ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ชาวภูเก็ตมั่นใจในแผนซ้อมหนีภัยสึนามิ​

​

ภูเก็ต 21 ส.ค.- หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต พื้นที่หลักซ้อมแผนอพยพภัยสึนามิพร้อม 5 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน มีความพร้อมเต็มที่ ชาวบ้านเชื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากชายหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับเลือกจากคณะทำงานฝึกซ้อมแผนอพยพประชาชนในพื้นที่ที่มีการตั้งระบบเตือนภัยสาธารณะ 6 จังหวัดอันดามัน (ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล) ทำการฝึกซ้อมหลักในวันนี้ (21 ส.ค) มีความพร้อมแล้วทุกด้าน และเชื่อว่าการซ้อมแผนอพยพหนีภัยสึนามิประชาชนและนักท่องเที่ยวจะไม่แตกตื่นตกใจ เพราะจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ทราบล่วงหน้าแล้ว

จากการสอบถามนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทราบว่าแผนซ้อมอพยพหนีภัยสึนามิจะเริ่มเวลาประมาณ 10.20 น. โดยนางประนอม เซ็นสุรีย์ ผู้ประกอบการในพื้นที่หาดป่าตองที่เคยประสบภัยสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยของหอเตือนภัยล่วงหน้าเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ และเข้าร่วมกับการซ้อมแผนทุกครั้งที่ผ่านมา การซ้อมแผนครั้งนี้จะทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทราบว่าเวลาเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะหนีอย่างไรให้ปลอดภัย

สำหรับการฝึกซ้อมอพยพหลบภัยสึนามิและระบบเตือนภัยในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะจำลองเหตุการณ์ให้เกิดแผ่นดินไหว แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้บางพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตและอีก 5 จังหวัด โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) รับข้อมูลจาก TMD ยืนยันเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวเวลา 10.20 น. ขนาด 8.8 ริกเตอร์ บริเวณหมู่เกาะอันดามัน มีโอกาสสูงเกิดสึนามิ อาจกระทบต่อชายฝั่งทะเลอันดามัน

จึงส่ง SMS ครั้งที่ 1 แจ้งแผ่นดินไหว ถึงคณะผู้บริหาร ศภช. ผู้ว่าราชการ 6 จังหวัด และผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งมีแจ้งข่าวเตือนให้ประชาชนได้รับทราบเวลา 10.45 น. และเริ่มให้สัญญาณเปิดการซ้อมพร้อมกันทั้ง 6 จังหวัด จำนวน 79 หอ.-สำนักข่าวไทย

2009-08-21 09:45:12

ที่มา http://news.mcot.net/

 

ขณะนี้ช่อง NBT กำลังถ่ายทอดสด การฝึกซ้อมอพยพเตือนภัยและหลบภัยสินามิ ครั้งใหญ่ประจำปีอยู่ครับ

 

อยากจะไปด้วย แต่ไม่มีทุนทรัพย์ ขอใช้แรงงานแทนได้ไหมครับ...

 

คิดว่า แรงงานก็ยังต้องการอีกมากนะคะ
ยังงัยก็ลองแวะไปคุยดูก่อนนะคะ

ฝากมาอีกทีกันลืม
ข้อความจากคุณ k_isara

หากท่านคิดจะทำงานเพื่อส่วนรวมแล้ว กรุณาวางกำลังใจให้ดีนะคะ
ความเสียสละ ความรับผิดชอบ ความมีวินัย ก็ต้องมีนะคะ
หากท่านตัดสินใจจะไปแล้ว ไปให้ตรงเวลาด้วยนะคะ
อนุโมทนากับผู้ที่มีความตั้งใจดีด้วยค่ะ

 

มาอ่านกันเยอะดีครับ
<table class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">1392 (9 สมาชิก & 1383 บุคคลทั่วไป)</td> <td class="thead">ผู้ดูแลระบบ : 1</td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt1"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1"> <tbody><tr valign="bottom"> <td class="smallfont" style="padding-right: 6px;"> <label for="sel_sort">เรียงแบบ</label>
<select name="sort" id="sel_sort"> <option value="title">ชื่อกระทู้</option> <option value="lastpost" selected="selected">เวลาของคำตอบครั้งล่าสุด</option> <option value="dateline">เวลาของการตั้งกระทู้</option> <option value="replycount">จำนวนคำตอบ</option> <option value="views">จำนวนการอ่าน</option> <option value="postusername">ผู้ตั้งกระทู้</option> <option value="voteavg">คะแนนกระทู้</option> </select> </td> <td class="smallfont" style="padding-right: 6px;"> <label for="sel_order">จัดเรียง:</label>
<select name="order" id="sel_order"> <option value="asc">จากน้อยไปมาก</option> <option value="desc" selected="selected">จากมากไปน้อย</option> </select> </td> <td class="smallfont"> <label for="sel_daysprune">ระยะเวลา</label>
<select name="daysprune" id="sel_daysprune"> <option value="1">Last Day</option> <option value="2">Last 2 Days</option> <option value="7">Last Week</option> <option value="10">Last 10 Days</option> <option value="14">Last 2 Weeks</option> <option value="30">Last Month</option> <option value="45">Last 45 Days</option> <option value="60">Last 2 Months</option> <option value="75">Last 75 Days</option> <option value="100">Last 100 Days</option> <option value="365">Last Year</option> <option value="-1" selected="selected">ตั้งแต่เริ่มต้น</option> </select> </td> </tr> <tr valign="bottom"> <td class="smallfont" colspan="2"> </td> <td class="smallfont" style="padding-top: 6px;" align="right"> <input class="button" value="แสดงผล" type="submit"> </td> </tr> </tbody></table> </td> <td class="alt1">kananun, namsompun, Kongp, jho7799, kumpeang, ปุณกะ, นักศึกษา, ragpon, tape3
</td></tr></tbody></table>

 

มีข่าวเพิ่มเติมเรื่องที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงห่วงใยพสกนิกร ในเรื่องน้ำที่กำลังจะท่วมครับ

ดังนั้นยิ่งยืนยันว่าขอให้พวกเราทุกคน จงช่วยกันและจงอย่าได้ประมาทครับ

 

ยอดตายจากโคลนถล่มในไต้หวันมีเกือบ 500 ศพ​

​

ไต้หวัน 21 ส.ค. - เจ้าหน้าที่กู้ภัยไต้หวัน ทยอยลำเลียงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุโคลนถล่มทับหมู่บ้านห่างไกลทางภาคใต้ของเกาะ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 500 คน

ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยไต้หวัน ทำงานอย่างต่อเนื่องในการค้นหาศพชาวบ้านกว่า 491 คน ที่เชื่อว่าถูกฝังอยู่ใต้ซากบ้านเรือนที่พังเสียหายในหมู่บ้านเสี่ยวหลิน หลังเกิดโคลนถล่มจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นมรกต นอกจากนี้ ทหารไต้หวันยังได้เริ่มฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคตามสถานที่พักพิงชั่วคราว จนถึงขณะนี้มีผู้อพยพจากบ้านเรือนไปยังสถานที่ปลอดภัยกว่า 35,000 คน ทั้งนี้ รัฐบาลไต้หวันคาดว่า การฟื้นฟูสภาพบ้านเมืองให้กลับคืนสู่ภาวะปกติจะต้องใช้เวลาราว 3 ปี

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จับจระเข้ตัวหนึ่งได้ในหมู่บ้านใกล้เคียง โดยจระเข้มีความยาว 1.50 เมตร น้ำหนัก 17 กก. เจ้าหน้าที่ระบุว่า จระเข้ตัวนี้อาจหลุดมาตามกระแสน้ำท่วม จากฟาร์มเลี้ยงจระเข้ในหมู่บ้าน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า อาจมีการพบจระเข้อีกหลายตัว. - สำนักข่าวไทย

2009-08-21 02:21:44

สหรัฐขอให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สอบเส้นทางการเงินเกาหลีเหนือ​

​

สิงคโปร์ 20 ส.ค. - เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐขอให้สถาบันการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ติดตามตรวจสอบเส้นทางการเงินของเกาหลีเหนือ ที่อาจนำไปใช้ในโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธ

นายฟิลิป โกลเบิร์ก ผู้แทนสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานด้านมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่อเกาหลีเหนือ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่สิงคโปร์ในการเยือนเอเชีย เพื่อหาเสียงสนับสนุนการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือว่า สถาบันการเงินจำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างโปร่งใส ดังนั้นจึงขอให้ธนาคารต่าง ๆ เพิ่มการตรวจสอบเส้นทางการเงินเท่าที่จะสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าการติดตามเส้นทางการเงินของเกาหลีเหนือนั้นเป็นเรื่องยาก ผู้แทนสหรัฐมีกำหนดเดินทางมาประเทศไทยในค่ำวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนมุ่งหน้าไปเกาหลีใต้และญี่ปุ่น. -สำนักข่าวไทย

2009-08-20 19:44:56

อิหร่านยอมให้ไอเออีเอเข้าตรวจโรงงานนิวเคลียร์อีกครั้ง​

​

อิหร่าน 21 ส.ค. - ทางการอิหร่านยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ เข้าไปตรวจสอบกิจกรรมที่โรงงานนิวเคลียร์ได้อีกครั้ง หลังสั่งห้ามนานกว่า 1 ปี

เจ้าหน้าที่ทูตของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนิวเคลียร์ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เข้าตรวจสอบเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำมวลเบาที่โรงงานอารัค ซึ่งใกล้จะสร้างแล้วเสร็จไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่เคยห้ามเจ้าหน้าที่จากยูเอ็นเข้าตรวจสอบนานกว่า 1 ปี

นอกจากนี้ อิหร่านยังยอมให้เจ้าหน้าที่ของไอเออีเอ เข้าตรวจสอบพื้นที่เสริมสมรรถนะยูเรเนียมของโรงงานนิวเคลียร์เมืองนาทานซ์ ซึ่งผลิตวัสดุสำหรับทำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ ที่สามารถนำไปใช้ประกอบเป็นหัวรบนิวเคลียร์ได้. - สำนักข่าวไทย

2009-08-21 05:16:57

พายุลมแรงถล่มแคนาดา ตาย 1 ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก​

​

แคนาดา 21 ส.ค.-กระแสลมแรงจัดเทียบเท่ากับพายุทอร์นาโดคร่าชีวิตผู้คนในรัฐออนแทรีโอของแคนาดาไปแล้ว 1 คน ทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก

กระแสลมแรงเทียบเท่ากับพายุทอร์นาโดซึ่งโหมกระหน่ำหลายพื้นที่ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดายังผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน อาคารบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย เที่ยวบินหลายเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติเพียร์สันในนครโตรอนโตถูกระงับ บ้างก็ต้องเลื่อนออกไป ต้นไม้ล้มระเนระนาด หลายพื้นที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

ที่เมืองบลูเมาเทน สถานตากอากาศเลื่องชื่อ ซึ่งอยู่ห่างจากนครโตรอนโต ราว 200 กิโลเมตร ความรุนแรงของกระแสลมสร้างความเสียหายอย่างหนัก รวมทั้งต้องปิดใช้ทางหลวงสายหนึ่ง เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของนครโตรอนโตระวังอันตรายจากกระแสลมแรงจัด.-สำนักข่าวไทย

2009-08-21 15:28:33

เตือนอินเดียเตรียมรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดวงกว้าง​

​

นิวเดลี 21 ส.ค. - รัฐมนตรีอินเดียเตือนว่า อินเดียซึ่งมีประชากรเกือบ 1,200 ล้านคน จะต้องเตรียมพร้อมให้มากกว่าประเทศอื่นในการรับมือกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหญ่ระบาดในวงกว้าง

