การฝึกเปิดตาที่ สาม และวิธีใช้ตาที่สาม

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 3 พฤศจิกายน 2008.

  1. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอบคุณ คุณ Atsadong ที่กรุณาแนะนำค่ะ และเพื่อนทุกคนที่ให้กำลังใจให้ผ่านอุปสรรคไปได้

    ขอบคุณ คุณatsadongมากค่ะที่กรุณาแนะนำ
    ดิฉันจะนำไปพิจารณาน๊ะค๊ะ
    ดิฉันก็ไม่คิด ว่าใครจะว่าดิฉันหรอกค่ะ คิดว่าเข้าใจจุดประสงค์ผิดกันมากกว่า ดิฉันไม่คิดมากหรอกค่ะเจอเรื่องที่หนักหนากว่านี้มาเยอะแล้ว ดิฉันอายุ 43 ปีแล้ว ไม่ใช่เด็กขี้งอนค่ะ แต่ดิฉันอยากให้เข้าใจจุดประสงค์ให้ชัดเจน เพื่อนสมาชิกทุกคนในเว็ปนี้ จะได้ให้ความเห็นความช่วยเหลือแนะนำแก่ดิฉันได้ตรงจุดประสงค์ และจะได้เป็นประโยชน์กับผู้อื่นที่มีปัญหาเหมือนของดิฉัน
    และดิฉันอยากให้ทุกคนเข้าใจเป็นที่สุด ว่าดิฉัน ไม่ชอบอวดอ้าง ลองของ ลองภูมิ (เพราะจริงๆแล้วดิฉันความรู้น้อย ไม่มีอะไรจะมาอวด มาลอง รู้เท่าที่ปฎิบัตินั่นแหละนอกเหนือจากนี้ ต้องไปหาเอาในอนาคตต่อไปค่ะ) เพราะเดี๋ยว จะมีผู้อื่นมาโพสตั้งคำถามลองวิชากันให้เสียเวลาแทนที่จะเป็นการแนะนำแบบกัลญานมิตรให้ความรู้กันค่ะ
    และดิฉันเป็นคนคุยเล่นไม่ค่อยเก่งค่ะ แต่มิตรภาพดีน๊ะค๊ะ จะตรงๆแบบนี้ล่ะค่ะ เพราะชัดเจนดีค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ และทุกท่านที่ให้กำลังใจให้ดิฉันผ่านอุปสรรคนี้ไปได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2009
  2. โพธิ์แก้ว

    โพธิ์แก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    เวลามีความกลัวเกิดขึ้น ให้พิจารณาที่ความกลัว...

    แล้วหาสาเหตุให้เจอว่ากลัวเพราะอะไร....โดยส่วนมากเราจะกลัวสิ่งต่างๆ

    เพราะความไม่รุ้ว่ามันคือ อะไร จะมาทำอะไรเราหรือป่าว แล้วเราจะเป็นอันตรายมั้ย

    ซึ่งความรุ้สึกกลัวนี้จะยิ่งมากขึ้น เมื่อเรายึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตนของเรามากขึ้น หรือที่ท่านพุทธทาสท่านเรียกว่า ตัวกู ของกู นั้นเอง

    ต้องตั้งสติหัดมองจิตเราเวลาเกิดความกลัวขึ้นมาบ่อยๆ แล้วจิตเค้าจะค้นพบเองว่า

    แท้จริงแล้วความกลัวไม่ใช่อะไรเลย เป็นเพียงความปรุงแต่งของจิตนั้นเอง

    ขอให้เจริญในธรรม....
     
