ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ความฝัน"
    ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลเสมอไป

    [​IMG]

    ตลึง...ชีปะขาวเข้าฝันชาวบ้านขุดเจอพระพุทธรูปอายุหลายร้อยปี

    ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามี<WBR>ชาวบ้านใน ต.โคกตูม อ.เมืองลพบุรี กว่า 30 คน ได้ร่วมกันกระทำพิธีเบิกธรณีเพื<WBR>่อขุดหาพระพุทธรูป ตามความฝันของนายสมนึก ทองดีลัง อายุ 36 ปี และ นาง สุภารส ทองดีลัง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.3 ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์โดย 2 สามีภรรยา ได้ฝันติดต่อกันหลายครั้ง​

    และฝันเหมือนว่า มีคนแก่นุ่งขาวห่มขาว มาขอความช่วยเหลือให้ช่วยไปขุ<WBR>ดพระพุทธรูปในป่าหลังวัดบ้านน้<WBR>ำซับ อยู่ในป่าช้าห่างจากวัดน้ำซับ หมู่ที่ 5 ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี 200 เมตร หมู่ที่ 5 ต.โคกตูม อ.เมืองลพบุรี จึงจึงไปแจ้งนายดนตรี สุขสว่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่<WBR>องสาริกา อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี หาอุปกรณ์ในการไปขุดหา และชวนเพื่อนบ้านไปช่วยกันขุ<WBR>ดหาจนเป็นหลุมขนาดใหญ่กว้างกว่า 10 เมตร ลึกประมาณ 10 เมตร หลายหลุม ขุดมาแล้วประมาณ 10 วัน แต่ก็ยังไม่พบพระพุทธรู<WBR>ปตามความฝัน ​

    นายสมนึก ทองดีลัง จึงได้ไปเล่าให้พระ อา-จา-ระ-ยะ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านน้ำซับ ให้มาทำพิธีปักธูปเบิกพระธรณี ในเวลาเที่ยงคืน ของคืนที่ผ่านมา ตามความเชื่อแบบโบราณ ก่อนที่จะช่วยกันขุดหา และเมื่อลงมือขุดลงไปได้เพี<WBR>ยงไม่ถึงเมตร ทุกคนต่างต้องตะลึง เพราะได้พบพระพุทธรู<WBR>ปโบราณขนาดใหญ่ เกศบัวตูม ปรางค์มารวิชัย เนื้อทองสัมฤทธิ์ คาดว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณสมั<WBR>ยเชียงแสน อายุหลายร้อยปี ขนาดหน้าตักกว้าง 19 นิ้ว สูง 35 นิ้ว สภาพองค์พระมีความสมบูรณ์ สวยงาม ไม่มีร่องรอยการแตกร้าว หรือชำรุดบุบสลายแต่อย่างใด ​

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ประชาจากพื้นที่ใกล้เคียง ทยอยเดินทางกันมากราบไหว้กันเป็<WBR>นจำนวนมาก เนื่องจากในวันพรุ่งนี้เป็นวั<WBR>นหวยออก จึงพากันมาเสี่ยงโชคกันเป็<WBR>นจำนวนมาก โดยเบื้องต้นในวันนี้ชาวบ้<WBR>านกระทำพิธีทำบุญปากหลุม เพื่อเคลื่อนย้ายไปไว้ที่อั<WBR>นสมควรอย่างเป็นทางการ อีกครั้ง แต่ได้ช่วยกันนอนเฝ้าที่ปากหลุ<WBR>มทั้งคืน​

    ข่าววันที่ 29 ธันวาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • x2.jpg
      x2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.6 KB
      เปิดดู:
      2,162
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2009
  2. วัสสานะ

    วัสสานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +565
    ท่านที่ไปเที่ยวปีใหม่ระมัดระวังการอยู่ในสถานที่มีฝูงชนจำนวนมากหรือสถานที่แออัดคับแคบ เช่นสถานบันเทิงด้วยครับ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผนการณ์ก่อวินาศกรรม ของผู้ก่อการร้าย

    [​IMG]

    แกนนำเครือข่าย Al-Qaeda รับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนก่อเหตุวินาศกรรม

    สยามจดหมายเหตุ ปีที่ 32 วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2550

    15 มีนาคม 2550 กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาเปิดเผยรายงานจากสำเนาคัดลอกการพิจารณาคดีที่ค่ายกักกันนักโทษที่เรือนจำในอ่าวกวนตานาโม (Guantanamo) ของคิวบา ซึ่งเป็นคำรับสารภาพของนายคาลิด ชีค โมฮัมเหม็ด(Khalid Sheikh Mohammed) แกนนำอันดับ 3 และแกนนำระดับปฏิบัติการสูงสุดของขบวนการก่อการร้ายเครือข่ายอัล-เควดา (Al-Qaeda) ระบุว่าตนเป็นผู้วางแผนและดำเนินการในการก่อเหตุวินาศกรรมในสหรัฐฯ

    เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 หรือเหตุการณ์ 9/11 รวมถึงเหตุก่อการร้ายครั้งรุนแรงอื่น ๆที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเหตุวางระเบิดอาคารเวิลด์เทรด เซนเตอร์ (World Trade Center) ครั้งแรกเมื่อปี 2536 เหตุวินาศกรรมไนต์คลับบนเกาะบาหลี(Bali) ของอินโดนีเซีย เมื่อปี 2545 และเหตุลอบวางระเบิดรีสอร์ตตากอากาศในเคนยาเมื่อปี 2535 นอกจากนี้ ยังมีความพยายามก่อเหตุระเบิดเครื่องบินโดยสารข้ามทวีปของสหรัฐฯ เมื่อปี 2544

    การวางแผนโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และหอสมุดแห่งชาติ รวมทั้งตึกเอ็มไพร์ สเตท (Empire State) และตลาดหุ้นวอลล์สตรีท (Wall Street) ในสหรัฐฯ ส่วนที่อังกฤษ นายโมฮัมเหม็ดได้รับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนโจมตีหอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) และสนามบินฮีตโธรว์(Heathrow)

    อีกทั้งการวางแผนลอบสังหารสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 (John Paul II - Pope)และนายบิล คลินตัน (Bill Clinton) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนฟิลิปปินส์เมื่อปี 2537 และ2538 รวมถึงวางแผนส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีนักท่องเที่ยวที่คลองปานามา (Panama) แผนโจมตีอาคารสถานทูตสหรัฐฯ และอิสราเอลในกรุงจาการ์ตา(Jakarta) เมืองหลวงของอินโดนีเซีย

    แผนลอบวางระเบิดไนต์คลับของชาวอเมริกันและชาวอังกฤษในประเทศไทย แผนวางระเบิดเครื่องบินโดยสารของอิสราเอล ที่เดินทางจากท่าอากาศยานในกรุงเทพฯ และสังหารตัดศีรษะผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันที่ถูกลักพาตัวในนครการาจี (Karachi) ของปากีสถาน เมื่อปี 2545 ซึ่งโดยรวมแล้วนายโมฮัมเหม็ดอยู่เบื้องหลังแผนก่อการร้ายที่ยังไม่เกิดขึ้นกว่า 30 ครั้งทั่วโลกทั้งนี้

    นายโมฮัมเหม็ดเป็น 1 ในนักโทษ 14 คนที่สหรัฐฯระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายคนสำคัญ โดยทางการสหรัฐฯ ได้ย้ายนายโมฮัมเหม็ดจากคุกลับของสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (The Central Intelligence Agency - CIA) ไปยังฐานทัพที่อ่าวกวนตานาโมเมื่อปี 2549 และครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่นายโมฮัมเหม็ดเข้ารับฟังการพิจารณาคดี นับตั้งแต่ถูกจับกุมในปากีสถานเมื่อปี 2546

    ที่มา http://www.siamarchives.com/node/7232
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2009
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อัลกออิดะห์อ้างอยู่เบื้องหลังเหตุพยายามระเบิดเครื่องบิน

    [​IMG]

    ฮาวาย 29 ธ.ค.-กลุ่มอัลกออิดะห์อ้างตัวอยู่เบื้องหลังเหตุพยายามระเบิดเครื่องบินสหรัฐในวันคริสต์มาส ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ประกาศจะใช้อำนาจทุกอย่างที่มีอยู่ดำเนินการกับผู้เป็นภัยคุกคามความปลอดภัยของชาวอเมริกัน ฮาวาย 29 ธ.ค.-กลุ่มอัลกออิดะห์อ

    กลุ่มอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย ระบุในข้อความที่โพสต์ตามเว็บไซต์อิสลามหลายแห่งว่า เหตุพยายามระเบิดเครื่องบินจากเนเธอร์แลนด์ไปสหรัฐเป็นการแก้แค้นสหรัฐที่โจมตีสมาชิกอัลกออิดะห์ในเยเมน ทางกลุ่มเป็นผู้ให้อุปกรณ์ระเบิดเทคโนโลยีสูงแก่นายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตัลลับ ชายชาวไนจีเรีย แต่เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคทำให้ไม่ระเบิด

    ด้านประธานาธิบดีโอบามา กล่าวระหว่างพักผ่อนที่เกาะฮาวายว่า จะไม่ยอมรามือจนกว่าจะสามารถตามจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดและนำไปรับโทษ เขาจะใช้อำนาจทุกอย่างของสหรัฐขัดขวาง ขจัดและกำราบผู้มีแนวคิดสุดโต่งที่ข่มขู่สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนหรือวางแผนโจมตีสหรัฐจากที่ใด ขณะเดียวกันได้สั่งทบทวนกระบวนการตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าสหรัฐเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้นำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่องบินได้อีก

    ส่วนนายโจ ลีเบอร์แมน ประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในวุฒิสภา ซึ่งเป็น ส.ว.อิสระที่มักลงคะแนนให้พรรคเดโมแครต เผยว่า จะเปิดการไต่สวนเรื่องนี้ในเดือนมกราคม ว่าเหตุใดนายอับดุลมูตัลลับ จึงไม่ถูกตรวจสอบ ทั้งที่มีชื่อในผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย และเหตุใดท่าอากาศยานจึงไม่ใช้เครื่องสแกนร่างกายอย่างละเอียดกับผู้โดยสารมากกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

    2009-12-29 07:26:01

    ไฟป่าเผาผลาญบ้านเรือนแถบชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย

    [​IMG]

    เพิร์ธ 30 ธ.ค. - ไฟป่าที่ลุกไหม้เหนือการควบคุมทางตอนเหนือของเมืองเพิร์ธ ทางชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนหลายหลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน

    สื่อออสเตรเลีย รายงานว่า นับตั้งแต่คืนวานนี้ไฟป่าได้เผาทำลายบ้านเรือนประชาชนไปแล้ว 20 หลังทั้งใน และใกล้กับเมืองแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเพิร์ธ เมืองเอกของรัฐเวสต์เทิร์นออสเตรเลีย และเมื่อวานมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยแล้ว

    โฆษกหน่วยดับเพลิง และบริการฉุกเฉินของรัฐเวสต์เทิร์นออสเตรเลีย ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 นายได้รับบาดเจ็บจากการสูดหายใจเอาควันไฟเข้าไปเมื่อวานนี้ ส่วนอีกคนเข้ารับการรักษาจากอาการป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับความร้อน โดยไฟเผาผลาญกินเนื้อที่ผืนป่า และไร่นาไปแล้วเกือบ 17,000 ไร่ และยังอยู่เหนือการควบคุม เช่นเดียวกับไฟป่าอีกจุดทางตอนเหนือของเมืองเพิร์ธ ก็ยังอยู่นอกเหนือการควบคุม โดยเผาผลาญเนื้อที่ไปแล้วกว่า 3,000 ไร่ -สำนักข่าวไทย

    2009-12-30 09:43:17

    อาร์เจนตินาอพยพชาวบ้านกว่า 3,000 คน หนีน้ำท่วม

    [​IMG]

    อาร์เจนตินา 29 ธ.ค.-ทางการอาร์เจนตินาอพยพชาวบ้านกว่า 3,000 คน ออกจากพื้นที่น้ำท่วมฉับพลันทางตอนเหนือของประเทศ ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน

    เจ้าหน้าที่เผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวจากปารากวัย ถูกกระแสน้ำพัดหายไปในเมืองซาน อันโตนิโอ เดอ อาเรโก ทางตอนเหนือของกรุงบัวโนสไอเรส ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ บ้านเรือนอีกหลายร้อยหลังจมอยู่ใต้น้ำท่วมที่สูงเกือบ 2 เมตร หลังเกิดฝนตกหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องอพยพชาวบ้านมากกว่า 3,000 คนไปยังที่สูง ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักของเมืองเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ดีขึ้น

    ทางการกล่าวโทษชาวบ้าน ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เพราะแอบสร้างคลอดทดน้ำจากแม่น้ำสายหลัก จนทำให้น้ำเอ่อล้นพื้นที่ แต่ชาวบ้านบอกว่าสาเหตุของน้ำท่วมมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ.-สำนักข่าวไทย

    2009-12-29 05:19:52

    ผู้นำอิหร่านโทษสหรัฐ-อิสราเอลอยู่เบื้องหลังเหตุประท้วง

    [​IMG]

    เตหะราน 30 ธ.ค. - ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ของอิหร่าน กล่าวหาสหรัฐ และอิสราเอล ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุประท้วงรัฐบาลที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน พร้อมระบุว่า เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ

    สำนักข่าวอีร์นา ของทางการอิหร่าน รายงานอ้างคำกล่าวของประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด ว่า ชาวอเมริกัน และชาวยิว เป็นผู้ทำให้เกิดการประท้วงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ นอกจากนี้ ผู้นำอิหร่าน ยังกล่าวโต้ตอบกรณีที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ และรัฐบาลอังกฤษวิจารณ์อย่างรุนแรงต่อการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงของทางการอิหร่าน

