รวมพลคนสัมผัสญาณ"เจ้าแม่กวนอิม" 觀世音菩薩 結緣

การไขรหัสกรรม คือ การดูผลกรรมที่ผู้มาดูนั้น ได้กระทำกรรม<O</O
ใด ๆ ไว้ และส่งผลต่อตัวเองภายในปัจจุบันนี้ได้อย่างไร<O</O
และรวมไปถึง การแนะแนวทางในการแก้ไขรหัสกรรม<O</O
ที่เกิดขึ้น
<O</O<O</O
กรรมบางอย่างเกิดจากวิบากกรรมของตนเองในอดีต<O</O
และกรรมบางอย่างก็เกิดจากการที่ได้กระทำล่วงเกิน<O</O
กับเจ้ากรรมนายเวร ยกตัวอย่างเช่น มีญาติธรรม<O</O
บางคนปรึกษาว่า เขาไปดูกรรมมาหลายที่หลายแห่งแล้ว<O</O
เสียเงินเสียทองไปก็มาก อาจารย์คนนั้นก็ให้แก้ไขอย่างนั้น<O</O
อย่างนี้ ซึ่งเขาทำแล้ว ก็ไม่เห็นดีขึ้น ไม่ทราบว่าพอจะบอก<O</O
ได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ซึ่งอาจารย์นีโม่ก็ดูให้ และบอกว่าการที่เขาเป็นแบบนั้น
ก็เพราะเขาเคยล่วงเกินบุพพาการีไว้ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ
ต่อให้ไปทำบุญที่ไหน ๆ ก็ไม่ส่งผลใด ๆ ถ้ายังไม่ขอขมา
อโหสิกรรมกับพ่อแม่ตัวเอง เพราะพ่อแม่ คือพระอรหันต์ในบ้าน
ต่อให้ทำบุญสร้างเจดีย์ 7 ชั้น แต่ฐานรากของเจดีย์ คือพ่อแม่
กลับละเลย เพิกเฉย ไม่สนใจ ไม่ดูแลเลี้ยงดู ก็ทำให้เจดีย์
หักโค่นพังลงได้ เพราะฉะนั้น ให้กลับไปขอขมาต่อพ่อและแม่
ให้เอาดอกไม้ธูปเทียน ไปกราบเท้าพ่อแม่ และน้ำล้างเท้า
มาอาบมาดื่มเสีย แล้วชีวิตต่อไปจะดีขึ้น เพราะกรรม
ที่หนักที่สุดนั้นได้อโหสิกรรมต่อกันและกันแล้ว <O</O

 

ดังนั้น การไขรหัสกรรมของอาจารย์นีโม่นอกจาก
<O</Oจะดูผลของกรรมแล้วยังแนะนำวิธีแก้ไขรหัสกรรม<O</O
โดยใช้ธรรมะของพระพุทธองค์ท่านเป็นแนวทาง<O</O
ให้ทุก ๆ คน เข้าใจถึงเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิด<O</O
ผลกรรมที่ได้กระทำไป บางคนนึกว่าความผิดเล็ก ๆ<O</O
น้อย ๆ คงจะไม่ส่งผลกรรมใด ๆ แต่หารู้ไม่ว่า<O</O
ความผิดเล็กน้อยที่หลายคนมองข้ามกลับเป็นกรรม<O</O
ที่ดุจเหมือนน้ำหยดลงตุ่ม หยดทุกวัน ๆ จนกระทั่งเต็มตุ่ม
ไปในที่สุดเพราะฉะนั้น อย่าละเลยหรือเพิกเฉย เพราะ
กรรม คือการกระทำที่เกิดจากตัวเรานั่นเอง<O</O

 

