ยอดขุนพล ลพ.เอีย วัดบ้านด่านเสก เสมาหลวงปู่สายดอนกระต่ายทอง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระผงรูปเหมือน หลวงปู่เกลี้ยงวัดเนินสุทธราวาสหลังหนุมาน(ขนาดประมาณองค์จตุคาม)เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ6ซม.เลี่ยมพร้อม
    ให้บูชา 200บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflashหรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์

    IMG_20220819_004226.jpg IMG_20220819_004246.jpg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1308556-3d2f8.jpg


    ครูบาเทือง นาถสีโล (พระครูไพศาลพัฒนโกวิท)
    เจ้าอาวาส วัดบ้านเด่น (วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อายุ 53 ปี พรรษา 33 แม้ว่าทั้งอายุและพรรษาไม่มาก แต่ท่านมีปฏิปทา น่ากราบไหว้ สงบเสงี่ยม หากจะประมวลภาพรวมความเป็น ครูบาของท่าน จะได้ดังนี้

    ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโลครูบาเจ้าเทือง นาถสีโลพระครูไพศาลพัฒนโกวิท

    สถิต ณ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

    นามเดิมครูบาเจ้าเทือง หน่อเรืองฉายานาถสีโลเกิด๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ เหนือ ปีมะโรง (ปีสี)

    “ครูบาอ่อนน้อมถ่อมตน-ฝึกฝนปฏิบัติ-เคร่งครัดพระธรรมวินัย-จิตใจสุขุมเยือกเย็น-บำเพ็ญบารมี-ทำความดีเป็นนิจ-จิตเมตตาเสมอ”

    ตั้งแต่บวชเป็นสามเณรจนกระทั่งบวชเป็นพระครูบาเทือง ได้บำเพ็ญบุญบารมี ตามรอยแห่งครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาทุกประการ ถ้าพูดถึงทานการบริจาค ครูบาสามารถสร้างศาสนสถาน ถาวรวัตถุ ไม่แต่เฉพาะใน จ.เชียงใหม่ เท่านั้น ทุกจังหวัดในภาคเหนือครูบา ได้ประดิษฐานพระพุทธ ศาสนาอย่างทั่วถึงและมั่นคง ท่านสร้างทั้งโบสถ์ วิหาร เจดีย์ พระพุทธปฏิมา ศาลากุฏิสงฆ์ ฯลฯ

    ในด้านการปฏิบัติ ครูบานับเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งที่เข้าถึงธรรม และมีข้อวัตรอย่างเคร่งครัด โดยยึดข้อปฏิบัติตามสมัยโบราณ ตามครูบาอาจารย์ที่สืบๆ กันตาม โดยวิธีปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเคร่งครัด โดยเฉพาะวิปัสสนากรรมฐาน ในด้านการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ครูบาเสียสละปัจจัยไทยธรรมที่มีผู้ถวาย บริจาคช่วยเหลือแก่ส่วนราชการ องค์กร ชมรม สโมสร ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวไทยภูเขา ตั้งแต่ข้าว ผ้า ยา บ้าน การศึกษา น้ำประปา ไฟฟ้า ถนนหนทาง มากมายมหาศาล

    “เป็นพระต้องพูดจริง ต้องทำจริง และต้องรู้จริง”

    เป็นคติธรรม ที่ครูบาเทืองยึดปฏิบัติเรื่อยมาผลจาก ความจริงที่ท่านบำเพ็ญ เพียรภาวนา ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวช เทศนา พัฒนาชุมชนบน พื้นฐานของข้อ วัตรปฏิบัติที่ปราศจากการใส่ร้ายป้ายสีโจมตีบีทา ครูบารักษาศีล ไม่เห็นแก่กิน ไม่เห็นแก่นอน ฝึก สอนใจตนเอง ตลอดเวลา รวมทั้งการเสียสละสร้างศรัทธา นำพาถูกต้องปรอง ดองให้เห็น ดีเด่นใน คุณธรรม

    ที่มา หนังสือประวัติครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูง
    พระเกษารุ่นแรก ครูบาเทือง วัดบ้านเด่น
    ให้บูชา 200บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflashหรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์
    IMG_20220819_005508.jpg IMG_20220819_005521.jpg
    IMG_20220819_005547.jpg
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    วัตถุมงคลหลากหลายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศครับค่าจัดส่งต่อครั้ง 30 บาทระบบflash หรือ J&Tและ 50 บาทems ไปรษณีย์ไทย 08--1--70--4--72--64 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง line ตามเบอร์โทรศัพท์
    บัญชีธนาคาร กรุงไทย 125-00-89-239
    Supachai thu
    โอนแล้วแจ้งบอก ทางข้อความ พร้อมที่อยู่จัดส่ง ป้องกันการเอาข้อมูลของมิจฉาชีพ
     
  4. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,379
    ค่าพลัง:
    +13,255
    รวยๆๆๆๆๆๆ ครับท่าน
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    3651-1.jpg พระอาจารย์เขาหงษ์ (หลวงปู่ พิชัย ฐิติลาโภ อายุ 108 ปี)
    พระเถระ 5 แผ่นดิน ผู้สืบทอดสุดยอดวิชาแห่งสำนักวัดมะขามเฒ่า ปรมาจารย์ผู้มีอาวุโสสูงสุดแห่งสำนักวัดสุทัศน์ ศิษย์ในองค์พระสังฆราชแพ พระอาจารย์ในดง พระในตำนาน ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันมากในหมู่พระธุดงค์ ผู้สำเร็จวิชาเป่าทองในระดับสุดยอด เป่าคราวเดียวหายวับไปกับตา แต่ถ้าเข้าเครื่อง X-Ray ละก็เห็นหมดทุกแผ่น ทั้งหมดที่กล่าวขึ้นมา คือ องค์หลวงปู่ พิชัย ฐิติลาโภ ปรมาจารย์ผู้เฒ่าแห่งสำนักสงฆ์เขาหงษ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี พระผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของลูกศิษย์มากมายในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญในสุดยอดวิชาการเป่าทอง ซึ่งทำเอานายแพทย์หลายท่านต้องประหลาดใจ เพราะเห็นแผ่นทองหลายแผ่นติดอยู่ที่ศีรษะลูกศิษย์ของหลวงปู่ที่มารับการตรวจโดยการ X-Ray



    เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหนังสือพิมพ์หลายฉบับ วารสาร รายการโทรทัศน์ ได้เผยแพร่เรื่องราวของหลวงปู่ในนามของ “หลวงตาฮาร์วาร์ด” ผู้ชำนาญในการใช้สมุนไพรโบราณและตัวยาในแผนปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่มาของฉายานี้ก็มาจากเมื่อครั้งก่อนบวชนั้นท่านได้สำเร็จการศึกษาสูงสุดในระดับปริญญาเอก หรือเป็นด๊อกเตอร์ที่จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนั่นเอง ซึ่งต่อมาได้อุปสมบท ณ อุโบสถวัดสุทัศน์เทพวราราม โดยมี สมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นพระอุปัชฌาย์ นอกจากนั้นหลวงปู่ยังได้ศึกษาวิชาพุทธาคมในสายหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า โดยมีองศ์หลวงปู่ปลื้มผู้เป็นน้องร่วมสายโลหิตของหลวงปู่ศุขเป็นผู้ฝึกสอนให้โดยตรง และหลวงปู่ปลื้มผู้นี้เองที่เป็นผู้สร้างวัตถุมงคลพระเครื่องต่างๆ ให้แก่องค์หลวงปู่ศุขในขณะนั้น และเป็นสมภารเจ้าผู้ครองวัดมะขามเฒ่าในเวลาต่อมา


    ดงนั้นจึงกล่าวได้เต็มปากว่า หลวงปู่พิชัยท่านเป็นปรมาจารย์ผู้สำเร็จสุดยอดวิชาทั้งสำนักวัดมะขามเฒ่าและสายวัดสุทัศน์ หลวงปู่พิชัยจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทัศน์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493-2511 ซึ่งในขณะนั้นท่านมีชื่อเสียงทางด้านการเทศนาธรรม เป็นปราชญ์แห่งธรรม และมีศักดิ์เป็นถึง ท่านเจ้าคุณพระสุนทรธรรมรส รองเจ้าคณะ 1 แห่งวัดสุทัศน์ ท่านได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งสำคัญๆ มากมายหลายพิธีในสมัยนั้น ก่อนออกธุดงค์ไปหลายปีจนมาถึงสำนักสงฆ์เขาหงษ์ในปัจจุบัน ซึ่งฉายาของหลวงปู่นั้นมีมากมายเนื่องจาก
    เหรียญรุ่น 1หลวงปู่พิชัยให้บูชา800บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflash หรือ J&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย(ปิดรายการ)

    IMG_20220819_123041.jpg IMG_20220819_123057.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2022
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    หลวงปู่สนธิ์-อนาลโย-0.jpg
    ในวัยเยาว์ (ปฐมวัย)
    หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย นามเดิมชื่อ สุเต นามสกุล คำมั่น เกิดเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๗ ตรงกับวันอาทิตย์ ณ บ้านโนนชาติ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันจังหวัดยโสธร)

