เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 ตุลาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,703
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,263
    ค่าพลัง:
    +25,984
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,703
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,263
    ค่าพลัง:
    +25,984
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ในส่วนของการอบรมนักธรรมชั้นตรีสนามหลวงก่อนสอบก็เสร็จสิ้นลงไปแล้ว แต่ด้วยความที่ว่ากระผม/อาตมภาพมีงานข้างนอกอยู่มาก ไม่ได้ติดตามการอบรมมาตั้งแต่ต้น จึงไม่รู้ว่ามีปัญหาแบบวันนี้ที่นั่งฟังอยู่หรือเปล่า ?

    ก็คือวิทยากรของเราใช้คำพูดที่ยากเกินไป จนกระทั่งผู้เข้ารับการอบรมฟังไม่รู้เรื่อง อย่างเช่นว่า "เมื่อได้รูปแบบของกระทู้แล้ว ท่านจะ "ครีเอต" อย่างไรก็ได้" หรือไม่ก็ "ในเมื่อท่านสามารถที่จะอธิบายกระทู้ตั้งมาให้เข้ากับกระทู้รับของเราแล้ว ท่านจะ "มิกซ์" อย่างไรก็ได้"

    เรื่องพวกนี้ถ้าคนทั่ว ๆ ไปอย่างระดับพวกเราฟังก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เราต้องเข้าใจว่า พระเณรส่วนใหญ่ที่บวชอยู่ก็คือเด็กต่างด้าว ถ้า "ออหมี่ ออที้ ทะมินซา" ยังพอฟังได้บ้าง ภาษาไทยทั่วไปก็พอได้ แต่ไม่ใช่ปนภาษาอังกฤษ หรือศัพท์แสงวิชาการต่าง ๆ มากเกินไป เราต้องคำนึงอยู่เสมอว่าคนที่ฟังเราพูด เขาอาจจะยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพเขียนหนังสือบันทึกการเดินทาง คนอ่านส่วนใหญ่บอกว่า "อ่านแล้วเหมือนอย่างกับได้ไปด้วยตนเอง เห็นภาพชัดเจนมาก" ก็เพราะกระผม/อาตมภาพนึกอยู่เสมอว่า "ทำอย่างไรที่จะให้เขารู้สึกเหมือนกับตัวเราในตอนนี้"

    พรรคพวกเพื่อนฝูงของกระผม/อาตมภาพบางท่าน จบปริญญาเอกมาแล้ว โดนเพื่อนคนอื่นทักท้วงว่า "พูดภาษาคนฟังไม่รู้เรื่อง ?" ก็เพราะว่าถึงเวลาก็เอาแต่ศัพท์แสงวิชาการ หรือว่าระดับความรู้ของตนเองเป็นเกณฑ์ พอเข้าประชุมพระสังฆาธิการตามรอบของตน ก็เที่ยวไปถามหาว่า "ยุทธศาสตร์เป็นอย่างไร ? ยุทธวิธีเป็นอย่างไร ?" แล้วท่านที่ไม่ได้เรียนถึงระดับนั้นจะรู้เรื่องกันไหม ?

    ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ถ้ามีการอบรมครั้งใหม่ เราต้องคำนึงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพูด เรื่องของการเทศน์ เรื่องของการแสดงธรรม หรือว่าสัมโมทนียกถา ต้องคิดอยู่เสมอว่าคนฟังไม่รู้เรื่อง เราต้องพูดให้เขารู้เรื่องได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,703
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,263
    ค่าพลัง:
    +25,984
    ปัญหาของปีนี้ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่า ทั้งเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะอำเภออีก ๒ รูป ก็คือรวมตัวของกระผม/อาตมภาพเองด้วย ติดภารกิจ ไม่มีโอกาสอยู่ดูแลห้องอบรม จึงต้องเอาครูสอนพระปริยัติธรรมของวัดท่าขนุนไปทำหน้าที่แทน วันอื่น ๆ ไม่ทราบว่ามีสภาพแบบวันนี้หรือเปล่า ? แต่ว่าวันนี้คาดว่า ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่ได้อยู่ด้วย ก็แปลว่านั่งหลับกันหมด เพราะว่าฟังไม่รู้เรื่อง ท่านทั้งหลายจึงต้องระมัดระวังเอาไว้ให้มากกว่านี้

    โดยเฉพาะตอนอบรมค่ายพุทธบุตร เราต้องเข้าใจว่า เด็กนักเรียน ไม่ใช่พระภิกษุสามเณรที่มีพื้นฐานการปฏิบัติธรรมมา ทำอย่างไรที่เราพูดถึงศัพท์แสงในการปฏิบัติธรรมแล้วเขาจะเข้าใจ ? ไม่ใช่ถึงเวลาก็ไปขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ถ้าคนไม่มีพื้นฐานการศึกษาธรรมะมาจะไม่เข้าใจเลย

