**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ได้รับพระกริ่งภควาแล้วครับ โมทนาบุญด้วยครับ

 

ผมได้รับพระกริ่งภะคะวาเรียบร้อยแล้วครับอาจารย์ ขอบพระคุณมากครับ

 

วันนี้ได้รับพระกริ่ง ภควา เรียบร้อยครับอาจารย์ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ได้รับพระกริ่งภควาแล้วครับ ขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

​

.....วันที่ 26/4/2565 ได้จัดส่ง "พระกริ่ง ภะคะวา(ส.ท.)" ให้สมาชิกครบทุกท่านที่ร่วมบุญแล้วนะครับ ส่วนท่านใดอยากได้รหัสไปรษณีย์สามารถแจ้งขอรับทาง PM ได้เลยครับ

........ต้องขออภัยท่านสมาชิกด้วยนะครับที่อาจส่งล่าช้าไปบ้าง
พอดีช่วงนี้ผู้เขียนติดธุระเกี่ยวกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดครับ เลยอาจไม่ค่อยสะดวกส่งตรงเวลาแต่มีทีมส่งให้ครบทุกท่านแน่นอนครับ
​

ขออนุโมทนาครับ​

 

ได้รับวัตถุมงคลเรียบร้อยแล้ว ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์และทุกท่านด้วยครับ

 

​

......ขออนุญาตตอบคำถาม ท่านสมาชิกที่สอบถามเข้ามาจำนวนมากครับทาง PM หลังจากที่ได้รับพระกริ่ง "ภะคะวา" ไปแล้วว่าอยากทำน้ำมนต์ ทั้งดื่ม และ ทั้งอาบ ควรจะทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมและสมควร

......ผู้เขียนจึงขออนุญาตรวมคำถาม ตอบในบอร์ดนี้ทีเดียวเลยนะครับ ตามที่ท่านสมาชิกได้ถามมา ผู้เขียนได้นำไปสอบถามยังท่าน อ.บุญเลิศ แล้วท่านให้ความเห็นดังนี้ครับ

- เนื่องจากพระที่สร้างในครั้งนี้เป็นพระกริ่งใหญ่ถอดพิมพ์พระมาจาก พระกริ่งวัดสุทัศจึงเจตนาให้ภาพลักษณ์ของพระกริ่งนี้ คือรูปลักษณ์พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า หรือพระหมอที่มีผอบยาถือเป็นขวดอยู่บริเวณหน้าตักท่าน "ซึ่งตรงนี้ท่านอาจารย์บอกเลยครับว่า รูปลักษณ์นี้ก็เจตนาเป็นไปเพื่อทำน้ำมนต์แน่นอน โดยเฉพาะน้ำมนต์รักษาโรค"

- ฉะนั้นเมื่อรูปลักษณ์เป็นไปในทางทำน้ำมนต์โดยตรง(ซึ่งจริงๆมีพุทธคุณครบทุกด้านแต่ภาพลักษณ์น้อมพลังงานการทำน้ำมนต์ง่ายกว่า จึงเด่นด้านนี้มากกว่า) พลังงานที่พระครูบาอาจารย์ และ ที่ผ่านพิธีมาอย่างดีแล้วพระท่านเมตตาสงเคราะห์ลงไปในองค์พระจึงครบองค์ประกอบทั้งรูป(รูปหล่อพระกริ่ง)และนาม(พลังงานครูบาอาจารย์ที่ท่านอธิษฐานจิตลงไปที่รูป) ดังนั้นการอธิษฐานจิตจึงเป็นการดึงพลังงานผ่านองค์พระกริ่งอธิษฐานจิตไปที่น้ำให้เกิดเป็นน้ำมนต์ได้เลย...

