเขื่องโดนฉมวกทิ่มผ่านหนังหนาพอระคาย น่าจะเจ็บอยู่ไม่น้อย มันดิ้นผาง สะบัดหางตูม หันหัวกระชากตัวออกที่ลึก

    ดวงดาวตกใจไม่ปล่อยมือจากฉมวก โดนมันลากหัวทิ่มตูมลงน้ำ!!!


    ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา...แต่ผมมองระวังหลังให้อยู่แล้วรีบกระโจนลงไปพร้อมไม้ถ่อในมือ...

    ยังไม่ทันคว้าตัวเจ้าดวงที่ดิ้นขลุกขลักสำลักน้ำ ไอ้เข้สยามก็พลันเปลี่ยนใจหันหลังแว้งกลับมา!

    (((ยังมีต่อ)))
     
  7. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    (ต่อ)...เหล็กไหลฯ
    =============

    ตะเข้น้ำจืดตัวยาวแต่ไม่ใหญ่โตโอฬาร ปากยังเล็กเรียวน้องตะโขง โผเข้าหาอ้าปากเล็กน้อย ผมส่งไม้ถ่อยาวทิ่มเข้ากลางปากพอดี ออกแรงดันมันออกไป มันไม่ยอมแพ้งับไม้ถ่อไว้เต็มคำ ท่าทางเราทำมันโกรธแฮะ!

    "ดวง...ขึ้นไปเร็ว"....ผมตะโกนเมื่อเห็นศิษย์เอกอาจารย์เลิศโงหัวจากการสำลักน้ำ ตั้งหลักยืนได้

    ไม่ต้องเสียแรงบอกย้ำซ้ำสอง เจ้าดวงตะกายขึ้นตลิ่งไวอย่างกับลิงน้อย!

    "พี่..ส่งมือมา..!"...เสียงพ่อครัวฯตัวเอ้ร้องลั่นข้างหลัง...

    ผมดันถ่อสุดแรงเกิด ส่งร่างตะเข้ถอยหลังตามน้ำพรืด แล้วทิ้งไม้คาไว้ให้เป็นอุปสรรคแถวปาก หันหลังยื่นมือให้เจ้าน้องเล็กกับมะ คว้าฉุดลากตัวปลิวขึ้นจากน้ำ

    เราหัวเราะกันน้ำกระจาย เป็นการผจญภัยเหมือนเด็กวัยรุ่นจอมซน ทั้งกลัวทั้งกล้าห่ามบ้าบิ่น ไม่คิดยิงเจ้าชาละวันให้เปลืองลูกปืน มันอยู่ของมันสงบสุข เราเป็นฝ่ายรุกล้ำถิ่นมัน

    ที่สำคัญ...ติดหนี้บวชต่อลูกหลานชาละวันพญากุมภีล์ยังไม่ได้ชดใช้ ขืนทำปาณาฯ เพิ่ม มีหวังแบกหนี้เพิ่มหัวโต!

    มื้อเที่ยงเพิ่มรสชาติมากมายกับปลาช่อนเผาเนื้อนุ่มหวาน และออกแรงเล่นเอาล่อเอาเถิดกับตะเข้สยามพอท้วม ๆ พวกเราลิ้มโมงยามความสุขดื่มด่ำกับการกินไม่เร่งร้อน


    เริ่มมั่นใจ หากหนทางข้างหน้าไม่มีอุปสรรคป่วนหนักหนา...เขาพรานก็อยู่ใต้ฝ่าเท้าไม่เกินเย็นนี้!


    ชั่วโมงต่อมา หลังน้ำย่อยทำงานชั่วครู่ ขบวน 9 ชีวิต ก็เคลื่อนทัพ ผมผู้อยู่เป็นกองหลัง มองทุกชีวิตแล้วคิดเล่น ๆ ว่า เรา 9 คนยังเดินป่าฝ่าดงยากลำบากเหนื่อยเหงื่อตกกีบ บางครั้งหวิดเอาชีวิตไม่รอด...

