พระเครื่องหลากหลายรายการครับ หลวงพ่ออุตตมะ พระอาจารย์สุริยัณ หลวงปู่ชื้น ฯลฯ

กริ่งตะละกุล เนื้อว่าน มีเกศา
ร่วมบุญ 2,450 บาท
แถมโปสเตอร์A4พิมพ์ทองเค 2ใบ
แผ่นพับ ยันต์เมตตาค้าขาย 1
*********************

#พระกริ่งจักรพรรดิ พระกริ่งที่เป็นยิ่งกว่าพระกริ่ง ของพระราชอุดมมงคล (อุตตมะ อุตตมรัมโภ) วัดวังก์วิเวการาม ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี


จากที่เคยเรียนให้ ทราบมาในศักดิ์สิทธิ์ฉบับ ก่อนแล้วว่า พระกริ่ง “จักรพรรดิ ถือกำเนิดขึ้น เพราะองค์หลวงพ่ออุตตมะ เป็นปฐมเหตุ และการ ถวายพระนามเป็นได้ เพราะแรงบันดาลใจจาก เสียงเรียกหาหลวงพ่อใน
นาม “กะรัตชัส”' อันหมายถึง "จักรพรรดิ”

#️ฤกษ์ในการเททองหลวงพ่อ เป็นองค์กำหนดเองทั้งสิ้น

#การเททองหล่อพระกริ่ง “จักรพรรดิ” ทุกช่อ ทุกองค์โดยมือของ หลวงพ่ออุตตมะเองได้ เสร็จสมบรณ์ลงแล้วด้วยดี ในวันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2541

#การลงพระยันต์บังคับ108ยันต์ การลงนะ ปถมัง 14 นะ ซึ่งเป็นตำรา เฉพาะในการทำพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ของสมเด็จ พระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงอโยธยา

โดยอาจารย์สุวัฒน์ พบร่มเย็น (อ.เบิ้ม) ศิษย์ที่สืบสานวิชาจาก หลวงปู่โต๊ะ ทำพิธีลงอักขระ เรียกสูตรจารแผ่นทอง อย่างถูกต้องตามตำรา โบราณทุกประการ. ก่อนลง อาจารย์เบิ้มได้ทำการ คำนวณฤกษ์ผานาทีอย่างพิถีพิถัน และได้ตั้งพานครู บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น

ในวันลง ใช้เวลาทำทั้งหมด ถึง 1 เดือนเศษจึงแล้วเสร็จ จากนั้นก็นำแผ่นจารทั้ง ปวงถวายหลวงพ่ออุตตมะ
#หลวงพ่อปลุกเสกเรียกอักขระและเลขยันต์ซ้ำอีกที ️ตามแบบฉบับของท่านเป็นจำนวน 3 ครั้งด้วยกัน!!!

ชนวนที่นำมาเทหล่อ พระกริ่ง นอกจากแผ่นยันต์ บังคับแล้ว #ยังมีแผ่นยันต์ของหลวงพ่ออุตตมะซึ่งท่านลงเอง, ชนวนพระกริ่ง รุ่นต่างๆจากหลายสำนัก

เหรียญพระและโลหะ ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมาย โดยเฉพาะเนื้อ 'สัตตโลหะ นั้น อาจารย์เบิ้มได้นำ พระปิดตา 'นพเก้า” เนื้อ นวโลหะแท้ๆ กับสัตตโลหะ บริสุทธิ์ รวมกันราว 50 องค์ มาร่วมหลอมด้วย

จะรู้กันไหมว่า พระ ปิดตา 'นพเก้า” ที่อาจารย์ เบิ้มสร้างขึ้นนั้นยอดเยี่ยม เพียงใด ลำพังเนื้อหาก็กิน ขาดแล้วในวัตถุมงคลสมัย ปัจจุบัน ยังได้พระสงฆ์ที่ เก่งกล้าอธิษฐานจิตปลุก เสกถึง 9 อาจารย์ เช่น หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร,หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ พลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต เป็นต้น จะวิเศษขนาดไหน ละลายไปรวม พระกริ่งทุกเนื้อแล้วล่ะ

#️เกิดปาฏิหารย์ในพิธี ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ
ครั้งแรกในพิธีนั้นเองสายสิญจน์ซึ่งใช้ล้อมในมณฑลพิธี เกิดตกท้องช้างไปพาดเข้า กับเบ้าหลอม เบ้าที่ร้อนแรง กลับไม่ระคายเพลิงแต่อย่างใด ขนาดกระดาษและยังติดไฟ ทว่าด้ายขาวเบาบางเส้นนั้น มันคงนอนพาดกับ ปากเบ้าอย่างสงบนิ่ง ในขณะ ที่คนมุงตื่นเต้นจนใจจะขาด ✨️ แผ่นเงินบริสุทธิ์จารโดยอ.เบิ้ม เสกโดย หลวงพ่ออุตตมะที่ไม่หลอมละลาย สังเกตเห็นกันเบ้า ยังแดงอยู่ด้วยความร้อนสูงในเป้าซึ่งร้อนสุดขีดนั้น อยู่นานถึง 30 นาที!!!

✨️ซึ่งตามจริงให้อย่างมาก 5 วินาที จะละลายหายวับไปกับตา เหมือนโยนทิชชูใส่ทีเดียว

ทุกคนปีติยินดีเป็นอย่างมาก ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึง ปรากฏการณ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ “ ไม่หยุดเสียง เกิดมาเป็น ตัวตนจนป่านนี้ก็ฟังแต่เขา เล่าลือกันมา เพิ่งจะได้เห็น แบบตาต่อตาฟันต่อฟันกัน คราวนี้เอง เหตุอัศจรรย์นี้ทำให้

กำหนดเสก ถูกระบุลงในวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2541 ซึ่ง ในวันนั้นเป็น
✨️“เพชรฤกษ์” อันเป็นฤกษ์ที่เหมาะกับ การปลุกเสกวัตถุมงคลให้ เป็น มหาลาภ มหาผล อุดมลาภ, อุดมผล และ แคล้วคลาด

พระกริ่งเนื้อสัตตโลหะ 126 องค์ เนื้อทองผสม 2,000 องค์ หรือ✨️เนื้อว่าน 2,000 องค์ ได้ถูกจัดตั้งแบบเสกเปิด เพื่อรับพลังมงคลในทุกๆ ทาง อย่างเต็มที่ โดยสิ่งที่รองรับ พระทุกองค์อยู่ คือ แก้ว, แหวน, เงิน, ทอง, อัญมณี ทั้ง 9 ชนิด และรองพื้น โดยผ้าสีชมพูซึ่งเป็นสีมงคล ในวันนั้น ชั้นล่างสุดถูกปูด้วย ผ้ายันต์ 'นะฤๅชา' ของ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร การทำเช่นนี้ก็เพื่อ เป็นเคล็ดว่าผู้สักการะบูชา จะได้ถูกอุ้มชูดวงชะตาโดย สุดยอดวัตถุมงคลที่ประทับ

