ว่า ด้วยเรื่องพระธาตุปลอม

ปัจจุบันนี้มีหลายกลุ่มหลายคนออกมาแจกพระธาตุบ้าง ให้เช่าบูชาเสียบ้าง ซึ่งบางครั้ง ก็มีการแอบอ้าง ว่าเป็นของจริงทั้งๆที่เป็นสารกันชื้น เซรามิกบอลหรือไข่มุกถ้ำ โดยอ้างว่าเป็นของสมเด็จองค์ปฐมบ้าง พระปัจเจกองค์ปฐมบ้างพระสารีบุตรบ้าง ทำให้เกิดความสับสนกับผู้ที่รับไปบูชา ซึ่ง ถ้าแค่เกิดความสับสน ก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าผู้บูชา นำสารกันชื้นหรือวัสดุต่างๆไม่ใช่พระธาตุที่ได้รับ นำไปบรรจุเจดีย์ หรือ ฐานพระ อันนี้จะเป็นเรื่องแน่ เพราะจะทำให้อนุชนรุ่นหลังๆ ได้รับความเข้าใจคลาดเคลื่อน จากความเป็นจริง เป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ในเรื่องนี้ เหตุเพราะ ในปัจจุบัน เราอ้างอิง พระธาตุต่างๆตามตำราโบราณที่ตกทอดสืบต่อกันมา และ จากที่ค้นพบในเจดีย์โบราณ ถ้าต่อไปในภายหน้า อนาคตเมื่อมีการ ขุดพบสารกันชื้นหรือวัสดุที่ไม่ใช่พระธาตุในเจดีย์หรือผอบ อนุชนรุ่นหลัง ก็จะเข้าใจว่านี่คือพระธาตุ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง จริงอยู่ที่ว่า การบูชา สิ่งเทียมพระธาตุ(คือสิ่งที่สร้างจำลองเป็นพระธาตุ)ถือเป็นเจดีย์ อย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา แต่ว่า ที่เราพูดถึงอยู่คือการทำความเข้าใจและแยกแยะ สิ่งเทียมพระธาตุกับพระธาตุจริงๆอันเกิดจากพระวรกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยเจ้า ตลอดจนมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ให้ชัดเจน ไม่ปะปนกันกับสิ่งเทียมพระธาตุ


วิธีพิสูจน์พระธาตุว่าแท้หรือไม่(ใช้พิสูจน์พระธาตุที่เรียกว่า พระธาตุพระจักพรรรดิ)

http://palungjit.org/showthread.php?t=174494

ส่วนพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมนั้น ในโลกนี้มีเพียง2องค์ในโลกเท่านั้น คือในเจดีย์พุทธตาล วัดท่าซุง เพราะโดยปกติแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าแล้วนั้น เมื่อสิ้นพระศาสนา ของแต่ละพระองค์แล้ว พระบรมสารีริกธาตุทั้งหลาย ก็จะรวมตัวกันแล้วแตกสลายไป และที่สำคัญ เราเป็นลูกจะเก่งเกินพ่อ นั้นเป็นไปไม่ได้ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน นั้นท่านบารมีล้นฟ้าขนาดไหน บำเพ็ญบารมี มากมายหลายสิบอสงไขย ยังมีพระธาตุองค์ปฐมซึ่งท่านประทานมาเป็นกรณีพิเศษเพียง2พระองค์ แล้วเรา เป็นอะไรกัน บารมีก็มีเท่าหางอึ่ง จะมีพระธาตุสมเด็จองค์ปฐมมากมายเป็นกระสอบๆมาแจกจ่ายกันได้อย่างไร

ส่วนการพิจารณาว่าพระธาตุแท้หรือเก๊นั้น ขอให้ดูที่ น้ำหนัก เพราะพระธาตุนั้นเกิดจากกระดูก ซึ่งมีลักษณะเบา พอกลายมาเป็นพระธาตุ ก็ยังมีลักษณะเบา กว่าหินหรือวัสดุอื่นๆที่มีขนาดและลักษณะคล้ายคลึงกัน
ส่วนการพิจารณาพระธาตุอีกวิธีหนึ่งของให้ยึดตรงตามตำราพระธาตุทีมีมาแต่โบราณเป็นหลัก มิฉะนั้นจะเหมือนเป็นการแอบอ้างพระธาตุของท่านนั้นท่านนี้ โดยที่ไม่มีการตรวจสอบได้ ผมขอยอมรับว่า พระธาตุที่อยู่นอกจากตำรานั้นมีอยู่มากแต่ที่ระบุไว้ในตำราพระธาตุแต่ครั้งโบราณมีเพียง47พระองค์เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ ขอเรียกว่าพระอรหันต์ธาตุไม่ทราบพระนาม เหตุที่เรียกแบบนี้ เพราะนับตั้งแต่พุทธกาลโลกใบนี้ ไม่เคยว่างเว้นจากพระอรหันต์ผู้สิ้นกิเลส เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่สามารถระบุพระนามและไม่มีบันทึกไว้ถึงลักษณะสัณฐานพระธาตุของท่าน