นายกูลาม นาบี อะซาด รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดีย กล่าวต่อที่ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศ ว่า เมื่อไม่นานมานี้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหญ่ล้วนเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ แต่ขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ อินเดียจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดในวงกว้าง แต่รัฐบาลท้องถิ่นกลับลืมหน้าที่ของตนเองและไม่ทำอย่างเต็มที่ในการรับมือกับโรคนี้ นายอะซาดเผยว่า นับตั้งแต่พบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 36 คน

ความวิตกเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทำให้อินเดียปิดโรงเรียนหลายแห่ง ปิดห้างสรรพสินค้าบางแห่ง การจัดงานต่าง ๆ สะดุด แม้แต่การเปิดฉายภาพยนตร์บอลลีวูดยังต้องเลื่อนออกไป ผู้เชี่ยวชาญบางคนตำหนิรัฐบาลว่าไม่ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และไม่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงอันตรายของเชื้อไวรัสโรคนี้ ขณะที่บางคนเห็นว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทำให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตน้อยเมื่อเทียบกับโรคระบาดอื่นในอินเดีย เช่น ปี 2550 อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคมากถึง 31,268 คน และโรคมาลาเรีย 1,173 คน.- สำนักข่าวไทย

2009-08-21 17:31:02

อนามัยโลกแนะไม่ควรให้ทามิฟลูกับผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 ร่างกายแข็งแรง​

​

ลอนดอน 21 ส.ค. - องค์การอนามัยโลกประกาศข้อแนะนำฉบับใหม่แก่แพทย์ในวันนี้ว่า คนสุขภาพแข็งแรงที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส เช่น ยาทามิฟลู แต่ควรให้แก่ผู้ป่วยเด็ก คนชรา และสตรีมีครรภ์

องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ร่างกายแข็งแรง และมีอาการป่วยไม่รุนแรงนัก หรือป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดาไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส แต่ควรให้ยาชนิดนี้แก่ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะมีอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ สตรีมีครรภ์ คนชราอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และผู้ติดเชื้อเอชไอวี

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังแนะนำว่า ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทุกคนในกลุ่มเหล่านี้ คือ เด็ก ผู้ป่วยอาการหนัก และมีปัญหาการหายใจ เจ็บหน้าอก หรือร่างกายอ่อนแอมาก ควรได้รับยาทามิฟลูในทันที และอาจได้รับมากกว่าจำนวนโดสที่ให้ในปัจจุบัน

ข้อแนะนำล่าสุดขององค์การอนามัยโลกครั้งนี้ ขัดแย้งกับนโยบายปัจจุบันของรัฐบาลหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ที่หน่วยงานสาธารณสุขให้ยาทามิฟลูกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่มีร่างกายแข็งแรงอย่างแพร่หลาย. -สำนักข่าวไทย

2009-08-21 19:34:19

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

21 ส.ค. 52
<O</O
<O</O
เมื่อคนไทย ได้คนกลาง เป็นผู้นำ<O</O
จงระวัง แผ่นดินไหว ให้หม่นหมอง<O</O
อีกผู้นำ คนนี้ เก่งเงินทอง<O</O
ต้องรีบมอง ที่อาศัย ภัยจะมา
<O</O
<O</O
ถ้ามีเรื่อง เช่นนี้ ที่กล่าวขาน<O</O
ช่วยประจาน ให้ระบือ ทั่วเขตคาม<O</O
เพื่อให้คน ได้เตรียมตน ก่อนพระกาฬ<O</O
อีกทั้งมาร มาจับคน จมธรณี
<O</O
<O</O
แสนดีใจ ไทยประกันฯ มีจดหมาย<O</O
ให้รีบไป รับเงิน เกินแสนสอง<O</O
จะได้นำ ทรัพย์นี้ ขึ้นไปจอง<O</O
เป็นเจ้าของ แผ่นดิน ถิ่นหนีภัย
<O</O
<O</O
เมื่อได้ซื้อ ที่นี้ จนสำเร็จ<O</O
จะเริ่มเฮ็ด (ทำ) น้ำท่า ไว้สนอง<O</O
ซื้อโอ่งยักษ์ มาเก็บกัก น้ำฝนนอง<O</O
ให้พวกพ้อง ไว้ได้ใช้ ยามภัยมา
<O</O
<O</O
เหล่าคนดี ผู้ที่ หนีอาศัย<O</O
ต้องร่วมใจ ออกเงิน ซื้อข้าวของ<O</O
เพื่อประโยชน์ ของครอบครัว อย่ามัวตรอง<O</O
ให้พวกพ้อง ได้มีกิน อิ่มสำราญ
<O</O
<O</O
บ้างออกเงิน ออกแรง แข็งขยัน<O</O
สร้างเขตคาม ให้สมบูรณ์ พูนสมหวัง<O</O
อีกน้ำท่า ไฟฟ้า และบริวาร<O</O
ช่วยกันทำ ช่วยกันใช้ สุขกายเอย<O</O
<O</O

 

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]สอนลูกให้รู้จัก ภัยธรรมชาติ[/FONT]​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

​

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>ศ. (เกียรติคุณ) พญ.ชนิกา ตู้จินดา
ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
ภัยธรรมชาติคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวจริงๆ ทั้งพายุใต้ฝุ่นถล่มเมืองร่างกุ้ง ประเทศพม่า หรือเมืองจีนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ดังนั้น เราควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท สอนลูกไว้ว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ หากอาศัยอยู่คอนโดมิเนียม เมื่อเกิดแผ่นดินไหวสอนลูกว่า ควรทําอย่างไร ไปพักที่ไหนให้สํารวจบันไดทางหนีไฟ ที่มีเตรียมไว้เวลาไฟไหม้ รีบหลบลงทางนี้โดยเร็ว ฯลฯ เวลาพาลูกไปทะเล สอนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทะเล ภูเขา ทราย ปลา เช่น ดูสัญญาณ ‘สึนามิ’ เวลาน้ำทะเลพัดเข้ามาคลื่นสูงและยุบฮวบหายไป ทิ้งหาดให้ยาวเหยียด มีปลาเกยตื้น อย่าวิ่งลงไปดู เพราะแสดงถึงภัยทะเลจะเกิดสอนธรรมชาติวิทยาและความรู้ภัยธรรมชาติเสมอๆ ลูกจะเป็นคนรอบรู้และรู้จักป้องกันตนเอง และช่วยผู้อื่นได้ยามมีภัย
</TD></TR></TBODY></TABLE>


[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, sans-serif]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>รศ.ดร.ณรุทธ์ สุทธจิตต์
สาขาวิชาดนตรีศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ควรเริ่มตั้งแต่เด็กอนุบาล โดยเฉพาะคุณครูควรเป็นผู้ที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการสอนให้เด็กๆ เรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันตัวและการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ การสอนก็ต้องสอนแบบสนุก โดยเฉพาะกับเด็กเล็กไม่ใช่มานั่งอธิบาย นั่งสอนเฉยๆ เช่น วิธีหลบภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ก็ให้เด็กๆ วิ่งไปแอบใต้โต๊ะ เป็นต้น ให้เด็กฝึกเรื่อยๆ ทบทวน 1-2 เดือนครั้ง สิ่งหนึ่ง ที่สําคัญคือ เปลี่ยนแนวความคิดใหม่ว่าภัยธรรมชาติไม่ใช่สิ่งไกลตัว แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ให้รู้ทางหนีทีไล่หากเกิดภัยธรรมชาติขึ้นมา


</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top></TD></TR></TBODY></TABLE>[/FONT][/FONT]
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, sans-serif]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

​

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ
ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติ
สอน ให้ลูกรู้จักภัยธรรมชาติ ควรสอนให้รู้ต้นตอของภัยธรรมชาติด้วย ในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมามีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นพายุ แผ่นดินไหว เฮอริเคน หลายคนบอกว่าสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมนุษย์ซึ่งทําให้โลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เกิดภัยพิบัติต่างๆ ดังนั้น พ่อแม่ควรสอนลูก ปลูกฝังให้เขารู้ว่าการกระทําของมนุษย์คนละเล็กละน้อย ก็ส่งผลให้ภัยธรรมชาติเพิ่มหรือลดขึ้นก็ได้ ปลูกฝังตั้งแต่วันนี้เพื่อสร้างนักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ให้ช่วยกันปกป้อง ดูแลและรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ตลอดไป

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พญ.สมสิริ สกลสัตยาทร
ผู้อำนวยการ ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท
เริ่ม จากสอนลูกให้รู้จักธรรมชาติก่อน เช่น ดิน น้ำ ไฟ ลม เพราะเป็นสิ่งที่ลูกสัมผัส จับต้องได้ สอนให้รู้ว่าธรรมชาติให้ประโยชน์มากมาย แต่ก็ทําให้มีอันตรายได้มากที่สุดเช่นเดียวกัน เด็กจะเรียนรู้ได้จากสื่อต่างๆ ถึงอันตรายที่เกิดขึ้นได้ เช่น ไฟป่าอาจเกิดจากความ แห้งแล้ง หรือต้นไม้ที่แห้งและติดไฟเกิดจากความ สะเพร่าของคนที่ไปเที่ยว หรือพายุที่มีผลต่อความเสียหายกับบ้านเรือน ควรสอนให้เด็กรู้จักแต่ไม่ใช่ขู่หรือหลอกให้กลัว เมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆ ในสื่อควรอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจและสอนวิธีปฏิบัติตามด้วยวิธีง่ายๆ เป็นการสอนเรื่องความรู้รอบตัวกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัวของลูก</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>



<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

​

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>พญ.รังสิมา โล่ห์เลขา
กุมารแพทย์ด้านโรคติดเชื้อในเด็ก
เริ่ม จากการให้ความรู้ลูกเมื่อดูทีวี ดูภาพยนตร์ หรืออ่านหนังสือที่มีเรื่องของภัยธรรมชาติมาเกี่ยวข้อง เช่น ข่าวพายุ แผ่นดินไหว สึนามิ เป็นต้น โดยสอนให้ลูกรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ นอกจากภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นได้เองแล้วอีกส่วนเป็นจากการกระทําของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทําลายป่า ใช้พลังงานฟุ่มเฟือย ทําให้เกิดภาวะโลกร้อน และควรแนะนําลูกว่า จะมีวิธีสังเกต ปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อตกอยู่ใน ภัยธรรมชาติ รวมถึงสิ่งที่ลูกและครอบครัวสามารถทําได้เพื่อลดสาเหตุของภัยธรรมชาติ เช่น การปลูกต้นไม้ การใช้พลังงานอย่างประหยัด เป็นต้น

</TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>นพ.มีชัย อินวู๊ด
ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย
ประเด็นใหญ่ๆ ก็มีอยู่สองประเด็นด้วยกัน คือหนึ่ง เป็นเรื่องของธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถห้ามได้ ประเด็นที่สอง คือ เมื่อเกิดแล้วรับมืออย่างไร มีผลตามมาอย่างไร และจะสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างไร เช่น เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ต้องหลบที่ไหนถึงจะปลอดภัย สื่อต่างๆ สามารถนํามาใช้ประกอบการสอนได้ เน้นนะครับว่า ลูกๆ ต้องเข้าใจพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ก่อน เพราะเหตุอาจเกิดขึ้นตอนที่เขาไม่ได้อยู่กับเรา เช่น ที่โรงเรียน เป็นต้น

