"พราหมณ์น้อย พรหมพันนารายณ์" คนมีญาณช่วยเหลือคนมีทุกข์ ฟรี

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย รักไร้พ่าย, 6 พฤศจิกายน 2009.

  1. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    พบกันอีกแล้วครับกับ “รักไร้พ่าย”

    ผมรุ้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสเสนอเรื่องราวคนมีญาณอีกท่านหนึ่ง
    ที่กว่าผมจะได้มีโอกาสพุดคุยกับท่านนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
    และต้องอาศัยปาฎิหารย์พอสมควร แต่คงเป็นเพราะหน้าที่ของ
    ผมหรือเบื้องบนเอ็นดูจึงได้มีโอกาสได้ได้พบประพุด
    คุยกันกับท่านผู้นี้ แล้วได้มาเผยแพร่ให้เราๆท่านๆได้รับรู้กัน

    ขอเริ่มเล่าเลยนะครับ
    เช้าวันหนึ่ง ผมได้เปิดคอมและเข้าเว็บตามปรกติ
    ได้มีเมลล์มาหาผมจากน้องๆในเว็บพลังจิต
    ได้สอบถามผมว่า รู้เรื่องของคนมีญาณที่มาโพสกระทู้ช่วย
    เหลือคนหรือไม่ และคนมีญาณท่านนี้
    ทำนายทายทักคนได้แม่นมาก และรู้สึกเขาจะเป็นพราหมณ์ด้วย

    ผมก็ งงๆ เพราะไม่คุ้นเคยกับคนมีญาณที่เป็นเพราหมณ์ มากอนเลย
    จึงบอกน้องเขาไปว่า ไม่คุ้นเลย

    จากนั้นความกระหายใคร่รู้จักกับคนมีญาณท่านนี้ จึงอุบัติขึ้นในกลางหว่าง
    ใจของผู้ตามหาคนมีญาณอย่างผมคนนี้

    ผมไม่รีรอที่จะไปค้นหากระทู้ของท่านผู้นี้ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
    ( เจอก็แต่กระทู้คนมีญาณของอีตารักไร้พ่าย )
    และมีคนได้โพสกล่าวขานถึง ท่านพราหมร์ผู้นี้ใน
    กระทู้แสดงความเห็นของคนมีญาณถึงความแม่นยำมาก
    แต่น่าเสียดายที่ ท่านผู้นี้หลังจากตั้งกระทู้รับดูกรรมให้คนผ่านเอ็มไม่ถึงวัน
    เขาก็มาลบกระทู้ตัวเองทิ้งไปแล้ว ทำให้ผมไม่อาจจะติดต่อเขาได้

    แต่ความกระหายใจใคร่รู้จักท่านผู้นี้ยังไม่วางวายไปจากใจ
    แม้ว่าไม่มีช่องทางไหนจะติดต่อเขาได้เลย ในที่สุดผมก็กึ่ง
    ถอดใจ และทิ้งความหวังอันเล็กน้อยไว้กับปาฎิหายร์ด้วย
    การอธิษฐานจิต กับตัวเองว่า

    “หากเรามีบุญสัมพันธ์กับคนมีญาณที่เป็นพราหมณ์ท่านนี้มาก่อน
    ก็ขอให้เราได้พบเจอและพูดคุยกับท่าน หรือหากท่าน
    มีญาณจริง และรับรู้ถึงเจตนาแห่งแรงอธิษฐานนี้
    ก็ขอให้ท่านได้ติดต่อกับเราได้ด้วยเถิด”

    จากนั้นผมก็ดำเนินชีวิตปรกติ ไม่ได้ใส่ใจคำอธิษฐานนี้เท่าไหร่
    เพราะคิดว่า คนมีญาณที่ไหนจะเก่งขนาดรับรู้ได้

    แต่แล้ว !!

    ปาฎิหารย์นั้นบังกิเดขึ้นจริง

    เมื่อวันต่อมา ขณะที่ผมกำลังนั่งหน้าคอมเปิดเว็บ
    ดูนั่นดูนี่เรื่อยเปื่อย
    ก็ได้มีข้อความเอ็ม มาขอแอดด้วย
    ผมสังเกตุตรงข้อความนั้นมีตัวอักษรแปลกๆ
    คล้ายๆภาษาฮินดู แบบนี้
    ब्रह्मा विष्णु
    ในดวงจิตของผมบอกผมในบัดลว่า เจ้าของข้อความท่านนี้
    ก็คือ คนที่ผมได้อธิษฐานจิตถึงท่านไว้

    เหลือเชื่อมากๆ !!!

    มาได้ไง !!

    เขารู้ได้ไง !!

    นี่คือคำอุทานในใจผม

    แม้ว่าลึกๆในใจระรู้ว่าเป็นเขา แต่ความลังเลใจว่ายังมีอยู่ว่า
    เขาแอดผมเพราะอะไร

    อย่าบอกนะว่า แอดเพราะว่าเขารับรู้จากคำอธิษฐาน
    เพราะไม่มีคนมีญาณคนไหนทำได้ขนาดนี้

    ( ยกเว้นคนเดียวเท่านั้นที่ผมเคยเจอมาก่อนหน้านี้แล้ว )

    หลังจากที่ผมได้รับแอดแล้ว มือไม้ผมก็เริ่มสั่นๆ
    แบบว่ามันตื่นเต้นไปหมด เพราะมาแบบไม่คาดฝันจริงๆ
    เมื่อผมรับแอด ก็ทักทายกัน

    แต่คำแรกๆ หลังจากคำกล่าวทักทายกันเขาก็ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก
    เขาบอกว่า

    “ผมแอดแล้วน่ะ มาตามคำอธิษฐานของคุณไง”

    โอ้โห !!

    Incredible มากๆ

    ผมไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ เขาเขียนแบบนี้จริงๆ
    ผมไม่เคยรู้จักคนนี้มาก่อน แล้วเขารู้เมลผมได้ไง

    หรือว่า ท่านผู้นี้จะมีญาณจริงๆ !

    หลังจากนั้นผมก็ได้พุดคุยปราศรัยกับเขา และได้เริ่มรู้จัก
    และเรียนรู้เรื่องราว
    ชีวิตของเขาผู้นี้ค่อนข้างละเอียดเลย

    และก็ขอบอกว่า ท่านนี้ยอดเยี่ยมมากๆ ในเรื่องของญาณ
    และหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาที่จะเกื้อกูลผู้คนที่มีทุกข์ และช่วย
    เหลือคนโดยไม่หวังผลตอบแทนเลย

    พอสรุปได้ว่า

    ท่านผู้นี้ เกิดในจังหวัดแถวภาคอีสาน และเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น
    ไม่นานก็ต้องเจอวิบกากรรมรุมเร้า จนแทบเอาชีวิตไม่รอด
    จนต้องหันหน้าเข้าหาธรรมะเป็นที่พึ่ง

    วันหนึ่งเขาได้นั่งสมาธิและได้ถอดกายทิพย์ได้อย่าง
    อัตโนมัติและได้เข้าไปในดินแดนป่หิมพานต์ ได้พบกับ
    คุรุอาจารย์ในชาติก่อน ได้มาสอนสั่งชี้แนะ
    ทางเดินชีวิตใหม่ให้กับเขา ด้วยการสร้างบารมีช่วยเหลือคน
    หากมิเช่นนั้นแล้ววจะต้องพบกับวิบากกรรมที่รุนแรง

