ถ้ามีองค์แล้ว จะทำยังไงต่อค่ะ

ก็ยังเป็นที่สับสน ถ้าเรารู้ว่าตัวเองมีองค์แล้วจะให้ทำยังไงต่อค่ะ

หรือไม่ต้องทำอะไรเลย แค่สวดมนต์ ทำบุญ ก็จบค่ะ

หรือต้องรับขันธ์ ถ้ารับแล้วจะต้องจัดงานประจำปีไหมค่ะ​

 

ไม่ต้องรับขันธ์ ทำบุญสวดมนต์ อุทิศกุศลให้เขาไป แล้วจะดีเอง

 

ลองเข้ามาคุยที่กระทู้นี้ซิ อ่านไปเรื่อยๆตั้งแต่หน้าแรกๆ ได้ความคิดเห็นกว้างขึ้น
คนมีองค์ เป็นอย่างไร
http://palungjit.org/showthread.php?t=13816&page=50

 

แล้วรู้ได้อย่างไรหล่ะว่ามีองค์ หรือว่ามีคนมาทักหล่ะ...

 

อนุโมทนาสาธุด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

และขออุทิศบุญกุศลทั้งปวงแด่เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ
ให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจตลอดไป ขอให้อโหสิรรมและ
ขออโหสิกรรมกับทุกรูปทุกนามด้วยเถิด ให้ทุกท่านได้พระนิพพาน
ในชาตินี้ด้วยเถิด

ถนอม สุพัตรา ถกนธ์ พร้อมครอบครัวและญาติมิตร

หลังจากสวดบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แนะนำบทสวดพุทธมนต์แบบย่อ ๆ แต่มีพลานุภาพมาก มีอานิสงส์มาก สวดไม่เกิน 5 นาทีจบ ดังนี้

นะโม 3 จบ

หัวใจ อิติปิโส ว่า
อิสะวาสุ

นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ นะมะอะอุ

หัวใจพาหุง
พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ
หัวใจพระเจ้าสิบชาติ
เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
หัวใจบารมี 30 ทัส
ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ
หัวใจพระอาการวัตตาสูตร
มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพพะสัมภาวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะ ยะตัง มะนัง
หัวใจพระธารณะปริตร
ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
หัวใจพระไตรปิฎก
จิเจรุนิ
หัวใจพระคาถาชินบัญชร
ชะ จะ ต ะ สะ สี สัง หะ โก ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ วา อะ ชิ สะ อิ ตัง
คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์
นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

สวดจบควรแผ่เมตตาทุกครั้ง

แผ่เมตตาจิต
...ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสัมฤทธิ์ผลนั้น เกิดจากกรรม 3 อย่าง คือ มโนกรรม เป็นใหญ่ แล้วค่อยแสดงออกมาทางวจีกรรม หรือกายกรรมที่เป็นรูป การบำเพ็ญสมาธิจิตเป็นกุศลดีกว่า เพราะว่า การแผ่เมตตา 1 ครั้ง ได้กุศลมากกว่าสร้างโบสถ์ 1 หลัง ขณะจิตที่แผ่เมตตานั้น จะเกิดอารมณ์แจ่มใส สรรพสัตว์ไม่มีโทษภัย ตัวท่านก็ไม่มีโทษภัย ฉะนั้น เขาจึงว่านามธรรมมีความสำคัญกว่า

อานิสงส์การแผ่เมตตา
...ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องรู้จักคำว่า แผ่เมตตา คือต้องเข้าใจว่า ความวิเวกวังเวงแห่งการคิดนึกของเราแต่ละบุคคลนั้น มีกระแสแห่งธาตุไฟผสมอยู่ในจิตและวิญญาณกระจายออกไปเ มื่อจิตของเรามีเจตนาบริสุทธิ์ เมื่อจิตของเราเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อนั้นเขาก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา เสมือนหนึ่งเราให้เขากินอาหาร คนที่กินอาหารนั้นย่อมคิดถึงคุณของเราหรืออีกนัยหนึ่งว่า เราผูกมิตรกับเขาๆก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา แม้แต่คนอันธพาล เราแผ่เมตตาจิตให้ทุกๆวัน สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเป็นมิตรกับเราจนได้ เมื่อจิตเรามีเจตนาดีต่อดวงวิญญาณทุกๆดวง ดวงวิญญาณทุกๆดวงย่อมรู้กระแสแห่งจิตของเรา เรียกว่ามนุษย์เรานี้มีกระแสธาตุไฟออกจากสังขาร เพราะเป็นพลังแห่งการนั่งสมาธิจิต วิญญาณจะสงบ ธาตุทั้ง 4 นั้น จะเสมอแล้วจะเปล่งเป็นพลังงานออกไป