    อย่างบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนที่กระผม/อาตมภาพพูดอยู่ทุกวัน นี่เป็นเรื่องของคนฟังที่มีพื้นฐานการปฏิบัติมาแล้ว สามารถที่จะพูดได้ แต่ถ้าหากว่าไปเจอของยาก กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบแปลเป็นภาษาไทย เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจให้เหมือน ๆ กัน

    ต้องบอกว่าการเป็นครูนั้นเป็นได้ยากมาก หลายท่านมีความรู้สูงมาก แต่ก็รู้คนเดียว ไม่สามารถที่จะ "ทำของลึกให้ตื้น" อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำ ถ้าจะเอาความละเอียดลึกซึ้งในข้อธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าถึง พวกเราจะไม่เข้าใจเลย เพราะว่านั่นเป็นเรื่องของ "ปัจจัตตัง" การรู้เฉพาะพระองค์ท่านล้วน ๆ พระองค์ท่านจึงต้องสรุปลงมาให้เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด ซึ่งคนทั่ว ๆ ไปฟังแล้วสามารถที่จะเข้าใจได้

    พวกเราที่เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส หรืออุบาสกอุบาสิกาผู้นับถือพระพุทธศาสนา ต้องพยายามเลียนแบบและทำตาม ต่อให้ไม่สามารถทำได้อย่างพระองค์ท่าน เอาสักเศษเสี้ยวฝุ่นติดพระบาทของพระองค์ท่านก็ยังดี..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,703
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,263
    ค่าพลัง:
    +25,984
    ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ ช่วงนี้คนไทยมีความสุขมาก ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ใช่หรือเปล่าวะ ? น่าจะคนละเรื่องกัน..!

    เรื่องที่ทีมทีมวอลเล่ย์บอลหญิงไทยสามารถฝ่าฟันการแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก เข้าไปสู่รอบที่สองได้ชนิดที่เขาตะลึงกันทั้งโลก เพราะว่าโค่นทั้งทีมตุรเคีย อันดับ ๖ ของโลก และทีมโดมินิกัน อันดับ ๘ ของโลก ลงไปได้อย่างชนิดที่เขาช็อคกันหมด..!

    ตรงนี้นอกจากเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นแล้ว การวางแผนของทีมผู้ฝึกสอนยังเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ทำไมเราต้องยอมแพ้โปแลนด์ ? เพื่อที่จะเก็บแรงเอาไว้ถล่มโครเอเชียและเกาหลีใต้ ทำไมเราต้องลากเกมยาวจนต้องเล่นถึง ๕ เซ็ตกับโดมินิกัน ? ก็เพื่อผลาญแรงของอีกฝ่ายหนึ่ง ที่เพิ่งจะออกแรงสู้รบตบมือกับอีกทีมหนึ่งมา จนกระทั่งหมดสภาพให้เราแซงชนะในช่วงท้ายได้

    ตลอดจนกระทั่งทีมนักโภชนาการ ทีมแพทย์ และนักกายภาพบำบัด ทุกคนมีความสำคัญร่วมกันทั้งหมด ตัวสำรองข้างสนามที่ไม่ได้มีโอกาสลงสนามในช่วงนั้น ก็ยังไปเต้น ไปส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมที่กำลังทำหน้าที่อยู่

    ตรงนี้ขอละไว้ ไม่กล่าวถึง ส่วนที่อยากจะกล่าวถึงก็คือว่า เมื่อถึงเวลาลากเกมยาว ๆ อย่างเช่นเล่น ๕ เซ็ตกับทีมตุรเคียหรือโดมินิกัน ทั้ง ๒ ทีมแม้ว่าจะเป็นทีมระดับโลกมานานมาก แต่พอเจอสถานการณ์บีบคั้นอย่างชนิดที่แลกกันคนละแต้ม ลากยาวไป แทนที่จะจบที่ ๒๕ แต้ม ก็ลากไปจน ๓๐ กว่า ตรงนี้ชาวต่างชาติสู้เราไม่ได้ แรงเสียดทานยังไม่พอ เพราะว่าขาดสมาธิ..!

