โลกร้อน...เสียงไซเรนที่ไม่อยากฟังก็ต้องฟัง!

โลกร้อน...จริงหรือ ถึงป่านนี้คงไม่ต้องถามประโยคนี้กันแล้ว ความรุนแรงและความชัดเจนของอุณหภูมิโลกกลายเป็นกระแสหลักของที่ทุกคนได้ยินได้ฟัง


อุณหภูมิโลกนับตั้งแต่ยุคสงครามกลางเมืองสหรัฐอเมริกา แม้ในบางปีจะกลับลดลง แต่หากมองภาพรวมก็จะพบแนวโน้มที่ชัดเจนว่า อุณหภูมิพุ่งสูงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา


ร้อนที่สุดในโลก

​

ปีที่ร้อนที่สุดของโลกเท่าที่เคยมีการวัดค่ากันมา หรือเท่าที่เคยมีโลกหรือดาวเคราะห์ดวงนี้เกิดขึ้น ก็คือในปี 2548 ฤดูร้อนปีนั้นอุณหภูมิของหลายเมืองในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา และจำนวนวันที่มีอุณหภูมิ 100 องศาฟาเรนไฮต์ขึ้นไปต่อเนื่อง พุ่งทะลุสถิติที่เคยบันทึกไว้ โดย รีโน เนวาดา ทำลายสถิติเมืองที่มีวันที่อุณหภูมิ 100 องศาฟาเรนต์ไฮต์ขึ้นไปต่อเนื่องกันถึง 10 วัน และในวันที่ 19 ก.ค. 2548 อุณหภูมิแตะระดับ 117 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของเมืองนี้

ยิ่งไปกว่านั้นคืออุณหภูมิของกว่า 200 เมืองในภาคตะวันตกของสหรัฐที่พุ่งถึงระดับสูงสุดของตัวเองเช่นเดียวกัน ขณะที่ภาคตะวันออกมีอีกหลายเมืองที่มีอุณหภูมิสูงสุดที่เคยปรากฏมา อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนี้ปรากฏในทุกทวีปทั่วทั้งโลก รวมทั้งในมหาสมุทร คนจำนวนมากมองอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างกังวล โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญภาวะโลกร้อน ซึ่งพบว่าตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา พิสัยอุณหภูมิของมหาสมุทรอันเกิดจากการกระทำของมนุษย์เริ่มทะยานขึ้นเหนือระดับอุณหภูมิที่ขึ้นลงตามปกติ

ผลพวงจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพอาการแปรปรวน เพราะเมื่ออุณหภูมิมหาสมุทรอุ่นขึ้น พายุก็รุนแรงขึ้น ถี่ขึ้น ไม่รวมถึงภัยพิบัติ ความเสื่อมถอยของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ โรคอุบัติใหม่ และภาวะอาหารขาดแคลนที่นับวันยิ่งเลวร้าย เสียงเตือนเรื่องภาวะโลกร้อนเริ่มได้ยินได้ฟังกันมาตั้งแต่ 30-40 ปีก่อน แต่ก็ในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ที่ผู้คนบนโลกหันมาให้ความสนใจ นั่นก็เพราะสถานการณ์ภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ


ไทย...จุดหนึ่งบนแผนที่โลก

​

ดร.ธนวัฒน์ จารุพงศ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพอากาศวิกฤต การแปรปรวนของสภาพอากาศในปัจจุบันมีมากกว่าในอดีตที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ส่งผลให้ปรากฏการณ์สุดขั้วเกิดขึ้น ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือในปี 2548 ซึ่งเป็นปีแห่งสภาพอากาศแปรปรวน คลื่นความร้อน พายุ แผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมากมายทุกมุมโลก

จะเลวร้ายกว่าปี 2548 ได้อีกหรือไม่ คำตอบคือได้ สำหรับประเทศไทย ภาวะโลกร้อนไม่เพียงทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น แต่ส่งผลให้ลมมรสุมมีความรุนแรงและเปลี่ยนทิศทาง คลื่นพายุชายฝั่งมีความรุนแรงและสูงมากขึ้น เปรียบเทียบกับเมื่อ 30 ปีก่อนพื้นที่ชายฝั่งถูกกัดเซาะเป็นบางบริเวณแต่ก็ไม่ชัดเจน หากปัจจุบันพื้นที่ชายฝั่งของไทยจำนวน 2,600 กิโลเมตร ถูกกัดเซาะไปแล้ว 600 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 21% ของพื้นที่ชายฝั่งทั้งหมด อีก 20 ปีก็ถึงคิวกรุงเทพฯ

ทุกวันนี้โลกของเรากำลังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าในช่วงเวลาใดๆ ในรอบ 1 หมื่นปีที่ผ่านมา ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศสูงถึง 385 พีพีเอ็ม เปรียบเทียบกับในช่วง 6 แสนปีที่ผ่านมา โลกไม่เคยมีคาร์บอน

ไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศสูงเกิน 280 พีพีเอ็ม ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทุกคนบนโลกต้องช่วย ปัจจุบันมีเกียวโตโปรโตคอลที่กำหนดข้อผูกมัดประเทศสมาชิก ภายในปี 2555 คุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ไม่เกินจากปี 2533

ดร.ธนวัฒน์ เล่าว่า แม้จะควบคุมได้ตามเป้า หากภาวะภูมิอากาศโลกในอีก 100 ปีข้างหน้า ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศก็ยังจะสูงขึ้นไปถึง 750 พีพีเอ็ม (เป็นอย่างต่ำ) นั่นหมายความว่ามนุษยชาติบนโลกต้องใช้เวลาในการปรับตัวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงอนาคตข้างหน้าอีกไม่ต่ำกว่า 400-500 ปี เพราะคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกไปแล้ว จะยังตกค้างในชั้นบรรยากาศ 200-300 ปีโดยเฉลี่ย

“ปัญหาโลกร้อนผูกพันกับระบบเศรษฐกิจ ถ้าไม่สามารถหยุดยั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โลกทั้งโลกจะพังลง”ดร.ธนวัฒน์ กล่าว


สิ่งแวดล้อมโลก..สิ่ง (ที่) แวดล้อมเรา

​

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนนำมาซึ่งภัยพิบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประเด็นที่ต้องพิจารณาคือความล่อแหลมหรือความอ่อนแอของพื้นที่เมื่อเกิดภัยคุกคาม ไทยจะมีช่วงฤดูแล้งยาวขึ้น มีช่วงฤดูฝนสั้นลง แต่ความเข้มฝนจะมาก ประชาชนอาจเผชิญกับความแห้งแล้งยาวนาน อุทกภัยรุนแรง ทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรของไทยอย่างมาก หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องเตรียมพร้อมก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

“การบริหารจัดการน้ำที่เคยทำในอดีตต้องปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด นี่ยังไม่นับรวมการเตรียมตัวต่อภัยพิบัติอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วง 10 ปีข้างหน้า แน่ๆ และหนักๆ คือน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง และอภิมหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ คลองเตย สาทร ยานนาวา ปทุมธานี นนทบุรีได้เห็น (ท่วม) แน่” รศ.ดร.เสรี กล่าว

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวว่า คงไม่ต้องถามใครอีกแล้วว่าโลกร้อนไม่ร้อน ถามตัวเองนั่นแหละว่าร้อนหรือเปล่า ตัวของเราย่อมรู้ดีถึงความเปลี่ยนในสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้เมืองใหญ่ที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จะมีน้ำท่วมสูง 5-7 เมตร กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในนั้น หากเราจะช่วยกันแก้ไขก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ภาครัฐจะต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญระดับนโยบาย รู้หรือไม่ว่าเวลานี้นักวิทยาศาสตร์ต่างประเทศถึงกับระบุว่า ภาวะวิกฤตโลกร้อนในปัจจุบันถือเป็นโกลบอลสเกลที่เลวร้ายระดับสูงแล้ว

ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล นักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ประชาคมโลกพอจะมีความหวังกับอนาคต เพราะล่าสุดคือออสเตรเลียที่ประกาศรับรองในพิธีสารเกียวโต หรือข้อผูกพันทางกฎหมายที่มุ่งรับมือสภาวะโลกร้อน และแม้สหรัฐอเมริกาซึ่งปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกจะยังไม่รับรองในพิธีสารฯ ในเวลานี้ แต่ท่าทีของนายบารัก โอบามา ก็ให้ความสนใจต่อภาวะโลกร้อน รวมทั้งคณะที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นคณะที่ปรึกษาสำคัญและมีบทบาทอย่างมากในการกำหนดนโยบายสหรัฐ ก็เริ่มปรับเปลี่ยนท่าทีจากเดิม

“โลกจับตามองขณะนี้คือจีน ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก” ดร.ชัยวัฒน์ กล่าว

สุดท้าย ดร.ธนวัฒน์ กล่าวว่า ในวงการวิทยาศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกนั้น ประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นปัญหาสำคัญหรือไม่ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ผลกระทบจะเป็นอย่างไร และจะติดตามผลกระทบเหล่านั้นให้ดีที่สุดได้อย่างไร “ผมว่าดีที่สุดที่เราจะทำได้ คือการหันมาศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับพลังงานสะอาด พลังงานธรรมชาติและนิวเคลียร์”


-------

โลกร้อนในภาพยนตร์

โดย อัคร เกียรติอาจิณ

​

ผู้กำกับจอมโปรเจกต์ “ทรนง ศรีเชื้อ” มีผลงานล่าสุด “2022 สึนามิ วันโลกสังหาร” เข้าฉาย ซึ่งเนื้อหาว่าด้วยอนาคตกรุงเทพฯ ที่กลายเป็นเมืองใต้บาดาล หลังโดนคลื่นยักษ์สึนามิถล่มจนย่อยยับ

หนังฟอร์มบิ๊กเรื่องนี้ สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงภัยพิบัติ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีมนุษย์เป็นตัวแปรสำคัญ

ทรนงปิ๊งไอเดียพล็อตหนังจากความสนใจและความเชื่อส่วนตัว รวมทั้งคำพยากรณ์น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ โดยเขาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานบวกกับจินตนาการ นี่เองมันจึงเข้าข่ายเป็นหนังทำนายชะตากรรมเมืองหลวงไทยใน 13 ปีข้างหน้า เหนืออื่นใดหาใช่แค่ความบันเทิง ทว่ายังคิดไปได้ไกลถึงอนาคตกรุงเทพฯ ที่อาจจมอยู่ใต้น้ำ หรือยิ่งไปกว่าคือกาลดับสูญของโลก

“น้ำไม่ท่วมโลกหรอก แบบในหนังของผมไม่มี...ไม่มี แต่น้ำจะท่วมเฉพาะบริเวณพื้นดินที่อยู่ติดกับมหาสมุทร มันอาจกินเข้ามาราว 30 เมตร นี่คือเรื่องจริง อดีตน้ำเคยท่วมโลก หิมะเคยปกคลุมโลก ความร้อนความแห้งแล้งเคยครองโลก เพราะนี่คือการไม่หยุดนิ่งของโลก ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนพื้นดินอ่อน ถ้าเกิดแผ่นดินไหวที่เขื่อนเขาแหลม กรุงเทพฯ ก็จะไหวด้วย หนังไม่ได้พุ่งประเด็นน้ำท่วม แต่อยากสะท้อน 2 เรื่องหลัก คือการรับมือกับภัยพิบัติ และการสร้างเมืองที่ไม่คำนึงถึงภัย รู้ว่าน้ำจะท่วมแต่ยังทุ่มงบประมาณใหญ่โต สึนามิมีแน่ น้ำท่วมมีแน่ แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมาย เป้าหมายคือถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ประชาชนจะเอาตัวรอดยังไง ผู้นำมีวิสัยทัศน์กับปัญหานี้ยังไง”


��ʵ� ������ - �ſ������ - �š��͹...���§���ù��������ҡ�ѧ����ͧ�ѧ!