  3. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ขออนุโมทนาค่ะ
    "ต้องตั้งสติหัดมองจิตเราเวลาเกิดความกลัวขึ้นมาบ่อยๆ แล้วจิตเค้าจะค้นพบเองว่า" จิตเค้าจะค้นพบโดยอัตโนมัติเลยรึเปล่าค๊ะ ขอโทษนะคะถ้าใช้คำไม่ถูกค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2009
  4. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    ภาพคุณอัสดง จริงๆเป็นภาพเคลื่อนไหวค่ะ ไม่ใช่สามมิติ มันหลอกตา ที่หลอกตาเพราะ ขนาดรูปต่างกัน และ สังเกตุว่า ในรูปนี้ขอบสีดำของวงรีแต่ละด้านจะไม่ได้หันไปทางเดียวกันทั้งหมด ดังนั้นสีดำที่ขอบวงกลมหรือวงรีนั้นจะเป็นการกำหนดทิศทางการมองด้วย ตรงนี้ทำให้หลอกตา เหมือนว่าภาพเคลื่อนไหวในขณะที่ตาเรามองจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย ดูมีชีวิตไปเลย ซึ่งต่างจากภาพ 3 มิติ ที่จะมองลึกเข้าไปอีกเหมือนภาพซ้อน นี่คือตัวอย่างภาพเคลื่อนไหวค่ะ ไม่ใช่ภาพ.gif นะ ไม่ได้ทำ animation เป็นไฟล์ jpg
    63493.jpg

    63494.jpg
     
  5. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    หรือเรียนกอีกอย่างว่าภาพอ๊อฟอาร์ต (<<< โฮ่ย อย่าไปสนใจข้อความข้างหน้านี้เลย มันบ้าๆบอๆของมัน เหอๆๆ)

    http://palungjit.org/threads/การฝึกเปิดตาที่-สาม-และวิธีใช้ตาที่สาม.156881/page-34#post2450486 อ่านคอมเม้น นี้แล้วรู้สึกเหมือนคนเขียนกำลังเขียนด้วยอารมณ์โกรธ โมโห มากกว่าสตินะคะ แต่ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัยค่ะ

    เรียนคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->grissana<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2450486", true); </SCRIPT> คะ
    ฉันคิดว่าหากคุณอยากเข้าใจในสิ่งที่คุณคิด ลองสละเวลา นั่งอ่านกระทู้นี่ย้อนไปสักสิบยี่สิบหน้า หรือกระทู้เปิดดตาทีสาม สักสิบห้าหน้า ฉันคิดว่าคุณคงจะได้คำตอบชัดเจนมากกว่าการรอคำตอบของใครสักคนค่ะ
     
  6. Narasimha

    Narasimha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +76
    การเคารพผู้ที่ควรเคารพ การนับถือผู้ที่สมควรนับถือ เป็นการกระทำอันประเสริฐ
    นำแต่จะพาความสุขความเจริญมาสู่ชีวิต ในชีวิตเรานั้นผู้ที่ควรบูชาตั่งแต่เกิดมาคือ
    บิดามารดาเนื่องจากพ่อแม่เป็นพรหมของลูก
    เพราะเหตุที่มีพรหมวิหารธรรม ๔ ประการ ได้แก่
    มีเมตตา คือมีความปรารถนาดีต่อลูกไม่มีที่สิ้นสุด
    มีกรุณา คือหวั่นใจในความทุกข์ของลูก และคอยช่วยเหลือเสมอ ไม่ทอดทิ้ง
    มีมุทิตา คือเมื่อลูกมีความสุขสบาย ก็มีความปลาบปลื้มยินดีด้วยความจริงใจ
    มีอุเบกขา คือเมื่อลูกมีครอบครัวสามารถเลี้ยงตนเองได้แล้ว ก็ไม่วุ่นวายกับชีวิตครอบครัวลูก
    จนเกินงาม และหากลูกผิดพลาดก็ไม่ซ้ำเติม แต่กลับคอยเป็นที่ปรึกษาให้เมื่อลูกต้องการ
    พอโตมาได้ศึกษาความรู้ก็ เคารพบูชาครูอาจารย์ ที่สั่งสอนวิชาความรู้
    เมื่อพอมีปัญญามาประสพพบธรรมะ ก็รู้แจ้งประจักถึง ว่าสิ่งใดคือสิ่งทีจีรังที่สุด
    การเอาผู้ที่ไม่ควรบูชามานับถือไว้ สูงสุดเท่าใดโทษที่เกิดย่อมสูงตามมา
    คิดเพียงแต่คำพูดน่าเชื่อถือเพราะพูดเพราะ น่าเลื่อมใส
    คิดเพียงแต่อยู่ในวรรณะที่สูง
    คิดเพียงแต่การที่ผู้นั้นเป็นอาจารย์เก่าแต่เขลาปัญญา
    ล้วนเกิดโทษทั้งสิ้น.............
     