พระโอวาทของท่านอรหันต์จี้กง

ข้อ 3. ไม่เคารพพ่อแม่ แต่เคารพพระพุทธองค์ ................ เคารพทำไม

หมายเหตุข้อ 3. พระเจ้าอชาติศัตรูฆ่าพ่อ แม้ต่อมาได้เข้าเฝ้า
และเคารพศรัทธาในพระพุทธองค์ แต่ก็ต้องถูกอภัยกุมารราชโอรส
ปลงพระชนม์ ด้วยกฏแห่งกรรมที่ตามสนอง

(ที่มา : คัดลอกจากหนังสือพระโพธิสัตว์กวนอิม)

 

ภาพรักษาโรคด้วยพระญาณบารมีขององค์พระไภสัชคุรุพุทธเจ้า

 

พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (กวนอิม) ศิลปธิเบต ด้านบนมีพระคาถา โอม มณีปัทเม หุม หริ.

 

​

​

 

ผมเห็นว่า น่าจะนำน้ำล้างเท้าของคุณพ่อ หรือคุณแม่เอามาแค่ลูบหน้าลูบหัวก็คงเพียงพอครับ

 

​

พระนามไภสัชคุรุ เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง
ตามคติในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ทรงมีฤทธิ์อำนาจ
มีพระเมตตา และทรงสามารถขจัดโรคาพยาธิทุกชนิด ที่เกิดทาง
ร่างกาย และเกิดทางจิต (คือกิเลส) ตลอดถึง วิปริตอันตรายอื่น
ที่เกิดจากอำนาจของบุคคล และธรรมชาติ ให้สลายพ่ายแพ้
ไปได้ หากผู้ปรารถนา มีศรัทธาคารวะต่อพระองค์
<O</O
พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ มีพระนามอีกหลายอย่าง เช่น
ไภสัชคุรุราช แปลว่า จอมหมอยา และ ไภสัชคุรุไวฑูรยประภาตถาคต
แปลว่า พระตถาคตผู้ทรงเป็นจอมแพทย์ทางยา ทรงพระรัศมี
(มหากรุณา)อันไพฑูรย์ ตามชื่อพระสูตร
ไภสัชคุรุไวฑูรยประภาคถาคตสูตร​

 

เมื่อพระไภสัชคุรุพุทธเจ้าทรงบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้วนั้น
ได้ทรงระลึกถึงพระปณิธานอธิษฐานธรรมของพระองค์
ทรงตรองดูความทุกข์ของหมู่สัตว์ ผู้เจ็บไข้ได้ป่วย จากโรคภัย
ทั้งปวง บางคนต้องทนทุกข์ทรมาน และเสียชีวิตจากสาเหตุ
ต่าง ๆ กันไป แต่พระไภสัชคุรุพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมหมอยา
ทรงพระกรุณา ช่วยเหลือ บุคคลทั้งหลายเหล่านั้นตาม
พระปณิธานอันเป็นอธิษฐานธรรมบารมีของพระองค์โดยครบถ้วน
<O</O

 

พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า
พระพุทธผู้เป็นครูแห่งยารักษาโรค
พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า พระนามเต็มคือ
พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาส
หรือ เอี๊ยะซือฮุดโจ้ว แปลว่า
พระพุทธเจ้าผู้เป็นครูแห่งยา รักษาโรค
รูปปั้นของพระองค์ท่านถือ “ยาอคต”
ซึ่งถือว่าเป็นยาที่รักษาโรค ได้ทุกอย่าง
พระองค์ทรงประทับ ณแดนพุทธเกษตร
คือ “ศุทธิไวฑูรย์” อยู่ทางทิศตะวันออก
ทรงมีพระโพธิสัตว์คู่บารมี คือ
พระสุริยประภาโพธิสัตว์
และพระจันทรประภาโพธิ์สัตว์
มนตร์ธารณีกล่าวสรรเสริญพระองค์
ความว่า
“นะโม ภควเต ไภสัชยาคุรุ
ไวฑูรยประภาราชันยะ ตถาคตยะ อรหเต
สัมมาสัม พุทธายะ ตัทยธะ โอม ไภสัชเย
ไภสัชเย ไภสัชเยสมุทกเต สวาหะ”<O</O