    คำกล่าวของผู้นำอิหร่านมีขึ้นหลังจาก อยาตอลเลาะห์ อับบาส ทาบาซี ผู้นำศาสนาผู้ทรงอิทธิพลของอิหร่าน ตราหน้าบรรดาแกนนำฝ่ายค้านว่าเป็นศัตรูของพระเจ้า และสมควรถูกลงโทษถึงชีวิตตามกฎหมายอิสลาม สอดคล้องกับท่าทีของนายอาลี ลาริจานี ประธานรัฐสภาอิหร่าน ที่ระบุว่า รัฐสภาต้องการให้ทางการจับกุมผู้ล่วงเกินศาสนา และนำมารับโทษสูงสุด พร้อมประณามคำวิจารณ์ที่น่ารังเกียจของรัฐบาลชาติตะวันตกเกี่ยวกับเหตุประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งนายมานูเชอร์ มอตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวโจมตีอังกฤษ ขณะที่รัฐบาลอิหร่านเรียกนายไซมอน แกส ผู้แทนอังกฤษมาประท้วง -สำนักข่าวไทย

    2009-12-30 09:32:54

    รัสเซียจะพัฒนาอาวุธเชิงรุกเพื่อคานอำนาจกับสหรัฐต่อไป

    [​IMG]

    มอสโก 29 ธ.ค. - สำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ ของรัสเซีย รายงานอ้างนายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียจะต้องพัฒนาระบบอาวุธเชิงรุก เพื่อคานอำนาจของสหรัฐที่มีแผนสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธ

    นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระบุว่า เพื่อรักษาดุลอำนาจ รัสเซียจะไม่สร้างระบบป้องกันขีปนาวุธเหมือนอย่างที่สหรัฐดำเนินการ แต่จะพัฒนาระบบอาวุธเชิงรุก และว่า ปัญหาของอาวุธเชิงรุกกับระบบป้องกันขีปนาวุธมีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกันมาก การที่สหรัฐจะสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธให้กับตัวเองและชาติพันธมิตร เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงและทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ได้ทำให้เกิดความไม่สมดุลขึ้น

    นายกรัฐมนตรีปูติน ระบุด้วยว่า แผนสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาทำสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ และเพื่อทำให้ความสมดุลเกิดขึ้น รัสเซียจำเป็นที่จะพัฒนาอาวุธเชิงรุก นอกจากนี้ รัสเซียต้องการเข้าถึงข้อมูลแผนการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐมากขึ้น และจะนำประเด็นนี้เชื่อมโยงกับการทำข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ด้วย. - สำนักข่าวไทย

    2009-12-29 15:11:42

    เลขาธิการยูเอ็นแสดงความผิดหวังกรณีไทยส่งม้งกลับลาว

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 30 ธ.ค. - นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความผิดหวังกรณีไทยส่งชาวม้งกลับลาว พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศคุ้มครองสิทธิของชาวม้งเหล่านี้

    สำนักงานเลขาธิการยูเอ็น แถลงว่า นายบัน แสดงความผิดหวังต่อการส่งชาวม้งกลับลาวครั้งนี้ ทั้งที่มีคำวิงวอนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) และมีประเทศที่สามรองรับชาวม้งที่มีสถานภาพเป็นผู้ลี้ภัยให้เข้าไปตั้งถิ่นฐาน เลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องให้รัฐบาลไทย และลาว ทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของชาวม้งเหล่านี้ และแก้ปัญหาอย่างมีมนุษยธรรม

    ด้านยูเอ็นเอชซีอาร์ เผยว่า ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการให้รัฐบาลลาวอนุญาตให้เข้าถึงชาวม้งที่ถูกส่งกลับ ขณะเดียวกันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงกับลาวเรื่องการปฏิบัติต่อชาวม้ง. -สำนักข่าวไทย

    2009-12-30 09:46:55

    ผอ.อนามัยโลกเตือนไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังระบาดต่อเนื่อง

    [​IMG]

    เจนีวา 29 ธ.ค. - ดร.มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศว่า ไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ระบาดขั้นรุนแรงไปทั่วโลก โดยมีพื้นที่บางส่วนที่จัดว่าระบาดหนักที่สุด เช่น สหรัฐ แคนาดา และบางประเทศในแถบซีกโลกเหนือ ขณะที่ฤดูหนาวยังคงกินระยะเวลานาน

    ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การระบาดของไวรัส เอช 1 เอ็น 1 ไม่ได้ระบาดหนักไปทุกประเทศ และว่าในภูมิภาคแอฟริกาไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้รับรายงานเข้ามา หรือยังไม่ถึงขั้นระบาดอย่างรุนแรงเต็มที่. - สำนักข่าวไทย

    2009-12-29 17:51:20

    สภากัมพูชาผ่านกฎหมายยึดที่ดินประชาชนเป็นสาธารณประโยชน์ได้

    [​IMG]

    พนมเปญ 29 ธ.ค. - รัฐสภากัมพูชาอนุมัติกฎหมายที่ดินซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ โดยระบุให้รัฐบาลสามารถเข้ายึดที่ดินของประชาชนเพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาได้ ซึ่งยิ่งก่อให้เกิดความวิตกว่าจะมีกรณีประชาชนถูกขับไล่ออกจากที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น

    สภาแห่งชาติกัมพูชาซึ่งพรรคประชาชนกัมพูชาครองเสียงข้างมาก ลงมติรับรองให้รัฐบาลสามารถยึดที่ดินเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคและโครงการที่เป็นสาธารณประโยชน์ ขณะที่นักวิเคราะห์และส.ส.ฝ่ายค้าน กล่าวว่า เนื้อหาในกฎหมายฉบับนี้ยังคลุมเครือ และวิตกว่าอาจเป็นการใช้อำนาจในทางมิชอบบังคับให้ผู้ที่อยู่อาศัยมาก่อนต้องออกจากพื้นที่ไป โดยยกที่ดินให้กับคนร่ำรวยและผู้มีอิทธิพลแทน

    ทั้งนี้ การถือครองที่ดินในกัมพูชายังคงเป็นประเด็นขัดแย้ง เนื่องจากเอกสารสิทธิตามกฎหมายถูกทำลายสูญหายไป ทั้งในช่วงรัฐบาลเขมรแดงและช่วงสงครามกลางเมือง แต่ภายหลังจากการที่กัมพูชาขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่ปี 2547 จึงทำให้ราคาที่ดินพุ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงพนมเปญ จึงทำให้มีกรณีประชาชนถูกขับไล่ออกจากที่ดินทำกินของตัวเองมากขึ้น ขณะที่องค์กรและกลุ่มประเทศผู้บริจาคให้รัฐบาลกัมพูชาขอให้แก้ไขความขัดแย้งเรื่องที่ดิน แต่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาชี้แจงว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศ.- สำนักข่าวไทย

    2009-12-29 19:32:54

    ห้างในจีนจัดที่จอดรถให้ลูกค้าสตรีโดยเฉพาะ

    [​IMG]

    สือเจียจวง 29 ธ.ค.- ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองสือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย์ของจีนออกแบบลานจอดรถให้มีพื้นที่มากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าสตรีโดยเฉพาะ และยังทาสีสันสดใสเอาใจผู้หญิงด้วย

    พนักงานของห้างหวั่นเซียง เทียนเชิง เผยว่า ลานจอดรถของห้างออกแบบเพื่อเอาใจลูกค้าสตรีทั้งในเรื่องสีสันและพื้นที่ โดยได้ทาสีชมพูและสีม่วงอ่อน จัดแบ่งช่องจอดรถแต่ละคันให้กว้างกว่าปกติ 1 เมตร รวมทั้งติดตั้งสัญญาณและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเพื่อสวัสดิภาพของลูกค้าสตรี เว็บไซต์ของโกลบอลไทมส์รายงานว่า พนักงานสตรีที่ลานจอดรถของห้างได้รับการฝึกอบรมให้ช่วยลูกค้าจอดรถได้อย่างเรียบร้อย และมีการเสริมไฟเพิ่มเติมที่ช่องจอด ส่วนสำนักข่าวเอเอฟพีอ้างสถิติของตำรวจว่า การขับรถในจีนถือเป็นเรื่องอันตราย ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรไม่ต่ำกว่าวันละ 200 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-12-29 10:47:16

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ดูหนังดูละครสะท้อนเงาของตัวเราเอง
    (บทวิจารณ์หนังจากเว็ปบอร์ดพันธุ์ทิพย์)

    [​IMG]
    Zoe Saldana แสดงเป็น Neytiri ในหนังอวตาร

    Avatar : โลกสีฟ้าที่ถูกรังแก

    แม้ไททานิค (1997) จะลอยลำอยู่ในหัวใจของผู้ชมมานานนับสิบปี แต่ผลงานสามมิติสุดไฮเทคอย่าง “อวตาร” ของเจมส์ คาเมรอน ก็ยังไม่อาจจมเจ้าเรือยักษ์นั่นได้สำเร็จ ออสการ์ 11 ตัวที่ไททานิคพิชิตมา อาจไม่ได้พิสูจน์คุณภาพที่สมบูรณ์แบบของหนัง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าไททานิคทำได้และอวตารยังทำไม่ถึง นั่นคือความรุ่มรวยเสน่ห์และประเด็นที่สัมผัสใจ

    พล็อตหลักของอวตาร ขาดความใหม่และง่ายแก่การคาดเดา ความนุ่มนวลของเรื่องละลายความขึงขังจริงจังให้อ่อนลง การบูรณาการประเด็นต่างๆ เข้าด้วยกันแม้จะดูลื่นไหลลงตัว แต่ก็ทำให้หนังขาดโฟกัสที่ชัดเจน การบรรลุวัตถุประสงค์ของพระเอกที่มีอยู่หลายระดับส่งผลข้างเคียงให้ climax ของเรื่องดูเลือนและไม่แรงอย่างที่ควรจะเป็น

    แต่ถึงอย่างไร อวตารก็ยังสร้างความบันเทิงได้ในระดับที่น่าพอใจสำหรับวงกว้าง เนื้อหาสาระที่มุ่งเสนอถือเป็นค่านิยมสูงส่ง ดีงาม ควรแก่การขบคิดและปรับประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนตัวแล้วเห็นว่า เจมส์ คาเมรอน ควรภูมิใจกับอวตารในจุดนี้ ยิ่งกว่าความก้าวหน้าทางประสาทสัมผัสที่ได้มอบให้กับผู้ชม

    อวตารนิยามโลกมนุษย์ในอนาคตเสมือนดาวที่กำลังโคม่า มนุษย์รุกรานธรรมชาติจนไม่หลงเหลือพื้นที่สีเขียว (จากคำวิงวอนของเจคต่อเทพเอวาให้มองโลกมนุษย์ผ่านความทรงจำของเกรซ) มนุษย์ยึดมั่นต่อตรรกะเหตุผลเหนือกว่าคุณค่าทางจิตวิญญาณ เหยียดความเชื่อต่อสิ่งที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ สังคมวุ่นวายด้วยปัญหาเศรษฐกิจ (พี่ชายฝาแฝดของเจคถูกฆ่าชิงทรัพย์โดยโจรกระจอกข้างถนน)

    แหล่งพลังงานในโลกร่อยหรอจวนหมดสิ้น และถีบราคาขึ้นสูงลิบพอที่จะส่งให้ มนุษย์ออกแสวงหาแหล่งทรัพยากรใหม่นอกโลก สงครามต่างๆ ที่ยืดเยื้ออาจยุติลงเมื่อไม่เหลือทรัพยากรให้แย่งชิง ทหารทั้งที่กระหายสงครามและประสงค์จะต่อชีวิตให้โลกหันมาสนับสนุนภาระกิจ ล่าทรัพยากรบนดาวแพนดอร่า นำโดยชายที่ชื่อ ปาร์คเกอร์ นักธุรกิจซึ่งบูชาผลกำไรของบริษัทเป็นเป้าหมายสูงสุด

    หนังให้ผู้ชม จินตนาการถึงโลกอนาคตผ่านคำบอกเล่าของเจคในช่วงต่างๆ โลกที่คงจะชำรุดเสียหาย ไม่ต่างไปจากร่างพิการของทหารผู้กรำศึก เจคมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะหลุดพ้นออกไปจากร่างที่ไม่สมประกอบ โลกที่ทรุดโทรมของเราก็คงจะปรารถนาสิ่งเดียวกันนั้น

    หนังให้ภาพของ ดาวแพนดอร่าเหมือนสรวงสวรรค์หรือจินตนาการอันงดงามในเทพนิยาย (ชื่อ “แพนดอร่า” เป็นตำนานปรำปราว่าด้วยหญิงนางหนึ่งที่ต้องห้ามมิให้เปิดกล่องแห่งภัยพิบัติ ซึ่งเป็นบททดสอบความสามารถในการยับยั้งชั่งใจของมนุษย์) หลายสิ่งที่พบเห็นบนดาวแพนดอร่าดูคล้ายโลกในอดีตก่อนที่จะถูกมนุษย์ชำเราจน ไม่เหลือความบริสุทธิ์ บนดาวดวงนี้มีชนเผ่าชาวนาวีอาศัยอยู่ วิถีชีวิตของชาวนาวีประสานสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับสิ่งแวดล้อม มีความเคารพระหว่างกัน และสามารถยินเสียงเจตนารมณ์ของธรรมชาติ (ผ่านการแปลความประสงค์ของ “เอวา” )

    ชาวนาวีมองเห็นจิตวิญญาณแท้จริงที่สถิตอยู่ภายในสรรพสิ่ง (ฉากต้นไม้เรืองแสงยามค่ำคืนแสดงให้เห็นจิตวิญญาณที่ดำรงอยู่ภายใน) เกิดเป็นธรรมเนียมทักทายระหว่างกันว่า I see you ความตายตามทัศนคติของชาวนาวีไม่ใช่การดับสูญ แต่เป็นการเดินทางเข้าสู่เอวา หลอมรวมกับจิตวิญญาณสากลคล้ายปรมัตมันในศาสนาพรามณ์-ฮินดู

    ชาวนาวีไม่เห็นแก่ตัว ไม่สะสมทรัพยากรหรือบริโภคเกินจำเป็น เข้าใจระบบการหมุนเวียนพลังงานระหว่างชีวิต เช่น สัตว์กินพืชที่ถูกชาวนาวีล่าเป็นอาหาร ร่างกายของสัตว์จะเป็นหนึ่งเดียวกับชาวนาวี ส่วนจิตวิญญาณจะหลอมรวมอยู่กับเอวา เป็นการฆ่าเพื่อยังชีพ มีศิลปะและสะอาดหมดจด ต่อมาเมื่อชาวนาวีตายลง ตามประเพณีจะนำศพไปวางไว้ภายในอ้อมกอดของรากไม้ใหญ่ ส่งต่อพลังงานที่เคยยืมใช้ให้ผืนป่าได้สูบกินเพื่อผลิพืชพันธุ์เป็นอาหาร ของเหล่าสัตว์ต่อไป หนุนเนื่องเช่นนี้เป็นวัฏจักร

