รวมพลคนสัมผัสญาณ"เจ้าแม่กวนอิม" 觀世音菩薩 結緣

ขอเรียนชี้แจงสำหรับผู้ที่สนใจเรียนสวดมนต์จีนและจัดดอกไม้
ณ วัดหลิงจิวซาน ขอแจ้งตารางการเรียนการสอน ดังต่อไปนี้ค่ะ

ทุกวันศุกร์ เวลา 19.00 น. - 20.00 น. เรียนสวดมนต์จีน
ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 - 15.00 น. เรียนจัดดอกไม้

ทุกรายการ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สามารถเข้าไปติดต่อ
ได้ที่ ณ วัดหลิงจิวซาน สาขากรุงเทพ
อาคารรอแยล คาร์เซ่ (Royal Castel 1 fl.) ซอยพัฒนาการ 30
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ ไอย โทร. 086-3513950

 

ขอประกาศธรรม ทั่วแผ่นดิน

เพื่อรักษาถิ่น พระพุทธศาสนา

 

กวนอิมปางที่ 6 พระจินดามณีจักรอวโลกิเตศวร
โพธิสัตว์โปรดสรรพสัตว์ในเทวภูมิจีนเรียก หลูอี้หลุน กวนอิม
ญี่ปุ่นเรียก ไนโออิริน แคนนอน พระโพธิสัตว์ปางนี้ กายเหมือน
ท้าวมหาพรหม มักประทับนั่งบนดอกบัวยกพระชานุ ด้านขวา
ขึ้นพระกรขวาค้ำอยู่กับพระชานุ พระหัตถ์ขวารับพระเศียรไว้
อย่างหนักแน่นอันแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ในการโปรดสัตว์
พระหัตถ์ขวากลางทรงจินดามณี อันหมายถึงแก้วสารพัดนึก
ในการโปรดสัตว์ให้พ้นจากกองทุกข์ พระหัตถ์หนึ่งทรงลูกประคำ
พระหัตถ์ด้านซ้ายทรงรัตนจักรซึ่งหมายถึงทรงหมุน<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>ธรรมจักร
ที่จะช่วยให้สรรพสัตว์พ้นวัฏสงสาร และสืบทอดพระศาสนา
พระหัตถ์ด้านซ้ายกลางทรงดอกปทุม หมายถึงความสะอาด
บริสุทธิ์ ส่วนพระหัตถ์ซ้ายล่างวางอยู่บน ปัทมอาสน์
พระโพธิสัตว์ปางนี้ไม่ค่อยแพร่หลายในระยะหลังนัก

 

ยังมีอีกปางหนึ่ง ซึ่งไม่อยู่ใน 6 ปางที่ได้ กล่าวไปแล้ว นั่นก็คือ
พระอโมฆบาศโลเกศวร คนจีนเรียก ปูคงจวนโส่ว หรือ
ปูคงหวังกวนอิม ญี่ปุ่นเรียก ฟุกูเคนซากุ แคนนอน
ปางนี้เป็นปางที่ภิกษุบางนิกายในญี่ปุ่นให้ความนับถือมาก
ถึงขนาดเด่นเป็นที่ 2 รองจากพระพุทธเจ้า ทรงถือบ่วงบาศ
ด้วยเชื่อว่า บ่วงนี้ใช้ในการคล้องสรรพสัตว์ให้พ้นจากอันตราย
พระโพธิสัตว์ปางนี้มีเมตตาเป็นอันมาก ทรงช่วยมนุษย์และ
สรรพสัตว์ ให้พ้นทุกข์ภัยนานัปการ นิยมสร้างเป็นแบบ
3 เศียร 6 กร แบบหนึ่ง และ 1 เศียร 3 เนตร 8 กร
แบบหนึ่งโดยพระกรคู่แรกนั้นอยู่ในท่าอัญชลี
ส่วนพระกรที่เหลือทรงของวิเศษเช่นบ่วงบาศ ดอกบัว
ตรีศูล พระแสงขวาน และ คนโฑน้ำอมฤต

 

