ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ถ้าเป้นปลาเศรษฐกิจ ก็จะมีคนเลี้ยงคยปลูก กันทั่วไป หาซื้อได้ง่าย
หากไม่ใช่ ก็ยากที่จะหา
นานๆทีก๊จะมีชาวบ้านที่รู้คุณค่า จับเอาจากแหล่งน้ำทั่วไป
เหลือกินเหลือใช้แล้วจึงนำออกขาย

เช่นเดียวกับเหงือกปลาหมอนี้ คนไม่รู้จัก
แม้เคยเห็นผ่านตา ก็ไม่รู้คุณค่า ปล่อยปะให้เหี่ยวแห้งทิ้งเปล่า

สรุป แม่จ้าประคุณรุนช่องคงต้องถกเขมร ถือแห ถืออวน ลงไร่ลงสวนลงนา ไล่จับเอาเองแล้ว

ฮิฮิ... สุวิไล่จับได้มาเข่งหนึ่งแล้ว
เดี๋ยวเหลือกินเหลือใช้จะเอาออกขาย แพงๆให้สะจาย(อยากไม่มีคนช่วยตามหาตามจับเนาะ)

 

รอตากแดดอบแห้ง บดผงแล้ว ขบวนการทำยา มหัศจรรย์พันลึกก็จะเริ่มขึ้น
เอ้า...คนเป็นโรคประหลาดเกี่ยวเนื่องกับ เลือดและน้ำเหลือง และไม่มีทางออกที่ดี อยู่ซังกะตายไปวันๆ ด้วยความทุกข์

เชิญมาเข้าแถว เชิญมาเป็นหนูตะเภา ทดลองยาได้
(ให้คิว ลูกปลาน้อย อันดับแรกเลย คุณวรรณนันท์ อันดับสอง)
เอ้าใครอีกเร่เข้ามาเลย

ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 4 เริ่มจุติแล้ว รอถือกำเนิดอีกไม่นานนี้

สรรพคุณ ช่วยชำระเลือดและน้ำเหลืองให้สะอาด
๑.แก้ภูมิแพ้ โรคเลือดและน้ำเหลืองทั้งปวง (โรคพุ่มพวง ไธรัสซิเมีย ไทรอนด์)
๒. แก้ปะระเมหะที่ทำให้เส้นเลือดตีบตัน ในกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในทั้งปวงเช่น
มะทุระเมหะ(ปะระเมหะจากน้ำตาล)
ปะระเมหะจากไขมัน
ปะระเทหะจากลิ่มเลือดอันเกิดจากโอปักมิกาพาต(เลือดช้ำเกิดจาดการทุบถองโบยตี ตกจากที่สูง-ช้ำใน)
ปะระเมหะอันเกิดจากกิมิชาติภายในสร้างขึ้น (ลิมเลือดทีทำให้เกิดเส้นเลือดขอด)

อาการอันเกิดจาก ระบบเลือด น้ำเหลือง และปะระเมหะทั้งปวง ที่มาตีบตันในร่างกาย ล้วนทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาไม่รู้จบ
รักษาโรคหนึ่ง ไม่นานก็ได้อีกโรคแถม รักษาไปรักษามา เป็นโรคเพียบ
ต้องกินยาทีละกำมือหนึ่ง
เหนื่อยเนาะ

 

ขอเป็นหนูทดลองด้วยอีกหนึ่งคนคะ

เป็นหลานสาวคะ น้ำเหลืองไม่ไดี

ยุง มด แมลงสัตว์ กัด ต่อย นิดหน่อย

เป็นแผลเหวอะหวะ แผลใหญ่...น่าฉงฉานมากคะ

ตอนนี้อายุ หกขวบล่ะ





เดี๋ยวโตขึ้นจะขาไม่สวย ผิวไม่งาม...



...........................................................................................

จารย์ขาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา........
แบ่งหนูสักหน่อยเหอะคะ อยากเอามาทำยาอายุวัฒนะ

ตามข้อ 17....