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>



<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

​

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>นพ.สุริยเดว ทรีปาตี
หัวหน้าคลีนิคเพื่อนวัยทีน กุมารแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ
มี อยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ อย่างแรกคือ สอนทางทฤษฎี เช่น ทางคอมพิวเตอร์ สองคือ การสอนให้ลูกคิดจากของจริง เช่น เหตุการณ์ที่ประเทศพม่า จีน หรือญี่ปุ่น ข้อมูลจากข่าวหรือหนังสือพิมพ์นํามาเป็นประเด็นพูดคุยกับลูกๆ คุยในลักษณะว่า ภัยธรรมชาติมีกี่แบบ แต่ละรูปแบบเกิดขึ้นและรุนแรงอย่างไร เพื่อที่ลูกจะได้รู้จักการป้องกัน อีกอย่างที่สอนได้คือการบริจาค การช่วยเหลือ มีจิตที่อาสา ไม่ว่าในชุมชน โรงเรียนของตัวเอง ที่สําคัญพ่อแม่ควรสรุปด้วยว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นมนุษย์มีส่วนช่วยอย่างไร เพราะฉะนั้นการสอนให้ลูกประหยัดทรัพยากร เช่น น้ำ ไฟ พลังงาน ทุกรูปแบบที่ทําได้ ก็มีส่วนช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยให้ลูกลดการปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติไปด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>นพ.จอม ชุมช่วย
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
สําหรับเด็กวัยอนุบาลไม่ควรตั้งใจสอนมากนักเพราะอาจทํา ให้เด็กวิตกกังวล ได้จากการที่ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอแต่ร่ำรวยไปด้วยจินตนาการ แต่หากมี ข่าวคราวผ่านมาก็ควรถือโอกาสที่จะบอกถึงสาเหตุง่าย ๆ เขาจะมีส่วนช่วยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ และหากเกิดเหตุขึ้นเขาจะทําอย่างไร บอกด้วยว่าเหตุดังกล่าว มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยแค่ไหน เพราะอะไรเพื่อไม่ให้เขาต้องวิตกจริตมากนัก ส่วนเด็กวัยประถมพ่อแม่อาจทําเพิ่มเติมโดยช่วยกันหาข้อมูลและร่วมถกเถียงกัน เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้น ตลอดจนหาโอกาสช่วยเหลือผู้ประสบภัยหากทําได้

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

​

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>อ.พรอนงค์ นิยมค้า
เลขาธิการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก
เมือง ไทยไม่ค่อยมีภัยธรรมชาติ เด็กๆ จึงไม่ค่อยได้รับการฝึกให้รู้จักหลบภัย การฝึกให้รู้จักหลบภัยเป็นประจํา จะทําให้เด็กสามารถปฏิบัติตนได้โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงๆ เล่นเกมแผ่นดินไหว เล่นเกมไฟไหม้ เล่นเกมพายุใหญ่ เพื่อให้เด็กได้ฝึกหลบภัย ชุมชนต้องกําหนดสถานที่หลบภัยไว้ชัดเจน ประกาศให้ทุกคน ได้รับรู้ว่าจะไปหลบภัยที่ไหนจึงจะปลอดภัยที่สุด

</TD></TR></TBODY></TABLE>



<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ
นักวิชาการอิสระ
ถ้า ลูกยังเล็ก สอนผ่านเหตุการณ์ในชีวิตประจําวันจากเรื่องเล็กๆ ก่อน เช่น วันไหนฝนตกหนักแล้วน้ำท่วมแถวบ้าน ชี้ให้ลูกดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อฝนตกหนักมากกว่าปกติ หรือก่อนฝนตกมีลมพัดแรงมากๆ จนต้นไม้หักโค่น อะไรปลิวไปทั่ว มีป้ายหล่นลงมาข้างบ้านหรืออะไรก็ได้ เพื่อให้ลูกรับรู้ทีละขั้นทีละตอน อธิบายให้ฟังง่าย ๆ พร้อมกับชี้ให้ดูว่า ลมพัดปกติเป็นอย่างไร ลมพัดแรงเป็นอย่างไร แต่อย่าเพิ่งให้ดูภาพคนตายหรือความหายนะ ต่อเมื่อลูกโตพอระดับประถมแล้ว จึงอธิบายเหตุการณ์ความรุนแรงจากเรื่องจริงที่เห็น ควรทําผ่านสื่อหนังสือ จนเข้าใจแล้วค่อยให้ดูภาพถ่ายจากทีวี

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>คุณเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป
กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก
ใน ช่วงนี้ มีผลร้ายที่เกิดจากภัยธรรมชาติอย่างมากมาย พ่อแม่สามารถใช้สถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น เป็นประเด็นในการชวนลูกค้นคว้าหาสาเหตุของภัยที่เกิดขึ้น แล้วสอนให้ลูกใช้ชีวิตอย่างไม่เบียดเบียนธรรมชาติ รวมถึงการป้องกัน การดูแลตัวเองและผู้อื่นตามกําลังถ้าต้องตกอยู่ใน สถานการณ์นั้นจริงๆ ช่วงเวลาเช่นนี้สําคัญนัก เพราะจะเป็นช่องทางการเรียนรู้ที่ดีสําหรับลูก สิ่งสําคัญพ่อแม่อย่าลืมใส่เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก ความเมตตาในใจลูก เพื่อเขาจะได้เติบโตอย่างเข้าอกเข้าใจว่ามนุษย์กับธรรมชาติต้องอยู่ ร่วมกัน อย่างพึ่งพิงอิงอาศัยกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พญ.สุธิรา ริ้วเหลือง
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ราชนครินทร์
ควร สอนให้ลูกรู้ตามวัย ด้วยภาษาที่ง่าย และไม่น่ากลัวจนเกินไป เพราะว่าในเด็กเล็กเขาจะมีความกลัวในเรื่อง รอบตัวมากขึ้น โดยเริ่มจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วไปในบรรยากาศที่มีพ่อแม่หรือ คนใกล้ชิดให้ความรู้สึกที่ดีและปลอดภัยกับเด็กค่ะ

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top> </TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>รศ.เกริก ยุ้นพันธ์
อาจารย์สาขาวรรณกรรมสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เมื่อ ครั้งอาจารย์เกริกยังเด็กๆ พ่อของผมจะบอกเมื่อเห็นมดคาบไข่ขึ้นที่สูงๆ เช่นเสาเรือนบ้าน พ่อจะบอกว่า เดี๋ยวฝนจะตกหนักน้ำท่วมพื้น มดจึงคาบไข่หนีน้ำ ถ้าท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆฝนแต่อากาศอบอ้าว ลมไม่พัดเคลื่อนไหว พ่อจะบอกว่าเดี๋ยวฝนจะตกหนัก ถ้าคาบเกี่ยวฤดูฝนใกล้ๆ ฤดูหนาวบนฟ้าใสสูงๆ เมฆเกร็ดขาวๆ ลอยกันเป็นแพ พ่อจะบอกว่าอีก 2-3 วันลมหนาวจะมา ผมจําติดคงทนนานที่พ่อสอนธรรมชาติใกล้ตัว ให้สังเกตเห็นด้วยตัวเองนี่เป็น ภูมิปัญญาคนโบราณที่รู้จักธรรมชาติ เรื่องธรรมชาติง่ายๆ ที่อยู่รอบตัวเราผมเอาภูมิปัญญาของพ่อที่มีมากมาย ใช้บอกลูกเสมอ เมื่อเหตุการณ์สอดคล้องตามกรณี

</TD></TR></TBODY></TABLE>

[/FONT][/FONT]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>นพ.พงษ์ศักดิ์ เจริญงามเสมอ
สูติ-นรีแพทย์
ภัย ธรรมชาติเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่เราไม่ค่อยคิดถึงกัน พ่อแม่ควรหาโอกาสเวลาที่มีข่าวการเกิดภัยธรรมชาติมาอธิบายให้ลูกรู้ว่าบาง ครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ควรรู้วิธีป้องกันและเอาตัวรอดจากภัย</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top> </TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, sans-serif]
[/FONT][/FONT]
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

​

</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>รศ.ดร.จิตตินันท์ เดชะคุปต์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ปัจจุบัน ภัยธรรมชาติเป็นปรากฏการณ์ที่เข้ามาในชีวิตประจําวันซึ่งครอบครัวยุคใหม่จํา เป็นต้องติดตามข่าวและรู้จักวิธีการเตรียมตัวกับสถานการณ์เหล่านี้ ด้วยการพูดคุยกับลูก อาจเริ่มต้นจากการอธิบายเรื่องที่ง่ายๆ ว่า ภัยธรรมชาติเป็นอย่างไร มีอะไรบ้างที่เราพบเห็นในชีวิตประจําวัน หรือมีการตั้งคําถามให้ลูกทาย คําตอบ ก็จะเพิ่มความน่าสนใจ แต่ก็น่าจะทดลองปฏิบัติว่าถ้ามีสถานการณ์ภัยธรรมชาติต่างๆ จะต้องทําอย่างไรให้ปลอดภัย หรือชวนลูกสนทนาเมื่อมีข่าวภัยธรรมชาติด้วย ก็จะเป็นอีกหนทางหนึ่ง ที่สําคัญต้องฝึกสติที่จะ ไม่ตื่นตกใจและรู้ว่าควรทําอย่างไรดี



</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][FONT=MS Sans Serif, sans-serif]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>[FONT=MS Sans Serif, sans-serif]พญ.อดิศร์สุดา เฟื่องฟู
กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
การ ที่พ่อแม่ดูข่าว ฟังข่าวแล้วนํามาคุยสอนลูก ถามลูกว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะทําอย่างไร สําหรับเด็กโตอาจมีความคิดเห็น หากเป็นเด็กเล็กต้องสอนเขาถึงวิธีป้องกันภัยธรรมชาติ แม้เด็กจะไม่ได้เจอเหตุการณ์จริงแต่เด็กก็สามารถเรียนรู้ผ่านเหตุการณ์ที่ พ่อแม่จําลองขึ้นมา นอกจากนี้ทุกครั้งที่มีภัยธรรมชาติก็จะมีการรับบริจาคสิ่งของและเงินเพื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่งเสริมและปลูกฝังให้ลูกๆ รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยการร่วมบริจาคและให้การช่วยเหลือตามกําลังของตน เพื่อให้ลูกได้ฝึกการช่วยเหลือ ผ่านประสบการณ์จริง[/FONT]</TD><TD vAlign=top>
</TD><TD vAlign=top>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>[/FONT][/FONT]

แหล่งข้อมูล

http://www.motherandcare.in.th/

 

<CENTER>สรุปรวมสถานที่ปลอดภัย</CENTER><CENTER>โดยคุณคณานันท์ ทวีโภค หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
ก่อนอื่น ต้องขอเรียนให้ทุกท่านได้ทราบก่อนว่า:-

• การที่ท่านจะเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้นั้น ได้ถูกกำหนดมาโดยอำนาจของกฏแห่งกรรม

• การที่สถานที่แห่งหนึ่งเหมาะสมกับท่านแต่ก็อาจไม่เหมาะสมกับผู้อื่น

• แต่ละสถานที่ก็ยอม มีกฏ มีข้อวัตร มีแนวทางการปฏิบัติ ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นท่านก็ควรที่เลือกให้เหมาะสมกับตัวท่าน แต่แรก หรือไม่เช่นนั้นท่านก็ควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานที่เหล่านั้น

• ถ้าท่านถูกกำหนดมาให้รอดก็ย่อมมีที่ ที่เหมาะสมกับท่านอยู่แล้ว ขอให้ท่านอธิฐาน ด้วยใจมั่นที่จะพบสถานที่แห่งนั้น และรู้ได้ด้วยตัวเอง

สถานที่ที่เตรียมไว้เป็นที่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์ในการเกิดภัยพิบัตินี้ แบ่งออกได้เป็น

