ปรารถนาพุทธภูมิ

;k07;42;k04


*-*

 

....มีสิ่งใดให้ข้าน้อยรับใช้เจ้าค่ะ....

 

ถึงคุณ Numsai..... ผมไม่ได้ทดสอบครับ แต่ผมอยากรู้ความคิดของคนที่ปรารถนาพุทธภูมินะครับ แต่ผมพอจะสรุปได้แล้วนะครับ ว่าคำตอบคืออะไร.........<!-- google_ad_section_end -->

 

ท่านต้นละครับผม เดิมทีบทความเหล่านั้นเคยมี แต่มันคงโดยลบไปแล้วหรือป่าวไม่รู้นะครับ เพราะมันอาจจะเป็นความเสี่ยงต่อความต่อต้านในความคิด กับนักปฏิบัติบางสาย บางสำนัก ที่เฝ้าพยายามเเยกโพธิกะในพุทธญาณ แต่ถ้าท่านติดตามกระทู้ของท่านสมภาพธรรมแล้ว ก็จะได้ความเข้าใจอยู่เรื่อยๆ ผมเองก็ยังไม่ค่อยมีเวลาจะเข้ามาตอบในเรื่องนี้เท่าไรครับ เพราะกระแสมันแรงอยู่ ละไว้ในความที่เ่ข้าใจนะครับ

จริงครับ ที่ท่านต้นละผู้เป็นสหายของเราวีระ (พี) ไม่ได้ถามผมเรื่องอาจาย์กรแม้แต่น้อยเลย แต่ที่ผมพูดออกไปเพราะเกิดจากความกลัวของผมเองว่า"ท่านต้นละ อาจจะคิดว่าเรานี้จะชื่นชมเชียร์และยกย่องสรรเสริญในธรรมของท่านอาจารย์กรเกินไป หรือเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์กร" กระผมก็เลยพูดออกตัวไว้ก่อนครับ

ในประโยคสุดท้ายนี้ผมก็ของโทษท่านด้วยนะครับ หากทำการแลกเปลี่ยนและการสนทนาขาดตอนพร้อมกับเกิดมูลอกุศลบ้างเล็กน้อยนะครับ ขออภัยๆๆ

 

ไม่เป็นไรหรอกครับ ท่าน วีระ พี ผมแค่อยากให้ท่านเข้าใจคำถามนะ
ส่วนปฏิปทาของอ.ท่านใดนะครับ ผมเองก็ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

ส่วนเรื่องแยกนะ................
อยากแยกก็แยกเถอะครับ ยังงัย ความจริงก็คือ ความจริง

 

อ่า......อื้มมมม แล้วเข็มทิศ ของท่าน ชี้ไปในทิศทางใด -*-




-------------------------------

สารบัญ “ธรรมที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ "พระราชพรหมยานมหาเถระ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง"”รวบรวมโดย : พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
Gallery ชมรูปภาพสวยๆ แบ่งปันความสุข ได้ที่นี้ [.2/CENTER]​

 

ท่านพี่ครับ ผมจะตอบเข็มทิศของผมนะ
เมื่อ ๒๐ อสงไขยกับเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์ ที่ล่วงเลยมา มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งอุบัติขึ้นมา ทรงมีพระนามว่า พระทีปังกรพระพุทธเจ้า[.2/B] แล้วพระองค์ทรงมีน้องหญิงต่างพระมารดาอยู่องค์หนึ่ง แล้วน้องหญิงขององค์สมเด็จพระทีปังกรพระพุทธเจ้า ทรงถวายน้ำมันหอมเมล็ดผักกาด แล้วทรงตั้งจิตอธิฐานให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าเหมือนพี่ชายของท่าน( องค์พระทีปังกรพระพุทธเจ้า) แล้งองค์พระทีปังกรพระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ว่า " อีก ๑๖ อสงไขย ข้างหน้าจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ซึ่งมีพระนามเดียวกับพระองค์คือ พระทีปังพระพุทธเจ้า พระองค์จะมาพยากรณ์น้องหญิงของพระองค์ว่า ในอนาคตจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระศรีศากยะสัมมาสัมพุทธเจ้า " พระทีปังกรพระพุทธเจ้าเมื่อ ๒๐ อสงไขยพระองค์ที่ ๑ พระทีปังกรพระพุทธเจ้าเมื่อ ๔ อสงไขยกับเศษ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์พระองค์ที่ ๒ พระศรีศากยะพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันพระองค์ที่ ๓ ทั้ง ๓ พระองค์นี้เข็มทิศของผมจะเจริญรอยตามพระองค์ทั้ง ๓ นี้ครับ ผมตอบท่านพี่แล้วนะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่านต้นละด้วยค่ะ ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาค่ะ

Numsai

 

ชัดเจนครับ ท่านน้อง ต้นละ

ปฏิปทาของพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ที่มีกล่าวมาแล้วในพระสูตร

