พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

วัดบางวัด ก็ใช้สังฆวานร นำไปติดไว้บนยอดเจดีย์ด้วยนะครับ

ผมเองพกไว้ติดตัวตลอดโดยเล่มที่ผมพกนั้น ด้ามเป็นองค์ท้าวเวสสุวรรณครับ

สังฆวานรโดยธรรมชาติของตัวเองนั้น มีพลังอิทธิคุณสูงโดยตัวเองอยู่แล้ว และยิ่งดีไปกว่านั้น ก็คือหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านเสกให้ด้วย ในสมัยนั้น ใช้ในการคนผงพระ ,ผงทอง และขี้เหล็กไหลให้เข้ากัน ก่อนนำมวลสารไปกดพิมพ์พระครับ

 

ความเป็นมาของ "สังขวานร" หรือ "สังฆวานร"

เกิดจากพญาวานรตนหนึ่งซึ่งลงมาจุติเกิดในภพภูมิของมนุษย์ แล้วเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังมิวายที่จะติดใจหลงไหลในฤทธิ์อำนาจของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่อดีตชาติ

เมื่อเข้ามาบวชเรียนแล้ว พญาวานรก็ยังชอบที่จะใช้ฤทธิ์ใช้อำนาจที่มีอยู่เดิม ในการเหาะเหิรเดินอากาศเพื่อที่จะไปเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุ(สีขาวนวล) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศธาตุซึ่งมิได้ถูกเทพ-เทวาอัญเชิญไปเป็นฐานพระเกตุแก้วจุฬามณี(ฐานของพระเกตุแก้วจุฬามณีเป็นวัชรธาตุ) เมื่อเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุได้ตามต้องการแล้ว พญาวานรก็นำไปหลอมละลายเข้ากับเงินยวง หรือเงินบริสุทธิ์ แล้วทำการประจุพลังปลุกเสกอริยธาตุขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีฤทธิ์มีอำนาจตามที่พญาวานรต้องการ จากนั้นจึงนำไปเก็บไว้ในถ้ำลึกที่ตนอาศัยอยู่เพื่อใช้ในการทดสอบฌานสมาบัติและฤทธิ์อำนาจของตัวเอง

ความติดในฤทธิ์อำนาจจึงทำให้พญาวานรไม่เจริญก้าวหน้าในทางธรรม เพราะมัวแต่หลงไหลยึดมั่นถือมั่นในฤทธิ์อำนาจ เมื่อถึงเวลาธาตุ 4 ขันธ์ 5 ของพญาวานรแตกดับไป แต่ด้วยจิตที่ผูกพันหวงแหนในธาตุกายสิทธิ์ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ทำให้จิตวิญญาณของพญาวานรติดตามไปดูแลธาตุกายสิทธิ์นั้นไม่ให้ได้ตกไปอยู่ในมือของหมู่มารที่มีอคติต่อพระพุทธศาสนา

ดังนั้นแร่สังฆวานรจึงเกิดจากเหล็กไหลขาวที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ถูกนำมาหุงใหม่บวกกับฤทธิ์ฌานสมาบัติของพญาวานรเข้าไปรวมด้วย เราจึงเรียกธาตุกายสิทธิ์นี้ว่า "สังฆวานร" หรือบางคนก็เรียก "สังขวานร" โลหะชนิดนี้มีสีเงินยวง ขาวนวลกว่าเหล็กไหลขาวทั่วไป

เพราะสังฆวานรมีฤทธิ์อำนาจในการป้องกันศัตรูหมู่มารและภัยพิบัตินานาประการ มิให้เข้ามากร้ำกรายลุกร้ำสถานที่นั้น ๆ ได้ โดยมีคาถากำกับเอาไว้ว่า "นะมะหะนุ วะลุสังหะ" จึงมีฤทธานุภาพเหมือนกับหนุมาน แต่ที่แตกต่างกันก็คือธาตุกายสิทธิ์นี้มีบารมีธรรมขั้นสูงกำกับอยู่ นั่นคือมีบารมีธรรมของเหล่าอริยสงฆ์ที่ตั้งใจลงมาช่วยเหลือเกื้อกูลต่อพระพุทธศาสนา ให้หลุดรอดจากเหล่าหมู่มารทั้งหลาย บวกกับฤทธานุภาพของพญาวานร จึงทำให้แร่สังฆวานรนี้มีอานุภาพอย่างยิ่ง

