อย่าทำแท้งหรือสั่งให้ทำแท้งโดยเด็ดขาด

คัดลอกมาฝากเพื่อเป็นธรรมทาน

ตัวอย่างผลกรรมสั่งให้ทำแท้ง
ที่ว่าได้อะไรมาเยอะ ก็อย่างเช่น เห็นผลกรรมของการทำแท้งหรือให้ทำแท้งครับ เพราะมีพี่คนหนึ่งอายุประมาณ 53 ปีไปบวชด้วยในครั้งนี้ วันที่มาวันแรก ผมเห็นเท้าของเค้าบวมเปล่ง เดินไม่ค่อยสะดวกต้องถือไม้เท้าเดินทีละนิดทีละนิด สีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก

ต่อมาจึงเริ่มคุ้นเคย พี่คนนี้เล่าให้ฟังว่า เมื่อปีกว่าที่ผ่านมา อยู่ดีดี หมอนรองกระดูกก็ไปกดทับเส้นประสาทจากที่เคยเป็นท่อ กลายเป็นแบนและส่งผลให้เดินไม่ได้ จะช่วยเหลือตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่ดีที่มีพี่สาวคอยเอาใจใส่ เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้จนซึ้งในน้ำใจ ส่วนการรักษาก็มีแต่ทรงกับทรุด

อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีเหตุบังเอิญให้พี่สาวมาเจออาจารย์ที่เป็นคนนำไปบวช (อ.โสพณ ขาวสำรวย) อาจารย์ก็บอกให้บวช และบอกว่าถ้าไม่บวชครั้งนี้ก็ไม่มีโอกาสบวชแล้ว (พูดเป็นนัย) แต่พี่คนนี้ก็บอกว่าแล้วจะไปได้ยังไง เดินยังไม่ได้เลย อาจารย์จึงบอกให้ไปจับเส้นที่บางเลน

แล้วพี่คนนี้ก็ไปรักษาและอาการก็ดีขึ้นจริง ๆ จนกระทั่งมาบวชได้ และเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นคือ อาการของพี่คนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เท้าก็หายบวมและเดินคล่องขึ้น บางครั้งแทบไม่ต้องใช้ไม้เท้า

และก็มาถึงช็อตสำคัญ
อาจารย์ถามพี่คนนี้ว่า ถามจริง คุณเคยไปฆ่าคนมารึเปล่า พี่คนนี้ก็บอกว่าไม่เคย แต่ตอนหนุ่ม ๆ เป็นคนเจ้าชู้มาก และเคยบังคับให้ผู้หญิงไปทำแท้ง

และก็มาถึงบางอ้อ อาจารย์โสพณบอกว่า เจอมาแล้วหลายราย คนที่ทำแท้งหรือให้คนอื่นทำแท้ง จะได้รับผลกรรมคือเป็นมะเร็ง

ตัวอย่างหมอทำแท้ง

ถ้าเป็นผู้หญิงจะเป็นมะเร็งมดลูกและมะเร็งเต้านม มีแพทย์หญิงคนหนึ่งโดนหมอใหญ่บังคับให้ทำแท้งวันละ 5 รายเป็นเวลา 7 ปีแล้ว

ตอนนี้แพทย์หญิงคนนั้นมีเนื้องอกเต็มมดลูก ไม่สามารถเอาเครื่องมือเข้าไปตรวจสอบได้ ต้องใช้นิ้วอย่างเดียว ล่าสุด อาจารย์โสพณจึงขอทดสอบการรักษาแนวใหม่ (หลังจากที่เคยรักษาแบบอื่น ๆ ได้ผล แต่ไม่หนักเท่านี้) โดยให้แพทย์แผนปัจจุบันผ่าเนื้องอกออกให้หมด แต่ปัญหาก็คือ เมื่อผ่าแล้ว เซลล์มะเร็งจะกระจายเร็วมาก ต้องใช้คีโม แต่ก็ต้องเสี่ยงตายกับผลร้ายของคีโมที่ทำลายเซลล์ดีด้วย ถึงขั้นนี้ อาจารย์จะใช้วิชาแพทย์แผนไทยรักษา โดยใช้สมุนไพรไทย และอีกอย่างก็คือจะให้นั่งกรรมฐานเพื่อลดกรรมด้วย ผลเป็นอย่างไร ผมจะได้มานำเสนอครับ

คนมีส่วนร่วมก็สร้างกรรมด้วย
นอกจากทำแท้งเอง หรือทำแท้งให้คนอื่น หรือบังคับให้คนอื่นทำแท้งแล้ว พวกที่มีส่วนร่วมให้ไปทำแท้งก็มีผลกรรมหนักเช่นเดียวกัน เช่น แนะนำสถานที่ทำแท้ง เป็นต้น อย่างกรณีใกล้ตัวผมก็มีพี่สาวคนหนึ่ง ดันขี่รถพาผู้หญิงไปทำแท้ง ถึงแม้จะด้วยความปรารถนาดีก็ตาม แต่ผลกรรมส่งผลให้ปัจจุบัน จากที่เคยมีเงินใช้เหลือเฟือ กลายเป็นตัวเองเรียกว่าตกอับ