อยาก สาว สวย ไปอีกนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แย๊ว คะ....

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ deejaimark
พูดถึงเรื่องเหงือกปลาหมอ ก็พอดีนึกได้คะว่า
มีโยคีตาไฟท่านนึง ท่านปรุงยากินมานานแสนนาน
ทั้งๆๆ ที่ตอนนี้ ท่านอายุ 97 ปีแล้วมั๊งคะ(ยังมีชีวิตอยู่คะ)
แต่ สุขภาพ ยังแข็งแรง ความจำดีมาก
แถมยังดูหนุ่มเหมือนคนอายุ 60 ต้นๆๆ
โรคชรา ปวดแขน ปวดขา ปวดเมื่อยตามตัวแทบจะไม่มี
เดินเหิรสะดวก เดินทางต่างจังหวัดบ่อยด้วย
ท่านบอกว่า กินยาสูตรนี้มา 40 กว่าปีแล้วคะ

ส่วนผสมนะคะ

พริกไทยป่น 1 ส่วน
เหงือกปลาหมอ 2 ส่วน
น้ำผึ้ง
วิธีทำ
ผสมตามส่วนที่กล่าวมา เคี่ยวให้เข้าเนื้อ ใส่น้ำผึ้งพอให้ปั้นเป็นก้อนได้

เก็บใส่ขวดโหลไว้ กินได้นาน ไม่มีหมดอายุ

วิธีรับประทาน
รับประทานเช้า - เย็น ครั้งละ 1 ก้อน

อยากลองทำดูเหมือนกันคะ
แต่ยังหาที่ซื้อเหงือกปลาหมอบดไม่ได้เลย
................................................................................
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐิน สามัคคี หลวงปู่คำเป็ง
</TD></TR></TBODY></TABLE>ฮ้า ห้า....
ตรงกะสรรพคุณ ข้อที่ ๑๗

เหงือกปลาหมอที่ใช้ ต้องเป็นเหงือกปลาหมอนานะ
ถ้าใช้เหงือกปลาหมอทะเล สรรพคุณลดไปอื้อเลย


อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi
๑๗. ถ้าจะให้เจริญอายุ ท่านให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำผงละลายน้ำผึ้งรับประทานทุกวัน<O</O

รับประทาน 1 เดือนจะหมดโรค จะมีสติปัญญาดี
รับประทาน 2 เดือนจะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย<O</O
รับประทาน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวกหาย
รับประทาน 4 เดือน ลม 12 จำพวกไม่มีเลย ตาแดงดังตาครุฑ หูได้ยินดังราชสีห์
รับประทาน 5 เดือน โรคภายในจะหมดสิ้น<O</O
รับประทาน 6 เดือน จะเดินได้วันละพันโยชน์ ไม่เหนื่อยเลย
รับประทาน 7 เดือน ผิวจะผุดผ่องสวยงามดี
รับประทาน 8 เดือน เสียงเหมือนนกการะเวก
รับประทาน 9 เดือน คมหอกดาบแทงไม่เข้าเลย
</TD></TR></TBODY></TABLE>







...................................................................................
ขอเชิญร่วมเดินทางไปถวายกฐินวันที่ 1/11/2009
คลิกดูรายละเอียดที่กระทู้นี้ คลิก
ขออนุโมทนา"<!-- google_ad_section_end -->

 

ตกลงต้นเหงือกปลาหมอนาคือหญ้าเกล็ดปลาเหรอครับ อ.สุวิ แถวบ้านผมไม่เคยเห็นเลยทั้งที่บ้านผมในกรุงเทพฯ กับที่บ้านภรรยาที่เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี จะไปหาที่ไหนได้บ้างเนี่ย

 