เวลา 18.00 น.
เสียงกังสดาลก็กังวานก้อง * ไปทั่วสำนักฯ เป็นนิมิต หมายว่า การอัญเชิญครู- อาจารย์ และเทพพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเริ่มขึ้น แล้ว พิธีการบวงสรวงแบบ พราหมณ์ อาจารย์เบิ้ม เป็นผู้ลงมือ ณ ลานกลางแจ้ง หน้าปะรำปลุกเสก

18.10 น. หลวงพ่ออุตตมะ ก็เริ่มสงบจิตเข้าสู่องค์ภาวนา แล้วโอมอ่านพระสูตร อันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ใน ความทรงจำท่านเป็นลำดับ เริ่มจากการสวดอัญเชิญ ครูบาอาจารย์ของท่าน และเทวดา ✨️ซึ่งปกติท่าน จะให้พระลูกศิษย์สวด มาตลอด
✨️เพิ่งมีพิธีนี้ที่ท่านสวดเอง ต่อนั้นก็คือ
#มหาสมัยสูตร อันเป็นพระสูตรที่เทพยดาโปรดปราน เป็นนักหนา,
ธรรมจักร กัปปวัตนสูตร,
มหาเมตตาใหญ่,
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก,
12ตำนาน,
ชินบัญชรคาถา,
#️อิติปิโสรัตนมาลา ซึ่งเป็น บทที่ยาวที่สุด ละเอียดอ่อน ที่สุดแล้วในการพรรณนา

 

ร่วมบุญ 1 ชุดครับ

 

ร่วมบุญรายการนี้ด้วยครับ

 

พระผง พระมหาจักรพรรดิชนะมาร
อาจารย์เกียรติศักดิ์ วรรัมโม
วัดป่ารัมม ปาลวนาราม จ.สกลนคร
เลี่ยมกันน้ำเดิมจากวัด

บูชา 350 บาท

 

❌️❌️ปิดรายการแล้วครับ❌️❌️
((( รุ่นฆ่าไม่ตาย ต่ออายุขัยได้ )))

#พระสมเด็จอวตาร 84 รุ่น “ ฆ่าไม่ตาย ”
#ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
อธิษฐานจิตอย่างเต็มที่ 1 ไตรมาส เมื่อปี 2543

หลวงปู่เป็น 1 ใน 22 พระสุปฏิปันโน สายหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง

ครูบาวงษ์ หรือ ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน พระผู้เหยียบศิลาเป็นรอย

พุทธานุภาพพิเศษ คือ เป็นพระที่คลายกฏแห่งกรรม ได้คือ ถ้ามีกรรมที่มาตัดรอนให้เรา ถึงแก่ชีวิต ก่อนอายุขัย จากเจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลายทั้งปวงด้วยพระพุทธานุภาพที่หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ จะช่วยให้กรรมนั้นๆจากหนักเป็นเบาได้ ให้ชื่อพระรุ่นนี้ว่า “ สมเด็จอวตาร 84 ” รุ่น “ ฆ่าไม่ตาย ” ด้วยเหตุที่ว่า สามารถต่ออายุออกไปได้อีก

#เมื่อตอนหลวงปู่ครูบาชัยวงค์อายุได้ 84 ปี หลวงปู่ท่านป่วยหนักมากจนต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อท่านอาการทุเลาลงมาแล้ว ท่านกลับมาวัด หลวงปู่ได้บอกกับลูกศิษย์ว่า
#ในขณะที่อยู่โรงพยาบาลนั้นท่านได้ตายไปแล้ว เนื่องจากเหตุของอุปฆาตกรรมมาริดรอน แต่ก็สามารถต่ออายุออกไปได้อีก

หลวงปู่จึงมีดำริให้สร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้เพื่อสงเคราะห์ลูกหลาน พร้อมทั้งกำหนดมวลสาร และ ตั้งชื่อรุ่นนี้ให้เอง

พระผงสมเด็จอวตาร 84 เป็นพระผงที่รวบรวมมวลสาร ต่างๆ เช่น
ผงพระธาตุ 500 อรหันต์
ผงพระธาตุสีวลี
ผงพระปัจเจกพุทธเจ้า
ผงหลวงปู่เทพโลกอุดร
ชานหมากอันศักดิ์สิทธิ์
ผงธูปอธิษฐาน เกศา น้ำหมาก ตลอดจน ผงพุทธคุณต่าง ๆ

ส่วนด้านหลังองค์พระติดป้ายน้ำหมาก+เกศาของหลวงปู่หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้ให้ชื่อพระรุ่นนี้ว่า สมเด็จอวตาร84 รุ่นฆ่าไม่ตาย

สำหรับหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาท่านเป็นสหธรรมิกกับองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
#และเคยเกิดเป็นพระฤาษีวาสุเทพผู้ที่สร้างพระรอดลำพูนราคาหลักล้าน บารมีของท่านไม่ธรรมดาแน่ ๆ ครับ

#ท่านบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ กำลังถึงสูง สามารถฝืนกฏของกรรมได้ถ้าไม่หนักนัก ท่านถึงสร้างพระรุ่นนี้ขึ้นมาได้

ความเป็นมาของพระธาตุ 500 อรหันต์ โดยพระอาจารย์พงษ์ศักดิ์ คัมภีรธัมโม แห่งวัดพระธาตุดอยกวางคำ อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน.. ตอนนั้นไปกราบครูบาวงศ์บอกว่าจะไปถ้ำตับเต่า ท่านก็บอกเออไป พอไปแล้วมีญาติโยมตามไปด้วย ไปพักที่นั่นก็อธิษฐานว่า

#ถ้าถ้ำตับเต่านี้มีเทวดารักษาพระธาตุอยู่ อาตมาจะขอนำพระธาตุไปให้ชาวโลกเขาสักการะบูชา ถ้าจะให้ก็ขอให้มีนิมิต คืนนั้นก็มีนิมิตว่ามีช้างเผือกประมาณหลายร้อยเชือกนับไม่ถ้วน วิ่งผ่านหน้าพระราชวังไป อาตมาเห็นจนสุดลูกหูลูกตา ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็เล่าให้เจ้าอาวาสฟัง ตอนนั้นพระอาจารย์บุญช่วยไม่อยู่ ท่านน้อย รักษาการเจ้าอาวาสแทน ก็เลยเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่าถ้ามีนิมิตอย่างนี้ก็ดีแล้วจะพาท่านเข้าไป ถ้ำนั้นจะทราบเฉพาะเจ้าอาวาสกับท่านน้อยเท่านั้น เพราะท่านเข้าไปนั่งภาวนาแต่ตอนนี้ถ้ำได้ถูกปิดแล้ว ปากถ้ำแคบมาก เหมือนกับว่าจะมีแต่พญานาคหรืองูเท่านั้นทีจะเลื้อยเข้าไปได้ เพราะปากถ้ำใหญ่เท่าลำตาลแค่นั้น แต่ลึกเข้าไปจะเป็นที่โล่ง เย็นมาก พระธาตุจะอยู่สุดถ้ำพอดี ตรงนั้นเป็นที่ภาวนาพระธาตุจะเต็มไปหมด

