ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สรรพสามิต เปิดแนวทางการเก็บ “ภาษีคาร์บอน” โดยไทยเตรียมเก็บเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียน เริ่มจากการเก็บจากภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ยันช่วงแรกไม่กระทบราคาน้ำมันขายปลีก
    .
    อ่านต่อ : https://moneyandbanking.co.th/2024/132501/

    https://www.facebook.com/share/p/CxDepoS5qnDHkmTv/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1728228788910.jpg

    สถานการณ์น้ำท่วมในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ยังวิกฤติหนัก แม้น้ำเริ่มลดระดับลง แต่เป็นไปุอย่างช้าๆ เนื่องจากมวลน้ำที่ล้นตลิ่งกระจายเป็นเต็มพื้นที่ โดยย่านช้างคลาน-ไนท์บาซาร์น้ำยังท่วมสูงเกือบ 1 เมตร และไหลเชี่ยวเป็นแม่น้ำใจกลางเมือง ด้านอำเภอสารภีเริ่มอ่วมหนัก โดนน้ำไหลบ่าแรงท่วมขึ้นสูงและขยายวงกว้าง

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000094870

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    https://www.facebook.com/share/p/AbT62FUDDfXqNpM9/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1728228937317.jpg

    กู้ภัยฮุก 31โคราช เผยภาพมุมสูงน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เป็นบริเวณกว้าง จมน้ำกว่า 1 เมตร บางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร เร่งใช้เรือยางติดเครื่องยนต์ฝ่ากระแสน้ำช่วยเหลือชาวไทยและชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในบ้านเรือน อพยพไปอยู่ที่สูง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000095002

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    https://www.facebook.com/share/p/15yC4ZH5Hpkydrwq/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1728229443846.jpg

    สุดตระหนก! ภาพจากอวกาศโชว์ “โลกร้อน” ทำน้ำแข็งขั้วโลกใต้ละลาย พบพืชสีเขียวปกคลุมกลายเป็นทุ่งมอส
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ - ทีมนักวิทยาศาสตร์อังกฤษตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการชื่อดังวันศุกร์ (4 ต.ค.) ถึงการศึกษาใหม่ค้นพบว่ามีพื้นที่ในทวีปแอนตาร์กติกาที่เคยมีหิมะจับตัวแข็งสีขาว ปัจจุบันมีบางส่วนละลายและมีพืชมอสสีเขียวปกคลุมเห็นได้ชัดไกลจากอวกาศ เกิดขึ้นหลังการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกจากฝีมือมนุษย์ ระอุมากหน้าร้อนนี้ตั้งแต่กลางกรกฎาคมเป็นต้นไป บางส่วนของขั้วโลกใต้เจออุณหภูมิสูงลิ่ว 50 องศาฟาเรนไฮต์เหนือระดับปกติ
    .
    CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์อังกฤษประจำมหาวิทยาลัยเอ็กเซิตเตอร์ (University of Exeter) และมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชอร์ (Universities of Hertfordshire) และสำนักงานสำรวจแอนตาร์กติกอังกฤษ (British Antarctic Survey) ตีพิมพ์ผลการศึกษาครั้งใหม่ลงวารสารธรณีย์วิทยาในวันศุกร์ (4)
    .
    ในการค้นพบที่ประกอบด้วยภาพถ่ายจากอวกาศเผยให้เห็นบางส่วนของทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้ปราศจากน้ำแข็งหนาจับตัว แต่กลับเผยให้เห็นพื้นที่ส่วนเป็นหินและพืชสีเขียวปกคลุมเป็นบริเวณกว้างอย่างน่าตกใจ
    .
    นักวิทยาศาสตร์ศึกษาด้วยการใช้ภาพถ่ายทางดาวเทียมและข้อมูลต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ระดับการโตของพืชสีเขียวที่ส่วนใหญ่จะเป็นมอสในทวีปแอนตาร์กติก เทือกเขายาวป็นแนวที่ชี้ไปทางทิศเหนือแหลมของทวีปอเมริกาใต้
    .
    ทั้งนี้ UPI เปิดเผยว่าในการศึกษาระบุว่าธารน้ำแข็ง (glacier) ของคาบสมุทรแอนตาร์กติกสูญเสียมวล (mass)ไปกว่า 90% นั้นตั้งแต่ยุค 1940s เป็นต้นมา
    .
    พืชที่ปกคลุมไม่ถึง 0.4 ตารางไมล์ของคาบสมุทรแอนตาร์กติกในปี 1986 แต่ได้แผ่ขยายไปเกือบ 5 ตารางไมล์ภายในปี 2021 อ้างอิงจากการศึกษาใหม่
    .
    ถือเป็นอัตราที่ขั้วโลกใต้ที่ขาวโพลนกำลังเริ่มมีสีเขียวขึ้นในช่วงระยะเวลาเกือบ 40 ปีนั้นกำลังมีอัตราเร่งขึ้นกว่า 30% ระหว่างปี 2016-2021
    .
    โธมัส โรแลนด์ (Thomas Roland) ผู้แต่งซึ่งทำการศึกษาและเป็นนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมประจำมหาวิทยาลัยเอ็กเซิตเตอร์ กล่าวว่า พื้นที่สีเขียวได้เพิ่มอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงกลางของยุคปี 1980s
    .
    “การศึกษาของพวกเรายืนยันว่า อิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลกที่มาจากน้ำมือมนุษย์ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด” เขากล่าวให้สัมภาษณ์ต่อ CNN
    .
    และเสริมต่อว่า การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถเห็นได้ชัดจากอวกาศและพื้นที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงต่อขั้วโลกใต้ที่ถือเป็นจุดที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดในโลกแต่ยังหนีไม่รอดสภาพอากาศร้อนจัดไปได้
    .
    เพราะฤดูร้อนปีนี้ บางส่วนทวีปพบกับอุณหภูมิสูงทำลายสถิติแตะ 50 องศาฟาเรนไฮต์จากระดับปกติตั้งแต่กลางกรกฎาคม
    .
    และก่อนหน้าเมื่อมีนาคมปี 2022 พบว่าอุณหภูมิบางส่วนของทวีปมีอุณหภูมิสูงถึง 70 องศาฟาเรนไฮต์เหนือระดับปกติ กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่สูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมาในโลกใบนี้
    .
    และจากที่มนุษย์ยังคงใช้พลังงานน้ำมันที่ทำให้เกิดมลพิษที่ทำให้โลกเกิดภาวะโลกร้อน ทวีปแอนตาร์กติกาจะยังคงอุ่นขึ้นและเกิดพืชสีเขียวขึ้นมากขึ้นในลักษณะที่เป็นอัตราเร่งต่อไป นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์
    .
    ทั้งนี้ การที่ขั้วโลกใต้มีสีเขียวจะส่งผลต่อการลดความสามารถของขั้วโลกใต้ในการสะท้อนรังสีจากพระอาทิตย์กลับไปยังอวกาศเป็นเพราะพื้นผิวดำมืดมากกว่าจะสามารถดูดความร้อน
    .
    ออลลี บาร์ตเล็ตต์ (Olly Bartlett) ผู้เชี่ยวชาญด้านรีโมตเซ็นเซอริงและภูมิศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชอร์กล่าวว่า
    .
    “สภาพพื้นที่โดดเด่นนี้อาจจะเปลี่ยนไปตลอดกาล”
    .
    ในการศึกษาพบว่าพืชสีเขียวที่ส่วนใหญ่จะเป็นพืชมอสเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าในตลอดระยะเวลา 40 ปี
    .
    UPI รายงานต่อว่า การมีสีเขียวเพิ่มขึ้นจากพื้นที่ขนาดไม่ถึง 1.1 ตารางไมล์ในปี 186 มาอยู่ที่เกือบ 14.3 ตารางไมล์ในปี 2021
    .
    โดยมีการคาดการณ์ว่า ขั้วโลกใต้น้ำแข็งละลายและคาดว่าจะมีสีเขียวขึ้นมีแนวโน้มจะอยู่ในอัตรากว่า 30% จากปี 2016-2021 เทียบกับการศึกษาโดยสมบูรณ์ระหว่างระยะเวลาปี 1986-2021
    .
    พืชสีเขียวจะเพิ่มขึ้นกว่า 478,396 ตารางหลาต่อปี
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000094930