 

ส่วนใหญ่ผู้ที่มารักษาโรคกับอาจารย์ของกลุ่มผู้ปฏิบัติ
ศูนยตาธรรมนั้น มักจะรักษาโรคกับแพทย์แผนปัจจุบัน
แพทย์แผนโบราณ และ อาจารย์จากหลาย ๆ สำนักแล้ว
ก็ยังไม่มีอาการดีขึ้น หรือ ดีขึ้นมาพักหนึ่ง แต่ก็กลับมา
เป็นใหม่อีก ขอยกตัวอย่างญาติธรรมคนหนึ่ง ญาติธรรม
คนนี้เป็นคุณป้า ไม่มีคนเลี้ยงดู นั่งรถแท๊กซี่มาที่สถานธรรม
น่าสงสารมาก คุณป้าอยากมารักษา โทรมาหาอาจารย์จอห์นนี่
อาจารย์จอห์นนี่บอกให้มาได้เลย เดี๋ยวจะออกค่ารถให้ ไม่ต้อง
กลัวว่าจะมาเรียกเก็บเงินเก็บทอง คุณป้ามาถึงดีใจมาก
แถมคนขับแท๊กซี่ก็ตามมาดูด้วยว่า ที่นี่รักษาอย่างไร
ตอนแรก ๆ เลียบ ๆ เคียง ๆ ไม่กล้าเข้า ต้องจูงมือเข้ามา
บอกว่า เข้ามาดูก่อนก็ได้ ผลสุดท้ายเลยมานั่งคุย
นั่งรักษากันเลย

 

คุณป้าแกเป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ค่อยได้ ต้องใช้ไม้เท้าพยุง
ช่วยตลอดระหว่างที่นั่งรออาจารย์รักษา อาจารย์นีโม่
ก็ชวยคุย คุณป้าก็เล่าอาการให้ฟังว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้
อาจารย์ก็เลยจะรักษาให้ พอจับมือคุณป้าเท่านั้น
แกร้องกรี๊ดซะสุดเสียง เล่นเอาทุกคนแตกฮือกันหมด
บรรดาอาจารย์ต้องมาสวดมนต์ "โอม มะนี เป เม โฮม"
ระหว่างนั้นคุณป้าทั้งกรีดร้อง อาจารย์นีโม่เลยเอา
ประคำประจุพลังจักรวาล(รหัสธรรม 11:11)
ซึ่งเป็นการถ่ายทอดพระญาณบารมีจากพระเอกทศมุขี
อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (กวนอิม 11 พักตร์)<O</O
ปรากฏว่าแกดิ้นใหญ่ ร้องบอกไม่เอา เอาออกไป
เอาออกไป ร้องไล่คนนั้น คนนี้เป็นการใหญ่
<O</O<O</O

 

สาเหตุที่คุณป้าเป็นแบบนั้น เพราะอดีตชาติเคยไปฆ่าคน
ทำให้คน ๆ นั้นอาฆาตแค้น จองเวรกับคุณป้า ทำให้คุณป้า
มีอาการเจ็บป่วย และจะเอาให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งอาจารย์ต้อง
ทำการรักษาให้ถึง 3 ครั้งด้วยกันเพราะเจ้ากรรมนายเวร
คุณป้าไม่ยอมอโหสิกรรมให้ จึงได้บอกคุณป้าให้สวดมนต์
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่คุณป้า
ได้ล่วงเกินมา หมั่นขอขมา อโหสิกรรมทุก ๆ ครั้ง