    จากนั้นมา วิถีทางแห่งการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้คน
    จึงเริ่มต้นขึ้น ญาณหยั่งรู้ต่างๆของเขาก็อุบัติขึ้นในมโนจิต
    เขาได้สัมผัสถึงกรรม และวิบากรรมของคนอื่นและของตนเอง
    และได้ศึกษาวิชาฤทธิ์ต่างๆจาก อาจารย์มากมาย

    โดยเฉพาะท่านเทพพราหมณ์ชีปะขาว ซึ่งเป็นหนึ่งในอาจารย์ที่
    เขานับถือ
    เขาจึงแต่งกายแบบพราหมณ์เพื่อแสดงความเคารพต่อ
    ท่านชีปะขาว และได้ช่วยแหลือผุ้คนที่ประสบทุกข์ด้วยญาณ
    หยั่งรู้ที่เขามี ได้มีชาวบ้านระแวกบ้านเขาได้มาขอ
    ความช่วยเหลือเป็นระยะๆ จากหนุ่มน้อยผู้นี้

    และชาวบ้านต่างได้เรียกชื่อเขาจนเป็นชื่อที่คุ้นเคยมาจนถึงตอนนี้ว่า

    ท่าน

    “พราหมณ์น้อย”

    แม้เขาจะแต่งกายแบบพราหมร์แต่ เขาก็นับถือพระพุทธศาสนา
    และศึกษาคำสอนจนแตกฉานประกอบกับญาณหยั่งรู้
    ของเขาช่วยพิสูจน์สัจธรรมได้อย่างลึกซึ้งและแตกฉาน

    ท่าน พราหมณ์น้อย จึงได้อุทิศตนในการช่วยเหลือคนตั้งแต่นั้นมา
    แต่วิถิทางของการช่วยคนของ ท่าน พราหมณ์น้อย ผู้นี้
    อาจแตกต่างจากคนมีญาณส่วนใหญ่ที่มักจะเปิดบ้าน
    เปิดตำหนักให้คนมีทุกข์มาหาเขา และเก็บเงินค่าครู
    มากบ้างน้อยบ้าง

    แต่สำหรับ ท่าน พราหมณ์น้อยผู้นี้ จะออกเดินทาง
    ไปช่วยเหลือคนด้วยตัวเอง โดยไม่เรียกร้องค่าครูแต่อย่างใด

    หรือใครจะมอบเงินให้ด้วยความศรัทธา ท่าน พราหมณ์น้อย
    ก็ไม่รับ ได้แต่กองทิ้งไว้ตรงนั้น แล้วก็เดินจากไป

    อยู่มาวัหนึ่ง ท่าน พราหมณ์น้อย ได้มารู้จักกับผู้ชาย
    ผู้มีญาณท่านนึ่งที่มีอิทธิพลกับชีวิตทางธรรมกับเขามาก
    เขาได้เริ่มติดต่อกับชายผู้นี้เรื่อยมา จนคบหาสนิทสนมกัน
    และรักใคร่เคารพดั่งพี่น้อง

    ผู้ชายท่านนี้มีนามระบือสิบทิศว่า “ต้น พรหมพันกร”
    ผู้มีญาณเบิกฟ้า
    คุณต้นได้แนะนำ ท่าน พราหมณ์น้อย
    มากมายในธรรมะและทางแห่งการสร้างบารมี

    จนวันหนึ่ง ท่าน พราหมณ์น้อย ได้นำ พระห้อยคอเป็น
    องค์พระนารยณ์ซึ่งเป็นเทพที่คุ้มครองท่าน พราหมณ์น้อย
    คุณต้น จึง ได้ตั้งฉายาให้กับ ท่าน พราหมณ์น้อย ว่า

    “พรหมพันนารายณ์”

    ด้วยความนับถือคุณต้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และ
    ฉายานี้มีความหมายแฝงทางธรรมที่ดีมากมาย
    ท่าน พราหมณ์น้อย
    จึงใช้ฉายา พรหมพันนารายณ์
    เป็นชื่อทางธรรมในการสร้างบารมีเรื่อยมา

    นอกจากวิถีทางแห่งการช่วยคนของทั้งสองท่านนี้
    จะคล้ายคลึงกันแล้ว นั่นคือ การเดินทาง ออกไปช่วยคนด้วยตัวเอง
    โดยไม่หวังผลตอบแทน ท่าน พราหมณ์น้อย ยังมีชื่อเล่น ว่า
    ต้น” ด้วย ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับ คุณ ต้น พรหมพันกรเลย

    ภารกิจหลักแห่งเส้นทางจิตวิญญาณของ ท่าน
    พราหมณ์น้อยคือการตระเวณทำบุญตามที่ต่างๆทั้งในและ
    ต่างประเทศ เช่น ไปช่วยบูรณระวัดร้างในถิ่นทุรกันดาร
    หรือไปทำบุญถวายสังฆทาน เครื่องไทยธรรมตามวัดป่า

    หรือไปช่วยชาวบ้านที่ยากจน ตามหมู่บ้านชนบท ด้วยการ
    สะพายสัมภาระนั่งรถไปคนเดียว ค่ำไหนนอนนั่น

    ท่าน พราหมณ์น้อย ยังได้เปิดสำนักปฎิบัติธธรมตามที่ต่างๆ
    เช่นที่ ปทุมธานี และยังเปิดในเมืองนอกด้วย

    ที่คืองานหลักของท่าน ส่วนงานรองลงไปคือการเดินทาง
    ช่วยเหลือคนที่มีทุกข์กับวิบากกรรมของชีวิตแล้วหาทางออกไม่ได้

    โดยส่วนใหญ่แล้ว ท่าน พราหมณ์น้อย จะเป็นฝ่ายเดินทางไปเอง
    แม้คนนั้นจะอยู่ต่างขังหวัด หรือแม้แต่ต่างประเทศ ก็ตามโดยที่คน
    ผู้นั้นไม่ได้ร้องขอให้มา แต่เพราะท่าน พราหมณ์น้อย
    รู้ด้วยญาณว่า คนไหนสมควรจะช่วย และมีทุกข์อะไร
    แม้ต้องเดินทางไปช่วยคนที่มีทุกข์เพียงคนเดียวถึงประเทศ
    ลาวก็ไปมาแล้ว

    และเขารู้ได้อีกทางหนึ่งคือ เทพเทวดาที่คุ้มครองคนมี
    ทุกข์นั้นมาบอกให้ท่านไปช่วย หรือเจ้ากรรมนายเวร
    คนนั้นมาขอร้องให้ไปช่วยเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากคนผู้นั้น

    ภาระกิจในการช่วยคนของท่าน พราหมณ์น้อย
    ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ

    แต่ เขาก็ได้มาช่วยคนผ่านช่องทางโลกคอมพิวเตอร์ด้วย
    ด้วยการเข้ามาในเว็บไซด์ ดังเช่นในเว็บพลังจิตนี้
    เขาได้มาตั้งกระทู้ช่วยเหลือคน แต่คนเข้าใจว่าเขาจะมา
    เปิดตัวช่วยคนทั้งหมด

    แต่ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะท่าน พราหมณ์น้อย ต้องการมา
    ช่วยคนแค่เพียง 4 คน เพราะคนทั้ง 4 นี้มักมาเข้าเวบ
    พลังจิตเป็นประจำ เมื่อได้ช่วยเหลือคนตามที่ต้องการแล้ว
    ท่าน พราหมณ์น้อย จึงลบกระทู้ทิ้ง เพราะหมดหน้าที่เขาแล้ว
    เพราะว่า คนทั้ง 4 นี้มีเรื่องเดือนร้อนในชีวิต และ หนึ่งใน 4
    นี้เมื่อตายไปแล้วจะต้องไปเกิดเป็นเปรตในอบายภูมิ