นอกจากนี้ยังมี กวนอิม 8 ปาง ทั้งนี้สืบเนื่อง จากพระสัท<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>ธรรม
<st1ersonName w:st="on"></st1ersonName>ปุณฑทรีกสูตร ได้กล่างถึง พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ได้ทรง
ช่วยเหลือให้แก่ผู้ศรัทธาพ้นภัยอันตรายใน 8 ประการด้วยเหตุนี้
มีเชื่อกันต่อมาว่าพระโพธิสัตว์มีทั้งสิ้น8 ปาง ที่จะช่วยเหลือ
คุ้มครองให้มนุษย์พ้นจากภัยร้าย ต่างๆ


เล่ากันว่า หวังสีเจี่ยขุนนางผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งเลื่อมใสใน
พุทธศาสานาตั้งใจหาจิตรกรมาวาดรูปพระโพธิสัตว์ เหล่าจิตรกร
มาปฏิบัติ<st1ersonName w:st="on">ธรรม</st1ersonName> เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม แต่ไม่มีใครนิมิตรเห็นเลย
วันหนึ่งมีบัณฑิตสวมชุดขาวเข้าพบ หวังสีเจี่ยแจ้งว่าตนสามารถ
วาดภาพพระโพธิสัตว์ได้ทั้ง 8 ปางเพราะท่านเคยนิมิตรฝันไป
ท่องเที่ยวในแดนสุขาวดีมาถึง 7 ครั้ง ท่านวาดภาพได้รวดเร็ว
และไม่ซ้ำแบบกันและนี่คือ กวนอิ<st1ersonName w:st="on">มท</st1ersonName>ั้ง 8 ปาง

 

ในเมื่อก็อ้างว่าต่างเป็นผู้ปฏิบัติธรรมกันแล้วทุกคน ก็นำธรรมะมาสอนตนเอง เตือนตนเองก็ได้ จะได้ลด อัตตา ลงมาได้บ้าง อย่าเต็มร้อยเลยนะ จะได้เบาบางจาก โลภะ โทสะ โมหะ

มันหนักนะ ถ้าแบกไว้เต็มๆ จงปล่อยวางเสียบ้าง แล้วเจ้าจะไม่ ทุกข์

ขอให้พ้นจากชาติทุกข์ ทุกๆท่านที่เจริญในธรรมด้วยเทอญ

 

มาเล่าเรื่องไขรหัสกรรมกันต่อนะค่ะ<O</O
เมื่อวันลอยกระทงขมากรรม ที่ ป. ฟู๊ดเซนเตอร์<O</O
มีญาติธรรมคนหนึ่งเป็นคนขายอาหารในศูนย์อาหารแห่งนี้<O</O
เข้ามาถามอาจารย์ หลังจากเทียวไปเทียวมาหลายรอบ<O</O
เพราะวันนี้คนเยอะ ทั้งมาเที่ยวงานลอยกระทง ไหนของ<O</O
กำลังขายดี แม่ค้าคนนี้ถามอาจารย์ว่า ทำไมทำมาหากิน<O</O
มาตั้งนานแล้ว ทำไมไม่มีเงินสักที ทำมาหาได้ ก็หมดไป<O</O
อยากรู้จังว่าเป็นเพราะอะไร

 

ตัวแม่ค้าเขาก็ยอมรับว่า เขาทำแบบนั้นจริง ๆ ด้วยความมัน
ในอารมณ์ ด้วยความสาแก่ใจ ด้วยความสะใจ แต่ก็บอกว่า
เขาก็รู้ตัวที่กระทำตัวแบบนี้ อุตส่าห์ไปบวชชีพราหมณ์
ตั้ง 3 วัน แล้วทำไมถึงไม่ดีขึ้น จารโม่ก็เลยบอกว่า<O</O
คุณก่อวจีกรรมอยู่ทุกวัน และตลอดเวลา อ้าวถ้าเทียบกันแล้ว<O</O
วันหนี่งคุณก่อวจีกรรมอยู่ 8 ชั่วโมง แล้วนำมาคูณด้วย<O</O
365 วัน และคุณไปบวชชีถือศีลแค่ 3 วัน คูณด้วย 24 ชั่วโมง<O</O
บวกลบคูณหารซิ ว่าคุณสร้างบุญกุศล กับอกุศล มากน้อย
ต่างกันมั้ยคุณทำบุญเสีย 3 วัน หักลบไป 365 วัน
แปลว่าคุณสร้างอกุศลกรรมไปแล้ว 363 วัน
มันจะหักกลบลบล้างกันได้หรือไม่ทีนี้คุณเข้าใจ
หรือยังว่า บาปบุญคุณโทษมันเป็นอย่างไร