  7. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    อยากเปิดตาีที่สามบ้างค่ะ แต่ว่าอยู่ไกลจัง (ตั้งหาดใหญ่) จะไปเรียนอย่างไรดี รบกวนคุณสามตา ช่วยพิจารณานางซินได้ไหมคะว่ามีโอกาสเปิดตาที่สามหรือเปล่าคะ ช่วงนี้นั่งสมาธิแล้วถ้าเอาจิตไปวางตรงหน้าผาก รู้สึกว่ามันเต้นตุ๊บ ๆ คัน ๆ ปวด ๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ
     
  8. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    รบกวนถาม อ.สามตา ข้อเดียวเลยค่ะ และถามเพื่อนสมาชิิกที่มีประสบการณ์ค่ะ

    ถาม อ.สามตาค่ะ - กรณีคนที่ตาที่สามยังไม่เปิด นั่งสมาธิธรรมดาทั่วๆไป ถ้าเขาไม่ได้ไปฝึกกระตุ้นให้ตาที่สามมันเปิด เช่น ที่หน้าผากหว่างคิ้ว ท้ายทอย กระหม่อม มันก็ไม่สามารถเปิดได้ใช่มั๊ยค๊ะ (ไม่เอาของเก่าที่ฝึกไว้เมื่อชาติก่อนมาเกี่ยวน๊ะค๊ะ)
    ถามเพื่อนสมาชิกค่ะ - ครั้งแรกที่คุณได้เห็นวิญญาณชัดๆเลยเนี่ย ระหว่างฝึกตาที่สามอยู่ เพื่อนเห็นแบบไหนบ้าง เพื่อนมีอาการกับภาวะจิต และร่างกายเป็น อย่างไรบ้าง ในขณะที่เห็น และเพื่อนจัดการกับภาวะจิตและร่างกายของเพื่อนอย่างไร และผ่านมาได้อย่างไร และเพื่อนมีอุบายอะไรที่ทำให้ผ่านตรงนั้นมาได้ (ถ้าบอกละเอียดจะขอบพระคุณมากเลยค่ะเพราะจะได้เอาวิธีไปทดลองใช้เผื่อวิธีไหนถูกจริตจะได้สัมฤทธิผลค่ะ)

    ขอบพระคุณ อ.สามตา และเพื่อนทุกคนค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  9. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    โอ...เยี่ยมไปเลยครับ ขอบคุณนะครับคุณ ploy manee & คุณ Baby par ภาพแรกที่คุณ ploy manee โพสต์ครับ มันเคลื่อนไหว ส่วนภาพของผม มันก็หมุนตามเข็มนาฬิกา แล้วดูดผม จุ๊บ จุ๊บ ดูดผมตลอด ต้องถอนสายตาออกมาเพราะมันดูดครับ
    แต่ทำไมผมดูเอเอฟตอนที่ฉาย 3 มิติ แล้วเอาแว่นมาใส่ ผมมองไม่เห็นภาพ 3 มิติ เลยครับ เมื่อก่อนผมมองเห็น ตอนนี้มองไม่เห็นเลยครับ แล้วจะดูหนัง 3 มิติได้ยังไงครับ ที่สำคัญ มันเกิดความผิดพลาดมาจากอะไรครับ ไม่ทราบท่านใดมีความรู้บ้างครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ
     