อาตมาก็ขอเทวดาว่า ถ้าจะได้พระธาตุไปเพื่อให้ชาวโลกสักการะบูชา ก็ขอให้เทวดาช่วยด้วย คือขอให้ออกจากถ้ำได้ทันเวลา เพราะเวลานั้นบ่ายสามบ่ายสี่โมงแล้ว เป็นช่วงที่เขาจะไม่ให้คนเข้าถ้ำเพราะงูจะออกหากิน แล้วมันมืดมาก ถ้าไฟที่เราจุดเกิดดับไป เราจะออกจากถ้ำไม่ได้ จะไม่มีใครมาช่วยก็เลยใจแข็งยอมเอาพระธาตุออกมาหลายถ ุงมากโดยไม่รู้ว่า คือ พระธาตุอะไร ตอนแรกยังไม่ทราบ พอออกมามันติดปากถ้ำพอดี เพราะตรงนั้นแคบมาก ช่วงที่ออกมานี่ปากถ้ำแคบเกินกว่าที่เราจะเอาพระธาตุ ออกมาได้ เฉพาะเราจะนั่งก็นั่งไม่ได้ แล้วถุงพระธาตุจะถูลู่ถูกังมาตามทางเดินไม่ได้ เพราะทางเดินเราต้องเลื้อยออกมาเหมือนงู ถ้าถูลู่ถูกังมาอย่างนั้น ถุงก็จะขาดเอาพระธาตุออกมาไม่ได้

ก็เลยบอกเทวดาว่าถ้าอาตมาหรือข้าพเจ้าจะนำพระธาตุออก มาให้คนสักการะบูชา ให้ชาวโลกสักการะบูชาได้ ก็ขอให้เทวดาช่วยขยายปากถ้ำให้นำออกมาได้ด้วย

ปากถ้ำนี่ขยายออกมาจนอาตมาสามารถนั่งได้และคนที่จะตามมาสามารถนั่งได้ เราทุกคนแปลกใจมากและก็ขนพระธาตุออกมาได้ ปรากฎว่า พระธาตุที่นำออกมานั้น เอามาถวาย ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา

ท่านว่านี่คือ #พระธาตุของห้าร้อยอรหันต์ ซึ่งมีปรากฎเฉพาะใน ธรรมบท ที่ว่าพระสารีบุตรเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตอนที่อยู่บนดาวดึงส์ บอก ว่าสารีบุตรเธอจงนำธรรมบทนี้ไปแสดงแก่ภิกษุห้าร้อ ย ภิกษุห้าร้อยนี้เคยเกิดเป็นค้างคาวที่ถ้ำหนึ่งแล้วก็ ได้ฟังเทศนาธรรมนี้จนเคลิ้มแล้วตกลงมาตายพร้อมกัน แล้วก็หมดบุญไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นฟ้า หลังจากหมดบุญแล้วก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ มาบวชในสำนักพระสารีบุตร แล้วก็ได้บรรลุอรหันต์พร้อมกันทั้งห้าร้อยรูป หลังจากบรรลุธรรมเป็นอรหันต์พร้อมกันแล้ว ก็ไปนิพพานบนถ้ำตับเต่า

แต่ก่อนไม่มีชื่อเรียกถ้ำบนถ้ำนี้คนขึ้นไปไม่ได้ มันสูงมาก ไม่มีใครทราบว่ามี พระอรหันต์ 500 รูป ไปนิพพานข้างบน ก็ร้อนถึงพระอินทร์ พระอินทร์ก็ได้เนรมิตไฟมาเผา จนเป็นผงแล้วความร้อนของไฟที่เผาร้อนไปถึงเมืองบาดาล พญานาคก็เลยโผล่ขึ้นมาดูว่าทำไมถึงร้อนขนาดนี้ ก็เห็นเป็นไฟกำลังลุกไหม้ เลยพ่นน้ำมาดับ ถ้ำนั้นจึงเรียกว่า ถ้ำตับเต่า ที่ทางเหนือเขาเรียกถ้ำตับเต่าก็คือ ถ้ำดับเถ้า นั่นเอง.. ปัจจุบันนี้รูนั้นก็ยังอยู่ อาตมาเคยไปภาวนาที่ถ้ำนั้น ครูบาวงศ์ท่านเล่าให้ฟังอย่างนี้ ก็เลยถวายพระธาตุท่านไป ท่านก็ว่านี่คือ ห้าร้อยอรหันต์ ไม่มีที่อื่น มี ที่เดียว ปัจจุบันถ้ำนี้ถูกปิดไปแล้ว เพราะฉะนั้นพระธาตุห้าร้อยอรหันต์นี้ อาตมาคิดว่าอาตมาได้ขอเทวดามาให้ชาวโลกได้สักการะบูช า ก็คิดว่าถ้าจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์โลก...


#อิทธิบุญฤทธิ์ "ครูบาเหยียบศิลาเป็นรอย"
เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ท่านจึงเดินทางกลับมาหาครูบาศรีวิชัยพร้อมกับชาวกะเหรี่ยงที่เป็นศิษย์ของ ท่าน เพื่อช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพในครั้งนี้ ครูบาศรีวิชัยได้เมตตาให้ท่านเป็นกำลังสำคัญทำงานร่วมกับครูบาขาวปีในการควบ คุมชาวเขาช่วยสร้างทางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ยากลำบา เช่น การสร้างถนนในช่วงหักศอกก่อนที่จะถึงดอยสุเทพ (ช่วงที่คนวิพากษ์วิจารณ์ครูบาศรีวิชัยกันมากที่สร้างถนนหักศอกมากเกินไป)
#ในระหว่างกำลังสร้างทางช่วงนี้ ได้มีหินก้อนใหญ่มากติดอยู่ใกล้หน้าผา จะใช้กำลังคนหรือช้างลากเช่นไรก็ไม่ทำให้หินนั้นเคลื่อนไหวได้ ชาวกะเหรี่ยงที่ทำงานอยู่นั้นจึงไปกราบเรียนให้ ครูบาศรีวิชัยทราบ

#ท่านจึงให้คนไปตามครูบาวงศ์ซึ่งกำลังสร้างทางช่วงอื่นอยู่ เมื่อหลวงพ่อครูบาวงศ์มาถึงท่านได้ยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้เดินทางไปผลักหินก้อนนั้นลงสู่หน้าผานั้นไป เหตุการณ์นี้ทำให้ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แปลกใจไปตามๆกันที่เห็นท่านใช้มือผลักหินนั้นโดยไม่ อาศัยเครื่องมือใด ๆ

#ครูบาศรีวิชัยได้ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ท่านด้วยความพอใจและ ขณะที่ท่านช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ

#ครูบาชัยวงศาฯท่านได้ประทับรอยเท้าลึกลงไปในหินประมาณ ๑ ซ.ม. ข้างน้ำตกห้วยแก้ว ช่วงตอนกลางๆ ของทางขึ้นดอยสุเทพ เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านได้มาช่วย ครูบาศรีวิชัยสร้างทาง โดยตอนนั้น ท่านเพิ่งเป็น"ตุ๊เจ้าหนุ่มน้อย" อายุเพียง "22" ปีเท่านั้น

บูชา 650 บาท

 