คณะผู้จัด ทำเว็บไซด์ พุทธธรรมธาตุ

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุ ..

 

น่าคิด....น่าคิด
อนุโมทนากับความรู้ใหม่ๆครับ เบิกปัญญาจิงๆ

 

เรื่องนี้บอกยากครับ
เเต่พระธาตุองค์ปฐมไม่ได้มีเเค่
สององค์ครับเเน่นอนครับ ๑๐๐๐%

 

เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ

ช่วยๆกันตรวจสอบดูแลดีแล้วครับ

และยิ่งตามตำราก็จะยิ่งดีมากเลยครับ

 

พระธาตุที่เยอะต้องหลวงปู่ครูบาวงศ์ครับ ลำพูนนี่เองครับ

 

เห็นด้วยกับหลวงพี่ครับ

อนุโมทนาครับ

 

ของอย่างนี้อยู่ที่ความเคารพไม่ใช่หรือครับ หากจิตเราถึงท่านนึกถึงท่านก็เป็นอันว่าใช้ได้มิใช่หรือครับ

 

ขอแสดงความคิดเห็นสักนิดนะคะ
ช่วงที่ผ่านมากระแสการบูชาพระธาตุมีมาก จึงทำให้มีสิ่งเทียมพระธาตุเกิดขึ้นมากเพื่อผลประโยชน์ของคนบางคนกลุ่มบางกลุ่ม ซึ่งบางครั้งผู้ที่นำมาแจกจ่ายหรือให้บูชาก็ไม่รู้ว่าแท้หรือไม่ เพราะฉะนั้นผู้ที่รับไปบูชาก็ต้องพิจารณาเอา แต่สำหรับเราใช้วิธีพิจารณาตามลำดับดังนี้
1 เทียบตามตำราพระธาตุโบราณที่กรมศิลปากรได้รวบรวมขึ้น ซึ่งหนังสือทุกๆเล่มที่ออกมาจะยึดตามตำรานี้ แม้จะตีความสัณฐานต่างกันแต่ก็ยังยึดในหลักเดียวกัน
2 นำไปปรึกษาผู้ที่มีความรู้เรื่องพระธาตุอย่างแท้จริง ซึ่งท่านเหล่านี้จะศึกษาพระธาตุมาเป็นเวลานาน เห็นพระธาตุผ่านตาผ่านมือมามาก ในพลังจิตก็มีผู้ที่มีความรู้แบบนี้หลายท่านอยู่ ลองดูตามในกระทู้นี้
http://palungjit.org/showthread.php?t=133567
3 นำไปให้ครูอาจารย์ตรวจสอบทางจิต
วิธีนี้เป็นวิธีที่ตัวเราเองใช้ในการตรวจสอบพระธาตุ ท่านผู้ใดจะนำไปใช้ก็ได้
ขอให้ได้บูชาพระธาตุแท้ๆกันทุกคนจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ
และขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่นำพระธาตุไม่แท้มาหลอกให้คนบูชารวมทั้งผู้ที่นำพระธาตุแท้(พระอรหันต์ไม่ทราบพระนาม)แต่มาหลอกว่าเป็นขององค์นั้นองค์นี้ให้คนหลงบูชากันด้วย

 

แจกฟรีก็มีปัญหา อย่าเอาไปเลยจะบาปกันเปล่าๆไม่อยากกล่าวถึงพระบรมและพระธาตุมากยิ่งพูดเดี๋ยวจะพากันไปอบายภูมิเป็นแถบๆ

ด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จริงก็มีปลอมก็มี หากไม่มั่นใจบูชาพระพุทธปติมาก่อนกันจะดีเสียกว่า จะได้ไม่มีการณ์ปรามาสกัน เหอะๆๆๆไม่อยากเกิดกรรมงั้น

