พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    __/|\__

    ;aa14
    .....โมทนาสาธุครับ........;aa30
     
  2. ชวภณ ศ.

    ชวภณ ศ. สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +19
    ผมขอโหวต
    1.คุณ ake7440 และ
    2.คุณ gnip ครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของการถามพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลต่างๆ ว่าใช่พระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หรือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตหรือไม่

    แนะนำอย่างนี้ ให้เซฟรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรไป พร้อมทั้งนำพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลนั้น ไปให้กับพระสายวิปัสนากรรมฐาน ไม่น้อยกว่า 5 รูป ไปขอความเมตตาจากท่าน สอบถามท่านดูว่า ใช่หรือไม่อย่างไร แล้วจะพบคำตอบเอง

    แต่คำตอบต้องตรงกัน จึงจะเชื่อถือได้ครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกิจกรรม

    ผมมีกิจกรรมมาให้สมาชิกชาววังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้าอีกแล้วครับ

    ผมขอให้ทุกๆท่านที่ประสงค์ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ค้นหาโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มา 1 โครงการ
    พร้อมทั้งนำธรรมะอธิบายว่า มีความเกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดำริอย่างไร

    สำหรับการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ผมไม่มีพระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลมอบให้นะครับ

    การให้คะแนน
    ผมจะแบ่งคะแนน ออกเป็น 2 ส่วน คือ

    1.ผมตัดสิน 50 % (โดยให้คิดเป็นคะแนนเต็ม 10)

    2.ผมขอให้สมาชิกชาววังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้า โหวตโพสของท่านที่เข้าร่วมกิจกรรม อีก 50 % (โดยให้คิดเป็นคะแนนเต็ม 10)
    (โดยให้โหวตเพียง 2 ท่าน หากโหวตท่านใดเป็นอันดับ 1 ให้ลงเป็นชื่อแรก และหากโหวตท่านใดเป็นอันดับ 2 ให้ลงเป็นชื่อที่ 2 เช่น
    1.คุณเพชร (อันดับ 1)
    2.คุณnongnooo (อันดับ 2)
    แต่สำหรับการโหวตครั้งนี้ ผมไม่มีพระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลมอบให้นะครับ)

    ผมให้เริ่มการอธิบายความคิดเห็น,ความรู้สึกต่อรูปดังกล่าว พร้อมทั้งอธิบายธรรมะที่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็น,ความรู้สึกต่อรูปดังกล่าว นี้ตั้งแต่วันนี้ (1 ธันวาคม 2551) เวลาประมาณ 09.00 น.

    สิ้นสุดการอธิบายความคิดเห็น,ความรู้สึกต่อรูปดังกล่าว พร้อมทั้งอธิบายธรรมะที่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็น,ความรู้สึกต่อรูปดังกล่าว ในวันที่ 3 ธันวาคม 2551 เวลา 09.00 น.

    หลังจาก(วันที่ 3 ธันวาคม 2551 เวลา 09.00 น.)นั้น ผมขอให้สมาชิกชาววังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้า โหวตโพสของท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 2 ท่าน สิ้นสุดการโหวต วันที่ 4 ธันวาคม 2551 เวลา 18.00 น.

    เวลานั้น ขอให้ใช้เวลาในเว็บพลังจิตเป็นเวลาที่ผมระบุ

    การโพสทั้งการอธิบายความคิดเห็นและความรู้สึก และการโหวต สามารถโพสได้ในกระทู้ใด กระทู้หนึ่งก็ได้ หรือทั้งสามกระทู้ก็ได้
    ( กระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... จากเว็บพลังจิต หมวดพระเครื่องและวัตถุมงคล
    กระทู้ "พระวังหน้า ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้....." จากเว็บอกาลิโก หมวด 108 โทรโข่ง
    และชมรม พระวังหน้า )

    ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้าร่วมกิจกรรม ขอให้โชคดีทุกๆท่านครับ
    อย่าลืม อ่านให้ละเอียดนะครับ

    โมทนาสาธุครับ
    ---------------------------------------------

    สิ้นสุดการอธิบายความคิดเห็น,ความรู้สึกต่อรูปดังกล่าว พร้อมทั้งอธิบายธรรมะที่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็น,ความรู้สึกต่อรูปดังกล่าว ในวันที่ 3 ธันวาคม 2551 เวลา 09.00 น.

    หลังจาก(วันที่ 3 ธันวาคม 2551 เวลา 09.00 น.)นั้น ผมขอให้สมาชิกชาววังหน้า และสมาชิกชมรมพระวังหน้า โหวตโพสของท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 2 ท่าน สิ้นสุดการโหวต วันที่ 4 ธันวาคม 2551 เวลา 18.00 น.


    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1256
    ผมมาแจ้งท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมครับ

    1.newcomer
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1256

    2.ตั้งจิต
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1257

    3.พรสว่าง_2008
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1257

    4.gnip
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1259

    5.ake7440
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1260

    6.เสียงตามสาย
    http://palungjit.org/group.php...scussionid=111
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1261

    สิ้นสุดการโหวต วันที่ 4 ธันวาคม 2551 เวลา 18.00 น.

    ขอบคุณครับ
    โมทนาสาธุครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ท่านผู้ร่วมโหวตกิจกรรม

    1.คุณake7440
    โหวต
    1. คุณตั้งจิต ครับ
    2. คุณ newcomer ครับ

    2.คุณnongnooo
    โหวต
    1. คุณตั้งจิต
    2. คุณ gnip

    3.คุณnewcomer
    โหวต
    1. คุณ ตั้งจิต
    2. คุณ หมอake7440

    4.คุณตั้งจิต
    โหวต
    1.คุณnewcomer
    2.คุณพรสว่าง_2008

    5.sithiphong
    โหวต
    1.คุณตั้งจิต 8 คะแนน
    2.คุณake7440 7.5 คะแนน

    6.คุณ:::เพชร
    โหวต
    1.คุณake7440
    2.คุณgnip

    7.คุณgnip
    โหวต
    1. คุณตั้งจิต
    2. คุณ ake7440

    8.คุณพรสว่าง_2008
    โหวต
    1.คุณตั้งจิต
    2.คุณake7440,คุณgnip,คุณNewcomer,คุณเสียงตามสาย

