สวดมนต์บทใดที่ทำให้คุณมีชีวิตดีขึ้น

​

ท่านสมาชิกคิดว่าอานิสงฆ์จากการสวดมนต์บทใดที่ทำให้ชีวิตของท่านเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ สังคม หน้าที่การงาน คนรอบข้าง ฯลฯ

สำหรับเรา รู้สึกว่าคาถาชินบัญชรทำให้ชีวิตเราเจอแต่คนดีๆ มีคนเมตตา ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะคะ แต่รู้สึกว่าทำสิ่งใดก็ค่อนข้างราบรื่นหรือมีคนคอยช่วยเหลือ สนับสนุนเสมอ

อีกบทหนึ่งก็คือกล่าวอุทิศส่วนกุศลให้ญาติ เทวดา สัมภเวสี เจ้ากรรมนายเวร รู้สึกว่าชีวิตไม่ค่อยมีอุปสรรคมากมายเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็จิตไม่ตก

อันนี้เป็นแค่ความเชื่อส่วนตัวนะคะ ขอเพื่อนสมาชิกช่วยร่วมเล่าประสบการณ์อานิสงฆ์จากการสวดมนต์หรือคาถาต่างๆ ด้วยค่ะ

 

จำได้บทเดียวเเละสวดเป็นประจำก็คือ" พระคาถา ชินบัญชร "

 

ในพระไตรปิฏก มีการกล่าวอ้างถึงภิกษุรูปหนึ่ง ที่มีความสามารถในการสวดมนต์ได้มากตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ เมื่อตายไปแล้วผลบุญจากการสวดมนต์นั้นคือ เกิดเป็นปลาทอง คิดง่าย ๆ นะ เราเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาท่องแบบไม่รู้เรื่องอ๊ะ มาท่อง ๆ ๆ ๆ แล้ว คิดต่ออีกสิ ว่าเรารู้เรื่องใหมที่เอามาท่อง มาสวดนะ ให้คิดนะคิดก่อนตอบ

 

เรื่องนี้มีที่มาที่ไป ควรยกมากว่าวโดยระเอียด มิใช่จู่ๆจะได้เกิดเป็นปลาทอง
การสวดมนต์แม้ไม่รู้คำแปลก็มีอานิสงส์ ของการภาวนา
เป็นพุทธานุสติ ธรรมมานุสติ สังฆานุสติ ถ้าจิตไม่เผลอ จะไม่มีการลงสู่อบายภูมิทั้งสี่
สวดจนจิตนิ่งดีแล้ว ยังทำให้เกิดปัญญา มีดวงตาเห็นพระสัจจะธรรมโดยง่าย

การสวดมนต์ ยังสามารถทำให้ถึงซึ่งพระนพาน ก็ยังได้ อานิสงส์มิใช่น้อย

...................................................................................................................................

​

ดังปรากฏในงานของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี จางวางมหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 ที่ได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จโตมาเทศน์ที่บ้าน
ครั้นพลบค่ำ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตพร้อมลูกศิษย์ได้เดินทางจากวัดระฆังมายังบ้านของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี ซึ่งในขณะนั้นมีอุบาสก อุบาสิกา นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันเป็นจำนวนมาก ด้วยต้องการสดับรับฟังการเทศน์ของท่านเจ้าประคุณ ณ ที่เรือนของท่านเจ้าพระยา

เจ้าประคุณสมเด็จโต ได้ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงกล่าวบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจบแล้ว ท่านจึงเทศน์ “ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ”

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้กล่าวว่ายังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย
เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไร

การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผล จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี 5 โอกาสด้วยกันคือ
• เมื่อฟังธรรม
• เมื่อแสดงธรรม
• เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์
• เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
• เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ

การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม

การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ

• กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
• ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
• วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาดหากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียว

อาตมาภาพ ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน

การสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดับพอสมควร ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนจิต ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย ได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก
ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์ ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย ได้อย่างดีเยี่ยม

ดูก่อน.. ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้ การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระรัตนตรัย ความกลัวก็ดี ความสะดุ้งกลัวก็ดี และความขนพองสยองเกล้าก็ดี ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดีจะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั่นแล..