    นี่คือความน่าทึ่งของคนๆหนึ่ง ที่มีหัวใจในการช่วเยเหลือ
    คนโดยไม่อยู่ใต้อำนาจของเงินตรา และความโลภ
    ตั้งแต่เขาช่วยคนมาก็ไม่
    เคยเก็บเงินเรียกร้องผลตอบแทนจากใคร
    และตัวเองก็ไม่มีเงินทุนรอนอะไรเลย
    และเขายึดทางเดินนี้เป็นหลัก และไม่เคยไปข้องเกี่ยว
    อาชีพทางโลกด้วย

    แม้ว่าเขาจะต้องอดมือกินมือ ก็ใม่ขอเรี่ยไรเงิน
    แล้วอ้างความจำเป็นในการยังชีพกับใคร เพราะนี่คือการ
    บำเพ็ญบารมีอย่างหนัก และเป็นเครืองทดสอบระดับจิตใจเขา
    เพื่อให้ก้าวขึ้นสู่บารมีขั้นสูงต่อไป

    ยิ่งกว่านั้น ท่าน พราหมณ์น้อย จะสอนผู้คนให้เข้าถึงหัวใจหลักของกฎธรรมชาติสูงสุด
    ที่เรียกว่า

    “อนุตตรวิถี”

    คือการเข้าถึงหัวใจแห่งพุทธรรม นี่นคือ ทำให้จิตใจของผู้คนปล่อยวางจากการ
    ปรุงแต่งแห่งเงามายาทางโลก ให้เข้าสูจิตใจแห่งการเป็นผู้ให้ที่แท้จริง
    ที่อยู่เหนือข้อผูกมัดทางโลก

    ให้คำว่า บุญ นั้นเกิดขึ้นที่ใจ และดำรงตนเป็นไปตาม
    ธรรมชาติของคนๆนั้น ไม่ไปฝืนตัวเองเพื่อทำบุญ

    และปธิธานหลักของ ท่าน พราหมณ์น้อย คือการสร้างสถานธรรม
    เพื่อเป็นที่ปฎิบัติธรรมตามที่กันดารต่างๆ
    ทั่วประเทศ เพราะ ท่าน พราหมณ์น้อย
    เห็นถึงความทุกข์ยากของคนที่ไม่ได้จำกัดอยุ่เพียง
    แต่คนที่มีเงิน หรือ มียศศักดิ์

    แต่ความทุกข์นั้น มีอยู่ได้ทั่วทุกแห่งหน ในถิ่นกันดาร บ้านป่า
    อยู่ที่ว่าใครจะเสียสละตนเองเพื่อเข้าไปช่วย

    แต่ที่แน่ๆ ท่าน พราหมณ์น้อย เลือกช่วยคนด้วยการอุทิศตนเช่นนี้
    ที่จะไปเกื้อกูลต่อคนเหล่านั้น

    ผมได้มีโอกาสให้ ท่าน พราหมณ์น้อย ตรวจกรรม
    ทั้งคุยผ่านเอ็มและคุยทางโทรศัพท์ และได้รับความกระจ่าง
    ในใจมากมาย ทั้งเรื่องทางโลกและทางธรรม
    และแม่นยำสมคำล่ำลือมาก

    หนึ่งในการสนทนานั้น มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ ที่ท่านได้ทำนาย
    เรื่องภัยพิบัติ จริงๆท่านไม่ได้อยากบอกมากหรอก
    แต่เพราะผมซอกแซกอยากรู้อยากเห็นจึงคะยั้นคะยอ
    จนท่านบอกผมจนได้

    ท่านเล่าไว้ละเอียดเลย แต่ผมขอสรุป คำทำนายภัย
    พิบัติที่จะเกิดขึ้น อีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้านี้แล้วกันครับ

    1 เมืองหลวงของประทเศไทยจะถูกน้ำท่วม
    ( แต่ไม่หนักมาก น้ำจะขังระบายไม่ทันระยะเวลาหนึ่ง แต่สุดท้ายจะกลับเป็นปรกติ )

    2 โรคสายพันธุ์ใหม่ที่มาทางอากาศจะคร่าชีวิตคน
    เป็นจำนวนมากโดยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ

    3 สัตว์ที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้ว จะกลับมาชีวิตใหม่ด้วย
    วิทยาการทางวิทยาศาตร์

    เอาคร่าวๆ แค่นี้ครับ แล้วก็รอพิสุจน์กันได้ ซึ่งเหตุการณ์
    ภัยพิบัติต่างๆที่เคยเกิดขึ้น ท่านได้เคยทำนายเอาไว้
    ก่อนหน้าที่จะเกิดแล้วมากมาย

    ผมขอโมทนาในกุศลเจตนาที่งดงาม และแนวทางวิถีที่
    อาศัยความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจเป็นอย่าง
    หนักของท่านพราหมณ์น้อย ผู้นี้ในการช่วยเหลือคน
    โดยไม่คำนึงถึงระยะทางไกลแค่ไหน หรือ
    สถานที่ที่จะไปนั้น ลำบากยากแค้นปานใด
    นี่คือเรื่องราวของ

    ท่าน พราหมณ์น้อย พรหมพันนารายณ์

    คนมีญาณที่น่าทึ่งด้วยวัยเพียง 21 ปี !


    ผมขอเอาบทสนทนที่ผมได้บันทึกไว้ เป็นการพุดคุยกับ
    ท่าน พราหมณ์น้อย ผ่านทางเอ็ม ตอนที่คุยกันครั้งแรกมาให้อ่านกัน
    ...........................




    พราหมณ์น้อย : สวัสดีนะคุณ

    รักฯ : สวัสดีเช่นกันครับ

    พราหมณ์น้อย : ผมแอดแล้วน่ะ มาตามคำอธิษฐานของคุณไง

    รักฯ : โอ้ เหรอครับ คุณรู้ถึงคำอธิษฐานผมเหรอ

    พราหมณ์น้อย : เอ้า ถ้าไม่รู้ แล้วผมจะแอดทำไม

    รักฯ : จริงด้วย เพราะมีคนแอดคุณเป็นร้อย

    พราหมณ์น้อย : คุณไปค้นหากระทู้ของผมแต่หาไม่เจอ
    คุณอยากจะรู้ว่าผมเป็นใคร เห็นชื่อแปลก
    คุณสงสัยว่าผมเป็นพวกของเก๊หรือเปล่า

    รักฯ : โอ้ อึ้งๆๆ

    พราหมณ์น้อย : คุคุ

    รักฯ : เพราะผมอธิษฐานขอให้เจอคุณจริงๆ
    ตอนแรกไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้ว

    พราหมณ์น้อย : อิอิอิ

    รักฯ : คุณตอนนี้ทำงานไรเหรอ

    พราหมณ์น้อย : อ๋อ ผมเหรอครับ ก็ทำงาน ธรรมะนี่แหล่ะ
    เป็นคนเดินสาย น่ะทำเองลุยเอง ใช้จักรยานช่วยเหลือคน