  10. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ตกใจ กลัวมาก แล้ววิญญาณก็หัวเราะเยาะในความกลัวของผม ผมเลยเกิดลูกฮึด สู้กับความกลัว โดยพยายามตั้งสติและบอกกับวิญญาณว่า ผมไหว้ล่ะ กลัวจริงๆ ครับ ผมไปทำไรให้คุณทุกข์ขนาดที่คุณจะมาแกล้งผมอย่างนี้ครับ ผมขออโหสิกรรมทุกอย่างที่เคยทำกับคุณนะครับ ผมก็ยกมือไหว้ท่วมหัวเลย สักพัก เขาก็ไปครับ
     
  11. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    กำละ แค่ไม่เห็นกะตาเนื้อ แต่มันแวบมาในหัวประจำ แค่นี้ก็เซ็งแล้ว T^T

     
  12. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ถามคุณ Atsadong ค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะที่บอกประสบการณ์ และเข้าใจปัญหาของดิฉัน ขอถามเพิ่มนะคะ แล้วตอนทีฺ่ กลัว คุณใช้อะไรจัดการกับความกลัว ตกใจ ทำให้คุณฮึดสู้ ขึ้นมาได้ หัวใจคุณเต้นแรง ตัวร้อนมากมั๊ย แล้วคุณ เริ่มชิน เริ่มหายกลัว เมื่อเจอกี่ครั้งแล้ว แล้วตอนฮึดสู้ ก็ยังเห็นวิญญาณอยู่หรือไม่ค๊ะ แล้วตอนนี้ที่คุณเจอคุณเห็นวิญญาน เหมือนเห็นคนธรรมดารึยังคะ ขอถามแค่นี้ก่อนนะคะ

    ขออ้างอิง โพส 666 ที่คุณแนะนำดิฉันนะคะ จริงแล้ว ความกลัวเห็นก่อนที่ยังไม่ได้เห็นวิญญาณชัดๆ ก็เป็นความฟุ้งซ่านชนิดหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณอ่านในโพสที่แล้วที่เล่าและถาม อ.สามตา ว่า "ความกลัวมันแทรกขึ้นมาบ่อยครั้ง ดิฉัน รับรู้แล้วกระทบดับไป" ซึ่งความฟุ้งซ่านตรงนี้ ดิฉันสามารถจัดการกับมันได้ค่ะ เพราะมันยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ทำจนสมาธิตั้งมั่นได้นาน แต่ติดตรง ถ้าเห็นเป็นตัววิญญาณชัดๆโผล่มาเลยเนี่ยในขณะที่มีสติรู้ตัวครบเนี่ย ตรงนี้ที่ดิฉันกลัวสติแตก ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหาของดิฉัน ดิฉันถึงไม่ต้องการที่จะให้ตามันเปิดหรือสัมผัสจนทำให้เห็นในลักษณะนี้ แต่ประสบการณ์ที่ดิฉันเห็นมา ดิฉันไม่ทราบว่าตอนที่ปฎิบัติไปเรื่อยสมาธิของดิฉันมันเป็นขณิกกะเป็นช่วงๆก็เหมือนกับไม่เห็นอะไรเป็นปกติธรรมดา แต่ดิฉันไม่ทราบว่ามันหลุดไปตอนไหน หลังจากที่เจอดิฉันก็หยุดทำไปพักใหญ่ แล้วดิฉันก็กลับมาปฎิบัติใหม่ พอปฎิบัติไปเรื่อยๆช่วงต้นก็เป็นขณิกกะปกติ ได้นาน แต่พอไปถึงจุดที่ไวมากเหมือนกับจิตรวมตัวเร็วมากมันยกขึ้นเลยเหมือนกับจะแนบแน่นซึ่งมันไม่เหมือนกับการปฎิบัติในช่วงต้นที่ทำได้อยู่เรื่อยเป็นเวลานาน ดิฉันจึงรีบถอนออกและก็ไม่ทำต่อเพราะกลัวจะเจอกับปัญหาที่ตัวกลัวอยู่ ก็เลยปฎิบัติไม่ก้าวหน้าเหมือนอยู่กับที่ไม่พัฒนา
    ถึงถามอาจารย์ว่า ถ้าดิฉันทำสมาธิแบบของดิฉันที่เป็นขณิกกะแล้วไม่ไปกระตุ้นมันก็ไม่เปิดใช่มั๊ยจะได้คลายกังวลจากการเห็นวิญญาณชัดๆ แต่สำหรับดิฉัน ถ้าสัมผัสในกรรมฐานแบบไม่เห็นตัว ที่อ.สามตาได้บอก "ถ้าฝึกถึงจุดหนึ่งก็จะสัมผัสได้" คือรู้ว่าอยู่ใกล้ตัวแต่คิดว่าคงจะไม่ได้เห็นชัดๆจะๆค่ะ ก็จะดีกว่าเห็นชัดๆ เพราะจะคุมสติในการกลัวได้มากกว่าค่ะื หรือถ้าปฎิบัติรูปแบบไหนแล้วมันจะต้องเห็นหรือต้องสัมผัสแบบที่จะต้องเห็น ทางเลือกสุดท้ายของดิฉันคือ ก็จะไปฝึกเปิดตาเพื่อแก้ปัญหาในการกลัวเห็นวิญญาณชัดๆ จะได้ปฏิบัติธรรมของดิฉันได้ต่อเนื่องต่อไปค่ะ