 

พออาจารย์อธิบายเทียบเคียงแบบนี้ให้แม่ค้าคนนั้นฟัง
เขาก็เลยเข้าใจได้ทันที ว่าตัวเขานั้นแหละเป็นผุ้ก่อกรรมนั้น
ขึ้นมาด้วยตัวเองทำให้เขาสำนึกได้ เพราะผลของกรรมนั้น
ส่งผลให้อย่างปัจจุบันทันทีโดยไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า
หรือชาติไหน ๆ

เวลาอาจารย์ดูเรื่องของกรรมให้กับญาติธรรมคนใด ทุก ๆ คน
จะรับรู้ได้อย่างทันทีเลยว่า สิ่งที่เขาได้รับผลในปัจจุบันนี้
เป็นเพราะผลกรรมใด ๆ ที่ได้กระทำไปแล้วบ้าง ซึ่งทุก ๆ คน
ไอยจะแอบถามว่า เป็นอย่างไรบ้างค่ะทุก ๆ คน ตอบเป็น
เสียงเดียวกันว่า “โดนใจเลยค่ะ “ “โดนทุกยก” เลยค่ะ
เสียดายดูได้นิดเดียว อ้าวคนละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง
นี่ไม่นิดเดียวแล้วนะค่ะค่าดูก็ไม่เรียกร้อง เคยมีญาติธรรม
ไปดูกับอาจารย์อื่น ๆ เสียไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
บางคนโดนเป็นหมื่น ๆ แถมให้โอนเงินไปก่อนเสียด้วยซ้ำ
ซึ่งเขาโทรมาปรึกษาไอยว่า สมควรจ่ายดีไหม ไอยก็เลย
บอกว่า พิจาณากันเอาเองแล้วกัน

 

แต่ถ้ามาดูกับอาจารย์ไม่เสียเงินสักบาท แล้วแต่ศรัทธา
บางคนมาไม่มีเงินสักบาท อาจารย์ท่านก็ดูให้ แถมเงิน
ค่ารถกลับไปอีกต่างหาก เงินค่าครู ค่าปัจจัยทีท่านได้
ท่านก็ให้บรรดาอาจารย์ที่มาช่วย เป็นค่าน้ำมันรถกันบ้าง
เพราะอาจารย์บางท่านไม่มีรายได้อะไร มาช่วยงานบุญกุศล
ก็ต้องจ่ายค่ารถค่ารามากันเอง ท่านก็นำเงินปัจจัยที่ได้มาเข้า
โครงการพ่อแม่บุญธรรมบ้าง ช่วยเหลือคนป่วยคนเจ็บที่ไม่มี
รายได้ เพื่อไปซื้อยา ไปรักษาตัวบ้าง ซึ่งเรื่องนี้คนส่วนใหญ่
จะไม่ทราบ เพราะท่านทำบุญแบบปิดทองหลังพระ
นอกจากคนใกล้ ๆ ตัว ลูกศิษย์ลูกหาถึงจะทราบ

ญาติธรรมที่มาไขรหัสกรรม บางคนให้ค่าครู 20 บาท ก็มี
บางคนให้ร้อยหนึ่งก็มีบางคนใส่ไปแล้ว ถูกอกถูกใจ
ใส่ปัจจัยเพิ่มไปให้ก็มี ซึ่งผู้ที่มาดูทุก ๆ คน ไม่เคยมีใคร
มาตำหนิ ติเตียนอาจารย์เลย มีแต่ถูกอก ถูกใจกลับไปกันทุกคน
บางคนมาขอฝากเนื้อฝากตัวกันเป็นลูกศิษย์กันไปเลยก็มี

 