    https://www.facebook.com/share/p/mJk2scQ7u7QCTnRJ/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮือฮามาก! ปธน.ไต้หวัน “ไล่ ชิงเต๋อ” ประกาศยากที่จะคิดว่า “จีน” เป็นแผ่นดินแม่ “ธิงแทงก์อเมริกัน FDD ” เตือนดุ “ปักกิ่ง” อาจทำสงครามเศรษฐกิจ-ไซเบอร์ปิดล้อม
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    รอยเตอร์/เอพี/เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีไต้หวัน ไล่ ชิงเต๋อ เปิดแถลงวันเสาร์(6 ต.ค) ยืนยันยากที่จะคิดว่า จีนแผ่นดินใหญ่เป็นมาตุภูมิ ด้านธิงแทงก์อเมริกันชื่อดัง สถาบันการปกป้องประชาธิปไตย FDD เตือนไทเปอาจโดนปักกิ่งทำสงครามทางการค้า-ไซเบอร์ปิดล้อมเกาะ หลังเดือนที่ผ่านมากองทัพสหรัฐฯออกหลักการต่อต้านภัยคุกคามจีนภายในปี 2027
    .
    รอยเตอร์รายงานวานนี้(5 ต.ค)ว่า ประธานาธิบดีไต้หวัน ไล่ ชิงเต๋อ แถลงวันเสาร์(6 ต.ค)ในคอนเสิร์ตก่อนวันชาติไต้หวันที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 ต.ค
    .
    ในการแถลงผู้นำไทเปชี้ว่า จีนเพิ่งผ่านการเฉลิมฉลองวันชาติปีที่ 75 ในวันที่ 1 ต.คที่ผ่านมาและในไม่กี่วันหลังจากนั้นจะเป็นวันชาติไต้หวันปีที่ 113
    .
    ประธานาธิบดีไล่กล่าวว่า มันเป็นไปไม่ได้สำหรับไต้หวันที่จะมองจีนเป็นแผ่นดินแม่เพราะไต้หวันมีรากฐานทางการเมืองอายุเก่าแก่กว่า
    .
    “ดังนั้นแล้วในเงื่อนไขว่าด้วยอายุ ทำให้เป็นไปไม่ได้สำหรับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็น “มาตุภูมิ” ของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)ที่มีอายุ 75 ปี” ไล่กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ
    .
    และเขากล่าวต่อว่า “หนึ่งในความหมายสำคัญที่สุดของการเฉลิมฉลองเหล่านี้คือพวกเราต้องจำให้ได้ว่าพวกเรามีอธิปไตยและเป็นประเทศเอกราช”
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า ไล่ถูกปักกิ่งมองว่าเป็น พวกแบ่งแยกดินแดน และก่อนวันชาติจีนเมื่อวันที่ 1 ต.ค ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ย้ำว่า รัฐบาลจีนของเขามองไต้หวันเป็นดินแดนของจีน
    .
    ขณะเดียวกันเอพีรายงานว่า รานงานที่เผยแพร่ในวันศุกร์(4)จากธิงแทงก์สหรัฐฯชื่อดังในกรุงวอชิงตัน ดีซี สถาบันการปกป้องประชาธิปไตย( Foundation for Defense of Democracies ) หรือ FDD ได้เตือนธงแดงว่า มีความเป็นไปได้ที่ปักกิ่งอาจจะใช้วิธีปิดล้อมไต้หวันด้วยการทำสงครามเศรษฐกิจและทางไซเบอร์
    .
    เอพีชี้ว่า จากการที่มีชาวไต้หวันอาศัยและทำงานอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ราว 1 ล้านคนส่งผลทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจมีความใกล้ชิดเพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้มีความเป็นไปได้ต่อการใช้ยุทธวิธีบีบทางเศรษฐกิจ บอยคอต และการปิดล้อมทางการทหารซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า
    .
    FDD กล่าวในรายงานออกคำเตือนธงสีแดงว่า ปักกิ่งสามารถทำสงครามทางเศรษฐกิจและทางไซเบอร์เพื่อให้ไต้หวันยอมจำนนโดยที่ไม่ต้องใช้กำลังทางการทหารโดยตรงให้เสียเวลา
    .
    สถาบันธิงแทงก์อเมริกันFDD ได้เดินทางมาที่กรุงไทเปและใช้เวลาทำงานร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการธนาคารและการเงินในไต้หวันเมื่อไม่นานมานี้
    .
    ในการเตรียมพร้อมระหว่างธิงแทงก์อเมริกันและไต้หวันรวมไปถึงการระดมศึกษายุทธวิธีโจมตีทางพลเรือนจากปักกิ่งเป็นต้นว่า การทำสงครามจิตวิทยาเพื่อสั่นคลอนความเชื่อถือของสาธารณะ สั่งแบนสินค้านำเข้าจากไต้หวัน หรือการขึ้นภาษีนำเข้า ขายหุ้นช็อตเซลล์ไต้หวัน สั่งระงับธุรกรรมทางการเงินข้ามช่องแคบไต้หวัน ตัดสายเคเบิลไฟเบอร์ออปติก และมีเป้าหมายไปที่สินค้านำเข้าทางพลังงานและการบรรจุทางคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
    ..
    ทั้งนี้ฟ็อกซ์นิวส์เคยรายงานเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า กองทัพสหรัฐฯได้ออกหลักการใหม่มีเป้าหมายเพื่อรับมือในกรณีที่อาจเกิดวามขัดแย้งทางการทหารกับจีนต่อภัยคุกคามทางการทหารของกองทัพปลดแอกจีน PLA ที่เพิ่มขึ้นในไม่กี่ปีข้างหน้า
    .
    แผนการทางนาวีสหรัฐฯที่เผยแพร่ต่อสาธารณะถูกออกแบบเพื่อให้กองทัพสหรัฐฯเข้าสู่จุดยืนที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพปลดแอกจีนภายในปี 2027 ผ่านการเพิ่มกำลังพลและความก้าวหน้าทางยุทธศาสตร์เทคโนโลยี
    .
    ในรายงานกล่าวว่า เป้าหมายการปรับปรุงกองทัพเรือสหรัฐฯให้ทันสมัยภายในปี 2027 นั้นเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนตั้งเป้าประกาศเตรียมพร้อมกองทัพจีน PLA เพื่อทำสงครามบุกไต้หวันภายในปี 2030
    .
    “ความท้าทายโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน PRC ต่อกองทัพเรือสหรัฐฯของเราในเวลานี้นั้นไปไกลกว่าแค่ขนาดของฝูงเรือรบกองทัพจีน”
    .
    และในอีกช่วงได้กล่าวว่า เมื่อวิเคราะห์ผ่านแนวรบเชิงปฎิบัติเช่น การทำสงครามหลายโดเมน ทั้ง gray zone และทางเศรษฐกิจ การขยายของการใช้สิ่งปลูกสร้างที่ใช้ได้ทั้ง 2 แง่(การทหารและการพลเรือน) เป็นต้นว่า ลานบิน และการใช้กองกำลังในกิจการกึ่งทหารเป็นต้นว่า กองกำลังทางน้ำของจีน และการเพิ่มของจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ ส่งผลทำให้ชี้ว่า จีนเป็นภัยคุกคามหลายด้านต่อสหรัฐฯ
    .
    ขณะเดียวกันแผนเป้าหมายใหม่ของกองทัพเรือสหรัฐฯยังชี้ว่า ในขณะที่รัสเซียยังคงเข้ามาเกี่ยวข้องในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ที่ถึงแม้ตามความเห็นของเพนตากอนจะมองว่า รัสเซียนั้นบาดเจ็บและถูกโดดเดี่ยวจากการความขัดแย้งที่ยังดำเนินกับยูเครน แต่ทว่า “รัสเซีย” ยังคงเป็นภัยคุกคามเชิงปฎิบัติและทางเทคโนโลยี