และเมื่อวานนี้เอง มีรุ่นน้องที่ผมเล่นสนุ้กบอกว่า นี่ยังดี วันก่อนมีเพื่อนมาขอยืมเงิน เค้าจึงถามว่าเอาไปทำอะไร เพื่อนก็บอกว่าจะไปทำแท้ง จึงไม่ได้ให้ยืม เพราะฉะนั้น การให้คนยืมเงินก็ต้องแน่ใจว่าไม่ได้ให้ไปทำแท้งน่ะครับ ไม่งั้นซวยตามกัน

ทำไมถึงกรรมหนัก

คิดดูสิครับว่าคำว่าชีวิตจะเกิดขึ้นหลังจากเชื้อของพ่อไปผสมกับไข่ของแม่ ภายใน 7 วันจะเริ่มสร้างเป็นเซลล์ใหม่และขยายเซลล์ไปเรื่อย ๆ และในช่วงเริ่มต้นนี้เอง ที่ทางพุทธศาสนาบอกว่าจะมีดวงจิตเข้ามาสถิตย์ในเซลล์ แต่ถ้าหากถูกทำแท้ง ดวงจิตนี้ก็ต้องมีความอาฆาตอย่างแน่นอน เพราะหมดหนทางที่จะสร้างบุญกุศลหรือมีชีวิตอีก 60 ปี (ค่าเฉลี่ย)

ยิ่งบางคน เริ่มมีหัว มีแขนขา แต่ก็ถูกบีบให้ออกมาจากช่องคลอด ทรมานแค่ไหน ดวงจิตนี้จึงกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรติดตามตัวแม่และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทำไมยังอยู่เป็นสุข ไม่มีทุกข์

มาถึงตรงนี้ หลายคนก็อาจค้านว่า เห็นบางคนไปทำแท้งก็ยังไม่เห็นเป็นไร ก็ตอบว่า เพราะเค้ายังใช้บุญไม่หมด บุญหมดเมื่อไหร่ กระแสกรรมจะไหลเทครับ เพราะฉะนั้น คนที่อยู่สบาย ๆ ก็อย่าประมาทครับ บุญหมดเมื่อไหร่ กรรมกระแทกแน่

วิธีบรรเทากรรม
อาจารย์โสพณบอกว่า การบรรเทากรรมจากการทำแท้ง ทำได้โดยถวายพระพุทธรูปแก่วัด โดยให้มีน้ำหนักองค์พระเท่าน้ำหนักตัวของคนทำ (แสดงว่าองค์ใหญ่เท่าคนจริง) หรือให้นั่งกรรมฐาน (นั่งสมาธิ หรือวิปัสสนา เหมือนกัน) และอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร

งั้นก็ทำแท้งก่อนแล้วค่อยถวายพระ ง่ายดี!

ด้วยความช่างสงสัย ผมก็ย้อนถามอาจารย์ว่า ถ้าอย่างนั้น วิธีแก้กรรมก็ง่ายดี คนก็กล้าทำแท้งทั่วบ้านทั่วเมืองสิ อาจารย์ก็ตอบว่า คนที่จะแก้กรรมได้ ก็ต้องชดใช้กรรมไประดับหนึ่งก่อน ไม่ใช่ว่าจะไม่ต้องรับกรรมเลย

บทสรุป

สรุปแล้ว ท่านจะเชื่อหรือไม่ โปรดใช้วิจารณญาณ และหากท่านพบเหตุการณ์หรือกรณีต่าง ๆ ที่เป็นผลกรรมจากการทำแท้ง กรุณาโพสต์เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับท่านอื่น ๆ ด้วยครับ จะได้อานิสงฆ์แห่งการลดการทำกรรมต่อ ๆ กันไป



.: อย่าทำแท้งหรือสั่งให้ทำแท้งโดยเด็ดขาด City Dhamma :.

 

อนุโมทนาครับ

กรรมทำแท้งหนักจริงๆครับ

ถ้าผิดพลาดไปแล้วก็ตั้งใจทำแต่ความดีนะครับ

สาธุ

 

ทำแท้งบาป ปล่อยให้คลอดมาไม่เลี้ยงดูบาป เลี้ยงดูแต่ไม่รักไม่ใสใจบาป อับอายขายหน้าเพราะท้องไม่มีพ่อ เพราะตัณหาพาไปแล้ว จะแก้อย่างไรจะไม่บาป

ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

 