    ชาวนาวีมีรูปแบบ การปกครองที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีอาวุธข่มขวัญเพื่อแสดงแสนยานุภาพระหว่างกันแต่ใช้สายสัมพันธ์ทางจิต วิญญาณเป็นเครื่องมือในการปกครอง ทั้งการครองใจฝูงชนในเผ่าและการปฏิบัติต่อสัตว์ในควบคุม (ที่ขับเคลื่อนด้วยสายสัมพันธ์) แตกต่างจากการบังคับบัญชาในระบบทหารของมนุษย์ซึ่งปกครองกันด้วยกฎเกณฑ์ที่ เข้มงวด ใช้กำลังบังคับและมีลักษณะหยาบกระด้างไม่ต่างจากการควบคุมจักรกล

    ชนชาวนาวีมีศูนย์รวมใจอยู่ที่ต้นไม้แห่งจิตวิญญาณ (tree of soul) เป็นแหล่งเชื่อมโยงโครงข่ายของทุกชีวิตที่มีความลึกซึ้งและสลับซับซ้อน ศูนย์รวมใจแห่งนี้คล้ายเป็นศาสนสถานในการประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ หนังสร้างสัญลักษณ์ของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณ ให้เป็นตัวแทนความเชื่อทางศาสนา และความล้ำลึกทางวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่ได้รับการอธิบาย

    หากไททานิคคือ เรือเดินสมุทรข้ามทวีปเพื่อแสวงหาโอกาสในโลกใหม่อย่างอเมริกา อวตารก็เป็นการเดินทางฝ่าอวกาศด้วยจุดประสงค์เดียวกัน หนังให้ภาพชาวนาวี คล้ายกับอินเดียนแดงในยุคล่าอาณานิคมของยุโรป (โครงเรื่องถอดมาจากประวัติศาสตร์ของโพคาฮอนทัสอย่างชัดเจน) ผู้กำกับเสริมลักษณะให้ชาวนาวีดูแปลกแยกจากมนุษย์ ด้วยสรีระคล้ายสัตว์ตระกูลแมว ผิวหนังสีฟ้า รองรับประเด็นเรื่องการเหยียดชาติพันธุ์ว่าชาวนาวีมีศักดิ์ต่ำกว่ามนุษย์ ไม่ต่างไปจากยุคค้าทาสที่เคยมองมนุษย์ด้วยกันเป็นเพียงสัตว์ประเภทหนึ่ง บทหนังในส่วนนี้แสดงสัจธรรมได้ชัดเจน ที่ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนผ่านไปเพียงใด แต่วิธีคิดของมนุษย์ก็ยังคงติดอยู่ภายในกรอบเดิมเหมือนไม่เคยได้รับการ พัฒนา

    อวตารบูรณาการประเด็นที่หลากหลายเข้าด้วยกัน ผู้ชมอาจคุ้นเคยหรือผ่านตามาแล้วจากหนังเรื่องอื่น พล็อตเรื่องที่ซ้ำและไม่มีความแปลกใหม่นี้เองที่ถือเป็นจุดอ่อนสำคัญ หนังเรื่องต่างๆ ที่หลอมรวมประกอบอยู่ในอวตารได้แก่ 2001 : A Space Odyssey ในประเด็นการเดินทางเพื่อแสวงหาแหล่งพลังงานจากต่างดาว วิธีการจำศีลบนยาน การวิเคราะห์เชิงปรัชญาถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่มีพฤติกรรมซ้ำเดิมในแต่ละ ยุคสมัย (บทหนังที่สร้างชาวนาวีให้คล้ายกับอินเดียนแดงตามประวัติศาสตร์อเมริกา ยังทำให้นึกถึงฉากจบของ 2001 : A Space Odyssey ที่หลอมรวมอดีตและอนาคตไว้ด้วยกัน )

    ประเด็นเรื่องการรุกราน วัฒนธรรมท้องถิ่น เห็นได้ชัดจากหนังโพคาฮอนทัสทั้งฉบับการ์ตูนและฉบับของผู้กำกับ Terrence Malick ในชื่อ The New World (มีประเด็นที่ลึกซึ้งเรื่องแม่ผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง) หรือหนังของผู้กำกับ Edward Zwick เรื่อง The Lagend of The Fall , The Last Samurai , Blood Diamond ที่ยกย่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชนพื้นเมืองในทุกท้องถิ่น

    ประเด็น เรื่องการอวตารหรือการถ่ายโอนสัมปชัญญะจากหนังเรื่อง The Matrix หรือ Thirtteen Floor ฉากที่นักวิทยาศาสตร์คัดลอกข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ไปยังแผ่นบันทึกซึ่งดู เหมือนกระจกใส อธิบายถึงการทำงานของจิตว่าเป็นเสมือนข้อมูลซึ่งถูกนำไปบรรจุในร่างอวตาร ถือเป็นการบรรยายทางอ้อมที่ฉลาด กระชับและชัดเจน

    ประเด็นเรื่องการอวตารยังสื่อถึงปรัชญาว่าด้วยการเวียนว่ายตายเกิด การไหวเวียนของจิตจากที่หนึ่งสู่อีกที่หนึ่ง หนังให้ภาพหีบศพพี่ชายฝาแฝดของเจคคล้ายกับอุปกรณ์ในการอวตาร สื่อถึงการเดินทางออกจากร่างของจิตวิญญาณไปยังจุดอื่น ประกอบกับคำยืนยันของเกรซก่อนตายซึ่งเธอกำลังละร่างเดิมเข้าสู่จิตวิญญาณ สากลที่เรียกว่า “เอวา” การเกิดใหม่ของเจคในฉากจบที่มีร่างเปล่า (เสมือนทารกในครรภ์) รอการบรรจุจิตวิญญาณเพื่อเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์

    อวตาร ยังเป็นหนังแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ ยักษ์ใหญ่สำหรับประเด็นนี้คงหนีไม่พ้นการ์ตูนญี่ปุ่นของสตูดิโอจิบลิ อย่าง Laputa (มีภูเขาลอยได้เหมือนกัน) , Princess Mononoke (โดยเฉพาะฉากเรืองแสงของป่าที่อุดมสมบูรณ์และจิตวิญญาณธรรมชาติในรูปของ เทพารักษ์) , Spirited Away
    อวตารจำแนกคนในเรื่องออกเป็น 3 กลุ่ม หนึ่งคือทัพทหารของควอริชท์ซึ่งมีวิธีคิดเหมือนคนเหล็ก เย็นชา แข็งแกร่ง นิยมความรุนแรง ฉากที่ควอริชท์นั่งจิบกาแฟระหว่างการรบและสั่งการให้ทหาร “ค้นหาและทำลาย” ถือเป็นกิริยาของจักรกลอย่างเห็นได้ชัด ควอริชท์กระหายสงครามอยู่ตลอดเวลา ไม่เชื่อในสันติวิธีและมักเหยียดกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ว่าเป็นพวกหัวฟูกล้ามฝ่อ และไร้ประโยชน์สำหรับภารกิจครั้งนี้

    สองคือกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ผู้บูชาระบบตรรกะเหนืออื่นใด เป็นตัวแทนของมันสมองหรือความเฉลียวฉลาด มีทัศนคติรังเกียจความรุนแรงของทหารและไม่ศรัทธาอำนาจเหนือธรรมชาติหากยัง ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ สามคือกลุ่มชนชาวนาวีซึ่งเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณ ความลึกซึ้งทางอารมณ์ ความบริสุทธิ์แห่งชีวิต

    ทั้งสามส่วนที่กล่าวมาถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างมนุษย์ให้มีความสมบูรณ์ เจคพระเอกของเรื่องมีองค์ประกอบเหล่านี้อย่างครบถ้วน ด้วยอดีตที่เคยเป็นนาวิกฯ ได้เรียนรู้กับกลุ่มมิตรแท้นักวิทยาศาสตร์และกลายเป็นผู้นำของชาวนาวีในที่สุด ตอนต้นเรื่อง หนังสร้างตัวละครของเจคให้ดูเหมือนคนเขลา ทว่าบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเด็ก ชาวนาวีมีทัศนคติว่ามนุษย์ส่วนใหญ่คือพวกน้ำเต็มแก้ว ไม่สามารถเรียนรู้หรือเชื่อในสิ่งใหม่ ต่างจากเจคผู้มีจิตวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพื้นฐาน

    อีกตัวละครหนึ่ง ที่ผมชอบคือเกรซหรือ ดร. ออกัสทีน เธอเป็นหญิงแกร่งและเก่ง เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนชาวนาวี เกรซไม่ศรัทธาอะไรง่ายๆ หากยังไม่ได้รับการพิสูจน์ (อย่างการดูถูกความสามารถของเจคในตอนต้นและการไม่เชื่อความมีอยู่จริงของเอ วาจนได้ประสบด้วยตนเอง) พัฒนาการที่น่ารักในตัวเกรซคือสัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่เธอแสดงออกต่อเจค อย่างการพาเข้านอน ทำอาหารให้กิน จู้จี้เรื่องอาบน้ำ

    ความรู้สึกระหว่างแม่ลูกที่หนังสื่อออกมา เปรียบได้กับสายสัมพันธ์ของธรรมชาติ (หรือเอวา) ที่เอื้ออาทรและปรารถนาดีต่อทุกชีวิต ไม่ต่างไปจากจิตวิญญาณของความเป็นแม่ การที่ธรรมชาติถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ก็ไม่ต่างไปจากลูกทรพีซึ่งฆ่าแม่ ของตน

    อวตารถือเป็นคำเตือนจากอนาคตของเจมส์ คาเมรอน ว่าหากมนุษย์ยังคงอหังการ์และข่มเหงธรรมชาติ ไม่ต่างไปจากที่กระทำต่อชาวนาวี โลกสีฟ้าที่เคยงดงาม อาจกลายเป็นดาวที่น่ารังเกียจที่สุดในจักรวาล

    มนุษย์ อาจทะนงตนแทนโลกว่าอนาคตแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น และเพิกเฉยต่อคำเตือนเหมือนที่ไททานิคเคยได้รับ ดำเนินชีวิตเรื่อยไปอย่างที่เคยเป็นมา กระทั้งเริ่มมองเห็นเค้าลางของมหันตภัย หากรอให้ถึงจุดนั้นจริงๆ อาจสายเกินไปที่มนุษย์เราจะกลับตัวได้ทัน

    ผู้วิจารณ์ – beerled จากบอร์ด pantip ครับ

    ที่มา http://avatarth.wordpress.com

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2009
  6. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6971 ข่าวสดรายวัน


    ปลื้มปีติสคส.ปี ใหม่-"สมเด็จพระบรมฯ"


    สันติบาล เตือนบึ้ม กลางกรุง คืน31ธค.



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานส.ค.ส. 2553 แก่กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด สร้างความปลาบปลื้มปีติแก่พนักงานทุกคนเป็นล้นพ้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เป็นพระมหากรุณาธิ คุณอันล้นพ้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระราชทาน ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ หนังสือพิมพ์ข่าวสด ซาบ ซึ้งและปลาบปลื้มปีติ ขณะที่การเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ บช.น.เรียกประชุมวางแผน เน้นลานเซ็นทรัลเวิลด์จุดเคานต์ดาวน์ ระดมกว่า 4,000 นาย มีทหารเป็นผู้ช่วยคุมเข้ม รวมทั้งสถานที่จัดงานกลางกรุง ฮึ่มจัดการเฉียบขาดแก๊งซิ่งป่วน ด้านสันติบาลเตือน พบเบาะแสมือมืดมีแผนวางบึ้มคืน 31 ธ.ค. เป้าหมายห้างชานเมือง ระวังพิเศษที่ "เมเจอร์ซินีเพล็กซ์" รัชโยธิน และรังสิต มุ่งดิสเครดิตรัฐบาล "เทพเทือก" ถกหน่วยความมั่นคง ซักซ้อมทุกฝ่าย กำชับตร.ห้ามขาด หรือลาในช่วงนี้ ขณะที่หลายวัดสำคัญ ทั้งวัดบวรฯ วัดชนะฯ วัดสระเกศ ต่างจัดพิธีเจริญพุทธมนต์ รับวันขึ้นปีใหม่

    -พระราชทาน"ส.ค.ส."ข่าวสด

    เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระมหา กรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ พระราชทานส.ค.ส. อวยพรปีใหม่ แก่ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ข่าวสด คณะเจ้าหน้าที่ และพนักงานหนังสือ พิมพ์ข่าวสด โดยส.ค.ส.พระราชทานดังกล่าวมีพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์ เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และสร้างความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น แก่คณะพนักงานเจ้าหน้าที่หนังสือพิมพ์ข่าวสดทุกคน

    -บช.น.ถกคุมเข้มปีใหม่กรุง

    วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชา การตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจตั้งระดับรองผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.จร. ผกก.ทุกสน. ตำ รวจม้า ตำรวจสุนัข ตำรวจเก็บกู้วัตถุระเบิด เรื่องแผนและมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม.ช่วงเทศกาลปีใหม่

    พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกบช.น. กล่าวว่า ประชุมเพื่อเตรียมพร้อม และซักซ้อมความเข้าใจการดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่ ในด้านการข่าวขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายแต่อย่างใด สำหรับแผนดูแลความปลอดภัยใน กทม.นั้น จะอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ จากการข่าวคาดคะเนว่าจะมีประชาชนร่วมงานไม่น้อยกว่า 100,000 คน จะเน้นสถานที่จัดงานจุดใหญ่ทั้งหมด 39 จุด ครอบคลุม 21 สน. ให้ตำรวจทุก สน.ตั้งจุดตรวจอย่างน้อย สน.ละ 2 จุด และตั้งจุดตรวจค้นทางเข้าออกของ กทม. ทั้งหมด 10 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชน และให้ตั้งด่านตรวจค้นบุคคลต้องสงสัย เพื่อหาสารเสพติดที่แก๊งค้ายาฉวยโอกาสลักลอบเข้ามาในช่วงปีใหม่