    9.คุณชวภณ ศ.
    โหวต
    1.คุณ ake7440
    2.คุณ gnip

    10.คุณfacehot
    โหวต
    1. คุณnongnooo
    2. คุณ gnip

    สรุปคะแนน
    คะแนนโหวตให้อันดับ 1
    คุณตั้งจิต 6 เสียง
    คุณnewcomer 1 เสียง
    คุณake7440 1 เสียง
    คุณnongnooo 1 เสียง (แต่เนื่องจากคุณnongnooo เป็นกรรมการและไม่ได้แสดงความคิดเห็น จึงงดให้คะแนน)

    คะแนนโหวตให้อันดับ 2
    คุณnewcomer 2 เสียง
    คุณgnip 5 เสียง
    คุณake7440 4 เสียง
    คุณพรสว่าง_2008 1 เสียง
    คุณเสียงตามสาย 1 เสียง

    สรุปคะแนน
    <O:p</O:p

    อันดับ 1 ได้แก่ คุณตั้งจิต <O:p</O:p
    อันดับ 2 ได้แก่ คุณgnip<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอแสดงความยินดีกับทั้งสองท่านด้วยครับ

    ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกันในครั้งนี้ และหากวันนี้และวันพรุ่งนี้ ไม่มีภาระกิจหรือมีเวลาว่าง ขอเชิญทุกๆท่านรวมทั้งท่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้พระวังหน้าฯ ร่วมกันถวายพระพรองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในกระทู้พระวังหน้าฯ ที่เว็บพลังจิต หรือชมรมพระวังหน้า เว็บพลังจิต หรือกระทู้พระวังหน้าฯ ที่เว็บอกาลิโก กันนะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แอบถ่าย"พ.ญ." กลางร.พ.ดัง

    ที่"ชัยภูมิ" ยึดคอมพ์ พบรูปชัด

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHhNaTB3TkE9PQ==

    ตรวจยึดคอมพ์ผู้บริหารโรงพยาบาลเนินสง่า หลังแพทย์หญิงแจ้งความตร. ถูกถ้ำมอง-แอบถ่ายใต้กระโปรงนานนับเดือน ผกก.เรียกสอบ-เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ข้อหาถ้ำมองสร้างความเดือดร้อนรำคาญ แต่ยังให้การปฏิเสธ ส่งคอมพ์ตรวจละเอียดว่ามีการนำภาพไปเผยแพร่หรือไม่

    ความคืบหน้ากรณี แพทย์หญิง ร.พ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ แจ้งความตำรวจ สภ.เนินสง่า หลังพบมือมืดตั้งกล้องวิดีโอแอบถ่ายโป๊ใต้โต๊ะทำงานมานานนับเดือน พร้อมตั้งข้อสังเกตอาจเป็นฝีมือของผู้บริหารในโรงพยาบาล และเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. พ.ต.อ.สมศักดิ์ ฤกษ์พุฒิ ผกก.สภ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ พ.ต.ท.วิหาร นวลงาม พนักงานสอบสวน ได้เชิญผู้บริหารคนหนึ่งของโรงพยาบาลเนินสง่า มารับทราบข้อกล่าวหาถ้ำมอง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ก่อนจะปล่อยตัวชั่วคาว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีลหุโทษ

    ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ญ.แพรววาว (นามสมมติ) แพทย์ประจำโรงพยาบาลเนินสง่า เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ว่าถูกผู้บริหารแอบตั้งกล้องวิดีโอขนาดเล็กติดตั้งไว้ใต้โต๊ะทำงานเพื่อแอบถ่ายภาพใต้กระโปรงระหว่างนั่งทำงานมานานนับเดือน ก่อนจะปรึกษาเพื่อนร่วมงานเพื่อหาต้นตอผู้กระทำ ต่อมาตรวจสอบพบว่า มีการต่อสายกล้องวิดีโอไปเชื่อมเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้บริหารโรงพยาบาลคนหนึ่ง และมีการบันทึกภาพวิดีโอที่ถ่ายใต้กระโปรงไว้ในเครื่องคอมพ์ดังกล่าวด้วย จึงเกรงว่าอาจมีการนำภาพดังกล่าวออกไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ทำให้เสียหาย จึงตัดสินเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี

    พ.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังรับเป็นคดีความแล้ว จึงส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ พร้อมได้ตรวจยึดเครื่องคอม พิวเตอร์ภายในห้องของผู้บริหารคนดังกล่าวมาที่โรงพัก เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มาเปิดตรวจดูพบว่ามีภาพที่ถูกบันทึกโป๊ท่อนล่างใต้กระโปรงของผู้เสียหายอยู่หลายวัน อีกทั้งผู้เสียหายยืนยันภาพที่ปรากฏในคอมพิวเตอร์ที่ยึดมาเป็นภาพของตัวเอง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจึงสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นเชิญตัวผู้บริหารคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฏิเสธไม่ยอมให้การแต่อย่างใด

    "อย่างไรก็ตามผมสั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากตรวจพบว่ามีภาพไปเผยแพร่เพื่ออนาจารจึงจะเชิญตัวมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามคดีนี้ตนทำรายงานเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อรับทราบ ประ กอบด้วย พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชม ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภาค 3 และสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ" ผกก.สภ.เนินสง่า กล่าว

    พ.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นคดีลหุโทษในคดีถ้ำมองทั่วไป มีโทษปรับเท่านั้น แต่บังเอิญผู้เสียหายและผู้กระทำอยู่ในวงการทางการแพทย์ จึงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีจรรยาบรรณคอยควบคุม อย่างไรก็ตามในส่วนผู้เสียหายทราบว่ามีการร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาในต้นสังกัด ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจแก้ปัญหาในเรื่องนี้ รวมทั้งด้านจริยธรรมต่อไปด้วย

    สำหรับ พ.ญ.แพรววาว ต่อมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายชูรัตน์ คูสกุลรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ แล้ว


    --------------------------------------------------

    ไม่ใช่แต่เพียงหมอนะครับ อาชีพอื่นๆก็มีสิทธิ์โดนกันถ้วนหน้า ให้ระมัดระวังตัวกันให้มากๆ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ดีที่สุด อย่าเป็นเหมือนวัวหายแล้วค่อยมาล้อมคอกครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วิตามินกินอิ่ม
    http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9510000143374
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 ธันวาคม 2551 13:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=485 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=485>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    “เคี้ยวอะไรอยู่พอลล่า?”