    รักฯ : ได้ข่าวว่าคุณไปโพสช่วยเหลือคนในเวบ
    ผมฟังคนอื่นมาเล่าให้ฟัง โมทนาด้วย

    พราหมณ์น้อย : ไปฟัง เขาเล่ามา ว่าอย่างไร

    รักฯ : เขาบอกว่าคุณชื่อต้น พรหมนารายณ์

    พราหมณ์น้อย : จะเรียกต้นก็ได้น่ะ มันแล้วแต่คนจะเรียกน่ะ

    รักฯ : ชื่อ คล้ายๆ คุณต้น พรหมพันกรเลย

    พราหมณ์น้อย : ใช่ๆ คุณต้นเขาเป็นรุ่นพี่ผม

    รักฯ : อ้าว รู้จักคุณต้นด้วยเหรอ

    พราหมณ์น้อย : รู้จักกันครับ ทำไมจะไม่รู้จัก

    รักฯ : คุณต้นเป็นอาจารย์ผมเอง

    พราหมณ์น้อย : สาธุ คุณได้อาจารย์ดีแล้วน่ะ

    รักฯ : รู้จักพี่ต้นได้ไงงะ เล่าหน่อยสิ

    พราหมณ์น้อย : ก็คุยกันถูกคอ สนุกเฮฮา
    สุดท้ายก็เป็นพี่น้องในสายธรรมด้วยกัน

    รักฯ : อ่อ คุณคิดว่าพี่ต้นเป็นยังไง

    พราหมณ์น้อย : พี่พรหมพันกรเป็นคนดี

    รักฯ : แสดงว่าสนิทกันกับพี่ต้น

    พราหมณ์น้อย : ยังหนุ่มๆ อยู่อ่ะ

    รักฯ : คุณอ่อนกว่าหรือแก่กว่าผม

    พราหมณ์น้อย : คุณเป็นพี่ผม

    รักฯ : อ้าวเหรอ

    พราหมณ์น้อย : พี่พรหมพันกร ก็ แก่กว่าผม
    แต่ไปว่าเขาแก่ไม่ได้ เดี๋ยวงอน เอาเป็นว่า ผมอ่อนวัยกว่า

    รักฯ : ใช่พี่ต้น อายุ 39 แล้วพี่ต้นเป็นยังไง เขาเก่งไหม

    พราหมณ์น้อย : เก่งน่ะ

    รักฯ : อึมๆ ตอนแรก ฟังจากคนที่เล่าเกี่ยวกับคุณ นึกว่าคุณเป็นฮินดูซะอีก
    เพราะใช้ชื่อ พราหมณ์น้อย

    พราหมณ์น้อย : คนมักเรียกผมว่า พราหมณ์น้อย ตั้งนานแล้ว
    แต่ฉายาผมคือ พรหมพันนารายณ์

    รักฯ : มีความเป็นมายังไงเหรอ ทำไมจึงใช้ชื่อนี้
    พรหมพันนารายณ์

    พราหมณ์น้อย : พรหมพันนารายณ์ มาจาก คำว่า พรหม
    คือ พรหมวิหารสี่ ส่วนนารายณ์ก็พระนารายณ์
    พระนารายณ์นี่ เป็นพรหมน่ะ ไม่ใช่เทพ

    รักฯ : อ่อ ปรกติต้อง มีพระศิวะ ด้วยไม่ใช่เหรอ
    พระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะจึงจะครบ
    ทำไมมีแค่พรหม กับนารายณ์

    พราหมณ์น้อย : เพราะพระพรหมคือการสร้าง
    พระนารยรณ์คือการรักษา ส่วนพระศิวะคือการทำลาย
    ผมมีแต่สร้างสรรค์ และ ทำนุบำรุงรักษา
    แต่จะไม่ทำลายใคร ผมจึงมีแต่พรหม นารายณ์

    รักฯ : อึมๆ ลึกซึ้ง คุณก็เลย เอาสองชื่อนี้มาเป็นฉายา

    พราหมณ์น้อย : ใช่ๆ แต่จริงๆชื่อนี้พี่ ต้น พรหมพันกร
    ตั้งให้ผมนะ พี่ต้น เป็นคนมีบุญสัมพันธ์กับผม
    ก็เพราะมีอาจารย์เดียวกันคือพระอวโลกิเตศวร

    รักฯ : อ่อ แล้วมีญาณตั้งแต่ตอนไหนเหรอ

    พราหมณ์น้อย : อ๋อ ยานเหรอ พ่อซื้อมา ตั้งแต่เด็ก เ
    ป็นโตโยต้า อิอิ

    รักฯ : 555 แหม คุณเล่นมุขด้วย นึกว่าเป็นคนซีเรียสซะอีก

    พราหมณ์น้อย : อ้าวคุณ คนทุกวันนี้ ซีเรียสกันมาก
    เพราะคำพุดคนนะ ใจหม่นหมองจิตตก

    รักฯ : คุณ ดูดวง ตรวจกรรมให้คนเหรอ

    พราหมณ์น้อย : ดูทำไมคุณ ผมไม่ใช่หมอดูน่ะ

    รักฯ : อ่อ แล้วคุณทำหน้าที่อะไรหรอ

    พราหมณ์น้อย : กิน นอน เล่นบ้าง ช่วยเหลือคน
    ทำงานกุศล พาคนปฏิบัติธรรม ครับผม

    รักฯ : ผมอยากถามว่า ทำไมผมต้องสนใจเรื่องญาณ
    ทั้งๆที่งานทางโลกมันเกี่ยวกับเทคโนโลยี่

    พราหมณ์น้อย : เอ้า พ่อฤาษีอักขระ

    รักฯ : คือไรเหรอ

    พราหมณ์น้อย : มันชอบ ไง เจอคนแม่น นี้
    โอ๊ย อาจารย์ทันที ขอวิธีแน่ะนำ

    รักฯ : ใช่ๆ

    พราหมณ์น้อย : นั่นแหล่ะคุณ วิทยาธร

    รักฯ : ใคร วิทยาธร ผมเหรอ

    พราหมณ์น้อย : อ้าว ตอนเด็กๆคุณจะเล่นเป็นฤาษี
    กระโดดโลดเต้น เหมือนหนังจักรๆวงศ์ๆ
    ชอบเขียนยันต์ อักขระ สักใส่เนื้อ สนุกๆ เขียนเสร็จก็ลบออก

    รักฯ : ตอนเด็กๆผมเป็นอย่างนั้นเลย

    พราหมณ์น้อย : อิอิอิ

    รักฯ : ผมเคยเป็นวิทยาธรเหรอ

    พราหมณ์น้อย : ไม่สังเกตหรือว่าคุณชอบอิทธิฤทธิ์
    ชอบพลัง ชอบอะไรที่แปลก ๆ ชอบเพ้อฝันแบบ มีอิทธิฤทธิ์

    รักฯ : ใช่ๆ เป็นแบบนั้นเลย Fantasy อิอิ

    พราหมณ์น้อย : อิอิ

    รักฯ : อึมๆ แล้วอนาคตผมจะเป็นไง จะทำงานด้านไหน
    ในหัวมีหลายอย่างเลยครับ

    พราหมณ์น้อย : คิดให้ดีน่ะ ครูอาจารย์มีญาณของคุณ
    ก็ให้คำแนะนำมาเยอะแล้วนี่ ทั้งเพ่ง เล็ง กำหนด
    ไม่มีอะไรต้องไปกังวล ทำไป ผมรู้ว่าคุณคิดจะเขียน
    หนังสือแต่จิตคุณยังไม่แน่วแน่เลย จะเขียนแบบนี้พอคิดอีกที
    ก็เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง เลยไปไม่ถึงไหน เลเครียดจัด
    แล้วหาวิธี จะทำให้ได้