หมายเหตุ ธาตุกายสิทธิ์หมายถึงแร่ธาตุธรรมชาติที่มีฤทธิ์และพลังในตัวเองอยู่แล้ว เช่น เหล็กไหล เพชรหน้าทั่ง เป็นต้น


ข้อมูลจากหนังสือ ธาตุกายสิทธิ์

 

ขออนุญาตท่าน อ.ประถม อาจสาคร นำเรื่องราวประสบการณ์ของผู้ที่มีพระพิมพ์สมเด็จฯ ไว้บูชา เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นประโยชน์แก่ท่านที่เพิ่งจะรู้จักหรือยังไม่รู้จักพระพิมพ์สกุลนี้

หมายเหตุุ เรื่องราวต่อไปนี้คัดลอกมาจากหนังสือ "วิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า" ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ อ.ประถม อาจสาคร และคำว่า "ผม" หมายถึงตัวท่าน อ.ประถม อาจสาคร


ประสบการณ์ของผู้ที่บูชาพระสมเด็จฯ

คนรุ่นก่อนมีคำพังเพยว่า "ผู้ใดมีวาสนาได้มีพระสมเด็จที่แท้ จะไม่มีตายโหงและตายห่า" (อหิวาตกโรค คนรุ่นเก่าเรียกว่าโรคห่ากิน) ครั้นมาบัดนี้ก็มีนักปราชญ์ของวงการพระเครื่องเปลี่ยนคำนิยามว่า "พระสมเด็จ มีเพียงด้านเมตตาและแคล้วคลาดเท่านั้น" ตอนหนุ่มผมแขวนสร้อยด้วยพระพิมพ์สมเด็จวัดไชโยวรวิหารคุณลุงมอบให้ ท่านรักผมแม้ลูกชาย ท่านยังไม่ให้นักเลงรุ่นเก่าเห็น เขาชมว่าพระชนิดนี้เหนียวใจขาด ขาดหรือไม่ขาดผมเองไม่ทราบ เพียงแต่ว่าพระสมเด็จองค์นี้ผ่านสงครามอินโดจีนมาแล้วอย่างโชกโชน โดนข้าศึกยิงหลายครั้ง ผิดบ้างถูกบ้างแต่ไม่ระคายผิว พระสมเด็จปัจจุบันไม่แคล้วคลาด เฮียแคล้ว ธนิกุล ยังไม่แคล้วเลยครับ และปราศจากผลทางเมตตาอีกด้วย เผลอเป็นถูกฆ่าชิงพระ ไม่เมตตาปราณีต่อกันซักรายเดียว ล้วนเป็นพระที่ได้จากมือเซียนพระทั้งสิ้น นี่หรือผงวิเศษ 5 ประการ มันชักยัง ๆ อยู่นะ ครั้นหาเหตุผลไม่ได้โดยที่ปราศจากพื้นฐาน ก็ไปเหมาโทษเวรโทษกรรมนั่นแหนะ ก็ทุกคนล้วนแต่มีกรรม กรรมโยนี กรรมพันธุ์ สิ้นกรรมมันก็ไม่มาเกิดนะซี ยิ่งพูดยิ่งแสดงความโง่ออกมา ยังดันซื้อกันด้วยราคาแพง คุ้มอะไรก็ไม่ได้ซักอย่าง ดีแต่เขาจะฆ่ากันตายแย่งชิงพระ ผมคงไม่พูดเกินความจริง

1. ป้องกันเขี้ยวงา

เหตุเกิดที่อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยนายจตุพล อุชุวัฒน์ คุณพ่อให้พระพิมพ์สมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่าแขวนติดตัวองค์หนึ่ง เป็นระยะปิดภาคเรียน จตุพลก็กลับบ้านพนัสนิคม ตอนกลางวันส่วนใหญ่จะไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านเชลล์ชวนชิม ของเขาอร่อยดีจริง พอเที่ยงวันโต๊ะแน่นขนัดไปด้วยขาประจำและขาจร จตุพลก็สั่งก๋วยเตี๋ยวเป็ดมากินกับเขาบ้าง ขณะที่กินก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น มีสุนัขตัวหนึ่งมาจากไหนก็ไม่ทราบ คนในร้านก็มากหน้าหลายตาเธอก็มันสนใจ ค่อย ๆ ย่องมางับขาจตุพล จตุพลแกเป็นเด็กเจ้าเนื้อ ผู้คนในร้านพากันร้องเอะอะ จตุพลก็นั่งทานก๋วยเตี๋ยวต่อไปไม่ได้สนใจ แกนุ่งกางเกงขาสั้น ปรากฏเพียงรอยเขี้ยวเป็นจ้ำเท่านั้น ใจเย็นไม่โกรธไม่ตกใจ ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น แกเชื่อมั่นของแก วันรุ่งขึ้นแกก็ได้ลาภ คือมีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด มีชายสองคนเดินเข้ามาหาจตุพลแล้วควักเงินให้ 2,000 บาท ขอพระจากคอจตุพล จตุพลก็ยินดีและไปขอพระจากคุณพ่อเพื่อชดเชยอีกองค์หนึ่ง คุณพ่อก็หัวเราะชอบใจ