❌️❌️ปิดรายการแล้วครับ❌️❌️
ผ้ายันต์พรหมสี่หน้า หลวงพ่ออุตตมะ
พระนิตยโพธิสัตว์ เทพเจ้าแห่งอำเภอสังขละ

22 x22 ซม. หายาก
บูชา 550 บาท

******************
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอรหันตเจ้าผู้ยิ่งด้วยปัญญาแห่งวัดป่าสาลวัน นครราชสีมายังเคยกล่าวรับรองถึงพระผู้เที่ยงแท้ต่อพระโพธิญาณองค์นี้ไว้กับศิษย์หลวงปู่มา วัดสันติวิเวกอย่างน่าตื่นใจเป็นที่สุดว่า
"หลวงพ่ออุตตมะท่านได้รับพยากรณ์แล้ว และเป็นหนึ่งในอนาคตวงศ์"

เมื่อครั้งตามหลวงพ่ออุตตมะไปพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระแก้วครั้งหนึ่ง

หลวงปู่บุญมี โชติปาโล พระอริยเจ้าแห่งวัดสระประสานสุข เข้าไปจับมือหลวงพ่ออุตตมะเหมือนท่านรู้จักกันมานาน กล่าวว่า "หลวงพ่ออย่าทิ้งลูกหลานน๊ะ...หลวงพ่ออย่าทิ้งลูกหลานเน้อ"

อีกครั้งนึงหลวงพ่ออุตตมะท่านไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ถึงวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่หลวงปู่แหวนจะ”นิพพาน”ได้ไม่นาน ซึ่งหลวงปู่แหวนก็ได้ถามหลวงพ่ออุตตมะถึงการ”ปฏิบัติ”ว่า เป็นเช่นไร หลวงพ่ออุตตมะก็ได้แต่กราบเรียนหลวงปู่แหวนไปอย่าง”ตรงๆ”ว่า

”ปฏิบัติ”อัตหิต”น้อย ปรหิตมาก”

แปลความแบบง่ายก็คือ

”ทำเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้ามากกว่าในปัจจุบัน...”

หรือหากจะให้เข้าใจง่ายที่สุด ก็ต้องว่า

”ไม่ได้เอามรรคผลนิพพานส่วนตัวในชาตินี้หรอก แต่หวังไปสำเร็จพุทธภูมิเพื่อส่วนรวมในอนาคตมากกว่า” ก็ว่าได้นั่นแล

ช่างสมกับที่ท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ก็ยังเคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนหลวงพ่ออุตตมะถึงวัดวังก์วิเวการาม เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนพร้อมกับกล่าวสรรเสริญไว้อย่างสูงยิ่งครั้งหนึ่งเสียจริงๆที่ว่า

”หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มีบารมีมากล้น แม้ชาตินี้ หากท่านต้องการ.... ท่านก็สามารถถอยจิตมาเจริญกรรมฐาน สำเร็จพระอรหันต์ได้ในทันทีเลยทีเดียว.....”

แต่......

”หลวงพ่ออุตตมะท่านยังไม่เอาหรอกนะ...!?!!”

และเมื่อเรื่องนี้ได้แพร่งพรายไปถึงหูเพื่อนธรรม บางคนอดรนทนเก็บความสงสัยไว้มิได้ ถึงกับบุกไปถามหลวงพ่อท่านตรงๆเลยทีเดียวว่า

”หลวงพ่อปรารถนาพุทธภูมิหรือครับ...??”

”อือ..อือ..”หลวงพ่ออุตตมะตอบเรียบเฉยที่สุดเหมือนไม่อยากจะอวดอ้างใดๆ

”แล้วหลวงพ่อบำเพ็ญแนวไหน ปัญญา ,ศรัทธาหรือวิริยะขอรับ....”

”วิริยะ..วิริยะ....” หลวงพ่อ”อุตตมรัมโภ”(ผู้มีความพากเพียรสูงสุด)วิสัชนา

หมายเหตุ, คงจะต้องขออธิบายความเพิ่มเติมสักเล็กน้อยว่า ในการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ เพื่อการได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระโพธิสัตว์แต่ละองค์จะต้องบำเพ็ญบารมี 30 ทัศ ใน 3 ระดับชั้น ตาม”จริต”และ”อุปนิสสัย”แห่งตนดังนี้คือ

1. พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยปัญญา(ความเฉลียวฉลาด) บำเพ็ญบารมีไวที่สุด ด้วยระยะเวลาเพียง 20 อสงไขย กำไรแสนมหากัป ก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระปัญญาธิกะพุทธเจ้า)ได้ อย่างเช่น พระสมณโคดมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันของเราพระองค์นี้เป็นต้น

2.พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยศรัทธา(ความเชื่อความเลื่อมใส) บำเพ็ญบารมีปานกลาง ใช้ระยะเวลารวม 40 อสงไขยกำไรแสนมหากัป ก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระสัทธาธิกะพุทธเจ้า)ได้ อาทิเช่น พระกกุสันธะพุทธเจ้า,พระโกนาคมพุทธเจ้า,พระกัสสปพุทธเจ้า เป็นต้น

3.พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยความวิริยะ(ความพากเพียร) บำเพ็ญบารมีนานที่สุด มากที่สุด ถึง 80 อสงไขย แสนมหากัป จึงจะสามารถตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระวิริยาธิกะพุทธเจ้า)ได้ มีพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้าในอนาคตกาลเป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่รู้แน่ได้อย่างหมดข้อสงสัยว่า หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านก็บำเพ็ญ”โพธิสัตว์บารมี”ในระดับเดียวกับ”พระศรีอริยเมตไตรย” คือเป็นแบบ”วิริยาธิกะ” อันยิ่งด้วย”ความพากเพียร”นั่นเอง

ช่างน่าอนุโมทนาสาธุการอย่างที่สุดโดยแท้แล้ว....และหนึ่งในคำถามยอดนิยมของวงการพุทธศาสนิกชน เกี่ยวกับผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิก็คือ

"ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วหรือยัง..??"
ถ้าคำตอบมีว่า "ยัง" ก็เรียกได้ว่า "ยังไม่แน่นอน"
อาจถอนความปรารถนา ถอยมาเป็น"สาวกภูมิ" เข้านิพพานเฉพาะตัวได้ทุกเมื่อ

แต่ถ้าคำตอบมีว่า "ได้รับพุทธยากรณ์"แล้ว ก็มั่นใจได้เต็มร้อยว่า "ต้องได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่ๆ.."

ไม่มีการถอนคืนหรือเปลี่ยนแปรเป็นอื่นได้อย่างเด็ดขาดและสิ้นเชิง
เพราะคำพูดของพระพุทธเจ้า"เป็นหนึ่งไม่มีสอง"ดังนี้ฯ

และสำหรับหลวงพ่ออุตตมะ จะเป็นพระโพธิสัตว์ระดับใดนั้น "การันตี"ที่ฟันธงไหน ก็ไม่เท่ากับที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมาเคยตอบตรงแบบไม่มีอ้อมไว้ก่อนมรณภาพไม่นานว่า

"หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว"
และที่น่าตื่นใจที่สุดก็คือ
"หลวงพ่ออุตตมะเป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตวงศ์อีกด้วย

 

เหรียญบาตรน้ำมนต์ ปี 49 เนื้อนวะ
หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม เกจิดังเมืองกรุงเก่า

สภาพสวยตามภาพเลี่ยมกันน้ำหนาๆ
เหรียญกว้าง 4ซม.