    รักฯ : ใช่ๆ แล้วผมจะได้เขียนหนังสือป่าว ผมอยากเขียน อิอิ

    พราหมณ์น้อย : อ้าว ก็คุณชอบงานศิลป์อยู่แล้ว
    มันชอบมาตั้งแต่เด็ก ขีดเขียน วาดรูป ดูสมุด ตอนเรียน
    หน้าหลังไม่สะอาดหรอก

    รักฯ : ใช่ๆ สมุดหน้าหลังของผมเต็มไปด้วยศิลปะ

    พราหมณ์น้อย : อิอิ คุณมัน ชอบอยู่แล้ว มันก็ไม่พ้นพวกนี้
    เพราะชอบไง มันมาตั้งแต่เด็ก
    ที่บ้านไม่ได้ชอบเหมือนเรา

    รักฯ : โอ้ ใช่ๆที่บ้านผมชอบศิลปะคนเดียวเลย

    พราหมณ์น้อย : นี่แหล่ะ ของคุณจะมาทางนี้

    รักฯ : แสดงว่าผมทำงานเกี่ยวกับศิลปะได้ ใช่ไหมครับ
    ตอนนี้ผมทำงานเป็น creative ออกแบบเกมออนไลน์

    พราหมณ์น้อย : ศิลปะไปได้นะ มีเทพคุ้มน่ะ
    อยากจะเป็นนักเขียน ค่อยๆเรียนถามองค์ช้างเอา

    รักฯ :ถามองค์ช้าง โอ้ คุณหมายถึง .... องค์ท่านที่คุ้มครองผมเหรอ

    พราหมณ์น้อย : ท่านคุ้มครอง คุณชอบวิธีศึกษา
    มีท่านแน่ะนำ ก็ดีแล้วนิ จะได้เฮงๆ

    รักฯ : คุณเเห็นท่านเหรอ ผมก็ทำบุญอุทิศให้ท่านเสมอๆ
    อยากให้ท่านมาช่วยเหลือผม

    พราหมณ์น้อย : ท่านช่วยมาตั้งนานแล้ว คุณก็เช้าไหว้
    เย็นบูชา ไปไหน พำพรึง ก็มี แต่องค์ช้าง
    อย่าไปคิดมาก ท่านดีกับคุณน่ะ

    รักฯ : อึมๆ ผมมักสับสนกับตัวเองเ

    พราหมณ์น้อย : ที่เป็นแบบนี้ เพราะมันยังไม่ลงตัว
    ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเข้าที่เข้าทางเลย งึก งัก แบบนี้
    แต่ถึงเวลาแล้วมันจะลงตัวเอง

    รักฯ : พอผมอยู่ว่างๆ ภาพมันไหลมาเลยนึกว่าตัวเองเพี้ยนซะอีก

    พราหมณ์น้อย : อ่าๆ มันไม่ไหลหรอก พรสวรรค์มา
    ตั้งแต่เล่นสีแล้ว คุณทำแหวกแนวกว่าใครๆ คนอื่นที่ทำมาใหม่ๆ
    มันไม่แหวกแนวเท่ากับของคุณ

    รักฯ : อึมๆ ผมกับคุณเคยเกี่ยวพันกันมาก่อนไหมในชาติก่อน

    พราหมณ์น้อย : อ่ะ ชาตินี้สิ ชาติก่อนมันตายไปแล้ว
    ชาตินี้ มันคุยกัน คือสัมผัสได้ว่ามันมีตัวตน
    ชาติก่อนมันจับต้องด้วยกันไม่ได้ จะคุยทำไม
    ชาตินี้ เรามาพบกันนี้ เดินสายนี้ นี่คุยกันได้

    รักฯ : ผมอยากรวบรวมคนมีญาณเพื่อเผยแพร่ให้โลกได้ประจักษ์

    พราหมณ์น้อย : ใจคุณมันชอบ พวกเทพองค์ กายสิทธิ์
    ไม่งั้นไม่ตามหาหนังสืออิทธิฤทธิ์ ถอดจิต อภิญญามาอ่านหรอก

    รักฯ : อึมๆ อยากให้คุณมาช่วยเหลือกันครับ ผมมีเป้าหมาย
    อยากถ่ายทอดเรื่องราว รวมถึงคำสอนของท่านเหล่านั้นด้วย
    ไม่ใช่เผยแพร่เรื่องฤทธิ์เดชให้คนงมงาย แต่ใช้พอ
    เป็นพิธีเรียกคนเข้าหาแก่นธรรม เป็นกุศโลบายครับ

    พราหมณ์น้อย : เอาล่ะ ถ้าทำแล้วบอกผมด้วยละกัน ผมจะช่วย


    รักฯ : เหรอๆๆ

    พราหมณ์น้อย : คุณนี่เก่งน่ะ ชอบหาคนมีญาณ
    แต่ระวังคุณจะเจอจิ้งจก จิ้งจอกน่ะ

    รักฯ : คือไรเหรอ คนมีญาณไม่จริงใช่ไหม

    พราหมณ์น้อย : ก็ เพิ่งโดน นี่

    รักฯ : ใช่ๆ แต่ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดานะ เจอทั้ง
    จริงและไม่จริง ไว้เปรียบเทียบกันไง อุอุ พุดให้กำลังใจตัวเอง

    พราหมณ์น้อย : พวกหยั่งจิตคน นั่นแหล่ะ เป็นไง

    รักฯ : ผมไม่รู้หรอกว่าใครมีญาณจริงไหม แต่ที่รู้
    คนที่คุยกับผมอยู่นี่ ของจริง อิอิ

    พราหมณ์น้อย : อิอิ เหรอ คุณตามหาผม
    ทีแรก คอยลุ้นว่า ผมจะพูดอย่างไร สุดท้ายก็คุยกันตามปกติ
    สบายๆ

    รักฯ : ใช่ๆๆ แรกๆ นี่ ยังสงสัยในตัวคุณหลายอย่าง

    พราหมณ์น้อย : อ่ะ สงสัย ผมก็นิ่ง จะว่า อวดผมก็นิ่ง
    จะมาลองของ ผมก็เต็มใจให้ลอง มาให้ผมสบสน ผมก็ให้สับสน
    แสบๆ คันๆ สนุกดีครับ

    รักฯ : อึมๆ คุณ สบายๆ ไม่ค่อยขึงขังมาก ไม่เหมือนคนมีญาณอื่นๆ

    พราหมณ์น้อย : นี่การลองใจ และการสงสัย นี่
    ไม่ใช่เรื่องแปลกน่ะครับ

    รักฯ : โอ้ ผมชอบลองใจคนมีญาณบ่อยเลย
    แต่ไม่ได้ลบหลู่ แค่อยากศึกษา

    พราหมณ์น้อย : ผมชอบแบบ สบายๆ

    รักฯ : ดีแล้วครับ อย่างนี้แหละ จะได้คุยแบบเปิดอกได้

    พราหมณ์น้อย : ผมรู้อนาคตคุณ อดีตคุณ รู้จักโน่นนี่ของคุณ
    แต่ใครจะทัก อดีตคุณเป็นอย่างไร คุณก็รู้ไม่ได้
    เพราะนั่นของตาย มิใช่ของเป็น ของเป็นกำลังเกิดตอนนี้
    ที่นี่ที่คุยกัน เนื้อครับๆ แบบว่าน้ำๆผมไม่ชอบน่ะ