    บิดาชื่อ นายเป คำมั่น มารดาชื่อ นางกัน คำมั่น อาชีพที่บ้านท่านแต่เดิมก็มีอาชีพทำนาเป็นหลักในภาคอีสาน ในสมัยนั้นก็มีอาชีพเดียวเป็นหลัก ท่านมีพี่น้องร่วมอุทรเดียวกันทั้งหมด ๖ คน หลวงปู่สนธิ์ เป็นบุตรคนที่สอง ชื่อเดิมว่า สุเต เพราะท่านเป็นคนที่ชอบสังเกตุ ผู้ใหญ่จึงเรียกว่า สนธิ์ คือมีสิ่งใหม่ให้สังเกตุพิจารณา ผู้ให้ทำอะไรท่านก็มีความสนใจจึงถูกเรียกว่าสน
    เด็กชายสนธิ์ คำมั่น เรียนจบชั้นประถมปีที่ ๔ จากโรงเรียนวัดบ้านสร้างมิ่ง ด้วยคุณธรรมที่มีมาแต่เดิมจึงทำให้ท่านเป็นคนชอบสงบ มีนิสัยรักสงบ เชื่อฟังผู้ใหญ่ กลัวต่อความผิด ซึ่งทำให้ท่านมีอุปนิสัยแตกต่างจาก เด็กในวัยเดียวกัน ชอบในการเป็นผู้ให้ เช่นให้อาหารบิณฑบาตกับคุณแม่ในวัยเด็ก เมื่อคุณแม่ใส่บาตร แก่พระที่มาบิณฑบาต ท่านจะมีความอิ่มใจ สุขใจ และด้วยบุญบารมีที่ได้สะสมในกาลก่อน เมื่อท่านได้พบกับภิกษุผู้ภิกขาจาร ก็ทำให้ท่านมีความเลื่อมใส่ รู้สึกว่าจิตใจสบายเป็นปิติ ด้วยกำลังแห่งบารมีธรรมที่เต็มบริบูรณ์ จึงทำให้ท่านมีจิตใจที่โน้มเอียงไปในทางออกบวช

    ด้วยนิสัยของชาวอีสานในสมัยนั้นมีความเคารพต่อพระพุทธศาสนามาก เมื่อมีลูกชายก็อยากจะให้บวชเีรียนเขียนอ่าน เป็นเพราะการศึกษาในสมัยนั้นยังไม่เจริญ คนที่มีความรู้ความสามารถ ก็จะเกิดจากนักบวช ทิด จารย์ครู คือผู้บวชแล้วสึกไป มีครอบครัว คนอีสานก็มีอัตตลักษณ์ของกลุ่มชนที่มีเฉพาะตน คือเป็นคนรักสงบ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น รักสนุก รักเพื่อนมิตร ดังนั้นบิดามารดาของท่านจึงมีความรักในลูกอยากจะให้ลูกได้มีความรู้ความสามารถ จึงนิยมนำลูกชายของตนเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา เด็กชายสนธิ์ก็เช่นเดียวกัน มีอัธยาศัยไปในการออกบวช จึงชอบไปอยู่วัด เพื่อรับใช้พระ (สังกะรีวัด) คือเป็นผู้คอยรับใช้พระผู้มีอาวุโส เช่น ตมน้ำร้อน น้ำเย็นถวายพระในวัยเด็กของหลวงปู่สนธิ์ ท่านก็เหมือนเด็กอีสานในสมัยนั้นคือช่วยเหลือพ่อแม่ทำมาหากิน เพราะระดับการศึกษาในยุกนั้นมีน้อย จบแค่ประถมสี่ ก็สามารถอ่านออกเขียนได้แล้ว ถ้าจะให้มีความรู้มากกว่านั้นก็ต้องมาเรียนในตัวเมืองหลวงหรือหัวเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น ส่วนความรู้ที่มีมากอีกสาขาหนึ่งคือ วัด ซึ่งเป็นสถานอบรมนิสัยให้แก่ลูกหลาน พระท่านก็ให้เรียนหนังสือผูก เช่น เรียนสนธิ์ เรียนมูล เรียนตัวธรรม เรียนตัวขอม เป็นต้น ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้จารึก (จาร)ไว้ในใบลาน พระจึงต้องเรียนตัวธรรม (ไทยน้อย) ซึงส่วนมากจารึกเป็นนิทานธรรมบท หรือนิทานพื้นบ้านในอีสาน คือ นางผมหอม ผาแดงนางไอ่ ขู่หลู่ นางอั๋ว เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้นักปราชญ์อีสานนำมาเขียนเป็นกลอนลำ คำผญา สุภาษิตสอนหลาน เป็นต้นล้วนออกมาจากภาษาไทยน้อย หรือตัวธรรมในสมัยนั้น คนอีสานจึงนิยมฟังกันมาก เพราะมีความเคารพในพระพุทธศาสนา พระธรรม พระสงฆ์ เพราะฉนั้นคนอีสานทั้งชายหญิงก็อยู่ในจารีต ๑๒ ครอง ๑๔ ซึ่งเป็นธรรมเนียมของชาวภาคอีสาน เช่น ฮีตปู่ ครองย่า ฮีตป้า ครองลุง ฮีตพ่อ ครองแม่ ฮีตผัว ครองเมีย เป็นต้น ดังนั้นนิสัยของท่านจึงน้อมไปในทางออกบวชตั้งแต่นั้นเป็นมา
    การเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
    ด้วยความกตัญญูต่อแม่ของท่าน โดยคุณแม่ทุกคนหวังจะได้เกาะชายผ้าเหลืองของลูก หรือเป็นธรรมยาทในทางพระศาสนา แม่หวังให้ลูกได้บวชเรียนเขียนอ่านก่อน คือพ่อแม่หวังให้ลูกชายทุกคนได้มาฝึกความเพียร ความอดทน ความลำบากต่างๆ ในทางพระศาสนา คือการบวชในอดีต เป็นความลำบากมากคือไฟฟ้าก็ไม่มี มีแต่ตระเกียง จุดใต้ หรือนำเอายางไม้มาผสมกับไม้ที่ผุแล้วนำมาทำใต่จุดส่องสว่างกันเท่านั้น การท่องบ่นสาธยายต่างๆก็มีตำราน้อย บางวัดต้องมาเรียกปากต่อปาก เป็นแบบมุขปาถะ ดังนั้นท่านจึงมาลำรึกถึงคำแม่สั่งไว้ว่าจะทำอะไรต่อไปให้บวชให้แม่ก่อน ท่านจึงเดินทางกลับไปที่จังหวัดสกลนคร และขอบวชที่วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร โดยมีพระอาจารย์มหาทองสุก สุจิตฺโต เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์กว่า สุมโน เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระมหาสนธิ์ ขนฺตยาคโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านบวชเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๗ และได้อยู่อุปัฏฐากอุปัชฌาย์และอาจารย์ ฝึกกัมมัฏฐานกับท่าน

    ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ กลับไปจำพรรษาที่วัดป่าสุทธาวาส เพราะพระอาจารย์กว่า ไม่มีใครอยู่อุปัฏฐาก จึงต้องกลับไปอยู่กับท่านและเรียนหนังที่วัดป่าสุทธาวาส การทำกัมมัฏฐานในยุกสมัยก่อน ทำอย่างเรียบง่ายแต่ก็เข้มข้น เนื่องจากธรรมมารมณ์ที่จะมากระทบจิตมีน้อยกว่าสมัยนี้มาก การพิจาณาในสรีระร่างกายก็จะทำให้จิตสลดสังเวชลงได้ง่าย เพราะคนในสมัยก่อนไม่มีการแต่งตัวมากเหมือนสมัยนี้ ความลำบากปรากฏแก่จิตได้ง่าย ด้านอาหารก็ฉันตามชาวบ้าน โดยเฉพาะภาคอีสานจะเป็นอาหารที่เหมาะแก่การภาวนามากคือ ฉันอาหารป่าเช่นแกงหน่อไม้ แกงเห็ด หลวกผักตามธรรมชาติ ทำให้ผู้ภาวนาธรรมมีอาหารที่เหมาะแก่สัพปายะ เรียกว่าอาหารสัพปายะ ทำให้จิตลงง่าย จึงทำให้หลวงปู่สนธิ์ มีความสุข เย็นสบายจิตจะมีเมตตาธรรมจิตจะปรารภความเพียรอย่างเข้มแข็งมาก ธรรมปรากฏแก่จิต จิตถึงธรรม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมจึงเป็นจิตที่สลัดทิ้งจากราคะ โทสะ โมหะได้
    การอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    ขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่านาภู จังหวัดสกลนคร บังเอิญหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ได้เดินทางมาที่จังหวัดสกลนคร และหลวงปู่สนธิ์ ก็เดินทางร่วมไปกับหลวงปู่เทสก์ เพื่อไปจำพรรษากับหลวงปู่ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๙ และได้รับรู้ถึงปฏิปทาของหลวงปู่มั่นได้เป็นอย่างดี เพราะหลวงปู่เทสก์เล่าให้ฟังถึงการปฏิบัติของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต การได้อยู่ใกล้ชิดกับครูบาอาจารย์ ทำให้หลวงปู่สนธิ์ ได้เห็นตัวอย่างการปฏิบัติตนของท่าน การภาวนาจะเริ่มได้ดีก็ต่อเมื่อเรามีกัลยาณีที่ดี ติดขัดในข้อปฏิบัติใดๆ ก็สามารถสอบถามได้ หลวงเทสก์ก็ได้เล่าถึงวัตรปฏิบัติ ให้ฟังจึงทำให้จิตใจได้กำลัง มีความเพียรในการปฏิบัต เมื่อเข้าอยู่จำพรรษาโดยธรรมเนียมสายปฏิบัติก็จะพากันเร่งความเพียร อย่างอุกกฤต บางรูปก็ปรารภในการอดอาหาร ในการไม่น้อย ปรารภในการเดินจงกรม ทุกรูปก็ปรารภเช่น ทำให้วงพระกัมมัฏฐานได้รับความเคารพจากชาวพุทธ เมื่อเป็นอย่างหลวงปู่เทสก์ได้ปรารภกับหลวงปู่สนธิ์ ว่าในพรรษานี้เราถือธุดงค์กันในข้อเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร

    จำพรรษาที่วัดพุทธบูชา
    ด้วยว่าท่านอายุยังน้อยอยู่จึงอยากจะเรียนพระปริยัติธรรมเพื่อเป็นพื้นฐานของการปฏิบัติ ท่านจึงกราบเรียนให้หลวงปู่เทสก์ทราบ แต่หลวงปู่เทสก์ก็ได้ปรารภว่า ส่งพระเณรมากรุงเทพก็จะสึกกันหมด ท่านห่วงว่าหลวงปู่สนธิ์ จะเป็นเหมือนพระเณรรูปอื่นจึงได้ปรารภเช่นนั้น แต่ก็อนุญาติให้มาเรียนบาลีที่กรุงเทพได้ ในปีพ.ศ. ๒๕๐๐ โดยมีพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้ฝากให้มาจำพรรษาที่วัดพุทธบูชา ซึ่งเป็นสาขาของวัดบวรนิเวศน์วิหาร และได้อยู่จำพรรษาที่วัดพุทธบูชา เป็นเวลาถึง ๘ ปี และในปี พ.ศ.๒๕๐๘ โดยพระอาจารย์สุวัจน์ ก็พามาฝากที่วัดบรมนิวาส และกาลต่อมาหลวงปู่สนธิ์ ก็ได้ริเริ่มในการจะอบรมพระกัมมัฏฐานที่วัดบรมนิวาส เมื่อท่านกลับมาจากสหรัฐอเมริกา ท่านก็ได้เปิดการอบรมกัมมัฏฐาน ในปี พ.ศ.๒๕๒๖ โดยได้นิมนต์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย มาเป็นองค์แสดงธรรมได้รับความนิยมจากญาติโยมเป็นอย่างดี ต่อมาท่านก็ได้ปรารภกับ พระมหาประกอบ วัดป่ามหาชัย ว่าเราเป็นการฝึกอบกัมมัฏฐานที่วัดเลย โดยใช้ที่กุฏิหลวงปู่สนธิ์ (กุฏิผ่องดำรงค์) เมื่อพ.ศ.๒๕๒๗ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เริ่มเวลา ๑๘.๐๐ น.ถึง ๑๙.๐๐น.โดยมีอุบาสก อุบาสิกา พระ เณรมาปฏิบัติกันเป็นประจำ เหมื่อนกันเมื่อหลวงปู่สนธิ์ มาอยู่ที่วัดพุทธบูชา ในปีพ.ศ.๒๕๔๒ ท่านก็ได้เปิดการอบรมปฏิบัติที่ วัดพุทธบูชาเป็นประ โดยเอาพระอุโบสถ์เป็นสถานที่ในการปฏิบัติ ในเวลา ๑๘.๐๐น. ถึง เวลา ๑๙.๐๐ น. ทุกวัน จนถึงปัจจุบันนี้
    คาถาไล่ผีจนหนีป่าราบ
    ปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย เดินทางไปปฏิบัติสมาธิภาวนากับหลวงปู่ผั่น ปาเรสโก ที่วัดถ้ำเอราวัณ จังหวัดหนองบัวลําภู ทราบข่าวว่าท่านกำลังสร้างวัดใหม่ๆ วันที่เดินทางไปถึงนั้นหลวงปู่ผั่น ท่านก็ไม่อยู่ เนื่องจากท่านเดินทางไปที่อื่น หลวงปู่สนธิ์จึงพักภาวนาที่ถ้ำเอราวัณนั้น

    ถ้ำเอราวัณแห่งนี้มีวิญญาณผีที่มีดวงจิตอาฆาตรุนแรงสิงสถิตอยู่หลายตัว ขนาดที่ว่าหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หลวงปู่คำพอง ติสฺโส ยังออกปากพูดว่า วัดนี้ผีเต็มวัด ครูบาอาจารย์หลายองค์แม้แต่หลวงปู่ผั่นเองก็ปราบผีเหล่านี้ไม่ได้ ทุกวันและทุกคืนของผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่จึงอยู่กันแบบขวัญผวาหวาดระแวงตื่นกลัวโดยอยู่ไม่เป็นสุข

    ครูบาอาจารย์ที่อยู่ก่อนแล้วบอกว่า “มหาสนธิ์ ลองปราบดูซิ”

    ในคืนนั้นหลวงปู่สนธิ์จึงเข้าที่ภาวนากำหนดจิตให้เข้าสู่ความสงบแล้วถอยจิตออกมา ให้อยู่ในท่ามกลางคือมัชฌิมา ปรากฏบทบาลีเป็นธรรมะขึ้นมาว่า..
    “จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง”

    เป็นบทมงคลสูตรที่เคยสวดเป็นประจำ พอธรรมบทนี้ปรากฏขึ้นมาก็กำหนดจิตเพ่งในธรรมบทนี้อีก ปรากฏเกิดเหตุอัศจรรย์คือ เริ่มมีลมพัดค่อยๆ แล้วก็แรงขึ้นๆ ใบไม้ที่อยู่บริเวณนั้นปลิวว่อนไปโดยรอบทั่วทั้งบริเวณ ผู้ที่มีตาในสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ว่าเราวิญญาณผีร้ายได้พากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจนป่าราบไปหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำเอาผู้คนพระเณรต่างก็แตกตื่น สักพักลมหยุดสงบลงนิ่งไม่ไหวติง หลวงปู่สนธิ์ถอดจิตออกจากสมาธิภาวนาก็ได้เวลาสว่างพอดี ตั้งแต่นั้นมาวิญญาณร้ายทั้งหลายเหล่านั้น ก็ไม่มารบกวนพระเณรและชาวบ้านอีกเลย

    “อันนี้แปลกอยู่นะ แต่การปฏิบัติต้องตั้งจิตถูกต้องจึงจะไม่เป็นอันตราย” องค์ท่านกล่าวย้ำในเรื่องนี้
    หลวงปู่สนธิ์-อนาลโย-2-1153x1536.jpg

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงท้องถิ่นพระกรรมฐาน
    พระสมเด็จผสมเกษาหลังปิดด้านหลังรูปถ่าย ตอนนี้กาวหลุด ทำให้เห็นเกษาชัดเจน แจกงานกฐิน วัดอยสวรรค์และ วัดป่าภูปัง สาขาวัดที่ลป.สนธิ์อุปถัมป์

    ให้บูชา500บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflash หรือ J&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย
    IMG_20220819_124316.jpg IMG_20220819_124328.jpg IMG_20220819_124341.jpg IMG_20220819_124351.jpg IMG_20220819_124409.jpg IMG_20220819_124422.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระพุทธวิสุทธิเทพ เป็นพระประธานประจำศูนย์วิปัสสนายุวพุทธ ของคุณแม่สิริ กริณชัย

    ประกอบพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2535

    สมเด็จพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากรมหาเถร) ได้มอบพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุไว้ในพระทุกองค์

    เนื้อผงอิทธิเจ 100 ปี จากสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ พระสายกรรมฐานทั่วประเทศร่วมอธิษฐานจิต

    ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำนินการจัดสร้างศูนย์วิปัสสนากรรมฐานเพื่อสนองกุศลเจตนาของพุทธศาสนิกชนให้ได้มีไอกาสเข้ามาสัมผัสและดื่มรสพระธรรม ตามการเรียกร้องจากสมาชิกประชาชน หน่วยงานองค์กรสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีความ
    ประสงค์จะขอเข้ารับการฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แต่ทั้งนี้ยังขาดแคลนสถานที่ในการฝึกปฏิบัติ ทางยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย จึงได้จัดสร้าง วัตถุมงคล พระพุทธวิสุทธิเทพ ชนิดโลหะและเนื้อผงอิทธิเจร้อยปี เพื่อสนับสนุนการหาทุนสร้างศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน อันจะยังประใยชน์ ต่อพระพุทธศาสนาและสังคมสืบไป
    พระพุทรวิสุทธิเทพชนิดผงอิทธิเจร้อยปีได้รับพระเมตตาประทานพระนามจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก อีกทั้งยังทรงพระเมตตาให้นำอักษรย่อ "ญสส." จารึกไว้ด้านหลังพระเครื่องเพื่อเป็นมิ่งมหามงคลและยังทรงรับเป็นประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษก จุดเทียนชัยในวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎคม 2535 เวลา 13.09 น. โดยมี
    สมด็จพระพุทธปาพจนบดี เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ออกแบบควบคุมการสร้าง ตลอดจนพิธีมหาพุทธาภิเษก และดับเทียนชัย
    เวลา 21:09 น ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
    วัตถุมงคลที่สร้าง ได้บรรจุพระพุทธานุภาพในพระพุทรวิสุทธิเทพ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังมราชฯ
    สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี พระเกจิทั่วประเทศร่วมพิธีสมโภชพุทธาภิเษกได้แก่
    หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน
    หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา
    หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    และพระเกจิอาจารย์ ภาคต่าง ๆ อธิษฐานจิต ลงเลขยันต์และอักขระหลอมเป็นชนวนในการสร้างพระเครื่องทองคำ เงิน นวะ
    มวลสาร วัตถุมงคลที่สร้างและบรรจุในพระพุทรวิสุทธิเทพ
    เนื้อผงอิทธิเจร้อยปี มีผงอิทริเจร้อยปีสมเด็จพุมาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดอินทรวิหาร, วัดใหม่อมตรส, วัดระฆัง, วัดไชโยวรวิหาร, ผงพุทธคุณพระสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี), ผงหักพระสมเด็จ(สุก ไก่เถื่อน) ดอกไม้และผงธูป
    รวมทั้งน้ำพระพุทธมนต์ที่ใช้บูชาพระพุทธรูปจากวัดในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวม 41 แห่ง ในองค์พระบรรจุพระธาตุจำนวน 3-5 องค์ ซึ่งได้รับความกรุณาจากพระพุทธปาพจนบดี อัญเชิญบรรจุไว้ทุกองค์
    ให้บูชา200บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflash หรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย(ปิดรายการ)