    https://www.facebook.com/share/p/E4VGAWmm2YTE79og/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายหลัน ฝออัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีน แถลงเรื่องแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเช้าวันนี้ (12 ต.ค.) โดยระบุว่า รัฐบาลกลางยังมีพื้นที่สำหรับการเพิ่มหนี้และขาดดุลงบประมาณ รวมถึง มีนโยบาย 4 เรื่อง กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการคือ การสนับสนุนธนาคารของรัฐ, การจ้างงานกลุ่มเยาวชน, การสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นในการจัดการความเสี่ยงด้านหนี้สิน, และการสร้างเสถียรภาพในภาคอสังหาริมทรัพย์
    .
    "แผนเพิ่มหนี้และขยายการขาดดุลงบประมาณ มีเป้าหมายเพื่อใช้พันธบัตรพิเศษของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูความเชื่อมั่น"
    .
    อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีนจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติมในวงเงินตั้งแต่ประมาณ 2 ล้านล้านหยวน (283.1 พันล้านดอลลาร์) ถึง 10 ล้านล้านหยวน แต่ทางการยังไม่ได้ประกาศตัวเลขวงเงินมาตรการที่จำเพาะเจาะจงแต่อย่างใด
    .
    การแถลงมาตรการนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความหวังสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ เพื่อกระตุ้นการเติบโตและความเชื่อมั่น หลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 24 กันยายน และมาตรการอื่นๆ จากธนาคารกลางจีน (PBOC)
    .
    ที่มา: Bloomberg ,CNBC