    รักฯ : โอ ดีครับ มาเร็ว เคลมเร็ว

    พราหมณ์น้อย : คุณไปหาคนมีญาณแล้วมาบอกคนอื่น
    โดยที่คุณก็ไม่รู้ว่าเขามีญาณแค่ไหน พอคุณบอกเขาไป
    แล้วมีคนมาชมคนมีญาณของคุณโดยที่เขาก็ไม่รู้เหมือนคุณ
    คุณก็ยกเ คนมีญาณนั้นเป็นอาจารย์เลย คุณรู้จักเขาแค่ไหน

    รักฯ : อึมๆ

    พราหมณ์น้อย : แต่นั่นเป็นเขา แต่ไม่ต้องทำกับ
    ผมอย่างนั้นนะ พรหมพันนารายณ์ไม่ต้องการ

    รักฯ : โอ้

    พราหมณ์น้อย : เพราะผมแนะนำคนให้เขาพึ่งตัวเขาเอง
    ไม่ใช่ให้เขามาเชื่อคำพยากรณ์จากผม ผมไม่ใช่
    ผู้กำหนดชีวิตเขาให้เดินตามคำพูดผม
    เขาสิต้องกำหนดทิศทางชีวิตเขาเอง
    จะกินข้าว เราไม่ได้ป้อนเขา เวลาเขาอิ่มเราก็
    ไม่ได้บอกเขา ว่าต้องอิ่ม เขาย่อมรู้ดี ไม่ต้องมาถามเผมว่า
    อิ่มหรือยัง

    รักฯ : ใช่ครับ

    พราหมณ์น้อย : ดีแล้ว ทำต่อไปน่ะ ผมสนับสนุนสิ่งที่คุณทำ
    เพราะคุณชอบเปิดโปงดี

    รักฯ : อิอิ เรียกว่าเผยแพร่ก็ได้นะครับ แหะๆ แล้วคุณ
    รับช่วยเหลือคนผ่าน เอ็มเหรอ ถ้าเขาอยากไปเจอคุณ
    หรืออยากโทรหาคุณได้ไหม

    พราหมณ์น้อย : ผมนี่ยังไงก็ได้ ไม่ได้มีกฎอะไรมาก
    แต่ตามหาผมให้เจอก็แล้วกัน ส่วนมาก ผมจะเก็บตัวน่ะ

    รักฯ : อ่อ

    พราหมณ์น้อย : หากเขา ขอให้ช่วยจริงๆ ก็จะ ช่วย
    แต่ไม่ให้ช่วยเพื่อให้มาเชื่อผมนะ แต่ช่วยให้เขาเข้าใจตัวเขาเอง
    หากมีคนเดือดร้อนมาให้ช่วย ผมก็จะยินดี
    หากไม่มี ผมก็พาชาวบ้าน สวดมนต์ไหว้พระในป่า ในหมู่บ้าน

    รักฯ : โมทนาครับ

    พราหมณ์น้อย : บอกคนให้สวดมนต์ยังดีกว่า
    ไปทักคนเหมือนจิ๊งจกน่ะ ดีไม่ดี ไปซัดขวางกรรมเขา

    รักฯ : อึมๆ สอนคนปฎิบัติประเสริฐกว่าบอกคนดูดวง

    พราหมณ์น้อย : ใช่แล้ว คนเราน่ะ ไปยึดติดคำพูดที่
    ฟังแล้วดูขลัง เช่นดูดวง แก้กรรม เสริมองค์ ตรวจองค์
    ชอบกันมากเลย หมดเงินเท่าไหร่ก็เอา
    ถามว่าดีไหม นั่นมันทำให้แค่สบายใจ
    แต่ไม่ได้ทำให้จิตสงบแล้วพบทางสว่าง
    พอสบายใจ ก็กลับไป พอมีเรื่องเดือดร้อนอีก
    ก็ไปหาคนเหล่านี้อีกเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด นี่น่ะ หากผม
    พูดว่ารับดูดวง เปิดกรรม แก้กรรม สเดาะกรรม ผมนี่
    ดังไปนานแล้ว แต่ ผมไม่อยากดัง เพราะจะเกิดกา
    รยึดถือตัวเอง แล้วก็หลงไปกับมัน แล้วก็จะฏิบัติไม่ได้
    จะช่วยคนให้พบทางสว่างไม่จำเป็นต้องดังหรอก

    รักฯ : เห็นกุศลจิตของคุณแล้ว น่านับถือครับ

    พราหมณ์น้อย : คนที่ไปดูดวงตรวจกรรมกับหมอต่างๆ
    ก็สับสนตัวเอง ไม่รู้จะเชื่อใคร หมอดุกรรม
    ก็จะบอกว่ามีกรรม หมอดูดวง ก็จะบอกว่ามีเคราะห์
    หมอผีก็จะบอกว่ามีวิญญาณตามตัว
    แล้วจะเชื่อใครหละ นี่ไงสับสน เพราะรักษากันแต่
    ที่ปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือจิตที่ไม่สงบ

    รักฯ : อึม ดังสุภาษิตที่ว่า มากหมอยิ่งมากความเป็นแบบนี้นี่เอง

    พราหมณ์น้อย : เคยมีคนหาผมพร้อมกันยี่สิบคน
    ผมไล่กลับหมด เหลือแค่สองคน ผมบอกสองคนนี่
    มาเพราะทุกข์จริงๆ เพราะเขาทุกข์ และเขาไม่มีทางออก

    รักฯ : ที่เหลือมาทำไมหรอ

    พราหมณ์น้อย : มาไร้สาระ ดูดวง ถามหาเนื้อคู่
    ถามว่าจะรวยไหม

    รักฯ : ครับๆ เรียกว่าไม่ทุกข์จริง

    พราหมณ์น้อย : สองคน คือ แม่ป่วยหนัก อีกคนนิ้วขาด
    หมอดูกรรม ยังมาให้ผมดูเลย

    รักฯ : โอ้

    พราหมณ์น้อย : ไม่ใช่ว่าผมเก่งน่ะ เขาก็มีเรื่องทุกข์
    เหมือนกัน ผมเป็นที่ปรึกษาให้ได้ แต่จะไม่ไปเป็น
    อาจารย์ใคร ให้คิดไว้
    แบบนี้ แสงเทียน จุดธูป มันมีความสุข ได้สวดมนต์
    กับญาติธรรม แบบกลุ่มเล็กๆ แต่แสงไฟสว่างไปทั่ว
    แต่มันวุ่นวายต้องคอยรับหน้าคนทั่วไปที่มีแต่ปัญหาจิปาถะ
    พอคนมียศมีตำแหน่ง
    มา ต้องคอยต้อนรับ นั่นคนอื่นน่ะ แต่ไม่ใช่พรหมพันนารายณ์คนนี้

    รักฯ : ครับ

    พราหมณ์น้อย : ความสุขในใจคนไม่ได้เกิดจาก
    คำเยินยอว่าเราเก่ง และมีชื่อเสียงเด่นดัง
    แต่เกิดจากเราตั้งใจทำในสิ่งที่ดีงาม
    แล้วทำอย่างเต็มที่ เช่น จุดธูปสวดมนต์ แผ่เมตตา
    นั่งสมาธิ ทำโรงทาน รักษาคน ช่วยเหลือคนพิการ
    คนด้อยโอกาส แล้วความสุขมันจะมาเอง
    ไม่ต้องไปแสวงหาความสุขจากการเยินยอจากคนอื่น