    IMG_20220819_132229.jpg IMG_20220819_132252.jpg
    IMG_20220819_132216.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2022
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,916
    ค่าพลัง:
    +6,837
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    IMG_20220819_135921.jpg

    พระชุดนี้เป็นของหลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

    หลวงพ่อลำใยเป็นศิษย์ในองค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2500 แล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดสะแกตลอดมา โดยมากไม่ค่อยได้ศึกษาวิทยาคุณจากหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ สักเท่าไร เพราะไปเน้นกัมมัฏฐานและวิชาส่วนใหญ่จากหลวงปู่ดู่

    ท่านเองมีจริตที่ค่อนข้างหนักไปทาง "อยู่คง" และเจริญเตโชกสิณอยู่เนืองนิจ แม้หลวงปู่ดู่จะคอยตรวจจิตท่านและปรามอยู่เสมอ ท่านก็ยังคงแอบ ๆ ทำ

    และประวัติศาสตร์ในองค์หลวงปู่ดู่กับหลวงพ่อลำใยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ พระหลาย ๆ รุ่นของหลวงปู่ดู่นั้น ไม่ว่าจะวัดสร้างหรือศิษย์สร้าง หลวงปู่ดู่ได้มอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสกก่อนหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าหลวงปู่ดู่จะละเลยไม่ได้เสกอีกแต่อย่างใด หากเป็นกุศโลบายในการตรวจสอบวิถีจิตของหลวงพ่อลำใย

    เช่น ครั้งหนึ่งที่นาวาเอกสำเภา คมสันต์ และ นาวาเอกจำเนียร ตู้จินดา ไปกราบนมัสการหลวงปู่ ก็เห็นหลวงปู่ให้ศิษย์ยกถาดบรรจุพระมอบให้หลวงพ่อลำใยนำไปเสก ผู้การทั้งสองท่านได้เห็นเพียงเท่านั้นก็ยังให้นึกแปลกใจอยู่ครามครันแต่ก็ไม่กล้าซักถามใด ๆ จนผ่านไปร่วมเดือนก็กลับไปวัดสะแกเพื่อกราบหลวงปู่ดู่อีกครั้ง ก็ช่างให้บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นหลวงพ่อลำใยยกถาดพระกลับมาถวายคืนหลวงปู่ดู่พอดี

    ทันทีที่หลวงพ่อลำใยยกถาดมาถึงหลวงปู่ดู่ ท่านเพียงหันไปมองเท่านั้นก็โบกมือไล่พร้อมบอกว่า

    "ใช้ไม่ได้ เอาไปเสกใหม่ ท่านทำอย่างนี้ใครเขาจะเอาไปใช้ได้ ไปทำให้เย็น"

    หลวงพ่อลำใยก็ยกถาดกลับไปแต่โดยดี

    ผู้การทั้งสองก็ให้งงเป็นนักหนาเพราะบังเอิญได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญนี้ถึงสองครั้งสองคราว ครั้งนี้จึงอดถามไม่ได้ว่า "หลวงลุงครับ ทำไมถึงให้อาจารย์ใยไปเสก"

    ท่านตอบว่า "ข้าให้เขาหัดทำ"

    "แล้วทำไมหลวงลุงถึงว่าใช้ไม่ได้"

    "ก็เขาเพ่งเสียไฟลุกมาเต็มถาดอย่างนั้นใครจะเอาไปใช้ได้ ร้อนแบบนั้นก็มีแต่เรื่องน่ะสิ"

    แล้วเรื่องนี้ก็เงียบหายไปจากความทรงจำของท่านผู้การทั้งสอง เหตุการณ์นี้เกิดในราวปี พ.ศ. 2516

    ต่อมาท่านผู้การจำเนียร ตู้จินดา ได้กรุณาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ผมก็สงสัยเป็นอย่างยิ่ง วันหนึ่งที่ได้ไปกราบหลวงพ่อลำใยที่วัดสะแก จึงได้ไปเรียนถามท่านตรง ๆ โดยเล่าเรื่องอันเป็นปฐมเหตุก่อน แล้วจึงถามว่าจริงหรือไม่อย่างไร ?

    ท่านตอบทันทีว่า "จริง"

    และเมตตาเล่าว่า "ตอนนั้นได้วิชามาเยอะ หลวงลุงท่านก็เลยเอาพระของท่านมาให้หัดเสก ข้ามันคนชอบเหนียวก็เลยเพ่งเตโชกสิณใส่ เอาซะร้อนเชียว พอยกไปท่านก็ดุน่ะสิ ให้ข้ากลับมาทำใหม่ ข้าก็เลยมาทำทางเมตตาเอาเย็นเข้าว่า พอยกกลับไปคืนทีนี้ท่านว่า ใช้ได้ ใช้ได้"

    ตอนท้ายท่านปรารภว่า เออ ผู้การทั้งสองนี่ก็ยังความจำดีนะ

    เพราะฉะนั้น หลวงพ่อลำใยจึงมิใช่ของปลอมดังที่หลายคนกล่าวหากัน แม้ว่าท่านอาจจะไม่ใช่ของดีสุดยอดอย่างที่หลาย ๆ คนต้องการ

    หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร ฯลฯ ก็ล้วนแต่มีจริตนิสัยที่ค่อนข้างแปลกต่างไปจากองค์พระอาจารย์คือท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเรียบร้อยและหมดจดทุกย่างก้าว แต่สี่องค์ดังกล่าวแทบจะเรียกได้ว่าตรงกันข้าม หากที่เหมือนกันคือ...

    "ความบริสุทธิ์"

    ดังนั้น หลวงพ่อลำใยจะทำอย่างไรก็ไม่อาจเหมือนหลวงปู่ดู่ได้ และเชื่อว่าในโลกนี้ก็คงไม่มีวันที่ใครจะเหมือนหลวงปู่ดู่ เพราะท่านก็คือท่าน

    แต่ที่เหมือนกันคือท่านเป็นศิษย์

    พระหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืดชุดนี้หลวงพ่อลำใยเมตตาอธิษฐานจิตอย่างเต็มกำลังความดังนั้น หลวงพ่อลำใยจะทำอย่างไรก็ไม่อาจเหมือนหลวงปู่ดู่ได้ และเชื่อว่าในโลกนี้ก็คงไม่มีวันที่ใครจะเหมือนหลวงปู่ดู่ เพราะท่านก็คือท่าน

    แต่ที่เหมือนกันคือท่านเป็นศิษย์

    พระหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืดชุดนี้หลวงพ่อลำใยเมตตาอธิษฐานจิตอย่างเต็มกำลังความสามารถของท่าน จนหลาย ๆ คนที่ตาดีจิตดียอมรับในอานุภาพกันมาก จนมีบางคนกล่าวเกินเลยเรียกกันว่า

    "เปิดโลกสอง"

    แม้ผมจะเคารพนับถือหลวงพ่อลำใยแต่ผมก็ไม่เห็นด้วยดอกครับที่จะเอาฉายานามของเหรียญสำคัญในหลวงปู่ดู่มาใช้ มันเหมือนเป็นการวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ แต่นั้นก็มิใช่นามที่หลวงพ่อลำใยตั้งให้ ท่านเฉย ๆ กับเรื่องนี้ ทว่าศิษย์เรียกกันไปเองโดยเคารพ ซึ่งท่านก็คงคร้านจะมานั่งปรามกันเพราะเขาก็ไม่ได้เรียกต่อหน้าท่าน

    สรุปว่าเป็นพระดีเยี่ยมอีกรุ่นหนึ่งของท่านเลยครับ ใครได้ไว้ก็โชคดีมหาศาลแล้วล่ะครับ

    ถ้านับถือจริง !
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูลบทความที่มาอย่างสูงจากเว็บนวรัตน์

    หลวงปู่ทวดเปิดโลก 2ลพ.ลำใย วัดสะแกให้บูชา300บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflash หรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย(ปิดรายการ)