    ขอบคุณน๊ะค๊ะที่คอยช่วยเหลือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  13. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    เราเห็นครั้งแรกตอนอายุ ประมาณ 17 เวลาเราถูกจ้อง เราจะรีบลุกขึ้นมาดู ปรากฎว่า มีคนยืนปลายเตียงจริงๆ หัวขาดดดด... สวมชุดสีส้มพันตัวพันแขน ยังกะมัมมี่เลย ใจดีสู้ผี ไม่กลัว ยิ่งเพ่ง มันก็ยิ่งหาย .... คืนต่อมาก็รู้สึกเหมือนเดิม รีบลืมตามา มันมาอยู่ข้างเตียงแล้ว ไม่มีหัว ระยะประชิด จำชุดได้ สีส้ม พันแขนพันตัว แล้วก็หายไป
    เราก็บอกว่าแน่จริงมาให้เห็นหน้าดิ ก้มาให้เห็นหน้าจริงๆ ในเช้าวันหนึ่ง แต่ไม่มีตา จมูก ปาก ม้วนผมไว้กลางกระหม่อม เราลุกขึ้นมาดู เห็นเท้าไม่มีอีกแล้ว ... เผ่นดีกว่า ทันใดนั้นเค้าก็สวดมนต์ให้ฟัง ในจิตเรารู้เลยว่า ผีตนนี้ คือใคร...
     
  14. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ถึง คุณ ploy manee

    ขอบคุณค่ะที่เล่าประสบการณ์

    ขอ:cool:ให้คุณจริงๆเลยน๊ะเนี่ย อายุ 17 จิตใจทำด้วยอะไรคะเนี่ย ถ้าเป็นดิฉันนะ ฉีราดแล้วน๊ะ หัวโกร๋นด้วย แล้วมีอุบายอื่นอีกมั๊ย รู้สึกอุบายในการสู้ยังไม่ค่อยชัดสำหรับดิฉันเลยอ่ะ..ไม่รู้จะเอาไปใช้ยังไง
     