1. สถานที่ส่วนบุคคล ที่ถูกเตรียมไว้เป็นเซฟเฮาส์ ของท่านผู้มีบารมีทั้งหลาย ที่เหล่านี้เป็นที่ส่วนตัว ไม่เปิดรับบุคคลภายนอก และในบางแห่งก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย (เนื่องจากอาจจะไม่มีบารมี พระ บารมีธรรมคุ้มครอง)
2. สถานที่ส่วนบุคคล ที่เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจ อยู่ในภาวะปรกติ แต่ท่านเจ้าของ ท่านได้ทราบ ในเรื่องภัยพิบัติ และมีใจอันเป็นกุศลที่ปรับสถานที่รองรับ ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากเมื่อถึงเวลา ส่วนใหญ่ จะอยู่ในรูป รีสอร์ท บ้าง โฮมสเตย์บ้าง ส่วนใหญ่ท่านเจ้าของจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม มีญาณมีฌาน และมีจิตเมตตา และบารมีครูบาอาจารย์คุ้มครองอยู่
3. สถานที่เปิด เช่นวัด หรือธรรมสถาน ต่างๆ ขอแยกออกเป็น สองประเภท -ประเภทที่พระหรือท่านผู้ดูแลสถานที่นั้น ท่านได้ทราบว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นและได้จัดเตรียมสถานที่ไว้บ้างแล้ว ( ที่เหล่านี้ เป็นจุดที่พวกเราจะเข้าไปช่วยได้อย่างค่อนข้างเต็มที่) -ประเภทที่ท่านผู้ดูแลสถานที่ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่แรก แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านก็ได้ ให้การช่วยเหลือด้วยเมตตา ไปตามสถานการณ์ ที่แนะนำให้เราไปอยู่ ไปช่วยก็คือ ประเภทที่หนึ่งครับ เพราะง่ายกว่า สะดวกกว่าในการชี้แจงกับท่านเจ้าของสถานที่
4. สถานที่เปิด เช่น โรงเรียน ศูนย์ราชการ สนามกีฬา และค่ายทหาร ที่เมื่อถึงเวลา ถ้าจุดใด ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่เสียหายก็จะถูกปรับใช้เพื่อการบรรเทาทุกข์ครับ ที่ประเภทนี้ ยังอันตรายเนื่องจากไม่มีบารมีพระคุ้มครองอยู่เต็มที่ และ ผู้ที่มาอยู่รวมกันก็ไม่มีศีล มีธรรม ในการอยู่ร่วมกัน อาจมีปัญหาในภายหลังตามมา

ดังนั้นจุดที่ผมอยากจะเน้นก็คือ จุดที่เป็น วัด และ สถานที่ปฏิบัติธรรม เป็นสำคัญ ซึ่งจุดสังเกตุว่าที่ใดในที่เหล่านั้นเป็นที่ปลอดภัยก็คือ (จากที่พระท่านบอกมาในสมาธิ)

• เป็นที่ตั้ง ที่สถิตย์ของ พระธาตุ พระบรมธาตุ หรือรอยพระบาทอย่างใดอย่างหนึ่ง
• มีพระอริยสงฆ์ หรือพระสุปฏิปันโน ท่านอยู่เป็นมิ่งขวัญ แผ่ บารมีคุ้มครองอยู่
• ในข้อแรกนั้น ท่านมีข้อแม้ว่า หากไม่มีพระอริยเจ้าอยู่ ก็ขอให้มีพระที่ท่านเป็นสัมมาทิษฐิ มีความเคารพในพระรัตนไตร เป็นปรกติ ดูแลสถานที่นั้น ที่นั้นจึงจะปลอดภัย

สำหรับ รายชื่อสถานที่เหล่านี้ ให้ดูในหนังสือรวมพระบรมธาตุ ของกลุ่มรักษ์พระธาตุ และหนังสือตามรอยพระบาทของหลวงพี่ชัยวัฒน์ แห่งวัดท่าซุงที่ท่านได้รวบรวมไว้จนถึงเล่มสามแล้ว และที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ มีรอยพระบาท หลายรอยที่พึ่งปรากฏขึ้น ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ (ที่พระท่านบอก ก็คือ การประทับรอยพระบาทนั้น พระพุทธเจ้าท่านต้องอธิฐานจิตกำกับด้วยทุกครั้งไป และการประทับรอยพระบาท ที่นั้นต้องมีเหตุมีปัจจัยที่สมควรแก่การ)

• เป็นสถานที่ที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอยู่ สำหรับในเรื่องนี้ มีเรื่องราวยืนยันในหลายเหตุการณ์ในช่วงของการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ผ่านมา เช่น

ในฐานทัพ เรือทับละมุ จ.พังงา มีทหารเรือที่รอดตาย เพราะกอดอยู่ที่เท้าของอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร และปรากฏว่าน้ำทะเลแหวกออกเป็นที่อัศจรรย์และทหารผู้นั้นรอดตายได้เห็นกับตา มีนายทหารอีกท่านที่อยู่บนหลังคาของบ้านพัก เห็นเป็นพยานด้วยอีกท่านหนึ่ง บริเวณวัด โบสถ์และมัสยิด หลายแห่งใน อินโดนีเซีย และศรีลังกา น้ำทะเลได้แหวกออกเช่นกัน โดยคนที่มาอาศัยใน สถานที่ทางศาสนาเหล่านี้ล้วนรอดชีวิต กันอย่างน่าอัศจรรย์ จากกรณีเหล่านี้จึงขอให้ท่าน ทั้งหลายได้เน้น สถานที่หลบภัยที่เป็นพุทธสถาน ธรรมสถานเป้นหลัก และตัวเลือกแรกๆ จากนั้นให้ท่านพิจารณาดูว่าสถานที่ที่ท่านได้เล็งอยู่นั้น สัปปายะเหมาะสมกับตัวท่านแค่ไหนอย่างไร โดยให้พิจารณาจาก

• สถานที่นั้นปฏิบัติธรรมในสายที่ท่านนับถือหรือไม่ มีวาสนาบารมีผูกพันกับสถานที่แห่งนั้นหรือไม่ สังเกตุได้ว่าเมื่อไปถึงที่แห่งนั้นแล้ว ใจของท่านเย็น เบาสบาย มีความสุข คล้ายกับได้กลับมายังบ้านที่ได้จากกันมานาน
• สถานที่นั้นมีข้อวัตรปฏิบัติ ที่ท่านปฏิบัติตามได้หรือไม่ หนักเกินกำลังแค่ไหน ท่านสามารถปรับตัว ปรับใจได้หรือไม่ ถ้าที่นั้น ต้องตื่นตีสาม ตีสี่ทุกวันไหวหรือไม่
• สถานที่นั้น มีการทานเจ หรือทานปรกติ ตรงกับท่านหรือไม่
• สถานที่นั้นมีที่พักที่อาศัยต้อนรับท่านได้หรือไม่ มีอาหาร มียารักษาโรค มีเครื่องนุ่งห่ม เพียงพอหรือไม่

หลังจากพิจารณาได้เรียบร้อยแล้ว ก็พึง จัด พึงเตรียม ช่วยสถานที่เหล่านั้นในการรองรับผู้คนเมื่อเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น ทำความคุ้นเคย กับท่านเจ้าของหรือท่านที่ดูแลสถานที่นั้นๆ มีจุดใดที่ช่วย ที่ส่งเสริมให้ที่นั้นครบถ้วนบริบูรณ์ได้ก็จงพึงทำ แต่อย่างไรก็ตามวัตรปฏิบัติขั้นพื้นฐานสำหรับทุกๆสถานที่นั้นควรมีก็ได้แก่

• มีความเคารพในพระรัตนไตรเป็นปรกติ
• ศีลห้าเป็นปรกติ
• เมตตาพรหมวิหารสี่เป็นปรกติ
• สังคหวัตถุสี่การให้ การสงเคราะห์ ความช่วยเหลือกันมีน้ำจิตน้ำใจกันเป็นปรกติ
• การส่งเสริมความดีของกันและกันเป็นปรกติ
• ความไม่เพ่งโทษต่อกันเป็นปรกติ
• การเจริญสมาธิ วิปัสนา กรรมฐานเป็นปรกติ

เมื่อทุกสถานที่ทำได้ดังนี้ย่อมปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง และอยู่กันอย่างสงบสุขร่มเย็นตราบจนปลอดภัย สถานที่ที่ได้รวบรวมไว้นี้ อาจยังไม่ครบถ้วนเนื่องจากมี สถานที่ปลอดภัยอีกเป็นจำนวนมาก

ที่มา http://scratchpad.wikia.com

 

คุณเกษมคะ.ขอนแก่นปลอดภัยไหมคะ...บริเวณตัวเมืองตรงขนส่ง
มีพี่ชายที่รู้จักเค้าเดือดร้อนต้องการขายที่ดินบริเวณนั้น...

 

ข้อควรจำในการเลือกสถานที่ปลอดภัย​

​

ภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ที่เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต มีจุดประสงค์ประการเดียว คือ ต้องการมากวาดล้างคนชั่วช้าไร้ศีลธรรมให้หมดไปจากโลกนี้ ดังนี้ถ้าท่านทั้งหลายจับประเด็นสำคัญนี้ได้ ก็จะทราบได้ทันทีว่าสถานที่แหล่งใดจะเป็นที่ปลอดภัย และที่แหล่งใดจะไม่ปลอดภัย​

ที่แห่งใดก็ตามที่เหล่าคนดีมีคีลธรรม ชอบไปอยู่รวมตัวกันเพื่อปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งสอนของศาสดาของตนอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม ย่อมจะเป็นที่ปลอดภัย จากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง​

ที่แห่งใดก็ตามที่เหล่าคนชั่วและคนไร้ศีลธรรม ชอบไปอยู่รวมตัวกันเพื่อเสพสิ่งอบายมุขต่างๆ ตามที่เขาเหล่านั้นชื่นชอบ ย่อมจะเป็นแหล่งที่ไม่ปลอดภัย ย่อมจะเป็นเป้าหมายแรกที่จะต้องเกิดภัยพิบัตินานานับประการเกิดขึ้น​

ตามที่ผมได้ฟังคำบอกเล่ามาจากเพื่อนๆ นับปฏิบัติธรรมที่เคร่งครัดทั้งหลาย ต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ในตอนที่เกิดภัยพิบัตินั้น เหล่าผู้ที่ได้อภิญญาทั้งหลาย จะออกมาช่วยพากลุ่มคนดีมีศีลธรรมไปไว้ในที่ปลอดภัย ด้วยฤทธิ์อภิญญาของพวกเขา โดยพวกเขาจะรู้ได้ทันทีจากรัศมีที่สว่างไสว ของกลุ่มคนที่เป็นคนดีมีศีลธรรมไปอยู่รวมตัวกัน ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้ว​

ดังนั้นแม้สถานที่ที่เราคิดว่าไม่ปลอดภัย เพราะเป็นที่ลุ่มต่ำ ต้องถูกน้ำท่วมถึงอย่างแน่นอน แต่ก็กลับเป็นที่ปลอดภัยด้วยฤทธิ์อภิญญาของ พระและฆราวาสหลายๆ ท่าน ที่ในเวลานั้นจะไม่ปิดบังอำพลางตัวเองอีกต่อไป จะแสดงฤทธิ์อภิญญาของตัวเองออกมาอย่างเต็มความสามารถ ​

สรุปว่าหากท่านต้องการจะเป็นผู้ที่รอดจากภัยพิบัติทั้งหลาย ทั้งปวง ท่านจะต้องเป็นคนดีมีศีลธรรม มีความละอายต่อการทำความชั่ว เกรงกลัวต่อผลของบาปอกุศลทั้งปวง มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา และผู้มีพระคุณทั้งหลาย มีจิตเมตตาต่อผู้อื่นอย่างจริงใจ ไม่เสแสร้ง มีความเสียสละความสุขของตนเองเพื่อผู้อื่นได้ ​