ร่วมบุญ 800 บาท

 

❌️❌️ปิดรายการแล้วครับ❌️❌️
ภาพถ่ายหลวงพ่อกวย ปี 56
ขนาด1.5x1นิ้ว ด้านหลังมีสายสิญจน์
อัดกรอบพลาสติกกันน้ำเดิมจากวัด

ร่วมบุญ 150 บาท

 

#พญาครุฑกำลังแผ่นดิน เนื้อสัมฤทธิ์เดช

คุ้มภัยคุ้มทรัพย์เจริญลาภ
มหาอำนาจ ล้างอาถรรพ์

#พิธีมหาพุทธาภิเษกวัดพระศรีรัตนศาสดาราม 15 พค. 2540 เนื้อสัมฤทธิ์เดช

ร่วมบุญ 888 บาท.
องค์นี้สวย คม ชัด

พิธีการ
โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระธานฝ่ายสงฆ์

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดีพระธิดาในหลวงรัชกาลที่6 เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธี

โดยครั้งแรกนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าพระราชทานพระบรมราขานุญาตฺให้ใช้พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประกอบพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับพระสี่มุมเมืองวัดบวรนิเวศน์.

เนื่องในโอกาสมงคลสักการะ 84พรรษาของสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชและทรงโปรดเมตตามวลสารจิตรลดาและน้ำพระพุทธมนต์ทรงโปรดเมตตาอธิษฐานจิตแผ่เมตตาเป็นกรณีพิเศษในครั้งแรก

และได้นำเข้าพุทธาภิเษกวัดพระแก้วปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ 56 ท่าน ได้แก่
สมเด็จวัดสระเกศ
สมเด็จวัดชนะสงคราม
หลวงพ่อวัดเกาะหลัก
หลวงพ่อวัดราชผา
หลวงพ่อวัดอรุณ
หลวงพ่อวัดเชตุพน
หลวงพ่อวัดศาลาปูน
หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า
หลวงพ่อวัดระฆัง
หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า
หลวงพ่อวัดบางขุนเทียนนอก
หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
หลวงพ่อดนัยวัดสุทธาราม
หลวงพ่อวัดจักรวรรดิ
ลพ.มี วัดมารวิชัย
หลวงพ่อวัดสายไหม
ลพ ประสิทธิ์ วัดไทรน้อย
หลวงพ่อวัดเม้าสุขา
ลพ.พูลวัดไผ่ล้อม
ลพ.ไสว วัดปรีดาราม
ลพ.สวัสดิ์ วัดช้างไห้
หลวงพ่อวัดสุวรรณคิรี
ลพ.อวยพร วัดดอนยายหอม
พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว
หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
พระอาจารย์ศิริพงษ์ วัดสุทธาราม
ลพ.ชาญณรงค์ วัดเลา
ลพ.พูล วัดไผ่ล้อม
ลพ.เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ........ ฯลฯเป็นต้น

เหตุผลที่ทำไมจีงปลุกเสกวัดพระแก้ว
พญาครุฑ เป็นตราที่อยู่เหนือหลักพิชัยสงครามเป็นสัญลักษณ์ของผู้เป็นใหญ่ มีอํานาจราชศักดิ์ พญาครุฑเป็นของสูงอยู่กับผู้ใด จะเจริญทั้งหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว เป็นผู้ที่ตกตํ่าไม่ได้ เป็นมหาอํานาจปกครองคน มีบารมีสูงกว่าเขาทั้งหลาย ปราศจากโทษภัย อัตรายทั้งปวง ฯลฯ

✳️การปลุกเสกพญาครุฑ จะต้องลงหัวใจให้ครบผู้ปลุกเสกต้องมีบารมี มีพลังเหนือพลังไม่อย่างนั้นขลังยาก ลงวิชาครุฑต้องลง 8 อย่าง ถึงครบสูตร คือ

1. เป็นมหาอํานาจเหนือกว่าใคร
2. เจริญก้าวหน้าในแผ่นดิน (รับราชการ)
3. ตราแห่งโชคลาภ-เงินทอง-ลาภผล
4. กันเขี้ยวงาอสรพิษ (พญาครุฑยึดนาคจับนาคผู้เป็นใหญ่ในอสรพิษได้พญาครุฑ จึงเหนือเขี้ยวงาพิษร้ายทั้งปวง)
5. แก้คุณผีคุณคนคุณไสย์ ได้ดีนัก เดรัจฉานวิชาไม่กล้าเข้าใกล้
6. ตกตํ่าไม่ได้พญาครุฑบินอยู่สูง สูงกว่าพญานกทั้งหลาย ตราพญาครุฑจึงช่วยดวงไม่ให้ตกต่ำ
7. พระเคราะห์ไหนๆพระราหูแรงอย่างไร ก็ชนะพญาครุฑไม่ได้
8.บารมีมากปกป้องคุ้มครองดี ปลอดภัยตลอดกาล

 

ผ้ายันต์รอยมือ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
ขนาด 12*12 นิ้ว ทำจากผ้าดิบอย่างดี ปี 2541
รุ่นประสบการณ์ มีลงข่าวรถพลิกค่ำ ไม่เป็นอะไรเลย

ร่วมบุญ 200 บาท
ยันต์สกรีน เข้ม คมชัด

 

ยันต์มหาเศรษฐีเงินล้าน วัดท่าขนุน
พุทธาภิเษก เป่ายันต์เกราะเพชรเสาร์5
วันที่ 20 มีนาคม 2553

บูชา 600 บาท
มีผืนเดียวครับ

 

เหรียญระฆังจิ๋ว ครูบาชัยวงศา ปี28
ร่วมบุญ 100 บาท

 

เหรียญพระนาคปรก รุ่น อายุยืน
หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ปี55
ร่วมบุญ 200 บาท

 

พระอุปคุตปราบมาร รุ่น 82 ปี สร้างปี 2537
หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน

มวลสารศักดิ์สิทธิ์ผสมผงพระอรหันตธาตุ 500 องค์
ผงพระปัจเจกพุทธเจ้า
และพระพระธาตุพระสีวลี

ปลุกเสกโดยสุดยอดพระเกจิแห่งเมืองเหนือที่แม้แต่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) แห่งวัดท่าซุง ยังกล่าวยกย่องในบุญญาบารมีของท่าน

ร่วมบุญ 300 บาท



#พระอุปคุต เป็นพระภิกษุผู้สำเร็จอรหันต์ องค์สำคัญองค์หนึ่งในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ชื่อ "อุปคุต" แปลว่า ผู้คุ้มครองรักษา พระอุปคุตมีบทบาทสำคัญในการทำสังคายนาครั้งที่ 3 สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช คือ ท่านได้ใช้อิทธิฤทธิ์บารมีช่วยปราบพญาวสวัตตีมาร ที่มาทำลายงานฉลองเจดีย์ 84,000 องค์ และพิธีสังคายนาพระไตรปิฏก