- แต่บางท่านถามว่า อธิษฐานจิตแล้วแช่ลงในถังน้ำในบ้านได้เลยไหม?? จะสะดวกต่อการนำไปอาบ นำไปใช้ประพรมเพื่อให้เป็นมงคลได้สะดวกกว่า เหมือนเรื่องที่อาจารย์บุญเลิศเล่า เรื่องหลวงพ่อเทียมแช่พระกริ่งนี้ในโอ่งน้ำหน้ากุฏิเพื่อให้ญาติโยมมาตักได้ตลอกเวลา

- ตรงนี้ อ.บุญเลิศบอกว่าทำได้ในกรณีที่เราจะทำไว้ใช้เองเป็นการเฉพาะ(คือแยกโอ่งหรือถังไว้ทำน้ำมนต์ใช้เองเลย) แต่ปัจจุบันโอ่งน้ำหรือถังน้ำบ้านบางคนจะอยู่คู่กับห้องส้วม ไม่ได้แยกออกจากกันเป็นกิจจะลักษณะ(เช่นผู้อาศัยอยู่คอนโด) การนำพระไปแช่อาจจะดูไม่เหมาะสมนัก เพราะเวลาทำธุระส่วนตัวบางทีอาจจะหลงไปปรามาสพระท่านได้โดยไม่รู้ตัวหรืออาจจะหลงเททิ้งหายไปแบบนี้ก็เป็นได้(คือหลงลืม)

- ท่านจึงแนะนำว่า "ให้หาถังน้ำหรือภาชนะใส่น้ำเฉพาะนำพระกริ่งมาแช่ในน้ำ แล้วอธิษฐานจิตให้น้ำนั้นเป็นหัวเชื้อน้ำมนต์ก่อนแบบนี้ก็ได้"

กรณีทำน้ำอาบ
โดยการนำพระกริ่งมาแช่น้ำได้เลย(พระจะเลี่ยมหรือไม่เลี่ยมก็ได้) จากนั้นตั้งจิตสวดมนต์บทใดบทหนึ่งอะไรก็ได้ที่หมายถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นอิติปิโส หรือ ไตรสรณคมค์ หรือ บทสวดจักรพรรดิ(หลวงปู่ดู่) ก็ได้แล้วแต่ความสะดวกจากนั้นปิดท้ายด้วยคำอธิษฐานว่า พุทธะอโรคา ธัมมะอโรคา สังฆะอโรคา แล้วอธิษฐานจิตตามต้องการประมาณว่า ข้าพเจ้าขออารธนาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผ่านพระกริ่งภะคะวานี้ไปที่น้ำ ขอให้น้ำนี้เป็นน้ำพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์นำไปรดไปอาบขอให้ปรับธาตุ ฟอกขันธ์ นำไปประพรมขอให้เกิดแต่ความเป็นศิริมงคลไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป............(อธิษฐานได้ตามที่ปรารถนา) หลังจากอธิษฐานจิตน้ำเสร็จให้เอาพระกริ่งขึ้นจากน้ำเช็ดให้แห้งนำไปเก็บไว้ที่อันสมควร หรือ ถ้าเลี่ยมแล้วจะขึ้นคอหรือนำไปเก็บก็สุดแท้แต่ จากนั้นนำน้ำมนต์ที่ผ่านการอธิษฐานจิตแล้วนี้ ไปผสมกับน้ำในโอ่งหรือถังน้ำในห้องน้ำเราก็ได้ แบบนี้มีผลเท่ากันกับการแช่น้ำไว้ตลอด ทำเป็นครั้งเป็นคราวไปก็ได้ นี้เราสามารถทำเองได้เพราะเราไม่ได้อธิษฐานเอง แต่เราอาราธนาคุณพระท่านมาสงเคราะห์โดยเราอธิษฐานจิตผ่านพระกริ่ง เพราะพระกริ่งเป็นสื่อไปถึงพระท่าน(พลังงานท่าน)อยู่แล้ว....(อ.บุญเลิศกล่าว)"