    -ระดมกำลังตรึง"เซ็นทรัลเวิลด์"

    โฆษกบช.น.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังประสาน กทม.เพิ่มเติมในเรื่องความปลอดภัยและอัคคีภัย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนปีที่แล้ว โดย กทม.เตรียมแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว และตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนกลางไว้ที่บช.น. ศูนย์ส่วนหน้าที่เซ็นทรัลเวิลด์ และตั้งศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยที่หน้าที่ศาลาว่าการ กทม. โดยผบก.น.1-9 จะรับผิดชอบ ดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ และผบช.น.ลงปฏิบัติงานบังคับบัญชาอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลบริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์แบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรกใช้เจ้าหน้าที่ 1,700 นาย รอบสอง 2,697 นาย รวมทั้งสิ้น 4,400 นาย ดูแลพื้นที่ตั้งแต่สยามพารากอน, แยกราชประสงค์, สวน ลุมไนท์บาซาร์ และประตูน้ำ เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่การจัดงานทั้งหมด พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือจากทหาร โดยจะมีกำลังสารวัตรทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ ร่วมตรวจกับตำรวจในบริเวณงานด้วย มีเจ้าหน้าที่ 150 นาย และกำลังหนุนอีก 3 กองร้อย

    -จัดการเฉียบขาด"เด็กแว้น"ซิ่งป่วน

    พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า สำหรับ กทม. เตรียมเจ้าหน้าที่เทศกิจ และอาสาสมัครต่างๆ ทั้งหมด 50 เขตเรียบร้อยแล้ว เผื่อเกิดเหตุฉุนเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยสั่งการเพิ่มเติมสำหรับกรณีพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งหมด 15 จุด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ทั้งนี้ ในวันที่ 30 ธ.ค. เวลา 13.00 น. จะปล่อยแถวระดมพลที่สถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ และสถานีขนส่งตะวันออก พร้อมกันทั้งหมด อีกทั้ง ผบช.น.ยังสั่งกำชับผกก.ทุก สน.ให้ประชาสัมพันธ์ห้างร้าน สถานบริการ ห้ามจุดพลุ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที รวมถึงผู้ค้าด้วย

    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแก๊งซิ่งหรือเด็กแว้น ที่มักจะรวมตัวกันสร้างความเดือดร้อนตามท้องถนนในช่วงปีใหม่ โฆษกบช.น.กล่าวว่า พล.ต.ต. วิมล เปาอินทร์ รองผบช.น. ดูแลกิจการพิเศษ, พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.ดูแลงานจราจร, พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชอัตรา รองผบช.น. ดูแลป้องกันอาชญากรรม, และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ดูแลเรื่องกฎหมาย จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับกลุ่มนักซิ่งที่ออกมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชน และ จะใช้กฎหมายอีกฉบับ เพื่อเอาผิดผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยลูกหลาน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    -"สันติบาล"เตือนบึ้ม"เคานต์ดาวน์"

    ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวว่า ทางบก.น.1 จึงจัดตั้งชุดเฉพาะกิจ เพื่อเฝ้าระวังการก่อเหตุของกลุ่มผู้ไม่หวังดี โดยให้พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 ดูแลและประสานงานทั้งหมดในปฏิบัติงานครั้งนี้ สำหรับจุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ สวนสันติชัยปราการ, ถนนข้าวสาร และสนามหลวง ใช้กำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน 19 นาย ชุดเคลื่อนที่เร็ว 35 นาย และสายตรวจ 42 นาย ในวันที่ 31 ธ.ค. ถึงวันที่ 1 ม.ค.2553

    ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากตำรวจสันติบาลแจ้งว่า หน่วยข่าวสันติบาลแจ้งเตือนไปยังตำรวจหน่วยต่างๆ อาทิ บช.น. บช.ภาค 1 และหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่าจะมีเหตุวางระเบิดในวันที่ 31 ธ.ค. โดยคาดว่าคนร้ายอาจลงมือในพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้าโดยรอบชานเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ป้องกันระดับ 2 มีคนจำนวนมากเข้าไปรวมกันอยู่ ส่วนมากจะเป็นคนชั้นกลาง ไม่มีบุคคลสำคัญระดับชาติไปอยู่ในบริเวณนั้นมากนัก ทำให้การลอบเข้าไปก่อเหตุกระทำได้ง่าย โดยพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ห้างเมเจอร์ซินีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน และเมเจอร์เมกาเพล็กซ์ สาขารังสิต ส่วนพื้นที่ชั้นในที่ป้องกันระดับชั้นหนึ่งคาดว่าคนร้ายจะไม่กล้าลงมือ เนื่องจากเฝ้าระวังระดับสูงสุด

    -แฉเบาะแส 2 ทหารนายพล

    หน่วยงานแจ้งอีกว่า มีเบาะแสล่าสุดในขณะนี้มีทหารยศนายพล 2 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับม็อบบางกลุ่ม และมีศักยภาพสั่งการ ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เพื่อตัดความเชื่อมโยงหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น สำหรับระเบิดที่นำมาใช้เป็นระเบิดที่มีอานุภาพไม่รุนแรง เพียงแค่ต้องการสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน ต้อง การดิสเครดิตรัฐบาลในการรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ สำหรับห้วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ช่วงเวลา 13.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.2552 จนถึงเวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 ม.ค.2553

    สันติบาลแจ้งด้วยว่า ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ช่วงปีใหม่ คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะพยายามก่อเหตุในพื้นที่ โดยช่วงที่ผ่านมามีความพยายามลวงด้านการข่าวต่อเจ้าหน้าที่ โดยให้กลุ่มแนวร่วมเป็นวัยรุ่น 6 คน จาก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ไปถ่ายรูปห้างสรรพสินค้าไดอาน่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่เช้าถึงเย็น จนเป็นที่ผิดสังเกต เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม โดยหลอกว่าจะลงมือก่อเหตุตามห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ แต่ที่จริงจะลอบก่อเหตุในมัสยิด หรือศาสนสถานในพื้นที่ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางหน่วยข่าวแจ้งให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบแล้ว

    -"เทือก"ถกประเมินสถานการณ์

    ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสก่อเหตุรุนแรงในช่วงปีใหม่ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ โดยมีตำรวจเป็นหน่วยงานหลัก จากการประเมินเชื่อว่าสาเหตุหลักหากมีสถาน การณ์ก็มาจากการเมือง จึงมีคำสั่งพิเศษให้เฝ้าจับตาการเคลื่อนไหวต่างๆ แต่คิดว่าทุกฝ่ายมีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง คงไม่มีอะไรออกนอกลู่นอกทาง ส่วนพื้นที่เสี่ยงนั้นไม่ได้เน้นเป็นพิเศษ แต่ระวังทุกแห่งที่มีความเป็นไปได้ อย่าไปบอกเลยว่าอ่อนไหวที่สุดตรงไหน เพราะมีหลายแห่งที่อ่อนไหว

    ด้านนายสุเทพกล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ เชื่อว่าช่วงเทศกาลปีใหม่คงไม่มีปัญหา และประชาชนคงเฉลิมฉลองได้อย่างมีความสุข แต่ไม่ควรประมาท หากพบอะไรผิดปกติหรือผิดหูผิดตาขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่

    -กำชับตำรวจห้ามขาด-ลางาน

    รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่ได้ซักซ้อมทุกฝ่ายมีความพร้อมดูแลบ้านเมือง และประชาชนให้ดีที่สุด โดยพื้นที่ กทม.ทางบช.น.ร่วมกับ กทม.ประสานความร่วมมือดูแลความปลอดภัย มีทหารเป็นหน่วยสนับสนุนช่วยดูแลด้านการจราจร และด้านอื่นๆ จะเน้นคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นพิเศษ ส่วนต่างจังหวัดนั้นกำชับผบช.ภาค และผบก.ทุกจังหวัดดำเนินการเต็มที่ โดยตำรวจต้องห้ามลาและขาดงาน ในช่วงเทศกาลปีใหม่อาจทำให้ประชาชนรู้สึกอึดอัดบ้าง เพราะอาจตั้งจุดตรวจหลายพื้นที่ อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจ

    ต่อข้อถามว่ามีกระแสข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะออกมาสร้างความวุ่นวายช่วงปีใหม่ นายสุเทพกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงควรตระหนักให้ดีว่า ถ้าก่อเหตุช่วงนี้ประชาชนคงเสียความรู้สึก แต่เราต้องระมัดระวัง เพราะอาจมีบางกลุ่มฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มก่อความไม่สงบอาจก่อเหตุในภาคใต้ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องเพิ่มความระวังทุกจุด อีกทั้งต้องฝากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย

    -วัดบวรฯลั่นฆ้องชัยรับปีใหม่

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงรอยต่อของคืนวันที่ 31 ธ.ค.2552 ถึงวันที่ 1 ม.ค.2553 ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปรากฏว่ามีหลายวัดสำคัญในกรุงเทพฯ ต่างจัดพิธีทางสงฆ์ และสวดเจริญพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยพระราชสุมนต์มุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เปิดเผยว่า พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. คณะสงฆ์วัดบวรนิเวศฯ สวดเจริญพระพุทธมนต์ และทำน้ำพระพุทธมนต์ โดยมีสมเด็จพระวันรัต ผู้รักษาการใหญ่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธาน

    พระราชสุมนต์มุนีกล่าวว่า ในพิธีจะมีการสวดสลับระหว่างคณะสงฆ์และฆราวาส ครั้นล่วงเข้าสู่วันที่ 1 ม.ค.2553 จะลั่นฆ้องชัยพร้อมกัน ก่อนที่สมเด็จพระวันรัตจะดับเทียนชัย และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่พุทธศาสนิก ชนที่มาร่วมงาน พร้อมทั้งแจกน้ำพระพุทธมนต์และวัตถุมงคล หลังจากเสร็จสิ้นพิธีประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธชินสีห์ และพระโต พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    -วัดชนะฯก็ร่วมจัดพิธีใหญ่

    ด้านพระราชวิมล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม กล่าวว่า พิธีเริ่มขึ้นในเวลา 22.30 น. วันที่ 31 ธ.ค.เป็นต้นไป ประกอบด้วย การเจริญจิตภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ การแสดงพระธรรมเทศนา พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในการนี้สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และกรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวบรรยายธรรม และอำนวยพรในโอกาสวันขึ้นปีใหม่แก่พุทธศาสนิกชน

    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม กล่าวต่อว่า จากนั้นคณะสงฆ์จะสวดเจริญพระพุทธมนต์ จนกระทั่งล่วงเข้าสู่วันที่ 1 ม.ค.2553 จะลั่นฆ้องชัยพร้อมกัน ก่อนที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์จะประกอบพิธีประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงาน หลังจากเสร็จสิ้นพิธี ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดชนะสงคราม เพื่อความเป็นสิริมงคล

    -"วัดสระเกศ"มีพิธีแบบโบราณ

    ขณะที่พระครูปลัดสุวัฒนธีรคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ม.ค. 2553 มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เถลิงศกใหม่สยามรัตนโกสินทร์ 2553 โดยจะมีพิธีสวดนพเคราะห์ เป็นการสวดมนต์แบบโบราณที่วัดสระเกศ เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และในพิธีนี้จะประกอบพิธีปลุกเสกน้ำมนต์มหาสมัยสูตร เป็นน้ำมนต์ที่ปลุกเสกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 และทางวัดยังเก็บหัวเชื้อของน้ำมนต์ไว้ มีอายุถึง 170 ปี มาทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง เพื่อแจกพร้อมกับผ้ายันต์มงคลให้แก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าวต่อว่า งานเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. จะเปิดโบราณสถานของวัดสระเกศให้ประชาชนได้เข้าชม โดยเฉพาะวิหารพระอัฏฐารสฯ เป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปประจำสมเด็จพระนเรศวร ปกติจะไม่เปิดให้ชม จากนั้นเวลา 22.00 น.จะเริ่มเข้าสู่พิธี โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานนำเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา ถวายพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระพุทธมนต์รับปีใหม่ และเวลา 00.00 น. คณะสงฆ์วัดสระเกศเจริญชัยมงคลคาถารับปีใหม่ พร้อมทั้งประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่ประชาชน

    -"พุทธมณฑล"ทำบุญตักบาตร

    ส่วนพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยาน นาวา และกรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 19.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา เพื่อให้คติธรรมข้อคิด เพื่อเป็นแนวทางสำหรับดำเนินชีวิตในปีใหม่ 2553 จากนั้นมีกิจกรรมที่สำคัญ คือ สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าแบบวิถีไทยต้อนรับปีใหม่แบบวิถีพุทธ จนถึงเวลาเที่ยงคืน เมื่อเข้าสู่รุ่งเช้าของวันที่ 1 ม.ค.2553 ตั้งแต่เวลา 06.30 น.เป็นต้นไป จะมีพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร 53 รูป ที่บริเวณพระบรมราชานุ สาวรีย์รัชกาลที่ 3 วัดยานนาวา ในโอกาสนี้จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี และร่วมทำบุญได้ตามวันและเวลาดังกล่าว

    ด้านนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักพุทธฯ จัดให้มีงานทำบุญขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 ม.ค.2553 เวลา 07.00 น. พุทธศาสนิกชน พร้อมกันที่บริเวณรอบองค์พระประธานพุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม ร่วมทำบุญตัก บาตรพระสงฆ์ 10 รูป พิธีถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ พร้อมทั้งเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านไปร่วมทำบุญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลโดยพร้อมเพรียงกัน

    -ทางด่วนชานเมืองเปิดใช้ฟรี

    สำหรับการป้องกันปัญหาความไม่สงบ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เนื่องจากประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัดช่วงปีใหม่เป็นจำนวนมากนั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงาน เรื่องการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี และทางเชื่อมต่อพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและประหยัดเวลาของประชาชนผู้ใช้ทาง โดยกระทรวงคมนาคมมอบให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ไปพิจารณาความเหมาะสมของช่วงเวลาที่จะยกเว้นค่าผ่านทาง ก่อนได้ข้อสรุป คือในวันที่ 30 ธ.ค. เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 3 ม.ค. 2553 เวลา 24.00 น.