ท่านได้ใช้อิทธิฤทธิ์และบุญญาบารมี ปราบพญามารผู้เห็นผิด จนพญามารต้องพ่ายแพ้และอับอาย และพญามารเป็นที่ครั้งคร้ามเกรงกลัวในอิทธิบารมีของพระอุปคุตเป็นอย่างมาก

พระอุปคุต ชาวไทยทางเหนือนิยมเรียกท่านอีกชื่อว่า "พระบัวเข็ม"
และในปัจจุบันครูาอาจารย์ท่านเชื่อกันว่า พระบัวเข็มหรือพระอุปคุตนั้นท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยท่านได้นั่งเข้านิโรธสมาบัติ ดำรงอิทธิบาทฌาณอยู่ในสะดือทะเล

และในทุกวันขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ ชาวไทยทางเหนือ จะนิยมเรียกว่าเป็น "วันเป็งปุ๊ด" โดยมีความเชื่ออิงประวัติว่า พระอุปคุตในรอบ 1 ปี ท่านจะขึ้นมาโปรดชาวบ้าน ก่อนเวลารุ่งอรุณ โดยมีคติความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้วจะได้บุญใหญ่หลวง เนื่องจากท่านได้ออกจากนิโรธสมาบัติ

#เชื่อกันว่าหากใครได้ทำบุญบูชาพระอุปคุตอยู่อย่างสม่ำเสมอ จะบันดาลก่อผลให้เกิดความร่ำรวย เกิดโชคลาภ และความเป็นสิริมงคลในชีวิต อย่างเร็วพลันทันตา อีกทั้งยังปราบอุปสรรคศัตรูหมู่มาร ไม่ให้เข้ามาสร้างความทุกข์ยากในชีวิต ให้ชีวิตพบเจอแต่ความราบรื่น ร่มเย็นเป็นสุข แก่ผู้บูชาอีกด้วย

#มวลสารในการสร้างมี
1 )ดินมงคลจากอินเดีย เนปาล ศรีลังและไทย ในสถานที่สำคัญกว่า 40 แห่ง เช่น สถานที่พระพุทธเจ้าเคยเสด็จ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ประกาศศาสนาไว้ ปรินิพพาน
2) พระธาตุ พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ 500 องค์ และพระสีวลี
3) ทรายแม่น้ำอินเดีย 12 แม่น้ำ เช่น เนรัญชรา ยมนา อจีรวดี
4) ดอกไม้บูชาจากศรีลังกา มากกว่า 14 แห่ง เช่น ที่บูชาพระเขี้ยวแก้ว
5) ผงธูป 14 วัด เช่น วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระธาตุพนม วัดพระธาตุจอมกิตติ
6) น้ำศักดิ์สิทธิ์ จากบ่อน้ำทิพย์ในวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม/ลำพูนและบ่อน้ำพญานาคจากเมืองบาดาล2บ่อในเชียงใหม่

#การสร้างได้นำผงพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ 500 องค์ และพระสีวลีมาผสมให้เกิดมงคลยิ่ง ด้วยกำลังพระอรหันต์มากมายจึงทรงด้วยอานุภาพ เมตตา อุดมสมบูรณ์ มงคล มหาลาภ หลวงปู่จึงให้ชื่อรุ่นนี้ว่า " 82 ปี พระอุปคุตชนะมาร"

หากใครไปวัดห้วยต้มจะเห็นว่า ครูบาท่านจะตั้งศาลพระอุปคุตไว้ บริเวณศาลาพรหมจักรโก เวลามีงานพิธีอะไรต่างๆ ท่านจะเชิญพระอุปคุตทุกครั้ง แสดงให้เห็นว่าครูบาท่านให้ความสำคัญ และท่านมีความเกี่ยวพันใกล้ชิด และมีความเกี่ยวเนื่องกับบุญญาบารมีของพระอุปคุตเป็นอย่างมาก

ท่านบอกว่าพระอุปคุต จะคอยระวังภัยในพระพุทธศาสนา ครูบาท่านทำท่า อุปคุตจกบาตรให้ดูด้วย ท่านบอกว่า ขนาดฉันข้าว ยังต้องคอยมองท้องฟ้า ป้องกันไม่ให้พวกมารมาทำอะไรพระพุทธเจ้า

#ครั้งหนึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ได้เคยกล่าวยกย่อง
แก่ลูกศิษย์ครูบาวงศ์ฯ ว่า
“พระดีแบบครูบาวงศ์ไม่มีอีกแล้ว หาได้ยาก…..พวกลูกมีบุญมาก และโชคดีที่มาพบพระระดับหลวงพ่อวงศ์ ซึ่งเป็นพระปฏิบัติดี มีคุณธรรมสูง หลวงพ่อได้อะไร หลวงพ่อวงศ์ก็ได้เช่นเดียวกัน ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย…. อย่าเสียทีที่เกิดมามีบุญ ได้พบพระระดับหลวงพ่อวงศ์”

#หลวงปู่ครูบาชัยวงศา ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่รู้ใจคน ถอดกายได้โดยมีผู้ถ่ายรูปเดี่ยวของท่าน แต่ปรากฏว่ารูปถ่ายที่ออกมากลายเป็น 2 องค์ คือองค์หนึ่งนั่งอีกองค์หนึ่งยืน

ท่านออกธุดงค์ตั้งแต่ยังหนุ่ม ครูบาศรีวิชัยซึ่งเป็นอาจารย์องค์แรกของท่านเคยทำนายตอนที่ท่านยังเป็นเณรว่า ท่านจะเป็นผู้มาสร้างวัดพระพุทธบาทห้วยต้มแห่งนี้ นอกจากนั้นท่านยังเป็นลูกศิษย์ของครูบาพรหมจักร (พระอุปัชฌาย์ของท่าน) และครูบาอภิชัย ขาวปี ที่มรณะแล้วร่างไม่เน่าเปื่อยอีกด้วย

ท่านยังได้เรียนวิชาทางจิตจากตำราเก่าสมัยอยุธยาที่พระเก่งๆ ในสมัยโบราณนำมาซ่อนไว้ในถ้ำเพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือพวกพม่า โดยเทวดามาบอกที่ซ่อนคัมภีร์นี้ เมื่อท่านฝึกสำเร็จแล้วท่านจึงนำเข้าไปเก็บรักษาไว้ในเจดีย์ที่วัด

ท่านฉันเจและชอบฉันลูกเกาลัด ที่แปลกก็คือท่านชอบไปเข้าฝันคนทั่วไป เช่นเคยไปเข้าฝันบอกตัวยาแก้โรคกระเพาะให้ คนตายแล้วฟื้นเล่าว่าได้ไปพบครูบาศรีวิชัยท่านบอกให้มากราบครูบาวงศ์เพราะท่านเป็นพระอริยะ และเทวดาที่วัดพระบาทห้วยต้มบอกวัดนี้จะเป็น 1 ใน 3 วัด ที่จะอยู่ได้จนครบ 5,000 ปี