ชื่อนั้นสำคัญไฉน
บางท่านเรียก เหงือกปลาหมอ(นา)
บางท่านเรียก หญ้าเกล็ดหอย
บางท่านเรียก หญ้าเกล็ดปลา
บางท่านเรียก ต้นเกล็ดปลาหมอ

ชื่อวิทยาศาตร์ ก็ควรมีเพียงชื่อเดียว
แต่ที่ค้นกัน กลับมี ซ้ำกัน
อย่าไปสนเลย จำต้นเอาแล้วกัน

 

รอเหลือจากทำยาพิศดาร เบอร์ 4 ตัวนี้ก่อน นะจ้า นะจ้า
ไม่รู้เลยตากแห้งบดผง แล้วจะเหลื่อเท่าไร
เพี้ยงขอให้ได้สัก โลหนึ่ง

 

อาจารย์ค่ะ ยาปลูกเตโช ทำไมเยอะแยะจัง หาไม่เจอเลยคะ แหะๆ

เอาไว้สอบกลับมาจะเริ่มนั่งอ่านตั้งแต่หน้าแรกใหม่เลยนะคะ

เซิตหาในกุ๊กเกิ้ล เจอในเวปพลังจิตเหมือนกัน ไม่รู้ไปเอามาจากไหนจิ้มปุ๊บโหลดลงเครื่องเลย

ไปสอบลคะวันนี้สุดท้าย ฝากอวยพรด้วยนะคะ อิอิ
V
V
V
V

 

จะลองหาพันธุ์เหงือกปลาหมอนาไปปลูกที่เดิมบางนางบวช บ้านภรรยา ดูจากสรรพคุณแล้ว ภรรยาชอบแน่ๆ อิอิ

 

ปลูกให้เป็นทุ่งเหงือกปลาหมอเลยนะ

แล้วเอามาแบ่งๆกันใช้

งานนี้ aries รวยเละ
รวยแล้ว อย่าลืมแบ่งให้หมอสุวิด้วยนะ เจ้าของลิขสิทธิ์ ระบุสายพันธุ์

เขาว่ากันว่า น้ำต้องดี ดินต้องดี
ไม่งั้นมันไม่งาม และท้ายสุดจะตายหมด

 

ปลูกยากด้วยเหรอครับ อืม ทำไงดีล่ะ ที่เดิมบาง ดินดี แต่น้ำไม่ค่อยดี(ไม่ค่อยมีคนรดน้ำ 555) ส่วนที่กรุงเทพฯ ดินไม่ค่อยดี แต่น้ำดีเพราะน้ำปริ่มๆสวน บางทีน้ำท่วมอีกต่างหาก สวนที่บ้านก็ที่แคบไปหน่อย ตอนนี้ผมกำลังปลูกหญ้าไผ่น้ำได้นิดหน่อย เขาว่าสมุนไพรตัวนี้ช่วยรักษาคนเป็นโรคไตได้ครับ พอดีคุณพ่อผมเป็นอยู่เลยเอามาปลูกเผื่อๆไว้ใช้ อ.สุวิลองไปเที่ยวแถวปากซอยเจริญกรุง 16 นะครับ มีสมุนไพรจีนต้นสดๆหลายชนิดมาขายด้วย ผมไม่รู้ว่ามีต้นอะไรกันบ้าง รู้จักแค่ 2 ชนิดคือหญ้าปักกิ่ง กับหญ้าไผ่น้ำ

 

เหงือกปลาหมอนา ขึ้นได้ดีในที่ชื้นแฉะแต่น้ำไม่ขัง(นานเกินไป)
ในธรรมชาติ จะขึ้นตามริมน้ำ

ขอดูรูปหญ้าไผ่น้ำหน่อยซิ ไม่เคยเห็น
แก้อะไรได้บ้างนะ
วิธีกิน กินอย่างไร

 

หญ้าไผ่น้ำ ตามลิ้งไปเลยครับ ละเอียดพอสมควร


ผมทำลิ้งไม่ได้สักที ระบบรวนๆชอบกล ก็อปลิ้งไปลงแล้วกันนะครับ หลังจาก url= ไม่รวมวงเล็บครับ