กรณีทำน้ำกิน
- ท่านกล่าวต่อว่า "แต่ถ้าจะอธิษฐานจิตน้ำมนต์ดื่ม ให้หาน้ำสะอาดที่บรรจุขวดธรรมดาๆนี้ก็ได้ หรือน้ำอะไรก็ได้ที่ใส่ในภาชนะที่สะอาด นำพระกริ่งภะคะวา มาอธิษฐานจิต โดยการกำไว้ในมือก็ดีหรือจะนำมาว่างไว้บนขวดน้ำสะอาดหรือบริเวณใกล้ๆภาชนะที่บรรจุน้ำสะอาดนั้นก็ได้ โดยไม่ต้องแช่ จากนั้นตั้งจิตสวดมนต์บทใดบทหนึ่งอะไรก็ได้ที่หมายถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นอิติปิโส หรือ ไตรสรณคมค์ หรือ บทสวดจักรพรรดิ ก็ได้แล้วแต่ความสะดวกจากนั้นปิดท้ายด้วยคำอธิษฐานว่า พุทธะอโรคา ธัมมะอโรคา สังฆะอโรคา แล้วอธิษฐานจิตตามต้องการประมาณว่า ข้าพเจ้าขออารธนาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผ่านพระกริ่งภะคะวานี้ไปที่น้ำ ขอให้น้ำนี้เป็นน้ำพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์นำไปดื่มไปกินไปรดไปอาบขอให้ปรับธาตุ ฟอกขันธ์ นำไปประพรมขอให้เกิดแต่ความเป็นศิริมงคลไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป ให้โรคาพยาธิทั้งหลายมลายหายไปจากกายขันธ์ด้วยเทอญ............(อธิษฐานได้ตามที่ปรารถนา) จากนั้นก็นำน้ำนั้นมาดื่มกินได้เป็นน้ำพุทธมนต์แล้ว..."

........ท่านกล่าวทิ้งทายว่า "ขอให้ระลึกถึงคุณพระท่าน(คุณพระพุทธเจ้า) อยู่เสมอๆท่านจะอนุเคราะห์สงเคราะห์เมตตาเราเอง......."

****นี้คืออุปเทห์การทำน้ำมนต์ที่ท่านได้บอกมาครับ****​

 

ได้รับพระกริ่งภะคะวาแล้วครับ โมทนาบุญด้วยครับ

 

ในภาพแถวหน้าจากซ้ายมือ อ.นิวัฒน์ อ.สันติ(วรรณภิรมณ์) อ.บุญเลิศ อ.ศรี(สายเขาอ้อ)
แถวหลังจากซ้ายมือ อ.แวง อ.เดช(มงคลวัณ) อ.พน โสวัน
(ในงานสมโภชอุโบสถวัดโพธิศรี และ วันทบทวนสรรพวิชาสายวัดประดู่ทรงธรรม ปี 2559)
อาจารย์ฆราวาส สายสรรพวิชาทั้งวัดประดู่ และ สายเขาอ้อ

ว่าด้วยเรื่อง "พระขรรค์เทพศาสตรา"
(สายวัดประดู่ทรงธรรม)


แบบของจริง(ที่ถอดแบบมาแล้ว)
โดยถอดแบบจากพระขรรค์หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
​

....วันนี้ผู้เขียนได้เดินทางเข้าขอสัมภาษณ์ท่าน อ.บุญเลิศในสำนัก ด้วยมีเหตุเกี่ยวเนื่องกับงานวิจัยเรื่องชาติพันธ์ุอีสาน ซึ่งเป็นงานวิจัยของท้องถิ่นที่รับทุนสนับสนุนจากทางจังหวัด โดยมีอาจารย์หลายมหาวิทยาลัยร่วมกันทำ ซึ่งการเข้าสัมภาษณ์ท่านอาจารย์วันนี้ก็เพราะ 1.ท่านเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านวัฒนธรรมโดยเแพาะเรื่องท้องถิ่น 2.ท่านเคยรับราชการทั้งใน ก.วัฒนธรรม และ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมาก่อน ผู้เขียนจึงขออนุญาตท่านสัมภาษณ์เพื่อทำการเก็บข้อมูล(ทำresearch) และกรณีศึกษา(ชนกลุ่มผู้มีบุญในอดีต)