    “เคี้ยวคอลลาเจล”


    ในช่วงเวลาหนึ่ง วลีสั้นๆ ข้างต้น ของพรีเซนเตอร์สาวสวยร่างแบบบางเจ้าของรอยยิ้มพริ้มเพราแสนประทับใจ กลายเป็นคำฮิตติดปากได้ไม่ยาก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=276 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=276>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    นั่งคิด นอนคิด นับแต่มุข “เคี้ยวอะไรอยู่?” ยังเกร่อปาก กระทั่งซาไปในสายลม ก็ยังไม่ได้รายละเอียดชัดเจน เคี้ยวคอลลาเจลแล้วจะสวยอย่างเธอจริงหรือ แม่สาวน้อย? แล้วสารที่ว่านี้มันคืออะไร มีอยู่ในอาหารประเภทใดบ้าง?

    กระทั่งได้เปิดหนังสือ “โภชนาการ กับผลไม้” ที่สำนักพิมพ์สารคดีจัดพิมพ์ขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้รู้ว่า คอลลาเจลคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่จำเป็นในการสร้างผิวหนังและรักษาบาดแผล เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเอ็น กระดูก และหลอดเลือด โดยแหล่งกำเนิดคอลลาเจลก็หาใช่วิตามินหรือแร่ธาตุอื่นไกลไม่มักคุ้น หากแต่เป็นชื่อที่คุ้นเคยอย่าง “วิตามินซี”นั่นเอง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=555 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=555>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    ข้อมูลในหนังสือเล่มดังกล่าว ช่วยให้เราทราบว่า ผลไม้หน้าตาธรรมดาอย่าง “ฝรั่ง” คือผู้ครอบครองวิตามินซีไว้สูงสุดในบรรดาผลไม้ทั้งมวล รองลงตามลำดับ คือ ลิ้นจี่จักรพรรดิ, มะละกอสุก, ส้ม, เงาะ, มะม่วงดิบ, ทุเรียนหมอนทอง และลำไย

    นอกจากเชื่อมโยงไปถึงต้นสายของแหล่งผลิตคอลลาเจล คือ วิตามินซีแล้ว ยังมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของวิตามินซีระบุไว้อย่างละเอียด เป็นต้นว่า มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะวิตามินซีปริมาณเพียงเล็กน้อยก็สามารถป้องกันโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และกรดนิวคลิอิกจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระได้ ขณะเดียวกันยังมีบทบาททำให้สารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอีที่ถูกใช้ในขบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระกลับมาทำหน้าที่ใหม่ได้อีกครั้งหลังจากถูกใช้งานไปแล้ว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=314 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=314>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    นับเป็นการเปิดโลกทัศน์ที่มีต่อคำว่า “หลักโภชนาการ” ให้กว้างไกลยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คำตอบเรื่องคอลลาเจล แต่ยังได้ทราบรายละเอียดสารพันของวิตามินและแร่ธาตุสำคัญแต่ละชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย ผ่านการถ่ายทอดให้อ่านได้อย่างเข้าใจง่าย จากผู้เขียนทั้ง 2 คน คือ ริญ เจริญศิริ นักวิจัยฝ่ายเคมีอาหาร สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมด้วย ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย ผู้หอบหิ้วดีกรีปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร มาไกลจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ทั้งดำรงตำแหน่งสำคัญอย่างรองผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ,อาจารย์ประจำหลักสูตรโภชนศาสตร์ (ระดับปริญญาโท-เอก) หลักสูตรร่วมระหว่าง คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=675 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=675>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    ใช่เพียงเบต้าแคโรทีนและไลโคพีนสูงในแตงโมจินตหราแดง,โซเดียมสูงในละมุดมาเลเซีย, โพแทสเซียมสูงในแก้วมังกร แคลเซียมสูงในสตรอว์เบอร์รี แต่ยังทราบถึงสารอาหารในส่วนประกอบปลีกย่อยที่อยู่ในผลไม้แต่ละชนิด พร้อมทั้งมีข้อแนะนำในการบริโภคผลไม้สำหรับ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคอ้วน และผู้ต้องการลดน้ำหนักด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=630 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=630>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

    เพื่อให้ทุกครั้งที่ลิ้มรสความหวานฉ่ำสดชื่นจากสารพันผลไม้ เป็นไปอย่างถูกหลักโภชนาการและได้ประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายของคุณ


    .................

    -หมายเหตุ ภาพประกอบบทความจาก หนังสือ "โภชนาการกับผลไม้"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ฝากกันค่ำๆครับ

    เผ็ดร้อนรับลมหนาวกับ “เซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมากุ้ง” / กุ๊กเล็ก
    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000143510
    [​IMG]โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์4 ธันวาคม 2551 15:43 น.[​IMG] โดย : กุ๊กเล็ก

    [​IMG] [​IMG] อากาศหนาวเริ่มแผ่ปกคลุมไปทั่วประเทศไม่เว้นแม้แต่กรุงเทพฯแล้ว หากได้กินอะไรเผ็ดๆสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกายสักหน่อยคงจะดีไม่น้อย วันนี้ "กุ๊กเล็ก" จึงเลือกทำเมนู "เซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมากุ้ง" ที่ได้รสชาติความเผ็ดร้อนของพริก ความหอมจากใบกะเพรา แถมยังเคี้ยวหนึบเด้งดึ๋งไปกับเส้นเซี่ยงไฮ้ น่าจะเป็นเมนูอร่อยถูกใจใครหลายๆคนที่ได้ลองกิน

    ส่วนผสม

    เส้นเซี่ยงไฮ้ 2 ขีด
    กุ้งสด 3-5 ตัว
    พริกขี้หนู 5-10 เม็ด เผ็ดตามชอบ
    พริกชี้ฟ้าเขียวแดงหั่นเฉียง 2 เม็ด
    ใบกะเพรา 20 ใบ
    กระเทียม 5-6 กลีบ
    น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

    วิธีทำ เริ่มจากนำเส้นเซี่ยงไฮ้ไปแช่น้ำให้นิ่มประมาณ 5 นาที แล้วหันไปต้มจนเดือด นำเส้นเซี่ยงไฮ้ที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วไปลวกพอสุก เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เสียเวลารอให้เส้นสุกในตอนผัด เสร็จเรียบร้อยนำเส้นเซี่ยงไฮ้แช่น้ำเย็นพักไว้ก่อน คราวนี้มาจัดการเทน้ำมันลงกระทะ จนน้ำมันร้อนแล้วนำกระเทียมสับลงไปเจียวให้หอม ตามด้วยพริกขี้หนูสับลงไป