 

ผมคัดจากเว็บที่ว่ามาบางส่วนครับ แต่ภาพไม่ได้เอามาด้วย

"หญ้าไผ่น้ำ" รักษาโรคไตได้

จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เห็นว่าน่าสนใจ ขอถ่ายทอดต่อ

ชาวจีน เชื่อถือในสรรพคุณของ “หญ้าไผ่นํ้า” กันมาก โดยมีผู้เป็นโรคไตขนาดต้องฟอกไตเป็นประจำ เมื่อนำเอา “หญ้าไผ่นํ้า” ไป ต้มนํ้าดื่มวันละแก้วใหญ่ๆ กินติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน อาการของโรคไตที่เป็นอยู่ หายได้โดยไม่ต้องฟอกไตอีก ซึ่งอัตราส่วนในการต้มดื่ม เอาต้น “หญ้าไผ่นํ้า” แบบสด 250 กรัม นํ้าเยอะหน่อย ต้มจนเดือดเคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง เทดื่มขณะอุ่นวันละแก้ว ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เวลาไหนก็ได้ ต้มดื่มต่อเนื่อง 3 เดือนแรกอาการจะดีขึ้น 3 เดือนหลัง หรือ 6 เดือน อาการจะหายขาด ปัจจุบันมีผู้นำเอา “หญ้าไผ่นํ้า” มาวางขาย จึงรีบแนะนำให้ผู้อ่านไทยรัฐได้รู้จักอีกตามระเบียบ

หญ้าไผ่นํ้า เป็นไม้ล้มลุกจำพวกกึ่งเลื้อย ลำต้นกลม เป็นข้อปล้อง อวบนํ้า สีเขียวปนนํ้าตาล ต้นสูงไม่เกิน 1 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับตามข้อ เป็นรูปรี ปลายแหลม โคนใบเป็นกาบหุ้มลำต้นบริเวณข้อ สีเขียวสด ใบเมื่อขยี้จะมีนํ้าลื่นคล้ายเมือก ดอก เป็นสีม่วง หรือ สีนํ้าเงิน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำต้น พบขึ้นทั่วไปตามที่ชื้นแฉะ ริมลำธาร หรือตามคันนา มีชื่อเรียกอีกคือ จุยเตกเฉ้า และ ฮวยเฮียะตะเจี่ยเฉ้า

ปัจจุบัน “หญ้าไผ่นํ้า” มีขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” ราคาสอบถามกันเอง ควรซื้อเฉพาะแผงที่แนะนำ ทั้งนี้เพื่อป้องกันถูกหลอก ได้ของไม่แท้ ไปแล้วรับประทานเป็นอันตราย สรรพคุณ อย่างอื่น ทั้ง ต้นตากแห้งต้มเป็นยาเย็นขับพิษร้อนใน บรรเทาอาการบวม รักษาต่อมนํ้าเหลืองลำคออักเสบ ท้องเดิน ภายนอกตำละเอียด พอกถอนพิษแมลงกัดต่อย พอกฝีดีมาก

มหัศจรรย์ ** หญ้าไผ่น้ำ **

( บทความ โดย คุณสมคิด หวังอารยธรรม )

คุณสมคิด หวังอารยธรรม กรรมการผู้จัดการ บจก. ที แอนด์ ที เท็กซ์ไทล์ เป็นสมาชิก สมาคมพ่อค้าผ้าไทย อีกท่านหนึ่ง ที่มีความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพรจีนค่อนข้างมาก และให้ความช่วยเหลืองานด้านสังคมมาโดยตลอด ปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่ง เหรัญญิก กองทุนบรรเทาสาธารณภัยชุมชนสำเพ็ง และเป็น เลขานุการของ นายกสมาคมสหมิตรสำเพ็ง ท่านประสงค์จะเผยแพร่สรรพคุณ *หญ้าไผ่น้ำ* ให้เพื่อน ๆ สมาชิกทราบ เพื่อเป็นวิทยาทาน เท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
แหล่งกำเนิด