หากท่านทำได้ดังที่ผมได้กล่าวมานี้ แสงสว่างแห่งคุณธรรมในตัวของท่านก็จะเปล่งรัศมีเจิดจ้าออกมา จนเหล่าผู้ได้อภิญญาทั้งหลายไม่อาจจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้ ในเวลาที่ตัวท่านและครอบครัวต้องประสพกับภัยพิบัติ แม้ตัวท่านจะอยู่ในสถานที่อันตรายเพียงใดก็ตาม ก็จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากท่านผู้ทรงอภิญญาเหล่านี้อย่างแน่นอนครับ​

ปล. ถ้าจวนตัวจริงๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ทรงอภิญญา ก็นึกถึงคนในรูปข้างล่างนี้เอาไว้นะครับ...อิอิ

 

ผมคงตอบไม่ได้หรอกครับ ว่าที่ใดจะเป็นที่ปลอดภัย 100% เพราะอาจจะปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ แต่ไม่ปลอดภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง ถ้าอยู่ในตัวเมือง เพราะจะเกิดกลุ่มคนเห็นแก่ตัว ปล้น จี้ ฆ่า ข่มขืน ในเวลาที่เกิดการจลาจล เพื่อแย่งชิงอาหารและทรัพย์สินเงินทอง แต่ก็จะให้หลักสังเกตุเอาไว้พิจารณาดังนี้นะครับ

• ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทย
  
  ภาคใต้
  จะพบกับพายุน้ำท่วม แผ่นดินไหว และคลื่นขนาดยักษ์
  พัดเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญสิ้นไปหมด แผ่นดินจะ
  หายไปหมด คนที่อาศัยอยู่จะเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
  เหลือแต่เกาะไม่กี่เกาะ น้ำอาจท่วมถึงจังหวัดประจวบ
  คีรีขันธ์ ของภาคใต้
  
  ภาคกลาง
  จะพบพายุฝนตกอย่างหนัก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก
  กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงแผ่นดินจะจมลง
  เนื่องจากแผ่นดินไหวและทรุดตัวลงกลายเป็นทะเล
  (ทางไปภาคใต้น้ำจะท่วมถึงจังหวัดนครปฐม ทางเหนือ
  จะถึงนครสวรรค์ )
  
  ภาคตะวันอกเฉียงเหนือ
  จะพบภัยพิบัติน้อยกว่าภาคอื่น ๆ เพราะว่าภาคนี้ประสบ
  เคราะห์กรรมอยู่เสมอ เป็นการใช้หนี้กรรมอยู่เป็นประจำ.
  โดยภาคนี้จะพบลมพายุและแผ่นดินไหวบ้างเล็กน้อย
  จังหวัดที่ปลอดภัย ก็มี อุดรธานี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ
  ขอนแก่น ชัยภูมิ เป็นต้น แต่ปัญหาสำหรับภาคนี้ก็คือ
  ผู้คนที่รอดตายจะต้องพบกับโรคระบาดและอดอยาก
  เพราะพืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกภัยธรรมชาติทำลาย
  
  ภาคเหนือ
  จะพบกับภัยธรรมชาติ คือแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก มีไฟ
  พลุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพ มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก เช่นเดียว
  กับภาคใต้และภาคกลาง จังหวัดที่ปลอดภัยได้แก่ น่าน แพร่
  อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และพิษณุโลกบางส่วน
  
  ภาคตะวันออก
  พื้นที่ริมทะเลจะถูกน้ำท่วมหมด
  

ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-3.html

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลาง 5.6 ริกเตอร์ทางใต้ของไต้หวัน​

​

ไทเป 22 ส.ค. - สำนักอุตุนิยมวิทยากลางไต้หวันเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ทางตอนใต้ของไต้หวันในวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน

แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.57 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีศูนย์กลางห่างจากเขตผิงตงบนชายฝั่งตอนใต้ของไต้หวันไปทางใต้ราว 32 กม. ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ได้รับความเสียหายจากไต้ฝุ่นมรกตหนักที่สุดไปราว 95 กม.

ทั้งนี้ ไต้หวันมักแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงนัก และสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีความเสียหายเลย. -สำนักข่าวไทย

2009-08-22 09:38:21

ยูเอ็นเดินหน้าสอบเหตุลอบสังหารบุตโต​

​

สหประชาชาติ 22 ส.ค. - เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะเดินทางถึงปากีสถานสัปดาห์นี้ เพื่อเดินหน้าสืบสวนคลี่คลายเหตุลอบสังหารนางเบนาซีร์ บุตโต ผู้นำฝ่ายค้านของปากีสถาน​

เจ้าหน้าที่สืบสวน 3 คน นำโดยนายเอรัลโด มูนญอซ ทูตชิลีประจำสหประชาชาติ จะเดินทางมาถึงปากีสถานเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเดินหน้าสืบสวนคลี่คลายเหตุลอบสังหารนางบุตโต โดยจะเริ่มทำงานตั้งแต่วันพุธนี้ (26 ส.ค.) เป็นต้นไป คาดว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน จะเดินทางไปยังเมืองราวัลปินดี เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่นางบุตโตถูกคนร้ายโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย หลังปราศรัยหาเสียงเสร็จสิ้น เมื่อเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งสถานที่ดังกล่าวได้กลายเป็นสถานที่สวดมนต์แสดงความไว้อาลัยสำหรับผู้สนับสนุนเธอมาจนถึงทุกวันนี้

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปากีสถานของอดีตประธานาธิบดีเปรเวซ มูชาร์ราฟ อ้างว่า นายไบตุลเลาะห์ เมห์ซูด แกนนำกลุ่มตอลีบานในปากีสถาน อยู่เบื้องหลังเหตุลอบสังหารนางบุตโต แต่พรรคฝ่ายค้านปากีสถานในขณะนั้นเชื่อว่า พล.อ.มูชาร์ราฟ และพันธมิตร มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหาร. - สำนักข่าวไทย

2009-08-22 01:25:12

เฮอริเคนบิลอ่อนกำลังลงสู่ระดับ 2​

​

สหรัฐ 22 ส.ค. - เฮอริเคน “บิล” ได้อ่อนกำลังลงสู่ระดับ 2 ขณะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งเบอร์มิวดา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและคลื่นลมแรง

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า เฮอริเคน “บิล” ซึ่งเป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกของฤดูกาลในมหาสมุทรแอตแลนติก ได้อ่อนกำลังลงสู่ระดับ 2 โดยมีความเร็วลมสูงสุด 175 กม./ชม. อย่างไรก็ดี คาดว่าพายุอาจเพิ่มความรุนแรงขึ้น หรืออาจลดระดับความรุนแรงลงอีกในช่วง 1-2 วันข้างหน้า ขณะพัดผ่านทะเลเปิดระหว่างสหรัฐกับเบอร์มิวดา ในเช้าวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น และคาดว่าอิทธิพลของเฮอริเคนบิล อาจทำให้เกิดคลื่นสูงถึงเกือบ 1 เมตร พัดเข้าสู่ชายฝั่ง เช่นเดียวกับที่อาจเกิดฝนตกหนักและพายุรุนแรง ขณะที่ทางการเบอร์มิวดาได้ประกาศให้ประชาชนระวังอันตรายจากเฮอริเคน

ล่าสุดนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ต้องยกเลิกแผนการพักผ่อนที่เบอร์มิวดา พร้อมกับครอบครัวก่อนกำหนด โดยได้เดินทางออกจากเบอร์มิวดาแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

2009-08-22 05:39:46

หน้าผาถล่มที่เมืองตากอากาศในโปรตุเกส ​

​

โปรตุเกส 22 ส.ค. - เกิดเหตุหน้าผาพังถล่มที่เมืองตากอากาศทางชายฝั่งตอนใต้ของประเทศโปรตุเกส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 8 คน

เจ้าหน้าที่โปรตุเกส เผยว่า บางส่วนของหน้าผาริมชายฝั่งในเมืองฟาโร เมืองตากอากาศริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เกิดพังถล่มลงมาอย่างไม่คาดคิด ฝังร่างนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่กำลังนอนอาบแดดบนชายหาดมาเรีย ลุยซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน ในจำนวนนี้ 2 คน อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาร่างนักท่องเที่ยวผู้สูญหายอีก 2 คน ที่อาจอยู่ใต้ซากปรักหักพังของเศษหินจากหน้าผา ส่วนสาเหตุของหน้าผาพังถล่มยังไม่ทราบแน่ชัด

ด้านนายกรัฐมนตรีโจเซ โซกราเตซ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่น ๆ ของรัฐบาล อยู่ระหว่างเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว. - สำนักข่าวไทย

2009-08-22 02:35:11

ปูตินตรวจเยี่ยมโรงไฟฟ้าที่เกิดระเบิดรุนแรง​

​

รัสเซีย 22 ส.ค. - นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางไปตรวจเยี่ยมความเสียหายของโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่เขื่อนในไซบีเรีย ยืนยันพร้อมช่วยเหลือครอบครัวของคนงานที่เสียชีวิต

นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางไปตรวจเยี่ยมความเสียหายของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ที่เขื่อนซายาโน ชัชเชนสกายา ในสาธารณรัฐปกครองตนเองฮาคาซียา แถบไซบีเรีย ที่เกิดระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีคนงานเสียชีวิต 47 คน

นายปูติน ระบุว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก และทางโรงงานควรให้เงินช่วยเหลือครอบครัวของคนงานผู้เสียชีวิต โดยขณะนี้ รัสไฮโดร บริษัทเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ได้จ่ายเงินปลอบขวัญให้กับครอบครัวคนงานที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 1 ล้านรูเบิล (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) นายปูติน ยังยอมรับว่า หมดหวังที่คนงานที่ยังสูญหายอีก 28 คน จะรอดชีวิต เนื่องจากทั้งหมดน่าจะจมน้ำเสียชีวิตหมดแล้ว

ล่าสุดกลุ่มติดอาวุธในแคว้นเชชเนีย ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งนี้ แต่ทางการรัสเซียเชื่อว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ. - สำนักข่าวไทย

2009-08-22 02:43:11

ยอดคนตายจากเขื่อนรัสเซียแตกเพิ่มเป็น 64 ศพแล้ว​

​

มอสโก 22 ส.ค.- โฆษกหน่วยกู้ภัยของรัสเซียยืนยันว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียแตก ขณะนี้เพิ่มเป็น 64 คนแล้ว และมีผู้สูญหาย 11 คน

เขื่อนดังกล่าวชื่อ “ซายาโน-ชูเชนสกายา” อยู่ในไซบีเรีย โดยสาเหตุเกิดจากปัญหาทางด้านเทคนิค ทำให้เกิดน้ำทะลักเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ของตัวเขื่อนที่มีคนงานทำงานอยู่ไม่น้อยกว่า 100 คน ขณะนี้พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วทั้ง 64 ศพ ส่วนที่สูญหายยังไม่มีแนวโน้มว่าจะหาพบ

ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายครั้งนี้ใช้เจ้าหน้าที่มากกว่า 2,000 คน ออกปฏิบัติการอย่างละเอียดถี่ยิบตามแนวชายฝั่งแม่น้ำเยนีเซของรัสเซียอันเป็นที่ตั้งของเขื่อนดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

2009-08-22 11:18:31

อินเดียมีคนยากจนมากกว่า 400 ล้านคน ​

​

อินเดีย 22 ส.ค. - รายงานของรัฐบาลอินเดีย เผยชาวอินเดียกว่าร้อยละ 38 มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากจนข้นแค้นที่สุด

