۩۞۩ ★บุญโคมไฟระย้าดวงเอก☼ ดวงรอง ۩ วิหารแก้ว☆สมเด็จองค์ปฐม♥ ณ. วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Nar, 29 เมษายน 2008.

  1. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    คุณพี่สมบูรณ์สมกับเป็นเอ็กซาเปิด(expert)จริงๆค่ะ โคมไปสวยงามอลังการประทับใจมากมาย ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมด้วยถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวอันน้อยนิด แต่ก็ดีใจมากๆค่ะ

    อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยใจจริงค่ะ สาธุ
     
  2. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    กราบโมทนาในบุญอันสว่างไสวไฟดวงเอก กับคุณ porch ด้วยครับ
    เป็นเจ้าภาพร่วมกันนะครับ ร่วมปัจจัยมาก็เป็นเจ้าภาพด้วยกัน
    สร้างสรรความเจริญรุ่งเรืองให้พระศาสนาร่วมกันนะครับ

    โมทนากับน้องแอน ด้วยครับ มาเป็นกำลังใจเป็นระยะๆ
    ไม่เหมือนน้องดอกแก้ว ได้เห็นกันเกือบทุกวัน
    นอกจากบางเวลา ก็หายไปนานเหมือนกัน เนาะ
     
  3. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    วันนี้ช่างไฟฟ้าและเป็นช่างแอร์มืออาชีพในคนเดียวกันคือ คุณสมศักดิ์มาที่บ้านผม ผมได้อธิบายเหตุการณ์ให้ฟัง และให้คุณสมศักดิ์ได้ดูโคมดวงเอก ดูว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ? คุณสมศักดิ์พูดก่อนเลยว่า ปัญหาสินค้าจีนนี้ที่ยังไม่เข้าใจงานอย่างถ่องแท้ ทำให้มีปัญหาในสินค้าหลาย ๆ ชนิด นับว่ายังเป็นปัญหาอยู่ อย่างกรณีโคมดวงเอกนี้ ปัญหาการร้อยสายไฟเมนทั้ง 2 คู่สายกับอีก 1 สายกราวน์ด รวมเป็น 5 เส้น ( ซึ่งเมื่อเดินจริงนั้น ไม่ใช่แค่ 5 เส้น แต่กลับมีการเดินสายตรงบริเวณที่การร้อยสายหนาแน่นที่สุดคือ port ของข้อต่อที่เข้า junction box รวม 12 เส้น สายไฟ 12 เส้นนี้ ถ้าเป็นสายไฟที่มีขนาดตามมาตราฐานสายไฟ THW หรือ VCT หรือแม้แต่สายเคลือบเงินในมาตราฐาน AWG ที่มีขนาดทั่วไปในท้องตลาด ไม่มีทางจะผ่านได้แม้แต่ท่อแป๊บที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 หุ๋นด้วยซ้ำไป มิใยต้องพูดถึงบริเวณข้อต่อที่มีรูเข้าออกแค่ 4 หุ๋นนิด ๆ แถมเป็น 4 หุ๋นที่หักฉาก ภาษาที่คุณสมศักดิ์เรียกเหตุการณ์นี้ เรียกว่า รูภายในมีขนาดต่างในทางลบและองศาการบังคับสายไม่ค่อยเป็นค่อยไป คือไม่ค่อย ๆ โค้ง หรือไม่เปิดกว้างมาก

    ดังนั้น วิธีแก้มีน้อยมาก ซึ่งต่อไปนี้เป็นคำแนะนำที่ไม่ลำดับความสำคัญ

    อ่านต่อ # หน้า
     
  4. kanin_nin

    kanin_nin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    864
    ค่าพลัง:
    +3,755
    เหอ ๆ แวะมาเยี่ยมครับ .......ไม่เคยเข้ามาเลย

    แต่เคยได้ยินคุณอาพูดถึงอยู่......สู้ ๆ ครับ ทั้งพี่ณรงค์และคุณอาสมบูรณ์ รวมทั้งผู้ที่แวะเวียนมาให้กำลังใจทุกท่านครับ...

    "o ^_^ o" .......Go Go Fighting !!!!
     
