ตอนนี้เราใช้น้ำเป็นเชื้อเพลิงร่วมในรถรถยนต์ได้แล้ว

เนื่องจากไม่มีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลทางเทคนิค เลยไม่รู้จะแชร์ความรู้อย่างไรดี แต่เคยเจอข้อมูลจาก YouTube เกี่ยวกับการแยกน้ำเป็น HHO แล้วนำมาผ่านกระบวนการให้เกิดพลังงานความร้อนได้อย่างเหลือเชื่อ แล้วผลลัพธ์จากการเผาไหม้ กลับได้น้ำกลับคืนมา

เลยขออนุญาตินำมาแปะพ่วงไว้ เผื่อใครที่เข้าใจ น่าจะนำไปทำประโยขชน์ต่อไปได้ครับ

How to Convert Water into Energy

http://www.youtube.com/watch?v=MS5qFTWBbP4&feature=related

ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่อยากมีส่วนร่วมด้วยคน นะ นะ (||)(||)(||)

 

ผมเข้าใจคลาดเคลื่อนครับ ... น่าจะเป็น Hi Volt DC ครับ

อีกอย่าง...ผมตกเคมี....ด้วยนะ

จาก...

ธาตุ H + ก๊าซ O2 -------ได้--------> H2O เผาได้สมบูรณ์ หรือไม่สมบูรณ์เกิดไอน้ำเหมือนกัน

หากพลังงา่นจากการจุดระเบิด คือ การที่ C และ H ถูกเผา...(สังเกตุว่ามันไปจับกับ O2)

- การทำให้เผาไหม้้ดีขึ้น...โดยการเติม O2 พอประมาณ...เข้าไป...ช่วยตรง CO เล็กน้อย

- แล้ว H2 ล่ะครับ...มันจะกลายเป็น H2O ที่มากขึ้นหรือเปล่า ?

- เราทิ้ง H2 ไป...ดีไหมครับ เอาเฉพาะ O2

- ถ้าเช่นนั้น...ติด Turbo อัดอากาศ...ดีกว่าไหม ? เพราะในอากาศมี O2 เยอะแยะ...ไม่ต้องเสียไฟมาแยกน้ำ

ประเด็นนี้สับสนครับ

 

หลักการของเทอร์โบก็คือ การเพิ่มมวลอากาศเข้าไปในเครื่องยนต์ให้มากขึ้น เพื่อให้มี ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาจุดระเบิดได้รุนแรงขึ้นครับ

อย่างเครื่องประหยัดน้ำมันที่ฮือฮาก่อนหน้านี้ แล้วสุดท้ายไม่work ก็ใช้หลักว่า สร้างประจุไฟฟ้าความต่างศักย์สูงในช่องไอดี เพื่อให้มวลออกซิเจนในอากาศแตกตัว ซึ่งก็ได้มานิดหน่อย

แต่วิธีการนี้ ได้ออกซิเจน เพียวๆ แถมด้วย ไฮโดรเจน (เชื้อเพลิงคือไฮโดรคาร์บอน) ดังนั้น แม้จะปริมาณน้อยแต่ก็เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้มาก ที่สำคัญก็คือ ไม่ร้อนแบบเทอร์โบด้วย

เนื่องจาก หากเราลดอุณหภูมิ ไอดี ได้ 10 องศา เซลเซียส จะได้แรงม้า(ประสิทธิภาพ)เพิ่มขึ้น 2.3 ตัว โดยจ่ายน้ำมันเท่าเดิม

ดังนั้นหากเราปลูกต้นไม้ริมถนนจนร่มเย็น ช่วยลดอุณหภูมิผิวถนนไปได้ 5 องศา หากถนนเส้นนั้น มีรถผ่านวันละ 10,000 คัน จะช่วยลดค่าน้ำมันไปได้มากเลย เพราะนอกจากต้นไม้จะช่วยลดความร้อนแล้ว ยังคายออกซิเจนให้อีก

 

- ถ้าเช่นนั้น...ติด Turbo อัดอากาศ...ดีกว่าไหม ? เพราะในอากาศมี O2 เยอะแยะ...ไม่ต้องเสียไฟมาแยกน้ำ

ไม่ได้ครับเพราะอากาศก็มีก๊าซไนโตรเจน(N2)อยู่เยอะมากตั้ง 79% ทำให้ไม่เกิดประโยชน์อันใด
แต่ถ้าเติมเฉพาะก๊าซออกซิเจน(O2)เพียวๆอย่างเดียวไม่ใช่อากาศ อย่างนี้ยอดเยี่ยมครับจะได้แรงอัดเพิ่มขึ้น พวกรถซิ่งใช้ก๊าซไนตรัสออกไซด์(N2O)ช่วยให้ได้แรงอัดเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับก๊าซออกซิเจน(O2) แต่แรงกว่าก๊าซออกซิเจน(O2)

 

ขอบคุณครับ

ในทางปฏิบัติ...ทิ้ง H2 คงลำบาก...เพราะมันไวไฟ...สงสัยต้องเอาใส่ไปในเครื่องอยู่ดี

 