    IMG_20220819_134938.jpg IMG_20220819_134920.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2022
  10. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,916
    ค่าพลัง:
    +6,837
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
    รับทราบครับขอบคุณครับ
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    FB_IMG_1660895749487.jpg
    หลวงพ่อบุญจันทร์ เจริญธรรม
    สำนักอบรมศีลสมาธิปัญญา เขาพิทักษ์สังวรณ์สรณะสันติ ต.บ่อพญานาค อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
    สมเด็จพระบรมครู(หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) หลังจากท่านละสังขารปี พ.ศ. 2497 ได้ 4 วัน แล้วมาจุติหรือมาเกิดด้วยวิธีโอปปาติกะในร่างของนายกิมเส้ง แซ่เตียง ซึ่งเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน และท่านบอกว่าท่านคือหลวงพ่อกบ ชื่อจริงนั้นคือ “บุญจันทร์ เจริญธรรม”
    Cr.หนังสือโอปปาติกะปาฏิหาริย์
    จากหลวงพ่อกบถึงหลวงพ่อบุญจันทร์
    (เวทย์ วรวิทย์ ค้นคว้าและเรียบเรียง)
    เหรียญหลวงพ่อบุญจันทร์วัดเจริญธรรมสภาพสวยเดิมๆ
    บูชา150บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflash หรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย (ปิดรายการ))
    IMG_20220819_145308.jpg IMG_20220819_145320.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2022
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    CR4_2539.jpg

    ประวัติหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน
    สำนักสวนป่าสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์

    เป็นพระอริยะสงฆ์ที่ควรเคารพบูชาอย่างสูงยิ่ง ไม่สามารถหาหลักฐานใดๆของทางราชการมายืนยันได้ว่าท่านเกิดปีใด พบเพียงข้อมูลจากหนังสือบทสวดมนต์ของวัดคีรีบัววนาราม ตำบลเขาน้อย อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี โดยพระครูปัญญาวุธากร(เจ้าอาวาส) ท่านได้บันทึกไว้ว่า ในหนังสือสุทธิของหลวงปู่ละมัย ท่านเกิดปี พ.ศ. ๒๔๐๓ ที่บ้านกระสัง ตำบลเย้ยปราสาท อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์(ปัจจุบันเป็นอำเภอหนองกี่) อายุ ๔ ขวบ โยมบิดามารดาพาอพยพไปอยู่ที่จังหวัดพระตระบอง ประเทศกัมพูชา เมื่ออายุ ๑๔ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร
    จากนั้นมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ท่านก็ได้บวชเป็นพระในจังหวัดพระตระบอง ประเทศกัมพูชา และในช่วงปี พ.ศ.๒๕๐๓ - ๒๕๐๔ หลวงปู่ละมัยท่านได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ที่จังหวัดจันทบุรี ในปี พ.ศ.๒๕๐๔ ท่านได้บรรจุเป็นพระไทย ซึ่งตอนนั้นท่านอายุได้ ๑๐๑ ปี
    หลวงปู่ละมัยท่านเป็นพระผู้ทรงอภิญญาองค์หนึ่ง ในดินแดนพระพุทธศาสนาไม่มีที่ไหนที่ท่านไม่เคยไป หลวงปู่ท่านเคยบอกว่า ท่านอยู่ในประเทศเขมร ๓๐ ปี ประเทศลาว ๓๐ ปี และในประเทศไทยมากกว่า ๓๐ ปี เคยเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าไปถึงประเทศศรีลังกา ได้สรรพวิชาต่างๆมามากมาย
    หลวงปู่ละมัยท่านสำเร็จวิชาการหุงปรอท อานุภาพปรอทสำเร็จของท่าน พระเกจิอาจารย์หลายองค์ต่างยกย่องว่ามีพลังงานมหาศาล พุทธานุภาพของพระปรอทของท่านนั้นมีประสบการณ์มากมาย ทั้งด้านแคล้วคลาด คงกระพันและเมตตามหานิยม หลวงปู่ท่านมีเมตตามาก ช่วยเหลือลูกศิษย์ลูกหาด้วยปรอทและยาสมุนไพรต่างๆ
    หลวงปู่ละมัยท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาแห่งวัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ โดยท่านได้ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลหลายๆรุ่นของหลวงปู่หมุน อาทิ รุ่นเสาร์ห้าบูชาครู รุ่นไตรมาสรวยทันใจ เป็นต้น หลวงปู่หมุนจะเรียกหลวงปู่ละมัยว่า "ท่านใหญ่" และทุกครั้งที่ทำพิธีเดียวกัน ท่านจะอาราธนาท่านใหญ่ก่อนเสมอ
    หลวงปู่ละมัยท่านมีคุณธรรมขั้นสูง เปี่ยมล้นด้วยเมตตา บารมี พระเกจิดังหลายองค์เดินทางไปกราบท่าน เช่น หลวงพ่อรวย วัดตะโก,หลวงปู่นะ วัดหนองบัว,หลวงพ่อบุญลือ วัดคำหยาด,หลวงปู่เปรี่ยม วัดกำแพง เป็นต้น
    หลวงปู่ละมัยท่านได้เป็นองค์อุปภัมป์และสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง เช่น สร้างพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี วัดแดนคงคาวนาราม จ.ชัยภูมิ วัดโคกว่านใหม่ อ.ละหารทราย จ.บุรีรัมย์ ที่ อ.มะขาม อ.โป่งน้ำร้อน วัดป่าตง วัดตามูล วัดเขาสะงอ ที่ อ.คลองหาด วัดเขาฉกรรจ์ ที่ จ.ปราจีนบุรี สร้างวัดทุ่งกบินท์ จันตคาม วัดทุ่งโพธิ์ วัดนาคี ที่ อ.ปากช่อง วัดถ้ำพระธาตุ วัดถ้ำไก่แจ้
    ในบั้นปลายหลวงปู่ท่านย้ายมาอยู่วัดโพธิ์เย็น อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ได้ ๖ - ๗ ปี แล้วจึงมาสร้าง "สำนักสวนป่าสมุนไพรคีรีนามทาสุขาวดี" เพื่อปลูกสมุนไพรและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
    หลวงปู่ละมัยท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ สิริรวมอายุได้ ๑๕๑ ปี เวลาประมาณ ๐๑.๕๐ น. ระหว่างเข้าสมาธิจิต
    ที่มา : หนังสือรวมวัตถุมงคลหลวงปู่ละมัย
    : เอกสารวัดบ้านโคกว่านใหม่
    วัดแดนคงคาวนาราม นี้หลวงปู่บุญมา เจ้าอาวาส ท่านได้เคยธุดงค์ไปในประเทศต่างๆของแหลมอินโดจีนนี้มาอย่างทะลุปรุโปร่ง และได้พบกับหลวงปู่ละมัยในป่า ได้รับการสั่งสอนอบรมสมาธิจิต วิชา คาถาอาคมต่างๆพอสมควร จึงกราบลาหลวงปู่ออกธดงค์ต่อไป และเมื่อผ่านไปยังประเทศอินเดีย ก็ได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาด้วย และท่านก็ได้นำมาเก็บรักษาไว้ ณ วัดแดนคงคาวนาราม ลุถึงปีพ.ศ.๒๕๔๕ หลวงปู่บุญมา อายุได้ ๑๐๘ ปี มีความต้องการที่จะสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ก็เกรงว่าจะไม่สำเร็จ จึงปรึกษากับเหล่าศิษยานุศิษย์ และได้ทราบว่า หลวงปู่ละมัย ยังดำรงขันธ์อยู่ จึงให้คณะศิษย์ ไปกราบอาราธนานิมนต์
    พระเดชพระคุณหลวงปู่ละมัยมาเป็นประธาน ซึ่งท่านก็รับนิมนต์จนการก่อสร้างสำเร็จ และยกฉัตรไปแล้วเมื่อปีพ.ศ.2552
    หลวงปู่บุญมาได้บอกกับลูกศิษย์ว่า "หลวงปู่(ละมัย)เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่(บุญมา)นะ เคยพบกับท่านตอนธุดงค์ ตอนนั้นเราอายุ 15 ปีได้ ท่านจะเป็นผู้ที่สร้างพระธาตุสำเร็จ เพราะท่านมีบารมีมาก" หลังจากหลวงปู่ละมัยรับนิมนต์ได้ไม่นาน หลวงปู่บุญมาก็มรณภาพลง
    วัตถุมงคลของหลวงปู่ละมัย ที่เด่นๆคือพระปรอท และแม่ซื้อประจำวันครับ
    ที่มา : ข้อความบางตอนจากเพื่อนสมาชิกเว็ปจี
    #บางคำจากพระอริยสงฆ์ที่กล่าวถึงหลวงปู่ละมัย
    "พระของท่านมีค่ามากกว่าทองและมีพุทธคุณครอบจักรวาล"
    หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา
    "ท่านใหญ่ ท่านมีบารมีมาก ทุกพิธีเกี่ยวกับฉันต้องอาราธนาท่านทุกครั้ง"
    หลวงปู่หมุนวัดบ้านจาน
    "หลวงปู่ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก เพียงแค่เศษชานหมาก หรือก้อนหินที่หลวงปู่ลูบคลำ ล้วนทรงคุณค่ามากล้น"
    หลวงพ่อบุญลือ พระทรงอภิญญาใหญ่แห่งวัดคำหยาดอ่างทอง
    "ฉันยังต้องไปกราบท่านเลย และขอบารมีจากท่าน"
    หลวงปู่นะ วัดหนองบัว
    "จะหาพระแบบหลวงปู่ละมัย ไม่ได้แล้วนะ"
    หลวงปู่สุภา
    "พระแบบนี้ นานๆ จะออกมาโปรดพวกเราสักที ท่านเป็นผู้ใหญ่ พระโบราณ ตักตวงเข้านะ"
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
    "ท่านเป็นพระโบราณ มีความศักดิ์สิทธิ์มากนะ"
    หลวงปู่จิต
    "ท่านเป็นอาจารย์ของฉันตั้งแต่สมัยฉันเป็นเณร ท่านเก่งมาก ถ้าฉันตายไปแล้ว ให้ไปหาไปกราบเอาธรรมจากท่านให้ได้ ท่านอยู่ที่เพชรบูรณ์"
    หลวงปู่บุญมา วัดแดนคงคาราม สั่งศิษย์ไว้ให้ไปหาหลวงปู่ละมัย
    "จิตท่านไปไกลมาก นั่นคือดวงธรรมแห่งพุทธะที่หนึ่งเดียว"
    หลวงปู่เที่ยงธรรม
    "ท่านใหญ่ ท่านบารมีมากหลายเด้อ"
    หลวงปู่คำน้อย
    "ท่านยังอยู่หรือนี่ ท่านเคยเป็นอาจารย์ฉันมาก่อน ท่านเก่งรอบด้าน ทุกอย่างเลย ฉันยังต้องเรียนจากท่านเลย"
    หลวงปู่กลอย เขาหิน
    ที่มา : เว็ปกาหลง.คอม
    #จากใจแอดมิน
    เมื่อครั้งที่หลวงปู่ละมัยท่านยังดำรงค์ธาตุขันธ์อยู่นั้น ได้มีโอกาสได้เห็นท่านตัวเป็นๆ เพียงครั้งเดียว คือวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๔ ในงานพพิธีพุทธาพิเษกวัตถุมงคลรุ่น เสาร์ห้าอจินตรัยรวยทันตา ณ วิหารพระแก้วมรกต วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว เนื่องจากครั้งนั้นแอดมินเป็นผู้ประสานงานจัดสร้างวัตถุมงคลชื่อ "พระชัยไพรีพินาศเพชรกลับชนะมารรุ่นบูชาครู ๕๔" ของครูบาโฮม วัดป่าโนนตะคร้อ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เอาเข้าเสกในพิธีรวยทันตานั้นด้วย ซึ่งเมื่อถึงเวลาพุทธาภิเษกแล้วหลวงปู่ละมัยก็ยังไม่มาถึงในมณฑลพิธี ทุกคนในที่นั้นต่างรอ แล้วก็รอแล้วรออีก ผมเองขับรถจาก อ.นาโพธิ์ตอนเวลาตีสอง ขับเส้นทางข้ามช่องเขาช่วง อ.โนนดินแดง มาถึงวัดป่าหนองหล่มก็พอดีเช้า ง่วงสุดง่วง ในใจก็คิดว่า "หลวงตาเฒ่าผู้นี้เป็นใครกันหรือ ถึงได้ให้ผู้คนตั้งมากมายเขาเฝ้ารอกันนัก" เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจวบจนบ่าย หลวงปู่ละมัยก็มาถึงงานพิธี ทุกอย่างก็แลว่าราบรื่นปกติดี แต่เมื่อครั้นเสร็จพิธีราวบ่ายห้าโมงเย็น ฝนก็กระหน่ำตกลงมาห่าใหญ่ ซึ่ง ณ เวลานั้นวันที่ 23 เมษายน ก็ยังไม่เข้าสู่ฤดูฝน และวันนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าฝนจะตกเลยแม้แต่น้อย
    "ไอ้จ่อย!! กูจะไม่ไปงานนิมนต์ของใครอีกแล้วล่ะ" นี่คือคำพูดของหลวงปู่ละมัยกล่าวไว้ในงานพิธี(หลวงพ่อใช้ วัดหนองระกำ จ.ระยอง ยืนยันว่าได้ยินท่านพูดกับพระอาจารย์จ่อย) และซึ่งในปีเดียวกันนั้นท่านก็ได้สั่งให้พระอาจารย์จ่อยไปจำพรรษาด้วยที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนผมกับครูบาโฮมก็ได้เตรียมงานเททองหล่อพระที่สำนักวัดป่าโนนตะคร้อ จ.บุรีรัมย์ กำหนดการคือวันที่ 1 เมษายน 2555 ครูบาโฮมท่านก็ได้โทรศัพท์ไปคุยกับพระอาจารย์จ่อยเพื่อให้นิมนต์หลวงปู่ละมัยมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการเททองหล่อพระนั้น ซึ่งครูบาโฮมก็ได้บอกกับผมว่าหลวงปู่ละมัยรับนิมนต์แล้ว "หลวงปู่ท่านว่าจะไม่ไปงานใครแล้วนี่ครับ" ผมพูดแย้งกับครูบาโฮม
    จนครั้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาเช้ามืดของวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ครูบาโฮมก็โทรศัพท์มาถามผมตอนเช้ามืดว่า " ได้ข่าวไหม หลวงปู่ละมัยละสังขารแล้วนะ เมื่อเวลาตีหนึ่งกว่าๆ" ผมนี่สุดอึ้งเลย เพราะท่านบอกว่าจะไม่ไปงานใครอีกแล้ว และเมื่อนึกถึงคนที่เคยเข้าไปหาหลวงปู่ละมัย บอกว่าเห็นหลวงปู่ท่านเขียนเลข ๗ เลข ๘ ไว้ในวัดหลายที่เลย บ้างก็ตีเป็นหวย บ้างก็มาตีเป็นปริศนาธรรา ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว หลวงปู่ท่านล่วงรู้วันปลงวางสังขารของท่านคือวันที่ ๗ ต่อเข้าสู่วันที่ ๘ นี่เอง จนวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ผมจึงได้ไปจุดธูปกราบเพื่อบอกกล่าวขอขมา
    เป็นความเชื่อส่วนบุคคล_โปรดใช้วิจารณญาณ
    1323922-43aa8.jpg 1323922-54399.jpg