ชั่วขณะจิตที่รู้ว่าสามเณรผู้เป็นศิษย์ คิดมีความปรารถนาอยากจักเป็นพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่านนั้นยังจักต้องให้สามเณรเดินหน้าด้วยเพราะเหตุใด

เพราะวิสัยพุทธภูมินั้นเป็นกำลังใหญ่ แค่คิดริเริ่มเพียงชั่วขณะจิตก็ยัง มีกำลังใหญ่ บารมีธรรมจุดนี้อย่านำไปตำหนิแก่ผู้ใดที่ปรารถนาพุทธภูมิ

คิดว่า ก็คงจะปรารถนา กันมานานแล้ว
ขอกราบอนุโมทนา สาธุ

 

tamsak<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2343908", true); </SCRIPT>
ทีม พระไตรปิฏก



วันที่สมัคร: Sep 2004
สถานที่: Bangkhen, Bangkok
อายุ: 46
ข้อความ: 5,582
พลังการให้คะแนน: 6229





ทำบุญโดยการภาวนาอย่างเดียว

<TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>







</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</B>ถาม : ในอานิสงส์ของการทำบุญทั้งหมด เช่นว่า ให้ทานมีผลน้อยกว่ารักษาศีล แล้วก็น้อยกว่าการภาวนา จะเห็นได้ว่าการภาวนาเป็นบุญสูงสุด เราจะทำบุญโดยการภาวนาอย่างเดียวจะดีหรือไม่ ?

ตอบ: การที่เราภาวนาอย่างเดียว ถ้าสมมุติว่าต้องเกิดใหม่อีกจะเป็นคนมีปัญญามาก การที่เราให้ทานเราเกิดใหม่อีกเราจะมีทรัพย์สมบัติมาก การที่เรารักษาศีลเราเกิดใหม่อีกจะเป็นคนมีจิตใจดีงามมีหน้าตาสวยงามมาก

คราวนี้ถ้าเราเกิดมารวยหน้าตาขี้ริ้วขี่เหร่ ปัญญาไม่ดีมันก็เจ๊งเหมือนกันใช่มั้ย ? หรือไม่ก็เกิดมาปัญญาดีแต่สตางค์ไม่มีก็อยู่ลำบาก หรือไม่ก็รวยซะแทบแย่เลยแต่หน้าตาไม่เอาไหนใครเขาก็ไม่มอง เอ๊ะ!หรือสมัยนี้มันมอง ? เพราะฉะนั้นจริงๆ ก็คือ ควรทำทั้ง ๓ อย่างให้เสมอกัน

ถาม : เขาชอบพูดกันว่าเวลาจะให้ทานใดก็ให้นึกถึงตัวเราเองก่อนว่าเราจะลำบากหรือไม่ เรื่องอารมณ์ในจาคานุสสติ ในทางปฏิบัติให้ตั้งเจตนาไว้อย่างไรบ้าง ?

ตอบ: จริงๆ ก็คือ ให้ตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสเมื่อไรเราจะให้ แต่คราวนี้ว่าในเรื่องของทานนี่นอกจากจะดูว่าเจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้คือตัวเราทรงศีลบริสุทธิ์ ผู้รับก็คือภิกษุสามเณรทรงศีลบริสุทธิ์อย่างนี้ หรือไม่ก็คนทั่วๆ ไปที่เราจะสงเคราะห์เขามีศีลบริสุทธิ์ ถึงจะมีประโยชน์เต็มร้อยส่วน

แต่ว่าท่านก็บอกเอาไว้ว่า เวลาให้แล้วต้องไม่ให้ตัวเองและคนรอบข้างเดือดร้อนถึงจะเป็นทานที่ดีจริง ถ้าเราให้แล้วคนรอบข้างและตัวเองเดือดร้อน อาจจะทำให้กำลังใจของเราตกได้ หรือคนอื่นเขาตำหนิได้ แต่เรื่องพวกนี้ต้องยกให้คนประเภทหนึ่ง คนประเภทนี้เขาเรียกว่า “พระโพธิสัตว์” ประเภทนี้ท่านขอให้มี กูให้ ไม่มีอะไรจะให้สละชีวิตเป็นทานก็ได้ ควักลูกตาให้ก็ได้ เชือดเนื้อให้ก็ได้ ควักหัวใจให้ก็ได้ ตัดหัวให้ก็ได้ กำลังใจประเภทนี้ไม่ใช่กำลังใจของคนทั่วๆ ไป อย่าไปเลียนแบบท่าน ยกเว้นว่าเราเป็นคนระเภทเดียวกับท่านก็เอาเถอะ