    -บขส.คุมเข้มโชเฟอร์เมาขับ

    ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ "ให้น้ำใจดีกว่าให้น้ำเมา ปีใหม่ไปให้ถึง" โดยนายประจักษ์กล่าวว่า ตระหนักถึงความสำคัญในความปลอดภัยของการขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากมีผู้โดยสารจำนวนมากที่ร่วมเดินทางไปด้วย หากเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้ง จะเกิดความสูญเสียจำนวนมาก ดังนั้น การรณรงค์เมาไม่ขับในครั้งนี้ หวังว่าจะทำให้ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ตระหนักถึงความสำคัญกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารและองค์กร

    รมช.คมนาคม กล่าวว่า กำชับให้กรมการขนส่งทางบกและบ.ข.ส. ดูแลสภาพรถโดยสารให้มีความพร้อม หากพบว่าสภาพรถไม่พร้อมให้บริการ ต้องให้หยุดทันที และสั่งให้ไปแก้ไขให้พร้อมให้บริการ จึงจะสามารถนำกลับมารับผู้โดยสารได้ ส่วนกรณีค่าโดยสารนั้น หากผู้โดยสารพบว่าค่าโดยสารไม่ถูกต้อง หรือถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งได้ที่จุดตรวจให้บริการกรมการขนส่งทางบก, บ.ข.ส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ให้บริการตลอดเส้นทาง

    -มั่นใจรถเพียงพอ-ไม่มีผู้ตกค้าง

    ด้านนายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงตั้งเต็นท์อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้ทางบนถนนหลวงทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังจัดตั้งหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินบนทางหลวง เพื่อแก้ปัญหาจราจรหากเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ใช้ทางสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ กรมทางหลวง หมายเลข 1586 และคอลเซ็น เตอร์ ศูนย์บริการข้อมูลทางหลวงพิเศษ หมาย เลข 0-2533-6111 ตลอด 24 ชั่วโมง, ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม หมายเลข 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง สายด่วนตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง และสายด่วนตำรวจจราจร หมายเลข 1197 ตลอด 24 ชั่วโมง

    ส่วนนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.ข.ส. กล่าวว่า จากการสำรวจประชาชนที่เดินทางมาใช้บริการรถโดยสาร บ.ข.ส. เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้มาใช้บริการต่ำกว่าที่ได้ประมาณไว้ 20 เปอร์ เซ็นต์ ปริมาณผู้โดยสารที่สถานีบ.ข.ส.ไม่แออัดเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ในวันที่ 29-30 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารที่มาใช้บริการประมาณ 200,000 คนต่อวัน จัดเตรียมรถไว้อย่างเพียงพอ วันละ 5,200 เที่ยววิ่ง ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีขนส่งอย่างแน่นอน

    -มิตรภาพสระบุรี-โคราชรถแน่น

    สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดต่างๆ นั้น จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพการจราจรบนถนนหลายสายที่ออกจากตัวเมืองนครราชสีมา มุ่งหน้าไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วภาคอีสานรถ เริ่มหนาแน่นในบางช่วง แต่รถยังสามารถเคลื่อนตัว และทำความเร็วได้เป็นปกติ ขณะที่ถนนมิตรภาพจาก จ.สระบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.นครราชสีมา มีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น เนื่อง จากประชาชนทยอยกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ส่วนที่สถานีขนส่ง จ.นครราชสีมา ทั้ง 2 แห่ง มีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทางขนส่งจังหวัด เตรียมเที่ยวรถไว้ให้บริการ โดยเพิ่มเที่ยวรถโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา จากเดิม 200 เที่ยวต่อวัน เป็น 500 เที่ยวต่อวันในช่วงปีใหม่

    ขณะที่ จ.ศรีสะเกษ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงปีใหม่ โดยเน้นย้ำให้นายอำเภอ และผกก.ทุกอำเภอ เป็นเจ้าภาพหลักรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตั้งเป้าหมายลดจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ให้ลดลงจากปีใหม่ พ.ศ.2552 ให้ได้ร้อยละ 5 ตามนโยบายของรัฐบาล

    -เพิ่มกำลังคุ้มกันรถไฟ3จว.ใต้

    ส่วนที่ จ.สงขลา พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองสงขลา กล่าวว่า สั่งการให้เน้นตรวจค้นอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด การโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยาน ยนต์ รวมทั้งการคุมเข้มการก่อเหตุร้ายของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด 4 มุมเมือง ตลอด 24 ชั่วโมง เน้นเส้นทางขาเข้า-ออก เพื่อป้องกันเหตุร้าย และลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่

    ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผอ.ศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สนธิกำลังทั้งตำรวจรถไฟ ทหาร และอส. รถไฟ รักษาความปลอดภัยบนขบวนรถ เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่เกิน 6 นาย เป็น 10-12 นายต่อขบวน เพื่อให้การตรวจสอบสิ่งผิดปกติต่างๆ บนรถไฟทั่วถึงยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในการเดินทางช่วงปีใหม่ ทุกขบวนเต็มจนถึงวันที่ 4 ม.ค. เหลือเฉพาะชั้น 3 เท่านั้น การเดินรถในพื้นที่ 3 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ จะใช้หัวรถจักรหุ้มเกราะทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย

    แม้วแค้นฉายาชูชกขายชาติส่งทนายฟ้องเทพไท

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายอุดม โปร่งฟ้า ทีมทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ ในข้อหากระทำความผิด ฐานหมิ่นประมาทใส่ความพ.ต.ท.ทักษิณ จากกรณีที่นายเทพไทตั้งฉายาพ.ต.ท.ทักษิณว่า “ชูชกขายชาติ” โดยระบุว่ากินทุกอย่างที่ขวางหน้า จนเกิดรัฐประหาร และต่อมายังสมคบสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขายชาติ ทรยศชาติ จึงขอให้ระวังท้องแตกตาย”

    นายอุดม กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทีมทนายต้องดำเนินการเรื่องนี้ เพราะเห็นว่านายเทพไท ได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ทำหน้าที่โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับมีพฤติกรรมชอบพูดจาใส่ความผู้อื่นด้วยความเท็จ บิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นคนทุจริตคอรัปชั่น ถือเป็นการใส่ร้ายให้ได้รับความเสียหาย ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนไทยคนหนึ่งที่รักประเทศ ไม่เคยแม้แต่จะคิดทำอะไรที่เป็นการขายชาติ หรือทรยศดังที่นายเทพไทใส่ร้าย ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ รับตำแหน่งที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา ก็เพื่อประโยชน์ทั้งแก่ประเทศไทยกัมพูชาและประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยกระทำใดๆให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ จึงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของนายเทพไท กระทำของนายเทพไท ถือเป็นการกระทำของนายอภิสิทธิ์เพราะเป็นคนแต่งตั้งนายเทพไทเป็นโฆษกประจำตัว ตามหลักกฎหมายว่าด้วยตัวการตัวแทน ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ และหากไม่รับผิดชอบทีมทนายความก็จะพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายอภิสิทธิ์ต่อไป

    “พ.ต.ท.ทักษิณให้ประกาศเตือนบุคคล หรือนิติบุคคลที่ยังกระทำการใดๆ ที่เป็นการใส่ร้ายป้ายสีพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติยศ ให้หยุดการกระทำเสีย หากไม่หยุดทีมทนายจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทั้ง

    พระสมเด็จสะทานเพชร มงคล"สมเด็จพระสังฆราช"



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในดิถีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2553 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระสมเด็จให้สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มอบให้พุทธศาสนิกชนที่เข้ามาถวายพระพรแด่พระองค์ท่านในดิถีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

    พระสมเด็จที่โปรดให้สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชมอบให้พุทธศาสนิกชน ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้คือ "พระสมเด็จสะทานเพชร"

    พระสมเด็จรุ่นนี้สร้างขึ้นเป็นพิเศษ มีความงดงามด้านศิลปะและผงพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์หลายประการ ด้านศิลปะ เป็นพุทธศิลป์แบบพระพุทธรูปทรงเครื่องพระจักรพรรดิ ศิลปะรัตนโกสินทร์ประยุกต์ ปางมารวิชัย พระหัตถ์ถือวัชระ

    มุมด้านบนจารึกอักษรขอม อ่านว่า อรหัง ฐานด้านล่างจารึกพระนามสมเด็จพระญาณสังวร ด้านหลังประดิษฐานตรา 8 รอบ 96 ปี

    พระนามของพระสมเด็จสะทานเพชรนี้ได้มาจากสูตรทำพระผงโบราณ เมื่อประมาณ 450 ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นสูตรของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสี 2 พระองค์ คือ พระสังฆราชสุมังคลาโพธิวิริยะเจ้า (พ.ศ. 2106) และพระมหาอินทรวัชสังวรเจ้า (พ.ศ.2115) <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ทั้ง 2 รูป สถิต ณ วัดถ้ำสุวรรณคูหา เป็นพระมหาเถระเจ้าของเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน หรือ จ.หนองบัว ลำภู ในปัจจุบัน

    ซึ่งได้มีพระธุดงคกัมมัฏฐาน นำมามอบให้สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช พร้อมกับผงพระพุทธคุณสะทานเพชรจากถ้ำสุวรรณคูหา เพื่อเป็นส่วนผสมของพระสมเด็จสะทานเพชรที่ประทานแก่พุทธศาสนิกชนในครั้งนี้

    สูตรผงพุทธคุณสะทานเพชรนี้ เป็นสูตรผงพุทธคุณโบราณ เชื่อว่า ผู้ที่ได้พระสมเด็จที่สร้างจากสูตรดังกล่าวจะเกิดพุทธานุภาพแก่ผู้เป็นเจ้าของหลายประการ เช่น ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ค้าขายร่ำรวย ปกป้องคุ้มครองจากสรรพอันตรายทั้งปวง ทั้งนี้ เพราะผ่านการปลุกเสกของพระสังฆราชเจ้าฝ่ายอรัญวาสีทั้ง 2 พระองค์

    ส่วนผสมอื่นๆ ของพระสมเด็จสะทานเพชร เช่น ผงพุทธคุณจากถ้ำตะโกพุทธโสภา เขาสมอคอน จ.ลพบุรี อันเป็นถ้ำบำเพ็ญเพียรของสุกทันตฤาษี ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพ่อขุนรามคำ แหง พ่อขุนเม็งราย และพ่อขุนงำเมือง เมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งต่อมาถ้ำแห่งนี้ได้เป็นที่บำเพ็ญเพียรของพระอาจารย์เพา พุทธสโร พระอาจารย์กัมมัฏฐานชื่อดังในสมัยรัชกาลที่ 5 <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผงดอกมณฑาทิพย์จากวัดไลย์ จ.ลพบุรี เชื่อว่าเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาจากสรวงสวรรค์ เป็นดอกไม้ที่ใช้บูชาพระศรีอริยเมตไตรย เป็นดอกไม้มงคลอันหาได้ยากยิ่ง

    ผงพุทธคุณจากพระผงเก่าที่ชำรุด เช่น พระผงสมเด็จวัดระฆัง พระผงสมเด็จบางขุนพรหม พระผงสมเด็จกลีบบัว พระผงสมเด็จอรหัง และผงพระพุทธคุณจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายรูป เช่น ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเพา พุทธสโร วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา จ.ลพบุรี, หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี เป็นต้น

    อนึ่ง เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานผงพุทธคุณที่พระองค์ท่านทรงประกอบพิธีอธิษฐานจิตแผ่เมตตาเป็นเวลานานหลายปี ให้นำมาผสมในการสร้างพระสมเด็จสะทานเพชรในครั้งนี้ด้วย

    พระสมเด็จสะทานเพชร เป็นพระผงมี 2 ขนาดคือ พิมพ์เล็กเป็นพระผงของขวัญขนาดกว้าง 1.9 เซนติเมตร ยาว 2.5 เซนติเมตร และหนา 0.5 เซนติเมตร และพิมพ์ใหญ่เท่ากับพระสมเด็จวัดระฆัง คือ ขนาด 2.5 เซนติเมตร ยาว 3.5 เซนติเมตร และหนา 0.5 เซนติเมตร

    จำนวนสร้างพิมพ์ละ 84,000 องค์เท่ากับพระธรรมขันธ์

    โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกในโอกาสต่างๆ หลายครั้ง ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ในปีมหามงคลเฉลิมฉลองพระชันษาครบ 8 รอบ 96 ปี ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในปี 2552

    พระราชรัตนมงคล ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า เนื่องในวาระดิถีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2553 นี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระสมเด็จให้สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มอบให้พุทธศาสนิกชนที่เข้ามาถวายพระพรแด่พระองค์ท่านในดิถีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แบ่งเป็น 2 แห่ง คือ วัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ และที่ชั้น 6 อาคารสามัคคีพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

    โดยเริ่มประทานพระสมเด็จสะทานเพชร ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2553

    ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่าและเป็นมงคลยิ่งแด่คนไทย ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2553
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    แนะนำให้ไปเคาน์ดาวน์ปีใหม่แบบชาวธรรมกันครับ

    มีหลายวัดหลายสถานที่ จัดพิธีมงคลรับปีใหม่กัน

    -วัดไตรมิตร มีฉลองมหาวิหาร พระพุทธรูปทองคำและการปฏิบัติธรรม

    -วัดปทุนวนาราม ระหว่างพารากอนกับเซ็นทรัลเวิลล์ มีปฏิบัติธรรม ข้ามคืน

    -วัดดอกไม้ สาธุประดิษฐ์มี การเจริญกรรมฐาน ปฏิบัติเนสัชชิก(ไม่นอน เพื่อปฏิบัติบูชา)

    และอีกมากมายหลายแห่งครับ

    หากเราไปเที่ยวดึกดื่น อดหลับอดนอนได้

    ลองสักครั้งที่เรา ปฏิบัติธรรมทั้งคืนพิสูจน์ใจเราดูว่า ยอมสละความสบายเพื่อความดีเราทำได้ไหม