ฉะนั้น ผู้ที่นั่งสมาธิปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จิตแน่วแน่แล้ว โรคที่เป็นอยู่มันจะหายไป ถ้าสังขารนั้นไม่ใช่จะพังเต็มทีแล้ว คือไม่ถึงวาระสิ้นอายุขัย หรือว่าสังขารนั้นร่วงโรยเกินไปแล้ว ก็จะรักษาให้มันกระชุ่มกระชวยได้หรือจะให้มันสบายหาย เป็นปกติดั่งเดิมได้

ประโยชน์จากการฝึกจิต
...ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนมีสมาธิแน่วแน่ เมื่อจิตนิ่งก็รู้ตน เริ่มพิจารณาตน รู้ตนเองได้ ปัญญาก็เกิดขึ้น ปัญญานี้เรียกว่า ปัญญาภายในจากจิตวิญญาณ ซึ่งเราจะใช้ปัญญานี้ได้แน่นอน เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นในชีวิตตลอดระยะเวลาอันยาวนานข้างหน้า

นี่คือประโยชน์ของการฝึกจิตแล้ว คุณของสมาธิยังเป็นพลังป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัย เจ็บป่วยได้ กล่าวคือ การบำเพ็ญจิต จนจิตสงบนิ่งแล้ว ระบบต่างๆทางประสาทจะได้รับการพักผ่อน เป็นการปรับธาตุในกายให้เกิดพลังจิตเข้มแข็ง กายเนื้อก็จะแข็งแรงกระชุ่มกระชวยด้วย โลหิตในร่างกายจะหมุนเวียนสะดวกขึ้น ความตึงเครียดตามร่างกายและประสาทต่างๆ จะผ่อนคลายเป็นปกติ โรคต่างๆจะลดน้อยลงโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดัน โลหิตสูง หายป่วยได้ด้วยการฝึกจิตและเดินจงกรม



จากหนังสือ เรียน ธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี

 

อย่าไปยึดมั่น ถือมั่น กับสิ่งที่มี ที่เป็น

เพราะยิ่งคิด ก็ยิ่งยึด ถ้าอยากหลุดพ้น ก็หมั่นทำความความดี

อุทิศบุญกุศล ให้เขาไป เราก็จะได้ไม่ต้องมีภาระ เป็นอิสระ

แต่ถ้าอยากมีความความพิเศษ อยากให้เขาช่วย ก็อีกเรื่องหนึ่ง ก็แล้วแต่ มีทั้งคุณและโทษ

ส่วนตัวเราเอง เลือก ทางอิสระ เพราะไม่ชอบเป็นทาสใคร

 

เพิ่งกลับมาจากงานไหว้ครูของคน ๆ หนึ่ง ที่เปิดตำหนักรักษาคน

แต่หนูไม่ได้ลงทรงอะไรกับเค้าหรอกค่ะ..ไม่ไหว

แต่ก็นั่งพิจารณา สังเกต ทำไมขันธ์บางคนต้องมีเหล้าขาว

แล้วทำไมบางองค์ (หรือคน อันนี้ไม่แน่ใจ) ต้องกินเหล้า กินเบียร์ !! (เบียร์จริง ๆ ค่ะ)

เคี้ยวหมาก ดูดบุหรี่อันนี้พอรับได้ แต่กินเบียร์นี่ซิ สงสัยมาก

นั่งจ้องเค้าซักพัก มีหลบตาด้วย ไม่กล้าสบตาเรา

ปกติองค์กุมาร / ปู่ / แม่นาง ฯลฯ จะออกต้องจุดธูปเชิญออก

แต่พี่ท่าน..ออกดื้อ ๆ ไหวทีเดียวแล้วถอดชุดไปเลย (สงสัยปวดท้องฉี่)

เฮ้อ..มีแต่องค์แฝงร่างคน นี่ คนแฝงองค์กินเหล้าฟรี..