    https://www.facebook.com/share/p/VB2cJzUrw4UhHSfJ/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดรามาเดือด “ธุรกิจขายตรง” จากอาชีพสร้างรายได้เสริมสู่เครือข่าย “ธุรกิจการตลาดแบบตรง” โตเร็ว โตแรง ดันบอสใหญ่รวยขึ้นแท่นระดับเศรษฐีหมื่นล้าน
    .
    กลายเป็นกระแสร้อนแรงสุดๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากับธุรกิจขายตรงรายหนึ่ง ที่ผู้บริหารรวยอู้ฟู่ระดับหมื่นล้าน ขึ้นระดับมหาเศรษฐีของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าย้อนไทม์ไลน์กลับไปกลับพบว่าใช้ระยะเวลาในการเติบโตของธุรกิจเพียง 5–6 ปีเท่านั้น จึงกลายเป็นที่จับตาของสังคม และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์อย่างมาก เพราะดันมีลูกข่ายหรือเครือข่ายในธุรกิจออกมาร้องเรียนถึงผลกระทบและความเสียหายที่เกิดกับตนเองและครอบครัว จนกลายเป็นประเด็นดรามาและเชื่อว่าหลายคนก็ยังคงเกาะติดประเด็นนี้กันอยู่
    .
    กระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีการตั้งคำถามถึง “ธุรกิจขายตรง” ในปัจจุบันว่าปกติแล้วเขาทำธุรกิจกันอย่างไร ทำไมภาพลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ถึงดูสวยหรู ทั้งที่ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาด
    .
    <ธุรกิจขายตรงอยู่คู่คนไทยมายาวนานแล้ว>
    หากย้อนกลับไป “ธุรกิจขายตรง” ก็นับว่าก่อเกิดในประเทศไทยมายาวนาน รูปแบบเดิมของธุรกิจนี้ก็จะเป็นการนำเสนอสินค้า ถ้าให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือธุรกิจที่ผลิตหรือเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถือเป็นอาชีพเสริม ตัวแทนขายตรงมักจะต้องนำเสนอ สาธิตหรือแสดงให้เห็นถึงการใช้งาน การอธิบายประกอบก่อนการขายหรือก่อนการเชิญชวนให้ผู้บริโภคซื้อหรือสมัครเป็นสมาชิก สมัยก่อนมีถึงขั้นกดกริ่งหน้าบ้านเพื่อนำสินค้าไปนำเสนอกับผู้บริโภคเลยก็มี แต่ก่อนที่จะเกิดการสมัครของบรรดาตัวแทนเกิดขึ้น บริษัทขายตรงส่วนใหญ่ก็มักจะมีการชักชวนให้ไปเข้าฟังการบรรยาย นำตัวแทนที่ประสบความความสำเร็จมาแชร์ประสบการณ์ โชว์ความสำเร็จ ความมั่งคั่งของตัวแทนที่มีความพยายาม มุมานะในการทำธุรกิจด้านนี้ ซึ่งก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวแทนจำหน่ายและดึงให้สมัครเข้าร่วมในธุรกิจขายตรง
    .
    ซึ่งในธุรกิจขายตรง ก็จะมี 2 รูปแบบ คือ
    1. ขายตรงแบบเดี่ยว (Single-Level Direct Selling : SLS) คือการที่ “ตัวแทน” ซื้อสินค้ามาจากบริษัทและนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปโดยตรง ตัวแทนจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย
    2. ขายตรงแบบเครือข่าย (Multi-Level Marketing: MLM) จะเป็นรูปแบบที่ผู้ขายสร้าง “ทีมขาย” หรือเครือข่ายได้ เมื่อสมาชิกในเครือข่ายขายสินค้า ผู้ขายที่แนะนำก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้เป็นค่าคอมมิชชันในรูปแบบของ “การขายทางอ้อม” นอกจากนี้ยังมีระบบการจ่ายค่าตอบแทนที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้ขายขยายเครือข่ายของตนเองเพิ่มขึ้น
    .
    แต่ในปัจจุบันกลับพบว่า “ธุรกิจขายตรง” ที่เราเข้าใจกันแบบเดิมนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอีกขั้น และที่สำคัญต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากหลายธุรกิจที่มีช่องทางออนไลน์ เข้ามาดิสรัป แย่งส่วนแบ่งทำเงินจากช่องทางขายสินค้าที่แค่กดสั่งผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟน โอนเงิน ก็จะมีสินค้าไปส่งถึงหน้าบ้าน โดยแทบไม่ต้องเสียแรงส่งตัวแทนไปกดกริ่งหน้าบ้านอีกต่อไป และในช่วง 3–4 ปีที่ผ่านมา มูลค่าตลาดขายตรงอยู่ระดับ 6–7 หมื่นล้านบาท การเติบโตขึ้นๆ ลงๆ ตามแต่ภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภคนั้นแหละ
    .
    <ความต่างของ “ธุรกิจขายตรง” กับ “การตลาดแบบตรง”>
    ต่อมาเมื่อมีประเด็นดรามาเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง ซึ่งต่างก็มีความเข้าใจถึงรูปแบบการสร้างแรงบันดาลใจตามสูตรสำเร็จ แต่ได้มีคนดัง ดารา นักแสดงมาเกี่ยวข้องด้วยทำให้ “สมาคมการขายตรงไทย” ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องก่อนที่จะเหมารวมซะทีเดียว โดยได้ชี้แจงด้วยว่าธุรกิจขายตรงแบบดั้งเดิมนั้นไม่ใช่รูปแบบธุรกิจเหมือนบริษัทที่เป็นประเด็นในตอนนี้ ซึ่งรูปแบบธุรกิจขายตรง “ที่ถูกต้อง” จะแตกต่างจากธุรกิจ “การตลาดแบบตรง” ได้แก่
    1. ผู้ประกอบการธุรกิจต้องจดทะเบียนก่อนการประกอบธุรกิจขายตรงกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
    2. ค่าธรรมเนียมในการสมัครเป็นผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงต้องมีความเหมาะสม เงินค่าสมัครจ่ายเพื่อคู่มือความรู้ เอกสารฝึกอบรม และสินค้าตัวอย่างเท่านั้น
    3. มีความรับผิดชอบต่อผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงโดยมีแผนธุรกิจที่เป็นไปได้จริง และคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจในระยะยาว
    4. การจ่ายผลตอบแทน รายได้ และตำแหน่ง ให้แก่ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง ต้องมาจากการขายสินค้าหรือบริการ “ไม่ใช่การระดมทุนหรือใช้เงินซื้อตำแหน่ง” โดยผู้ประกอบการจะต้องยื่นแผนธุรกิจในการจ่ายผลตอบแทน เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาและอนุมัติ
    5. เน้นการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ยอดขายมาจากการจัดจำหน่ายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ไม่ได้มาจากการกักตุนสินค้าของผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง และคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ
    6. มีการรับประกันความพึงพอใจของสินค้า โดยลูกค้าสามารถคืนสินค้ากับบริษัทภายในระยะเวลาที่กำหนด
    7. มีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ เพื่อปกป้องผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง และผู้บริโภค
    8. ผู้ประกอบการธุรกิจ ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง ต้องไม่กล่าวอ้างหรือโฆษณาสรรพคุณของสินค้าเกินจริง
    .
    ส่วนธุรกิจ “การตลาดแบบตรง” ที่เป็นโมเดลธุรกิจของบริษัทที่เป็นนประเด็นอยู่ตอนนี้ สมาคมการขายตรงไทยให้ข้อมูลว่า มักจะไม่มีพนักงานขาย เป็นการขายสินค้า หรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถจับต้องสินค้าหรือเห็นรูปร่างลักษณะของสินค้าได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นแก่ผู้บริโภค ก็คือ “สินค้าไม่ตรงปก” ไม่ตรงตามคำโฆษณา และยังมีการขายแบบ “ระบบปิระมิด” ซึ่งต่างจากขายตรง เนื่องจากค่าธรรมเนียมจากการสมัครสูง มีการให้ผู้สมัครจ่ายค่าฝึกอบรม และซื้อสินค้าเกินความต้องการ รวมทั้งผลกำไรของระบบพีระมิดส่วนใหญ่จะมาจากการรับสมัครสมาชิก รายได้จะมาจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ ซึ่งจะถูกบังคับให้ซื้อสินค้าที่มีราคาสูงเป็นจำนวนมาก ไม่มีนโยบายรับซื้อสินค้ากลับคืน เพราะนโยบายนี้จะทำให้ระบบพีระมิดล้มได้ ดังนั้นจึงร่ำรวยในเวลารวดเร็ว และด้วยรูปแบบธุรกิจยังเป็นเครือข่าย ทำให้บรรดาพ่อข่ายแม่ข่ายที่อยู่ระดับ “ยอดพีระมิด” มีไม่กี่คน และรวยจากผู้เข้าร่วมจำนวนมากซึ่งเป็น “ฐานของพีระมิด” ที่ควักเงินจ่ายค่าสินค้าเพิ่มยอดนั่นเอง
    .
    ขณะเดียวกันธุรกิจรูปแบบ “การตลาดแบบตรง” ยังมีการทำการตลาดโดยให้ดารา นักแสดง หรือบุคคลมีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท หรือดึงลูกค้าจากฐานแฟนคลับจากบรรดาพรีเซ็นเตอร์เหล่านั้นด้วย
    .
    <คดีสะเทือนวงการธุรกิจ>
    อย่างไรก็ตาม จากกรณีมีกลุ่มผู้เสียหายจากธุรกิจเครือข่าย ดิไอคอน กรุ๊ป (The Icon Group) รวมตัวกันนำหลักฐานการร่วมลงทุนมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.)เพื่อตรวจสอบนั้น ล่าสุดกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ยังมีผู้ร่วมลงทุนและอ้างว่าเสียหายเข้าแจ้งความต่อเนื่องรวม 200 คน ความเสียหายมากกว่า 70 ล้านบาท
    .
    พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าคดีนี้จะต้องดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่มีการออกหมายเรียก แต่เป็นการออกหมายจับเลย เพราะมีอัตราโทษเกิน 3 ปี ซึ่ง ผบ.ตร.พูดชัดเจน ทุกคนที่อยู่ในกระบวนการ โลดแล่นในบริษัทต้องได้รับผลกรรมพร้อมกัน
    .
    ขณะนี้พนักงานสอบสวนนำหลักฐานเตรียมเสนอศาลขอหมายจับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำนวน 3 คนที่เข้าข่ายความผิดตามข้อกล่าวหา
    .
    สำหรับดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงาม โดยมีรูปแบบธุรกิจที่เน้นการตลาดแบบเครือข่าย โดนผลดำเนินงาน 5 ปีที่ผ่านมา มีรายได้หลักหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2564 สามารถโกยรายได้เฉียด 5 พันล้านบาท และมีผลประกอบการเป็นกำไรกว่า 813 ล้านบาท โดยผู้บริหารดังมีวลีฮิตที่ว่า “ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย” ซึ่งนับเป็นคำคมที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน จนเข้าไปร่วมอยู่ในธุรกิจรายนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3U1JYaP
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #ธุรกิจขายตรง #ขายตรง #ธุรกิจ #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/mfMbg3NTKf9HNsw5/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1728750248261.jpg