 

อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราห้ามมันไม่ได้หรอกค่ะ

 

โลกร้อน....คนอย่าร้อนนะครับ

 

ครับ

 

สงสารโลก

 

โธ่

 

ไม่ต้องโทษใครเลยครับ ก็โทษตัวเองนั้นแหละ รวมทั้งบรรพบุรุษเราด้วย เราทุกคน ตัวผมเองก็ด้วย คนข้าวบ้านก็ด้วย คนกวาดขยะก็ใช้ คนขายบะหมี่ก้ใช้ เอาเป็นว่ามนุษย์ทุกคนแหละครับ

แต่สิ่งที่หนักกว่าคือ การใช้ชีวิตแบบตะวันตก แนวความคิดแบบฝรั่ง ทุนนิยม อุตสาหกรรม ผลิตให้ได้คราวละมากๆ ขายให้ได้มากๆ บริโภคไม่มีวันสิ้นสุด เห้นเชื่อกันจัง ทฤษฏีทุนนิยมแล้วเป็นไงละ ทำลายธรรมชาติไว้มากมันกลับมาเล่นงานเรา เราทำลายมันมาหลายร้อยหลายพันปี

อเมริกา ปล่อยมลภาวะสูงสุด รองลงมาก็จีน ประเทศไหนอุตสาหกกรมเยอะก็ปล่อยเยอะ

มนุษย์ทุกวันนี้ทำตัวเหมือนปีศาจ โลกมันอยู่ของมันดีๆก็ไปถางป่า เอาต้นไม้ออกไป ปลูกตึกก่อปูนอยู่กัน จะทำอะไรใช้พลังงานก็ขุดน้ำมันขึ้นมา ให้ดินมันยุบตัวสูบมาให้หมดโลก
โลกเราใบนี้ไม่มีสิ่งเดียวดีขึ้นแน่คือมนุษย์ ถ้าโลกนี้ปราศจากมนุษย์มันไม่เป้นแบบนี้แน่ สัวต์ชนิดอื่นไม่เห้นมันต้องทำอะไรแบบเรามันก็อาศัยอยุ่มาเป้นล้านๆปี อยู่มาก่อนเราซะอีก แต่พอเรามาอยู่ได้ไม่กี่แสนปี โดยเฉพาะหลังจากปฏิวัติอุตสาหกรรม ราวๆ 2ร้อยปีมานี้ โลกแย่ลงอย่างมากที่สุดในประวัติศาสตร์

แล้วเราจะทำยังไงละเพราะเราไม่มีที่อยู่ที่ไป ก้คงต้องบอกตัวเองและคนรอบๆข้างว่า ใช้ทุกอย่างให้ประหยัดที่สุดน้อยที่สุดคุ้มค่าที่สุด นำกลับมาใช้ใหม่ให้มากที่สุด เราทำได้แค่นี้แหละครับ

 

ตามภาพเลยครับ

พ.ศ. 2522 ​

พ.ศ.2546 ​

​

รูป ธารน้ำแข็งละลาย



แต่ก่อนไม่เป็นทะเล ตอนนี้เป็นแล้ว







[ame=http://www.youtube.com/watch?v=kC8fxkfMBcI]YouTube - สภาวะโลกร้อน[/ame]

​

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=F2XSLuLPEXU]YouTube - Shore Erosion of Thailand[/ame]