แม้กระทั่งของที่คนนั้นคนนี้บริจาคให้สถานธรรม เช่น แอร์
ที่พึ่งซื้อมาใหม่ ๆ ไอยบริจาคให้ท่าน ท่านก็ขอให้ขายเสีย
เพื่อนำเงินเข้าโครงการพ่อแม่บุญธรรม ซึ่งท่านกับอาจารย์
จอห์นนี่ ริเริ่มและเป็นผู้ก่อตั้งโครงการนี้ร่วมกัน เนื่องจาก
โครงการพ่อแม่บุญธรรม ยอดเงินยังไม่พอที่จะให้เด็ก ๆ
และคนป่วยซึ่งอยู่ในโครงการ ซึ่งเรื่องนี้ไอยยืนยันได้
เนื่องจากแอร์เครื่องนี้ เป็นเงินที่ไอยกับคุณใหญ่
(หจก.มาใหญ่ พร็อพเพอร์ตี้) บริจาคให้กับสถานธรรม
และไอยได้ขอให้ย้ายไปติดตั้งในห้องท่าน แต่ท่านไม่ยอมรับ
ท่านบอกว่า ในเมื่อบริจาคให้ผม ผมขอนำเงินส่วนนี้ให้กับ
โครงการพ่อแม่บุญธรรม ซึ่งเรื่องนี้ไอยขออนุโมทนาด้วย

 

เสริมนิดนึง นะครับ เหมือนคนมีเงินเก็บ (กุศลกรรม) ตลอดชีวิต เมื่อก่อนละสังขารย่อมมีจิตที่ผ่องใส แม้จะอยู่ในระดับที่วิกฤต แต่หากมีการซักซ้อมจิตเจริญสติธรรมอยู่เป็นิจ (ขอย้ำว่าสม่ำเสมอจนเป็นวสี เกิดความชำนาญ ยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีสติในความดีงาม ) เมื่อกายละสังขาร ย่อมสู่สุคติภพ ได้ไม่ยาก ซึ่งจะมีส่วนน้อยที่เข้าสู่ทุคติภพ ก็เนื่องจากเหตุดังกล่าว อันนั้นคงเป็นเรื่องของการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามเป็นจริง ไม่เกิดมิจฉาทิฐิในการปฏิบัติ ; ในส่วนของผูที่ประกอบมิจฉาทิฐิ มาตลอดนั้น จิตใจนั้นย่อมเศร้าหมอง เช่นไม่ประกอบกุศลกรรม มีแต่อกุศลกรรมเป็นนิจ ฉันใด ก็ย่อมมีจิตที่ไม่เบิกบาน และไม่เป็นสุข เช่นกัน ดังนั้น คงเห็นได้ว่าเมื่อวาระจิตที่จะต้องดับ นั้นโอกาสที่จะไปสู่สุคติภพ นั้นเชื่อว่าคงยาก เพราะเนื่องด้วยอกุศลกรรมที่ทำต่อเนื่องนั้น จะเป็นตัวขัดขวางไม่ให้เกิดจิตละวางได้ ซึ่งก็ยา

 

ท่านบอกว่า ท่านไม่ค่อยนิยมทำบุญกับการสร้างวัด สร้าง
ปูชนียวัตถุมากนักเนื่องจากส่วนใหญ่มีคนทำกันเยอะแล้ว
แต่ท่านต้องการสร้าง คนให้เป็นพระไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ
กับเด็ก ๆ คนป่วย คนยากไร้ หรือ ออกปัจจัยให้คนได้บวชพระ
หรือบวชชี เพื่อเดินทางในสายบุญเสียมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้
กลุ่มผู้ปฏิบัติศูนยตาธรรมทุกคน เห็นด้วย และยึดแนวทางนี้
ในการปฏิบัติและจัดกิจกรรมทุก ๆ อย่าง เพื่อช่วยเหลือ
เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ตามเจตนารมณ์ของท่าน
ทุกประการ มนุษย์เราต่อให้ปฏิบัติธรรมขั้นไหน หรือ
บรรลุธรรมขั้นใด ๆ แล้ว หลักธรรมขั้นพื้นฐาน คือ
ความเมตตา กรุณาย่อมไม่ถูกลบเลือน หรือเพิกเฉย
หรือปล่อยวางลงแบบไม่นำพา

"อันความเมตตา กรุณา จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟ้าฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน"

ดุจดังความเมตตาของพระพุทธองค์ และพระโพธิสัตว์
ที่มีความเมตตา กรุณาต่อสรรพสัตว์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด <O</O

 

เท่าที่ทราบมานะ โครงการพ่อแม่บุญธรรม นี้เกิดขึ้นเพราะว่าเป็นลูกของคุณไอยทั้งสองคนไม่ใช่หรือ