รายที่สอง และรายที่สาม ไม่ใช่เรื่องเขี้ยวงา แต่ถูกลองของด้วยมีดและปืน ผู้เล่าเรื่องคือ คุณนพคุณ ทานอุทิศ บก.ข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ท่านได้เล่าให้ผมฟังว่า พระพิมพ์สมเด็จวัดพระแก้วนี้ได้ประจักษ์ในคุณวิเศษแล้ว ดีในทางเมตตาและมหานิยม การดำเนินธุรกิจคล่องตัวดี แต่ที่ได้เห็นประจักษ์แจ้งก็คือ ท่านได้แจกพระพิมพ์สมเด็จสกุลนี้ไปมากพอสมควร มีอยู่รายหนึ่งไปโดนแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าเต็มรัก 2-3 ที ไม่ระคายผิว คนแทงต้องวิ่งหนีคนถูกแทง อีกรายหนึ่งถูกยิงด้วยปืนลูกซองยาวถึง 2 นัด ไม่ระคายผิวหนัง กระสุนปืนแล่นเข้าที่แขนและชายโครงขณะกำลังซ่อมบ้าน คนถูกยิงไม่ยอมแจ้งความจะขอสนองคุณตาต่อตาฟันต่อฟัน และแค้นนี้ต้องชำระ บก.นพคุณต้องปลอบประโลมด้วยหลักธรรมะจนเจ้าตัวหายโกรธและให้อภัยทาน ได้ถามถึงวิธีใช้พระพิมพ์ของคนทั้งสอง ปรากฏว่าใช้พระเปลือยเช่นเดียวกับจตุพล

(จบตอนที่ 1 โปรดติดตามตอนต่อไป)

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: เรียนพี่ sithiphong</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date --> เมื่อวานนี้, 05:12 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>littlelucky<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:39 AM
วันที่สมัคร: Oct 2005
ข้อความ: 57 <!-- Start Post Thank You Hack -->
Thanks: 977
Thanked 148 Times in 33 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 29


</TD><TD class=alt1 id=td_post_><!-- icon and title --> เรียนพี่ sithiphong
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีครับ พี่ sithiphong
ผมได้รับวัตถุมงคล พระพิมพ์ไกรเซอร์ พิมพ์เล็ก แล้วครับ ขอบคุณครับ เพิ่งไปรับจากไปรษณีย์เมื่อวานนี้ครับ ที่จริงมาถึงราววันพุธครับ แต่ไปรับไม่ทันเพราะต้องไปทำงานครับ
ขออนุโมทนาครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

หากท่านอื่นที่ได้รับพระพิมพ์แล้ว ผมรบกวนให้แจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับว่าได้รับพระแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าพระจะถึงมือผู้รับหรือไม่

ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ

.

 

ไม่ทราบว่าสมเด็จสุก ท่านเป็นศิษย์หลวงปูพระครูโลกอุดรหรือเปล่าและท่านมาร่วมปลุกเสกหรือไม่ครับ

 

ท่านสังฆราชสุก ไก่เถื่อน ท่านไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ แต่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านนับถือหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าและหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ว่าเป็นอาจารย์ของท่านครับ

ลูกศิษย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร เท่าที่ผมทราบมา ศิษย์ของท่านจะมีลักษณะที่สามารถแปรธาตุได้