วัดขุนสมุทราวาส(ขุนสมุทรจีน) ห่างจาก ก.ท.ม. เพียงแค่ 30 ก.ม. เท่านั้นครับ นั้นหมายความว่า เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพ เป็นเรื่องที่ใก้ลตัวเราแล้วนะครับ


ทุกปี ประเทศไทย โดนน้ำทะเล กัดเซาะ อย่างต่อเนื่อง ทำให้สูญเสียพื้นที่ ปีกว่าละ 3,000 ไร่ต่อปี

วันพุธ ที่ 31 ตุลาคม 2550 ( ปัจจุบัน วันที่ 1 / 06 / 2552 พื้นที่เหล่านั้นโดนกัดเซาะมากกว่าเดิม จนน่าตกใจ )
วัดขุนสมุทราวาส(ขุนสมุทรจีน)กำลังย่ำแย่เพราะน้ำทะเล ตอนนี้ ทั้งอำเภอ จนอยู่ใต้ทะเลเพราะระดับน้ำทะเลที่มากขึ้น เกิดจากน้ำแข็งขั่วโลกละลาย












ภาพจาก google earth ครับ วัดนี้ ยังอยู่ได้เพราะ ได้เงินบริจาค ในการสร้างเขื่อนกั่นน้ำ ส่วนหมู่บ้าน จมอยู่ในน้ำหมดแล้ว





ภาพร้านมองจากทะเล จะเห็นเสาไฟเป็นแนวยาวกลางน้ำ เป็นทางที่เรื่อวิ่งมาตะกี๊


เป็นถนนมาก่อนที่จะจมน้ำ ดูจากระดับเสาไฟ น้ำท่าจะลึกเอาเรื่องเลยล่ะ


หลักเขตกรุงเทพฯ


​

 

ewe

 

ฝนฟ้าคะนอง พายุกระห่ำ แผ่นดินสะเทือน สายลมแปลเปลี่ยน ท้องฟ้ามืดครื้ม น้ำสูงเออนอง จากศูนย์สู่ศูนย์

 

น่ากัวจังคับ

 

แค่นี้ก้ร้อนจะแย่แล้ว sohot

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

 

โลกรั่ว...น่ากลัวกว่าโลกร้อน
ทำไมแผ่นดินไหวทุกวัน-ทั่วโลก?
ทำไมฝนตกแล้วน้ำท่วม?
แผ่นดินหัก ธรณีสูบ จะหนักหนากว่าแผ่นดินไหว!!
"คลื่นยักษ์ไซโคลน" เรารู้จักกันหรือยัง?
โลกรั่วน่ากลัวกว่าเพราะอะไร?
และ...
ความรัก แก้วิกฤติโลกร้อน อย่างไร?
ชมรมจิตจักรวาลศึกษาแห่งโลก และชมรมผู้ประพฤติธรรมแห่งประเทศไทย
ขอท่านร่วมหาคำตอบ พร้อมรับฟังธรรมะบรรยาย และแนะวิธีการแทรกแซงจิตเพื่อพิชิตกิเลส และรับฟังคำชี้เแนะเพื่อรับมือกับมหันตภัยที่เราต้องเผชิญกันอย่างมีสติ
ในหัวข้อเรื่อง
" โลกรั่ว ... น่ากลัวกว่าโลกร้อน"
โดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
นักวิชาการสัมผัสพิเศษ
ในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2552 เวลา 13.00 - 18.00 น.
ณ ห้อง Meeting Room 2 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ​

***สนใจสามารถลงทะเบียนรับฟังที่หน้างาน หรือที่บูทสำนักพิมพ์จิตจักรวาล O-17 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆท้ังสิ้น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-5123176 (ในวันและเวลาราชการ) และ 089-1052727

 

ขออนุโมทนาครับ
รักษาศีล 5 กันไว้ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรมก็จะหลุดพ้นภัยพิบัติต่างๆได้ครับ
คุณธรรมค้ำจุนโลก

 

หมีขาวดูน่าสงสารจัง