  5. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ต่อจาก #1513

    1. หากไม่อยากแก้ไขอะไรเลย ให้ใช้วิธีเดิมที่โรงงานเขาร้อยมา คือใช้สายเดิมคือขนาด 2X0.75 ตรม. จำนวน 2 คู่สายผนวกเข้าด้วยกันจะเท่ากับ 2X1.5 ตรม. มาเชื่อมในจังค์ชั่นใหญ่ ( เชิงเทียน 16 หลอด+หลอดจำปาอีก 38 หลอด= 54 หลอด ) [ *ถ้าใช้สูตรคำนวนมาตราฐานทั่วไปที่กำหนดค่าวัตต์แน่นอนว่า 40 วัตต์ก็จะได้ 40X54=2160+216=2376 /220=11.0 amps. ] ซึ่งสายไฟขนาด 1.5 ตรม. สามารถทนกระแสต่อเนื่องได้ 5 amps. แต่ทนกระแสสูงสุดชั่วคราวได้ 8-10 amps. ซึ่งวิธีเดิมนี้จากประสบการณ์อันยาวนาน หากเปิดไม่นาน ไม่ต่อเนื่องครั้งละเป็นชั่วโมง ๆ ( ขอให้นับเป็นนาทีจะดีกว่า ) ก็อาจทนได้ แต่ถ้าเปิดครั้งละหลายชั่วโมง ก็ไม่แนะนำ ยิ่งถ้าหากมีการคาดการณ์เลวร้าย ( ซึ่งการคาดการณ์เหตุการณ์ร้ายที่สุดมักติดเป็นนิสัยของช่างไฟและวิศวกรที่ดีทั่วไป ) เช่น มีการเปิดไฟต่อเนื่องครั้งละเป็นชั่วโมง ๆ หรือ สมมุติว่า มีคนเปลี่ยนหลอดจำปาเป็นขนาด 60 วัตต์ซึ่งเป็นไปได้เพราะเกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยไม่ได้ดูคำเตือนที่เขียนไว้ว่า MAX 40 WATT กระแสไฟที่จะต้องผ่านสายไฟก็จะกลายเป็น 17.00 amps. ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสายไฟทั้งหมดของโคมดวงเอกและเกิดไฟลุกได้


    1.1 สายเดิมที่ทางโรงงานร้อยมานั้น นอกจากที่จังค์ชั่นใหญ่แล้ว ยังมีจังค์ชั่นอื่นอีก แต่ไม่เป็นปัญหาเนื่องจากจังค์ชั่นอื่น ๆ นั้นมีจำนวนหลอดเพียงไม่กี่หลอด จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง ที่จะกล่าวถึงนอกจากเรื่องจังค์ชั่นใหญ่ กลับเป็นการ wiring สายที่ทำให้การเปิดสวิทนั้น ต้องแยกไฟออกเป็นชั้น ๆ คือเมื่อเปิดสวิทใหญ่ หลอด 54 หลอดจำติดหมด ตำแหน่งที่ไฟจะสว่างคือชั้นที่มีเชิงเทียน 16 หลอดและส่วนกลางของโคมไฟรวมทั้งส่วนล่างทั้งหมด ในชั้นเชิงเทียน 8 หลอดและสูงขึ้นไปจะไม่ติดเลยแม้แต่หลอดเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่า แบ่งโคมดวงเอกออกเป็น 2 ชั้น เมื่อเปิดสวิทเล็ก ชั้นเชิงเทียน 8 หลอดและส่วนที่สูงขึ้นไปจะติด ทำให้โคมดวงเอกสว่างทั่วกันทั้งดวง


    หมายเหตุ
    *การแยกสวิทเป็นการแยกชั้นแบ่งครึ่งบนและครึ่งล่าง ทั้งนี้เนื่องจากขนาดของแป๊บและข้อต่อเป็นตัวกำหนดขนาดของสายไฟ ทำให้มีความจำเป็นตามนี้ ( หากยังใช้สายไฟชนิดนี้อยู่ )


    **ในจังค์ชั่นใหญ่นั้นสามารถ wiring ด้วยวิธีอื่นได้ดังนี้ ( เชิงเทียน 16 หลอด+หลอดจำปาอีก 32 หลอด= 48 หลอด ) ซึ่งจะทำให้กระแสผ่านสายไฟลดลงมาเหลือ 9.5 amps. ซึ่งอาจทำให้สาย 2X1.5 สามารถทนได้มากขึ้น [ แต่ก็ไม่แนะนำอยู่ดี ] แล้วแยกจังค์ชั่นรองลงไปแยกอีกสายหนึ่งซึ่งจังค์ชั่นรองจะไม่มีปัญหาเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  6. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ต่อจาก #1513 #1515

    ถ้าเห็นว่าของเดิมนั้นดีไม่เพียงพอ เราอาจมาปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    2. หาสายไฟพิเศษที่มีขนาดเล็กมากเป็นพิเศษแต่ทนกระแสไฟได้มาก ๆ ร้อยเข้าไปในท่อแป๊บและข้อต่อเดิม วิธีนี้ก็ต้องดูว่า สายไฟพิเศษนี้จะสามารถเล็กได้ถึงเพียงใด

