อ. ไก่ คนเมืองบัว เสียชีวิตแล้ว

เสียใจด้วยครับ

 

(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)(deejai):love::love::love::lovef)

รักกันไว้เถิด ​

 

ร่วมไว้อาลัยครับ สิ่งต่างๆมาผมขออนุโมทนาในผลบุญที่ท่านได้ทำ และขออโหสิกรรม และให้อโหสิกรรมกับอ.ไก่ครับ

 

เห็นด้วย เพราะอันที่เห็นมันอาจเป็นภาพมายาก็ได้ ถ้าจิตมีนิวรณ์5 มารจะเข้าเเทรกได้ ทำให้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ

 

นี่แหละหนอสังขาร
เกิด แก่ เจ็บ ตายมันเป็นธรรมดา เหมือนพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อฤาษีท่านสอน
ขอให้ท่านจงไปที่สุดแห่งธรรมเถิด

 

ใครจะว่าอาจารย์ยังไงหนูไม่สน หนูมั่นใจในตัวอาจารย์ตั้งแต่วันแรกที่หนูได้เจออาจารย์ตราบจนกระทั่งวันสุดท้ายในชีวิตของอาจารย์ อาจารย์ไม่เคยหยุดสอนกรรมฐานแม้อาจารย์จะป่วยหนัก อาจารย์บอกกับหนูและคณะลูกศิษย์เมื่อครั้งฝึกที่บ้านนนทธรรมล่าสุด
อาจารย์บอกคนที่ดีที่สุดคือพระพุทธเจ้า แม้กระทั่งอาจารย์เองก็ยังไม่จัดว่าดี คนที่มองเห็นความเลวของคนอื่น แสดงว่าตัวเองก็เคยเลวอย่างนั้น ให้จำคำหลวงพ่อสอน อย่าโจทย์โทษคนอื่น ลูกศิษย์คนนี้ยังรัก และเคารพในตัวอาจารย์เสมอค่ะ

 

ขอร่วมไว้อาลัยครับ

 

ขอให้อาจารย์ไปสู่สุคติภูมิด้วยครับ

 

ร่วมไว้อาลัย แด่อาจาร์ยไก่ผู้เสียสละครับ กรรมใดที่ก็ล่วงเกินมาก่อนชาติที่แล้วก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขออโหสิกรรมด้วยครับ ด้วยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ตั้ง และด้วยอำนาจบุญกุศลที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาดีแล้วตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบัน ขอบุญกุศลเหล่านั้นจงสำเร็จแด่อาจารย์ไก่ คนเมืองบัวครับ

อนิจจา วะตะสังขารา

 

สรุปว่าท่านมีอาการป่วยก่อนสิ้นลมอย่างที่ยายผีป่ารับทราบจากการสัมผัสทางจิตของยายผีป่าจริง ๆ ใช่ไหมคะนี่

..............................................

เพราะที่โพสต์ไปนั้น ยายผีป่าไม่ได้ติดต่อกับคนใกล้ชิดอาจารย์ไก่เลยเพื่อหาสาเหตุการตาย ไม่รู้จักเบอร์ใครเลยจริง ๆ ค่ะ

ก็พอตอนเห็นภาพอาจารย์ไก่ผุดขึ้นมาตอนเดินดูพระอาทิตย์ตกดินที่บ้านทองผาภูมิ (ยายผีป่ามองพระอาทิตย์เป็นกสิณค่ะ จะเลียนแบบต้องระมัดระวัง สายตาเสียได้)

พอทราบข่าว ก็ตั้งจิตขอทราบสาเหตุ จึงนำมาโพสต์

.....................................

จะเรียกว่าการเดาก็ได้นะคะ แต่เดาจากสภาวะจิตสัมผัสแรกที่เราสัมผัสได้

ตามที่ครูบาอาจารย์ทางมโนมยิทธิมักจะสอน คือเห็นด้วยจิต สัมผัสแรกรู้สึกอย่างไรว่าตามนั้น เมื่อคล่องตัวขึ้นเรื่อย ๆ จะเห็นเป็นภาพเอง แต่เป็นภาพที่เกิดจากการแปลรหัสพลังจิตค่ะ (ผู้มีพลังจิตที่ดี สามารถล่วงรู้อะไรได้แม่นยำนั้น ต้องอย่ในสภาวะ วางจนว่างค่ะ)

...........................................