    พระผงจันทร์ลอยหลังพระเจ้าห้าพระองค์หลวงปู่ละมัย เป็นวัตถุมงคลยุคแรกๆของท่านให้บูชา400บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflash หรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย

    IMG_20220819_152359.jpg IMG_20220819_152424.jpg
     
  14. naron

    naron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2,515
    ค่าพลัง:
    +3,574
    ปิดรายการเหรียญหลวงปู่บุญจันทร์
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    34474036 (1).jpg
    พระพระครูสุวรรณพัฒนกิจ(อาจารย์ทอง)เป็นพระผู้สืบทอดอาคม และครองวัดลำกระดานสืบต่อจากหลวงปู่เมฆ นั้น ของชี้แจง และขอแก้ไข โดยข้อประวัตของ หลวงปู่เมฆ มาอุปสมบทเมื่อ อายุ 62 ปี ในปีพ.ศ. 2513 ที่วัดนังคัลจันตรี (วัดคลอง 7) ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมี พระครูพิทักษ์ธัญสาร (หลวงพ่อ ตุ๊ย ) วัดนังคัลจันตรี (วัดคลอง 7) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อชิด วัดแจ้งลำหิน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ (คู่สวด) และพระครูสุวรรณพัฒนกิจ(หลวงปู่ทอง สัจจวโร ตอนนั้น) วัดลำกะดาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (คู่สวด) แล้วมาจำพรรษาที่วัดลำกะดาน แล้วท่านได้ทำปลัดขิก ด้วยไม้เขยตาย โดยท่านได้เรียนมาจาก อาจารย์ของท่านคือหลวงพ่อนิดวัดสะพาน ในการทำปลัดขิกท่านได้ใช้ไม้เขยตายมาทำ แล้วท่านได้แจกให้ผู้ที่มาขอโดยให้กลับมือของท่านเลย โดยไม่รับปัจจัย(เงิน)เลย เคยมีผู้ที่ไม่รู้ไปถวายเงินท่าน ท่านได้ไล่ให้ลงจากกุฏิแทบไม่ทัน ส่วนประลัดขิกของท่าน มีประวัตเล่าขานกันมามากมาย ชาวบ้านได้ถูกงูกัด หมากัด ตะขาบกัด แม้นเด็กเล็กตกน้ำไม่จม และมี
    พระพระครูสุวรรณพัฒนกิจ(อาจารย์ทอง)เป็นพระผู้สืบทอดอาคม และครองวัดลำกระดานสืบต่อจากหลวงปู่เมฆ นั้น ของชี้แจง และขอแก้ไข โดยข้อประวัตของ หลวงปู่เมฆ มาอุปสมบทเมื่อ อายุ 62 ปี ในปีพ.ศ. 2513 ที่วัดนังคัลจันตรี (วัดคลอง 7) ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมี พระครูพิทักษ์ธัญสาร (หลวงพ่อ ตุ๊ย ) วัดนังคัลจันตรี (วัดคลอง 7) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อชิด วัดแจ้งลำหิน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ (คู่สวด) และพระครูสุวรรณพัฒนกิจ(หลวงปู่ทอง สัจจวโร ตอนนั้น) วัดลำกะดาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (คู่สวด) แล้วมาจำพรรษาที่วัดลำกะดาน แล้วท่านได้ทำปลัดขิก ด้วยไม้เขยตาย โดยท่านได้เรียนมาจาก อาจารย์ของท่านคือหลวงพ่อนิดวัดสะพาน ในการทำปลัดขิกท่านได้ใช้ไม้เขยตายมาทำ แล้วท่านได้แจกให้ผู้ที่มาขอโดยให้กลับมือของท่านเลย โดยไม่รับปัจจัย(เงิน)เลย เคยมีผู้ที่ไม่รู้ไปถวายเงินท่าน ท่านได้ไล่ให้ลงจากกุฏิแทบไม่ทัน ส่วนประลัดขิกของท่าน มีประวัตเล่าขานกันมามากมาย ชาวบ้านได้ถูกงูกัด หมากัด ตะขาบกัด แม้นเด็กเล็กตกน้ำไม่จม และมีเมตามหานิยม ในด้านค้าขาย และเป็นที่โด่งดัง และขึ้นชื่อจนทุกวันนี้ จึงของแก้ไขและชี้แจงให้ทราบว่า พระครูสุวรรณพัฒนกิจ(หลวงปู่ทอง สัจจวโร)ไม่ได้สืบทอดวิชามาจาก หลวงปู่เมฆ ในทางกลับ หลวงปู่ทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (เป็นคู่สวดผู้บวชให้) หลวงปู่เมฆ ถือว่าเป็นอาจารย์หลวงปู่เมฆ
    ขุนแผนหลวงปู่ทองวัดลำกระดาน
    ให้บูชา 120บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflashหรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย(ปิดรายการ)
    IMG_20220819_194241.jpg IMG_20220819_194257.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2022
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1691712230.jpg