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  7. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ต่อจาก #1513 #1515 #1516

    3. หากหาสายไฟพิเศษที่มีขนาดเล็กมากแต่รับกระแสไฟได้มาก ๆ ไม่ได้. อาจเลือกวิธีขยายแป๊บจากเดิม 1 นิ้วให้ใหญ่ถึง 1 นิ้ว 2 หุ๋นขึ้นไปโดยต้องทำข้อต่อให้มีรูภายในใหญ่ขึ้นด้วย และที่สำคัญคือ port ต้องให้มีเนื้อที่เปิดกว้างมากกว่ารูของข้อต่อไม่น้อยกว่า 200% ( ยกตัวอย่างของยุโรปจะเปิดเนื้อที่มากกว่า 400% และบางบริษัทเปิดมากกว่า 800% ของขนาดรูข้อต่อก็มี ) วิธีนี้จำเป็นต้องทิ้งแก้วครอบมงกุฏออกไป เพราะสาเหตุบางประการ ส่วนสีทองนั้น อาจใช้วิธีลงรักปิดทองคำเปลวซึ่งก็จะได้สีทองที่คล้ายคลึงกับโคมดวงเอกมากที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  8. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ต่อจาก #1513 #1515 #1516 #1517

    4. หากไม่ต้องการขยายแป๊บให้ใหญ่ขึ้น ก็อาจเลือกวิธีเดินสายไฟแนบแป๊บเดิมด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    4.1 ใช้สายสีใสทอง สีใสเงิน ( ข้อนี้ผมไม่ได้บอกคุณสมศักดิ์ ) วิธีนี้เรามี 2 ทางให้เลือกคือ ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ กับไม่ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ ถ้าไม่ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ เมื่อพาดสายไฟซึ่งต้องมี 5 - 6 คู่สาย พาดผ่านโดยรอบแก้วครองมงกุฏ อาจมีความไม่เป็นระเบียบบ้าง แต่เนื่องจากสีใสทองของสายไฟจะสามารถพรางตาได้มากกว่าวิธีอื่น ๆ เช่น การเอาแผ่นทองเหลืองมาหุ้มสายไฟที่พาดผ่าน

    หมายเหตุ

    4 คู่สายแรกเป็นการรับกับสวิทใหญ่ซึ่งถ้าสายใสทองที่ตอนนี้มีคนสำรองไว้ให้ผมเพื่อรอการสั่งซื้อนั้น ขนาดของสายคือ 2X1.5 ใช้ 4 ทบก็จะเท่ากับสายขนาด 6 ตรม. ซึ่งสามารถรับกระแสต่อเนื่องได้ถึง 27-30 แอมแปร์

    อีก 1 คู่สายใช้กับไฟเปิดทิ้งทั้งคืนหรือไฟชุดเล็ก ซึ่งสาย 2X1.5 ตรม.ทนกระแสต่อเนื่องได้ 5 แอมแปร์ ( ประมาณ 17-18 หลอดจำปาขนาดหลอดละ 60 วัตต์ทีเดียว )
    [ ในส่วนนี้ผมยังอยากให้ใช้สาย 2X1.5 ตรม. คู่นี้แค่ไม่เกิน 500 วัตต์ด้วยซ้ำ เพราะผมต้องการให้คุณณรงค์ติดตั้งตัว dimmer switch ขนาด 500 วัตต์ซึ่งจะทำให้ไฟชุดเล็กสามารถหรี่แสงได้ตามต้องการ 500 วัตต์ก็ประมาณ 8 หลอดจำปา อาจแถมตรงลูกแก้วพญานาคได้ 1 หลอด ]

    อีก 1 คู่สายใช้ทำเป็นสายกราวน์ด ซึ่งมีความจำเป็นต้องจับที่ตัวเรือนโครงเคร่า ไม่ใช่ไปจับที่เหนือโซ่ ( แต่บริเวณเหนือโซ่ผมก็มีอีกจุดหนึ่งสำหรับสายกราวน์ดไว้ด้วย ไม่มีคำว่าประมาทครับ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  9. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ส่วนควบของ #1518