  15. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    จริงๆนั้น ก็ต้องอยู่ที่นิสัยใจคอด้วยค่ะ ตอนเรียน ม ปลาย นิสัยติดเพื่อน รักเพื่อนมากๆ มีไรก็ให้เพื่อนได้หมด ตั้งใจเรียนด้วยนะ แบบว่า เรียนเป็นเรียน เล่นเป้นบ้า เรื่องสมาธิ ครูที่โรงเรียน สอนตั้งแต่ ม 1 ทุกชั้นต้องทำสมาธิก่อนเรียนวิชาพระพุทธศาสนา ก็ เลยได้ตรงนี้มาเป็นฐานของสติด้วย เด็กอ่ะนะ วัยรุ่น จริงใจกะเพื่อน จริงใจกะทุกอย่างนะ เราว่าความจริงใจนี่แหละ เป็นตัวส่งพลังสมาธิ ไม่เคยกลัวอะไรด้วย บวกกับ เป็นลูกคนเล็ก เอาแต่ใจ อยากได้ไรก็ต้องได้ ไม่เคยยอมแพ้ สันดานตรงนี้แหละค่ะ ไอ้ที่ไม่ยอมใคร ดื้อ เวลามันเจออะไร มันก็ไม่กล้ว จะรู้ให้ได้ว่าคือไร หากเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็ เผ่น 555 แต่ไม่กล้วหรอก ทุกวันนี้ก็ไม่กล้วผี ใจเราน่ากลัวกว่าอีก

    หัดดื้อบ้างก็ได้ เอาแต่ใจบ้างก็ดี การเป็นคนหัวดื้อมันก็มีประโยชน์ในการจะเอาชนะบางอย่างได้นะ
     
  16. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ฺถึงคุณ Baby par

    ขอบคุณมากค่ะที่แนะนำ

    จริงๆแล้วคุณก็เข้าใจถูกอยู่ค่ะ มีขุ่นข้องนิดหน่อยเท่านั้นแหละค่ะ ก็เรื่องที่ว่า ดิฉันไม่กลัวผีจริง จริงๆแล้ว ดิฉันกลัวผีจริงๆ จะกลายเป็นว่าที่ดิฉันโพสเนี่ย มาลองวิชาไป แต่ก็มีสติเพราะคิดอยู่พักใหญ่ๆพักนึงนะคะก่อนที่จะโพส ก็เพื่ออธิบายและปรับความเข้าใจให้ผู้อื่นรู้ไปด้วย เรื่องจะได้ไม่บานปลาย เพราะกังวลว่าคนอื่นอ่านโพสของดิฉัน แล้วนึกว่ามาลองของ อวดอ้าง แล้วทีนี้ก็จะไม่แนะนำให้ความรู้ดิฉันค่ะ ก็กลัวจะมีแต่คนคอยติคอยเบรกตลอดค่ะ ก็มีอยู่เท่านี้ละค่ะ
    (^-^ ต้องขอโทษคุณ atidtarn ผ่านโพสนี้ด้วยนะคะ ถ้าคุณ atidtarn ได้อ่านโพสนี้ คุณ atidtarn เป็นคนแรกที่เข้ามาช่วยแนะนำให้ความรู้ดิฉันเลยนะคะ ดิฉันไม่ลืมมิตรไมตรีตรงนี้ค่ะและยังไงดิฉันต้องรบกวนขอความรู้อีกต่อในอนาคตนะคะ ขอบคุณค่ะ^-^)
    (เข้าใจดิฉันนะค๊ะ)

    ดิฉันจะเข้าไปอ่านใหม่เป็นรอบที่ 3 ค่ะ อาจจะเป็นเพราะดิฉันด้อยประสบการณ์ค่ะ ก็เลยไม่รู้คำตอบสำหรับปัญหาของดิฉัน จะเข้าไปค้นหาคำตอบใหม่น๊ะค๊ะ

    ถ้าคุณมีอุบายวิธีสำหรับแก้ปัญหาภาวะจิตในขณะที่เห็นวิญญาณชัดๆ และผ่านไปได้ ดิฉันรบกวนขออุบายวิธีด้วยนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  17. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ถึงคุณ ploy_manee