    -วัดบวรฯลั่นฆ้องชัยรับปีใหม่

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงรอยต่อของคืนวันที่ 31 ธ.ค.2552 ถึงวันที่ 1 ม.ค.2553 ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปรากฏว่ามีหลายวัดสำคัญในกรุงเทพฯ ต่างจัดพิธีทางสงฆ์ และสวดเจริญพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยพระราชสุมนต์มุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เปิดเผยว่า พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. คณะสงฆ์วัดบวรนิเวศฯ สวดเจริญพระพุทธมนต์ และทำน้ำพระพุทธมนต์ โดยมีสมเด็จพระวันรัต ผู้รักษาการใหญ่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธาน

    พระราชสุมนต์มุนีกล่าวว่า ในพิธีจะมีการสวดสลับระหว่างคณะสงฆ์และฆราวาส ครั้นล่วงเข้าสู่วันที่ 1 ม.ค.2553 จะลั่นฆ้องชัยพร้อมกัน ก่อนที่สมเด็จพระวันรัตจะดับเทียนชัย และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่พุทธศาสนิก ชนที่มาร่วมงาน พร้อมทั้งแจกน้ำพระพุทธมนต์และวัตถุมงคล หลังจากเสร็จสิ้นพิธีประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเข้าไปกราบนมัสการพระ พุทธชินสีห์ และพระโต พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    -วัดชนะฯก็ร่วมจัดพิธีใหญ่

    ด้านพระราชวิมล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม กล่าวว่า พิธีเริ่มขึ้นในเวลา 22.30 น. วันที่ 31 ธ.ค.เป็นต้นไป ประกอบด้วย การเจริญจิตภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ การแสดงพระธรรมเทศนา พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในการนี้สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และกรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวบรรยายธรรม และอำนวยพรในโอกาสวันขึ้นปีใหม่แก่พุทธศาสนิกชน

    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม กล่าวต่อว่า จากนั้นคณะสงฆ์จะสวดเจริญพระพุทธมนต์ จนกระทั่งล่วงเข้าสู่วันที่ 1 ม.ค.2553 จะลั่นฆ้องชัยพร้อมกัน ก่อนที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์จะประกอบพิธีประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่พุทธ ศาสนิกชนที่มาร่วมงาน หลังจากเสร็จสิ้นพิธี ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดชนะสงคราม เพื่อความเป็นสิริมงคล

    -"วัดสระเกศ"มีพิธีแบบโบราณ

    ขณะที่พระครูปลัดสุวัฒนธีรคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ม.ค. 2553 มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เถลิงศกใหม่สยามรัตนโกสินทร์ 2553 โดยจะมีพิธีสวดนพเคราะห์ เป็นการสวดมนต์แบบโบราณที่วัดสระเกศ เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และในพิธีนี้จะประกอบพิธีปลุกเสกน้ำมนต์มหาสมัยสูตร เป็นน้ำมนต์ที่ปลุกเสกมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 และทางวัดยังเก็บหัวเชื้อของน้ำมนต์ไว้ มีอายุถึง 170 ปี มาทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง เพื่อแจกพร้อมกับผ้ายันต์มงคลให้แก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าวต่อว่า งานเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. จะเปิดโบราณสถานของวัดสระเกศให้ประชาชนได้เข้าชม โดยเฉพาะวิหารพระอัฏฐารสฯ เป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปประจำสมเด็จพระนเรศวร ปกติจะไม่เปิดให้ชม จากนั้นเวลา 22.00 น.จะเริ่มเข้าสู่พิธี โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานนำเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา ถวายพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระพุทธมนต์รับปีใหม่ และเวลา 00.00 น. คณะสงฆ์วัดสระเกศเจริญชัยมงคลคาถารับปีใหม่ พร้อมทั้งประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่ประชาชน

    -"พุทธมณฑล"ทำบุญตักบาตร

    ส่วนพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยาน นาวา และกรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 19.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา เพื่อให้คติธรรมข้อคิด เพื่อเป็นแนวทางสำหรับดำเนินชีวิตในปีใหม่ 2553 จากนั้นมีกิจกรรมที่สำคัญ คือ สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าแบบวิถีไทยต้อนรับปีใหม่แบบวิถีพุทธ จนถึงเวลาเที่ยงคืน เมื่อเข้าสู่รุ่งเช้าของวันที่ 1 ม.ค.2553 ตั้งแต่เวลา 06.30 น.เป็นต้นไป จะมีพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร 53 รูป ที่บริเวณพระบรมราชานุ สาวรีย์รัชกาลที่ 3 วัดยานนาวา ในโอกาสนี้จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี และร่วมทำบุญได้ตามวันและเวลาดังกล่าว

    ด้านนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักพุทธฯ จัดให้มีงานทำบุญขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 ม.ค.2553 เวลา 07.00 น. พุทธศาสนิกชน พร้อมกันที่บริเวณรอบองค์พระประธานพุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม ร่วมทำบุญตัก บาตรพระสงฆ์ 10 รูป พิธีถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ พร้อมทั้งเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านไปร่วมทำบุญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลโดยพร้อมเพรียงกัน
     
  8. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    30 ธ.ค. 52

    2หัว 1ร่าง

    ปัญหาของ สอสอ

    องค์อินทร์_ ๙๗


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ








    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
  9. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    ข่าว: ตื่น จันทรคราส คืนสิ้นปี โหรเตือน-ภัยพิบัติปี 53



    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

    เผยคืนรอยต่อปีเก่า-ปีใหม่ 31 ธ.ค. ต่อเนื่อง 1 ม.ค. 53 จะมีปรากฏการณ์จันทรคราสบางส่วนนาน 1 ชั่วโมง นักดาราศาสตร์ชี้เป็นแค่เสี้ยวจันทรคราสที่แทบมองไม่เห็น ให้รอลุ้นสุริยคราส 15 ม.ค. 53 ดีกว่า แต่ในส่วนโหราศาสตร์ โหรดังอย่าง”อรรถวิโรจน์” ชี้เป็นปรากฏการณ์ที่อาจส่งผลทางร้ายต่อดวงโลก ทั้งภัยธรรมชาติและภัยเศรษฐกิจ
    เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บ ไซต์สมาคมดาราศาสตร์ไทย (thaiastro.nectec. or.th) ระบุการเกิดอุปราคาครั้งสุดท้ายของปี 2552 เป็นจันทรุปราคาบางส่วน เกิดขึ้นในช่วงหลังเที่ยงคืนของคืนวันพฤหัสบดีที่ 31 ธ.ค. 2552 เข้าสู่เช้ามืดวันศุกร์ที่ 1 ม.ค. 2553 ตามเวลาประเทศไทย (ยังเป็นวันที่ 31 ธ.ค. ค.ศ.2009 ตามเวลาสากล) พื้นที่บนโลกที่เห็นจันทรุปราคาครั้งนี้
    ได้แก่ ทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชีย และตะวันตกของออสเตรเลีย ทวีปเอเชียและออส เตรเลียเห็นปรากฏการณ์ในเช้ามืดวันที่ 1 ม.ค. 2553 ขณะดวงจันทร์เคลื่อนต่ำลงบนท้องฟ้าทิศตะวันตก ทวีปยุโรปและแอฟริกาเห็นในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ขณะดวงจันทร์เคลื่อนสูงขึ้นบนท้องฟ้าทิศตะวันออก
    ประเทศไทยเริ่มเห็น ดวงจันทร์แหว่งในเวลา 01.53 น. ขณะดวงจันทร์มีมุมเงยประมาณ 70 องศา ทางทิศตะวันตก เงามืดเข้าบังดวงจันทร์ลึกที่สุดในเวลา 02.23 น. ด้วยขนาดเพียง 8% ของเส้นผ่านศูนย์กลางดวงจันทร์ ขณะนั้นดวงจันทร์อยู่สูงประมาณ 60 องศา ดวงจันทร์กลับมาสว่างเต็มดวงอีกครั้งในเวลา 02.53 น. รวมเกิดจันทรุปราคาบางส่วนนาน 1 ชั่วโมง
    นายสิทธิชัย จันทรศิลปิน นักวิชาการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาท้องฟ้าจำลอง กล่าวว่า ปรากฏการณ์ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2552 ล่วงเข้าสู่วันที่ 1 ม.ค. 2553 จะเกิดจันทรุปราคาบางส่วนเพียงนิดเดียว มองดูแทบไม่ออก ดวงจันทร์จะแหว่งนิดหนึ่งถ้าเทียบเป็นสัดส่วนคงลำบาก
    โดยดวงจันทร์จะเคลื่อนเข้าเงามัวของโลก แต่เราดูไม่ออก เพราะดวงจันทร์ยังคงสว่างอยู่มาก จนกระทั่งดวงจันทร์เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลกในเวลาประมาณตี 2 จะเห็นดวงจันทร์มีลักษณะเว้าแหว่งเพียงนิดเดียว
    นายสิทธิชัยกล่าวต่อ ว่า ปรากฏการณ์จันทรุ ปราคาครั้งนี้ดูได้ทั่วประเทศ แต่อาจมองไม่รู้ เพราะเกิดขึ้นเพียงนิดเดียวเหมือนเฉือนผิวส้ม ไม่มีอะไรพิเศษ ในทางดาราศาสตร์นั้นเกิดขึ้นจริง แต่การสังเกตไม่เร้าใจเท่าไร แต่ในวันที่ 15 ม.ค. 2553 จะเกิดสุริยุปราคา เวลาประมาณบ่าย 2 โมงจนถึงช่วงเย็น อันนี้น่าดูมากกว่า จะเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่ง แต่การดูต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
    น.อ.ฐากูร เกิดแก้ว หัวหน้าโครงการศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (LESA) กล่าวว่า การเกิดจันทรุปราคาหนนี้ไม่ใช่จันทรุ ปราคาเต็มดวง แค่หมอง ซึ่งหมายถึงดวงจันทร์ไม่ได้มืดเต็มดวง จึงไม่น่าสนใจ และโปรโมตไม่ค่อยได้
    สำหรับในแง่มุมของนักโหราศาสตร์นั้น พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา นักโหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าวว่า สำหรับปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงคืนวันที่ 31 ธ.ค. 52 ถึงเช้ามืดวันที่ 1 ม.ค. 53 และวันที่ 15 ม.ค. 53 ถือเป็นลางบอกเหตุไม่ดี ที่จะเกิดขึ้นกับโลกและประเทศไทย เพราะจันทรุปราคา มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า จันทรคราส ซึ่งคำว่า “คราส” แปลว่า ความรุนเเรง
    ในส่วนของโลกนั้น ให้จับตาดู 2 เรื่อง คือ ความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ และเรื่องของภาวะเศรษฐกิจโลก ในเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตินั้น ให้จับตาดูในเรื่อง แผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด ทั้งนี้เป็นเพราะว่า เมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงอยู่ในแนวเดียวกันพอดี
    จะทำให้เกิดพลังงานแม่เหล็กที่มีผลกระทบต่อโลก โดยในอดีตก็มีเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่มาแล้ว คือ สึนามิ ในส่วนของภาวะเศรษฐกิจโลก อาจเกิดเหตุภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย เงินดอลลาร์ตก คนตกงาน ข้าวของแพง และผู้คนอดอยาก
    “ทั้งนี้ ยังต้องจับตาดู ในเรื่องของการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงด้วย เพราะในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก็มีบุคคลที่มีชื่อเสียงเสียชีวิต ล่าสุดได้เกิดกับบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่างไมเคิล แจ๊กสัน” นักโหราศาสตร์กล่าว
    ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยนั้น โหรชื่อดังระบุว่า ตามหลักโหราศาสตร์จะต้องดูลัคนาราศีด้วย โดยเดือนธ.ค. จะตรงกับราศีธนู ที่หมายถึง “ศาสนาและคุณธรรม” จึงอยากให้มองประเด็นไปที่จิตใจคน เพราะเมื่อคนไม่ละอายต่อบาป หรือไม่ปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนา ก็จะไม่มีคุณธรรม จิตใจก็จะเสื่อม ทำให้ขาดจิตใต้สำนึก ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา
    จึงอยากให้จับตาดูในเรื่องที่เกี่ยวข้อง คือ สังคมและเศรษฐกิจ โดยในปี”53 จะเป็นปีที่ต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างในอดีต ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเพราะดวงคนมีความผูกพันกับดวงดาว
    วิธีแก้ไข ควรทำการบวงสรวงและสวดดวงชะตาดวงเมือง โดยมีพระสงฆ์ 108 รูป และพราหมณ์ในการทำพิธี เพื่อปัดเป่าเภทภัยให้ทุเลาลง” พ.ต.อ.อรรถวิโรจน์กล่าวและว่า ขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เสียสละ และมีความสามัคคี เพื่อให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดี

    -------------------------------------------------------------
    ออสเตรเลียประกาศเขตภัยพิบัติ-ไฟป่าเผาบ้านวอดแล้ว 40 หลัง
    [​IMG]
    ออสเตรเลีย 31 ธ.ค.-ไฟป่าทางภาคตะวันตกของออสเตรเลียเผาผลาญบ้านเรือนอย่างน้อย 40 หลังคาเรือน จนทางการท้องถิ่นต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ

    นับตั้งแต่คืนวานนี้ไฟป่าได้เผาทำลายบ้านเรือนประชาชนไปแล้ว 40 หลังทั้งในและใกล้กับเมืองแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเพิร์ท เมืองเอกของรัฐเวสต์เทิร์นออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยและประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติ หลังไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วมากกว่า 80,000 ไร่ ยังไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมได้
    ขณะที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 นายได้รับบาดเจ็บจากการสูดหายใจเอาควันไฟเข้าไป ส่วนอีกคนเข้ารับการรักษาจากอาการป่วย เนื่องจากเผชิญความร้อนจากไฟป่า นอกจากนี้ ยังพบปศุสัตว์ล้มตายจากไฟคลอกและความร้อนของไฟป่าอีกจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

    อัพเดตเมื่อ 2009-12-31 03:26:39

    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสังหารพลเรือนอเมริกันในอัฟกานิสถาน
    คาบูล 31 ธ.ค.-เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ฐานทัพทางตะวันออกเฉียงใต้ของอัฟกานิสถาน ทำให้พลเรือนชาวอเมริกันเสียชีวิต 8 คน นับเป็นการเสียชีวิตของพลเรือนชาวต่างชาติมากที่สุดครั้งหนึ่งในช่วง 8 ปี ของการทำสงครามในอัฟกานิสถาน

    เหตุเกิดขึ้นที่ฐานปฏิบัติการส่วนหน้าแชปแมน ในจังหวัดโกสต์ ใกล้ชายแดนปากีสถาน ฐานทัพแห่งนี้เป็นศูนย์การทำงานของพลเรือนในโครงการก่อสร้าง รายงานหลายกระแสระบุว่ามือระเบิดสวมเสื้อกั๊กผูกระเบิดในการโจมตี แต่บางกระแสกลับบอกว่าการโจมตีเกิดขึ้นในโรงพลศึกษาที่ฐานทัพแห่งนี้ ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่ามีจำนวนผู้บาดเจ็บกี่คน
    เจ้าหน้าที่ของกองทัพสหรัฐและองค์การนาโต กล่าวว่า ไม่มีทหารสหรัฐหรือจากกองกำลังนานาชาติสังกัดองค์การนาโต เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการโจมตี แต่เกิดคำถามตามมาถึงความปลอดภัยของฐานปฏิบัติการส่วนหน้าของสหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งความปลอดภัยต่อพลเรือนชาวต่างชาติที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือและพัฒนาในอัฟกานิสถาน ซึ่งพลเรือนเหล่านี้จะทำงานเคียงคู่ไปกับทีมบูรณะฟื้นฟูของกองทัพในฐานทัพต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2009
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "สัญญาณฟ้า"
    ปี 2553 เกิด 5 ครั้ง!!