    คุณสมศักดิ์เสนอว่า หากจะเดินสายนอกแป๊บ มี 2 วิธีคือ

    4.2 ใช้ท่อทองแดงขนาด 4-6 หุ๋น ทิ้งดิ่งเป็นแนวตั้งอยู่รอบ ๆ แป๊บที่เป็นแกนกลางยึดน้ำหนักโคมดวงเอกทั้งดวงนี้ อาจใช้ 2 ท่อหรือ 4 ท่อแล้วแต่ความจำเป็น ท่อทองแดงสำหรับน้ำยาความเย็นเครื่องปรับอากาศพร้อมตัวยึดเกลียวด้วยการเจาะทะลุแผ่น plate ทุกแผ่นที่เกี่ยวข้อง ลงรักปิดทองท่อทองแดงก็จะมีสีใกล้เคียงโคมดวงเอก วิธีนี้ก็ยังแบ่งออกเป็นจะทิ้งแก้วครอบมงกุฏหรือไม่ทิ้ง ถ้าไม่ทิ้งก็จะเห็นสายพาดผ่าน ถ้าทิ้งสายไฟก็จะพุ่งตรงขึ้นโซ่ได้แนบเนียน

    4.3 ใช้รางพลาสติคชนิดหนึ่ง เขาเรียกว่าราง wire way พ่นสีทองหรือปิดทองคำเปลว แนบติดกับท่อแป๊บ แล้วแต่จำนวนสายไฟและขนาด และก็เหมือนข้อ 4.2 คือจะเลือกทิ้งหรือไม่ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ

    หมายเหตุ

    ทั้งข้อ 4.1, 2 และ 3 ย่อมแนบเนียนน้อยกว่าการเดินสายในท่อแป๊บเดิมของโรงงาน และเมื่อเทียบวิธีเดินสายในท่อเดิมของโรงงาน การเดินสายไฟชนิดเล็กพิเศษย่อมทำให้โคมดวงเอกสามารถควบคุมแสงสว่างได้สวยกว่าการเดินสายเดิมของโรงงาน ซึ่งการแยกส่วนสว่างเป็นแบบครึ่งบนกับครึ่งล่าง

    การได้สายเล็กพิเศษอาจทำให้เลือกสว่างได้ทั่ว ๆ มากกว่าการแบ่งครึ่งบนล่าง และหากไม่ต้องการใช้ dimmer switch ก็สามารถเลือกเปิดให้สว่างได้ทั่วทั้งชุดมากขึ้นในสวิทเล็ก เมื่อเปิดสวิทใหญ่ก็เท่ากับการเปิดครบทุกหลอดนั่นเอง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  10. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ย้อนกลับมาที่ #1515

    หากไม่ต้องการแก้ไขอะไรเลย คงของเดิมไว้ให้มากที่สุด และง่ายยิ่งกว่าง่าย อีกทั้งสายไฟชนิดเล็กมากพิเศษก็หาไม่ได้ด้วย วิธีที่ดีที่สุดคือ การ wiring สายไฟเข้ากับหลอดจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ กระแสไฟที่ผ่านสายไฟก็จะน้อยลง เพียงเท่านี้ เราก็สามารถลดอัตราความเสี่ยงได้แล้ว เช่น เชิงเทียน 16 หลอดนี้ไม่ตัดออก ตัดแต่หลอดจำปาในส่วนภายในม่านเม็ดแก้วคริสตัลซึ่งก็คือภายในโครงตัวเรือน frame นั่นเอง ตัดให้เหลือ 16 หลอดภายใน รวมกับเชิงเทียนก็จะเท่ากับ 32 หลอด ( ใช้สูตรมาตราฐาน* ก็จะเท่ากับ 6.4 แอมแปร์ ) ซึ่งทำให้สายไฟขนาด 2X1.5 ตรม. ที่ทนกระแสต่อเนื่อง 5 แอมแปร์นั้น ก็แบกรับน้ำหนักขึ้นมาอีกเล็กน้อย ดีกว่าตอนแรกที่รับถึงสิบแอมแปร์มาก และหากจำเป็นก็สามารถตัดออกได้อีก 4 หลอดได้เช่นกัน ถึงแม้จะทำให้ความสวยงาม ความสว่างไสว และความแวววาวของเม็ดแก้วคริสตัลลดน้อยลงบ้างก็ตาม


    หมายเหตุ

    *หากเหลือหลอดเชิงเทียน 16 หลอดและหลอดภายในม่านเม็ดคริสตัล 12 หลอดเท่ากับ 28 หลอดเท่ากับ 5.6 แอมแปร์ ซึ่งเป็นอัตราปกติการทนกระแสต่อเนื่องของสายไฟขนาด 2X1.5