 

เราเชื่อนะว่า ทุกคนมีองค์ทุกคนค่ะ เพียงแต่บางคนจะรับรู้ได้ด้วยตัวเองจากสื่อที่องค์ในเขามาสื่อให้รู้ บางคนอาจไม่รู้เพราะองค์ในไม่ได้สื่อให้รู้ ขึ้นอยู่กับบุญกุศลของแต่ละคนที่มีค่ะ

 

ขอเม้าด้วยครับ....ผมเองมองว่าไม่ใช่ศาสนาพุทธและไม่คิดสนใจครับ พุทธเราทุกอย่างต้องมีเหตุและผลเสมออะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ก็อย่าไปสนใจครับ หากเราสนใจพุทธศาสนา ไม่เรื่องเรื่องเกี่ยวกับองค์หรอกครับส่วนมากจะเป็นพวก ผสมพุทธ+พรามห์ ฮินดูไปครับ
....
บางคนงมงายหนัก บอกเป็นร่างทรงของสินสมุทรหรือสุดสาครเข้าไปโน้นแนะครับ นั้นมันเกินเลยไปกันใหญ่ เป็นสิ่งที่สุนทรภู่เขาแต่งขึ้นมาไม่มีอยู่จริงในโลกครับ .....อย่างหมอวารินทร์ โหรดังท่านบอกร่างทรงเทพ อะไรไม่มีหรอกครับ เทพไม่ยอมมาสิงคนหรอกครับเพราะอะไรคิดง่าย เขาดิ้นรณฝึกฝนตัวเอง เพื่อให้หลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์แทบตาย ไม่รู้กี่ชาติกี่ภพ กว่าจะได้เป็น พรหม เป็นเทวดา แล้วเขาจะกลับมาทำไมละครับ มาสร้างบุญ บุญเขาเยอะจนล้นจนเหลือไม่มีเหตุผลใด จะมาสงเคราะห์เขาก็หมดหน้าที่ไปแล้ว ไม่อยู่ในสภาพที่จะสงเคราะห์มนุษย์ได้หรอกครับ มีแต่มนุษย์ด้วยกันเท่านั้นหรือตัวเองเท่านั้นและครับจะสงเคราะห์ต่อกันได้ พรหม บางชนิด บางชั้น ก็ไม่มีรูปร่างด้วยซ้ำ ขนาดพุทธเจ้ายังไปสอนไม่ได้เลย เพราะบางพรหมไม่มีจิตแล้วไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น พุทธเจ้าจึงไม่สอนเพราะสอนไม่ได้

 

เห็นด้วยกับตาแก่นะค่ะ

แต่ทำไมไม่รู้ มันสับสนในตัวเอง

บางขณะ..เชื่อว่ามีจริง รับรู้ได้

บางขณะ..ขัดแย้ง ไม่เชื่อถือ หนักเข้า มีแอบนินทาในใจด้วย

เชื่อไหมค่ะ..หากมีการเข้าทรงกัน เค้าจะมองหนูเป็นพิเศษ

สงสัยกลัวหนูไปลองของ ความจริงหนูไปนั่งมองวิธีการเอาองค์ลงตัว

แล้วใช้ความรู้สึกจับความรู้สึกของเค้ามากกว่า..เมื่อวานเหมือนรู้สึกว่าโดนว่ากระทบด้วย

กั๊ก ๆ "มนุษย์ขี้เหม็น" แล้วไอ้ร่างของท่านไม่ขี้เรอะ..(จะโดนของทำใส่ไหมเนี่ย)

 