เช่นหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ,หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง ,ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ,หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ,หลวงพ่อจรัล สิงห์บุรี ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร รูปท่าน ผมใช้แทนตัวผม) ซึ่งพระอริยะเหล่านี้ ท่านได้เรียนกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร โดยตรง แต่หลังจากที่ท่านเจ้าทิวงคตนั้น การเรียนต้องเรียนผ่านครูฝึก ครูฝึกเท่าที่ผมทราบมา มีทั้งหมด 5 องค์ แต่ที่ทราบนามของท่าน ท่านอาจารย์ประถม ท่านทราบเพียงสองท่าน คือหลวงปู่แจ้งฌาณ กับท่านเจ้า (กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ)

พระอริยะที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่เก่งมากๆ เท่าที่ผมทราบ จะมีอยู่ 2 องค์ ที่เวลาปลุกเสกแล้วพลังอิทธิคุณใกล้เคียงกับกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ก็คือหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง กับหลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง ครับ

 

ในวันงานผ้าป่า ผมจะเล่าประสบการณ์ของผมเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ให้ฟังกันนะครับ

โดยความคิดเห็นส่วนตัวนั้น พระพิมพ์ที่ส่วนใหญ่ดังๆ ทั้งหมด เท่าที่ท่านอาจารย์ประถม และกลุ่มลูกศิษย์ของท่าน พิสูจน์กันมา ยังไม่มีพระพิมพ์ไหนที่พลังอิทธิคุณสูงและมากเท่ากับพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกแล้ว อีกทั้งพิธีการพุทธาภิเษกนั้น ยังเป็นพิธีหลวง ปลุกเสกที่วัดบวรสถานสุทธาวาส ซึ่งเป็นพระอุโบสถประจำวังหน้าครับ

.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นักเดินทาง
ขออนุญาตท่าน อ.ประถม อาจสาคร นำเรื่องราวประสบการณ์ของผู้ที่มีพระพิมพ์สมเด็จฯ ไว้บูชา เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นประโยชน์แก่ท่านที่เพิ่งจะรู้จักหรือยังไม่รู้จักพระพิมพ์สกุลนี้

หมายเหตุุ เรื่องราวต่อไปนี้คัดลอกมาจากหนังสือ "วิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า" ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ อ.ประถม อาจสาคร และคำว่า "ผม" หมายถึงตัวท่าน อ.ประถม อาจสาคร


ประสบการณ์ของผู้ที่บูชาพระสมเด็จฯ

คนรุ่นก่อนมีคำพังเพยว่า "ผู้ใดมีวาสนาได้มีพระสมเด็จที่แท้ จะไม่มีตายโหงและตายห่า" ............ใช้พระเปลือยเช่นเดียวกับจตุพล

(จบตอนที่ 1 โปรดติดตามตอนต่อไป)
</TD></TR></TBODY></TABLE>

พระเปลือย หมายถึง การเลี่ยมพระโดยเลี่ยมเปิดครับ เลี่ยมโดยที่ไม่ใช้พลาสติกหุ้มทั้งองค์ แต่วิธีการเลี่ยมนี้ ในเรื่องของการอนุรักษ์พระนั้น ท่านอาจารย์ประถม ท่านบอกว่า เป็นการอนุรักษ์พระที่ใช้ไม่ได้เลย แต่พลังอิทธิคุณขององค์พระสามารถออกมาคุ้มครองผู้ห้อยได้เต็มที่

ส่วนผมเอง ใช้วิธีการเจาะรูที่กรอบพลาสติกครับ อาจจะเจาะรูประมาณ 3 -5 รูปครับ
<!-- / message --><!-- sig -->

 

เมื่อวานนี้ ผมได้ไปหาเจ้านายเก่าของภรรยาผม ท่านได้มอบไตร จีวร บาตร และมุ้งที่ลูกชายท่านได้ไปบวชมา จำนวน 1 ชุด ท่านได้มอบให้ผมนำไปถวายหลวงพ่อแผน ที่วัดบ่อเงินบ่อทอง ผมจะนำไปถวายในงานผ้าป่ามหากุศล วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2549 นี้ครับ

ขออนุโมทนาในบุญกุศลของครอบครัวอัชวังกูลด้วยครับ

.