    จบรายงานการสรุปข้อคิดเห็นร่วมระหว่างผมและคุณสมศักดิ์เท่านี้ครับ

    หรือถ้าหากใช้หลอดจำปา halogen 28 วัตต์ จากข้อหมายเหตุ* เราสามารถเพิ่มจำนวนหลอดได้จาก 28 เป็น 38 หลอดได้เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  11. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ข้อคิดส่วนตัวของผมภายหลังที่คุณสมศักดิ์กลับไปไม่มี

    มีแต่ข้อคิดเกี่ยวกับการเพิ่มเติมชั้นกลางของโคมดวงเอกในกรณีที่ยังคงสายเดิม ๆ เอาไว้ และยังเดินสายอยู่ในแป๊บเดิม แต่ในขณะเดียวกันต้องการเพิ่มชั้นกลางที่มี 12 เชิงเทียนนั้นว่า จะทำได้หรือไม่ ?

    คำตอบคือ หากขนาดสายไฟและแป๊บเดิม เมื่อเพิ่มชั้นกลางที่มี 12 หลอดเชิงเทียนเข้ามา สวิทเล็กก็จะกลายเป็นไปเปิดดังนี้ ไล่จากบนลงล่าง

    หลอด 3 หลอดใต้แก้วครอบมงกุฏ+
    ชั้นเชิงเทียน 8 หลอด+หลอดในม่านคริสตัล 4 หลอด+
    ชั้นเชิงเทียน 12 หลอด+หลอดในม่าน 4 หลอด+หลอดบัวสี่เหล่า 4 หลอด+
    ( เว้นชั้นเชิงเทียน 16 ก้านและหลอดในม่าน )+
    หลอด 6 หลอดเหนือลูกแก้วพญานาคราช+
    หลอดลูกแก้วพญานาคราช 1 หลอด
    เท่ากับ 42 หลอด ประมาณ 8.1 แอมแปร์
    ( ซึ่งสาย 2X0.75 ตรม. เพียงคู่เดียวทนได้แค่ 2.5-3 แอมแปร์เท่านั้น )

    หากตัดหลอดออกและต้องบวกกับ
    การใช้หลอดจำปารุ่น halogen 28 วัตต์
    อาจเป็นดังนี้

    หลอด 2 หลอดใต้แก้วครอบมงกุฏ+
    ชั้นเชิงเทียน 8 หลอด+หลอดในม่านคริสตัล 0 หลอด+
    ชั้นเชิงเทียน 12 หลอด+หลอดในม่าน 0 หลอด+หลอดบัวสี่เหล่า 0 หลอด+
    ( เว้นชั้นเชิงเทียน 16 ก้านและหลอดในม่าน )+
    หลอด 2 หลอดเหนือลูกแก้วพญานาคราช+
    หลอดลูกแก้วพญานาคราช 1 หลอด
    เท่ากับ 25 หลอด ประมาณ 3.25 แอมแปร์
    ( ซึ่งสาย 2X0.75 ตรม. เพียงคู่เดียวทนได้แค่ 2.5-3 แอมแปร์ก็ยังพอทนได้ )
     
  12. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    พลังสามัคคี
    ความอดทน ข่มกลั้น
    ความเพียร
    ตวามศรัมธา

    มีมาพร้อม..

    ขอน้อมนอบ โมทนา สาธุการ
    ในบุญ ในคุณความดี ของพวกเรา ทุก ๆ ท่าน

    ด้วยจิตอันเลื่อมใส ยินดี อย่างยอดยิ่ง....

    สาธุ..
    สาธุ..
    สาธุ....

    ...................................................................................
     
  13. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    เชิญร่วมสร้างโคมไฟระย้าบูชาพระประธาน สมเด็จองค์ปฐม ในวิหารแก้ว<!-- google_ad_section_end -->


    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มหาหิน [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2552
    มียอดเงินบุญ รวมทั้งสิ้น 120,824.95 บาท

    วันที่ 12 มีนาคม 2552
    พระคุณเจ้าตุดีฯ โอนเงินบุญ 120,000 บาท มาที่ คุณKratium

    ยอดเงินบุญ จึงเหลือเพียง 824.95 บาท
    (ค่าโอนเงินข้ามจังหวัด กระผมได้แนบในซองจดหมาย ถวายพระคุณเจ้าฯ
    ไม่ได้ใช้เงินวัดฯ ไม่ได้ใช้เงินกองกลางของสงฆ์)

    ต่อมาก็มีท่านผู้ศรัทธา ร่วมบุญมาอีกเป็นระยะ ๆ
    เพราะว่า โคมไฟระย้า โคมย่อย อีกเป็น 10 ดวง

    ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2552
    มีเงินบุญ รวมทั้งสิ้น 17,043.95 บาท

    ขอน้อมโมทนา ยินดี ในบุญ ในอานิสงส์ อย่างยอดยิ่ง

    สาธุ..
    สาธุ..
    สาธุ....