งั้นขออนุญาติประกาศลาจากบอร์ดแจกฟรีเลยแล้วกัน

เดี๋ยวจะลบกระทู้แจกพระบรมที่แจกฟรีออกให้หมดเลยแล้วกันคนที่ไม่มั่นใจจะได้สบายใจพระพุทธองค์อยู่ที่จิต จิตตั้งมั่นเมื่อไหร่ก็จะถึงพระพุทธองค์เอง

ส่วนพระบรมที่เหลือเดี๋ยวนำไปถวายวัดเองดีกว่าไม่แจกแล้วเบื่อส่วนท่านใดแจกก็สาธุบุญด้วย ขี้เกียจมานั่งตอบคำถาม

เก่งๆกันติ ก็คงจะได้เวลาที่ต้องหากันมาบูชาเองแล้วกัน

พระบรมที่เหลือนำบรรจุองค์พระและพระเจดีย์ดีกว่า อานิสงส์สูงกว่าแจกคนตั้งหลายเท่า

เข้าท่าดีเนอะข้อความของหลวงพี่ชัยภัทร เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ปัจจุบันนี้คนเราไหว้พระ(พระพุทธรูป)เพราะอะไร
เพราะเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า
เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เราระลึกถึงพระพุทธเจ้า
เพราะเป็นสิ่งศักสิทธ์
ถ้าไหว้เพราะเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ทำไมพระแตกพระหัก หรือผงดินที่เคยเป็นพระมาก่อนกลับถูกมองข้าม ไม่มีใครสงใจให้ความเคารพ
ถ้าไหว้เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เราระรึกถึงพระพุทธเจ้า ก็แสดงว่าเรายังยึดติดกับวัตถุ ถ้างั้นเราเห็นอะไรที่ทำใหเราระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้ก็น่าจะไหว้ด้วย เช่นรูปพระ ต้นโพธ์ ธรรมจักร บางครั้งเราเห็นรูปพระพุทธเจ้าที่อยู่ในกระดาษหนังสือพิมพ์ บางคนกลับนำไปหอของ บางคนขยำทิ้ง บางคนเหยียบย่ำ
ถ้ามองว่าเป็นสิ่งศักดิ์ิสิทธิ์ แล้วความศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่ตรงไหน การผ่านการปลุกเสกหรือ หรอนั่งเพ่งจิต ถ้าหากเป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะเป็นกล่องที่ใส่พระก็ศักดิ์สิทธิ์ได้สิ
ว่ากันว่า อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับใจของเราเองนั่นแหละที่จะมอง
จะว่าไปแล้ว พระพุทธศาสนา มิได้ให้ความสำคัญอยู่ที่การกราบไหว้พระ หรือสิ่งอื่นใด
แต่อยู่ที่ใจที่จะกระทำตน แต่การไหว้พระก็ถือเป็นการสร้างอนิสง รวมถึงเป็นการกำหนดจิตให้ตั้งมั่นอยู่ที่องค์พระไม่วอกแวก แต่ก็ไม่ไดให้ยึดติดกับวัตถุมากไปเหมือนปัจจุบัณนี้
ประเทศไทย เชื่อว่าจะไม่ค่อยมีบ้านไหนที่มีพระน้อยกว่าสองหรือสามองค์ ทั้งๆที่พระก็คือพระหรือพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน แต่การบูชาพระในปัจจุบันคือเป็นการกราบไหว้เพื่อขอ และให้ความสำคัญอยู่กับอภินิหารความสักสิทธ์ของพระแต่ละองค์ทั้งสิ้น
เคยไหมที่จะไปวัดแล้วไหว้พระเพื่อสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้าเพียงอย่างเดียวโดยที่จะไม่ขอพร ขอโชค ขอลาภ.......
สรุป เราไหว้พระเพราะ ขอ....ให้พบกับสิ่งที่ต้องการ และไม่พบในสิ่งที่ไม่ต้องการ
เราไหว้พระเพราะเพียงเพื่อยึดติดในวัตถุ ตามจารีตที่ถูกปลูกฝังมา โดยมีศรัทธาบ้าง และไม่มีบ้าง
ถึงพระธาตุจะเป็นตัวแทนจากพระพุทธเจ้าโดยตรงแต่เราก็ยังไม่สามารถเข้าถึงพุทธะได้เพราะเรายังยึดมั้นถือมันในรูปพระพุทธเจ้าที่เป็นวัตถุ เพราะมันจะแสดงภาพให้เห็นได้เลย



