โอวาทวันปีใหม่ 2549

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย โมฆบุรุษ, 26 มกราคม 2006.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. โมฆบุรุษ

    โมฆบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ก่อนที่จะลืมนะครับ
    ขอนำโอวาทที่หลวงพี่เล็กท่านเมตตามอบให้มาช่วงบ่ายๆวันปีใหม่นะครับ

    ผมจำถ้อยคำจริงๆไม่ได้
    เลยขอเรียบเรียงใหม่ตามความเข้าใจนะครับ
    หากใครได้ฟังพร้อมกัน ช่วยแก้ไขให้ผมด้วยนะครับ

    หลวงพี่ท่านบอกว่า
    ในหลวงท่านก็จะมีพระชนมายุ ๘๐ พรรษาแล้วครับ
    ถ้าเป็นคนธรรมดา น่าจะได้เกษียณออกมาเลี้ยงหลานได้ ๒๐ ปีแล้ว
    แต่นี่ไม่ใช่ ท่านยังต้องดูแลลูกๆอยู่ ลูกทั้ง ๖๐ กว่าล้านคน
    พ่อทั่วๆไปมีลูก ๒-๓ คน หากลูกไม่เชื่อฟัง พ่อก็หมดกำลังใจเอาได้ดื้อๆ
    แต่นี่ลูกมีตั้ง ๖๐ ล้านคน
    ถ้าไม่ใช่กำลังใจของพระโพธิสัตว์ ท่านไม่อยู่แล้วครับ

    แต่เราก็อย่าประมาทนะครับ
    อย่างหลวงพ่อ ที่จริงแล้ว อายุขัยของท่านมีถึง ๑๒๐ ปี
    แต่ช่วงที่ตัดสินใจละขันธ์ ๕ นั้น ก็เพราะว่า ลูกหลานของท่านทั้งพระทั้งฆราวาสเริ่มแตกความสามัคคีกันครับ
    นี่เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งในหลายๆเหตุผลนะครับ

    ในหลวงท่านก็อาจจะมีอายุขัยถึง ๑๒๐ พรรษาเช่นกัน
    แต่ว่าถ้าลูกๆมัวแต่ดื้ออยู่อย่างนี้ ท่านก็อาจจะหมดกำลังใจเอาได้ง่ายๆ และละสังขารปัจจุบันไปก็ได้นะครับ

    หลวงพี่ท่านแนะให้พวกเราช่วยกันตั้งใจทำความดี
    แล้วอุทิศผลบุญนี้ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนะครับ
    เพราะหลวงพี่ท่านเองก็ทำอยู่เป็นประจำเช่นกันครับ

    และอย่าทำให้"พ่อ"ของเราต้องเหนื่อยใจเกินไปกว่าที่สังขารท่านจะรับไหวนะครับ

    หลวงพี่เล่าว่า เมื่อก่อน หากบ้านเมืองเกิดอาเพธ ประชาชนก็จะร้องเรียนให้พระราชาตั้งใจรักษาศีลเป็นเวลา ๑ สัปดาห์ เป็นต้นครับ
    แต่ประเทศเรา มีในหลวงซึ่งตั้งอยู่ในทาน ศีล ภาวนาแล้วครับ
    พวกรองๆลงมานั่นแหละที่ยังไม่ค่อยจะ...เท่าไหร่ครับ (จำคำที่ท่านใช้ไม่ได้ครับ)

    หลวงพี่ท่านยกตัวอย่างประเทศภูฐานมา
    ว่าพระราชาของที่นั่น อายุ ๕๐ กว่าๆเท่านั้นเอง
    แต่ท่านกำลังจะสละราชสมบัติ เพราะประชาชนของท่านเริ่มจะสบายกันแล้วครับ
    คือท่านวางรากฐานของระบบอะไรต่างๆไว้หมดแล้ว
    คนของท่านจะไม่รวยมากนะครับ
    แต่จะมีความสะดวกสบายกันถ้วนหน้า
    (ผมเดาว่า คงคล้ายๆกับเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเราครับ)

    หลวงพี่บอกว่า ไม่ใช่แต่ประเทศไทยของเราที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมเท่านั้น
    ประเทศอื่นก็มีครับ
    แต่ของเขาจะออกไปทางมหายานมากกว่าครับ

    หลวงพี่ท่านเคยไปต่างประเทศครับ
    ไปเจอฝรั่งคนหนึ่ง ห้อยเหรียญพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงครับ
    ห้อยเดี่ยวด้วยครับ
    หลวงพี่ท่านก็ทักว่า เฮ้ย นั่นพระมหากษัตริย์ของผมนี่ คุณเอาไปห้อยได้อย่างไร
    ฝรั่งก็ตอบกลับมาว่า ในหลวงท่านไม่ใช่คนของชาวไทยเท่านั้นครับ
    แต่ท่านเป็นวีรบุรุษของโลกครับ เพราะฉะนั้นเขาจึงเคารพศรัทธาในตัวท่านครับ

    หลวงพี่ท่านก็เลยบอกให้เราดูว่า ขนาดฝรั่งยังเห็นความดีของในหลวง
    ทำไมคนไทยอย่างเราถึงไม่ค่อยเห็นความสำคัญของท่านบ้างเลย

    ส่วนผมมองต่อไปเองอีกครับ
    ว่าครูบาอาจารย์หลายๆท่าน ก็ใช่ว่าจะมีสังขารที่สมบูรณ์แข็งแรงเท่าใดนัก
    ไม่ว่าจะเป็นหลวงพี่เล็ก หลวงพี่สมปอง หลวงตาวัชรชัย (ขอยกตัวอย่างสำหรับสมาชิกที่ศรัทธาท่านนะครับ) และหลวงพ่อบุญรัตน์ พระอุปัชฌาย์ของผม
    ท่านก็มีโรคร้ายติดตัวด้วยกันทุกองค์นะครับ

    ส่วนพระมหาเถระในวัดท่าซุงก็คงจะมีเช่นกันครับ
    เพราะติดตามร่วมรบกับหลวงพ่อมานาน
    เพียงแต่ผมไม่ทราบเท่านั้นเองครับ

    เพราะฉะนั้น ก็ช่วยๆกันถนอมขันธ์ ๕ ของครูบาอาจารย์ของพวกเราด้วยนะครับ
    สมมุติว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน เราก็จะได้มีโอกาสซึมซับธรรมะขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาที่ท่านนำมาถ่ายทอดไว้ให้มากที่สุดไงครับ
    และให้ท่านอยู่เป็นเนื้อนาบุญเพื่อสืบสานพระบวรพุทธศาสนาให้ยั่งยืนนานจนครบ ๕,๐๐๐ ปีด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กันยายน 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...