    ..................................................................................................................


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เป็นบุญที่ต่อเนื่อง พวกเราก็คงมาช่วยกันต่อไป....
    โคมไฟย่อย ก็มีอีกหลาย ดวง ครับ

    ...............................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2009
  14. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ตกลงคุณ สมบูรณ์ เอาอย่างไรครับ
    บางทีผมก็ตามไม่ทัน ในความคิด หากผมจะเสนอบ้างก็ขอเป็นกลางๆ
    แบ่งรับแบ่งสู้ ระหว่างความสวยงาม กับความทนทานในการใช้งานและแบบเต็มอัตรา
    ผมไม่อยากให้เน้นความสวยงาม จนเกินไป ด้วยการรีดสาย ลดสายทำนองนั้น
    การลดจำนวนหลอดก็เอาเท่าที่จำเป็นครับ ส่วนตัวผมก็ยังอยากเห็นความสว่างเกือบเต็มร้อยครับ
     
  15. sio191

    sio191 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +601
    ขอร่วมทำบุญ200บาทร่วม บุญโคมไฟระย้าดวงเอก ดวงรอง วิหารแก้ว สมเด็จองค์ปฐม วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม และอื่นๆ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บิดามารดาบูชา และบูชาครูบาอารย์ เทพเทวดาและท่านผู้มีพระคุณทุกๆท่านครับ ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าและครอบครัวและท่านทั้งหลาย มีความเจริญในโภคทรัพย์ และ อริยทรัพย์ เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายด้วยเทอญ
    ขออนุโมทนากับทุกท่านทั้งหมดทั้งมวลครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    ก่อนอื่นขออนุโมทนาคุณ sio191<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2178528", true); </SCRIPT> ก่อนครับ สาธุที่ได้ร่วมทำบุญโคมดวงเอกและดวงบริวารครับ

    *****************************************************

    ตอบคุณณรงค์ครับ

    วันนี้คุณเกษมโทรหาผมตอนบ่ายมาก ๆ แล้ว บอกผมว่า สายไฟที่คุณเกษมหาได้นั้น จะมีหน้าตักประมาณ 2.0 ตารางมิล./ 1 เส้น ทนกระแสต่อเนื่องได้ 15 แอมแปร์ ซึ่งขนาดของสายไฟยังเล็กไม่พอครับ คือยังใหญ่เกินไปมากทีเดียว คุณเกษมจึงบอกว่า คงต้องถือว่าการหาสายไฟพิเศษครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จครับ

    ถ้าเป็นสายขนาด 2 ตรม. นี้ผมได้ทดลองเรียบร้อยแล้ว ไม่ผ่านครับ ผมได้เคยถ่ายรูปและโพสต์ไว้ในกระทู้นี้แล้วด้วย สามารถย้อนกลับไปหาดูรูปได้เลยครับ

    ดังนั้น ขณะนี้ผมคงไม่รอต่อไป ผมจะลุยไปข้างหน้า โดยจะขอเรียนรายละเอียดเท่าที่ผมคิดว่าคุณณรงค์ต้องการนะครับ

    1. คุณณรงค์ต้องการให้เปิดไฟโคมดวงเอกให้ได้หลอดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ( หากจำเป็นก็ตัดออกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ถูกต้องไหมครับ ? )

    2. เมื่อเปิดสวิทใหญ่ให้หลอดไฟส่วนมากติดสว่างทุกหลอด ( เหลือแค่หลอดของสวิทเล็กที่จะว่าต่อไปในข้อ 3. )

    3. เมื่อเปิดสวิทเล็กให้หลอดไฟส่วนน้อยติดสว่างเรืองรองทั่ว ๆ ทุกบริเวณของโคมดวงเอก ไม่ใช่แบ่งเป็นชั้น ๆ เช่น ขอยกตัวอย่างที่ไม่ต้องการนะครับ

    3.1 ตัวอย่างที่ไม่ต้องการที่ 1 เมื่อเปิดสวิทเล็กให้สว่างในส่วนล่างสุดแล้วปล่อยให้ข้างบนมืดมิด

    หรือ

    3.2 ตัวอย่างที่ไม่ต้องการที่ 2 เมื่อเปิดสวิทเล็กให้สว่างเฉพาะด้านบนแล้วปล่อยให้ส่วนล่างมืดมิด