ถาม ถ้ามีองค์แล้วจะทำยังไง

ตอบ ทำความเข้าใจว่าองค์ไม่มี

 

อย่าไปรับขัน รับกาละมัง เข้าเป็นอันขาด นั้นคือสัญญาอนุญาตให้พวกผีชั้นตํ่าที่ตายอดตายอยาก
เขามาอาศัยร่างของเราเพื่อเสพของตํ่าๆ เนื้อสัตว์ บุหรี่ สุรา
พวกเทพชั้นสูงนะเขาเหม็นกลิ่นมนุษย์ เขาไม่อยากอยู่ใกล้ๆคนธรรมดาที่ไม่มีศีลไม่ปฏิบัตินะครับ
สังเกตูดูพวกคนทรงหน้าตาไม่ค่อยจะมีราศีเลย
คนเรามีเทวดารักษาอยู่แล้ว เมื่อคุณทำบุญ รักษาศีล ปฎิบัติธรรม จิตคุณเริ่มสูงขึ้น
เทวดาเก่าจะไป เทวดาใหม่ชั้นสูงขึ้นๆจะเปลี่ยนเข้ามาคุมครองคุณตามบุญตามความดีของคุณ

 

สุดยอดท่าน ฤษีเหิร

งี้คนที่เปิดตำหนัก เป็นอาจารย์ มีลูกศิษย์ให้นับขันธ์

ได้อ่านข้อความของท่าน คงงอลตายเลย

.. เอิ้ก ๆ ..

 

โอ้ โห ... แม่น้องนาง มอง ขาด ไปถึง กระเพาะ ถึง ลำไส้ เลย นะนั่น

ขอ คารวะ แม่น้อง นาง ด้วย น้ำชา 1 จอก (ไม่มีขนม นะจ๊ะ)

 

เง้อ..พี่ค่ะ..หนูมองไปถึงลำไส้ ไหลลงทวารหนัก ไปแร้ว..กิกิ

 

ก็ดูๆไว้แหละครับ

พอได้จังหวะ คุณรับองค์มาเป็นตนเมื่อไหร่

ขี้คร้านแค่ เหล้า ยา ปลาปิ้ง บางที่ ขี้ ก็อาจจะเอามากิน
เพื่อให้มันขลังกว่าพวกเขา มันก็ไม่แน่หรอกตอนองค์ลง
คุณคิดว่ามีใครมีสติรู้ตัวบ้างหละว่าองค์ที่มาลงอยากกินอะไร
ตามใจปากเขา

แต่ที่แน่ๆ ยังไงเสียก็เห็นทำเหมือนกันหมด ตอนแรกก็รังเกลียด

สุดท้ายก็ทำหมด เพราะโลกธรรม8 คือองค์กามที่ใหญ่กว่าองค์อื่นๆ

นะเอย นะเอย

 

งง กับข้อความท่านนิวรณ์ งิ

แต่องค์ของหนูไม่ต้องมีขันธ์ อ่ะ

กิกิ..(องค์ความรู้)..กิกิ

แต่ท่านนิวรณ์ก็ถูกนะค่ะ ตอนที่หนูเก็บข้อมูล

คนที่เป็นทรงส่วนใหญ่เค้าบอกว่า หนีกันแทบตาย

บางคนเป็นบ้า บางคนป่วย เฮ้อ..องค์เค้าเอากันขนาดนี้เลยหรอ..??

 