#เคยมีลูกศิษย์ของหลวงปู่ถามท่านว่า
"หลวงปู่ครูบาเจ้า คือ ฤาษีวาสุเทพ หรือ สุเทวฤาษีใช่ก่เจ้า"
หลวงปู่มองหน้าแล้วตอบสั้นๆ ว่า "ฮื่อ"
(ฤาษีวาสุเทพ คือ มหาฤาษีเอกองค์อาจารย์ใหญ่ ที่ได้ร่วมกันสร้างเมืองหริภุญชัยและสร้างและปลุกเสกพระรอดลำพูน และเป็นที่มาของชื่อดอยสุเทพ)

 

พระปิดตาอุดมลาภ ฉลองอายุ 84ปี
หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
เนื้อผงพุทธคุณ ผสมผงธูป เกสรดอกไม้
ซองเดิม ทำบุญจากวัด
ร่วมบุญ 400 บาท

พื้นที่ห่างไกล+ค่าจัดส่งอีก 50บาท

 

พระบุเรงนอง ชุดกรรมการ
หลวงพ่ออุตตมะ ฉลองอายุ 84 ปี ครบ 7 รอบ
วัดวังก์วิเวการาม ปี37 พิธีใหญ่
มี 4 องค์
1.เนื้อดิน ผสมเนื้อพระกรุบุเรงนองที่แตกหัก
2.เนื้อเงิน เลข 62
3.เนื้อนวะ
4.เนื้อผง ติดเกศาหลวงพ่อ

ร่วมบุญ 5,000 บาท

 

ล็อคเก็ต รุ่น มีโชค
แจกกรรมการ งานทำบุญคล้ายวันเกิด ปี 55
หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต

ด้านหลังอุดตะกรุด3ดอก จีวร เกศา ผงวิเศษ
มาพร้อมกล่องเดิมๆครับ
บูชา 3,000 บาท

 

เหรียญพระมหาธาตุเจดีย์12ราศี
รุ่นแรก เนื้อทองแดง สร้างปี45
หลวงปู่ครูบาอิน และ ครูบาบุญปั๋น

ร่วมบุญ 1500 บาท


ด้านหน้าเป็นพระมหามัยมุนี และพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 12 ราศี
ด้านหลังเป็นยันต์ไชยะเบงชร(ชินบัญชรล้านนา)ของ ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง คุ้ม ล้อมรอบด้วยนักษัตรทั้ง 12 ปี
ออกแบบบล็อคสวยมาก ซึ่งมีความหมายสำหรับคนเหนือ ที่เชื่อในเรื่องพระธาตุเจดีย์ประจำปีเกิด นักษัตร ฯลฯ

พุทธคุณ เมตตามหานิยม เสริมดวง เสริมราศี หนุนดวง แก้ดวงตก ช่วยพลิกผันจากร้ายให้เป็นดี ส่งเสริมดวงชะตา หน้าที่การงาน

เหรียญรุ่นนี้ปลุกโดยครูบาอาจารย์สายเหนือชื่อดังมากมาย เช่น
ครูบาอิน อินโท
ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม
ครูบาคำแห่งสุสานไตรลักษณ์
ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
ครูบาตั๋น ปัญโญ
และเกจิส่วนกลางเช่น
หลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง
หลวงปู่ชื้น วัดญานเสน เป็นต้นครับ

มีอยู่ด้วยกัน 5 เนื้อ
1.เนื้อทองคำสร้าง 2 เหรียญ
2.เนื้อเงินสร้าง 50 เหรียญ
3.เนื้อนวะสร้าง 50 เหรียญ
4.เนื้อตะกั่วสร้าง 500 เหรียญ
5.เนื้อทองแดงสร้าง 1500 เหรียญ
6.เนื้อทองฝาบาตรสร้าง 1500 เหรียญ

 

#มหาฤาษี รุ่น ( แก้วสารพัดนึก )
#ที่สุดของมวลสาร และพิธีเสก

ใครหาพระฤาษีดีๆ รุ่นนี้องค์เดียวจบครับ
แทบทุกคณาจารดังๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย

#ชุดนี้อ.เบิ้มเก็บไว้ ยังแช่อยู่ในน้ำมันเก่ากลิ่นสูตรเฉพาะของ อ.เบิ้ม อีกเป็นเวลานาน
องค์นี้ขึ้นสนิมเขียว


สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2535 โดยคณะของ
อ.สุวัฒน์ พบร่มเย็น ( อ.เบิ้ม )

ที่ก้นบรรจุ
#ผงนะปัดตลอดของหลวงปู่โต๊ะผสม
#ผงชันเพชรบุกษกวัดสำคัญ

เข้าพิธีใหญ่ครั้งแรก
ณ พระอุโบสถวัดโคนอน 3 วัน 3 คืน

หลังจากนั้นยังนำเข้าพิธีเพิ่มเติมที่
#วัดพระแก้ว,
#วัดบวรนิเวศ อีกหลายครั้ง

ซึ่งแต่ละพิธีมีครูบาอาจารย์ในสายกรรมฐานมานั่งปรก อาทิ
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร,
หลวงปู่ศรี มหาวีโร,
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย,
หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ,
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฯลฯ

ในส่วนที่สร้างด้วยโลหะผสมนี้ หากเป็นชุดที่เทในวาระแรกๆ เนื้อจะกลับดำเหมือนนวโลหะ เนื่องจากความเข้มข้นของชนวนโลหะต่างๆ ที่ผสมลงไปเป็นจำนวนมาก ส่วนชุดหลังๆ เนื้อในจะออกคล้ายทองเหลือง เนื่องจากมีการผสมทองระฆัง และฐานพระทองเหลืองลงไปเพิ่มเติม

*มวลสารโลหะที่ใช้ในการสร้าง

•แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี กรุงเทพฯ

•แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

•แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

และจะไม่กล่าวถึงแผ่นยันต์ต่างๆ มากมายหลายร้อยแผ่นที่พระเถรานุเถระในสายอีสานอันเป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์มั่นได้เมตตาลงให้ไว้แต่นานเน ทั้งยังพระยันต์เก่าเก็บจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศอีกเป็นกุรุสโกดัง ถึงขนาดอาจารย์ออกปากว่า “เสร็จงานนี้บ้านโล่งไปเยอะ”



ที่สำคัญยิ่ง คือ แผ่นทองแดงลงอักขระยันต์ และคาถาต่างๆ นับพันบท ซึ่งจารโดยมือของ
#หลวงปู่พรหมา เขมจาโร อิสีขลังผู้ชาญพระเวทย์แห่งลุ่มน้ำโขง ได้ลงไว้มีจำนวนทั้งสิ้น1ปิ๊บเต็มๆ ทองแดงบางอย่างกระดาษวางลงในปีบจนเต็ม มันจะมีกี่แผ่น?