    ซึ่งทั้ง 3.1 และ 3.2 คือวิธีที่โรงงานในจีนเขาเลือก wiring สายมาแบบนั้น เนื่องจากขนาดของรู port เป็นตัวกำหนดขนาดของสาย ขนาดของสายจึงมากำหนดจำนวนคู่สาย จำนวนคู่สายจึงมากำหนดวิธีการเปิดสวิทเล็กครับ

    คราวนี้ก็มาถึงตัวอย่างที่ผมคาดว่าคุณณรงค์ต้องการ

    3.3 ตัวอย่างที่คาดว่าเป็นที่ต้องการของคุณณรงค์นะครับ เมื่อเปิดสวิทเล็ก หลอดไฟส่วนน้อยที่กระจายอยู่ในทุกส่วน ตั้งแต่ด้านบนสุดลงมาถึงล่างสุด จะถูกแบ่งมาเปิดไฟ เพื่อให้สามารถเห็นรูปทรงของโคมดวงเอกได้ครบถ้วน ไม่มืดเป็นส่วน ๆ ไป

    ******************************************************

    ถ้าคุณณรงค์ตอบว่า ถูกต้อง ผมเดาใจถูก คุณณรงค์ต้องการให้เป็นไปแบบที่ผมกล่าวมานี้ สิ่งที่ผมจะทำต่อไป ผมขอเลือกวิธีการเดินสายไฟนอกแป๊บโดยต้องเจาะรูที่ plate ทุกชั้น ตั้งแต่บนลงล่าง ซึ่งไม่ทำให้น่าเกลียดหรือสูญเสียคุณภาพของเหล็กไปครับ ผมเลือกสายไฟสีใสทอง ขนาด 2X1.5 ตรม. ทะลุออกจากจังค์ชั่นบ๊อกด้วยการมุดออกทางรูที่เจาะใหม่ตรง plate นี้แหละครับ จากนั้นก็เดินสายแนบแป๊บด้วยสายรัด พอถึงชั้นบนสุด ก็โผล่สายออกมาจากแก้วครอบมงกุฏพาดสายผ่านขึ้นด้านบนไปเลย

    วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และไม่เสียค่าอุปกรณ์อะไรมากมาย นอกจากการต้องซื้อสายไฟใสทองจำนวน 1 ขด 2,000.- บาท สายไฟชนิดนี้สามารถพรางตาได้ดีที่สุด ดีกว่าทุกวิธีครับ

    หากคุณณรงค์เห็นด้วย ช่วยกรุณาตอบด้วยครับ ว่า เห็นด้วยในทุกรายละเอียดหรือไม่ครับ ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2009
  17. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    rabbit_rabbit_rabbit_;36
     
  18. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    [​IMG]
    จาก #1303 20-05-2009, 06:55 AM
    เป็นรูปที่ผมโพสต์ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ผมทดลองเอาสาย 1X4.0 ตรม. 2 เส้นและสาย 2X0.75 อีก 1 เส้น ก็เต็มรูของแป๊บแล้ว
    .
    .
    [​IMG]
    จาก #1290 18-05-2009, 06:30 PM
    .
    .
    [​IMG]
    #1289 18-05-2009, 06:22 PM
    .
    .
    [​IMG]
    จาก #1291 18-05-2009, 06:37 PM
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013
  19. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ขอบคุณครับคุณสมบูรณ์
    อย่างที่ผมพูดไปแล้ว การปรึกษาหารือเรื่อง โมดิฟาย ดวงเอก มีผมกับคุณสมบูรณ์เท่านั้น
    จะรอคนอื่นคงไม่มีใครมาพูดด้วย ก็ขอสรุปดังนี้ หาก คุณสมบูรณ์ เห็นด้วยก็ทำได้เลยครับ
    ...
    1. ต้องการให้เปิดไฟโคมดวงเอกให้ได้หลอดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หากจำเป็นก็ตัดออกให้น้อยหรืเท่าที่จำเป็นและหมาะสมครับ

    2. เอาแบบข้อ 3.3 เมื่อเปิดสวิทเล็ก หลอดไฟส่วนน้อยที่กระจายอยู่ในทุกส่วน ตั้งแต่ด้านบนสุดลงมาถึงล่างสุด จะถูกแบ่งมาเปิดไฟ เพื่อให้สามารถเห็นรูปทรงของโคมดวงเอกได้ครบถ้วน ไม่มืดเป็นส่วน ๆ ไป