เรื่องสื่อความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทพหรือเทวดานั้นมีจริง
เขาอยู่ของเขาดีๆ แต่คุณไปกราบไหว้บูชาเขาก็เกิดความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาขึ้นมา
เขามาช่วยมาดูแลเราก็เรียกว่าเทวดาคุ้มครอง
หลายครั้งที่พวกร่างทรงบอกคุณมีองค์นั้นองค์นี้
แปลกหรือไม่ ที่องค์ของเราช่างขี้อายไม่มาบอกกับเราตัวตัวท่านเอง
ต้องไปจ้างเอเยนซี่มาบอกกับเราหรือกินหัวคิวกินค่าคุ้มครองอีกที
แล้วเราจะไปแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่เอาผีชั้นตํ่ามาครอบเราแล้วอ้างเป็นเทพนั้นเทพนี้
เคยมีคนชวนผมไปเป็นเพื่อนในพิธีรับขันธ์แถวแฟล๊ตดินแดงแค่ตึกเดียวมีไม่รู้กี่ตํ่าหนัก
พอเสร็จพิธีรับคนทรงบอกชื่อทำเนียบรุ่นเสร็จ คนนี้เป็นกุมาร คนนี้เจ้าแม่จามเทวี สารพัดชื่อที่จะสรรหามา
เห็นพวกม้าทรงที่เดินแห่กันทั้งเมืองหรือไม่ครับ
ตอนสึนามิไม่รู้ไปหลบกันที่ไหนไม่เห็นออกมาช่วยประชาชนกันมั่ง
การทำพิธีต่างที่เซ่นด้วยเนื้อสัตว์หรือเซ่นด้วยเลือดคุณแน่ใจหรือว่าเป็นพิธีทางฝ่ายเทพ
ผมจะเล่าให้ฟัง2ตัวอย่าง รายแรกเป็นเพื่อนของผมเอง ไปเล่นม้ากลับมาเสียเงินหงุดหงิด
้พอเดินเข้าบ้านปรากฎว่าภรรยาไปเชิญคนทรงมาเข้าทรงมีแขกเต็มบ้าน แกกำธูปที่ติดไฟขึ้นมากำใหญ่
จากกระถางธูปแล้วพูดกับคนทรงว่า..เองจะออกหรือไม่ออกถ้าไม่ออก.กรูจะเอาธูปจี้..
ปรากฎว่าคนทรงเดินออกจากบ้านแกไปเฉยๆ
รายที่2ชื่อพี่ใหญ่ร้านขายเป็ดย่างและหมูแดงเจ้าดังของเยาวราชใกล้ซอยติดกับโรงหนังคาเธย์
ชื่อร้านกั่มหล่ง..เป็นคนที่ดูพระสมเด็จที่เก่งมีระดับคนหนึ่ง ขนาดอาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ต้องวานให้ดู
คุณแม่ของเขาวานให้ขับรถไปที่ตําหนักหนึ่งแถวชลบุรี ตัวเองไม่เชื่อไม่พอใจแต่ไม่อยากขัดใจคุณแม่
จึงพาไปพอไปถึงตําหนัก คนทรงเล่นจิตวิทยาต่อว่า..เองไม่เชื่อกรูวันนี้เองไม่อยากมาที่นี่เองไม่เคารพกรู
เขาไปพูดสักคำแต่เดินไปที่รถพร้อมหยิบปืนกลับมาที่ตำหนัก พอมาถึงหน้าคนทรงเขาพูดว่า..
เองเป็นเจ้าเองจะต้องไม่ตายๆๆๆๆพร้อมกับกระชากลำก้องแม๊กกาซีนแล้วยกปืนส่องไปที่คนทรง..
คนทรงร้องเสียงดังพี่ครับผมขอโทษๆๆผมไม่เล่นด้วยแล้วครับแล้ววิ่งออกจากตําหนักทรงไป

 

เอิ้ก .. หากินกับความเชื่อ

ของดีเค้าไม่อวดอ้างสรรพคุณหรอก

ระฆังมันต้องไม่ดังเอง

มันต้องให้คนอื่นมาตี ถึงจะดังไกล

ไม่ได้ต่อต้านว่าไม่มี แต่เพราะของเก๊มันทำให้เสื่อม

เฮ้อออ~~~~

 

ถ้ามีองค์แล้ว จะทำยังไงต่อค่ะ

รักษาศีล 5 ให้ได้ตลอดหรือมากที่สุด และมั่นทำความดี คิดดี มีมุทิตา ทำทานบารมี และมีโอกาสก็สร้างบุญด้วยการ ปฏิบัติสมาธิบางตามกำลัง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว...เรื่องอื่นๆไม่ต้องคิดมากหรอก...
.........ธรรมรักษา(อุดร).........