    บุกขอพร “รูปเหมือนหลวงพ่อฑูรย์”
    พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแขวงบางยี่เรือ
    ตำนานพระสมเด็จยันต์สาริกาเรือจ้าง
    ชาวไทย-ชาวต่างประเทศแสวงหาบูชา
    ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ นำโดย เด่น กีรติ ได้เดินทางเข้ากราบนมัสการขอพรรูปเหมือนหลวงพ่อฑูรย์ อัตตทีโป พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตสถิตมหาสีมาราม แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯเจ้าตำรับวัตถุมงคลพิมพ์สมเด็จหลังยันต์สาริกา และสมเด็จแจวเรือจ้างอันลือลั่น ซึ่งกำลังเป็นที่ชื่นชอบของนักสะสมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศแสวงหาบูชาในขณะนี้
    พระโพธิสังวรเถร" หรือ "หลวงพ่อฑูรย์ อัตตทีโป" อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตสถิตมหาสีมาราม แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังรูปหนึ่ง เป็นศิษย์โปรดสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัด อนงคาราม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เป็นพระเถระด้านปฏิบัติภาวนา ท่านเกิดในสกุลรัตนวราภรณ์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2453 ตรงกับวันอาทิตย์ เดือนแปด แรม 10 ค่ำ ณ บ้านหมู่ที่ 2 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    ชีวิตวัยเยาว์ค่อนข้างยากลำบาก ท่านเรียนหนังสือจบชั้น ป.4 ที่โรงเรียนในหมู่บ้าน จากนั้นออกมาช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ เมื่ออายุ 17 ปี บรรพชา เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2470 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนแปด ปีเถาะ ณ วัดสุวรรณภูมิ ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อีก 3 ปีต่อมาจึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2473 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 2 ค่ำ เดือนแปด ปีมะเมีย ที่วัดอนงคาราม ต.สมเด็จเจ้าพระยา อ.คลองสาน จ.ธนบุรี (ในสมัยนั้น) โดยมีพระโพธิวงศาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า อัตตทีโป
    ด้านวิทยฐานะ เมื่อปีพ.ศ.2473 สอบได้นักธรรมชั้นโท ณ สำนักเรียนวัดอนงคาราม ต่อมา พ.ศ.2493 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตสถิตมหาสีมาราม วัดโพธินิมิตสถิตมหาสีมาราม เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เดิมเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของนายโพ- นางมิ เป็นบิดามารดาของสมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    เมื่อถึงแก่กรรมแล้วที่ดินแปลงนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสมเด็จพระวันรัต และได้อุทิศสร้างเป็นพระอาราม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง ครั้นเมื่อพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณ วโรรส ทรงจัดชั้นและประเภทของพระอารามหลวงวัดโพธินิมิตสถิตมหาสีมารามถูกจัดอยู่ในชั้นตรี ประเภทสามัญ
    หลวงพ่อฑูรย์เป็นผู้มีอุปนิสัยใจคอเยือกเย็น มักน้อย ถ่อมตน ดำรงชีวิตด้วยความสมถะ วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อฑูรย์ถือการเดินจงกรมและนั่งสมาธิภาวนาทุกวัน ด้วยเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดพระธรรมวินัย เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันมีผู้เดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม สะเดาะเคราะห์ และประพรมน้ำพระพุทธมนต์อย่างไม่ขาดสาย สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาคจะนำมาพัฒนาวัดโพธินิมิตสถิตมหาสีมาราม
    หลวงพ่อฑูรย์ยังให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาของพระภิกษุ-สามเณร เนื่องจากผู้บวชเรียนส่วนใหญ่ล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน ท่านให้การสนับสนุนโดยบริจาคปัจจัยเป็นทุนการศึกษาให้กับสำนักเรียนวัดทุกปี
    ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2522 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะแขวงตลาดพลู และเมื่อปีพ.ศ.2524 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะแขวงบางยี่เรือ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2494 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ราชทินนามที่พระครูไพโรจน์วุฒิคุณ พ.ศ.2501 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะสามัญ ที่พระโพธิวรคุณ และพ.ศ.2517 เป็นพระราชาคณะวิสามัญ ที่พระโพธิสังวรเถร
    หลวงพ่อฑูรย์สร้างวัตถุมงคลไว้ให้ศิษย์หลายชนิด ทั้งเนื้อผงและเนื้อโลหะประเภทเหรียญ แต่ที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่อง คือ พระสมเด็จเกศมงคล รุ่นแรก ปี2497 ที่มีพุทธคุณเป็นเลิศทางเมตตามหานิยมและโชคลาภ
    คำแนะนำของหลวงพ่อฑูรย์ กล่าวว่า 1.มงคลวัตถุที่สร้างด้วยวิทยาคม จะทรงประสิทธิภาพหรือไม่นั้น หาใช่เป็นสิ่งที่สร้างเก่าหรือใหม่แต่ประการใดไม่ ขึ้นอยู่กับพิธีกรรมในการสร้างว่า ถูกต้องหรือไม่เพียงใด ผู้สร้างมีสมาธิหรือไม่ อันเป็นข้อสำคัญ พระเครื่องชุดนี้พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณร่วม กันสร้างหลายรูป ก็น่าจะมีประสิทธิภาพตามสมควร 2.ผู้ที่มีพระวัดโพธินิมิต ควรปฏิบัติเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง คือ หาดอกไม้ ธูป เทียน มาสักการบูชา กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลที่ตนได้บริจาคทรัพย์ในการสร้างโบสถ์วิหาร ให้กล่าวคำอุทิศว่า "พุทโธ อะระหัง สุสุสิโท พุทโธ ภะคะวาติ พุทโธ นะโมพุทธายะ" (ว่า 3 จบ หรือ 7 จบ)
    3.ต้องมีจิตใจเชื่อมั่นนับถืออย่างแท้จริง จึงจะบังเกิดผล 4.ต้องปฏิบัติตนตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม 5.ควรหาโอกาสบำเพ็ญกุศลอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยการใส่บาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระอาจารย์ผู้ทรงคุณ แล้วตั้งจิตอธิษฐานตามความปรารถนา 6.ห้ามทดลองอย่างเด็ดขาด 7.เอาไว้กับตัวจะเป็นมงคลยิ่ง 8.เมื่อเกิดอุปสรรค หรือความทุกข์ใจ หรือโรคาพาธ ให้ทำน้ำมนต์อาบหรือดื่ม โดยตักน้ำสะอาดใส่ภาชนะ แล้วเอาพระแช่ลงในน้ำ จุดธูป เทียน สักการะ ควรมีดอกไม้ด้วย ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ" แล้วน้อมจิตระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จากนั้นให้อธิษฐานเอาตามความปรารถนา เสร็จแล้วบริกรรมคาถาในข้อ 2 ให้สำรวมจิตเพ่งเฉพาะเรื่องที่ปรารถนาเท่านั้น 9.ควรเจริญภาวนาคาถา "ชินบัญชรคาถา" เป็นประจำทุกวัน จะบังเกิดโชคลาภและพ้นภัยพิบัติทั้งปวง วาระสุดท้ายท่านมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2535 เวลา 17.59 น. สิริอายุ 82 ปี
    สมเด็จแจวเรือจ้าง หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร 2512 ท่านเป็นศิษย์ ของ สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ หลวงพ่อฑูรย์ ท่านมีความสามารถ ทางด้าน ปฏิบัติภาวนา และเป็นพระที่มีอายุยืน รูปหนึ่ง ในราว พ .ศ. 2482– 83 สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ ได้เรียก หลวงพ่อฑูรย์ ไปพบแล้วมอบ ผงวิเศษให้ โดยผงวิเศษดังกล่าว เป็นผงที่ สมเด็จท่านทำเองและรวบรวมจากพระเกจิสมัยนั้นหลายองค์ รวมทั้งหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ด้วย โดย สมเด็จพุฒาจารย์นวม ได้บอกให้หลวงพ่อฑูรย์นำผงดังกล่าวไปสร้างพระ ท่านได้ไปหาพระอาจารย์ที่มีคุณวิเศษในสมัยนั้น อาทิ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ “ อาตมาภาพ เห็นว่าท่านเป็นคนจังหวัด (สุพรรณบุรี) เดียวกัน ก็ไปขอว่า “ขออิทธิเจผมสักกระดาน.. จะเอาไปทำพระ “ ซึ่งในที่สุด ท่านได้รวบรวมมวลสารต่างๆ มาได้ เป็นจำนวนมาก ท่านได้เริ่มพิมพ์พระ ในปี 2485 จนถึงปี 2497 จึงเริ่มแจก พระผง เกศมงคล ซึ่ง รุ่นที่ได้รับความนิยม โดยผสมผงพระเกศาของสมเด็จพุฒาจารย์นวมด้วย จึงเรียกชื่อว่า รุ่นเกศมงคล เป็นพิมพ์สมเด็จหลังยันต์นูน โดยสมเด็จพุฒาจารย์นวมท่านเมตตาปลุกเศกให้ และมีนำไปแจกที่วัดอนงค์ ด้วย
    ต่อมาในปี 2512 ท่านได้สร้างพระผงขึ้นมาอีกรุ่น โดยใช้ผงวิเศษชุดเดิมผสมด้วย มี พระผงบูชาสี่นิ้ว และ พระเครื่อง สี่พิมพ์คือ 1 พิมพ์สมเด็จหลังยันต์สาริกา 2 สมเด็จแจวเรือจ้าง 3 พิมพ์หลวงพ่อโต 4 พิมพ์สามเหลี่ยมแบบผงสุพรรณ (ท่านเป็นชาวสุพรรณ ) การปลุกเสกมีพระเกจิที่หลวงพ่อฑูรย์รักใคร่สนิทสนม ได้หมุนเวียนมาปลุกเสกเดี่ยว ดังนี้ 1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี 2. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ 3. หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา 4.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สำหรับพระผงหลวงพ่อฑูรย์ ทั้งสองรุ่น มีเจตนาสร้างดี เป็นพระเครื่องที่มีประสบการณ์ เป็นที่ทราบโดยทั่วไป ทั้งทางด้านค้าขาย เมตตามหานิยมและแคล้วคลาด สามารถบูชาขึ้นคอได้โดยสนิทใจไร้กังวล
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่ป่าอย่างสูงคัมภีร์นิวส์