หญ้าไผ่น้ำ (จุ้ยเต็กเฉ้า) มีถิ่นกำเนิดที่มณฑลกวงสี มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน มีผู้นำไปปลูกที่สิงคโปร์ เพื่อเป็นยาทานแก้พิษร้อนใน ต่อมา พบว่าเป็นยาสมุนไพร ที่สามารถขับพิษที่ตกค้างในไต ออกทางปัสสาวะ ทำให้ไตคืนสภาพเป็นปกติ

หญ้าไผ่น้ำ มีลักษณะเป็นใบเรียวกลม ด้านบนของใบมีสีเขียว ด้านหลังของใบเป็นสีบานเย็น มีก้านเป็นข้อ ๆ เลื้อยไปตามพื้นดิน ก้านจะมีขนอ่อนนิด ๆ ควรปลูกในกระถางปากกว้าง ดินลึกประมาณ 5 นิ้ว ชอบความชุ่มชื้น แดดอ่อน แต่น้ำไม่ขัง หน้าฝนเจริญเติบโตเร็ว ขยายพันธุ์โดยตัดก้านให้มีความยาว 3 - 4 นิ้ว ปักชำลงในดิน ประมาณ 2 อาทิตย์ จะมีรากงอกออกมาที่ก้านตามข้อ ดังนั้น การขยายพันธุ์จึงทำได้ง่าย

สรรพคุณหญ้าไผ่น้ำ
นอกจากกินแก้ร้อนใน ยังสามารถลดการอับเสบของทางเดินปัสสาวะ แก้พิษงูกัด บำบัดอาการต่อมลูกหมากโต ผู้ที่เริ่มมีอาการของโรคไต โดยค่าของ BUN ในเลือดสูงเกินปกติ หรือ CREATININE สูงเกินค่าที่กำหนด เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า จะต้องงดทานเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ถั่วที่มีโปรตีนสูง ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่มียารักษาเพียงรอให้อาการของผู้ป่วย ถึงขั้นอาเจียน ขาบวม ท้องอืด เบื่ออาหาร ท้ายสุดก็ต้องไปฟอกไต ถ้าคนไข้เริ่มมีอาการใหม่ ๆ ให้ทานน้ำต้มหญ้าไผ่น้ำ จะช่วยบรรเทาอาการของโรคไตได้ดี ดังเช่น บุคคลหลาย ๆ ท่าน ที่ทานยานี้แล้ว อาการของไตเสื่อมจะไม่ปรากฎ ที่บริษัทของข้าพเจ้า แม่ของพนักงานส่งของ มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง ต้องพาส่งโรงพยาบาล และทำการฟอกไตมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อข้าพเจ้าให้หญ้าไผ่น้ำ ไปต้มกับน้ำ ทานวันละ 2-3 แก้ว ปรากฎว่า หลังจากนั้นมีชีวิตอยู่เป็นปกติ ไม่ต้องเสียเงินเพื่อฟอกไตอีก ปัจจุบันก็ทานต่อเนื่อง คนทั่วไปที่ไม่มีโรคภัย ก็สามารถรับประทานสมุนไพรนี้ได้
วิธีต้มหญ้าไผ่น้ำ

ตัดหญ้าไผ่น้ำประมาณ 100-150 กรัม ล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อต้ม (ควรเป็นหม้อเคลือบ) เติมน้ำสะอาด 2 ลิตร ต้มให้เดือดแล้วหรี่ไฟอ่อน ต้มอีกประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วตักเอาหญ้าไผ่น้ำออก จะเห็นน้ำใส ๆ เป็นสีบานเย็นอ่อน ไม่ควรใส่น้ำตาลหรืออย่างอื่น วางทิ้งไว้ให้เย็น แล้วบรรจุขวดเข้าตู้เย็นทานได้ทุกเวลา วันละ 3-4 แก้ว หลังจากทานหญ้าไผ่น้ำแล้ว ประมาณ 3 เดือน ควรไปเจาะเลือดตรวจค่า ของ * BUN * และ * CREATNINE * ด้วย