    น่าจะจริงตามคุณบอกด้วยนะ เพราะดิฉันพื้นฐานไม่ได้เป็นแบบนี้เลยนะ แถมที่โรงเรียนมีแต่สวดมนต์ ไม่ฝึกนั่ง ที่เข้ามาปฎิบัติเนี่ย เพราะเบื่อตัวเองที่ขี้โมโหนะมันไม่มีความสุขใจเลย แต่ดันมีเชื้อกลัวผีเข้ามาด้วย ก็ตอนปฎิบัติก็เลือกวิธีแบบสตินำตามดูเป็นช่วงๆ ไม่แนบแน่น เพราะวิธีนี้เขาบอกว่าไม่เห็นอะไร ไม่มีฤทธิ์ ก็เลยเลือกวิธีนี้ แต่ไหงดันมาเจอจนได้ สงสัยจะทำผิดวิธี ก็เลยทำให้ อ.สามตาและคุณและคนอื่นยุ่งยากกับเราไปด้วย ถ้าแบบของคุณ คิดว่าตอนนี้ดิฉันต้องไม่กลัวที่จะทำในสิ่งทีดีและทำในสิ่งถูกต้อง ใช่มั๊ยค๊ะ ดิฉันจะได้กล้าหาญเหมือนคุณ กล้าได้กล้าเสีย เพื่อปรับพื้นนิสัียใหม่ ถูกต้องมั๊ยคร๊าบ...(ขอโทษนะ) ถ้าจะต้องเลือกวิธีสุดท้าย(ฝึกเปิดตา)ทั้งที่ไม่อยากจะเลือก ยังไงก็ขอฝากตัวเป็นน้องขอความรู้ด้วยนะ แล้วมีวิธีอื่นอีกมั๊ยแนะด้วยน๊ะ
    อ้อมีไอเดียปิ๊งขึ้นมา ไม่รู้ว่าใช้ได้รึเปล่า อย่าหัวเราะนะ อันนี้ไม่ได้ล้อเล่นนะดิฉันคิดว่า ตอนระหว่างปฎิบัตินะ เอาตุ๊กตาผีที่น่ากลัว มาไว้ในห้องด้วยดีมั๊ย เหมือนจะได้ฝึกคลายความกลัวไปได้ทีละหน่อย เวลาเจอจริงๆ จะได้ไม่กลัวมาก ว่าดีมั๊ย ช่วยวิจารณ์หน่อย เหมือนคนกลัวอะไรให้อยู่ใกล้สิ่งนั้นเขาว่ามันจะหายจริงมั๊ย

    ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  18. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    จริงๆ กระทู้พวกนี้ไม่จำเป็นต้องอ่านให้ละเอียดก็ได้ค่ะ แค่ทำความเข้าใจก็พอแล้ว

    ส่วนวิธีแก้ปัญหาภาวะจิตในขณะที่เห็นวิญญาณ

    พี่ลองคิดว่าลองถามตัวเองค่ะ ว่าถ้าไปวัดตอนกลางคืน วนรอบเจดีสามรอบ(ถ้านึกไม่ออกลองไปทำจริงเลยก็ได้ค่ะ) ลองนึกถึงบรรยากาศมืดๆ แล้วคิดว่าเจอผีหน้าเละๆ หรือตามจินตนาการทีพี่กลัวตามใจชอบ แต่ถ้าเจอผีแล้วให้เวลาคิดสามวิค่ะ ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

    ถ้าภายในสามวิคิดออกก็คงไม่ต้องหาอุบายแก้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปละคะ

    ไม่ใช่ว่าปลาว่าพี่นะคะ แต่ว่าเวลาที่เห็นมา
    บางคนเป็นศิษหลวงพ่อปราโมท นั่งฟังท่านเทศเกือบทุกวันๆ เวลาเจอความทุกเข้ามา กลับนั่งอมทุกข์หาทางออกไม่เจอ
    บางคนสายปฏิบัติ เวลาเจอผี หรือเวลานั่งสมาธิหรือเมื่อเจอสภาวะที่แปลกๆไม่เคยเจอมา กลับไปไม่ถูกสะงั้น(ปลาไม่ได้ว่ากล่าวหาหรือว่าใครนะค่ะ แต่ว่านี่คือตัวอย่างจริงๆ)