    แล้วเจ้า 'สงคราม 9 ทัพ' ที่พวกหม่องนุ่งโสร่ง กรีฑาทัพฝ่าขุนเขาดงดิบเถื่อน ทุกทิศทาง ทั้งป่าเหนือด้านเชียงใหม่ที่อุดมด้วยยอดภูสูงใหญ่ค้ำตระหง่าน ตะวันตกผ่านเทือก 'ตะนาวศรี' ที่ไม่ปรานีต่อผู้รุกรานที่อ่อนแอ ทางใต้นั้นเล่าต้องมาทั้งทางบกทางเรือ แสนลำเค็ญโหดร้ายเหลือพรรณนา

    ทุกเส้นทางล้วนมหาวิบาก เพื่อเปิดฉากสงครามกับสยามในยุครัตนโกสินทร์เพิ่งตั้งไข่ราชอาณาจักรอย่างยากลำบาก แต่เหล่าทัพพม่ารามัญสาหัสกว่า เจียนรากเลือดเพียงไหนหนอ ในการตะลุยข้ามอุปสรรค?

    ข้ามเขาโขดโหดหิน ด่าวดิ้นด้วยไข้ป่า สัตว์ร้ายสารพัน หากเหล่าผู้รุกรานได้ชัยชนะกลับไปก็พอทน แต่มาแล้วแพ้พ่าย ไม่ได้กลับเห็นหน้าลูกเมียญาติมิตรผู้อยู่หลังตลอดกาลนี่สิ

    พวกจอมทัพกระหายศึกนักเล่นสงครามผู้บงการ จิตใจมันต้องเหี้ยมสุดนรกอเวจีเท่านั้น จึงกล้าขยันทำเรื่องอย่างนี้กับประชาชนไพร่พลตนเอง ปีแล้วปีเล่า หนแล้วหนเล่า เหมือนฉายหนังม้วนเดิม ๆ!!!


    จังหวะหยุดรอ ชาวคณะข้างหน้าไต่มอเตี้ย แต่มีต้นไม้ขวางรุงรัง ผมหยุดครุ่นคิดเรื่องสงครามเมื่ออดีต อาจารย์เลิศที่อยู่ด้านหน้าก็หันกลับมา...

    "เออ...คืนนี้ อาจารย์ค่อยคุยเรื่องเมื่อวานนะ น้องพราน"

    ผมยิ้มรับอย่างยินดี ที่ผ่านมาตลอดทางไม่เอ่ยถามไถ่ เพราะรู้แก่ใจว่า จอมขมังเวทย์พร้อมตอนไหน จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากบอกเอง...

    ศึกดาวดึงส์จบแล้ว แต่ศึกลิขิตสวรรค์ยังไม่จบ ศึกนี้ไม่ต้องใช้กำลังสิ้นเปลือง ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อมโหฬารเยี่ยงสงคราม 9 ทัพ ไทย-พม่า

    ขอเพียงใช้สติปัญญาถูกทาง แก้ไขถูกจุด อาจพบหนทางเบี่ยงเบนชะตากรรม!

    --------------------

    *** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด***
     
  8. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,733
    ค่าพลัง:
    +205,264
    139_n.jpg?_nc_cat=109&ccb=1-5&_nc_sid=730e14&_nc_ohc=3JkQ8Fp2JbIAX--PAqQ&_nc_ht=scontent.furt1-1.jpg

    วันพระ หรือว่าภาษาบาลีสันสกฤตเขาเรียก วันธรรมสวนะ คือวันฟังธรรม แต่เดิมตั้งแต่ก่อนสมัยพุทธกาลมาก็มีวันพวกนี้อยู่แล้ว เพราะว่าบรรดาศาสดาเจ้าลัทธิต่าง ๆ กำหนดให้สาวกของตนต้องฟังธรรมในวันขึ้นหรือแรม ๘ ค่ำและขึ้น ๑๕ ค่ำ แรม ๑๔ หรือ แรม ๑๕ ค่ำเป็นประจำ ตอนหลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงอนุโลมให้พระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนา และอุบาสกอุบาสิกามีวันฟังธรรมเช่นกัน

    คราวนี้ด้วยความที่สมัยก่อนมีการทำเครื่องหมายเอาไว้ในปฏิทินเป็นรูปพระ ชาวบ้านก็เลยเรียกกันง่าย ๆ ว่า "วันพระ" แต่เราต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ทำไมถึงต้องเป็นวันขึ้นแรม ๘ ค่ำ ? ทำไมต้องเป็นวันขึ้นแรม ๑๕ ค่ำหรือว่าแรม ๑๔ ค่ำ ?