    รักฯ : เข้าใจละ คุณไม่อยากเป็นแสงอาทิตย์ส่องทั่วถึงทุกคน
    แล้วให้คนชื่นชมทั่วทิศ แต่ขอเป็นแค่แสงเทียนที่ส่อง
    ทางชีวิตให้คนบางกลุ่มให้เข้าถึงแก่นธรรมะ

    พราหมณ์น้อย : นี่แหละ งานของพรหมพันนาราณ์

    รักฯ : โมทนาจริงๆ

    พราหมณ์น้อย : มีคนมาแอดตอนนี้เป็นร้อยๆ
    แต่ผมเลือกพิจารณาในการช่วยคน

    รักฯ : เป็นวิสัยของผู้รักความเป็นสมถะ

    พราหมณ์น้อย : ไม่ใช่ มานั่งพูด นั่งชม หมอดู
    หรือคนมีญาณว่าวิเศษช่วยคนได้

    รักฯ : ครับๆ

    พราหมณ์น้อย : คนเรานี่ จะบุญจะกรรม จะรวยจะจน
    เกิดจากตัวเราเองทั้งนั้น หมอดู หรือคนมีญาณ
    น่ะหากจะดูเพื่อช่วยคนจริงๆ ทำไมไม่ไปช่วยตามหมู่บ้าน
    ตามที่กันดาร หรือที่ๆคนมีความทุกข์จริงๆ
    ทำไมต้องมารอช่วยเฉพาะคนที่มีเงินมาให้ แล้วมาอ้างว่าช่วยคน

    รักฯ : อึมๆ

    พราหมณ์น้อย : คนลำบากจริงๆมีเยอะ การช่วย
    คนที่แท้จริง มันต้องลงให้ถึงรากหญ้า อย่าไปเลือกฐานันดรศักดิ์

    รักฯ : ผมอยากขอคุยกับคุณทาง โทรศัพท์ได้ไหม

    พราหมณ์น้อย : ตอนนี้ เหรอ

    รักฯ : แล้วแต่คุณสะดวกครับ ผมอยากปรึกษา
    ทางธรรมและงานทางธรรมด้วย

    พราหมณ์น้อย : 08x xxx xxxx นั่นแหล่ะ เบอร์ผม
    นี่ถ้าไม่ใช่ คนตามหาคนมีญาณไม่ให้น่ะ
    เพราะผม ชอบทัศนคติคุณ คุณเป็นคนชอบลุย
    ชอบคิด ชอบค้นคว้า ตามล่าหาความจริง
    และต้องการให้คนได้รู้ว่าคนมีญาณที่ดีๆ
    เป็นอย่างไรและช่วยอะไรใครได้บ้าง

    รักฯ : ครับๆ ขอบคุณมากๆ

    พราหมณ์น้อย : คุณรู้ไหมว่า มีคนคิดกับคุณแบบนี้ ว่าคุณชอบปั้นหมอดู

    รักฯ : อุอุ ผมปั้นครับ แต่ปั้นให้คนได้รู้จักถึงคุณธรรม
    ของคนเหล่านั้น ผมทำด้วยใจจริงๆ และผลตอบรับกลับ
    มาส่วนใหญ่ ก็โอเคเลย อาจมีบ้างที่ไม่ชอบา
    ผมว่าธรรมดาของโลกธรรม ผมจึงอยากหาคนจริงๆมาเผยแพร่

    พราหมณ์น้อย : ได้ๆ ไม่มีปัญหา น่ะ อยากจะคุยด้วยก็ไม่เป็นไร

    รักฯ : ขอบคุณและยินดีที่ได้สนทนากัน

    พราหมณ์น้อย : ครับผม ขอให้องค์ช้างคุ้มครองนะ
    …………………………………………………….
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  2. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    อะแอ้มๆๆ

    เอาหละ มาถึงช่วงสำคัญ สำหรับคนที่มีทุกข์แล้วอยากให้ท่าน
    พราหมณ์น้อย พรหมพันนารายณ์ ช่วย

    ตามที่รู้กันว่า ท่าน พราหมณ์น้อย ได้มาประกาศในเว็บเพื่อช่วยคนไว้ ผ่านทางเมลนี้

    brahmanarai@hotmail.com

    สามารถแอดไปได้นะครับ

    แต่ ท่าน พราหมณ์น้อย บอกผมว่า เมลข้างบนนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้มี
    ไว้เพื่อช่วยเหลือคนโดยตรง จึงเอามาเผยแพร่ได้และมีคนแอดไปหา
    เขาเป็นร้อยๆ ซึ่งแน่อนว่า เขาไม่สามารถตอบได้หมด

    แต่ ท่าน พราหมณ์น้อย มีอีกเมลหนึ่งไว้เพื่อช่วยคนจริงๆ
    และเมลนี้ ไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้

    ผมได้วิงวอนขออนุญาติ ท่าน พราหมณ์น้อย ขอเมลลนั้นให้ผมเพื่อ
    ผมจะได้บอกคนที่มีทุกข์จริงๆให้แอดไปได้

    และท่านก็เมตตาให้เมลนั้นกับ ผม พร้อมด้วยเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของท่าน

    แต่กำชับผมว่า ผมสามารถให้ได้กับคนที่มีทกุข์จริงๆเท่านั้น
    และต้องให้เขามาบอกว่ามีทุกข์อะไรด้วย

    อยู่ๆมาขอเลยนั้น ท่านไม่อนุญาติ เพราะจะมีคนไม่ทุกข์จริงมาขอให้ช่วย
    ทำให้เสียเวลาท่านในการช่วยคน

    แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อให้ไปแล้ว ท่านก็คัดกรองอีกทีหนึ่ง ว่าท่านจะรับแอด หรือไม่

    ดังนั้นหากใครที่มีทุกข์หนัก หรือทุกข์เร่งด่วน pm มาขอผมได้นะครับ
    แต่ต้องเล่าว่ามีทุกข์อะไรด้วย

    และหากเป็นเรื่องเร่งด่วน ผมอาจให้เบอร์โทรสายตรงถึงท่านเลย

    ............................

    แต่เนื่องจาก วันเสาร์ อาทิตย์ ผมต้อไปธุระ อาจไม่ได้เข้าคอม
    จะมาอีกทีก็วันจันทร์ ดังนั้น

    หากใครอยากได้เมลท่าน พรหามณ์ ก็ pm ไปหาน้องแคท sweetdetchop ได้นะครับ
    ผมฝากเมล และเบอร์โทร ท่านพราหมณ์กับน้องเขาไว้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  3. seva

    seva เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +101
    อนุโทนากับสิ่งที่คุณพราหมณ์น้อยได้ทำทุกอย่างถ้าผมมีบุญวาสนาที่จะได้คุยกับท่านซักครั้งนะครับ:cool:
     
  4. สาด

    สาด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +67
    อนุโมทนาครับ นี่แหละของจริงมันต้องแบบนี้

    ถ้าทุกข์ไม่หนักจริงคงได้คุยกับ พราหมณ์น้อย ยากครับ
     
  5. อุมาเทวี

    อุมาเทวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +264
    คิดอยากจะขอความช่วยเหลือ แต่มาตรองดูอีกที นึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า

    " การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ก็เป็นทุกข์" หรือ "มีพบ ก็มีจาก" ความทุกข์เหล่านั้นก็คลาย

    ลงไปได้บ้างพอสมควร คิดว่ากาลเวลาจะทำให้ใจของเราสงบลงได้ ขอสละสิทธิ์ให้คนที่

    ทุกข์มากกว่าก็แล้วกันค่ะ
     
  6. kittisak05

    kittisak05 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +14
    ขออนุโมทนากับคุณรักไร้พ่าย เเละคุณต้นพรหมพันนารายณ์
     