เขียนไปก็งงไปครับ แต่จริงๆอยากจะสื่อให้เห็นว่าในตอนนี้เราไหว้พระเพราะอะไรกันแน่ แล้วเรายังหลงยึดติดในวัตถุมากน้อยแค่ไหน พระพุทธศาสนาสอนให้เราปล่อยว่าง แต่เราก็ยิ่งจะไปยึดมั่นถือมั่นมากขึ้น เรากำลังหลงลืมแก่นของพระศาสนาไปหรือเปล่าครับ....



จากเด็กศาสนาและปรัชญา......

 

ไหว้สิ่งอันเป็นเหมือนตัวแทนพุทธ ธรรม สงฆ์ แล้วคิดอะไรหรือได้อะไรขึ้นอยู่กับระดับสติและปัญญา(ภูมิธรรม)ของแต่ละคน ผมว่าปัจจัตตังนะครับ โต้แย้งกันคงไม่สิ้นสุด

 

อนุโมทนา สาธุการฯ ของบางอย่างควรอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ไม่อยากเห็นศาสนาพุทธแพ้ภัยตนเองด้วยการกระทำปรามาสด้วยพุทธบริษัท ทั้ง2ฝ่ายภูมิธรรม ดูอย่างศาสนาบางศาสนาที่อ้างว่าโลกแบน หรือโลกเป็นศูนย์กลางจักรวาล ที่สาวกของศาสนานั้นปรุงแต่งจิตขึ้นมา ด้วยหวังในอำนาจ ความน่าเชื่อถือ และลาภสักการะ อยู่มาวันนึงก็ต้องแพ้ภัยตนเอง ประชาชนก็เสื่อมความศรัทธาไปส่วนหนึ่ง (ในที่นี้ไม่ได้กล่าวว่าศาสนาดังกล่าวนั้นไม่ดีแต่ประการใด แต่ผิดที่สาวกผู้ประกาส เผยแผ่คำสอน) เช่นเดียวกันกับเรื่องพระธาตุ พระบรม ถ้าวันนึง พิสูจน์ได้ว่ามีจริง มีปลอม คนรุ่นหลังจะพากันสิ้นศรัทธาในพระศาสนาเสียหมด อนุโมทนาครับแก่คนที่เจริญในธรรม

 

มีครั้งนึง ชาวบ้านแถวบ้านผม ตื่นตระหนกกันใหญ่พากันไปหาพระธาตุเสด็จที่อยู่บริเวณกองทรายหน้าบ้านหลังหนึ่ง ได้กันไปเป็นกอบเป็นกำ พอผมเอามานั่งพิจารณาไปมาแล้ว "ยาก" ที่จะมีแบบนี้ จึงไปยืนมองสถานที่เกิดเหตุอยู่พักหนึ่ง ที่นั่นเหนือกองทรายขึ้นไปเป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง คืนก่อนพบพระธาตุมีพายุฝนแรงมาก หม้อไฟฟ้าระเบิด เป็นประกายไฟ อ่อ จุดนี้เอง ทำให้คิดได้ว่า พระธาตุนี้ที้แท้คือ สารเคมีที่ระเบิดออกมาจากหม้อแปลงไฟฟ้า มีลักษณะกลม ใส หลายสีหลายชนาด คล้ายแก้ว หากคนไม่คุ้นเคยหรือได้เคยพบเห็นพระธาตุ บรมธาตุแท้ๆที่บรรจุไว้ในพระเจดีย์ (ยกตัวอย่างพระธาตุวัดสระเกศ มีรูปถ่ายให้เห็นชัดเจน)จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นของปลอม ปรากฏว่าพอผมบอกกล่าวไปยังชาวบ้าน ถึงเรื่องราวที่เป็นเหตุเป็นผล บางคนก็ยังไม่เชื่อ นำไปให้เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าดู ซึ่งเขาก็ยืนยันว่า นี่แหละสารเคมีจากหม้อแปลง เอเป็นประจำ งานนี้เลยแห้วไปตามๆกัน บทเรียนของเรื่องนี้คือ ต้องมีสติสัมปชัญญะ ของบางอย่างควรอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ อย่านำมาปะปนกัน มิเช่นนั้นจะเกิดผลร้ายแรงต่อตนเอง ผู้อื่น และพระศาสนาอย่างคาดไม่ถึง