    เรื่องพวกนี้เราต้องเข้าใจว่า การมีชีวิตอยู่ของเราก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่ง คราวนี้เราเป็นส่วนเล็กนิดเดียวของธรรมชาติ เนื่องเพราะว่าแค่เปรียบกับโลกนี้ เราเองก็แค่เป็นเศษวัสดุชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น แล้วถ้าเปรียบกับสุริยจักรวาล หรือเปรียบกับดาราจักรทางช้างเผือก แล้วยิ่งถ้าไปถึงระดับเอกภพด้วย เราก็เป็นเศษฝุ่นเท่านั้น

    ในเมื่อเราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลง เราก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย อย่างเช่นว่ามีข้างขึ้น ข้างแรม มีตะวันขึ้น มีตะวันตก มีน้ำขึ้น น้ำลง โดยเฉพาะผู้หญิงจะเห็นชัดที่สุด ก็คือมีรอบเดือน ซึ่งก็เป็นไปตามจันทรคติ เพราะว่าดวงจันทร์อยู่ใกล้กับโลกมากที่สุด ส่งผลกระทบให้มากที่สุด ก็คือทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงได้

    คราวนี้น้ำขึ้นสูงสุดในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ และลงต่ำสุดในวันแรม ๑๕ ค่ำ หรือถ้าเดือนขาดก็คือแรม ๑๔ ค่ำ ส่วนขึ้นหรือแรม ๘ ค่ำนั้น จะว่าไปแล้ว ผลกระทบก็มีถึง แต่ว่าการแสดงออกของธรรมชาติก็คือน้ำทะเลไม่ชัดเจน โดยเป็นช่วงที่ของเหลวในร่างกายของเรา โดนดึงให้เหวี่ยงไปข้างซ้ายหรือขวามากที่สุด

    ช่วงในสภาพภาวะร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติเช่นนี้ ถ้าเราปล่อยตามบุญตามกรรม ก็จะเกิดอาการหงุดหงิด กลัดกลุ้มโดยไม่รู้ตัว บรรดาศาสดาเจ้าลัทธิต่าง ๆ ที่มีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติค่อนข้างมาก จึงกำหนดให้สาวกของตนฟังธรรม ในวันที่ร่างกายเกิดผลกระทบจากธรรมชาติสูงสุด

    คำว่าฟังธรรมในที่นี้ ก็คือถือศีลปฏิบัติธรรมด้วย เพื่อที่ให้กำลังใจมั่นคง จะได้ไม่ส่งส่ายวุ่นวาย หรือหงุดหงิด กลัดกลุ้มไปกับสภาพความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินั้น ๆ

    ดังนั้น...ถ้าหากว่าอยู่ ๆ มีใครถามว่า ทำไมวันพระถึงต้องเป็นขึ้นหรือแรม ๘ ค่ำ ? ทำไมถึงต้องเป็นแรม ๑๕ ค่ำหรือว่าแรม ๑๔ ค่ำ ถ้าเดือนขาด ? ก็เพื่อป้องกันผลการกระทบจากธรรมชาติ เราทั้งหลายที่มีการปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา จนมั่นคงแล้ว ผลกระทบจะมีน้อยมาก แต่ว่าท่านทั้งหลายที่ไม่ได้ปฏิบัติอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา กำลังใจไม่มั่นคง ก็จะมีผลกระทบมาก หงุดหงิด กลัดกลุ้ม ขี้โกรธโดยไม่รู้ตัว เหล่านี้เป็นต้น

    โดยเฉพาะถ้าหากว่าเป็นคนแก่หรือว่าคนป่วย จะมีผลกระทบมากเป็นพิเศษ คนป่วยบางคน พอเริ่มตกค่ำก็เริ่มไม่นอนแล้ว บางทีก็ฟุ้งซ่านพล่านอยู่ทั้งคืน บ่นลูกบ่นหลาน ด่าคนโน้นบ่นคนนี้ รอจนกระทั่งสว่างถึงจะนอนได้ ก็เพราะมีผลกระทบจากกลางคืนกลางวันที่สภาพต่างกัน

    ถ้าหากว่าเป็นจีนก็จะบอกว่า "ช่วงกลางคืนธาตุหยินรุนแรง เกิดผลกระทบกับธาตุหยางในร่างกายของคน" บุคคลที่มีความไวต่อสิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดความรู้สึก หรือว่าเกิดอาการต่าง ๆ ขึ้นมาได้