 

เข้ามาดูเลยได้รับข่าวดีถึงสองข่าว

ยินดีลองยาเข้าเหงือกปลาหมอนาค่ะ พอดีเลย วรรณนันท์มีเส้นเลือดขอดค่อนข้างเหมาะ คือขนาดนั่งเฉยๆก็ปวดขาได้

ส่วนหญ้าไผ่น้ำก็น่าจะใช้ช่วยคนต้องทานยามากๆ เพื่อถนอมไต

คงเป็นข่าวดีของใครอีกหลายคน

 

โมทนาสาธุครับ

เชิญทำบุญซื้อ อิฐ หิน ดิน ทราย เหล็ก ปูน สร้างศาลาแก้วครอบสมเด็จองค์ปฐม

เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานสมเด็จองค์ปฐมและศาลาแก้วพระจุฬามณี ที่ จ.นครศรีธรรมราช (สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ)





" บุญกุศลใดที่พึงจะได้รับ ก็ขอให้ทุกท่านได้รับเช่นเดียวกันถ้วนหน้าสถาพร ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ที่สุดถึงซึ่งพระนิพพานด้วยกันเทอญฯ สาธุ"<!-- google_ad_section_end -->

 

อ.ปู่ ช่วงที่ผ่านมานี้ที่ปลาย้ายบ้านมา

ปลารู้สึกว่าตังเองทานอาหารครบสามมื้อ จากเมื่อก่อนกินไม่เป็นเวลา

นอนสี่ทุ่มจากปรกตินอนเทียงคืน

แต่ทำไม

รู้สึกเลยว่าตัวเองความจำสั้น ความจำน้อย ขี้หลงขี้ลืม มันแปลกๆตรงสมองยังไงไม่รู้ แต่จะว่าปรกติก้ปรกตินะ เพราะว่าตัวเองก้อยู่อย่างไม่อะไรในชิตประจำวันก็ปรกติ แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนตัวเองจำอะไรไม่ได้ หรือว่าคล้ายกับความจำสั้นอะไรประมาณนี้

แถมป่วยบ่อยอีก

แล้วช่วงนี้ก็ถ้าหากวางแขนไว้นานๆบางทีจะมีความรู้สึกสองอย่าง

อย่างแรกเป็นไม่บ่อยนะ เหมือนกับว่าแขนมันมีเส้นอะไรบางอย่างบางๆข้างในกำลังจะเฉือนแขนเราอย่างนั้นแหละ(ให้นึกดูว่ามันวาบๆเจ็บๆเป็นเส้นแนวตัดตรงข้อศอกอะค่ะ ตรงบริเวณรัศมี(ตามรูป และตามลำดับความเจ็บ)จะชาๆ แต่ตรงกลางที่เป็นตรงกลางที่เหมือนโดนตัดจะรู้สึกเจ็บๆ)



และในกรณีที่สองมันจะเจ็บจี๊ตเป็นเส้นของในแขนเลยค่ะ พอจี๊ตสักวิสองวิก็หายค่ะ แต่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นมั้งสองแบบแต่ช่วงนี้พอเอาแขนวางสักพักจะมีอาการใดอาการหนึ่งปรากฏขึ้นค่ะ



ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการย้ายบ้านหรือป่าวนะคะ แต่เอามาเล่าใหห้ฟังค่ะเผื่อมีวีธีแก้<!-- google_ad_section_end -->


อาจารย์ปู่ค่ะเข้ามาแล้วเจอคำว่า"ปลา"ทีไรสะดุ้งทุกที แหะๆ

 