....พอสัมภาษณ์ท่านไปสักพักจนคิดว่าข้อมูลครบถ้วนตามที่ได้กำหนดหัวข้อมาแล้ว ก็จะได้ขอลาท่านกลับครับ แต่พอกำลังจะขอตัวลา มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งเดินเข้ามาหาท่าน ท่านจึงถามว่ามีอะไร ลูกศิษย์ท่านนั้น
ตอบว่า "นำแบบพระขรรค์มาให้ท่านอาจารย์พิจารณาครับ" เท่านั้นละครับผู้เขียนจึงหูผึ่ง นั่งรอฟังว่า "พระขรรค์ที่ว่านี้คืออะไร"

....พอนั่งฟังการสนทนาระหว่าง อาจารย์บุญเลิศกับลูกศิษย์ผู้นำแบบพระขรรค์ดังกล่าวมาให้ท่านพิจารณาแบบอยู่สักพักพอได้ใจความว่า...
- พระขรรค์นี้จัดทำขึ้นโดยลูกศิษย์ อ.บุญเลิศ ขออนุญาตท่านจัดสร้างเพื่อหาทุนเข้ากองทุนเพื่อการกุศล อ.บุญเลิศ(ซึ่งจัดทำทุกปีเพราะกองทุนนี้ใช้เพื่องานมูลนิธิการกุศล เช่น กลุ่มของมูลนิธิอาสาร่วมกตัญญู เป็นต้น)
- พระขรรค์นี้จัดทำแบบด้ามเล็ก ขนาดประมาณ 5 ซม.โดยมีด้ามเป็นรูป "ท้าวเวสสุวัณ" ทั้งแบบหน้าเทพและหน้ายักษ์ ทราบว่าหล่อพิมพ์แบบมาจาก "พระขรรค์เทพหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ"
- อาจารย์บุญเลิศ ท่านอนุญาตให้สร้างโดย "จัดสร้างตามตำราเทพศาสตรา วัดประดู่ทรงธรรม" โดยท่านอาจารย์จะลงแผ่นยันต์บังคับไว้หล่อ และ กำหนดพิธีบวงสรวงให้
- โดยชื่อพระขรรค์นี้เป็นอาวุธเทพศาสตรา ตามตำราวัดประดู่ทรงธรรม เป็นตำราที่มีการอัญเชิญ "อาวุธแห่งเทพผู้เป็นใหญ่ 10 อย่าง" พร้อมแช่น้ำพุทธมนต์ให้เกิดความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตามตำราโบราณ ซึ่งทำครั้งนี้เป็นการทำครั้งที่ 3 ของท่าน(รุ่น 3) แต่ละแบบแต่ละรุ่นก็แตกต่างกันออกไป
- และจะมีแผ่นยันต์จารยันต์บังคับสำคัญๆ(ตามตำรา) เพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคลแก่ผู้มีติดตัว และ ป้องกันภัยจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ทั้งภัยจากมนุษย์และอมนุษย์ที่มองไม่เห็น

.......ฟังอยู่สักพักก็ได้ความดังนี้ ถ้ามีการสร้างหรือเปิดจองช่วงไหน ผู้เขียนจะนำมาลงประชาสัมพันธ์ให้ทราบเผื่อมีท่านใดสนใจ อยากร่วมบุญกันในครั้งนี้ครับ ซึ่งวัตถุมงคลของ อ.บุญเลิศ นอกจากทำตามตำราโบราณอย่างดีและถูกต้องแล้ว อัตตราร่วมบุญก็ไม่แพง เพราะท่านเคยปรารถว่า "อยากสร้างไว้ให้ใช้ให้ติดตัวกันมากกว่า ถ้าค่าบูชาแพงมันแคลงใจ แต่ถ้าค่าบูชาถูกนอกจากจะได้ของดีไว้บูชา ยังได้ร่วมบุญอีก และจะไม่เกิดความแคลงใจอีกด้วย นี้เจตนานะ..."

 

พระขรรค์เทพศาสตรา
(พระสูตรวัดประดู่ทรงธรรม) เปิดจองจำนวนครับ


​

.....วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสติดตามการสร้าง "พระขรรค์เทพศาสตรา" ตำราวัดประดู่ทรงธรรมซึ่งตอนที่ผู้เขียนโพสไปมีผู้สนใจสอบถามเข้ามาจำนวนมากเลยครับ จนผู้เขียนต้องไปตามเรื่องจากทางผู้ดูแลการจัดสร้าง(เพราะเกรงว่าจะจองไม่ทัน)และกรรมการกองทุนทางผู้ดูแลก็ดีครับ ส่งภาพและรายละเอียดการหล่อชนวนมวลสารต่างๆมาให้ชม....