    กระผม/อาตมภาพเคยเฝ้าไข้คนป่วยหลายคน อาการมักจะกำเริบตอนกลางคืน ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเราไม่เข้าใจธรรมชาติตรงจุดนี้ ถึงเวลาก็อาจจะกลุ้ม อาจจะโกรธ อาจจะขัดใจไปเลยว่าทำไมป่วยแล้วก็ไม่รู้จักนอน ? ทำให้เราต้องถ่างตาคอยดูแลไปทั้งคืน ? ก็เพราะผลกระทบจากธรรมชาติตรงจุดนี้ที่เราเองไม่ค่อยจะเข้าใจ

    ส่วนในด้านไสยศาสตร์นั้น ข้างขึ้นข้างแรมก็ดี หรือว่า วันเสาร์ วันอังคารก็ตาม มีผลมาก บรรดาหมอไสยศาสตร์ต่าง ๆ ก็มักจะอาศัยวาระทั้งหลายเหล่านี้ เสกของบ้าง ปล่อยของบ้าง เราต้องเข้าใจว่าหมอไสยศาสตร์นั้นศึกษาเรื่องไสยศาสตร์มา เป็นของร้อน ถึงเวลาต้องมีการปล่อยออกไปเป็นระยะ ไม่เช่นนั้นบางทีก็ "กินตัวเอง" คำว่า "กินตัวเอง" ในที่นี้ก็คือเกิดโทษกับตนเอง แต่คราวนี้พอปล่อยออกไปแล้วก็ไปเดือดร้อนคนอื่นแทน..!

    โบราณถึงได้เตือนนักเตือนหนาว่ากลางค่ำกลางคืน ถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ อย่าไปขานรับ หรือว่าอย่าไปทัก บางทีก็เหมือนกับเสียงคนขว้างข้างฝา ดังปึงปังขึ้นมา บางทีก็มีเสียงกราว เหมือนใครโปรยกรวดโปรยทรายลงหลังคา เป็นต้น กระผม/อาตมภาพเองได้รับคำสอนไม่ให้ทักเวลาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เด็ก ๆ

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ สมัยก่อนผู้ใหญ่จะบอกอยู่เสมอว่าวันโกนวันพระ ต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะช่วงกลางคืนหลังตะวันตกดินไปแล้ว เพราะว่าพระยายมจะปล่อยผี ซึ่งตรงจุดนี้ต้องบอกว่าโบราณรู้จริง แต่ความจริงแล้วพระยายมท่านไม่ได้ปล่อยผี เป็นเรื่องปกติของผีอยู่แล้วที่พอถึงเวลาวันศีล วันทาน ก็คือวันโกน วันพระ ก็หวังว่าญาติพี่น้องของตนจะทำบุญทำทานให้

    เมื่อได้รับอนุญาตจากพระยายมราชก็กลับไปหาญาติพี่น้องตัวเอง เพื่อที่จะรอบุญ ถ้าหากว่าญาติพี่น้องทำบุญให้ โมทนาบุญได้ บางทีก็พ้นจากสภาพซึ่งรอการตัดสินจากพระยายมราชไปเลย ก็ไม่ต้องทำให้ท่านเหนื่อยยาก

    แต่ส่วนใหญ่แล้ว เกิน ๙๐ เปอร์เซ็นต์ก็คือไปแล้วเสียเวลาเปล่า..! ญาติพี่น้องตนเองนอกจากไม่ทำบุญสุนทานแล้ว บางทีก็ยังละเมิดศีลกันเป็นปกติ ก็ต้องซมซานกลับไปหาพระยายมราชท่านอีก

    คนเราพอตายแล้วฉลาดทุกคน รู้ว่าตรงจุดนั้นสามารถช่วยตนเองได้ เพราะว่าพระยายมราชไม่ได้มีหน้าที่เอาใครลงนรก แต่ท่านพยายามช่วยอย่างที่สุดที่จะไม่ให้คนลงนรก สอบสวนอย่างละเอียดลออมาก ถามแม้กระทั่งบุญเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าเคยทำอะไรไว้บ้าง ถ้านึกถึงความดีได้แม้แต่นิดเดียว ท่านจะให้ไปรับผลบุญนั้นก่อน หมดบุญเมื่อไรค่อยว่ากันอีกที แต่ถ้านึกไม่ออกจริง ๆ ท่านก็ต้องทำใจอุเบกขา ปล่อยให้รับโทษไปตามโทษานุโทษที่ตนเองได้กระทำมา