 

คนที่สวดมนต์โดยที่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงนั้น อย่างน้อยก็ได้สมาธิค่ะ สมาธิในการท่องบทสวดมนต์ก็คล้ายกับเป็นการฝึกจิตให้เป็นสมาธิขั้นเริ่มต้น อีกทั้งเป็นมงคลของชีวิตอย่างหนึ่ง และถึงแม้คนสวดจะไม่รู้ความหมาย แต่มันก็มีผลทางด้านจิตวิทยาเหมือนกัน เช่น รู้สึกกลัวอะไรบางอย่างก็ท่องบทสวดมนต์ แม้จะเป็นบทที่สั้น จำง่าย คนทั่วไปรู้จัก แม้จะไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร อย่างน้อยเค้าก็มีความเชื่อว่าพระจะคุ้มครอง ผลก็คือทำให้จิตคลายจากความกลัวความวิตกนั้นในระดับหนึ่ง

อีกอย่างถึงแม้เราเอาแต่ท่องๆ โดยที่ไม่รู้คำแปล แต่อย่างน้อยก็ได้บุญแล้วค่ะ

ส่วนคาถาชินบัญชรนั้น ในคำแปลกล่าวถึงการอัญเชิญพระพุทธเจ้าทุกพระองค์,พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล และบทสวดที่เป็นมงคลต่างๆ เพื่อมาเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น และคุ้มครองปกปักรักษาผู้สวด แต่นัยยะที่แท้จริงขอคาถานี้นั้น ต้องการให้ผู้สวดพิจารณาและปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ ซึ่งแต่ละองค์ในบทสวดนี้ล้วนดำรงในศีลในธรรม อย่างเช่น พระกุมาระกัสสะปะเถระ ผู้มีวาจาไพเราะ (กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก ฯลฯ) เพื่อให้ผู้สวดดำรงตนในศีลห้า: มุสาวาทา ซึ่งศีลข้อนี้รวมถึง การเว้นจากพูดจาเพ้อเจ้อ หยาบคาย นินทาด้วย

อนุโมทนาทุกความคิดเห็นค่ะ

 

อย่างน้อยก็ได้ทําสมาธินะครับ ผมก็ชอบชินบัญชรครับ สวดบ่อยเกือบทุกวัน
อย่าดูถูกการสวดมนต์การทําสมาธิครับ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ทําให้เจ้าชายสิทธัตถะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้านะครับ
เเม้ไม่รู้ความหมายเเต่ถ้ามีสมาธิ บุญย่อมบังเกิดครับ อย่างน้อยๆใจเราสบายก็พอเเล้ว

 

ต้องอ่านให้จบ แล้วสรุปใจความให้ได้ก่อนครับ... เดี๋ยวท่านอื่นๆ เข้าใจผิด (ส่วนการสวดมนต์นั้น แค่เราคิดว่า "อยากสวดมนต์" แค่นี้ก็เกิดกุศลแล้วครับ ท่าน....

 

สวดมนต์คำบาลี
พร้อมกับมีคำแปลภาษาไทย
จะทำให้เข้าใจความหมายของบทสวดมนตนั้นๆได้ยิ่งขี้น

 

อนุโมทนาครับ

ผมแนะนำ ๔ บทนี้ครับ

พาหุงมหากาฯ, ชินบัญชร, ธัมมจักรกัปวัตนสูตร และ เมตตาพรหมะวิหาระภาวนา

 

การทำบุญต่างๆ ทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง อาทิ
สร้างโบสถ์ ศาลา กุฎิ ผลบุญจะมีบ้านอยู่
ถวายผ้าไตรจีวร ผลบุญจะมีเสือผ้า
บริจาคซื้อที่ดิน ผลบุญจะมีที่ดิน
การทำบุญ จะได้รับผลบุญตอบกลับมา ต้องคอยสังเกตุดู
การสวดมนตร์ เหมือนการกล่าวคำเจริญพร

 

ที่สวดและเปิดฟัง ทุกวันคือ คาถาชัยน้อย (นโม เม) เป็นบทสวดโบราณ ที่หลวงปู่มั่น ให้หลวงปู่ขาวทรงไว้และสืบทอดมาในสายพระป่าอีสานเหนือแถวอุดร สกล สวดปกติที่วัดถ้ำกองเพล
เป็นการสรรเสริญพระพุทธคุณและน้อมมาให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเรา เรียกเทวดามาหมดจักรวาลทีเดียว พูดง่าย ๆ ว่าคาถานี้ คุ้มครองแบบครอบจักรวาล

ธารณปริตร บทสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์อีกบทหนึ่งที่คุ้มครองป้องกันภัยได้สารพัดสวดกันมากในพม่าและภาคเหนือ

ทั้งสองคาถา หาได้จาก หมวดบทสวดมนต์ มีผู้ post แล้วหลายรอบ

สาธุ

 