ซึ่งท่าน อ.บุญเลิศ สั่งให้ลูกศิษย์นำชนวนมวลสารดังต่อไปนี้คือ...
- ลงยันต์ 15 วิชาตามตำรา
- ผสมกับเหล็กยอดปราสาท (ท่านได้มาจากเสาล่อฟ้ายอดโลหะปราสาทที่เขาเปลี่ยนเมื่อปี2542)
- และเหล็กโลหะเกี่ยวเนื่องกับการป้องกัน เช่น เหล็กเผาผี(เคล็ดคือทำร้ายสิ่งอัปมงคลต่างๆ)
- แผ่นจารยันต์จตุรวุธ ของเทพ 4 ประการคือ ยันต์1.สายฟ้าพระอินทร์ ยันต์2.ดวงตาพญายม ยันต์3.จักรนาราย ยันต์4.คฑาเทพท้าวเวสสุวัณ
- แผ่นยันต์พระมหาจักรพรรตราธิราช ที่ผ่านพิธีทำน้ำมนต์พระกริ่งภะคะวา
- แผ่นยันต์อัปปมาโณพุทโธ ที่ผ่านพิธีทำน้ำมนต์กริ่ง
- แผ่นยันต์อัปปมาโณธัมโม และ แผ่นยันต์อัปปมาโณสังโฆ
- แผ่นยันต์นะคลาดแคล้ว(หรือยันต์ปราบผี) สุดยอดยันต์มหาปราบ

***********************

นำชนวนทั้งหมดหล่อเป็นก้อน


นี้คือชนวนมวลสารที่ได้นำมาหล่อเป็นก้อนชนวนมวลสารแล้ว
หลังจากนี้จะนำไปหล่อพระขรรค์เทพศาตราครับ โดยท่านสั่งให้หล่อผสม
"ทองเหลือที่เหลือจากการหล่อพระกริ่งภะคะวา"

**************************​

....ซึ่งในการนี้อาจารย์บุญเลิศสั่งว่า เมื่อหล่อเสร็จให้ตอกโค๊ตตัว "ท" ซึ่งมาจากคำว่า "หลวงปู่เทือง" เพราะท่านจะสร้างถวายหลวงปู่เทือง ท่านจะทำพิธีบูชาพระบวงสรวงให้ตามตำราทุกประการประสิทธิ์ประสาทวิชาครูบาอาจารย์ หลังเสร็จพิธี "ค่อยให้หลวงปู่เทืองเมตตา เพราะท่านเป็นพระมีตบะสูง" จึงครบสูตรทั้งพิธีสงฆ์และพิธีฆราวาส

***หมายเหตุ**หลังเสร็จพิธีบวงสรวงก่อนหลวงปู่จะอธิษฐานจิต อ.บุญเลิศ ท่านจะนำไปชุบด้วยน้ำมนต์ซึ่งมีวิชาลงทำน้ำมนต์ชุบมีดเฉพาะอีก 1 วิชา
แล้วจึงเสกด้วยคาถา "สัพพะ เทวะอาวุธัง" ซึ่งเป็นคาถาอัญเชิญอาวุธเทพ10 ประการมาสถิต ณ พระขรรค์เทพศาสตรานี้

วุธเทพ10 ประการ คือ
1.พระพุทธเจ้า มีเมตตาเป็นอาวุธ
2.ท้าวสักกะ มีวชิร(สายฟ้า)เป็นอาวุธ
3.ท้าวเวสสุวัณ มีคฑาเทพเป็นอาวุธ
4.อาฬาวกยันต์ มีผ้าวิเศษเป็นอาวุธ
5.พยายมราช มีนัยตาวิเศษเป็นอาวุธ
6.กาฬปัจ มีหอกเทพเป็นอาวุธ
7.พระนาราย มีจักรเป็นอาวุธ
8.พระอิศวร มีตรีศูล
9.พระหม มีดอกไม้สวรรค์เป็นอาวุธ
10.พระสุนทรายะ มีพระเกศเป็นอาวุธ