    ดังนั้น บางทีความรู้ที่เรารู้เรียนมาหรือเจอมาอาจจะช่วยเราไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าหากคนๆนั้นไม่มีสติ ให้ยั้งคิดหาทางออกของปัญหา(ปลาเองก็ไม่มีสติเหมือนกันเวลากลัว เหอๆ)

    (ถ้าหากอยากเจอผีจริงๆ แนะนำว่า ให้ไปดู 5 แพร่งค่ะ ถ้าดูอย่างไม่กลัว ไม่หลบ หรือไม่ปิดตา ไม่ตื่นเต้น ได้ก็คงไม่ต้องหาคำตอบไปละคะ)
     
  19. grissana

    grissana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอบคุณค่ะที่กรุณาแนะนำ
    ที่แนะไปวัด วนเจดีย์ นี่น่าสนใจนะคะ แต่คงจะไปช่วงไม่มืดมากค่ะทดสอบจิตก่อน และคงต้องขอขมาเจ้าที่เจ้าทางด้วยบทใหญ่เลยแหละ และคงต้องมีเพื่อนคอยดูอยู่ห่างๆหน่อยค่ะ เอาไว้รอให้ฮึดมากกว่านี้หน่อยนะคะขอดูหลายวิธีและค่อยมาเลือกอีกที ค่ะ

    ส่วน 5 แพร่ง บรื๋อ...แค่ชื่อก็นึกภาพไปไหน เห็นเขาว่ามีหลายตอน หลายรูปแบบ ไม่เอาค่ะยอมแพ้ เดี๋ยวกลางคืนต้องกลั้นฉี่เป็นกระเพาะปัสสวะอัีกเสบกว่าจะหายก็นาน จริงๆนะคะ เคยเผลอไปดู บิ๊กซีนีมา ผีชอบโผล่มาข้างหลัง กลางคืนไม่กล้าเข้าห้องน้ำเลย ลูกก็หลับ แฟนก็หลับ ก็ทนกลั้นไว้จนได้เรื่องเลยค่ะ

    บอกตรงๆนะคะ เข้าไปอ่านรอบล่าสุดเนี่ย ก็ยังเข้าใจไม่ง่ายเลยค่ะ เพราะดูแต่ละคน ไม่ค่อยกลัวกันเลย หรือไม่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดากันเลยแหละ
     
  20. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ตอบคุณ grissana

    ใช่แล้วค่ะ ห้าแพร่ง เป็นหนังสั้นห้าเรื่องค่ะ
    เรื่องแรก เป็นเรื่องเกี่ยวกับแก๊งปาหินกับเปรต(smile)(กฏแห่งกรรม)
    เรื่องสอง เป็นเรื่องซอมบี้ (ping)(อะสุภะ)
    เรื่องสาม เป็นเรื่องเกียวกับผีโรงพยาบาล rabbit_(ความประมาทเป็นเหตุให้เจอเรื่องที่ไม่คาดฝันได้)
    เรื่องสี่ เป็นเรื่องเต๊นรถมือสองค่ะ ที่ชอบเอารถที่ชนมาชุบแมวขายpity_pig(มีผีควักไส้พุง ผีเด็กขายพวงมาลัย ผีไฟไหม้ตัว เยอะแยะไปหมดค่ะ)
    เรื่องสุดท้าย เป็นเรื่องคนกองค่ะเรื่องนี้พิกล๊อคไปพิคล๊อกมาเรียกว่า รวมเอาธรรมะมาใช้ขณะดูหนังนี่รวมทุกสี่ตอนที่กล่าวมาเลยคะ catt3

    ดูหนังผีใครว่าไร้สาระได้สาระมาตรืมเลยค่ะ catt7


    แต่เอาแค่ง่ายๆไปก่อนละกันค่ะ เอาชนะความกลัว(ความมืด)ของตัวเองก็ผ่านโลดไม่ต้องไปหาอะไรมาเสริมเติมแต่งแล้วค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...