อยากทราบความจริงว่าเป็นเช่นไร

 

เห็นด้วย แต่คิดว่า อ.นีโม่ คงละไว้เป็นที่เข้าใจ มากกว่า เพราะคนที่อ่านก็มีวิจารณญาณว่า สิ่งที่อ.นีโม่ แสดงนั้น เป็นส่วนของความเข้าใจในการเข้าถึงพระธรรมก่อนละสังขาร ส่วนเรื่องเสวยกรรมก็ยังคงต้องรับไปเป็นแน่ ไม่น่าจะมีอะไรอื่นหรือตัดทอนให้เกิดความไขว้เขว้ ว่าทำชั่วแล้วังไปสุคติภพ นั้น คงเป็นจริงได้ยากสำหรับคนที่ทำอกุศล หรือมีมิจฉาทิฐิ เต็ม ๆ นั้นกรรมนั่นแหละจะเป็นตัว่ขัดขวางไม่ให้เกิดสุคติภพได้ เคยได้ยินเรื่อง วาสิฐฏีหรือไม่ (คิดว่าใช่เรื่องนี้นะ ถ้าผิดขออภัย) ตัวละคอนที่แสวงหาพระพุทธองค์จนสุดท้ายอยู่กับพระองค์ ก็ยังไม่สามารถก้าวสู่สุคติภูมิได้เลยก็เนื่องจากไม่ได้ศึกษาแก่นแท้คำสอนพระพุทธองค์ แต่เอาเปลือกคือ ต้องการพบพระพุทธองค์ เนื่องด้วยเชื่อว่าการพบพระองค์คือเป็นสรณะที่ถูกต้อง อันนี้เห็นได้ชัดว่า อะไรเป็นอะไร

 

ตาย.... ตาย.... ตาย
ท่านอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรม ที่เคยเป็นที่เคารพศรัทธา ทำไมจึงกล่าวเยี่ยงนี้
ท่านอาจารย์ไม่ได้หลอกตัวเอง แน่นอน

แต่ท่านกำลังหลอกผู้ชมนะขอรับ
เท่าที่ติดตามชมมา....ไม่เห็นใครจ้องทำลายใครเลย
มีก็แต่ลิ่วล้อที่ท่านอาจารย์ชุบเลี้ยง...
มากล่าวเริ่มต้นเป็นปฐมฤกษ์เบิกชัยก่อน
.ขอนำมาให้ท่านทั้งหลายพิจารณา

<table id="post2558814" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 30-10-2009, 11:49 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #82 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ไอย<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2558814", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Dec 2007
ข้อความ: 832
Groans: 2
Groaned at 34 Times in 18 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 9,093
ได้รับอนุโมทนา 16,072 ครั้ง ใน 1,249 โพส
พลังการให้คะแนน: 254

<table id="post2558826" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">
</td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right">
</td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">
</td> <td class="alt1" id="td_post_2558826" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);">
</td></tr></tbody></table>
</td> <td class="alt1" id="td_post_2558814" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->มีญาติธรรมหลาย ๆ คน โทรมาสอบถามว่าทำอย่างไรดี
เขารู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกผิดที่ตั้งใจทำบุญโดยการบอกบุญ
กับญาติธรรมคนอื่น ๆ แล้วนำปัจจัยที่ได้ไปร่วมทำบุญสร้างวัด
สร้างพระ เป็นต้นนั้นแต่เมื่อเขาได้ส่งมอบปัจจัยเป็นที่
เรียบร้อยแล้วผู้ที่ได้รับปัจจัยไป กลับนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์<o></o>
เช่นนำไปใช้จ่ายในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว นำไป
ใช้จ่ายเพื่อการสังสรรค์รับรองคนอื่น ๆ หรือนำปัจจัยไป
สนับสนุนส่งเสริมในการบิดเบือนพระสัทธรรม อันเป็นทาง
ไปสู่อบายเขารู้สึกว่า สิ่งที่เขาตั้งใจทำบุญนั้น กลับทำให้
เขารู้สึกผิดและเป็นตราบาป <o></o><!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->http://www.astroneemo.com