*********ในความหมายพระคาถามีประมาณนี้ครับ***********
​

อุปเทห์ท่านว่า
พระขรรค์ที่สร้างตามตำราทำมีดหมอสายวัดประดู่ทรงธรรม มหาตักศิลาด้านวิชาอาคมที่สืบต่อมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีพุทธคุณเปรียบดังอาวุธเทพ ใช้ขจัดปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัย กันแก้อาถรรพ์คุณไสยมนต์ดำ การฝังรูปฝังรอย และอวิชชาด้านมืดทุกรูปแบบ ฝูงภูตผีปีศาจทั้งหลายที่ประสงค์ไม่ดี ไม่สามารถเข้ามากล้ำกรายทำร้ายเราได้ จะใช้พระขรรค์จี้ไล่โรคภัยและสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่มาอยู่ในร่างกาย หรือสามารถใช้อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาคุณไสยมนต์ดำ ขับไล่ภูตผีสิ่งไม่ดีทั้งปวง หรืออธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรคภัยต่างๆก็ได้
วางไว้ในบ้าน สวดมนแผ่บุญให้เทพพรหมเจ้าของวิชาและเทพพรหมที่ดูแลพระขรรค์เสมอๆ สามารถป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งปวงไม่ให้เข้ามาวุ่นวายได้ทั้งบ้าน

*********************​

ปล.(สำคัญควรอ่านครับ) ผู้เขียนทราบมาว่าจะจัดสร้างแค่ 520 ด้าม อัตตราบูชา 80 บาท(ส่วนตัวผู้เขียนว่าคุ้มมากครับสำหรับการจัดสร้างดีขนาดนี้ ผู้เขียนจองเอง20ด้ามครับ) ปัจจัยส่วนนี้เข้ากองทุนโดยตรง(ไม่หักค่าใช้จ่าย) แต่ปัญหาคือ ไม่ทราบว่าจะสามารถจองทันหรือไม่ ผู้เขียนขออนุญาตแจ้งว่า ท่านสมาชิกท่านใดมีจิตศรัทธาอยากร่วมบุญรับวัตถุมงคลพระขรรค์เทพศาสตราชุดนี้
....ขอให้จองจำนวนไว้ก่อนได้เลยนะครับในบอร์ดนี้เท่านั้น(งดส่งไลน์ครับเพราะอาจเกิดความสับสน)

โดยยังไม่ต้องโอนปัจจัยนะครับ เพราะวันเปิดจองผู้เขียนจะได้จองตามจำนวนเลยครับ ไม่งันอาจจะไม่ทันท่านผู้ศรัทธาข้างนอกที่รอจองกันอยู่จำนวนมาก(เดียวจะเหมือนพระกริ่งภะคะวาครับ ขาดจำนวนไปมาก)

จึงขออนุญาตแจ้งรายละเอียดท่านสมาชิกที่สอบถามเข้ามาจำนวนมากดังนี้ครับ(ปิดยอดวันที่2 นะครับ)

ขอบคุณครับ


​

 

จองพระขรรค์ 10 ด้ามครับ

 

ร่วมบูชา 4 ด้ามครับ

 

ร่วมบุญพระขรรค์ 3 ด้าม ครับ

 

ขอร่วมบุญบูชา "พระขรรค์เทพศาสตรา" จำนวน 6 ด้าม

 

จองพระขรรค์ 20 ด้ามครับบ

 

ขอร่วมบุญบูชาพระขรรค์ ๕ ด้ามครับ

 

ขอร่วมบูชาพระขรรค์ 10 ด้ามครับ

 

ร่วมบูชาพระขรรค์ 10 ด้ามครับ

 

จอง ร่วมบูชาพระขรรค์ 5 ด้าม ครับ

 

ขอร่วมบุญจอง5ด้ามครับ