อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 29 พฤศจิกายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,929
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,387
    ค่าพลัง:
    +26,202
    F83CECE6-4E67-45AB-8ACA-83FE77E6E0E6.jpeg

    หายโศก ภาษาบาลีว่า อโสโก ในมงคลสูตรท่านว่า อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง

    อะโสกัง ความเป็นผู้ไม่เศร้าโศก คือสภาพจิตมั่นคง ไม่หวั่นไหว วิระชัง ไร้ธุลีมาแปดเปื้อน เขมัง มีแต่ความเกษมชื่นบาน ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้ใจเศร้าหมองได้

    ต้องบอกว่าจุดมุ่งหมายของความเป็นมนุษย์ก็คือหายโศก การเข้าถึงความไม่เศร้าโศก เราจะเห็นว่าแม้แต่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระเจ้าอโศกมหาราชก็ใช้คำว่า อโศก เป็นผู้ไม่เศร้าโศกแล้ว

    แม้แต่หลวงพ่อลีสร้างวัด ก็สร้างชื่อวัดอโศการาม มี ๒ ความหมายด้วยกัน ความหมายแรกท่านคือพระเจ้าอโศกมหาราชมาเกิดใหม่ ความหมายที่สองคือ เป็นอารามหรือวัดแห่งความไม่เศร้าโศก ใครเข้ามาก็ต้องมีแต่ความสุข มีแต่ความเจริญโดยส่วนเดียว

    พระเจ้าอโศกมหาราช แต่เดิมฉายาว่า จัณฑาโศก อโศกผู้ดุร้าย อโศกผู้โหดร้าย ไม่ว่ารบที่ไหนก็ฆ่าแหลกที่นั่น ไปรบที่แคว้นกลิงครัฐคืนเดียว ฆ่าข้าศึกไปสองแสนกว่า ต้องบอกว่าเลือดท่วมเท้าช้าง ท่านเกิดความเบื่อหน่ายขึ้นมา เครียด ตื่นกลางดึก อยู่บนปราสาทชั้นบนก็เดินไปเดินมายันสว่าง ต้องบอกว่าบุญของท่านมาถึง เพราะว่านิโครธสามเณรออกมาเดินบิณฑบาตพอดี

    พระเจ้าอโศกเห็นเข้า "นักบวชที่ไหนหนอ ช่างสงบงาม ดูต่างกับเราเหลือเกิน" ก็เลยให้ราชบุรุษนิมนต์เข้ามารับภัตตาหารในวัง สอบถามว่าเป็นใคร ชอบใจหลักธรรมของใคร ท่านก็บอกว่าเป็นสามเณร ปฏิบัติตามหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในพระพุทธศาสนา

    พระองค์ก็เล่าความเดือดเนื้อร้อนใจของตัวเองให้ฟัง นิโครธสามเณรก็เลยบอกว่าให้เปลี่ยนวิธี การแผ่ขยายดินแดนสร้างอาณาเขตแบบเดิมใช้วิชัยยุทธก็คือใช้การรบ ให้เปลี่ยนเป็นธรรมยุทธก็คือการรบด้วยธรรมะ พระเจ้าอโศกมหาราชได้ยินแล้วชอบใจ ก็เลยหันมาประกาศสนับสนุนพระพุทธศาสนา ถือศีล ปฏิบัติธรรม เลิกเข่นฆ่าผู้อื่น แว่นแคว้นอื่น ๆ พอได้ยินก็โล่งใจ ไม่รู้ว่ากษัติรย์ผู้ดุร้ายจะไปถล่มบ้านเมืองของตัวเองเมื่อไร พอได้ยินว่าอีกฝ่ายหนึ่งตั้งใจเป็นธรรมกษัตริย์แล้ว ก็เลยพากันอ่อนน้อม ขอเป็นข้าขัณฑสีมาด้วย
    ..................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...