    พระสมเด็จปรกโพธิ์หลวงพ่อฑูลวัดโพธิ์นิมิตร ให้บูชา
    150 บาทค่าจัดส่ง30บาระบบflashหรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย(ปิดรายการ)
    IMG_20220819_204902.jpg IMG_20220819_204917.jpg IMG_20220819_204937.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2022
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    วัตถุมงคลหลากหลายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศครับค่าจัดส่งต่อครั้ง 30 บาทระบบflash หรือ J&Tและ 50 บาทems ไปรษณีย์ไทย 08--1--70--4--72--64 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง line ตามเบอร์โทรศัพท์
    บัญชีธนาคาร กรุงไทย 125-00-89-239
    Supachai thu
    โอนแล้วแจ้งบอก ทางข้อความ พร้อมที่อยู่จัดส่ง ป้อง กัน การเอาข้อมูลจากมิจฉาชีพครับ
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1660921839039.jpg
    ประวัติของพระครูขันติธรรมรัต
    (หลวงพ่อสอน)
    พระครูขันติธรรมรัต (สอน ขนฺติธมฺโม)
    สถานะเดิม ชื่อ สอน นามสกุล ทองประเสริฐ
    เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะแม ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ที่บ้านเลขที่ ๔๗ หมู่ที่๓ ตำบลปลายนา อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี บิดาชื่อ นายยอด มารดาชื่อ นางกลีบ ประกอบอาชีพทำนา มีพี่-น้องรวม ๕ คน คือ
    ๑. นางทองปลิว มณีแสง
    ๒. พระครูขันติธรรมรัต (สอน ทองประเสริฐ)
    ๓. นางส้มเช้า แสงวันทอง
    ๔. นางเล็ก ทองประเสริฐ
    ๕. นายบุญชู ทองประเสริฐ
    วิทยฐานะพ.ศ.๒๔๘๗ สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวัดดอนสุทธาวาส อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
    บรรพชา เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๒ ตรงกับ วันพุธ ๙ ค่ำ เดือน ๕ ณ พัทธสีมาวัดดอนบุปผาราม ตำบลวังยาง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
    พระครูศรีคณานุรักษ์ วัดดอนบุปผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
    อุปสมบท เมื่อวันจันทร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๖ ตรงกับวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ณ พัทธสีมาวัดสามจุ่น ตำบลปลายนา อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี พระอธิการนุ่ม วัดนางใน ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อชม วัดนางใน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเชื่อม วัดสามจุ่น อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอนุสาว-นาจารย์
    ได้รับฉายา “ ขนฺติธมฺโม”
    เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาเรียนพระปริยัติธรรมที่ วัดนางใน จังหวัดอ่างทอง และสอบได้นักธรรมชั้นเอกใน พ.ศ. ๒๔๙๘
    ภายหลังจากสอบได้นักธรรมชั้นเอกแล้ว หลวงพ่อก็เบนเข็มไปฝึกปฏิบัติทางสมาธิ ฝึกการนั่งทางในเรียนวิชาอาคมทางไสยศาสตร์ โดยออกจากวัดนางในไปจำพรรษาอยู่วัดต่างๆทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ เพื่อเสาะหาอาจารย์ดีเรียนและฝึกตามที่ได้ตั้งใจไว้เป็นระยะเวลานานกว่า ๑๐ ปีซึ่งก็มีวัดต่างๆที่หลวงพ่อไปจำพรรษาอยู่สรุปรวบรวมได้ดังนี้
    ๑. วัดหนองฝา จังหวัดอุตรดิตถ์
    ๒. วัดท่าหลวง จังหวัดพิจิตร
    ๓. วัดบ้านตง จังหวัดอุตรดิตถ์
    ๔. วัดสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร
    ๕. วัดถ้ำขุนเณร อ. บางมูลนาค จ.พิจิตร
    ได้ฝึกปฏิบัติสมาธิกับหลวงพ่อเขียน
    ๖. วัดป่าดอนมูล จังหวัดลำพูน
    ฝึกปฏิบัติสมาธิกับ ครูบาคำแสน คุนานํกโร
    ๗. วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่
    ฝึกปฏิบัติสมาธิกับครูบาคำแสน อิทนจกฺโก
    ๘. วัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี
    ฝึกปฏิบัติสมาธิกับ หลวงพ่อโต
    ๙. วัดเมือง จังหวัดยะลา
    ๑๐. ส่วนวัดในจังหวัดปทุมธานี หลวงพ่อสอน
    เคยไปจำพรรษาอยู่ที่วัดไก่เตี้ย , วัดชัยสิทธาวาส อำเภอสามโคก และวัดโบสถ์ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
    นอกจากนี้ ในสมัยที่หลวงพ่อเป็นเณร ยังได้เคยไปเรียนการลงอักขระเลขยันต์ การถักตะกรุด และคาถาอาคมกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์
    และยังได้รับการถ่ายทอดวิชาการนั่งทางในหมอดูจากหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านอีกด้วย กล่าวได้ว่าตลอดเวลา ๑๐ ปีเศษ หลวงพ่อสอนท่านได้เรียนวิชาต่างๆ มาเต็มภูมิทีเดียว
    นั่งทางใน ดูหมอ แก้เคล็ด ดูที่ทาง

    เคยได้กล่าวไว้ในตอนต้นแล้วว่า หลวงพ่อสอนท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาการนั่งทางใน มาจากหลวงพ่อนุ่ม และหลวงพ่อได้ฝึกฝนอยู่นานหลายปี จนมีความชำนาญมากสามารถที่จะทำจิตให้เป็นสมาธิแล้วนั่งทางใน ในการดูโชคชะตาราศี ดูที่ทางทำเลในการก่อสร้างอาคารร้านค้าเพื่อทำการก่อสร้างได้ถูกต้องในพื้นที่จะได้ทำมาค้าขึ้น
    นอกจากนี้ ถ้าหากผู้ใดอับโชค ค้าไม่ขึ้น หลวงพ่อก็สามารถจะนั่งทางในแล้วบอกได้ว่าเพราะเหตุใด ควรจะแก้เคล็ดอย่างไร จึงจะได้ผลดี เป็นต้นว่า มีผู้เคยมาพบหลวงพ่อ เล่าให้ฟังว่าได้ไปเปิดร้านค้าขายแห่งหนึ่ง แต่ค้าเท่าไรก็ไม่ดีเลย มีแต่จะขาดทุนจนจะปิดร้านอยู่แล้ว
    หลวงพ่อนั่งทางในดูแล้วบอกว่า ร้านค้าดังกล่าวหันไม่ถูกทาง ต้องแก้ไขเพียงเล็กน้อยก็จะหาย และผู้ที่มาพบหลวงพ่อก็ทำตามทุกอย่าง การค้าก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับในเวลาอันรวดเร็ว ปัจจุบันมีฐานะดีในขั้นผู้มีอันจะกินผู้หนึ่งเลยทีเดียว.............
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาข้อมูลอย่างสูงๆ
    พระพิมพ์ ขุนแผน หลวงพ่อสอนวัดศาลเจ้าปทุมธานี ให้บูชา 120บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflashหรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไท
    IMG_20220819_221539.jpg IMG_20220819_221551.jpg
    IMG_20220819_221527.jpg
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระพิฆเณศวัดญาณเสนเอกลาภเอกฤทธิ์
    ให้บูชา 100บาทค่าจัดส่ง30บาทระบบflashหรือJ&Tและ 50บาทemsไปรษณีย์ไทย
    IMG_20220819_222320.jpg IMG_20220819_222337.jpg IMG_20220819_222310.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...