    ทีนี้ก็ต่อด้วยการนำกุ้งลงไปผัดจนสุก ตามด้วยพริกชี้ฟ้าหั่น เติมน้ำเปล่าหรือน้ำซุปลงไปนิดหน่อยให้พอมีน้ำขลุกขลิก แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาล ลงไป ชิมให้ได้รสชาติถูกใจแล้วจึงนำเส้นเซี่ยงไฮ้ลงไปผัดตาม คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยใบกะเพราะลงไปแล้วผัดให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ตักใส่จานพร้อมกินได้ทันที
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    อนุโมทรนากับทุกท่านนะครับ
     
  11. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    [​IMG]


    [SIZE=+3][SIZE=+4]ฑีฆา ยุโก โหตุ มหาราชา [/SIZE][/SIZE]
    [SIZE=+4]ขอพระองค์ทรงพระเจริญ[/SIZE]


    [FONT=MS Sans Serif, CordiaUPC]ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ [/FONT]​

    ขอเชิญชวนสหายธรรมทุกท่านแสดงความจงรักภักดี โดยการร่วมลงนาม ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ<WBR>พลอดุลยได้ที่



    เว็บไซต์วัดป่าโนนจ่าหอม<WBR>


    ตามลิ้งค์แนบด้านล่างนี้ได้<WBR>เลยครับ

    http://www.watpanonjahom.com/index.php?mo=5&qid=200277
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG][​IMG][​IMG]

    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2551 นี้
    ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน ขอให้พระองค์ท่านทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้า sithiphong
    และคณะพระวังหน้า
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอแสดงความยินดีด้วยครับ วันนี้ผมก็ยังเดาไม่ออกว่าผู้ใดจะได้ลำดับ ๑ เลยส่งพระสมเด็จวังหน้าไปบางส่วนก่อน เหลือของคุณตั้งจิต คุณหมอเอก คุณ gnip เอาไว้วันจันทร์จะไปดำเนินการให้ครับ
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    สงสัยพระเครื่องทรงคุณค่ามีแต่ต้องมอบให้คณะพระวังหน้าเท่านั้นแล้วล่ะครับงานนี้ ขยันร่วมกิจกรรมก็ได้รับเอง...
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต้องบอกอย่างนี้ว่า เป็นโชคดีอย่างมหาศาลที่พระวังหน้า เป็นพระที่ไม่มีคนนิยม หากว่ามีคนนิยม พวกเราคงลำบากมากๆและคงหากันได้ยาก

    รายการอโรคา ปาร์ตี้ มาแล้วนะครับ

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ในหลวง” ทรงพระประชวร โปรดเกล้าฯ “สมเด็จพระบรมฯ-สมเด็จพระเทพฯ” ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000143607
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 ธันวาคม 2551 20:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าถวายพระพรฯ “สมเด็จพระเทพฯ” ทรงเผย พระอาการประชวรในช่องพระศอ อ่อนเพลียพระวรกาย

    คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ ทรงมีพระดำรัสตอบ แก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ

    วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.15 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ยังศาลาดุสิดาลัย ภายในพระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2551

    เมื่อ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนินเข้ามาเพื่อประทับยังพระเก้าอี้ นายณรงค์ฤทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายที่ประทับ กราบบังคมทูลถวายรายงาน พร้อมทั้งเบิกนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าถวายพระพรชัยมงคล

    นายณรงค์ฤทธิ์ กราบบังคมทูลว่า ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใต้ฝ่าละอองพระบาทเสด็จฯ ออกแทนพระองค์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ในวโรกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตเบิกคณะบุคคล ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และผู้แทนมูลนิธิ สมาคม สโมสร องค์กรต่างๆ รวม 785 คณะ จำนวน 22,285 คน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทเนื่องในอภิลักขิตสมัย เฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่ง

    ในวโรกาสนี้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี จะกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ในนามผู้ที่เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ข้าพเจ้าค่าขอรับด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

    จากนั้น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามของคณะบุคคลที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

    “ในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการที่จะให้ข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ถวายพระพร

    ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท เนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัย คล้ายวันพระบรมราชสมภพ เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2551 นี้ ข้าพระพุทธเจ้า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ต่างมีความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาทมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญฉัตรแก้วร่มเกล้าของปวงพสกนิกรไทย

    ใต้ฝ่าละอองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ นับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อพุทธศักราช 2489 เป็นต้นมา ตราบจนปัจจุบันเป็นเวลายาวนานถึง 62 ปี เป็นที่ประจักษ์ ว่า ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงยึดมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม สมดังพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม

    พระราชกรณียกิจทั้งปวง ล้วนมุ่งสกัดทุกข์ ผดุงสุขแก่พสกนิกร และก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน

    ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงพระกรุณาทุ่มเทอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ สร้างสรรค์ความอยู่ดีมีสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทรงขจัดปัดเป่าทุกข์ภัย ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยความยากจน โรคาพยาธิภัย ตลอดจนภัยทางสังคมและเศรษฐกิจ ได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหาด้วยพระบรมราโชบายที่ลึกล้ำ และบูรณาการอย่างเป็นระบบ ทรงวิเคราะห์ปัญหาอย่างถ่องแท้ จึงทรงสามารถขจัดปัดเป่า คลี่คลายปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสมทุกประการ

    โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ ล้วนผ่านการวิเคราะห์ วิจัย และทดลอง เพื่อให้ได้ผลเป็นข้อยุติ ก่อนพระราชทานให้ประชาชนนำไปใช้เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ เป็นต้นว่า แนวทางทฤษฎีใหม่ด้านเกษตรกรรม และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

    ใต้ฝ่าละอองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา ทรงพระปรีชาสามารถ ทั้งด้านศาสตร์และศิลป์ โดยเฉพาะด้านการเกษตร ทรงเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน แหล่งน้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ทรงพระกรุณาพระราชทานแนวทางในการจัดระบบชลประทาน การสร้างฝาย อ่างเก็บน้ำ เขื่อน การทำฝนหลวง และแก้มลิง ปัญหาเรื่องน้ำได้รับการบูรณาการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำ และปัญหาน้ำหลาก น้ำท่วม

    ใต้ฝ่าละอองพระบาท ได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหาจราจรของกรุงเทพมหานคร พระราชทานพระราชดำริให้สร้างเส้นทางคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นคุณูปการแก่ราษฎร ในด้านเศรษฐกิจและสังคม ทรงสนพระราชหฤทัยในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ เช่น โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ฟื้นฟูพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทรงพัฒนาการศึกษา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดระบบการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อกระจายโอกาสให้การศึกษาแก่เยาวชนให้ทุกท้องถิ่น พระราชทานโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน และอื่นๆ อีกนานัปการ

    พระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรอันงดงาม เป็นที่ประจักษ์แซ่ซ้องไปทั่วสากล องค์การต่างๆ ได้เทิดพระเกียรติคุณ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลเป็นจำนวนมาก เช่น องค์การสหประชาชาติ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักพัฒนามนุษย์ ล่าสุด องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล Global Leader Award เป็นพระองค์แรก ในฐานะที่ทรงใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และสหพันธ์สมาคมนักประดิษฐ์ระหว่างประเทศ ได้มีมติให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรกังหันน้ำชัยพัฒนา ที่ทรงคิดค้นประดิษฐ์ขึ้นเพื่อบำบัดน้ำเสีย และขจัดปัญหาด้านสภาวะแวดล้อม เป็นวันนักประดิษฐ์โลก

    อาณาประชาราษฎร์ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ และต่างมีความจงรักภักดี จักถวายชีพเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ให้ยั่งยืน มั่นคงตราบกาลนิรันดร์

    เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ศกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย และสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล เดชะพระสยามเทวาธิราชและพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลประทานพรแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเกษมสำราญ พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ปราศจากโรคาพาธ อุปัทวันตราย หมู่ปัจจามิตรพ่ายพระบรมเดชานุภาพ ทรงสถิตเป็นร่มฉัตรปกเกล้าปกกระหม่อมพสกนิกรไทย เป็นหลักชัยอันมั่นคงของสยามประเทศ ตราบนิรันดร์กาล เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ”

    จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระดำรัสตอบ ความว่า

    “วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้า และสมเด็จพระเทพฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ในการที่จะรับท่านทั้งหลายในวโรกาสที่เข้าถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ในปีนี้

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสให้ขอบใจในพรอันบริสุทธิ์ที่ได้ถวายมาด้วยความจงรักภักดี ทรงปลาบปลื้ม และทรงขอสนองพรทุกท่านที่ได้มีถวายมาอย่างจริงใจ ในการนี้ ได้ทรงขอให้บอกทุกท่าน และพระราชทานพรให้ทุกคนมีความสุข มีความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน ก็ขอให้ท่านมีความสุขความเจริญ และก็ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ดีงาม ทั้งในด้านส่วนรวมและส่วนตัว

    ในโอกาสนี้ ที่ไม่เสด็จฯ ลง เพราะว่าทรงมีอาการประชวรเล็กน้อย ซึ่งก็ได้จะโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งได้ขึ้นเฝ้าฯ ได้อธิบายให้ท่านฟังถึงอาการประชวรในเบื้องต้น

    แต่สุดท้ายนี้ก็ ในพระปรมาภิไธยก็ขออัญเชิญพระราชกระแสขอบใจและสนองไมตรี สนองพรทุกท่านที่ได้มาถวายพระพรในวันนี้ ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ สมปรารถนาทุกประการ”


    จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระดำรัส ความว่า

    “เมื่อวานนี้ไปเฝ้าฯ ก็ยังไม่เป็นไร แล้วก็ไปร่วมตั้งเครื่องถวายพระกระยาหาร ก็ยังเสวยได้ดี แต่พอดีมาถึงวันนี้ ได้ทรงมีพระอาการเป็นช่องพระศอ คือ ทั้งหลอดลม หลอดอาหาร อักเสบ ทำให้เสวยเครื่องไม่ค่อยได้ เขาก็เลยถวายเป็นน้ำเกลือแล้วก็ยา ส่วนทางด้านหลอด เขาเรียกหลอดลมนะ เขามีเสมหะออกมามาก ก็ทำให้ท่านรู้สึกทรงไม่ทรงพระสำราญ แล้วก็ทำให้อ่อนเพลีย แต่ว่าไม่มีไข้ ก็คิดว่าจะให้บรรทมพักไปสักพักเท่าไรจนกระทั่งมีพละกำลัง ค่อยออกมาพบท่าน หรือทำอะไรได้ เพราะคิดว่าถ้าตอนนี้ คิดว่า อยากจะทรงพักดีกว่า แล้วก็เรื่องรายละเอียดจะเป็นยังไงนี่ เข้าใจว่า ประเดี๋ยวทางแพทย์เขาคงพูดด้วยภาษาที่ถูกต้องอีกที แต่ว่านี่ก็ว่าเท่าที่เห็น คือ แต่ท่านก็ดูแล้วพระอาการไม่ได้หนักมาก แต่ว่าดูเหมือนจะอ่อนเพลียที่จะลุก เพราะว่าเสวยไม่ได้เต็มที่ แล้วก็เสมหะออก แล้วติดอยู่ คือ มีเสมหะแต่ติดอยู่ ก็ไม่ค่อยจะออก แล้วก็ถวายน้ำเกลือเนี่ย เพื่อที่จะล้างให้ ถ้าได้น้ำไม่พอเนี่ย เหมือนเวลาเขาให้คนที่มีเสมหะเขาให้ดื่มน้ำมากๆ แต่ทีนี้ถ้าดื่มไม่ดีก็ถวายน้ำเกลือ ตอนนี้ดูจะออกลงมาก แต่ว่า เหมือนกับว่าถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาที่จะให้เฝ้าฯ แล้ว ก็จะให้เสมหะออก แล้วก็ออกมาดี ก็ยังไม่ทัน ก็เลยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมฯ มารับพรและขอบใจทุกๆ ท่านแทน”

    หลังจากนั้น วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ กลับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    -------------------------------------


    "ในหลวง"ทรงงดพระราชดำรัส ณ ศาลาดุสิตฯ"พระเทพฯ"ตรัส ประชวรเล็กน้อย-เจ็บพระศอ-มีเสมหะต้องถวายน้ำเกลือ
    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1228385830&grpid=00&catid=42

    สมเด็จพระเทพฯตรัส ในหลวงทรงประชวรเล็กน้อย มีพระอาการเจ็บพระศอ ทรงมีเสมหะมาก รับการถวายน้ำเกลือ รู้สึกทรงไม่พระสำราญ อ่อนเพลีย "ในหลวง" ทรงพระประชวร ช่องพระศออักเสบ มีเสมหะ เสวยเครื่องไม่ค่อยได้ พระอาการอ่อนเพลียแต่ไม่มีไข้ โปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯเสด็จฯแทนพระองค์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสแก่คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคล

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม เมื่อเวลา 17.19 น. วันที่ 4 ธันวาคม ซึ่งปีนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 81 พรรษา


    นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยในนามผู้เข้าเฝ้าฯ ตอนหนึ่งว่า คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงสถิตย์เป็นมิ่งขวัญฉัตรแก้วร่มเกล้าของปวงพสกนิกรไทย


    "ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระกรุณาทุ่มเทอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ สร้างสรรค์ความอยู่ดีมีสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ ทรงขจัดปัดเป่าทุกข์ภัย ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยความยากจน โรคาพยาธิภัย ตลอดจนภัยทางสังคมและเศรษฐกิจ ได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหา ด้วยพระบรมราโชบาย ที่ลึกล้ำและบูรณาการอย่างเป็นระบบ ทรงวิเคราะห์ปัญหาอย่างถ่องแท้ จึงทรงสามารถขจัดปัดเป่า คลี่คลายปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสมทุกประการ"


    จากนั้นสมเด็จพระบรมโอสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระราชดำรัสแทนพระองค์ ความว่า " วันนี้ในหลวงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้า และสมเด็จพระเทพรัตนฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ในการที่จะรับท่านทั้งหลาย ในโอกาสที่เข้าถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ในปีนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสให้ขอบใจในพรอันบริสุทธิ์ ที่ได้ถวายมาด้วยความจงรักภักดี ทรงปลาบปลื้มและทรงขอสนองพรทุกท่านที่ได้ถวายมาอย่างจริงใจ


    ในการนี้ทรงขอให้บอกทุกท่าน และพระราชทานพรให้ทุกคนมีความสุข มีความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญาที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน ขอให้ท่านมีความสุข ความเจริญ และก็ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ดีงาม ทั้งในด้านส่วนรวมและส่วนตัว


    และโอกาสนี้ที่ไม่เสด็จลง เพราะว่าทรงมีพระอาการประชวรเล็กน้อย ซึ่งก็ได้โปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้ขึ้นเฝ้าฯได้อธิบายให้ท่านฟังถึงอาการประชวรในเบื้องต้น แต่สุดท้ายนี้ในพระบรมปรมาภิไธยขออัญเชิญพระราชกระแสขอบใจและสนองไมตรี สนองพรทุกท่านที่ได้มาถวายพระพรในวันนี้ ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ สมปรารถนาทุกประการ



    ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัส ตอนหนึ่งว่า "เมื่อวานนี้ไปเฝ้าฯ ก็ยังไม่เป็นไร แต่ไปร่วมตั้งเครื่องถวายพระกระยาหาร ก็ยังเสวยได้ดี แต่พอดีมาถึงวันนี้ ทรงมีพระอาการช่องพระศอ คือทั้งหลอดลม หลอดอาหารอักเสบ ทำให้เสวยเครื่องไม่ค่อยได้ เขาก็เลยถวายน้ำเกลือ และยา



    ส่วนทางด้านหลอดลม มีเสมหะออกมามาก ทำให้ท่านก็รู้สึกไม่ทรงพระสำราญ ทำให้อ่อนเพลีย แต่ว่าไม่มีไข้ ก็คิดว่าถ้าให้ท่านทรงพักไปสักพัก จนกระทั่งมีพระกำลังถึงค่อยออกมาพบท่านหรือทำอะไรได้ เพราะคิดว่าถ้าตอนนี้ คิดว่าทรงอยากจะพักดีกว่า และเรื่องรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เข้าใจว่าประเดี๋ยวทางแพทย์เขาคงพูดได้ภาษาที่ถูกต้องอีกที แต่ว่าเท่าที่เห็นคือ ดูแล้วพระอาการไม่หนักมากแต่ว่าอาจจะดูเหมือนอ่อนเพลีย เพราะเสวยไม่ได้เต็มที่ แล้วก็เสมหะออกแล้วติดอยู่ คือมีเสมเหะแต่ติดอยู่ ไม่ค่อยจะออก แล้วก็ถวายน้ำเกลือเพื่อที่จะล้าง ถ้าได้น้ำไม่พอ เหมือนกับเวลาคนที่มีเสมหะก็ให้ดื่มน้ำมากๆ แต่นี่ถ้าท่านดื่มได้ไม่ค่อยดี ก็ถวายน้ำเกลือ ตอนนี้ดูจะออกลงมาก แต่ว่าเหมือนกับว่าถึงเวลาแล้วถึงเวลาที่จะให้เฝ้าฯ แล้วก็จะให้เสมหะออกก็ยังไม่ทัน ก็เลยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มารับพร และขอบใจทุกๆ ท่านแทน "



    ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 13.45 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช กล่าวในการเป็นประธานในเปิดงาน 5 ธันวามหาราช ตอนหนึ่งว่า ในปีนี้ถือเป็นปีมหามงคลที่ประชาชนทุกหมู่เหล่า และทุกเชื้อชาติศาสนา สามารถแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน และแสดงถึงความรักความสามัคคีของคนในชาติที่เทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพสูงสุด และเป็นศูนย์รวมของความรัก ความสามัคคีของคนไทย ซึ่งถือว่าทุกภาคส่วนได้จัดงานได้อย่างสมพระเกียรติ เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด นับถือศาสนาใดก็ตาม ความสามัคคีที่ท่านกำลังแสดงออกอยู่ขณะนี้นับเป็นการกระทำที่เป็นสิริมงคล น่าสรรเสริญอย่างยิ่ง

     
  17. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    ยินดีกับคุณตั้งจิตและน้องปิงด้วยนะคะ เดี๋ยวจะไม่ค่อยมีเวลาแล้ว พรุ่งนี้จัดปฏิบัติธรรมที่บ้านค่ะ ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มจะเอาหนังสือธรรมะที่เราช่วยกันพิมพ์ไปแจกพระที่มาร่วมพิธีที่พุทธมณฑล จำนวน5000เล่ม วันเสาร์เช้าไปบุญประจำเดือนที่วัดพุทธบูชา เสาร์นี้หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป มาเป็นองค์เทศน์ด้วยนะคะ วันอาทิตย์จะไปวัดป่าเขาน้อย พิจิตร กราบหลวงปู่จันทาและร่วมสร้างเจดีย์พระพุทธเจ้า5พระองค์ด้วยค่ะ ร่วมกันโมทนาบุญนะคะ เจอกันอีกทีวันจันทร์เลยค่ะ นอนหลับฝันดีอย่างหนูนะคะ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อสังหาฯ ปี 52 ทั้งอิ่มและอ่วม
    http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.aspx?id=75422