ลูกหลานหลวงพ่อฤษีลิงดำ จงจำคำหลวงพ่อไว้ให้แม่นนะคะ คือท่านจะเน้นสอนให้เรา

ฝึกเอาจิตเกาะพระนิพพานให้เกิดความคล่องตัว เพราะท่านได้ยกตัวอย่าง "จิตวาระสุดท้ายก่อนออกจากร่าง ของพระนางท่านหนึ่งสมัยพุทธกาล ที่ทำบุญมาตลอด แต่ก่อนตายจิตไปคิดเรื่องที่เผลอเอาเท้าไปถูกพระสวามีเข้า จึงแหย่เท้าลงหม้อนรกเสีย ๗ วัน"

ยายผีป่าตอนเด็ก ได้รับเศษกระดาษหนังสือธรรมะ ที่มาพับเป็นถุงใส่กล้วยแขก ยายผีป่าชอบอ่านทุกข่าว ทุกเรื่องราวตามเศษถุงสมัยนั้น เลยได้มีวาสนาอ่านที่นักเขียนนามปากกา "ฤษีลิงดำ" เขียนไว้ (ตอนนั้นไม่รู้จักท่านเลยว่าที่จริงคือพระสงฆ์)

ท่านเขียนว่า ท่านย่าของท่านบังคับให้ภาวนา พุทโธ ก่อนนอนให้ท่านย่าได้ยินสัก ๓ จบก็ยังดี ไม่ต้องกลัวตกนรก ยมบาลไม่กล้าเอาตัวคนภาวนาพุทธโธไปแน่นอน

ยายผีป่าก็เลยหยิบหลักการนี้มาใช้

พอนอนเมื่อไรก็ภาวนาจนหลับ

และคิดถึงนักเขียนท่านนี้ว่า อยากรู้จักท่าน

เมื่อคิดเช่นนี้ ฝันว่าตัวเองไปยังวิมานแห่งหนึ่งสวยมาก ได้พบคนสวรรค์ที่แต่งกายงดงาม ประดับเพชรพลอยเต็มไปหมด

ยายผีป่าจดจำภาพความงดงามที่เห็นในนิมิตนั้นมาพยายามฝึกวาดลายเส้นตามประสาเด็กบ้านนอก ก็พอได้โครงสร้างคร่าว ๆ

.................................................

จากประสบการณ์นะคะ

จงสร้างพลังจิตด้วยความจริงใจ ความบริสุทธิ์

.......................................

ถามว่า ยายผีป่าได้มีวาสนาฝันเห็นวิมาน เห็นเทพ เทวดาที่งดงามมากด้วยพลังบารมีปานนั้น ยายผีป่าเป็นคนดีไหม

......................................

เมื่อคืนยายผีป่าฝันเห็นพระ ๓ พระองค์ ท่านมาสอนเล็กน้อยเรื่องความหมายของคำว่า

นะโม

และบทสวดต่อจากนั้น

.....................................

นะโม นี่พอเราขึ้นต้นปั๊บ หมายความว่า เราต้องรู้ว่าเราดีพอที่จะเข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักต์ของพระพุทธองค์หรือไม่ เราจะได้รับการรับรองจากพระเบื่องบนเวลาพระพุทธเจ้าทรงตรัสถามว่า "นางผู้นี้จักเข้าเฝ้า เหมาะสมหรือไม่" ถ้าเหมาะก็ได้รับการรับรองจากครูบาอาจารย์เบื้องบน ทีนี้ถ้ายังไม่เหมาะพอเพราะจิตยังไม่สมบูรณ์พอที่จะเกาะพุทธะได้

ผู้รับรองก็จะขอให้เราน้อมขอเข้าเฝ้าด้วยบท อะระหัง สัมมา ฯ

และถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็มาต่อที่บท ทุติยัม...ตะติยัม...

..................................

นี่คือที่มาทำไมบทสวดของพวกเราปัจจุบันจึงต้องยาวยืดนักหนา เพราะว่าพวกเรานั้น จิตยังไม่ถึงพร้อมกันมากนัก เลยต้องสาธยายมากมาย

.............................

จึงไม่แปลกใจที่ตอนงานครอบครูที่บ้านยายผีป่า ท่านตาแพง ของยายผีป่าให้พวกเราภาวนาเพียง คำเดียว

...........................

เพราะตอนนั้น ครูบาอาจารย์ท่านรู้ว่า ที่มานี้ พร้อมแล้วที่จะเป็นลูกพระกันทั่วถ้วน

...............................