รายงานของคณะกรรมาธิการ นำโดยนายเอสดี เทนดูการ์ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ ระบุว่า ชาวอินเดียกว่าร้อยละ 38 มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากจนข้นแค้นที่สุด หรือกว่า 400 ล้านคน สูงกว่าสถิติในปัจจุบันที่รัฐบาลเคยระบุไว้ว่า มีชาวอินเดียอยู่ในฐานะยากจนร้อยละ 27.5

กรรมาธิการให้คำแนะนำว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการให้การพัฒนาการเพาะปลูก การศึกษา พัฒนาการดูแลสุขภาพและระบบสาธารณสุข

ก่อนหน้านี้ รายงานอีกชิ้นหนึ่งของกระทรวงพัฒนาชนบทของอินเดีย เผยว่า ประชากรชาวอินเดียอย่างน้อยครึ่งหนึ่งมีชีวิตอยู่ภายใต้เส้นความยากจน ขณะที่รายงานในปี 2550 เผยว่า ชาวอินเดียที่มีฐานะยากจนมีอยู่มากถึงร้อยละ 77 แต่ทางการอินเดียปฏิเสธรายงานทั้ง 2 ฉบับ. - สำนักข่าวไทย

2009-08-22 03:36:50

อินเดียเตรียมนำเข้าอาหารแก้ปัญหาขาดแคลนจากภัยแล้ง ​

​

บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 22 ส.ค.-นายประนาบ มุคเคอร์จี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินเดีย เปิดเผยว่า อินเดียจะนำเข้าอาหารเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอันเนื่องมาจากภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากร 700 ล้านคน

รมว.คลังอินเดีย ไม่ได้ระบุว่าจะนำเข้าอาหารประเภทใดและเมื่อไร โดยให้เหตุผลว่าต้องการหลีกเลี่ยงการเก็งกำไร ทั้งนี้ ความแห้งแล้งได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของอินเดีย โดยราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น 10% หลังจากฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลลมมรสุม กระทบต่อการปลูกข้าว ถั่วเหลือง อ้อย และฝ้าย

ทันทีที่มีรายงานว่าอินเดียจะนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ ได้เพิ่มความหวั่นวิตกขึ้นว่า ราคาอาหารหลายรายการ เช่น น้ำตาลในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะคาดว่าจะมีการนำเข้าจำนวนมากจากอินเดีย ขณะที่รัฐมนตรีเกษตรของอินเดีย กล่าวว่า รัฐบาลจะมีมาตรการที่รับประกันว่าราคาอาหารจะมีเสถียรภาพ.-สำนักข่าวไทย

2009-08-22 09:40:07

เม็กซิโกกำลังประสบภัยแล้งครั้งใหญ่​

​

เม็กซิโก 22 ส.ค. - เม็กซิโกกำลังประสบภัยแล้งครั้งใหญ่ หลังมีปริมาณฝนตกต่ำที่สุดในรอบ 68 ปี

ขณะนี้ประชาชนและกลุ่มเกษตรกรในเม็กซิโก กำลังเผชิญภัยแล้งครั้งใหญ่ เนื่องจากฝนแล้ง ปริมาณฝนตกน้อยที่สุดในรอบ 68 ปี ทำให้พืชไร่และปศุสัตว์ในพื้นที่ชนบทล้มตายเพราะขาดน้ำ ขณะที่รัฐบาลต้องเร่งผันน้ำไปช่วยพื้นที่เกษตร ส่งผลให้ประชาชนในเมืองหลวงขาดแคลนน้ำ ปริมาณน้ำตามอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 175 แห่งทั่วประเทศ มีอยู่ 80 แห่งที่ระดับน้ำเหลือไม่ถึงครึ่ง

ทางการต้องเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์น้ำด้วยการใช้น้ำอย่างประหยัด ทั้งนี้ปรากฏการณ์เอลนินโญ่ ซึ่งทำให้เกิดภัยแล้งไปทั่วภูมิภาคอเมริกาใต้ ถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุให้เม็กซิโกต้องเกิดภาวะฝนแล้ง.-สำนักข่าวไทย

2009-08-22 11:12:11

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หอยตายเกลื่อน โลกร้อนภัยพิบัติกันตัง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตรัง ประกาศให้พื้นที่ กันตังใต้ เป็นเขตภัยพิบัติโรคระบาด พบหอยแมลงภู่ในกระชังตาย กว่า 800 ตัน เชื่อเกิดจากภาวะโลกร้อน เกิดการเปลี่ยนแปลง ...

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ส.ค. นายบุญครื้น พรเดชอนันต์ ประมงอำเภอกันตัง จ.ตรัง

รับแจ้งจากชาวบ้านว่าหอยแมลงภู่ที่เลี้ยงไว้ในกระชังตายจำนวนมาก กว่า 800 ตัน จึงรุดลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ และชี้แจงปัญหาสาเหตุการตายของหอยดังกล่าว ว่า ในพื้นที่ ม. 1 และ ม.4 บ้านเกาะเคี่ยม ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง ขณะนี้กระชังหอยแมลงภู่ ที่มีความยาวตลอดลำคลองบ้านเกาะเคี่ยม ประมาณ 3 กิโลเมตร ต่างประสบปัญหาเดียวกันทั้ง 87 รายรวมจำนวน 126 กระชัง หลังจากชาวบ้านได้ทำการเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ไว้เพื่อขายในช่วงต้นเดือน ก .ย. นี้ พบว่าหอยแมลงภู่ได้ทยอยตายมาตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้แก่ชาวประมงเลี้ยงหอยแมลงภู่ กว่า 30 ล้านบาท บางรายถึงกับอยู่ในสภาพหมดตัว

นายวิจิตร แซ่เท่ อายุ 41ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.1ต.กันตังใต้ อ.กันตัง เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่รายหนึ่ง กล่าวว่า หอยแมลงภู่ที่เลี้ยงไว้ 9 กระชังทยอยตายไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

คาดว่าไม่เกินเย็นวันนี้คงเสียหายทั้งหมด ตอนนี้เกษตรกรเจอปัญหานี้กว่า 80 ราย เสียหายกว่า 30 ล้านบาท ก่อนเกิดเหตุน้ำได้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงขุ่นคล้ายมีแพลงตอนจำนวนมาก จากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อนผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่ในกระชังขาย หลายรายถึงกับนั่งร้องไห้ เนื่องจากเป็นความหวังของทุกคน ที่ใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงมานานกว่า 6 เดือน กำลังจะได้เวลาออกสู่ตลาดเพียงอยู่ในช่วงของการติดต่อลูกค้ามารับของ จึงอยากให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วย

ด้านนายบุญครื้นกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้หอยแมลงภู่ตายเป็นจำนวนมาก เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง อาจมาจากฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้

ประกอบกับภาวะโลกร้อนจึงทำให้เกิดการเปลี่ยแปลง และส่งผลให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น หลังจากนำตัวอย่างน้ำและหอยไปตรวจพิสูจน์ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ชายฝั่ง อ.สิเกา จ.ตรัง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผลการตรวจวิเคราะห์ออกมาว่าพบมีโปรโตซัวจำนวนมากอยู่ในตัวหอย ขณะนี้ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติโรคระบาดแล้วรวม 1 สัปดาห์ คือระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค.โดยหลังจากนี้จะให้เกษตรกรแจ้งรายชื่อและข้อมูลความเสียหายกับทางประมงอำเภอ เพื่อที่จะได้ส่งรายงานไปยังอำเภอกันตัง และจังหวัด เพื่อของบประมาณฉุกเฉินเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้นมาให้ เกษตรกรนำไปซื้อลูกหอยแมลงภู่รุ่นใหม่ต่อไป ส่วนการช่วยเหลือในด้านอื่นต้องหารือกันอีกครั้ง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ้างถึง

ภาคเหนือ
จะพบกับภัยธรรมชาติ คือแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก มีไฟ
พลุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพ มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก เช่นเดียว
กับภาคใต้และภาคกลาง จังหวัดที่ปลอดภัยได้แก่ น่าน แพร่
อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และพิษณุโลกบางส่วน

ผมว่าจะหาเวลาว่าง ไป ดู วังศิลาแลง ที่อำเภอปัว เพราะได้ยินว่าเหมือนแกรนแคนย่อน เขาว่างั้น

แต่ก็ได้ยินมาว่า เป็น รอยแยกของเปลือกโลกครับ อันนี้ เท็จจริงอย่างไร เลยคิดถึง พี่เกษม ที่เคยบอกผมในกระทู้ว่า จ.น่านก็มีลอยเลื่อน อยู่



















ภาพจาก

 

สถานที่ปลอดจากภัย ชุมชนคนมีศีล เช่น สวนส่างฝัน จ.อำนาจเจริญ

เจริญศีลห้าในวิถีประจำวันเคร่งครัด เปรียบแดนลับแล

แห่งอื่นหากดำเนินตาม ผลที่เกิด ไม่แตกต่าง

 

เล็งเชื่อมสัญญาณเตือนภัยสึนามิตามโรงแรมชายฝั่งอันดามัน​

​

ภูเก็ต 21 ส.ค.- “สุเทพ” ชื่นชมแผนซ้อมอพยพภัยสึนามิ 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน ราบรื่นดี ไม่ขลุกขลัก และดูสมจริงมาก เตรียมสลับให้จังหวัดอื่นเป็นพื้นที่หลักของการซ้อม พร้อมขยายการเชื่อมสัญญาณเตือนภัยตามโรงแรม เพื่อสร้างความมั่นใจ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมระบบเตือนภัยและอพยพหลบภัยสึนามิที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต พื้นที่หลักของการซ้อมแผนพร้อมกับอีก 5 จังหวัดชายฝั่งอันดามันว่า การฝึกซ้อมระบบเตือนภัยและอพยพหลบภัยสึนามิทั้ง 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน วันนี้ (21 ส.ค.) ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนมีความพร้อมเพรียงซ้อมแผนอย่างจริงจังและดูสมจริงมาก ไม่มีข้อบกพร่อง ถือว่าดีมาก และประชาชนดูมีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะหน่วยกู้ภัยไม่ว่าจะเป็นบนบกหรือในน้ำ ตลอดจนกองทัพเรือ ทำให้มีความเชื่อมั่นในด้านการช่วยเหลือทางทะเลเพิ่มขึ้น ฉะนั้น จะดำเนินการในลักษณะเช่นนี้ให้ต่อเนื่องทุกพื้นที่เสี่ยง

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การฝึกซ้อมครั้งต่อไปจะสลับให้จังหวัดอื่นเป็นพื้นที่หลัก เพื่อให้ประชาชนแต่ละพื้นที่เกิดความตื่นตัว และจะต้องซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอ เพราะเรื่องภัยธรรมชาติสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ส่วนการฝึกซ้อมช่วงกลางคืนต้องดูตามสถานการณ์และความเหมาะสม สำหรับการเชื่อมต่อสัญญาณเตือนภัยไปยังโรงแรมที่พักต่าง ๆ นั้น ขณะนี้ยังมีน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องนำไปหารือในรายละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