    น้ำค้าง ไชยพุฒ
    Positioning Magazine พฤศจิกายน 2551

    หลายสำนักชี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์นับจากนี้ส่อเค้าหดตัว ตกต่ำ แม้ไม่เท่าวิกฤตปี 40 แต่ผลพวงจากซับไพรม์อเมริกาและเศรษฐกิจดาวน์ทั่วโลกจะส่งผลทั้งคนซื้อ และคนสร้าง แถมยังอึมครึม ไม่รู้จะเจ็บสั้น เจ็บยาว และรุนแรงแค่ไหน

    ตัวเลขหด กำไรหาย

    ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจภาคการผลิต ภาคบริการ และภาคการค้าใน 17 กลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมฟันธงว่า “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” กำลังมีแววเริ่มเจ็บ หลังพบว่ายอดขายบ้านในไตรมาส 4 ของปีนี้เพียงปีเดียว มีสัดส่วนจะลดลงถึง 7.85% อีกทั้งบริษัทสร้างบ้านหรือ Developer ทั้งหลายยังขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจชนิดที่ติดลบถึง 34% เลยทีเดียว

    บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส ออกมาเปิดเผยยอดขายบ้านของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยทั้ง 14 แห่ง เริ่มส่งสัญญาณแล้วว่ายอดขายลดลงติดต่อกันถึงสองไตรมาส คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อไตรมาสสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการด้านภาษีที่ภาครัฐออกมากระตุ้นให้คนซื้อบ้านนั้นไม่ได้สร้างแรงจูงใจในการซื้อที่อยู่อาศัยมากนัก เพราะผู้บริโภคมีความกังวลว่าตนจะผ่อนชำระค่างวดไม่ไหว และเริ่มคิดถึงรายได้ในอนาคตที่อาจจะไม่ครอบคลุมหากมีการซื้อบ้านหลังใหม่เกิดขึ้น

    “แบงก์ระวัง” ต้นเหตุบ้านไม่เกิด

    นักวิเคราะห์เชื่อว่า ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ มาจากกำลังซื้อของคนทั่วไปลดลง อันเป็นผลมาจากภาพรวมของเศรษฐกิจและการเมือง อัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น บวกกับอัตราการเติบโตของจีดีพี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามักจะส่งผลต่อยอดขายของบ้าน คนว่างงานและรายได้ต่อหัวที่ลดลงทำให้คนไม่มีเงินจะซื้อและผ่อนบ้าน รวมถึงความมั่นใจของผู้บริโภคที่ลดการใช้จ่าย ระมัดระวังการควักเงินในกระเป๋าออกมาใช้

    ไม่เว้นแม้กระทั่งความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อป้องกันหนี้เสียที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยกู้ และเป็นการระมัดระวังในการทำธุรกิจของแบงก์ในยามที่เศรษฐกิจเอาแน่เอานอนไม่ได้

    ยอดการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสูงลิ่วเป็น 25% จากเดิมเคยอยู่ที่ไม่ถึง 20% อีกทั้งหลายธนาคารยังเพิ่มเพดานรายได้ขั้นต่ำของลูกค้าที่จะสามารถกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่ม เช่น ธนาคารกสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มรายได้ขั้นต่ำของผู้กู้จากเดิม 10,000 บาทต่อเดือนเป็น 15,000 เดือน

    ผู้บริหารของ อารียา พร็อพเพอร์ตี้ ออกมาเปิดเผยตัวเลขว่าจำนวนลูกค้าที่ผ่อนดาวน์บ้านไปได้ในระยะหนึ่งแล้วกู้ไม่ผ่าน และอาจจะต้องทิ้งเงินดาวน์บ้าน เพื่อทิ้งภาระเอาไว้เบื้องหลัง น่าจะมีมากถึง 10-20% เลยทีเดียว

    ดิ้นเพื่อรอด

    เมื่อแบงก์เริ่มเข้มงวด คนกู้ไม่ผ่าน หรือรายได้ลดจนผ่อนไม่ได้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ หลายรายเริ่มขยับตัว ดิ้นรนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจขายบ้านกันอย่างเต็มที่ทั้งการลดแลก แจก แถม ทำโปรโมชั่นปลูกบ้านพร้อมอยู่ และบวกค่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าไปในค่าบ้าน เพื่อให้ผู้กู้สามารถกู้เงินครอบคลุมโดยไม่ต้องเป็นภาระในการหาเงินมาตกแต่งบ้านในอนาคต เป็นการปลดภาระให้ลูกค้าไปได้อีกเปราะ

    ล่าสุด ผู้ประกอบการเริ่มรัดเข็มขัดและเตรียมเงินสดไว้ในมือกันมากขึ้น โดยจะเบิกเงินที่ได้รับการอนุมัติวงเงินกู้จากสถาบันการเงินแบบเต็มจำนวน และยอมรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้บริษัทมีกระแสเงินสดในมือมากที่สุด หวังใช้ป้องกันความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของตน

    ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย 146 บริษัทในไตรมาส 3 ของปี 2551 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของคนสร้างบ้านเองลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเหลือแค่ 43.8 จากเดิมที่เคยสูง 45 ในไตรมาสก่อนหน้า และต่ำสุดในรอบ 4 ไตรมาสเลยทีเดียว

    เมื่อไม่นานมานี้ ขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ธนาคารอาจจะต้องลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่อนได้เช่นเดิม โดยจากเดิมที่ใช้ดอกเบี้ยแบบลอยตัว MMR 7.5% อาจจะต้องหันมาใช้ MRR -2 เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้หดตัวไปยิ่งกว่านี้

    เช่นเดียวกันกับกระทรวงการคลังได้ยื่นมติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณายืดมาตรการลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ออกไปอีก 1 ปีนับจากเดือนมีนาคมปี 2552 หลังจากเมื่อ 4 มีนาคมปีนี้ ได้มีการลดภาษีธุรกิจเฉพาะที่เก็บจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จาก 3% เหลือแค่ 0.1% อีกทั้งยังลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ ประเภทห้องชุด บ้านที่อยู่อาศัย จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดจำนองที่ดินไปแล้วจาก 1% เป็น 00.1%

    ประมาณการกันว่าในปี 2552 ยอดเปิดตัวโครงการทุกประเภทจะลดลง ขณะที่ต้นทุนเรื่องราคาเหล็ก น้ำมัน ค่าแรงงาน และปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ราคาบ้านไม่ลดลงอย่างที่คิด เนื่องจากส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของอสังหาฯ โดยตรง