    เลขบัตรประชาชนหลักที่ 1
    เลขหลักนี้หมายถึงประเภทบุคคลค่ะ ซึ่งประเภทบุคคลแบ่งเป็น 8 ประเภทด้วยกัน มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

    เลข 1 : คือคนที่เกิดและมีสัญชาติเป็นคนไหน และแจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา คือภายใน 15 วันนับแต่เกิดตามที่กฎหมายกำหนด

    เลข 2 : คือคนที่เกิดและมีสัญชาติไทย แต่แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลาที่กำหนด คือไม่ได้แจ้งเกิดภายใน 15 วันนับแต่เกิดตามที่กฎหมายกำหนด

    เลข 3 : คือคนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่อในทะเบียนบ้านสมัยเริ่มแรก

    เลข 4 : คือคนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญต่างด้าว แต่แจ้งย้ายเข้าโดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชนตั้งแต่เริ่มแรก

    เลข 5 : คือคนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อเข้าไปในทะเบียนบ้านจากการตกสำรวจ หรือเป็นกรณีที่มี 2 สัญชาติ

    เลข 6 : คือคนที่ไม่ได้เข้าเมืองมาตามกฎหมาย หรือคนที่เข้าเมืองมาตามกฎหมายก็จริงแต่ยังไม่ได้สัญชาติไทยหรืออยู่ในลักษณะชั่วคราว

    เลข 7 : คือบุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ที่เกิดในประเทศไทย

    เลข 8 : คือคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คนที่ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหรือได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยแล้ว อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/articles/meaning-of-id-card-number?ref=ct
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อเมริกาส่งระบบป้องกันขีปนาวุธสุดไปให้อิสราเอล อ้าว!!!??? ไม่ใช่ของอิสราเอลคือแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีหรอกเหรอ ไหงเข้าใจเช่นนั้นมาตลอดล่ะ
    THAAD (Terminal High-Altitude Area Defense) คือ ระบบป้องกันขีปนาวุธเลื่องชื่อของอเมริกา --- ว่าง่ายๆ คือ ใช้ดักสกัดมิสไซล์ที่ข้าศึกยิงมา
    สร้างสรรค์งานดีมีคุณภาพโดยบริษัท Lockheed Martin
    กองทัพสหรัฐอเมริกาอภิมหาอำนาจเลือกใช้!

    แต่ไหนแต่ไร ว่ากันว่าระบบป้องกันขีปนาวุธที่เลิศล้ำสุดในพิภพคือของอิสราเอล --- ก็แน่ล่ะ โดนล้อมกลางวงเสือสิงห์ในตะวันออกกลาง ด้วยเขี้ยวด้วยเล็บที่แหลมคมปานนั้น โล่ก็ย่อมต้องยิ่งฉกาจฉกรรจ์

    Iron Dome + David’s Sling + Arrow
    ผนึกกำลัง 3 ประสาน --- ด้วยระบบนี้ ในโลกหล้า มิมีใดที่ต้านทานไม่ได้
    หน้าแตกเพล้ง! ม่านฟ้าก็มีรั่ว . . . ฮามาสยิงเมื่อ 7 ต.ค. 2023 นั่นกระชากความเป็นจริงให้โลกแตกตื่น
    โดนรัวกระหน่ำเช่นห่าฝน ก็รับมือไม่ไหวเหมือนกัน --- ผู้ใดว่าปริมาณไม่สำคัญไปกว่าคุณภาพ!
    จากนั้น ก็มีอิหร่านยิงในเดือน เม.ย. 2024 ซึ่งผลลัพธ์ก็ประจักษ์แล้ว
    และล่าสุด เฮซบอลเลาห์ก็ระดมยิงอยู่ตำตา

    THAAD ของอเมริกาจะไปเสริมอะไรตรงไหน

    Iron Dome : ป้องกันรัศมีไม่เกิน 70 กิโลเมตร
    David’s Sling : ป้องกันรัศมีไม่เกิน 300 กิโลเมตร
    Arrow : แผ่คลุมรัศมีถึง 2,400 กิโลเมตร

    มันแบ่งตามรัศมีทำการ
    ซึ่ง THAAD มันถึง 200 กิโลเมตร --- ก็จะไปเสริม David’s Sling นั่นเอง

    (Iron Dome เมด อิน อิสราเอล / David’s Sling กับ Arrow อิสราเอลจับมือกับอเมริกา)

    หลักการทำงานก็คล้ายกันน่ะแหละ ประสิทธิภาพก็ไม่น่าจะเหลื่อมล้ำกว่ากันเท่าไหร่
    ประเด็นอยู่ที่ปริมาณ!
    (*ก็เห็นๆ แล้วว่าต่อให้ efficiency สูงเพียงใด แต่ถ้าถูกโหมด้วย sample เข้าไปเยอะๆ ก็เสร็จ!
    % เล็ดลอดมันต่ำ และต่อให้ % นี้ไม่รวนเมื่อโดนกระหน่ำเยอะๆ แต่ % มันคือ เศษหารส่วน ฉะนั้น เราใส่ส่วนเข้าไปแบบไม่ยั้ง รัวๆ ๆ ๆ ก็ย่อมได้ปริมาณที่เล็ดลอดมากขึ้น)
    อเมริกาจึงต้องส่งมาช่วยๆ กัน

    ที่พล่ามมายืดยาว ไม่ใช่ประเด็นหรอก
    จุดใหญ่ใจความ คือ การที่อเมริกาส่งระบบป้องกันขีปนาวุธมาให้อิสราเอลเช่นนี้ มัน "เปลี่ยนหน้าศึก"
    (ทหารอเมริกาก็ต้องเข้ามาอิสราเอลด้วย ; ทหารที่ประจำการระบบนี้)

    เพราะถ้าอิหร่านยิงทะลวงมาได้ จะไม่ได้หมายความว่าแค่ทะลวงอิสราเอล
    แต่คือทะลวงอเมริกาด้วย

    อเมริกามาหนุนอิสราเอลแบบเต็มตัวแล้ว
    ?

    มาเพื่อคุมเชิง มาตรึง เพื่อให้อิหร่านต้องตัดสินใจใคร่ครวญหนักขึ้นหากจะโจมตี
    หรือว่ามาเพื่อท้าทายยั่วยุ เชื้อเชิญให้อิหร่านกระโจนเข้ามา

    อิหร่านคิดยังไง
    โล่ที่แน่นหนาขึ้น หอกดาบของอิหร่านคมพอมั้ย แล้วต้องย่นระย่อหรือไม่

    พร้อมทดสอบ???
    FB_IMG_1728898830078.jpg FB_IMG_1728898831939.jpg FB_IMG_1728898834025.jpg FB_IMG_1728898835967.jpg FB_IMG_1728898837969.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/5v4azS6JqvdBXZnt/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนโฉมใหม่ ยอมเป็น "หนี้" มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ!?!?!? ผิดจากขนบเดิมที่ conservative ระมัดระวังกุม (ตรงข้ามกับฝรั่งที่พร้อมจะมี "ท่าพิสดาร" unprecedented แบบ QE)
    ล่าสุด กระทรวงการคลังของจีนออกมาแถลง จะ "กู้" มากขึ้น!!! ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น
    กู้มาทำไม --- ก็ระบุแนวทางชัด รัฐบาลท้องถิ่นออกพันธบัตร เพื่อเอาเงินมาซื้อบ้านที่ขายไม่ออก แล้วก็ทำเป็นบ้านเอื้ออาทรให้คนจนมาซื้ออยู่
    แก้วิกฤติอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง

    ย้ำชัด รัฐบาลเป็น "หนี้" ได้มากขึ้น และ ขาดดุลงบประมาณ ได้อีกมาก

    ตลาดหุ้นไม่ได้ชอบเท่าไหร่ เพราะอยากเห็น "แจกเงิน" แบบจัดหนัก
    แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะอยากชี้ให้เห็นการปรับเปลี่ยนนโยบายขนานใหญ่ของจีนมากกว่า
    ซึ่งไม่ธรรมดา ...