2009-08-21 15:48:10

ไฟลามหนักป่าพรุควนเคร็ง เร่งขอ ฮ.ช่วยดับ​

​

นครศรีธรรมราช 22 ส.ค.- นายสมใจ แก้วคง หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าควนเคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อนำเฮลิปคอปเตอร์บรรทุกน้ำช่วยดับไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง บริเวณพื้นที่ ม.1 ม.3 ม.9 และ ม.11 ต.เคร็ง อ.ชะอวด เนื่องจากสภาพพื้นที่ยากต่อการระงับเหตุและไฟลุกไหม้รุนแรงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แม้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานจะระดมกำลังเข้าสกัดกั้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่จากสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เข้ามาช่วยสมทบ แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้างเสียหายแล้วกว่า 1,000 ไร่ จากพื้นที่ป่าทั้งหมด 7,000 ไร่ โดยเฉพาะป่ากระจูดนั้นเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าประเภทกระจูด เช่น เสื่อ กระเป๋า และอื่นๆ ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อปชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราชระดับ 5 ดาว.-สำนักข่าวไทย

2009-08-22 16:31:50

คนร้ายตัดต้นไม้ขวางถนน เพื่อลวง จนท.ก่อนจุดระเบิด มี อส.เสียชีวิต 3 คน​

​

ยะลา 22 ส.ค. - คนร้ายตัดต้นไม้ขวางถนน ที่จังหวัดยะลา ลวงเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก่อนจุดระเบิด ทำให้ อส. 3 คน เสียชีวิต และอีก 4 คน บาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุถนนสายบ้านตันหยง – บ้านเตียง ตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา พบรถกระบะของกรมการปกครองพลิกคว่ำเสียหาย และพบหลุมระเบิดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร อยู่กลางถนน มีเศษถังดับเพลิง สายไฟ ลากยาวเข้าไปข้างถนนกว่า 100 เมตร ใกล้กันพบศพเจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิต 3 คน ส่วนผู้บาดเจ็บ 4 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ในจำนวนนี้มีปลัดอำเภอ และปลัดตำบลบาโร๊ะ รวมอยู่ด้วย สอบสวนทราบว่า คนร้ายได้ตัดต้นไม้ขวางทางที่เกิดเหตุ ปลัดอำเภอจึงจัดกำลัง อส.เข้าไปตรวจสอบ ขณะเดียวกันคนร้ายได้กดระเบิดที่ฝังไว้ และใช้ปืนยิงซ้ำทำให้เจ้าหน้าที่ อส. 3 คน เสียชีวิต. -สำนักข่าวไทย

2009-08-22 17:08:08

วางระเบิด-ยิงถล่มซ้ำทหารชุดคุ้มครองครูนราฯ เสียชีวิต 2 สาหัส 4​

​

นราธิวาส 21 ส.ค.-คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 40 กิโลกรัม ก่อนยิงถล่มซ้ำ ทำให้ทหารชุดคุ้มครองครูนราธิวาสเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บสาหัส 4 นาย

รถยนต์ของทหารชุดคุ้มครองครูพังเสียหายทั้งคัน หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 40 กิโลกรัม ไปฝังไว้กลางถนนเข้าหมู่บ้านประชานิมิต ต.กาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อทหารชุดคุ้มครองครู 10 นาย และชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านอีก 6 คนขับรถผ่าน คนร้ายจุดชนวนด้วยสายไฟ ทำให้รถลอยขึ้นไปกลางอากาศสูงประมาณ 20 เมตร และทำให้ถนนเป็นหลุมขนาดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร ก่อนคนร้ายจะยิงถล่มซ้ำด้วยอาวุธสงคราม ทำให้ ส.อ.ประยนต์ เงินฝรั่ง และพลทหาร อภิวัฒน์ ยศคำจู เสียชีวิต และมีทหารบาดเจ็บสาหัส 4 นาย บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 4 นาย ส่วนที่เหลือปลอดภัย

หลังเกิดเหตุชาวบ้านพยายามเข้าช่วยเหลือ แต่ถูกคนร้ายซึ่งมีประมาณ 20 คน ยิงสกัด จากการตรวจสอบปลอกกระสุน พบส่วนใหญ่เป็นของทางราชการที่คนร้ายปล้นมาจากเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ตำรวจทหารและฝ่ายปกครองกำลังกระจายออกไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

2009-08-21 15:21:46

ระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงนราฯ หวิดไฟดับทั่วเมือง​

​

นราธิวาส 21 ส.ค. - พ.ต.ท.ธนาพล มีชัย รอง ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นำชุดกองวิทยาการและหน่วยปฏิบัติการพิเศษชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบความเสียหายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงต้นที่ 150 หลักกิโลเมตรที่ 47/3 ด้านหลังหมู่บ้านยามูแรแน หมู่ 4 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ หลังถูกลอบวางระเบิดเมื่อเช้าที่ผ่านมา (21 ส.ค.) พบว่าฐานเสาเหล็กที่รองรับเสาไฟฟ้าแรงสูง จำนวน 4 ขา เสียหาย 1 ขา แต่ยังสามารถส่งกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ

นอกจากนี้ ยังพบชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนียไนเตรท บรรจุในท่อเหล็กทรงกลม น้ำหนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ ส่วนเสาดังกล่าวเป็นเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงจากสถานีไฟฟ้าแรงสูงยะลา 2 มายังสถานีไฟฟ้าแรงสูงนราธิวาส เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุต้องการสร้างความไม่สงบเพื่อให้กระแสไฟฟ้าดับทั่วเมือง.-สำนักข่าวไทย

2009-08-21 14:44:14

รวบแก๊งกวนเมืองเชียงใหม่ ปล้นทรัพย์-ทำร้ายเหยื่อถึงนิ้วขาด​

​

เชียงใหม่ 21 ส.ค.-ตำรวจจับแก๊งกวนเมืองใช้มีดทำร้ายนักท่องเที่ยวหลายรายกลางเมืองเชียงใหม่ บางรายถูกมีดฟันจนนิ้วมือขาด ก่อนปล้นทรัพย์สิน

นายชานน แซ่วาง พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ที่ร่วมแก๊งกวนเมืองฉายาแก๊งมังกร ถูกชุดสืบสวนสถานีตำรวจแม่ปิง เชียงใหม่ จับกุมได้ในหอพักย่าน ต.ฟ้าฮ่าม ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ของผู้เสียหายจำนวน 5 เครื่อง กระเป๋าถือ รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งหมดมีพฤติกรรมร่วมกันขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนออกล่าเหยื่อตามสวนสาธารณะ หรือเส้นทางสายเปลี่ยว หากพบผู้เสียหายที่ขี่รถจักรยานยนต์มาตามลำพัง ก็จะใช้มีดจี้ ร่วมกันปล้นทรัพย์สิน รายไหนที่ขัดขืน ก็จะใช้มืดฟัน จนได้รับบาดเจ็บ บางรายถึงขั้นนิ้วมือขาด

ผู้ต้องหารับสารภาพช่วง 3 วัน ก่อเหตุมาแล้วเกือบ 10 คดี ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.สันทราย เชียงใหม่ ทรัพย์สินที่ได้มาก็นำไปขาย หาเงินไปเที่ยวและเล่นเกม.-สำนักข่าวไทย

2009-08-21 16:22:25

ที่มา http://news.mcot.net

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริกเตอร์นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ​

​

จาการ์ตา 23 ส.ค. – เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.20 น.ตามเวลาในโทย โดยมีศูนย์กลางห่างจากเมืองกุนุงสิโตลีในจังหวัดสุมาตรา เหนือไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 139 กิโลเมตร โดยเกิดขึ้นที่ระดับความลึก 86 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีการประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ อนึ่ง อินโดนีเซียตั้งอยู่บนตำแหน่งจุดบรรจบของแผ่นทวีป หรือเรียกว่าแนววงแหวนไฟ และเป็นสาเหตุให้เกิดภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง.- สำนักข่าวไทย

2009-08-23 15:37:27

กรีซระดมกำลังเต็มที่ควบคุมไฟป่าชานเมืองหลวง​

​

เอเธนส์ 23 ส.ค.- เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรีซระดมกำลังเต็มที่เพื่อสกัดไฟป่าที่กำลังโหมไหม้เขตปริมณฑลทางตะวันออกของกรุงเอเธนส์ โดยได้เผาหนึ่งในผืนป่าสุดท้ายของเมืองหลวง เป็นระยะทางยาว 30 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 400 นาย พยายามควบคุมเพลิงตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ขณะที่ไฟลามไปถึงเขตที่อยู่อาศัยหลายแห่ง ทำให้ต้องอพยพประชาชนเป็นระยะ ๆ คาดว่ามีพื้นที่ถูกไฟป่าเผาไปแล้ว 75,000 ไร่ รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน ต้นเพลิงเริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ในย่านชนบทแห่งหนึ่ง ห่างจากกรุงเอเธนส์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 40 กิโลเมตร กระแสลมแรงทำให้ไฟลามไปทั่วพื้นที่ป่าที่มีผู้คนอาศัยกระจัดกระจาย

เจ้าหน้าที่ได้สร้างแนวกันไฟบนภูเขาเปนเตลี เป็นแนวกันไฟสุดท้ายก่อนถึงเมืองหลวงแต่ไม่สกัดไฟไว้ได้ จึงต้องอพยพคนออกจากโรงพยาบาลเด็ก ค่ายฤดูร้อนและคลีนิกจิตเวช นอกจากนี้ ไฟยังลามไปถึงภูเขามาราธอน หนึ่งในแหล่งเพาะปลูกและแหล่งน้ำสำคัญของเมืองหลวง ทางการต้องย้ายยุทโธปกรณ์จากค่ายทหารในพื้นที่ใกล้เคียง

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ทำให้ผู้คนนึกถึงไฟป่ารุนแรงทั่วประเทศเมื่อปี 2550 ที่มีคนเสียชีวิตมากถึง 77 คน กรีซเสี่ยงเกิดไฟไหม้ช่วงฤดูร้อนเป็นประจำเนื่องจากอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส และมีกระแสลมแรง.- สำนักข่าวไทย

2009-08-23 15:32:54

ไต้หวันคาดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นมรกตมีจำนวนกว่า 650 คน​

​

ไทเป 23 ส.ค. - นายกรัฐมนตรีหลิว จ้าว เสวียน ของไต้หวัน กล่าวคาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นมรกตพัดถล่มมีจำนวนกว่า 650 คน นับเป็นภัยพายุครั้งรุนแรงที่สุดในไต้หวันในรอบ 50 ปี

นายกรัฐมนตรีไต้หวัน กล่าวว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 160 คน ซึ่งผู้สูญหายอีก 490 คน คาดว่าอาจเสียชีวิตแล้ว และเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบดีเอ็นเอจากศพผู้เคราะห์ร้ายต่อไป หลังจากพายุกระหน่ำไต้หวันเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วม ชาวบ้านหลายพันคนติดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในหมู่บ้านนานหลายวัน เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยต่างค้นหาศพที่ลอยขึ้นมา และพยายามขุดค้นหาศพกว่า 400 ราย ที่คาดว่าติดอยู่ใต้กองโคลนลึกหลายเมตร.- สำนักข่าวไทย

2009-08-23 14:42:38

โครงการระเบิดภูเขาผันน้ำทำให้คนไต้หวันถูกโคลนถล่มตายหลังไต้ฝุ่นถล่ม​

​

ไทเป 23 ส.ค.- ผู้ประสบภัยไต้ฝุ่นมรกตในไต้หวันระบุว่า โครงการระเบิดภูเขาเพื่อผันน้ำของทางการเป็นต้นเหตุที่ทำให้โคลนถล่มคร่าชีวิตประชาชนจำนวนมาก