    ความร้อนแรงของตลาดบ้านไทยจะชะลอลงในปี 52 อย่างเห็นได้ชัด ส่วนปรากฏการณ์อื่นๆ ยังไม่มีใครคาดเดาว่าจะส่งผลอย่างไร และยาวนานแค่ไหน ในบรรดา Developer ต่างก็เตือนกันเองว่าให้พักการ “รุก” ไปบ้างและให้หันมา “ตั้งการ์ดรับ” แทน

    คนอสังหาฯ ปวดใจ
    •ยอดขาย 14 บริษัทอสังหาริมทรัพยในตลาดหลักทรัพย์ไทยลดลง 2 ไตรมาสซ้อน ลดลงเฉลี่ย 3 หมื่นบ้านต่อไตรมาส
    •อารียา พร็อพเพอร์ตี้ พบลูกค้ากู้ไม่ผ่าน ทิ้งเงินดาวน์ 10-20%
    •ธนาคารพาณิชย์เริ่มปรับเพิ่มรายได้ขั้นต่ำของลูกค้าที่ต้องการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่ม
    •ยอดปฏิเสธการขอกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยพุ่งสูง 25%
    •คาดการณ์กันว่ายอดการเปิดตัวบ้านในปี 52 จะลดลง 10%
    •กำลังซื้อคนหดหาย จีดีพีต่ำ ว่างงานสูง หดซื้อบ้าน หรือทิ้งดาวน์ไม่ผ่อนต่อ

    ตั้งการ์ดรับ
    •แบ่ง Segment กลุ่มสินค้าให้ดี ก่อนสร้างบ้านต้องคิดจะขายใคร
    •ลดไซท์ของโครงการให้ลง
    •ให้ความสำคัญเรื่องหนี้ต่อทุน ไม่เกิน 1:1
    •รักษาสภาพคล่อง
    •มองหากลยุทธ์การตลาดกระตุ้นการซื้อบ้าน และช่วยเหลือให้ลูกค้าสามารถผ่อนได้
    •ประกาศความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เพราะความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญในธุรกิจบ้าน
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาสาธุครับ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภัยผู้หญิง

    http://hilight.kapook.com/view/31614

    [​IMG]


    ภัยร้ายรายวัน : ภัยผู้หญิง

    ภัยร้ายรายวันประจำสัปดาห์ ขอเตือนบรรดาคุณผู้หญิงที่ชอบไปไหนมาไหนเพียงลำพัง จงระวังมิจฉาชีพที่จะเข้ามาหาคุณในรูปแบบต่อไปนี้

    หากคุณเดินอยู่ริมถนน ในซอย หรือตามสถานที่ต่างๆ แม้จะถึงขั้นเปลี่ยว แต่ก็มีผู้คนสัญจรไม่มาก อาจจะหนาแน่นคับคั่งเป็นระยะ แต่มิจฉาชีพ มักจะอาศัยจังหวะที่มีผู้คนบางตา เช่น ช่วงสาย บ่ายหลังพักเที่ยง หรือช่วงกลางดึก ขับรถจักรยานยนต์ตรงไปหาตัวเหยื่อ เมื่อมิจฉาชีพหยุดรถในตำแหน่งสะดวกมือ ก็จะหยิบขวดน้ำยาเคมีชนิดสเปรย์ เช่น สเปรย์จัดแต่งทรงผม แล้วฉีดใส่ที่บริเวณใบหน้า เน้นที่ดวงตา ประสงค์ให้เหยื่อตกใจ จากสิ่งแปลกปลอมที่พุ่งเข้าตา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง

    และในช่วงที่เหยื่อกำลังตกใจ ยกมือทั้งสองปิดหน้า ปิดตา มิจฉาชีพก็จะใช้โอกาสนั้น กระชากกระเป๋าของคุณ แล้วขับรถชิ่งหนีไป

    กรณีต่อมา ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นที่ห้างซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ โดยมิจฉาชีพจะแฝงตัวทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้า

    ผู้ที่เคยประสบเหตุเผย ขณะเดินเลือกสินค้าอยู่ในบริเวณที่ไม่ค่อยมีผู้คน เธอสังเกตเห็นชายคนหนึ่งจ้องมองมาที่เธอด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร แม้ในช่วงแรกจะยังไม่รู้สึกกังวล แต่เมื่อเดินเลือกซื้อสินค้าไปเรื่อยๆ ชายคนเดิมก็ยังคงเฝ้ามอง และเดินตามไปในทิศทางเดียวกันตลอด​

    เธอเริ่มสังเกต ก็พบว่า ชายคนดังกล่าวไม่มีรถเข็นหรือตะกร้าใส่สินค้า เขาไม่ได้เดินเลือกซื้อสินค้า นอกจากคอยจ้องมอง และเดินตามเธอ​

    เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจึงตัดสินใจเข็นรถใส่สินค้าเข้าไปในบริเวณที่มีผู้คนคับคั่ง และหยุดอยู่ในบริเวณดังกล่าว พร้อมกับมองกลับไปหาชายคนนั้น เพื่อสังเกตว่าเขามีท่าทีอย่างไร หรือจะเดินเข้ามาใกล้เธออีกหรือไม่​

    แม้ในขณะนั้น กลุ่มลูกค้าจะกระจายตัว เธอก็พยายามเดินเข้าไปในบริเวณที่มีผู้คนคับคั่งอีกครั้งไม่นาน ชายน่าสงสัยคงจะรู้สึกว่า เหยื่อเริ่มรู้ตัว เขาจึงเดินหายไป โดยไม่เลือกซื้อสินค้าแม้แต่ชิ้นเดียว​

    เพราะฉะนั้น หากคุณผู้หญิงจะต้องเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ถ้าเป็นไปได้ ควรหาเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วย หรือถ้าจำเป็นจะต้องไปเพียงลำพัง อย่าอยู่ในที่เปลี่ยว หรือผู้คนบางตา จงระมัดระวังทรัพย์สินให้ดี หากจะต้องเดินริมถนน ควรสะพายกระเป๋าไว้ทางด้านที่ไม่ติดกับถนน

    ที่สำคัญ ควรหมั่นสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบข้าง หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัย มีท่าทีพิรุธ ให้พยายามอยู่ในกลุ่มคน หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย​


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต​
     

แชร์หน้านี้

Loading...