    ดังนั้น...การปฏิบัติธรรมตามสายของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หรือว่าหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านแนะนำว่า ถึงเวลาทำบุญแล้ว ให้อ้างถึงพระยายมราชให้เป็นสักขีพยานในงานบุญนั้นด้วย ถ้าหากว่าไม่ได้ขอให้ท่านเป็นสักขีพยาน ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกกล่าว แต่ถ้าเคยขอให้เป็นสักขีพยาน เมื่อท่านสอบสวนจนถึงที่สุดแล้ว เรานึกถึงความดีไม่ได้ ท่านก็จะประกาศในที่ประชุมตรงนั้นว่า บุคคลผู้นี้ วันนั้น เดือนนั้น ปีนั้น เคยทำความดีอะไรไว้ และขอให้ท่านเป็นพยาน ท่านจึงขอนำมาบอกกล่าวไว้ตรงนี้ แล้วก็ให้ผู้นั้นไปรับผลบุญของตนเองก่อน ถ้าไม่รู้จักต่อบุญตนเอง หมดบุญเมื่อไรแล้วค่อยมาว่ากันอีกทีหนึ่ง

    ตรงจุดนี้ทำให้พวกเราต้องทำความเข้าใจใหม่อยู่ ๒ ส่วน ส่วนแรกก็คือที่บอกว่า "วันพระ พระยายมปล่อยผี" ขอยืนยันว่าท่านไม่ได้ปล่อยผี แต่ท่านอนุญาตให้บรรดาบุคคลที่ตายไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ผ่านการตัดสิน ให้ไปโมทนาบุญที่ญาติพี่น้องตนเองทำเอาไว้

    หรือถ้าหลงเปะปะมาถึงวัดท่าขนุนก็สบายไป เพราะว่าคนส่วนใหญ่ พออุทิศส่วนกุศลก็จะให้แต่ญาติตนเอง แต่ว่าทางวัดท่าขนุนของเราก็สืบเอาความรู้มาจากหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็คืออุทิศบุญกุศลให้ทั้งผู้ที่เป็นญาติและไม่ใช่ญาติ ทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีโอกาสในการอนุโมทนาผลบุญ ในเมื่อได้รับบุญแล้วไปสู่สุคติ พระยายมราชเองก็ไม่ต้องเหนื่อย

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ "พระยายมราชไม่ได้มีหน้าที่นำคนลงนรก แต่คอยป้องกันไม่ให้คนลงนรก" บุคคลใดก็ตาม ถ้าหากว่าทำความดีความชั่วมาก้ำกึ่งกันอยู่ ไม่สามารถที่จะขึ้นบนโดยตรงหรือลงล่างโดยตรงได้ ก็จะต้องผ่านการตัดสินของพระยายมราช ถ้าหากว่าโดนนำตัวไปตำหนักพระยายมราช ขอให้รู้ว่าโอกาสรอดมีเกินครึ่งหนึ่ง ยิ่งถ้าหากว่าเคยอ้างให้ท่านเป็นสักขีพยานในการบุญ โอกาสรอดมีเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์..!

    ตรงส่วนนี้จึงขอทำความเข้าใจกับทุกท่านว่า ถึงเวลาที่เราสร้างบุญสร้างกุศลอะไรก็ตาม อุทิศให้แก่พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ ตลอดจนทั้งพระยายมราชด้วย แล้วขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นสักขีพยานให้ ว่าเราได้ทำบุญกุศลประการนี้ ถือว่าเป็นการทำประกันความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมา จะได้มีผู้ที่คอยช่วยเหลืออ้างถึงให้แก่พวกเราได้
    ...................................

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
  9. Khamphee

    Khamphee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    773
    ค่าพลัง:
    +16,700
    1636872478793.jpg
     
  10. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,733
    ค่าพลัง:
    +205,264
    วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู
    ใส่บาตรในเช้าวันนี้
    โมทนาบุญร่วมกันครับ
    สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
    นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล

    IMG_20220209_064029.jpg

    วันพระ เข้าคิวใส่บาตรพร้อมกันในจุดนี้เกือบยี่สิบคน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Thot