    มีไหม ที่จีนจะมามุ่งมั่นอยากเป็น "หนี้" มากขึ้น?????
    แต่สถานการณ์ขณะนี้มันจำเป็น

    ทั้งนี้ รัฐบาลกลางของจีน ปัจจุบัน มีหนี้สาธารณะ 24% ของ GDP
    (*ของไทย 64% ของ GDP / ของอเมริกา 120% ของ GDP --- จะเห็นว่าของจีน สัดส่วนหนี้ต่ำมาก)
    แต่ถ้ารวมทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น หนี้จะเป็น 116% ของ GDP

    จีนขาดดุลงบประมาณ 6-7% ของ GDP (ตรงนี้สูสี ไล่ๆ กับอเมริกา ; ส่วนไทย หลังจาก "แจกเงิน" แล้ว จะทำให้ขึ้นไปอยู่ที่ 4.5% ของ GDP)

    กู้เพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ --- ต้องพลิกกระบวนท่า เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องลดวินัยทางการคลังลง
    เพราะตอนนี้ อสังหาฯ ร่อแร่จริงๆ และกระทบไปถึงการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน
    ยาวไปไม่ดี ต้องเร่งแก้

    หมายเหตุ นอกจากนี้ ขณะนี้ รัฐบาลท้องถิ่นของจีนยังมีเงินในมือ รวม 2.3 ล้านล้านหยวน (11 ล้านล้านบาท) ที่ได้จากการขายพันธบัตรไปก่อนหน้านี้
    ก็จะเอาตรงนี้มาใช้ได้ ก่อนสิ้นปี

    รอดไม่รอดไม่รู้
    กระบวนท่าที่ทำจะเพียงพอไหม ไม่รู้
    ติดตามดู

    https://www.facebook.com/share/p/BrP8hWVVYEDXWxVo/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1728899754942.jpg

    หลักการวางแผนลงทุนให้ประสบความสำเร็จ "แม้วันที่เผชิญกับภาวะวิกฤต" คุณจำเป็นต้องเข้าใจอะไรบ้าง ?
    .
    การลงทุนให้ประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงนั้น จำเป็นต้องเข้าใจถึงวัฏจักรเศรษฐกิจโลกและเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา การวางแผนการลงทุนที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้เรารับมือกับความผันผวนของตลาดได้ แต่ยังช่วยสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง แม้ในสภาวะวิกฤตอีกด้วย

    บทความนี้ "Business Tomorrow" จะพาไปสำรวจวัฏจักรเศรษฐกิจ 4 ระยะ พร้อมแนวทางการเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอย่างไร..

    —————————

    มาร่วมฟังมุมมองพร้อมเปิดโอกาสการลงทุนของคุณไปกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เจ้าของฉายา "Warren Buffett เมืองไทย" นักลงทุนระดับตำนาน ได้ในงาน Follow The Future 2024 - Unravel The New Era พร้อมพบกับวิทยากรระดับประเทศอีกมากมาย อาทิ "ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" อดีตรองนายกรัฐมนตรี, "บรรยง พงษ์พานิช" นักการเงินชั้นแนวหน้าผู้ผ่านทุกสนามธุรกิจการเงินระดับโลก

    #ห้ามพลาดแล้วพบกันวันที่ 30 พ.ย. 2567 ณ สมาคมราชกรีฑาสโมสร ร่วมพบปะเพื่อนนักลงทุน ทานอาหารเย็นและ Networking เปิดขายบัตร Early Bird ราคาพิเศษแล้ววันนี้!! รายละเอียดซื้อบัตร ใน Comment

    —————————

    ✅ ระยะฟื้นตัว (Recovery)

    ช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มขยายตัว หลังจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จะเห็นได้ว่า การปรับตัวดีขึ้นของ GDP, การผลิตและการจ้างงานสูงขึ้น ผลประกอบการภาคธุรกิจสูงขึ้น นอกจากนี้ดอกเบี้ยสินเชื่อของธนาคารและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภท

    • หุ้นคุณค่า (Value Stocks)
    • หุ้นกู้เทศบาล (Municipal)
    • หุ้นขนาดเล็ก (Small Cap)
    • ตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง (High Yield Bonds)

    —————————

    ✅ ระยะเฟื่องฟู (Boom)

    ถือเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างเต็มที่ อัตราการว่างงานในระดับต่ำ ครัวเรือนมีกำลังซื้อสูง แต่อัตราเงินเฟ้อ ราคาสินค้า และอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินมีการปรับตัวขึ้นด้วย ช่วงนี้ควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภท

    • สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)
    • ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Overseas Equities)
    • หุ้นขนาดใหญ่ (Large Cap)

    —————————

    ✅ ระยะชะลอตัว (Slowdown)

    เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ช่วงชะลอตัว หลังจากมีการเติบโตอย่างเต็มที่มาแล้ว สังเกตุได้จาก GDP เริ่มชะลอการเติบโต, ผลประกอบการของภาคเอกชนเริ่มลดลง รวมไปถึงเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และต้นทุนการผลิตมีการปรับตัวสูงขึ้น อัตราการว่างงานก็เริ่มสูงขึ้นเช่นกัน ควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภท

    • พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น (Short-Term Treasuries)
    • กลุ่มอุตสาหกรรมที่มั่นคง (Defensive Sectors)
    • สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง (High Quality Assets)

    —————————

    ✅ ระยะถดถอย (Recession)

    เป็นช่วงที่เศรษฐกิจหดตัวอย่างเต็มตัว ถือได้ว่าจุดต่ำสุดของภาวะเศรษฐกิจ GDP หดตัวจนไปถึงขั้นติดลบ อัตราการว่างงานสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง ภาคครัวเรือนมีกำลังซื้อที่น้อยลง ส่งผลให้ภาคเอกชนหรือธุรกิจก็ลดกำลังการผลิตลง ควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภท

    • พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (Long-Term Treasuries)
    • หุ้นเติบโต (Growth Stocks)
    • หุ้นเอกชน (Corporate Bonds)

    #BusinessTomorrow #FollowtheFuture2024

    https://www.facebook.com/share/p/RvauGUG1eXb5xHH3/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1728900340498.jpg