(ขอโทษที่มาเปลี่ยนบรรยากาศห้องการไว้อาลัยของอาจารย์ไก่)

เพราะอาจารย์ไก่ก็คงต้องผ่านขั้นตอนเดียวกัน เวลาจะขอเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

........................................

ปล. เป็นความคิดเห็นจากสัมผัสส่วนตัวของยายผีป่า มิสามารถอ้างได้ว่าถูกต้องแล้ว มีข้อติติง ยินดีรับฟังเจ้าค่ะ

เพราะยังเป็นคนเดินดินกินข้าวเหมือนท่าน ๆ ยังต้องยังชีพด้วยหลากหลายประการ จะเรียกว่าคนดีนั้นคงเรียกไม่ได้ อันคนไม่ดีนี่ หาอะไรถูกต้องนักคงยากจริงหรือไม่คะ

......................................................

ตกลงศพอาจารย์ไก่จะไม่นำมาบำเพ็ญที่บ้าน "นนทธรรม" หรือบ้านเกิดของท่านใช่ไหมเจ้าคะ

.........................

จากกระทู้นี้ ทำให้เราเห็นว่า

"คนเรานั้น ย่อมแตกต่างกันด้วยธาตุ ย่อมเหมือนกันด้วยธาตุ ธาตุเดียวกันย่อมเข้ากันได้ดี"

ยายผีป่ายังนึกถึงวาระนี้ของยายผีป่าเองเช่นกัน

"ขนาดฉันยังไม่ตาย ยังมีทั้งคนรัก และคนไม่รัก บางคนเคยรักก็เลิกรัก หรือห่างหายกันไปตามสภาพ บางคนเคยเกลียด กลับมารักจนเสมือนเป็นสายเลือดเดียวกัน ฉันเข้าใจแล้วถึงโลกธรรมบัดนี้แล้วหนอ...สัตว์โลกย่อมเป็นเยี่ยงนี้หนอ..."

 

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอ.ไก่ คนเมืองบัว ด้วยครับ

 

ขอไว้อาลัยให้อาจารย์ครับ

หากข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน อ.ไก่ ทั้งกายก็ดี ใจก็ดี วาจาก็ดี ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม ต่ออาจารย์ อย่าได้มีเวรกรรมต่อกัน ขออโหสิกรรมแก่กันและกัน นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด

 

งั้นผมบ้าไปแล้วหรอนี่

มโนมีไว้ตัดกิเลส
เห็นก็สักแต่ว่าเห็น รู้ก็สักแต่ว่ารู้
รู้แต่ไม่ยึด รู้แล้ววาง

 

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของอาจารย์ไก่ด้วยนะค่ะ

ต่อไปไม่ว่าเรา คุณ เขา หรือท่านๆทั้งหลายก็ต้องจบเช่นเดียวกัน

แต่จะจบแบบไหน? ข้าพเจ้าเองก็คงมิอาจทราบ ทราบแต่ว่าตายแน่

ตายแน่ ตายแน่ และจะเตรียมตัวเตรียมใจ(จิต)ไว้ยังไงเพราะวันตายมิอาจรู้

เหมือนวันเกิด อาจารย์ท่านไปดีแล้ว เหลือแต่เราๆ เขาๆ ท่านๆ ทั้งหลาย ทำดีพอหรือยัง??

 

คนที่กำหนดจิตเห็นได้เท่านั้นครับที่รู้ คนที่ไม่เห็นในสิ่งที่ลูกศิษย์คนเมืองบัวเห็นผมว่าเราอย่าเอาประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกได้ไหมครับ หยุดเถอะครับ สงสารคนที่เป็นศิษย์และรักอาจารย์ไก่ด้วยนะครับขอร้องจากใจจริง ถ้าท่านไม่รักไม่ศรัทธาอาจารย์ไก่ก็วางเฉยดีกว่านะครับ เป็นคำขอร้องจากลูกศิษย์ที่รักแลเคารพอาจารย์ไก่ครับ

 

เคยได้รับพระบรมสารีริกธาตุ จากเวปคนเมืองบัว
ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของอาจารย์ไก่ด้วยนะครับ

 

ข้าพเจ้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ถ้าไม่ชอบไม่ศรัทธาก็วางเฉยดีกว่านะครับ
ไปตั้งกระทู้ข้างนอกพูดคุยกันเองนะครับ

 

ขอให้อาจารย์ไปสู่สุขติค่ะ<!-- google_ad_section_end -->