ในการรักษาโรค ด้วยเรื่องของเจ้ากรรมนายเวรก็ดี หรือ
โรคลมพัดลมเพก็ดี อาจารย์จะไม่เคยใช้วิธีขับไล่ หรือ
ประทุษร้ายเพื่อให้เขาออกจากร่างของผู้ป่วย อาจารย์มักจะ
สอนลูกศิษย์ทุกคนเสมอว่า เราต้องเมตตาต่อพวกเขา
ทุก ๆ ฝ่าย อย่างเท่าเทียมกันให้ช่วยผู้ป่วยและเจ้ากรรม
นายเวรทั้งสองฝ่ายด้วยความเสมอภาค เพราะพวกเขา
มีเวรมีกรรมต่อกันมา ถึงได้พบประสบเหตุแบบนี้
ซึ่งเป็นไปตามกฏแห่งกรรมที่มีต่อกันและกัน

 

คุณค่าทางจริยธรรมของหลักกรรม

1. ให้เป็นผู้หนักแน่นในเหตุผล และมองเห็นการกระทำ
และผลการกระทำตามแนวทางของเหตุปัจจัย
ไม่เชื่อสิ่งงมงาย ตื่นข่าว เช่น เรื่อง ต้นไม้ศักดิ์สิทธิมี
รูปร่างเป็นพญานาคบ้าง เป็นรูปเทพบ้าง เป็นต้น

2. ให้เห็นว่า ผลสำเร็จที่ตนต้องการ จุดหมายที่ปรารถนา
จะเข้าถึงหรือสำเร็จได้ด้วยการลงมือทำ
- จึงต้องพึ่งตนเอง และทำความเพียรพยายาม
- ไม่มัวคอยโชคชะตา ไม่หวังผลดลบันดาล หรือรอผล
การเซ่นสรวงอ้อนวอน

 

3. ให้มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ที่จะงดเว้นจากการทำ
กรรมชั่ว และรับผิดชอบต่อผู้อื่น หรือการช่วยเหลือเกื้อกูล
ทำความดีต่อเขา
(พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้แล้ว ท่านละวาง ปล่อยวางใน
อัตตาตัวตนแล้ว แต่ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ย่อมไม่ได้หาย หรือหมดไป แต่กลับจะเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น
จนไม่มีที่สิ้นสุด นั้นคือความเมตตา กรุณาของผู้ที่บรรลุแล้ว
เป็นพระอริยะแล้ว ไม่เช่นนั้น เราทุกคนคงจะไม่ได้รับ<O</O
ความเมตตา กรุณาจากพระพุทธองค์และพระอริยสงฆ์สาวก
ทั้งหลายทั้งปวง มาโปรดมาชี้แนะแนวทางที่ถูกต้อง
เพื่อให้ไปสู่ทางพ้นทุกข์ เพื่อก้าวไปสู่ทางนิพพาน
เช่นพระองค์ท่านได้<O</O<O</O

 

4. ให้ถือว่าบุคคลมีสิทธิและหน้าที่โดยธรรมชาติ ที่จะ
กระทำการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปรับปรุง สร้างเสริมตนเอง
ให้ดีขึ้นไป โดยเท่าเทียมกัน สามารถทำให้ตนเองเลวลง
หรือดีขึ้น ให้ประเสริฐจนถึงยิ่งกว่าเทวดาและพรหมได้ทุก ๆ คน

5. ให้ถือคุณธรรม ความสามารถ ความดีความชั่วที่ทำ
ความประพฤติปฏิบัติ เป็นเครื่องวัดความทรามหรือประเสริฐ
ของมนุษย์ ไม่ให้มีการแบ่งแยกโดยชาติชั้นวรรณะ

 

6. ในแง่กรรมเก่า ให้ถือเป็นบทเรียน และให้รู้จักพิจารณา
เข้าใจตนเองตามเหตุผล ให้ถือเป็นบทเรียน ไม่คอยเพ่งโทษ
แต่ผู้อื่น มองเห็นพื้นฐานทุนเดิมของตนที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เพื่อรู้จักที่จะแก้ไขปรับปรุง และวางแผนสร้างเสริม
ความเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ถูกต้อง

7. ให้ความหวังในอนาคตสำหรับสามัญชนทั่วไป

 

อาจารย์และลูกศิษย์โหราศาสตร์

 

ภาพวันขมากรรมลอยกระทง