#หลวงปู่พรหมาเสกปี๊บยันต์บน‘คาย’ในถ้ำอยู่นานมาก แล้วมอบให้ประสมกับ
#ชนวนพระกริ่งปวเรศ(ปี 2530) ซึ่งในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเททองโดยพระหัตถ์เอง
สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานพิธี,
#ชนวนพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่มีจำนวนพอสมควร มิใช่นิดหน่อยแล้วเขียนเอา,
ชนวนพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์,
#ชนวนพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง,
ชนวนพระกริ่งปรโม ของหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกเฌอ จ.ชลบุรี,
ชนวนพระกริ่งอรหัง ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่,
ชนวนพระกริ่งพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่,
#ชนวนพระกริ่งรุ่นต่าง ๆ ของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ,
ชนวนพระพุทธรูปเททองโดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.เชียงราย,
ชนวนพระพุทธรูปเททองโดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา

เรื่องชนวนถ้าต้องเขียนจริง ๆ อาจต้อง 5 เล่มจบ

ยังมีเหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ, เหรียญหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, เหรียญหลวงปู่สิม พุทธาจาโร, เหรียญหลวงปู่เกษม เขมโก, เหรียญหลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก แต่ละองค์นับร้อยเหรียญ ถ้ารวมพระคณาจารย์ต่าง ๆ ก็นับพันเหรียญ

ยังปรากฏชนวนศักดิ์สิทธิ์อาถรรพ์ต่าง ๆ ที่ไม่อาจเปิดเผยที่มาได้ อาทิ พระเกศ และนิ้วพระหัตถ์ชำรุดของพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งในประเทศไทย

ตะกรุดชินตะกั่วโบราณ อายุ 200 ปี ตะปูสังขวานร เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กยอดปราสาท โลหะธาตุวิเศษนานาที่เป็นทนสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ในตัวเองถูกเชิญมาสู่เบ้าหลอมสร้างเป็นพระทั้ง 3 พิมพ์

#ที่สำคัญสุดยอดคือ พระ ยันต์บังคับทั้ง 108 ดวงและนะปถมัง 14 นะ อันเป็นสูตรโบราณในการเทพระสำคัญ ถูกจารลงในแผ่นทองคำบริสุทธิ์แท้จนครบตำรา มีน้ำหนักทั้งสิ้นถึง 50 บาท

#การเทพระวาระนี้ไม่มีโลหะเปล่าอันมิใช่ของวิเศษเจือปนลงไปให้เป็นที่ครหาเลยแม้แต่น้อย

#ชนวนน้ำหนักมากมายหลายสิบกิโลถูกนำมาวางเรียงรายบนโต๊ะยาวปูผ้าขาว แล้วทำการบันทึกภาพพร้อมถ่ายวีดีโอเป็นหลักฐานก่อน ต่อเนื่องไปถึงการหลอมเป็นเนื้อเดียว แล้วเททอง

องค์เททอง อาจารย์เบิ้มกำหนดที่ หลวงปู่ดี วัดสุวรรณการาม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่อาจไม่ปรากฏชื่อเสียงแพร่หลายนักเพราะท่านเก็บตัวเนื่องจากอาพาธด้วยโรคตา โดยเหตุที่ท่านเป็นศิษย์มือซ้ายของพระพุทธวิถีนายก(บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่บุญจะใช้ท่านจารคัมภีร์คัดลอกตำราต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เพราะท่านมีลายมือในการเขียนขอมได้อย่างสวยงามยิ่ง กระทั่งหลวงปู่ดีอายุได้ราว 80 ปี สายตาท่านก็เริ่มเสื่อมเรื่อยมาจนมองไม่เห็นในที่สุด ท่านจึงงดรับนิมนต์ใดๆ และแขกเหรื่อท่านก็ไม่สะดวกรับ

แม้ในวันที่อาจารย์เบิ้มท่านไปกราบอาราธนา ศิษย์ท่านยังพูดอย่างหวังดีว่า"อย่านิมนต์ให้ยากเลย เสียเวลาเปล่า" ครั้นได้เข้ากราบและเล่าความ ท่านกลับแสดงความกระตือรือร้นที่จะไปสอบถามวันเวลา สถานที่เป็นอย่างดีแล้วก็รับนิมนต์การณ์นี้สร้างความประหลาดใจให้ศิษย์ของท่านยิ่งนัก ยิ่งหนักเข้าไปอีกเมื่อหลวงปู่บอกว่า “รอเขาอยู่นาน” เมื่อพระเถระผู้เฒ่าชนมายุ 90 ปี ไปเททองให้ตามวันเวลากำหนดแล้ว ท่านพูดในพิธีว่า"วันนี้ดีมาก เทพ พรหม ลงมาอนุโมทนากันมากของในพิธีนี้ดีจริงๆ" แล้วท่านก็ลากลับวัดไป เพียงไม่ถึงเดือน ท่านก็มรณภาพ ดังคำที่ว่า “รอเขาอยู่”

#อาจารย์เบิ้มได้นำพระทั้ง 3 พิมพ์
มหาฤาษีแก้วสารพัดนึก
พระปิดตามหาอุต
พระปิดตานพเก้า
เข้าพุทธาภิเษกในวาระต่าง ๆ ไม่เคยหยุด ไม่ว่าจะเป็นวัดพระแก้วฯ, วัดสุทัศน์ฯ, วัดราชบพิตรฯ, วัดบวรนิเวศน์ฯ, วัดอินทารามฯ, เป็นต้น

เฉพาะวัดที่กล่าวนามมาก็ไม่ต่ำกว่าวัดละ 5 พิธีเสก และพระทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกมาทั่วประเทศ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 พิธี

หากจะนับคณาจารย์ที่ปลุกเสกก็ไม่ต่ำกว่า 300 พระอาจารย์ และการนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว อาจารย์เบิ้มนำไปด้วยตนเอง จนคร้านจะไป

#เหตุที่พระนี้สร้างในปี พ.ศ. 2534 ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษยังปรากฏอยู่มากมาย การนำเสกจึงเป็นไปอย่างสนุกใจคนทำ

#หลวงปู่เกษม เขมโก,
#หลวงปู่แช่ม ฐานุสโก,
#หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ,
#หลวงปู่พรหมา เขมจาโร,
#หลวงปู่คำพัน โฆษะปัญโญ
ทั้ง 5 องค์นี้ดูจะเป็นองค์เสกชุดนี้อย่างบ่อยที่สุด

นอกนั้นทั่วประเทศอาจารย์บอกผมอย่างเหนื่อยใจจะอธิบายว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2534-2538 ชอบใจหลวงพ่ออะไร นับถือใครเอ่ยชื่อมาเลย…เอ่ยมาเถอะ… เสกแล้วทั้งนั้น!

ร่วมบุญ 5,555 บาท

 

#ผงคำข้าว เสก 9 วัดดังพม่า 5 รอบ 5 มหาพิธี
#พระผงจตุคามรามเทพรุ่นเงินไหลมายุค 2
#ด้านหลังหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค กล่องเดิม
วัดศาลพันท้ายนรสิงห์จัดสร้าง
บูชา 200 บาท


***มีแค่องค์เดียวเท่านั้นครับ***

#พระรุ่นนี้พิธีใหญ่ปลุกเสกที่มหาเจดีย์ชเวดากองด้วย