ประธานาธิบดีหม่า อิง จิ่ว ยืนยันขณะเยี่ยมผู้ประสบภัยในหมู่บ้านเซี่ยวหลิน หมู่บ้านทางใต้ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ความเสียหายจากไต้ฝุ่นมรกตว่า จะสอบสวนข้อร้องเรียนของชาวบ้านที่ว่าการระเบิดภูเขาเพื่อเปิดทาง 15 กิโลเมตร ผันน้ำจากแม่น้ำเหลาหนุงไหลไปยังเขื่อนแห่งหนึ่งเป็นสาเหตุให้ดินถล่ม ชาวบ้าน 400 คนสูญหาย คาดว่าเสียชีวิตหมดแล้ว ชาวบ้านซึ่งโกรธแค้นเผยว่า คัดค้านโครงการนี้ตั้งแต่ต้นแต่ทางการไม่ยอมรับฟัง ด้านนักวิเคราะห์การเมืองชี้ว่า แม้โครงการนี้ริเริ่มในสมัยรัฐบาลเฉิน สุ่ย เปี่ยน แต่รัฐบาลปัจจุบันต้องรับผิดชอบเช่นกันเพราะเร่งเดินหน้าโครงการ

โครงการมูลค่า 21,200 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 21,836 ล้านบาท) นี้เริ่มเมื่อปี 2548 มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2555 วัตถุประสงค์เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำเหลาหนุงที่มักมีระดับน้ำสูงช่วงฤดูมรสุมไปยังเขื่อนเจิ้งเหวินเพื่อปล่อยน้ำลงสู่มหาสมุทรต่อไป สำนักงานทรัพยากรน้ำของไต้หวันยืนยันว่า โครงการนี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ดินถล่มเพราะอยู่ห่างจากหมู่บ้านประสบภัย 11 กิโลเมตร ด้านกองทุนสัตว์ป่าโลก (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) เตือนว่า ปัจจุบันมีการดำเนินโครงการผันน้ำขนาดใหญ่จำนวนมาก หลายโครงการไม่มีการศึกษาผลกระทบด้านสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมอย่างเพียงพอ เสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายได้. -สำนักข่าวไทย

2009-08-23 12:15:42

ผู้เชี่ยวชาญจีนช่วยฟื้นฟูไต้หวัน หลังไต้ฝุ่นกระหน่ำ​

​

ไทเป 23 ส.ค. - เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค 3 คน จากจีนเดินทางมาถึงไต้หวันแล้ว เพื่อช่วยจัดสร้างบ้านสำเร็จรูปหลังไต้ฝุ่นมรกตพัดกระหน่ำเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิต สูญหาย และสร้างความเสียหายแก่ไต้หวันมาก

เจ้าหน้าที่ไต้หวัน กล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจีนของบริษัทในเมืองเสิ่นเจิ้น เดินทางมาถึงภาคใต้ของไต้หวันเมื่อค่ำวันเสาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนัก โดยคาดว่าจะช่วยเหลือในการเร่งก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปนับพันหลัง ซึ่งสื่อไต้หวันระบุว่านับเป็นภารกิจกู้ภัยครั้งแรกของจีนในไต้หวันในรอบ 60 ปี
ไต้ฝุ่นกระหน่ำไต้หวัน ทำให้ฝนตกและน้ำท่วมสูงหลายเมตรตามบ้านเรือนและสะพาน มีผู้เสียชีวิต 163 คน และสูญหาย 503 คน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม บ้านเรือนเสียหาย 136,400 หลัง .-สำนักข่าวไทย

2009-08-23 13:22:29

ภัยแล้งทำให้คนจีนภาคเหนือขาดน้ำ​

​

ปักกิ่ง 23 ส.ค. – ประชาชนราว 5 ล้านคน ทางภาคเหนือของจีน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากผลกระทบของภาวะแห้งแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน อ้างรายงานของศูนย์ควบคุมน้ำท่วมและบรรเทาภัยแล้งแห่งชาติ ระบุว่า ภาวะแห้งแล้งทางภาคเหนือส่งผลให้ประชาชนราว 4.6 ล้านคน และปศุสัตว์อีกราว 4.1 ล้านตัว ขาดแคลนน้ำดื่ม เพิ่มขึ้นจากตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง 3.9 ล้านคน ที่รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน

ภาวะแห้งแล้งที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือตั้งแต่เขตปกครองตนเองมองโกเลียถึงมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งอยู่ใกล้เคียง มีรายงานว่าสถานการณ์ภัยแล้งมีความรุนแรงที่สุดในรอบ 6 ทศวรรษ พร้อมกันนี้ มีแนวโน้มว่าภาวะแห้งแล้งเริ่มคืบคลานสู่ทางใต้ของจีนแล้ว โดยมีรายงานปัญหาฝนทิ้งช่วง และอุณหภูมิที่สูงขึ้นทั้งในมณฑลหูเป่ยและหูหนาน ในภาคกลาง.-สำนักข่าวไทย

2009-08-23 12:00:22

คนป่าในบอร์เนียวรวมตัวต้านตัดไม้และปลูกปาล์มน้ำมัน​

​

ลองเบ-ลก 23 ส.ค.- ชาวป่าเปนันหลายพันคนพร้อมหอกและท่อเป่าลูกดอกรวมตัวกันตั้งแนวป้องกันในป่าลึกบนเกาะบอร์เนียวของมาเลเซียต่อต้านการตัดไม้และการปลูกปาล์มน้ำมัน

คนป่าทั้งชายและหญิงเฝ้าแนวป้องกันใหม่ 3 แห่งที่เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้เพื่อขัดขวางไม่ให้รถบรรทุกไม้สักเข้าไปในพื้นที่ ขณะนี้มีแนวป้องกันในรัฐซาราวัคของมาเลเซียแล้วทั้งหมด 7 แห่ง เป็นการรวมตัวของชุมชนคนป่าเปนัน 13 แห่ง รวม 3,000 คน กลุ่มเฟรนด์ออฟดิเอิร์ธในซาราวัคเผยว่า คนป่ารวมตัวกันประท้วงเพราะที่อยู่ของพวกเขาถูกบริษัทตัดไม้และปลูกปาล์มน้ำมันรุกล้ำทำลาย

พวกเขาต้องปกป้องผืนดินสุดท้ายเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ให้ดำรงอยู่ต่อไป ด้านหัวหน้าเผ่าเผยว่า ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาพวกเขาทนให้บริษัทไม้ทำลายป่าซึ่งเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่ ทำให้หาอาหารได้ยากขึ้น แม่น้ำที่ใสสะอาดเห็นปลาว่ายในน้ำลึกถึง 6 ฟุต กลายเป็นสีน้ำตาลขุ่นเพราะดินถล่มจากเชิงเขา ล่าสุดพวกเขากำลังจะถูกกวาดล้างให้สูญสิ้นเพราะการถางป่าเพื่อปลูกไม้สักและปาล์มน้ำมันจะทำให้วิถีการดำรงชีวิตเปลี่ยนไป สภาพแวดล้อมจะถูกทำลายจากการใช้ยาฆ่าแมลง

สถิติของทางการระบุว่า มีคนป่าเปนันในรัฐซาราวัคมากกว่า 16,000 คน ในจำนวนนี้ 300 คน ใช้ชีวิตเร่ร่อนไปทั่วป่า เป็นหนึ่งในกลุ่มคนป่าดั้งเดิมกลุ่มสุดท้ายของโลก ด้านนายเจมส์ มาซิง รัฐมนตรีพัฒนาชนบทของรัฐซาราวัคยอมรับว่า บริษัทตัดไม้บางแห่งทำให้ป่าเสียหายอย่างมาก แต่ก็เตือนว่าต้องรับฟังข้อร้องเรียนของคนป่าอย่างรอบคอบด้วยเพราะพวกเขา “เล่าเรื่องเก่ง” ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องคนป่าไม่พอใจจำนวนเงินชดเชยที่บริษัทจ่ายให้ หรือคนป่าเปนันอ้างพื้นที่ทับซ้อนกับคนป่ากลุ่มอื่น ส่วนการที่ขณะนี้มีการเร่งปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้นเพราะใกล้ถึงกำหนดที่ต้องขยายพื้นที่ปลูกอีก 2 เท่าเป็น 6.25 ล้านไร่ภายในปีหน้า เป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ 10 ปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

2009-08-23 12:01:21

นายกฯ อิสราเอลเยือนยุโรปหารือแผนสันติภาพ-อิหร่าน ​

​

เยรูซาเลม 23 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล จะเยือนอังกฤษและเยอรมนี ตามเป้าหมายหารือแผนเจรจาสันติภาพตะวันออกกลางและโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

เจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู จะพบปะกับ นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ และ นายจอร์จ มิทเชล ผู้แทนตะวันออกกลางของสหรัฐ ที่กรุงลอนดอน ในวันอังคาร (25 ส.ค.) ก่อนจะเดินทางไปยังกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีในวันถัดไป เพื่อร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี

ด้านโฆษกผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า การหารือร่วมกับผู้นำอังกฤษและเยอรมนี และผู้แทนเจรจาของสหรัฐ มีวาระสำคัญด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี สันติภาพตะวันออกกลาง ประเด็นความมั่นคงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านตามที่อิสราเอลเห็นว่าเป็นการแอบอ้างเพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า อิสราเอลเริ่มมีท่าทีอ่อนลงต่อข้อเรียกร้องจากหลายประเทศนำโดยสหรัฐที่ขอให้อิสราเอลระงับการขยายนิคมชาวยิว โดยนายกฯ อิสราเอลยอมระงับการออกใบประมูลการก่อสร้างในเขตเวสต์แบงก์ และเขตตะวันออกของกรุงเยรูซาเลม จนถึงต้นปีหน้า เพื่อปูทางสู่การรื้อฟื้นเจรจาสันติภาพตะวันออกกลางรอบใหม่.- สำนักข่าวไทย

2009-08-23 10:09:08

ชิลีแถลงผลยืนยืนไก่งวงติดเชื้อไข้หวัด 2009 ​

​

ซานติอาโก 23 ส.ค. - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชิลี แถลงยืนยันว่า เชื้อไวรัสที่ตรวจพบในฟาร์มไก่งวง 2 แห่ง เป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น 1 และระบาดมาจากคน

สำนักงานเกษตรและปศุสัตว์ชิลี มีรายงานการระบาดดังกล่าว เมื่อค่ำวันพฤหัสบดี ที่ฟาร์ม 2 แห่ง ในเขตบัลปาราอีโซ ห่างไปทางตะวันตกของกรุงซานติอาโก ราว 160 กิโลเมตร ชิลีเป็นหนึ่งในประเทศอเมริกาใต้ที่มีรายงานการระบาดอย่างรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ซึ่งภูมิภาคนี้คิดเป็นร้อยละ 70 ของผู้เสียชีวิตเกือบ 1,800 คนทั่วโลก

กระทรวงสาธารณสุขชิลี รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 116 คน และติดเชื้อ 12,175 คน ซึ่งการพบเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จากคนที่ระบาดไปสู่ไก่งวงในชิลีนับเป็นแห่งแรกในโลก แต่เจ้าหน้าที่ชิลีกล่าวว่า เชื้อไวรัสชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ยังไม่ได้กลายพันธุ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกแสดงความกังวลว่าไวรัสอาจมีความต้านทานมากขึ้นและกลายพันธุ์ได้ .- สำนักข่าวไทย

2009-08-23 09:54:28

ที่มา http://news.mcot.net

 

มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา ยืนยันว่า ค.ศ. 2012 เกิดภัยพิบัติใหญ่แน่นอนค่ะ

ดูสด (บางเครื่องอาจดูไม่ได้)
[VDO]http://province.prd.go.th/nakhonsawan/modules/Forums/files/ns_ufo_301.wmv[/VDO]

ดูผ่าน Windows Media Player หรือดาวน์โหลด
http://province.prd.go.th/nakhonsawan/modules/Forums/files/ns_ufo_301.wmv