 

ปิดทองหลังพระ " <O</O
บางส่วนจาก......บันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ.วสิษฐ
เดชกุญชร.........สนพ.มติชน <O</O
ในคืนวันหนึ่งของปีพ.ศ. ๒๕๑๐
ยศในขณะนั้นพันตำรวจโท)......หลังจากได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแล้ว
ในวังไกลกังวล........ <O</O
ผมจำได้ว่า คืนนั้นผู้ที่โชคดีได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระจิตรลดา
เป็นนายตำรวจ 8 นาย และนายทหารเรือ 1 นาย.... <O</O
พระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงมาพร้อมด้วยกล่องใส่พระเครื่องในพระหัตถ์
ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ชุดลำลอง..... <O</O
ขณะที่ทรงวางพระลงบนฝ่ามือที่ผมแบรับอยู่นั้น
ผมมีความรู้สึกว่าองค์พระร้อนเหมือนเพิ่งออกจากเตา ภายหลัง
เมื่อมีโอกาสกราบบังคมทูลถาม จึงได้ทราบว่า
พระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระเครื่ององค์นั้น
ด้วยการนำเอาวัตถุมงคลหลายชนิดผสมกัน เช่น ดินจากปูชนียสถานต่างๆ
ทั่วประเทศ ดอกไม้ที่ประชาชนทูลเกล้าถวายในโอกาสต่างๆ
และเส้นพระเจ้า(เส้นผม) ของพระองค์เอง
เมื่อผสมกันโดยใช้กาวลาเท็กซ์เป็นตัวยึดแล้ว จึงทรงกดลงในพิมพ์
( อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ซึ่งต่อมาเป็นศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้แกะถวาย)
โดยไม่ได้เอาเข้าเตาเผา......... <O</O
หลังจากที่ได้รับพระราชทานแล้ว
ทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทมีความว่า......." พระที่ให้ไปน่ะ
ก่อนจะเอาไปบูชา ให้ปิดทองเสียก่อน แต่ให้ปิดเฉพาะข้างหลังพระเท่านั้น " <O></O>
พระราชทานพระบรมราชาธิบายด้วยว่า
ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตัวเองว่า
การทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใคร หรือประกาศให้ใครรู้
ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่
และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว..... <O</O
ผมเอาพระเครื่องพระราชทานไปปิดทองที่หลังพระแล้ว ก็ซื้อกรอบใส่
หลังจากนั้นมา สมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินองค์นั้น
ก็เป็นพระเครื่องเพียงองค์เดียวที่ห้อยคอผม........ <O</O
หลังจากที่ไปเร่ร่อนปฏิบัติหน้าที่อยู่ไกลห่างพระยุคลบาท
ผมได้มีโอกาสกลับไปเฝ้าฯ ที่วังไกลกังวลอีก.....ความรู้สึกเมื่อได้เฝ้าฯ
นอกจากจะเป็นความปีติยินดีที่ได้พระยุคลบาทอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ก็มีความน้อยใจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ลำบาก
และเผชิญอันตรายนานาชนิด บางครั้งจนแทบเป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่ปรากฏว่ากรมตำรวจมิได้ตอบแทนด้วยบำเหน็จใดๆ ทั้งสิ้น........ <O</O
ก่อนเสด็จขึ้นคืนนั้น ผมจึงก้มลงกราบบนโต๊ะเสวย แล้วกราบบังคมทูลว่า
ใคร่ขอพระราชทานอะไรสักอย่างหนึ่ง.......... <O</O
พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามว่า "จะเอาอะไร?" <O</O
และผมก็กราบบังคมทูลอย่างกล้าหาญชาญชัยว่า จะขอพระบรมราชานุญาต
ปิดทองบนหน้าพระ ที่ได้รับพระราชทานไป <O</O
พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามเหตุผลที่ผมขอปิดทองหน้าพระ..... <O</O
ผมกราบบังคมทูลอย่างตรงไปตรงมาว่า....พระสมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินนั้น
นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานไปห้อยคอแล้ว
ต้องทำงานหนักและเหนื่อยเป็นที่สุด
เกือบได้รับอันตรายร้ายแรงก็หลายครั้ง
มิหนำซ้ำกรมตำรวจยังไม่ให้เงินเดือนขึ้นแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย...... <O</O
พระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวล (ยิ้ม)
ก่อนที่จะมีพระราชดำรัสตอบด้วยพระสุรเสียงที่ส่อพระเมตตาและพระกรุณาว่า
ปิดทองไปข้างหลังพระเรื่อยๆ แล้วทองจะล้นออกมาที่หน้าพระเอง....... <O</O

 

เตือนภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ<O</O


แจ้งเหตุร้ายจากสำนักงานสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยบอกต่อขณะนี้กำลังมีการระบาดของกลุ่มมิจฉาชีพแกล้งทำทีมาขายสเปรย์ปรับอากาศในรถยนต์ แต่จริงๆแล้วสารในสเปรย์กระป๋อง นั้นคือ
คลอโรฟอร์ม ที่ทำให้ท่านสลบได้เหตุการณ์เริ่มจากเด็กสาววัยรุ่นท่าทางดีมาเคาะกระจกขณะรถจอดหรือรี่เข้ามาขณะท่านกำลังจะเข้ารถบริเวณลานจอดรถ ตามที่สาธารณะทั่วไป...หากท่านไม่ระวังหรือไขกระจกรถเพื่อพูดคุยด้วยสเปรย์จะถูกฉีดเข้าในรถทันที เมื่อท่านสลบ งัวเงีย สลึมสลือไม่ได้สติ ผู้ชายอีก2-3 คนจะเข้ามาปลดทรัพย์ หรืออาจทำอันตรายร่างกายของท่านได้เพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกท่าน ขอ
ให้ระวังตัวในทุกย่างก้าว และไม่ประมาทด้วยความปราถนาดี และห่วงใยเสมอ

<O</Oสำนักงานสารสนเทศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ช่วยกระจายต่อด้วยนะคะเพื่อความปลอดภัยของตัว ท่านเองและบุคคลที่รัก
ที่มา Forward Mail


<O</O( คลอโรฟอร์ม (Chloroform)

ชื่อเรียกอื่น
Formyl trichloride; Freon 20; Trichloromethane.
CAS No.
67-66-3

สูตรโมเลกุล
CHCl3

น้ำหนักโมเลกุล
119.38

จุดเดือด
61-62 องศาเซลเซียส

คุณสมบัติ
เป็นของเหลวไม่มีสี ระเหยง่าย มีกลิ่นหอมหวาน

การใช้ที่ผิดกฎหมาย
ใช้เป็นตัวทำละลายในการผลิต heroin, cocaine

การใช้ที่ถูกกฎหมาย
ใช้ในการผลิต Fluorocarbon-22 เป็นตัวทำละลายน้ำมัน ไขมัน ยาง สารอัลคาลอยด์ ขี้ผึ้ง เรซิน และสารทำความสะอาด ใช้ในเครื่องดับเพลิงเพื่อลดจุดเยือกแข็ง

กฎหมายควบคุม
พระราชบัญญัติควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ.2495
บทลงโทษ
ผู้ใดนำ ขนย้าย จำหน่าย มีไว้ในครอบครอง ใช้หรือเปลี่ยนแปลงสภาพ ซึ่งโภคภัณฑ์นี้ โดยไม่ได้รับหนังสืออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งท้องที่นั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ <O</O

 

ทราบว่าหลวงพ่อเดิมท่านก็เป็นศิษย์ในสายหลวงปู่เทพโลกอุดร พอมีข้อมูลไหมครับ

 

หลวงพ่อเดิม ท่านไม่ใช่ศิษย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ

 

องค์นี้พอจะทราบว่าเป็นพระหลวงปู่โตหรือไม่ครับ

 

ผมขอดูด้านหลังพระพิมพ์ด้วยครับ

 

ในวันงานผ้าป่ามหากุศล วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2549 ผมมีรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ไปให้ท่านได้บูชากันครับ เป็นสิ่งเดียวที่ผมนำไปในวันนั้น ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ทั้ง 5 องค์เสกครับ และผมมีรูปหลวงปู่อิเกสาโร ไปให้ท่านบูชาอีกด้วยครับ เงินที่ท่านบูชารูปหลวงปู่นั้น เช่นเคย ผมจะให้ท่านนำไปติดที่ต้นผ้าป่าเองนะครับ

แต่ถ้าไปหาท่านอาจารย์ประถม ที่ชลบุรี ท่านแจกฟรีนะครับ


.

 

คุณ sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_265406", true); </SCRIPT> ครับ
วันนี้ผมได้รับน้ำมันชาตรีพร้อมกับพระแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

 

ขอร่วมทำบุญด้วยคน แต่จะโอนเงินให้ปลายเดือนมิถุนายน
ไม่ทราบว่าจะทันหรือเปล่า

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ได้ครับ

กำหนดการทอดผ้าป่ามหากุศล วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2549 นี้ ที่วัดบ่อเงินบ่อทอง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

ถ้าหากในวันดังกล่าว ไม่มีภาระกิจอะไรแล้ว ผมขอเชิญชวนไปร่วมทำบุญกันนะครับ