    ช่วยโลกร้อน! โตโยต้าเปิดตัวเปลี่ยนเกมส์แห่งอนาคต เตรียมโชว์แบตเตอร์รีไฮโดรเจนรุ่นถ่าน AA ขนาดยักษ์ใส่รถไฟฟ้า แก้ปัญหารอชาร์จแบตนานที่สถานี
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ - บริษัทโตโยต้าประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต สร้างเซลล์แบตเตอร์รีไฮโดรเจนที่มีหน้าตาเหมือนถ่านไฟฉาย AA ใส่รถยนต์ไฟฟ้า นำไปสู่แก้ปัญหาปวดหัวชาร์จแบตนานในอนาคต เตรียมเปิดตัวโชว์งาน Japan Mobility Show Bizweek 2024 เดือนนี้
    .
    TechRadar ของสหรัฐฯรายงานวันพุธ(9 ต.ค)ว่า อาจจะไม่ใช่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไปที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ประสบปัญหากับแบตเตอร์รีจะสามารถมีเซลล์แบตเตอร์รีไฮโดรเจนที่มีหน้าตาเหมือนถ่านไฟฉาย AA ที่สามารถเปลี่ยนได้เป็นพลังงานให้กับรถยนต์ไฟฟ้า
    .
    ค่ายโตโยต้าของญี่ปุ่นที่บุกเบิกด้านพลังงานไฮโดรเจนประสบความสำเร็จสามารถสร้างเจนใหม่ของพลังงานแบตเตอร์รีไฮโดรเจนให้รถไฟฟ้าสำเร็จ ที่รู้จักในชื่อ Hydrogen fuel cell electric vehicles หรือ FCEVs
    .
    และกำลังเตรียมจะเปิดโชว์ของจริงที่งาน Japan Mobility Show Bizweek 2024 ภายในเดือนนี้
    .
    เซลล์แบตเตอร์รีไฮโดรเจนรุ่นใหม่นี้จะมีขนาดเล็กที่มีหน้าตาเหมือนถ่านไฟฉาย AA ขนาดยักษ์ที่ถือได้ด้วยมือเดียว
    .
    ถือเป็นการ break through ครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเพราะคนขับสามารถเติมพลังงานให้กับรถของตัวเองได้ทันทีที่เห็นพลังงานของรถลดต่ำ จะแก้ปัญหาหาสถานีเติมไม่ได้หรือการสร้างสถานีพลังงานไม่เพียงพอ
    .
    TechRadar รายงานว่า บริษัทโตโยต้ามองว่า ถังพลังงานไฮโดรเจนนี้เหล่านี้จะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งและเป็นถังที่ใช้เติมพลังงานได้และนอกจากที่จะใช้ในรถยนต์แล้วจะสามารถขยายไปสู่การใช้ในชีวิตประจำวันเป็นต้นว่า การให้พลังงานในบ้านพักหรือแม้กระทั่งเพื่อการหุงต้มในครัวเรือน
    .
    ความโดดเด่นของถังถ่านไฮโดรเจนรถยนต์ไฟฟ้านี้ โตโยต้าเชื่อว่าจะสามารถมีราคาประหยัดได้และความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นให้กับประชาชนที่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบเช่นทั้งในกรุงโตเกียว เมืองนิวยอร์ก ซิตี้ หรือกรุงลอนดอน โดยปราศจากที่ต้องวางระบบท่อส่งเครือข่ายขนาดใหญ่

    https://www.facebook.com/share/p/bJoUPzd1c86QHmrM/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บรรดาแกนนำกลุ่มผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู ที่เพิ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ กล่าวเตือนในวันเสาร์(12ต.ค.) ว่าความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมส่งเสียงเรียกร้องอีกรอบให้ปลดอาวุธนิวเคลียร์

    "สถานการณ์ระหว่างประเทศกำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง และประเทศต่างๆที่กำลังทำสงครามกันในตอนนี้ ขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์" จากคำกล่าวของ ชิเกมัตซุ ทานากะ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุสหรัฐฯทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มนางาซากิเมื่อปี 1945 และหัวหน้ากลุ่มนิฮอน ฮิดันเคียว (Nihon Hidankyo) ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวรากหญ้าของเหยื่อที่รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา และนางาซากิ กลุ่มซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีล่าสุด

    "ผมหวั่นกลัวว่าเราในฐานะมนุษยชาติ กำลังอยู่บนเส้นทางของการทำลายล้างตนเอง หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งสิ่งนั้นก็คือกำจัดนิวเคลียร์"

    ในการมอบรางวัลแก่พวกผู้รอดชีวิต ทางคณะกรรมการโนเบลแห่งนอร์เวย์ เน้นย้ำถึงความเลวร้ายของระเบิดปรมาณูที่ทำลายล้างฮิโรชิมาและนางาซากิ และยกย่องการทำงานของกลุ่มนิฮอน ฮิดันเคีย องค์กรญี่ปุ่น ที่ทำงานมานานหลายทศวรรษ ในความพยายามกำจัดโลกแห่งอาวุธนิวเคลียร์

    คณะกรรมการโนเบลแห่งนอร์เวย์ ระบุด้วยว่าความพยายามของกลุ่มนิฮอน ฮิดันเคีย มีความสำคัญยิ่งกับโลกทุกวันนี้ ไม่ใช่กับประเทศหนึ่งประเทศใดโดยเฉพาะ

    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ส่งสัญญาณเมื่อเดือนที่แล้ว ว่ามอสโกจะพิจารณาตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากว่าสหรัฐฯและพันธมิตร ไฟเขียวให้ยูคเรนโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกมอบใหม่

    ขณะเดียวกันในอีกความขัดแย้งหนึ่งในตะวันออกกลาง อิหร่าน ก็ประกาศกร้าวว่าพร้อมอย่างเต็มกำลังในการปกป้องตัวเองและแก้แค้นอย่างทัดเทียมต่อความเป็นไปได้ใดๆ ที่อิสราเอลจะลงมือโจมตี ในนั้นรวมถึงที่ตั้งทางน้ำมันและนิวเคลียร์ของเตหะราน

    (ที่มา:รอยเตอร์/เอเจนซี)

    https://www.facebook.com/share/p/da7wXxk4YX3JmTgg/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มีผู้เสียชีวิต 4 รายทางตะวันตกของฝรั่งเศส ในช่วงเย็นวันเสาร์(12ต.ค.) หลังรถไฟฟ้าเทสลาคันหนึ่ง เกิดไฟลุกไหม้ที่ยังไม่สามารถสรุปถึงสาเหตุได้ จากการเปิดเผยของอัยการในวันอาทิตย์(13ต.ค.)

    อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นนอกเมืองดิออร์ ส่งผลให้คนขับและผู้โดยสารอีก 3 คนเสียชีวิต โดยคนเหล่านี้เป็นพนักงานของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเมลเลอ ที่อยู่ใกล้ๆกัน ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดกับตำรวจ

    ผู้พิพากษาท้องถิ่นรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า "ได้มีการเปิดการสืบสวนเพื่อสรุปถึงสาเหตุและกรณีแวดล้อมของอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้แล้ว ระหว่างการสืบสวนนั้นจะมีการร้องขอผู้เชี่ยวชาญด้านยานพาหนะเข้ามาตรวจสอบด้วย"

    จากรายงานในเบื้องต้น พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวพุ่งชนป้ายสัญญาณจราจรหลายป้ายด้วยความเร็วสูง ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ที่ยังไม่สามารถสรุปถึงสาเหตุได้

    ตำรวจเปิดเผยว่าตอนที่พวกทีมกู้ภัยเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่าคนขับและผู้โดยสารบนรถยนต์คันดังกล่าว เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว

    ที่ผ่านมา เทสลา ซึ่งมีอภิมหาเศรษฐี อีลอส มัสก์ เป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งซีอีโอ ถูกพินิจพิเคราะห์ตรวจสอบในด้านประเด็นความปลอดภัยบ่อยครั้ง

    ในเดือนเมษายน ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้ บรรลุข้อตกลงยอมความกับครอบครัวของวิศวกรรายหนึ่ง ที่เสียชีวิตในเหตุรถยนต์เทสลา เอ็กซ์ ประสบอุบัติเหตุในซิลิคอน วัลเลย์ เมื่อปี 2018 ความเคลื่อนไหวที่หลีกเลี่ยงการเข้าสู่การพิจารณาคดี

    จากคำร้องระบุว่าคนขับรายนี้ใช้ฟีเตอร์ออโตไฟล็อตของเทสลา ขณะกำลังแล่นอยู่บนถนนหลวงสายหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย แต่ระหว่างนั้นรถยนต์กลับขับพุ่งชนเกาะกลางถนนที่ทำจากคอนกรีต

    เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เทสลา เรียกคืนรถยนต์มากกว่า 2 ล้านคันในสหรัฐฯและแคนาดา สืบเนื่องจากความเสี่ยงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ออโตไฟล็อต ซึ่งก่อความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชน

    (ที่มา:เอเอฟพี)
    https://www.facebook.com/share/p/ZTKHSSws8MoFom5Z/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PSX_20241014_174209.jpg

    #ซาอุดิอาระเบีย : ภาพแตงโมซาอุดีอาระเบีย กำลังเป็นไวรัลอย่างมากในโซเชียลมีเดีย
    ซึ่งภาพนี้แสดงถึงคุณภาพของแตงโม แหล่งผลิตในซาอุดีอาระเบีย ที่ลูกใหญ่ ยาว สีสวยงาม ประกอบกับช่วงนี้ฤดูร้อนในภูมิภาคอ่าว ผู้คนต่างหาผลไม้มารับประทานแก้กระหาย

    หากคุณเคยทดลองรับประทานแตงโมซาอุดีอาระเบีย มาแล้ว โปรดรีวิวรสชาติ แบ่งปันในความเห็น

    พิกัด เมล็ดพันธุ์แตงโม ชาร์เลสตัน เกรย์ Charleston Gray Watermelon
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤตหนี้หนักกว่าต้มยำกุ้ง ลูกหนี้รายได้น้อยกำลังเผชิญภาวะสภาพคล่องกำลังตึงตัว และภาวะ ‘หลุมรายได้-ภูเขาหนี้’ ลามถึงผู้มีรายได้สูงก็เริ่มมีสัญญาณค้างชำระแล้ว
    #TheStandardWealth

    วิกฤตหนี้หนักกว่าต้มยำกุ้ง เสี่ยงลามรายได้สูง เงินเดือน 5 หมื่นมีอาการ!
    ▶️ ชมคลิป:


    https://www.facebook.com/share/LZ1Dow7oEcaw3wr2/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,607
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UPDATE: อินโดนีเซียร้องขอให้ Google และ Apple บล็อก Temu และ SHEIN ปกป้องธุรกิจ SMEs ในประเทศ
    .
    รัฐบาลอินโดนีเซียร้องขอให้ Google และ Apple บล็อก Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแฟชั่นจากจีน ในร้านค้าแอปพลิเคชันของตน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานในประเทศดาวน์โหลดแอป เพราะหวั่นทำลายธุรกิจ SMEs
    .
    Budi Arie Setiadi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศของอินโดนีเซีย กล่าวว่า มาตรการนี้มีขึ้นเพื่อปกป้องธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของประเทศจากสินค้าราคาถูกของ Temu ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ PDD Holdings แม้ว่าทางการอินโดนีเซียจะยังไม่พบธุรกรรมใดๆ ของผู้ใช้ในประเทศบนแพลตฟอร์มนี้ก็ตาม
    .
    Temu เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยโมเดลธุรกิจที่เชื่อมโยงผู้บริโภคโดยตรงกับโรงงานในจีน เพื่อลดราคาสินค้าลงอย่างมาก ซึ่ง Budi มองว่าเป็น ‘การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม’
    .
    “เราไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อปกป้องอีคอมเมิร์ซ แต่เราปกป้อง SMEs เพราะมี SMEs หลายล้านรายที่เราต้องปกป้อง” เขากล่าว
    .
    Reuters รายงานว่า จนถึงขณะนี้ Apple และ Google ยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอดังกล่าว โดยแอปพลิเคชัน Temu ยังคงสามารถดาวน์โหลดได้จากร้านค้าแอปของทั้งสองบริษัท
    .
    รัฐบาลอินโดนีเซียยังมีแผนที่จะขวางการลงทุนของ Temu ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศ หากบริษัทมีแผนดังกล่าว และจะขอให้ Google และ Apple บล็อก SHEIN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มช้อปปิ้งจากจีนด้วย
    .
    ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยบังคับให้ TikTok ปิดบริการอีคอมเมิร์ซในประเทศ เพื่อปกป้องผู้ค้าในประเทศและข้อมูลผู้ใช้ ต่อมา TikTok ตกลงซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของ GoTo เพื่อที่จะยังคงอยู่ในตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    .
    อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของอินโดนีเซียคาดว่าจะขยายตัวเป็นประมาณ 1.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.3 ล้านล้านบาทภายในปี 2030 จาก 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.06 ล้านล้านบาทในปี 2023 ตามรายงานของ Google, Temasek Holdings และ Bain & Co.
    .
    ขณะเดียวกัน Reuters ยังรายงานอีกว่า คณะกรรมาธิการยุโรปส่งคำร้องขอข้อมูลไปยัง Temu แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง ภายใต้กฎหมายว่าด้วยบริการดิจิทัล (DSA) โดยขอให้ Temu ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการที่บริษัทดำเนินการเพื่อป้องกันการขายสินค้าผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม
    .
    คำร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับรายงานเกี่ยวกับสินค้าผิดกฎหมายจำนวนมากที่วางขายบน Temu ซึ่งรวมถึงสินค้าลอกเลียนแบบ สินค้าอันตราย และสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
    .
    Temu มีเวลาจนถึงวันที่ 21 ตุลาคม 2024 ในการส่งข้อมูลที่ร้องขอ โดยคณะกรรมาธิการยุโรปจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการประเมินและพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
    .
    อ้างอิง:
    https://www.reuters.com/business/re...inas-temu-protect-small-merchants-2024-10-11/
    https://www.reuters.com/business/re...ing-against-illegal-product-sales-2024-10-11/
    .
    #TheStandardWealth

    https://www.facebook.com/share/p/ek5wQs6LQeY6mfku/
     

แชร์หน้านี้

Loading...