เรียนถามอาจารย์สุวิครับ
น้าผมมีอาการท้องอืด เจ็บชายโครงข้างขวา(ถ้าจำไม่ผิด) ไปพบแพทย์พบว่ามีปัญหาไขมันเกาะตับ ก็ให้ยาบำรุงพวกวิตามินมากินครับ เป็นมาหลายปีแล้ว เกรงว่านานไปจะเกิดตับแข็งหรือ มะเร็งตับ อยากให้อาจารย์ช่วยแนะนำทีครับ จะได้ไปซื้อยาครับ
ขอบคุณมากครับ

 

อาจารย์ครับ โรคพาร์กินสัน เป็น นหารู หรืออังคมังคานุสารีวาตา พิการ ครับ
นวหอย สามารถช่วยได้ไหมครับ

 

ขอตอบคำถามนี้ก่อนนะ
ส่วนคำถามอื่นๆ จะค่อยๆทยอยตอบ

เรื่องของไขมัน นี่ ถ้าใครช่างสังเกตุจะรู้สึกแปลกๆ
คนอ้วน ไขมันเกาะพุงเป็นห่วงยาง เจาะเลือดดู กลับไม่มีไขมันในเลือด
ส่วนคนผอม เอวบางร่างน้อย เจาะเลือดดูไขมัน
โอ้โห้ ไขมันในเลือดเพียบ ทั้งโคเลสเตอรล่อน และไตรกลีเซอรไลร์
ไหง่เป็นเช่นนั้น

พวกหมอช่างสังเกตุ ก็สรุปตรงกันว่า ต้องมีเหตุใดเหตุหนึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ไขมันที่อยู่ในเลือด เข้าไปตกผลึกในเซลและกล้ามเนื้อ เป็นก้อนเป็นเปลวไขมัน
แต่จนปัจจุบันก็ยังหาต้นเหตุนี้ไม่ได้ ก็กินยาลดไขมันในเลือดกันไป เพื่อเบรกการทำงานของตับ บางประการ
และยาตัวนี้เองเมื่อกินไปนานๆ การทำงานของตับก็จะเสียดุล เกิดไขมันมาเกาะที่ตับเสียเอง
เมื่อไขมันแทรกในเนื้อตับมากเข้า ตับก็ทำงานได้ไม่ดี
โรคต่างอันมีตับเป็นต้นเรื่องก็จะดำเนินไปเรื่อยๆ จนปรากฏอาการออกมา เช่น
ตับอักเสพ ตับแข็ง เบาหวาน นิ่วในถุงน้ำดี โรคไวรัสต่างๆ และมะเร็ง

ในการแพทย์แผนไทย ท่านว่า
เกิดจากกิมิชาติ(เชื้อโรค) ที่อาศัยอยู่ในร่างมนุษย์
เชื้อพวกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บอันใด
อาศัยอยู่ทีใด ก็ช่วยสังเคราะห์สารเคมีบางประการเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
และสารเคมีเหล่านั้น ร่างกายมนุษย์ก็ได้ใช้ประโยชน์เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
แลคโตไบซิลัส ช่วยย่อยอาหาร และช่วยไม่ให้ท้องเสีย

ไอ้เจ้ากิมิชาติที่อาศัยที่ตับก็มีหลายชนิด
บางชนิดเมื่อรวมตัวกันสร้างโคโลนี่(ชุมชนของตัวเอง)ขึ้น และปล่อยสารประจำตัวออกมามาก
สารดังกล่าวบ้างจะไป เพิ่มขบวนการสร้างไขมันให้เพิ่มมากขึ้นจากธาตุอาหารเร็วขึ้น
และบ้างก็จะปล่อยสารที่ยับยั้งการรวมตัวกันของไขมัน ไม่ให้เป็นก้อนเป็นเปลวในกล้ามเนื้อออกมา ทำให้ไขมันอยู่ในกระแสเลือดนานและมาก