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่า “มังคละ” ท่านได้สละบุตรธิดาเป็นทาน ยักษ์มันหิวขอลูกไปกิน แล้วมันก็ร้ายมากพอส่งให้นี่มันเคี้ยวกินต่อหน้าเลย ถ้าเป็นเราก็ลากบาซูก้ามายิงเลย (หัวเราะ) แต่ว่าในอรรถกถาท่านบอกว่า พระองค์ท่านจักมีความหวั่นไหวแม้ซักน้อยหนึ่งก็มิได้ ไม่ได้มีเลย มั่นคงในทานบารมีขนาดนั้น รู้ว่าเขาต้องการก็ให้แม้แต่ลูกที่ตัวเองรักที่สุด มันแสบจริงๆ เลยเจอไอ้ยักษ์ประเภทนี้เข้า มันเล่นกินต่อหน้าเลย





สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

 

ท่านพี่ timetime ครับ
ตอนผมเป็นเด็กๆๆ เมื่อ ๑๐ ปีกว่าๆๆมาแล้ว( ตอนที่ยังไม่ได้ศึกษาถึงต้นเหตุผมกรรม ) ผมนึกเรื่องที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ที่ให้ลูกให้เมียเป็นทาน ผมได้แต่คิดว่าทำไมถึงได้ทำเช่นนั้น ไม่คิดถึงลูกไม่คิดถึงเมียเหรอ ? ไม่รักลูกไม่รักเมียเหรอ ? ...
แต่พอได้ศึกษา " บุพกรรมระหว่างพระกัณหาพระชาลี กับ ชูชก " แล้วผมจึงได้รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น ท่านทั้ง ๓ ได้ทำกรรมร่วมกันมา จึงได้มาเจอกัน....
ไม่เหมือนกับพระนางมัทรี พระองค์ไม่เคยผูกเวรกับใคร เป็นเวลา ๔ อสงไขยกับเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์ ท่านเป็นคู่บารมีกับพระโพธิสัตว์เวสสันดร ท่านเป็นผู้มีบุญบามีมาก ร้อนถึงพระอินทร์ๆ ต้องลงมาช่วย ....

 

ท่านพี่ TIMETIME ครับผมชอบ คนประเภทหนึ่ง คนประเภทนี้เขาเรียกว่า “พระโพธิสัตว์” ที่ท่านพี่นำมาให้อ่านจังครับ สุดยอดมากเลย
ผมขออนุโมทนากับท่าน TAMSAK ที่เป็นคนพิมพ์ด้วยนะ และอนุโมทนากับท่านพี่ที่นำมาให้อ่านนะครับ

 

กราบอนุโมทนา สาธุ ครับ อิอิ

 

สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


หลวงพี่เล็ก ก็สุดยอด นะจ๊ะ

หลวงพี่เล็ก - PaLungJit.com <<ฝากลิงค์ห้องหลวงพี่เล็ก

---

 

อนาคตจับต้องไม่ได้แต่แต่งเติมได้ ด้วย...นั่นเพราะอะไร ใช่เพราะความยึดมั่นถือมั่น มานะทิฐิ ตัณหาอุปปาทานไหมเอ่ย ถึงเป็นไป ปัจจุบันเป็นสิ่งใดก็เป็นสิ่งนั้น อดีตเป็นสิ่งใดก็เป็นสิ่งนั้น อนาคตจะเป็นสิ่งใด ก็เพราะผลแห่งอดีตและปัจจุบัน ความเย่อหยิ่งในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี อนาคตก็ดี ล้วนเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งสิ้น โดยเฉพาะพวกปราถนาพุทธภูมิทั้งหลายจะทำให้ออกนอกลู่นอกทางได้ ถ้าหลงติดอยู่ในห้วงกาลเวลาทั้งหลายอันเป็นสถานะหนึ่งๆ ขอให้เพ่งพินิจในกาลปัจจุบันว่าเราคือใคร ทำอะไร เพื่ออะไร ให้ได้อย่างแท้จริง ไม่หลงคิดไปว่าเราเป็นใครทั้งในอดีตและปัจจุบัน แม้จะรู้ได้ด้วยญาณจริงๆก็ดีหรือไม่รู้ก็ดี พึงพิจารณาให้ดีๆ เพราะผู้ปราถนาพุทธภูมิ และโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย มีจิตใจที่หนักแน่นและมั่นคง อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่สามารถทำให้ความปราถนานั้นคลอนแคลนลงได้ เพราะต้องช่วยเหลือตนเองก่อนแล้วนำผู้อื่นให้พ้นภัยในวัฏสงสารนี้

 

สาธุ ขอนอมรับครับ

 

ผมขอให้ทุกๆๆ ท่านมีความสุขในปีใหม่มากๆๆ นะครับ เจอแต่สิ่งดีๆๆนะครับ

 

ท่านพี่ TimeTime
" อิ่มบุญอิ่มกุศลน่ะครับ เลยไม่อยากทะเลาะกับใคร มุ่งหน้าสร้างความดี เพื่อ... "
ประโยชน์นี้ ท่านพี่เองก็ปรารถนาเหมือนกันเหรอครับ? และถ้าปรารถนาท่านพี่ปรารถนาแบบ ?
ตอบผมด้วย ๒ คำถาม