    3. เลือกวิธีการเดินสายไฟนอกแป๊บโดยต้องเจาะรูที่ plate ทุกชั้น ตั้งแต่บนลงล่าง ซึ่งไม่ทำให้น่าเกลียดหรือสูญเสียคุณภาพของเหล็กไปครับ ผมเลือกสายไฟสีใสทอง ขนาด 2X1.5 ตรม. ทะลุออกจากจังค์ชั่นบ๊อกด้วยการมุดออกทางรูที่เจาะใหม่ตรง plate นี้แหละครับ จากนั้นก็เดินสายแนบแป๊บด้วยสายรัด พอถึงชั้นบนสุด ก็โผล่สายออกมาจากแก้วครอบมงกุฏพาดสายผ่านขึ้นด้านบนไปเลย

    วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และไม่เสียค่าอุปกรณ์อะไรมากมาย นอกจากการต้องซื้อสายไฟใสทองจำนวน 1 ขด 2,000.- บาท สายไฟชนิดนี้สามารถพรางตาได้ดีที่สุด ดีกว่าทุกวิธีครับ

    4. เพิ่มก้านเชิงเทียนชั้นกลางอีกชั้น ขอคุณสมบูรณ์ ทำเรื่องสั่งให้ด้วยครับ เนื่องจากเป็นไฟดวงเอก ประดับวิหารแก้ว กับวัดที่สำคัญ
    น่าจะทำให้เลิศที่สุดที่พึงจะทำได้ ผมจะขอร่วม บุญเพิ่มตรงนี้ 10,000 บาท อาจจะขอแรงจากคุณพัชนี ช่วยอีกแรง
    ที่เหลือเงินในบัญชีบุญพอมีอยู่ ก็พอน่ะครับ ไหนๆเราก็ทำกันขนาดนี้แล้ว เอาให้ดีที่สุดครับ

    5. หากคุณสมบูรณ์ ต้องการค่าใช้จ่าย ซื้อสายไฟเพิ่ม ติตต่อคุณสุชาดา ด่วนนะครับ เพราะเธอจะเดินทางไป สัมนาที่ประเทศลาว หนึ่งสัปดาห์ ในวันอาทิตย์นี้(14/6/52)

    ผมและคุณสมบูรณ์ เป็นเพียงแค่ตัวแทนของทุกท่าน ในการออกความคิดและทำ หากท่านใดมีความเห็นอย่างอื่น เชิญเสนอความคิดเห็นมาได้
    ไฟดวงเอกเราเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ทุกท่านมีสิทธิ์ออกความคิดเห็นได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มิถุนายน 2009
  20. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,847
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,840
    รับทราบครับคุณณรงค์ ผมคิดว่าคุณณรงค์ตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วและขออนุโมทนากับคุณณรงค์ด้วยนะครับ

    #1529

    1. ต้องการให้เปิดไฟโคมดวงเอกให้ได้หลอดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หากจำเป็นก็ตัดออกให้น้อยหรืเท่าที่จำเป็นและหมาะสมครับ

    2. เอาแบบข้อ 3.3
    เมื่อเปิดสวิทเล็ก หลอดไฟส่วนน้อยที่กระจายอยู่ในทุกส่วน ตั้งแต่ด้านบนสุดลงมาถึงล่างสุด จะถูกแบ่งมาเปิดไฟ เพื่อให้สามารถเห็นรูปทรงของโคมดวงเอกได้ครบถ้วน ไม่มืดเป็นส่วน ๆ ไป

    3. เลือกวิธีการเดินสายไฟนอกแป๊บโดยต้องเจาะรูที่ plate ทุกชั้น ตั้งแต่บนลงล่าง ซึ่งไม่ทำให้น่าเกลียดหรือสูญเสียคุณภาพของเหล็กไปครับ ผมเลือกสายไฟสีใสทอง ขนาด 2X1.5 ตรม. ทะลุออกจากจังค์ชั่นบ๊อกด้วยการมุดออกทางรูที่เจาะใหม่ตรง plate นี้แหละครับ จากนั้นก็เดินสายแนบแป๊บด้วยสายรัด พอถึงชั้นบนสุด ก็โผล่สายออกมาจากแก้วครอบมงกุฏพาดสายผ่านขึ้นด้านบนไปเลย

    วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และไม่เสียค่าอุปกรณ์อะไรมากมาย นอกจากการต้องซื้อสายไฟใสทองจำนวน 1 ขด 2,000.- บาท สายไฟชนิดนี้สามารถพรางตาได้ดีที่สุด ดีกว่าทุกวิธีครับ

    4. เพิ่มก้านเชิงเทียนชั้นกลางอีกชั้น ขอคุณสมบูรณ์ ทำเรื่องสั่งให้ด้วยครับ เนื่องจากเป็นไฟดวงเอก ประดับวิหารแก้ว กับวัดที่สำคัญ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...