นี่จึงเป็นต้นเหตุแห่งโรคไขมันที่เป็นกันอยู่
ทั้งไขมันในเลือด ไขมันอุดตัน ฯลฯ

การรักษาทางการแพทย์แผนไทย
สุวิถือว่าโรคดังกล่าวเป็นโรคอันเกิดจากกิมิชาติทั้งสิ้น(ส่วนใหญ่จะเป็นไวรัส)
ทำให้ร่างกานมนุษย์เสียสมดุลย์ ถือเป็นภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง
การรักษานอกจากจะให้ยาลด/เร่งการเผาผลาญไขมันแล้ว
ยังต้องให้ยาแก้ภูมิแพ้ ขจัดเหตุที่มาแห่งโรค คือเหล่ากิมิชาติที่ทำให้เกิดภูมิแพ้เหล่านั้น
โรคจึงจะหายโดยง่าย

ยาที่จะใช้ในกรณีย์ที่ถามมานี้มี

๑.ยาอายุวัฒนะ พระนาราย์ทรงจักร์ (เร่งการเผาผลาญพลังงาน-ให้ความร้อน)
๒.ยาแก้ภูมิแพ้เบอร์ 3 (เพื่อชลอหรือขจัดกิมิชาติที่ทำให้เกิดภูมแพ้)
๓.ผลาธิกะ (เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญ ไขมันให้เร็วขึ้น)

และมีน้ำกระสายยาคือ

๑.ดอกคำฝอย
๒.ดอกเก็กฮวย
๓.ผักเสี้ยนผี

ทั้งสามตัวอย่างละหยิบมือ ชงน้ำร้อนกินเป็นน้ำชาทั้งวัน
จะช่วยลดไขมันในเลือดและไขมันที่เกาะเป็นเปลวไขมันได้(ก็คือลดความอ้วนที่พุงนะ)

หมายเหตุ
ยาผลาธิกะ ปัจจุบันถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมากมายหลายสูตร สรรพคุณสูงขึ้นเรื่อยๆในเรื่องการลดไขมัน(มีถึงผลาธิกะ 17)
ตัวใหนแพ้คัดออก ในอนาคตจะเหลือเพียงไม่กี่ตัว(คงเหลืองเพียงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น)
ปัจจุบันกำลังคัดเลือกตัวแช้มเปี้ยน ๒ คู่
ระหว่างผลาธิกะ 7 กับผลาธิกะ 8 (ตัวอื่นๆถูกคัดทิ้งแล้ว ตอนแรกคิดว่าผลาธิกะ 9 จะชนะเลิศ แต่ท้ายสุดก็ตกกะป๋องไม่เป็นท่า)
และคู่ระหว่างผลาธิกคุณ 15 กับผลาธิกคุณ 17

 

เริ่มที่ หทัยวาตะก่อน ไปลงที่ มัทะเกมัทะลุกังกัง (เลือดไปเลี้ยงก้านสมองไม่พอ)
เกิดลมสัตถะกะวาตะ (กระแสประสาทไหลเวียนสะดุด) ในส่วนของ อุทธังคมาวาตา อโธคมาวาตา และอังคมังตานุสารีวาตาในที่สุด
และท้านสุดก็มาลงที่ นหารู และมังสัง

แต่ก่อนเคยสงสัยว่า การเรียงกันของธาตุ 32 (ดิน ๒๐ น้ำ ๑๒)ทำไมต้องเรียงเช่นนั้น
ทำไมไม่เรียงกันตั้งแต่บนลงล่าง(ศีรษะไปขา ตามระดับอวัยวะ) ทำไมต้องกระโดดไปดดมา
พอมารู้เรื่องการจับพลังยา จึงเข้าใจ การเรียงกันของอวัยวะนั้นๆมีการทำงานที่เกี่ยวเนื่องกัน ส่งต่อการทำงานให้กันและกันเป็นวงกลม