หากระบบ การเติมน้ำเป็นเชื้อเพลิงร่วมนี้ จะโมดิฟายให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว น่าที่จะประมาณนี้

-ทดลอง วิจัย หรือขอแชร์ข้อมูล เทคนิคการแยกน้ำด้วยไฟฟ้าให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด

-ติดครีบใบพัด ในท่อไอดี หลังท่อส่งก๊าซ HHO เพื่อให้ ก๊าซและมวลอากาศ คลุกเคล้ากันได้ดี ปริมาณก๊าซที่เข้าไปในแต่ละกระบอกสูบ ใกล้เคียงกัน


-ทำกล่องควบคุม การผลิตก๊าซให้ผันแปรตามปริมาณความต้องการของเครื่องยนต์ตามรอบเครื่อง

-จูนกล่องEcu หรือใช้กล่องพิกกี้แบ๊ค จูนเครื่องยนต์บนเครื่องวัดแรงม้า เพื่อให้ ได้ประสิทธิภาพแรงม้าต่อปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ให้มากที่สุด

หากผลิตหรือจ่ายก๊าซมาก ก็ใช้น้ำมันน้อยลง อัตราส่วนขึ้นกับการปรับแต่งในเครื่องยนต์แต่ละรุ่น แต่ละเครื่อง


ขอยกตัวอย่าง โครงการของดร. สมัย ใจอินทร์ ที่ทำระบบเชื้อเพลิงร่วม ก๊าซกับเครื่องยนต์ดีเซล ของทหารเรือ

ใช้อัตราส่วนการจ่าย เชื้อเพลิงร่วม ที่ น้ำมันดีเซล 70 เปอร์เซนต์ ก๊าซ 30 เปอร์เซนต์ ได้แรงม้าสูงขึ้น ประมาณ 20 แรงม้า
ได้ทั้งความประหยัดค่าใช้จ่าย และประสิทธิภาพสูงขึ้น

หากทำได้ โดยจูนอย่างละเอียด เครื่องยนต์ไม่น่ามีปัญหาครับ

ข้อดีอีกอย่างก็คือ ไม่ต้องแบกถังก๊าซหนักๆไปด้วยครับ

ส่วนที่ห่วงว่าน้ำจะหมดโลกนั้น ไม่ต้องกลัว เพราะ ระบบนี้ใช้น้ำ 1 ลิตร ต่อการวิ่ง 500 ไมล์

ผมขี่จักรยาน 200 กิโลเมตร ยังกินน้ำมากกว่านี้เลย

 

ช่วยกันระดมความคิดกันครับ

เป็นการต่อยอดความรู้

 

อันนี้เป็นวิดีโอให้เห็นความสำคัญและภาพรวมของการใช้พลังงานน้ำ ไฮโดรเจน ครับ ว่ามีผลต่อการพลิกโฉมหน้า โลกมากขนาดไหน

อย่าลืมว่าสงครมหลายครั้งที่ผ่านมา จนถึงสงครามโลกครั้งใหม่ก็เป็นสงครามแห่งการแย่งชิงน้ำมันหรือพลังงานครับ

เมื่อมีพลังงานฟรี การแก่งแย่งช่วงชิงก็น้อยลงไป ความสุขสงบก็มากขึ้น

เอาเวลาไปพัฒนาจิตใจกันได้มากขึ้นตามไปด้วย

http://video.google.com/videoplay?docid=-1610087835473512086&hl=en

 

งานวิจัยแสดง ความประหยัดน้ำมัน และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ดีเซล


Reported results in the <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" /><st1lace w:st="on"><st1laceName w:st="on">Purdue</st1laceName> <st1laceType w:st="on">University</st1laceType></st1lace> study included the following:
<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o> </o>
Fuel Consumption (measured at max torque)<o></o>
<o> </o>
<TABLE class=MsoTableGrid style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-padding-alt: 0in 5.4pt 0in 5.4pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-yfti-tbllook: 480; mso-border-insideh: .5pt solid windowtext; mso-border-insidev: .5pt solid windowtext" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=1><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 113.4pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=151>On Road Diesel:
</TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 171pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=228>0.072 gal/hp-hr @ 1100 rpm
</TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 113.4pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=151>On Road Diesel w/Hydrogen:
</TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 171pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=228>0.065 gal/hp-hr @ 1100 rpm
</TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 2"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 113.4pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=151>Vegetable Oil:
</TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 171pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=228>0.064 gal/hp-hr @ 1100 rpm
</TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 3; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 113.4pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=151>Vegetable Oil w/Hydrogen:
</TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 171pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=228>0.060 gal/hp-hr @ 1100 rpm
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<o> </o>
Fuel Efficiency increase/decrease (compared to on road petroleum diesel)<o></o>
<TABLE class=MsoTableGrid style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; MARGIN-LEFT: 6.75pt; BORDER-LEFT: medium none; MARGIN-RIGHT: 6.75pt; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-padding-alt: 0in 5.4pt 0in 5.4pt; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-yfti-tbllook: 480; mso-border-insideh: .5pt solid windowtext; mso-border-insidev: .5pt solid windowtext; mso-table-overlap: never; mso-table-lspace: 9.0pt; mso-table-rspace: 9.0pt; mso-table-anchor-vertical: paragraph; mso-table-anchor-horizontal: column; mso-table-left: left; mso-table-top: .05pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=1><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 113.4pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=151>On Road Diesel w/Hydrogen:
</TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 0.75in; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=72>9.72%
</TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 113.4pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=151>Vegetable Oil:
</TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 0.75in; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=72>11.11%
</TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 2; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 113.4pt; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=151>Vegetable Oil w/Hydrogen:
</TD><TD style="BORDER-RIGHT: windowtext 1pt solid; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0in; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 0.75in; PADDING-TOP: 0in; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-left-alt: solid windowtext .5pt; mso-border-top-alt: solid windowtext .5pt" vAlign=top width=72>16.67%
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<o> </o>
<o> </o>