    Thot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2018
    โพสต์:
    772
    ค่าพลัง:
    +16,409
    สวัสดีครับคุณอา วันวิ และสมาชิกนักขุดกรุทุกท่าน
    นานๆได้มีเวลาเข้ามานั่งอ่านมวลความรู้ที่คุณอาและสมาชิกนำมาแบ่งปัน
    นั่งอ่านไปพิจารณาไป กล่าวได้ว่า ความรู้หรือข้อชี้แนะทางธรรมที่ได้จากกระทู้นี้ เป็นที่สุดสำหรับผมจริงๆ
     
  12. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    อาจารย์มุเปิดเกมส์ 'หาเหมียว' ทำเอาคุณพัฒน์ต้องจัดมาลองอีกคน แต่คนหาเจอไม่มีนกเป็นรางวัลให้นอกจากคำชมเชยว่า...ยังไม่แก่-ฮ่า
     
  13. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    อ้อ ก็พระปิดตาเม็ดบัววัดรวก ลป.โต๊ะ เสก องค์เล็กที่ผมบอกนั่นแหละ ไม่ใช่องค์จิ๋ว คราวนั้นผมให้สมาชิกส่งเงินให้เว็บ 30 บาท ผมส่งพระให้ทางems ค่าส่งแพงกว่าค่าพระอีก แต่สมาชิกบางท่านก็ส่ง 50 บ้าง 100 บ้างตามอัธยาศัย บางท่านส่ง 500 ก็มี

    ครั้งนั้นครั้งเดียวครับน้องชาติ ที่ได้ร่วมบุญกับเว็บ ซึ่งวิถีบุญก็เป็นสิ่งที่ใครทำ ใครได้ ไม่มีใครแย่งชิงบุญไปได้ เพราะสุดท้ายแล้ว อยู่ที่ผู้กระทำมีความพร้อมหรือไม่อีกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022
  14. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    ไม่มีปัญหา ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ว่าไงก็ว่าตามกันไป ปักษ์ใต้ว่า...หาพรั้นพรื่อม่าย!
     
  15. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    พระอาจารย์เล็ก วิสัชนาทุกเรื่องแจ่มแจ้มแดงแจ๋ ไม่ต้องเสริมเติมให้รกรุงรัง อ่านแล้วได้ความรู้ รู้รอบ รู้ลึก
     
  16. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    เป็นบุญใส่บาตรสมวันธรรมสวนะ เมื่อผู้คนลำบากที่จะไปรวมตัวที่วัดเพราะเป็นวันทำงานทั้งปัญหาเจ้าโรคตัวร้าย ก็มาเข้าแถว เข้าคิวใส่บาตรริมถนนตามที่พระภิกษุท่านออกมาโปรดสัตว์ ได้ภาพที่งดงามยามเช้าให้เราได้ร่วมอนุโมทนาเป็นปลื้ม เป็นสุขใจตามไปด้วย
     
  17. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    ยืนยันให้อีกหนึ่งเสียงครับท่านบก.
    ยังเตะปี้บได้ไกลเกิน 2 เมตร-ฮ่า
     
  18. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    ท่านบก.เคาะโป้งแรกก็ถูก
    ทำคนอื่นหมดสนุกกับมุขนี้
    ทุกคนในที่นี้'หนุ่ม'ทั้งนั้น-ฮ่า
     
  19. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    ทักน้องโต้ดกับข้อความให้กำลังใจดระทู้ ทั้งคนทำและคนร่วมส่งเรื่องราว เรื่องเล่าดีๆประดับกระทู้ กำลังใจเช่นนี้ทำให้กระทู้ทันสมัย ทันโลกรอบรู้ อุดมความรู้ และเดินหน้าอยู่ได้อย่างไม่น่าเบื่อหน่าย ตราบยังมีแรงจิ้ม พระยังเต็มตู้ สู้ สู้ เสมอคร้าบ

    ขอบคุณน้องโต้ดมาก
     
  20. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    41,214
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,033,022
    คุณธรรม'ฆราวาสธรรม'
    "ขันติ"ข้อคิดจากหลวงปู่...

    ใคร่ครวญคิด...ประดิษฐ์เชื้อ
    การก่อเกื้อ....เพื่อศาสน์สม
    บ่มบารมี......หนีเน่าหมม
    โลกภิรมย์...ถมด้วยธรรม

    --ข้ออดทน.....ขนคนพ้น
    --'วัฏเวียนวน...ทนทุกข์หนำ
    --นำ"ขันติ"......ตริตรองทำ
    --รู้โลกธรรม....จำแจ้งใจ!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022

แชร์หน้านี้

Loading...