    เราอาจจะเห็นว่าทีมไทยของเราพกเครื่องรางของขลังบ้าง ภาวนาคาถาบ้าง สวดมนต์ไหว้พระบ้าง แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็คือเครื่องยึด เครื่องสร้างสมาธิ สร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับตนเอง จึงทำให้สามารถชนะทีมอื่นอย่างชนิดที่ล็อคถล่ม
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,703
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,263
    ค่าพลัง:
    +25,984
    ดังนั้น..เรื่องของสมาธิจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะทางโลกหรือว่าทางธรรม บางท่านอาจจะเห็นว่าในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ท่ามกลางการประท้วงของคนหมู่มาก ทางผู้บังคับบัญชาตามสายงานต้องส่งกระผม/อาตมภาพลงไปเสมอ เพื่อที่ทำอย่างไรจะให้ผลการเจรจากับชาวบ้าน ที่กำลังปะทุอารมณ์ออกมาให้ดีที่สุด และเป็นไปตามความต้องการของผู้บังคับบัญชาคณะสงฆ์ให้มากที่สุด มิหนำซ้ำยังสำเร็จทุกครั้ง ก็เพราะว่าในเรื่องของกำลังใจ ซึ่งประกอบไปด้วยกำลังสมาธินั่นแหละ ในเมื่อกำลังใจสูงกว่า เราจะปั้นจะแต่งอย่างไร เขาก็ต้องคล้อยตามไปอยู่ดี

    แต่ว่าท่านต้องเข้าใจนะครับว่า กำลังใจที่ว่านี้หมายถึงสัมมาสมาธิ ถ้าไปเจอท่านที่เคยชินกับมิจฉาสมาธิ ถ้ากำลังเราน้อยก็สู้ไม่ไหวนะครับ เพราะว่าในส่วนของมิจฉาสมาธิ ก็เป็นสมาธิเหมือนกัน ได้รับการซักซ้อมมาด้วยความชำนาญในการทำชั่วเหมือนกัน ถ้าความเชี่ยวชาญชำนาญของเราไม่เทียบเท่ากับเขา ก็แพ้เขาได้ง่าย ๆ

    ทำไมบางคนเดินผ่านเจ้าพ่อซุ้มมือปืนแล้วต้องสั่นไปทั้งตัว ? ก็เพราะว่ากำลังใจสู้เขาไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เราก็รู้อยู่ว่าคนนี้ทำชั่วสารพัด ก็แปลว่าแม้จะเป็นสัมมาสมาธิ ก็ขาดการฝึกซ้อมให้เชี่ยวชาญและคล่องตัวไม่ได้ ขาดเมื่อไร แพ้ทันที ไม่ใช่ว่า "ธรรมะต้องชนะอธรรม" เสมอไป คนจีนเขามีภาษิตว่า "ธรรมะสูงหนึ่งเชียะ อธรรมะสูงหนึ่งวา" ไอ้สิบนิ้วฟุตกับวาหนึ่งนี่ต่างกันมหาศาลเลย

    จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายต้องตระหนักให้ดีว่า ทุกวันนี้ที่ยากลำบากกันอยู่ ไม่สามารถเอาชนะกิเลสได้สักที เกิดขึ้นจากอะไร ? ก็เพราะว่าพวกเราประมาท ขาดการสร้างอารมณ์ความดีให้ต่อเนื่อง ประมาท..ขาดการฝึกซ้อมให้เชี่ยวชาญ
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,703
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,263
    ค่าพลัง:
    +25,984
    ทำอย่างไรทันทีที่รู้ตัวว่าโทสะเกิด แล้วเราเข้าสมาธิหนีได้เดี๋ยวนั้นเลย ?

    ทำอย่างไรทันทีที่รู้ว่าราคะเกิด แล้วเราเข้าสมาธิหนีได้เดี๋ยวนั้นเลย ?

    ทำอย่างไรทันทีที่รู้ว่าโลภะเกิด เราเข้าสมาธิหนีได้เดี๋ยวนั้นเลย ?

    ถ้าสามารถทำได้อย่างนี้ ก็ไม่ต้องไปพูดถึงโมหะ เพราะว่าโมหะนั้นเป็นต้นเหตุของกิเลสใหญ่ทั้ง ๓ ตัวที่ได้กล่าวมาก

    จึงขอฝากเป็นภาระให้พวกท่านทั้งหลายไปพินิจพิจารณาดูว่า ทีมวอลเล่ย์บอลหญิงไทย แม้ว่ากำลังสมาธิไม่ได้สูงส่งมากมาย แต่ยังเหนือกว่าทีมคู่แข่งที่ไม่เข้าใจเลยว่าสมาธิคืออะไร ส่วนพวกเราที่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าสมาธิคืออะไร ยังจะอ่อนซ้อมกันต่อไปหรือไม่ ก็ไปตัดสินใจกันเอาเอง

    สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...