<o> </o>
<o> </o>
<o> </o>
<o> </o>
Following is from the <st1lace w:st="on"><st1laceName w:st="on">Purdue</st1laceName> <st1laceType w:st="on">University</st1laceType></st1lace> students’ Report:


http://www.hydrogen-boost.com/May 2007.html

 

ทำออกมาเลยครับ

 

เห็นในเวบนอกเขาใช้แค่ baking soda เป็น catalyst เท่านั้นก็พอครับ

 

ใช้นำเป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนสันดาปภายในขณะนี้ที่กำลังททดลองทำกันมี 3 รูปแบบ
คือ แบบแยกด้วยวิธี electrolysis แล้วดูดเข้าเครื่องเผาไหม้ร่วมกับน้ำมัน เป็นระบบ
booter อีกวิธีเรียก double anode ใช้ไฟฟ้าแรงสูงร่วมกับpulze ฉีดน้ำผ่านผลิต พลาสมาเป็นเชื้อเพลิง ส่วนอีกวิธีคือที่เรียกกันว่าระบบhydrogen cell คือผลิตhydrogen ไปสร้างไฟฟ้ามาหมุนมอเตอร์ ลองเข้าไปดูใน group water for fuel 1978 ของ yahoo ดูครับมีทดลองกันหลายรูปแบบ ส่วน web ของ water 4 gas
เพื่อนผมสั่ง e-book 3000กว่าบาท โหลดไม่ได้ยังแถม โดนยกเลิกบัตรเครดิต่จากผู้ให้บริการโดยแจ้งว่าโดนแฮ็กขอ้มูลไปแล้ว ให้ที่เอเซียบุ้ค ซื้อให้ก็โหลดไม่ได้เช่นเดียวกัน
โปรดระวังด้วยครับ
obniti

 

baking soda = NaHCO3 Sodium Bi Carbonate ผงฟู

NaHCO3 = NaOH(โซดาไฟ) + CO2 (คาร์บอนไดออกไซด์)
ใช้งานได้เหมือนกัน เพียงแต่ผงฟูหาซื้อง่ายกว่าครับ

 

บอกได้ว่าสุดยอดครับ

 

น้ำ หรือ ลม หรือ วิธีการใดๆในนำมาเป็นพลังงานทดแทนก็ดีทั้งนั้น
เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง บอกว่า จานบินที่มาในโลกมนุษย์เคยเติมน้ำเข้าในยาน
แล้วสามารถขับเคลื่อนยานได้ไกลมหาศาล ไม่ใช่แค่เพียงแยกก๊าซจากน้ำดังเช่น
มนุษยืโลกปัจจุบันใช้กัน
น่าจะเป็นเทคโนโลยี่ระดับนิวเคลียร์
ใครสามารถติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ ว่าจะสลายพลังงานจากน้ำได้อย่างไรให้ปลดปล่อยพลังออกมามากมาก

 

เรียนคุณ mw1958

น่าจะแยกน้ำด้วยไฟฟ้าได้ ก๊าซ H2 แล้วนำ H2 เข้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นขนาดเล็กเพื่อผลิตพลังงานในการขับเคลื่อนยานยูเอฟโอ เป็นเทคโนโลยีที่มนุษย์เรายังไปกันไม่ถึงครับ แต่ในอนาคตอันใกล้ภายใน 20 ปีนี้ไม่แน่เราอาจจะสร้างยานยูเอฟโอได้เองก็ได้

 

ที่ลิงค์นี้มีให้โหลดเอกสารเกี่ยวกับพลังงานน้ำเต็มไปหมด http://www.hotlinkfiles.com/browse/waterfuel/42765
สนใจลองโหลดไปอ่านดูได้

 

เทคโนโลยี่นี้ เอามาใช้ได้โดยไม่ติดลิขสิทธิ์เดิมคงดีมากๆๆๆๆๆๆๆ

 

ตอนนี้เทคโนโลยี่นี้ ทำขายออกมาเป็นชุดคิท ในหลายประเทศครับ รวมทั้งในประเทศไทยเองก็มีทำขายด้วยประมาณ 2-3 เจ้า

ไม่ติดลิขสิทธิธิ์ครับ

 

http://video.google.com/videoplay?docid=2464139837181538044