สวด คาถาชินบัญชร เหมือนกันค่ะ

 

บทที่สวดบ่อย ก็มี อิติปิโส พาหุงฯ บารมี30ทัศ ภัทเทภารตคาถา สัมพุทเธ ขันธปริต โพชฌังคปริตัง โมระปริตัง ยันทุนนิมิตตัง ทุกขัปปัตตา กายคตาสติภาวนา อภิณหปัจเวกขณ์ สวดสลับกันไปแล้วแต่โอกาศครับ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ <!-- / message -->

 

สวดเป็นประจำทุกคืน ตามบทสวดมนต์ของหลวงพ่อจรัญ พระคาถาชินบัญชรตอนแรกคิดว่าคาถานี้ยาวจังจะสวดได้อย่างไรโดยไม่ดูหนังสือเดี๋ยวนี้ท่องขึ้นใจวันละหลายรอบสบายๆ

 

พาหุง มหากา ไงครับท่าน...สวดแล้วก็อ่านคำแปลด้วยซะเลยจะได้เข้าใจ(หลายๆครั้ง)...สวดครั้งต่อไปก็เข้าใจเอง...คือสมองคนนี่มันสุดยอดนะ..สะกิดนิดหนึ่งมันก็แล่น..
อย่าลืมแผ่เมตตาด้วยนะครับ

 

สวดแล้วเกิดสมาธิหรือว่า ปากว่าไป ใจคิดเรื่องงาน หรือเรื่องอื่นๆ?

 

ผมขอเหล้า อ้ะโทษที ขอเล่าต่างหาก
เป็นประสบการณ์จากการฟังครับ แต่ไม่ค่อยอยากจะบอกใครหรอก กลัวว่าจะเอาไปใช้กันไม่ถูกที่ถูกทางจะเกิดบาปกันเปล่าๆ แต่ที่เอามาเล่าก็หวังว่ายังมีคนที่ดีอยู่มากจะนำเอาไปใช้ป้องกันตัวเอง และผู้คนอื่นๆ ได้ คิดเสียว่าถ้าคิดชั่วก็ไม่พ้นนรกแน่นอน...เอ้าเริ่มกันเลยดีกว่า
เรื่องมีอยู่ว่าพระพุทธมนต์..... บทนี้ที่พวกคุณชื่นชอบกันนี้ เมื่อก่อนผมไม่ค่อยชอบเอาซ่ะเลย เพราะผมไม่ชอบที่ผู้คนเอาพระของพระองค์ท่านมาตีกันเป็นราคาที่แพงมากๆ ทั้งๆ ที่ผมก็อยากได้พระของท่านมาบูชาอย่างแรงนิ ทำให้ผมพาลไม่ชอบพระองค์ท่านไปด้วยที่ท่านทำพระออกมาให้คนลุ่มหลงกันมากมา แต่ในเวลานี้ผมก็ต้องยอมแพ้ในพระบารมีของพระองค์ท่าน เพราะผมก็หนีความจริงที่ว่าผมอยากได้พระของท่านมากเหมือนกัน แต่เรามันคนจนครับและพระก็แพง เลยต้องหาวิธีที่ได้พระของท่านมาบูชาโดยใช้เงินน้อยที่สุด ที่คิดได้ตอนนั้นก็คือสวดพระคาถาชินบัญชร เนี่ยแหล่ะ แล้วอธิษฐานขอท่านเอา...เป็นยังไงครับท่านมาจริงๆ แต่ไม่ใช่วัดระฆังน่ะ เป็นพิมพ์เจ็ดชั้นแขนกลมของวัดเกศไชโยแทน แต่ก็ดีใจครับที่ยังได้

 

แล้วหลังๆ ก็มาบ่อย ช่วงหลังจะเป็นกรุวัดพระแก้วด้วย แล้วจะรู้ว่าแท้ไม่แท้เหรอป่าวอันนี้ผมเชื่อในตัวผมเอง และก็ในพระองค์ท่าน ที่ว่าเชื่อตัวเองก็คือดูเทียบพิมพ์ เนื้อจากหนังสือต่างๆ จากคนที่มีของจริง แล้วที่สำคัญผมก็นั่งสมาธิแล้วหัดจับพุทธคุณพระต่างๆ ที่มีคนนำมาให้ดูมากมายจนแน่ใจว่าน่าจะใช่ แต่ก็ไม่ได้ยึดติดน่ะสุดท้ายแล้วเมื่อตายไปก็เอาไปไม่ได้