แนะนำว่าพระธาตุแท้ ให้ไปสักการะตามองค์พระะาตุที่เชื่อว่ามี หรือมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นของแท้แน่นอน เช่น พระเจดีย์ภูเขาทองวัดสระเกศ กรุงเทพฯ เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่ ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ได้รับจากเนปาล(มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) ส่วนพระธาตุ พระบรมธาตุที่อื่นๆก็สามารถสักการะได้ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาว่าพระมีบรม หรือพระธาตุอยู่ ณ ที่แห่งนั้น หากแต่จะว่าไปแล้ว หากใช้จิตสักการะ ไม่ได้ใช้กาย แม้พระธาตุจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสืก็สามารถบูชาได้ครับ ฝากไว้ให้คิดกัน

 

การทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุครั้งที่ ๑ (บรมบรรพต วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร - ภูเขาทอง)

ในรัชกาลที่ ๕ พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒ คราว คือคราวแรก โปรดให้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุที่ได้รักษาไว้ในพระบรมราชจักรีวงศ์มีกระบวนแห่ออกจากพระมหาราชวังไปประดิษฐาน ณ โรงพระราชพิธีที่ บรมวัดสระเกศในวันศุกร์ เดือนยี่ ขึ้น ๑ ค่ำ ปีฉลู นพศก จุลศักราช ๑๒๓๙ ตรงกับพุทธ ศักราช ๒๔๒๐ ได้เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์ใหญ่บน บรมบรรพต

การทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุครั้งที่ ๒

การบรรจุพระบรมสารีริกธาตุครั้งที่ ๒ นั้นมีเรื่องว่า เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๑ มิตเตอร์ วิลเลี่ยม แคลกตัน เปปเป ชาวอังกฤษได้ขุดพบอิฐธาตุใน พระสถูป ณ ที่ใกล้ตำบลปิปราหวะ ตั้งอยู่ปลายชายแดนเนปาล คือเมืองกบิลพัสดุ์ มีอักษรจารึกเป็นอย่างเก่าแก่ที่สุดในอินเดียบอกว่าเป็นพระบรม สารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า คือส่วนที่กษัตริย์ศากยราช ในกรุงกบิลพัสดุ์ได้รับแบ่งปันในเวลาที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เวลานั้นมาเครสเคอสัน เป็น อุปราชครองอินเดียอยู่ แต่ก่อนเคยอยู่ที่กรุงเทพฯ มีความคุ้นเคยกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ปรารภว่า สมเด็จพระเจ้า แผ่นดิน ที่เป็นพุทธศาสนูปถัมภกมีอยู่ในโลกปัจจุบันนี้ แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่พระองค์เดียว มีความประสงค์จะถวายพระบรม สารีริกธาตุนั้นแด่พระองค์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุมเปรียญ) แต่ครั้งยังเป็นพระยาสุขุมนัยวินิตเป็นผู้แทน ประเทศไทย ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุนั้นและครั้งนั้น พวกที่นับถือพุทธศาสนาในนานาประเทศ คือ ญี่ปุ่น พม่าลังกาและประเทศไซบีเรีย ต่างก็ได้ส่งฑูตเข้ามาทูลขอพระบรมสารีริกธาตุนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานไปตามประสงค์ พระบรมสารีริกธาตุ ที่เหลือนั้น โปรดสร้างพระเจดีย์ทองสัมฤทธิ์เป็นที่บรรจุ แล้วโปรดให้ประกอบพระราชพิธีบรรจุในพระเจดีย์บนยอดบรมบรรพตเมื่อวันที่
๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๔๒ การบรรจุพระบรมสารีริกธาตุคราวนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรจึงเสด็จ พระราชดำเนินไม่ได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมขุนนครราชสีมา เสด็จแทนพระองค์

 