  7. iguaz

    iguaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +539
    อนุโมทนา สาธุครับ
    พี่ต้น พี่รักไร้พ่าย และก็พี่แคทด้วย เลขาสาวสายญาณ 5555+

    dencee dencee dencee dencee dencee
     
  8. bluesky78

    bluesky78 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +22
    คุณรักไร้พ่าย คุณsweetketchup คะ ยังส่งหลังไมค์ไม่ได้อ่ะคะ
    จะให้ติดต่ออย่างไรดีคะ รอคุณต้นพรหมพันกร มานานมากกตั่งแต่กรกฎา
    จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้คุยเลย ก็ได้แต่หวังว่าคุณต้นพรหมพันนารายณ์
    จะเมตตาให้ความช่วยเหลือด้วยค่ะ
     
  9. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อนุโมทนา ท่านพรหมพันนารายณ
    แล้วก็ อนุโมทนา คุณรักไร้พ่ายด้วยนะครับ
     
  10. atnarak

    atnarak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2005
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +318
    อนุโมทนา สุดยอดจริงๆครับ
    ทึ่งในอะไรหลายๆอย่างของพี่พรหมพันนารายณ์มากๆครับ
     
  11. lucky_girl

    lucky_girl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +654
    โฮๆๆ ได้ดูแล้วหรอเนี่ยยย แหมนะ เราโชคดี (?) ได้เป็นหนึ่งใน 4 กลุ่มแรก ที่ประกอบด้วย ผู้หญิงมีกรรม หนุ่มน้อยผู้ช่างฝัน คนมีวิญญาณติดตามตัว และ(จัดการ)นักข่าวปากแข็ง อิอิอิ มิน่าล่ะนะ ขอเบอร์ไม่ให้ คงเห็นว่าเราไปลองของเฉยๆ นะ แต่ก็ไม่ผิดหวังๆ และประโยคหนึ่งที่คุณต้นพูดถึงเรา คือ ब्रह्मा विष्णु says: อนาคต(ชื่อเรา) เลือกได้ค่ะ มั่นใจ ไม่ง้อใครนี่คือ (ชื่อเรา) ค่ะ :D คงเห็นว่าเราไม่เชื่อไรง่ายๆ ทั้งตั้งคำถาม และ มีอคติตลอด (กะเรื่องที่เราไม่ชอบ) เลยไม่ได้แจกเบอร์นะ แต่ไม่รุ้ว่า จิงๆ คุณต้นจะรุ้มั๊ยว่าเราขอเบอร์ไม่ได้ให้ตัวเราเอง แต่ขอให้ใครคนนึง..(??)
     
  12. ผู้นอบน้อมสุดใจ

    ผู้นอบน้อมสุดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,094
    จารย์เกื้อโชว์หน้าเลยนะ 5555555
     
  13. วิบแวม

    วิบแวม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +80
    มานำเสนออีกท่านแล้วครับ
    ที่พึ่งของผู้มีทุกข์อย่างเราๆทั้งหลาย
    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  14. จักราธร

    จักราธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +180
    ผมว่า..มันทะ************ๆพิกล..ทางสายนี้เพี้ยน..สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมครับ..
     
  15. tinnakornten

    tinnakornten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +494
    ผมขอ confirm ครับ ผมไม่เคยสนับสนุนใคร
    แต่บอกได้เลย พวกลองของเจอดีแน่ ครับ
    ของจริงขอบอก แต่ไม่ชอบดูดวง แบบ ไร้สาระ ปัญหาชาวบ้าน(ผมว่าแก้เองไม่เป็น ก็แย่เต็มทีที่เกิดเป็นคน)
    เค้าจะดูกรรม เฉพาะคนที่หนักจริงๆ แล้วให้ข้อธรรม เตือนสติ
    และที่ชอบที่สุด สอนกรรมฐานตามจริตด้วย ชอบมากกกกกกกกกกกกก
    ดึงขึ้นมาให้เราเห็นเลย(คุยผ่านเอ็มอะครับจี้จุดโดนมากๆ)เพราะไม่ได้สังเกตุ

    ขอนะ พวกไร้สาระ ไปไกลๆ เสียเวลา ท่านพราหมณ์น้อย
     
  16. YATRA

    YATRA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +268
    ขออนุโมทนากับคุณรักฯค่ะ ได้คุยผ่านทางเมลล์แล้วค่ะ เป็นโชค วาสนาจริงๆค่ะ ที่ถูกเลือก
    ท่านพรหมพันนารายณ์ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมค่ะ และท่านให้ปฏิบัติดังนี้ค่ะ
    <style><!-- .hmmessage P { margin:0px; padding:0px } body.hmmessage { font-size: 10pt; font-family:Verdana } --></style>มั่นแผ่เมตตา อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวร ปัญหาและหนทางจะไม่กดดันเราครับ ศรัตรูคู่แข่งขันมี
    แต่ใช่เมตตาบารมีเข้าไปช่วยครับ รู้จักสงสารและให้โอกาสคน และเราจะเข้าใจตนเองมากยิ่งขึ้น ธรรมใดไร้ค่า หากเราไม่เข้าใจคุณค่าของตัวเราเอง

     
  17. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    <TABLE class=tborder id=post2584804 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175></TD><TD class=alt1 id=td_post_2584804 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->สาธุ สาธุ ขอโมทนา
    อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

    ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี
    ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน
    เพื่ออบรมหนทางความดับ
    ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม

    และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p</O:p
    ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้
    อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา
    พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ
    ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน
    เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร
    เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ
    ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
    ขอจงได้รับขมากรรม อโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า
    และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลาย ได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น
    ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน
    พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข
    เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ
    ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
    <O:p</O:p
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง
    ขอเชิญร่วมสร้างพระอุปคุต หลวงปู่ทวด วัดนาอุดม อุบลฯ (รับของดีหลายครูบาอาจารย์)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    เคยแอดไปตอนคุณต้นตั้งกระทู้แรกๆแล้วคับ แล้วก็รับแอดผมแ้ล้วด้วย แต่มารู้ว่าลบกระทู้ออกไปแล้ว และไม่รับดูดวง หรือกรรม . . .ก้เลยเกรงใจไม่กล้าทักในเอ็มเลย T^T
    ถ้าจะเป็นการสนทนาธรรมจะได้ไม๊คับ เพราะผมก้ไม่ได้มีทุกข์หนักอะไร เรียกว่าพึ่งพ้นทุกข์ก็ว่าได้ อิอิ . .
     
  19. pantham phuakph

    pantham phuakph เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +444
    ขออนุโมทนาร่วมกับทุกท่านครับ

    เรียนคุณรักไร้พ่าย

    ผมขออนุญาตนอกเรื่องสักหน่อยนะครับ ผมมีความรู้สึกว่าคุณรักไร้พ่ายจะช่วยได้
    เรื่องมีอยู่ว่าวัดแก่งขนุน ที่สระบุรี สอนกรรมฐานแนวของสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน)
    มีความประสงค์จะมีเว็บไซต์ของวัด แต่ยังหาคนออกแบบไม่ได้ อยากรบกวนช่วย
    หาคนออกแบบเว็บให้หน่อย ติดต่อพระสนธยา 081-433-3659

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้า
     
  20. audi1416

    audi1416 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +853
    ยินดีด้วยครับ มาถูกทางแล้วครับ
    อนุโมทนาด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...