<table id="post2558826" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">30-10-2009, 11:51 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #83 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ไอย<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2558826", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Dec 2007
ข้อความ: 832
Groans: 2
Groaned at 34 Times in 18 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 9,093
ได้รับอนุโมทนา 16,072 ครั้ง ใน 1,249 โพส
พลังการให้คะแนน: 254


</td> <td class="alt1" id="td_post_2558826" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ก็เลยตอบเขาไปว่า การทำบุญนั้น เราผู้ทำตั้งใจทำด้วยจิต
ที่เป็นกุศลด้วยจิตแห่งความเมตตา กรุณา ด้วยจิตของ
ความเป็นผู้ให้ดังนั้น แม้เขาจะนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
นำไปใช้ในทางที่ผิดจากการบอกบุญ ก็ถือว่าเราไม่ผิด
เราไม่ได้ทำบาป

กฎแห่งกรรม ก็เป็นไปตามผลของการกระทำ ในเมื่อเรา
เจตนาทำความดี เราก็จะได้รับผลของกรรมดี แต่ถ้าคนใด
บุคคลใด มีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ ผลของกรรมนั้นก็จะเป็นไป
ตามเจตนาของผู้ที่กระทำทั้งสิ้น
</td></tr></tbody></table>





</td></tr></tbody></table>

 

เอามาเป็นครูเลย กำลังลองกำลัง แต่ไม่เห็นลองปัญญาเลย นี่

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับโครงการพ่อแม่บุญธรรม แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีดำเนินการ ซึ่งมีข้อสังเกตุ 2 ประการ

1. ไม่ควรหลอกลวงคนทั่วไป เพราะเท่าที่ติดตามโครงการนี้ เพิ่งจะเริ่มไม่กี่เดือนมานี้เอง ส่วนที่ว่าทำมา 4 ปี เป็นของคนอื่นทำ เพียงแต่ว่าเป็นสถานที่เดียวกัน จึงไม่ควรนำมาเป็นผลงานของตนเอง และไม่ควรโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อตาม เพียงเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมากๆ สำหรับรูปถ่ายที่นำมาโพสในเว็ป astroneemo.com ได้สังเกตุเปรียบเทียบแล้ว ไม่ใช่รูปปัจจุบันอย่างแน่นอน

2. เด็กที่เข้าร่วมในโครงการ มี 3 คน เด็กสมาธิสั้นผมเห็นด้วย แต่อีก 2 คน ยังมีบิดาหรือมารดาคอยเลี้ยงดูอยู่ และที่สำคัญเป็นบุตรของคนใกล้ชิดกับผู้จัดทำโครงการ แล้วนำมาเข้าร่วมโครงการ จึงเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการจัดทำโครงการขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือพวกเดียวกัน

มันจึงเป็นไปโดยไม่สุจริต เพราะมีเจตนาอื่นแอบแฝงนั่นเอง

 

ท่านมองตน กล่าวออกมาเยี่ยงนี้ ข้าน้อยมีความประหวั่นพรั่นพรึงเล็กน้อย ถึงปานกลาง.......แต่ที่จะประหวั่นพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก....ก็ด้วยเรื่องของโครงการผลิตสร้อยประคำ นั่นแหละ....ที่มีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์มาตั้งแต่แรกเริ่มดำเนินงาน.....เรื่องนี้ท่านซือเจ๊ ก็รู้ดี....ไหงทำกันไปได้ขนาดนี้.....ข้าน้อยเห็นจริงแล้วว่า....เงินทอง ไม่เข้าใครออกใคร.......หากจะอ้างว่า นำไปทำกุศล ไม่เข้าพกเข้าห่อ......ก็สมควรที่จะบอกกล่าวกันมาแต่เนิ่นๆ......กระทำแบบนี้เหมือนองค์กรลับ....มันกระเทือนฟ้า กระเทือนดิน......หากเง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงทราบ.....ข้าน้อย ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.......ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม...ยิ่งคิดยิ่งเศร้า....ฮือ ฮือ

 

อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับสาธารณะชน เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โดยส่วนรวม เราทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันดูแล รักษา ตรวจสอบและปกป้อง ดังนั้นถ้าพวกเราไม่ทำหรือไม่คิดที่จะทำ เราจะรอให้ใครเป็นผู้กระทำ รอรัฐบาล หรือรอกระทรวงไหน??
พวกเรานี่แหละที่ต้องทำ