กราบประทานอภัย ผมจะไม่บอกว่าผมคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ผมรู้ว่าพระบรมสารีริกธาตุหรือพระธาตุนั้น จะมีเทวดารักษาอยู่ และที่ว่าพระธาตุเคลื่อนที่หรือย้ายไปที่นั้นที่นี้ก็ด้วยว่าเทวดาท่านนำไป ส่วนท่านจะนำไปให้ใครไปอยู่กับใครนั้น ท่านก็ต้องรู้ถึงการประพฤติปฏิบัติตนของผู้ที่ท่านจะนำไปให้ไปอยู่ด้วยว่า เป็นคนดีพอ น่าที่จะนำไปให้หรือไปอยู่ด้วยหรือไม่ แต่ประเภทที่นำมาแจกนำมาขาย( พูดตรงๆ )ก็ใช้ปัญญาไตร่ตรองพิจารณากันเอาเอง แต่พูดกันง่ายๆว่าคนที่ยังไม่ดีพอหรือไม่ดีจริง ท่านจะไม่นำมาให้หรือไม่มาอยู่ด้วยหรอกครับ

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พระชยภัทร
แจกฟรีก็มีปัญหา อย่าเอาไปเลยจะบาปกันเปล่าๆไม่อยากกล่าวถึงพระบรมและพระธาตุมากยิ่งพูดเดี๋ยวจะพากันไปอบายภูมิเป็นแถบๆ

ด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จริงก็มีปลอมก็มี หากไม่มั่นใจบูชาพระพุทธปติมาก่อนกันจะดีเสียกว่า จะได้ไม่มีการณ์ปรามาสกัน เหอะๆๆๆไม่อยากเกิดกรรมงั้น

งั้นขออนุญาติประกาศลาจากบอร์ดแจกฟรีเลยแล้วกัน

เดี๋ยวจะลบกระทู้แจกพระบรมที่แจกฟรีออกให้หมดเลยแล้วกันคนที่ไม่มั่นใจจะได้สบายใจพระพุทธองค์อยู่ที่จิต จิตตั้งมั่นเมื่อไหร่ก็จะถึงพระพุทธองค์เอง

ส่วนพระบรมที่เหลือเดี๋ยวนำไปถวายวัดเองดีกว่าไม่แจกแล้วเบื่อส่วนท่านใดแจกก็สาธุบุญด้วย ขี้เกียจมานั่งตอบคำถาม

เก่งๆกันติ ก็คงจะได้เวลาที่ต้องหากันมาบูชาเองแล้วกัน

พระบรมที่เหลือนำบรรจุองค์พระและพระเจดีย์ดีกว่า อานิสงส์สูงกว่าแจกคนตั้งหลายเท่า

 

บูชาเพื่อสัมมานุสติ เพราะฉนั้นอย่าได้ละทิ้งซึ่งสติกันเลย
...................อนุโมทนาสาธุ......................

 

ขอให้กำลังใจกับผู้ที่คิดดี พูดดี ทำดี ทุกคนค่ะ

 

สาธุ สาธุ มีหลายท่านไปธุดง จงกลมๆ แถวท่าพระจันทร์ มีทุกอย่างที่ท่านท่านต้องการ ปากบอกไปไม่เคยไป ( สงสัยถอดกายทิพย์ หรือไม่ส่งศิษย์เอกไปซื้อ นี้พ่อค้าแม่ค้ารับส่งทางไปรษณีย์ด้วยนะ ) พระธาตุอรหันขวดละ 200 มีพระธาตุ 50 ถึง 80 องค์ต่อขวด พระธาตุเม็ดกรวดขวดละ100 -ขึ้นไป ขวดหนึ่งมีมากกว่า 500 องค์ขึ้นไป ปุโฟสารพัดสี ขวดละ70 เท่าขวดยานัต ส่วนแก้วจากพัด ขวดละพัน ใครเกิดมายีงไม่เคยเห็นพระเขี้ยวแก้ว องค์300 เอง แต่ความจิงก็คือความจิงนะครับ หากินกับพระธาตุมีอย่างอื่นแอบแฝง บางอย่าง คิดค่าส่ง คำนวณต้นทุน ก็ยังได้กำไร
มีโอนไปเยอะๆ โอ้ ค่าส่งไม่เกินสามสิบ อิอิอิ ส่งหินมามั่วอ้างว่าเป้นพระธาตุ องค์นั้น องค์ นี้ คนดีขยันทำมาหากิน กินปูนร้อนท้อง โว้ยวาย ส่วนใครทำดีอยู่แล้วผมก็อนุโมทนาบุญกับความดีทุกภพทุกชาติของท่าน สาธุ ส่วนคนไม่เชื่อก็ไปพิสูจน์กันได้นะ ซื้อเยอะมีส่วนลดด้วย อิอิอิ
แหล่งสามร้อยยอดมีขายส่งด้วยนะครับ
สมัยก่อนที่ปากช่องก็มี