อนุโมทนาครับ
แต่ก็น่าเห็นใจแพทย์ และพยาบาลนะครับ

การรักษาบางอย่าง มีมาตรฐานที่ชัดเจน หากขัดก็อาจเป็นการไม่ทำตามมาตรฐานวิชาชีพ
เพราะยึดเอาที่ปฏิบัติต่อๆกันมา ว่าดีและมีประโยชน์ต่อคนไข้
ยิ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ก้าวหน้ามากมาย สามารถตรวจสอบความผิดปกติของการตั้งครรภ์
ในการตั้งครรภ์บางอย่างที่อาจเสี่ยงต่อชีวิตของมารดา จึงถูกพิจารณาให้ยุติลง(โดยหมายเอาความปลอดภัยของชีวิตมารดาเป็นสำคัญ)
และอีกบางประเด็นที่รู้ว่าทารกมีความพิการ หรือผิดปกติโอกาสรอดชีวิตน้อยหลังคลอด จึงยุติการตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อยอยู่ เป็นต้น

ในกรณีเหล่านี้ ก็นับว่าน่าเห็นใจเพราะเป็นสิ่งที่สอน และกำหนดเป็นมาตรฐานตามกันมา(โดยผู้กำหนดน่าจะมีเจตนาดีที่จะรักษาผู้ป่วยให้หาย หรือปลอดภัย) เหมือนกับคิดว่าสิ่งที่ทำดี ถูกต้อง เหมาะสม แต่ความจริงแล้วกลับเป็นการสร้างกรรมอยู่

ถ้ามีจุดร่วมก็น่าจะดีนะครับ
หากกฏ หรือข้อปฏิบัติต่างๆ มีรากฐานมาจากพระพุทธศาสนาด้วยคงดี
ก็คิดเพ้อเจ้อไปตามประสาน่ะครับ^^

 

โหห..ผมเจอบททดสอบมาตลอดเลยสิครับ เพื่อนผมมายืมเงินผมไปคนนึง คนนี้บอกตรงๆว่าจะเอาไปทำแท้ง ผมใ้ห้ไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คนที่สองนี่มาบอกว่ามีปัญหา แต่ไม่ได้บอกว่าทำแท้งตรงๆ บอกว่าปัญหาใหญ่ ช่วงนั้นผมเงินเยอะซะด้วย เพื่อนคนนี้เป็นรูมเมทกับผมตอนเรียน ผมบอกไปว่าเงินวางอยู่ตรงนี้ เท่านี้ จะเอาไปใช้อะไรก็เอาไป มารู้อีกทีก็แฟนเพื่อนซีดกลับมาเลยครับ
นี่ผมซวยมาตลอดเลยหรอครับนี่ โมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ต่อไปคงไม่มีแบบนี้อีกแล้ว แต่ก็แปลกที่ช่วงนี้ผมอยากถวายพระพุทธรูปมากๆ ขอบคุณมากคัรบ

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ
คิดไตร่ตรองก่อนทำ เพราะทำไปแล้วก็กลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้

 

จริงๆเห็นมาแล้วครับ คนใกล้ตัวคนไปทำแท้งตอนเป็น นศ.จบออกมาก็ปกติทุกอย่างมีงานที่ดี มีความสุขดี แต่อีก5 ปีให้หลัง ชีวิตผลิกผันครับ ตอนนี้เป็นโรคร้ายที่รักษาไม่หาย หนี้สินล้นตัว ทั้งที่เป็นหัวหน้างานมีเกียรติมีตำแหน่งที่ดี ตอนนี้เหมือนตายทั้งเป็นครับ
อย่าได้เข้าไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องเลยครับ

 

ตอนปี 2551 ข้าพเจ้าไปเคยไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ หลังพระท่านเจ้าอาวาสให้พรแล้ว ข้าพเจ้าก็คุยกับท่ีาน ท่านเล่าว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาทำบุญที่วัด เค้าเป็นนักศึกษาพยาบาล เค้าเล่าให้ท่านฟังว่าเค้าเคยไปทำแ้ท้ง แล้วทีนี้เค้ารู้สึกแปลกๆ เวลาอยู่คนเดียวเหมือนไม่ได้อยู่คน ซึ่งรูมเมทเพื่อนหญิงของเค้าก็รู้สึกเช่นกัน บางทีหน้าต่างไม่ได้เปิด แต่ไหงเหมือนมีพัดม่านให้ปลิว แปลก... เค้าก็เลยให้คนทรงดูหรืออะไรประมาณนั้น คนทรงก็บอกมีวิญญาณเด็กตามอยู่ เป็นลูกของเธอนั่นแหละ เค้ามาขออยู่ด้วย ทุกวันให้ัทำกับข้าวใส่ถาดไว้ในตู้ให้เค้ากินด้วย เค้าแค่มาขออยู่เค้าไม่ทำอันตรายใดๆ แต่เค้ากลับจะช่วยให้โชคลาภ ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนสอบอนาโตมี ซึ่งเป็นวิชาที่ยากมาก แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นคนเรียนปานกลาง สุดท้ายเค้าทำคะแนนเป็นที่หนึ่ง เค้างงมาก ไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เป็นไปแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องแปลกที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมาค่ะ

 

อนุโมทนาด้วยคับ ... ตอนนี้ผมก้เริ่มชักไม่มั่นใจแล้วดิว่า เคยให้เงินเพื่อนไปทำแท้งหรือเปล่า .... เพราะให้เพื่อนยืมเงินบ่อยเหมือนกันตอนเรียน