    [​IMG]

    อุปราคา 'ลางอันตราย'

    เข้าสู่วันสุดท้ายของปีเก่า 2552 ก่อนจะก้าวผ่านสู่ปีใหม่ 2553 ในคืนรอยต่อข้ามปี...บนท้องฟ้าจะมีปรากฏการณ์ “อุปราคา” เกิดขึ้น และจากนั้นในรอบปี 2553 ก็จะมีอุปราคาอีก 4 ครั้ง รวมเป็น 5 ครั้ง ซึ่งอุปราคานี้ก็มีทั้งแบบที่เรียกว่า “สุริยุปราคา-สุริยคราส” และ “จันทรุปราคา-จันทรคราส”

    “อุปราคา” ในด้านหนึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติแห่งดาว

    ขณะที่ทางด้านโหราศาสตร์ถือเป็น “สัญญาณฟ้าที่ไม่ดี”

    ทั้งนี้ กับอุปราคา หรือทางโหรเรียกว่า “พระเคราะห์บังกัน” ในปี 2553 ในด้านของการเป็นสัญญาณจากฟ้า-จากดวงดาว ทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ มีคำทำนาย ทายทัก ดังนี้.....

    อุปราคาครั้งที่ 1 คืนส่งท้ายปีเก่า เกิดเวลา 02.14 น. วันที่ 1 ม.ค. 2553 เป็น “จันทรุปราคาแบบบางส่วน” คำทำนายโดยสรุปคือ...ต้องระวังเกิดความยุ่งยากเรื่องผู้ใช้แรงงาน เกิดการประท้วง เกิดอาชญากรรมมาก เกิดโรคระบาดหนัก เกิดความยุ่งยากในวงการศาสนา การศึกษา กฎหมาย แพทย์ อุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย เกิดลมพายุรุนแรง หนาวจัด การเดินทางขนส่งติดต่อสื่อสารเกิดปัญหา เกิดอัคคี ภัยใหญ่ วงการบันเทิงมีปัญหา สตรีและเด็กถูกละเมิดสิทธิรุนแรง เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญ อบายมุขเฟื่องฟู เกิดปัญหาสังคมมาก

    รัฐสภาจะตกต่ำ ถูกครอบงำโดยอิทธิพลและผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะคนต่างถิ่นต่างแดน คนหมู่มากเกิดวิวาทะ มีความคิดเห็นรุนแรง พร้อม ๆ กับมีการใช้กำลังอาวุธ

    อุปราคาครั้งที่ 2 วันที่ 15 ม.ค. 2553 เวลา 14.12 น. เกิด “สุริยุปราคาแบบวงแหวน” คำทำนายโดยสรุปคือ... ต้องระวังด้านการต่างประเทศ ในบางกรณีเกิดความผันแปรครั้งสำคัญทางการเมือง ดินฟ้าอากาศแปรปรวน พืชผล-เศรษฐกิจการค้าเสียหาย อุปราคาครั้งนี้เกิดในราศีมังกร ธาตุดิน ระวังการพังทลายของดิน อาคารบ้านช่อง อาณาเขตมีปัญหา การช่วงชิงผลประโยชน์เยี่ยงโจรเกิดขึ้นมากมายตามโจโรฤกษ์ที่แนวอุปราคาปรากฏ

    รัฐบาลคะแนนนิยมตกต่ำเพราะปัญหาเศรษฐกิจ คอร์รัปชั่น สุขภาพประชาชน เกิดปัญหาระหว่างชนชั้นมากขึ้น มีการโจมตีใส่ร้ายบุคคลสำคัญ เกิดการสูญเสีย-การตายเพราะความแตกแยก ต้อง ระวังการสูญเสีย-การลอบสังหารบุคคลสำคัญ การปฏิวัติรัฐประหาร อาจมีให้เห็นอีก

    อุปราคาครั้งที่ 3 เกิด 26 มิ.ย. เวลา 18.32 น. เกิด “จันทรุปราคาแบบบางส่วน” ในราศีธนู ธาตุไฟ คำทำนายโดยสรุปคือ... เมื่อเกิดอุปราคาขึ้นในฤกษ์นี้จะทำให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะ ที่สังคมจะมีการเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น ไม่เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและ กัน ไม่มีความเมตตาปรานี ขาดการประนีประนอม ต้องระวังเกิดความยุ่งยากเรื่องการชุมนุมประท้วงทางการเมือง แรงงาน เกิดคดีอาชญากรรมมากขึ้น เกิดพายุใหญ่ โรคภัยในคนและสัตว์ระบาดหนัก เกิดเชื้อโรคใหม่ วงการศาสนา ศึกษา แพทย์ กฎหมาย เกิดยุ่งยากสูญเสีย การเดินทางระวังเกิดอุบัติเหตุมาก

    ต้องระวังการเกิดไฟไหม้ครั้งสำคัญ เกิดเหตุการณ์สาธารณะ ที่ตื่นเต้น เกิดเหตุฆาตกรรมสำคัญ บางกรณีอาจเกิดการปะทะของกองกำลังต่าง ๆ และเกิดการตายของประชาชนและบุคคลสำคัญ

    อุปราคาครั้งที่ 4 เกิด 12 ก.ค. 2553 เวลา 02.42 น. เกิด “สุริยุปราคาเป็นสรรพคราส (มืดมิดดวง)” ในราศีมิถุน ธาตุลม คำทำนายโดยสรุปคือ... ต้องระวังเกิดลมพายุรุนแรง เกิดอุบัติเหตุ-ปัญหาทางการขนส่งคมนาคมการสื่อสาร รัฐสภาถูกครอบงำโดยอิทธิพล ผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากเรื่องกฎหมาย พรรคการเมืองแตกแยก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผันแปร ผู้นำ-ผู้ปกครองเกิดอันตราย บุคคลมีชื่อเสียงป่วยหนักหรือถึงแก่กรรม รัฐบาลจะใช้มาตรการที่เฉียบ ขาดเพื่อให้เกิดความยำเกรง กองทัพกองกำลังจะเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด

    ต้องระวังจะมีปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้น หรือเกิดอุบัติเหตุทำให้มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินครั้งสำคัญ มีอาชญา กรรมลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้น เกิดปัญหาลึกลับจากต่างด้าว

    อุปราคาครั้งที่ 5 เกิด 21 ธ.ค. 2553 เวลา 15.14 น. เกิด “จันทรุปราคาเป็นสรรพคราส (มืดมิดดวง)” ในราศีมิถุน ธาตุ ลม คำทำนายโดยสรุปคือ...ต้องระวังเกิดยุ่งยากเรื่องผู้ใช้แรงงาน เกิดอาชญากรรมมาก เกิดโรคระบาดหนัก มีความยุ่งยากในวงการศาสนา ศึกษา กฎหมาย แพทย์ เกิดอุบัติเหตุมาก เกิดลมพายุทำลายล้างรุนแรง เกิดวิวาทะรุนแรง การใช้กำลังอาวุธ วงการศาสนาเกิดการแตกแยก การคมนาคมขนส่งสื่อสารเกิดปัญหา

    วงการบันเทิง ศิลปิน มีปัญหา เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการ มีปัญหาระหว่างนายทุนกับผู้ใช้แรงงาน ธุรกิจขาดทุน งานบริการงานบันเทิงทรุดลง สุขภาพประชาชนถูกกระทบกระเทือน อบายมุขเฟื่องฟู ประชาชนจะลุ่มหลงในอบายมุขตามการโฆษณาชวนเชื่อ เกิดปัญหาสังคมขึ้นตามมามากมาย

    ที่ว่ามาก็เป็นคำพยากรณ์โดยสรุปเกี่ยวกับ “อุปราคา” ในปี 2553 ซึ่งทางโหรมีเกณฑ์ในการพยากรณ์ที่เป็นหลักการ แต่ด้วยพื้นที่จำกัดจึงไม่อาจแจกแจงได้หมด ทั้งนี้ ทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ยังระบุไว้ด้วยว่า.....

    “การเกิดของอุปราคาแต่ละครั้งจะมีผลต่อคนไทยทั้งสิ้น

    ไม่ว่าจะมองเห็นในประเทศไทยหรือไม่ก็ตาม ?!?!?”.

    ที่มา Daily News Online > ข่าวยามเช้า > ปี2553เกิด5ครั้ง!! 'สัญญาณฟ้า'
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2009
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    คำทำนายค่อนข้างจะรุนแรงมาก ผมจึงไม่อยากจะนำมาลงในกระทู้นี้ แต่สำหรับท่านที่สนใจคำทำนายของ โหรโสรัจจะ นวลอยู่ ที่ได้ทำนายเหตุการณ์เป็นรายเดือนในปี พ.ศ.2553 นี้จริงๆ ก็ขอเชิญคลิ๊กเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ

    ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=310&contentID=40183
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ec_url.jpg
      ec_url.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.5 KB
      เปิดดู:
      1,554
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปี ค.ศ.2018 เริ่มต้นยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์
    (King of Kings)

    [​IMG]
    [​IMG]

    ช่องที่ 10+ 4 หมายถึงช่วงเวลา 1,000 ปี ของพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์ king of kings) ตามรหัสเวลาจากคัมภีร์ใบเบิ้ล

    พระเจ้าจักรพรรดิ์ ตามความหมายที่แท้จริงหมายถึง ผู้ที่มีบุญญาธิการมากที่สุดในโลก เป็นผู้ที่สามารถปกครองคนได้ทั้งโลก โดยไม่ต้องใช้กำลังทหารหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆทั้งสิ้น ทรงใช้แต่หลักแห่งคุณธรรมและเมตตาธรรม ปกครองคนทั้งโลกนี้ให้ร่มเย็นเป็นสุข เป็นผู้เดียวที่สามารถรวมทุกศาสนาในโลกนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ไม่มีการแบ่งแยกเป็นศาสนาต่างๆ อีกต่อไป เพราะจะเหลืออยู่เพียงศาสนาเดียวที่คนนับถือเหมือนกันทั้งโลก ก็คือพระพุทธศาสนานี้นั่นเอง

    เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ทุกศาสนาต่างก็เชื่อว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์) คือบุคคลคนเดียวกับที่พวกเขารอคอยอยู่ เช่นในศาสนาคริสต์ก็เชื่อว่าเป็นพระเยซูเสด็จกลับมาเป็นครั้งที่ 2 เพื่อปกครองโลกนี้ ศาสนาอิสลามก็เชื่อว่าเป็นพระมะฮุดีย์ที่พวกเขารอคอยอยู่ ศาสนาฮินดูก็เชื่อว่าเป็นพระกัลกีย์ ที่จะมาปราบอธรรมให้หมดไปจากโลกใบนี้ ศาสนาพุทธก็เชื่อว่าเป็นพญาธัมมิกราชองค์ที่ 3 ตามพุทธทำนายในศิลาจารึกที่ประเทศอินเดีย ทุกศาสนาจึงพร้อมใจกันรับฟังคำสอนจากพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์)ท่านนี้ ทุกคนบนโลกนี้จึงสามารถหลอมรวมศรัทธาให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆอีกต่อไป ก็เพราะพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์)ท่านนี้นี่เอง​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2009
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สรุปสถานการณ์ต่างประเทศ ปี พ.ศ.2552

    [​IMG]

    ทำใจดีสู้เสือ หรือ จะหนีเสือปะจระเข้

    นภาพรวมแล้วเศรษฐกิจโลกปีนี้ รวมไปถึงแนวโน้มในปีหน้ายังไม่สดใสนัก รายงานล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน กองทุนการเงินระหว่างประทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลง จากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2.2 ส่วนปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วจะหดตัวร้อยละ 0.3 จากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 0.5

    เป็นการหดตัวของประเทศพัฒนาแล้วครั้งแรก หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกับปรับลดประมาณการณ์ของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา เช่น จีน ลดจากร้อยละ 9.3 เหลือ 8.5 นอกจากแนวโน้มเศรษฐกิจไม่สดใสแล้ว คาดกันว่าปีหน้าราคาสินค้าเกษตรจะปรับขึ้นแน่นอน เป็นผลจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลายประเทศในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำท่วมหลายครั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลง

    สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) คาดการณ์ว่า สถานการณ์ข้าวปีหน้าแม้ไม่ถึงขั้นขาดแคลนแต่ราคาจะสูงขึ้น หากมองในแง่ของการเป็นประเทศส่งออกข้าวมากที่สุดในโลกอาจถือเป็นปีทองของเกษตรกรไทย แต่หากมองเรื่องเสถียรภาพด้านอาหารและค่าครองชีพ ภาพผู้คนแห่ซื้อข้าวและอาหารไว้กักตุนเหมือนปี 2551 อาจกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง การกำหนดนโยบายรับมือแต่เนิ่น ๆ อาจช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้

    ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

    ปี 2552 เป็นปีที่คนทั่วโลกต้องเผชิญการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งพบการระบาดครั้งแรก เมื่อเดือน เม.ย.ในประเทศเม็กซิโก แม้ว่า ทางการเม็กซิโกจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ เพราะเชื้อลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังประเทศใกล้เคียง ทั้งในสหรัฐ และแคนาดา

    สร้างความตื่นตระหนกให้หลายประเทศที่ต่างรีบดำเนินมาตรการคัดกรองผู้ป่วย หวังสกัดไม่ให้เชื้อลามเข้าไปในประเทศ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะโรคระบาดอย่างรุนแรง จนหลายประเทศยุติการนับตัวเลขผู้ติดเชื้อ กระทั่งเดือน มิ.ย. องค์การอนามัยโลกยกระดับเตือนภัยการแพร่ระบาดไปเป็นระดับสูงสุด ซึ่งหมายถึงเชื้อลุกลามไปทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย

    การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เร่งศึกษาวิจัยเรื่องการรักษา และป้องกันโรค รวมถึงเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ขณะที่ยาต้านไวรัสกลายเป็นที่ต้องการจากประเทศต่าง ๆ บริษัทยาหลายแห่งเร่งผลิตวัคซีนป้องกันโรคชนิดนี้ เพื่อรองรับความต้องการจำนวนมาก และหลายประเทศเริ่มให้วัคซีนประชาชนตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นมา

    แต่ถึงกระนั้นจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะประเทศยากจนที่การสาธารณสุขยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายล้านคน องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ตัวเลขผู้ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการว่าเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อยู่ที่อย่างน้อย 11,500 คนทั่วโลก ส่วนมากอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่พบการระบาดครั้งแรก อย่างไรก็ดี คาดว่า ตัวเลขจริงจะสูงกว่านี้มาก เพราะบางรายไม่ได้รับการตรวจยืนยันว่าเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

    การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่เพียงก่อให้เกิดวิกฤติด้านสาธารณสุข แต่ยังซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่แล้วให้ทรุดหนักลงอีก โดยเฉพาะเม็กซิโก แหล่งต้นตอของการระบาดที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจต่าง ๆ ซบเซาอย่างหนัก เพราะนอกจากผู้คนจะไม่กล้าเดินทางไปท่องเที่ยว ทางการยังสั่งปิดสถานบริการ ร้านอาหาร บาร์ และแหล่งชุมนุมสาธารณะ เพื่อสกัดการระบาดของโรค ขณะเดียวกันหลายประเทศยังสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากประเทศที่พบการระบาด อาทิ เม็กซิโก สหรัฐ แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เพราะเกรงว่าสัตว์จะเป็นพาหะนำโรค

    ภัยธรรมชาติ และอุบัติเหตุทางการบินปี 2552

    รอบปีนี้หลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมร้ายแรงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ หลายคนชี้ว่า เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภาวะโลกร้อน ซึ่งในปีนี้คนในประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิก ดูเหมือนจะได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติมากกว่าที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอินโดนีเซีย และหมู่เกาะซามัว ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อวันที่ 30 ก.ย.

    โดยแผ่นดินไหวขนาด 8.3 ริกเตอร์ ที่หมู่เกาะซามัว ถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในปีนี้ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ในประเทศซามัว ตองกา และอเมริกัน ซามัว คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 200 คน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่เมืองปาดัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน และบ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายหมื่นหลัง

    วาตภัยก็สร้างความเสียหายให้เอเชียไม่แพ้กัน ทั้งเวียดนาม กัมพูชา ลาว ไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น และไทย แต่ที่บอบช้ำที่สุด คือ ฟิลิปปินส์ที่ถูกพายุมรกต กิสนา ป้าหม่า และ มิรีแน พัดถล่มในช่วงไม่ถึง 3 เดือน ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี สร้างความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

    แต่ยังไม่ทันจะฟื้นตัวจากพายุ ภูเขาไฟมายอน บนเกาะลูซอน ก็เริ่มปะทุพ่นเถ้าถ่านและลาวาออกมา ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจเกิดการระเบิดได้ทุกขณะ ทำให้ทางการต้องอพยพชาวบ้านหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ฟากของออสเตรเลียก็เผชิญกับภัยจากไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐวิกตอเรีย เมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งมีผู้สังเวยชีวิตไปเกือบ 200 คน

    ส่วนโศกนาฏกรรมทางการบินก็กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก หลังเครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ฟรานซ์ จากบราซิล สู่นครหลวงของฝรั่งเศส ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องทั้งหมด 228 คน เสียชีวิต แม้จะมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ระบบเครื่องบินเกิดปัญหาขัดข้อง แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดทราบสาเหตุแท้จริงที่ทำให้เครื่องตกเพราะยังหากล่องบันทึกข้อมูลการบิน หรือกล่องดำ

    ที่คาดว่าจมอยู่ก้นมหาสมุทรไม่พบ และหลังจากนั้นไม่ถึงเดือน ก็เกิดเหตุร้ายกับเครื่องบินโดยสารของสายการบินเยเมนที่ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรอินเดีย ระหว่างมุ่งหน้าจากกรุงปารีส สู่หมู่เกาะคอโมโรส ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย เหตุการณ์นี้มีเด็กหญิง วัย 14 ปี รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว จากคนบนเครื่องทั้งหมด 153 คน หลังต้องลอยคออยู่ในทะเลนานหลายชั่วโมง กว่าจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปพบและให้การช่วยเหลือ.- สำนักข่าวไทย

    2009-12-31 12:06:25

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    ในโอกาส ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
    ผมขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั่วสากลโลก
    ปกป้อง คุ้มครอง อวยพร พี่ๆ และเพื่อนๆ ในเว็บพลังจิตและนอกเว็บพลังจิต
    ให้โชคดีมีชัย สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ทำมาค้าขึ้น เจริญทั้งทางโลกทางธรม กันนะครับ

    สาธุ . . . .

    ปล.ไหว้พระธาตุช่อแฮ โชคดีรับปีขาลกันนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • choohea.jpg
      choohea.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.4 KB
      เปิดดู:
      118
  15. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่
    วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552 19:57


    </TD><TD vAlign=top width=155></TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสอำนวยพรแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2553 ดังนี้
    “ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน ทั้งขอขอบใจท่านเป็นอย่างมากที่วิตกห่วงใยในการเจ็บป่วยของข้าพเจ้าและแสดงออกโดยประการต่างๆ จากใจจริง ที่จะให้ข้าพเจ้าหายเจ็บป่วยและมีความสุขสวัสดี
    “ความสุขสวัสดีนี้ เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งของคนเรา แต่จะสำเร็จผลเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถและสติปัญญา ในการประพฤติปฏิบัติงานของแต่ละบุคคล
    “ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ชาวไทยทุกคนได้ตั้งจิตตั้งใจให้เที่ยงตรงแน่วแน่ ที่จะประพฤติตัวปฏิบัติงานให้เต็มกำลังความสามารถ โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดกำกับอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือจะคิดจะทำสิ่งใด ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีให้รอบคอบ ทำให้ดี ให้ถูกต้อง
    “ข้อสำคัญจะต้องระลึกรู้โดยตระหนักว่าประโยชน์ส่วนรวมนั้น เป็นประโยชน์ที่แต่ละคนพึงยึดถือเป็นเป้าหมายหลัก ในการประพฤติตัวและปฏิบัติงาน เพราะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนแท้จริง ซึ่งทุกคนมีส่วนได้รับทั่วถึงกัน ความสุขสวัสดีจักได้เกิดมีขึ้น ทั้งแก่บุคคล ทั้งแก่ชาติบ้านเมืองไทย ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายได้ตั้งใจปรารถนา
    “ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรคภัย ให้มีความสุขกายสุขใจและความสำเร็จสมประสงค์ ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน”


    ภาพ ส.ค.ส. พระราชทาน
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2009
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    :VO สวัสดีปีใหม่พี่ๆน้องๆทุกท่านนะครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆในปีนี้และปีต่อๆไปนะครับ สวัสดีปีใหม่ครับ (kiss)
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สวัสดีปีใหม่ครับเพื่อนๆ ชาวเว็บพลังจิตทุกๆท่าน คิดหวังสิ่งใด ขอให้ได้สมความปรารถนาจงทุกประการครับ

    วันนี้ขอนำภาพเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเรื่อง Avatar มาฝากให้ได้ชมกันครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    คลิ๊กชม vdo เบื้องหลังการถ่ายทำได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=L6JXUoWeZ7Q&feature=player_embedded"]YouTube- Avatar behind the scenes[/ame]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2010
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เผยรัสเซียเล่นบทพระเอกช่วยกู้โลก มุ่งส่งยานไปชนอุกกาบาตที่เชื่อจะถล่มมนุษย์ชาติ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ว่า

    นายอนาโตลี เพอร์มินอฟ หัวหน้าสำนักงานด้านอวกาศรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียจะส่งยานอวกาศไปชนอุกกาบาตขนาดใหญ่ ชื่อ"อาโปฮิส"เพื่อลดโอกาสที่มันจะถล่มโลก ภายหลังอุกกาตดังกล่าวถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 2004 มีขนาด 270 เมตร และมีโอกาสที่จะพุ่งชนเข้าโลกในปี 2029 ด้วยอัตรา 1 ต่อ 37 โดยหน่วยงานอวกาศรัสเซีย เตรียมจะจัดการประชุมเพื่อประเมินภารกิจนี้ รวมทั้งอาจเชิญองค์การนาซาของสหรัฐ เข้าร่วมโครงการด้วย


    ก่อนหน้านี้ นาซาชี้โอกาสที่อุกกาบาตดังกล่าวจะชนโลกเป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้น

    โดยนาซาประเมินโอกาสที่อุกกาบาต"อาโปฮิส"จะชนโลกในปี 2036 ในอัตราเพียง 1 ต่อ 250,000 และในปี 2068 ในอัตรา 1 ต่อ 330,000 อย่างไรก็ตาม นายเพอร์มินอฟ กล่าวชี้ว่า
    รัสเซียไม่อาจปล่อยให้มนุษย์โลกต้องเสี่ยงอันตรายได้ และเราควรจะใช้งบประมาณหลายร้อยล้านดอลลาร์ สร้างระบบเพื่อป้องกันอุกกาบาตไม่ให้ชนโลก แทนที่จะนั่งรอดูภัยพิบัติดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น และสังหารหมู่ชาวโลกนับแสนชีวิต

    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ชาวบ้านนับหมื่นแห่รับวัตถุมงคล วัดห้วยมงคลคึกคัก

    [​IMG]

    ประจวบคีรีขันธ์ 1 ม.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดทั้งวันนี้ (1 ม.ค.) มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปกราบนมัสการพระหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ พระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ตลอดจนทำบุญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    โดยทางวัดได้จัดเตรียมวัตถุมงคลเป็นหลวงพ่อทวดรุ่นพิเศษ จากพระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดหลวงมงคล แจกเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพุทธศาสนิกชนระหว่างวันที่ 1 – 3 มกราคม 2553 จำนวน 3 แสนองค์ ประชาชนและนักท่องเที่ยวจึงเข้าแถวรอรับวัตถุมงคลกันอย่างคึกคักระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ส่งผลให้การจราจรตั้งแต่ถนนบายพาส ปราณบุรี - ชะอำ ถึงหน้าวัดห้วยมงคล ติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานต้องช่วยกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจร.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 17:31:59

    ประชาชนไหว้พระ 9 วัด เพื่อความเป็นสิริมงคลปีใหม่

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 1 ม.ค.- ประชาชนให้ความสนใจเข้าไหว้พระ 9 วัด เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่

    บรรยากาศกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด ในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ด้วยรถราง ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขึ้นเป็นวันแรกได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมากสวมใส่เสื้อสีชมพูเดินทางไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร และวัดสุทัศน์เทพวรารามวรมหาวิหาร

    โดยต่างขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ตัวเอง และครอบครัวมีความสุข ทั้งถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่ประชาชน เนื่องในวันขึ้นปีใหม่มาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเรื่องความรัก ความสามัคคี.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 14:53:50

    ทั่วประเทศทำบุญตักบาตร เสริมสิริมงคลรับปีใหม่

    [​IMG]

    ภูมิภาค 1 ม.ค. - ประชาชนทั่วประเทศจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว รับปีใหม่ 2553

    เมื่อเวลา 07.00 น. นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2553 ที่บริเวณลานศาลาไทย ริมหาดสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา ภายใต้ชื่อ "สมิหลารับตะวัน : สัมผัสแรกแห่งปี อาบบุญรับปีใหม่ : สุขสันต์นิรันดร" โดยมีประชาชนนับพันคนร่วมกันนำข้าวสาร อาหารแห้งมาร่วมตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ 160 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ เทศบาลนครสงขลาได้นิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ คอยประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้พรแก่ประชาชนที่เข้าร่วมในพิธี

    ขณะที่ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนกว่า 2,000 คน ได้นำข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมกันทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 400 รูป พร้อมทั้งร่วมปล่อยพันธ์ปลาในคูคลองละลมโบราณ เพื่อเป็นศิริมงคล โอกาสนี้ พระราชปริยัติกวี เจ้าคณะจังหวัด นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ยังได้กล่าวอวยพรให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ด้วย

    ส่วนที่บริเวณลานด้านหน้าศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางศิริพร เจนจิรวัฒนา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ นำประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภค แด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันแรกของปี พ.ศ.2553

    ด้านนายพงศ์ศักดิ์ นาคประดา ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นำประชาชนในเขตเทศบาลร่วมกันทำบุญตักบาตร พระภิกษุ-สามเณรจาก 9 วัด จำนวน 93 รูป เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2553 ที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียนสุขวิทยากรตั้งตรงจิตร 15 เขตเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมทั้งจัดพิธีทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ ปล่อยนก-ปล่อยปลาโดยการทำบุญในวันนี้ ชาวบ้านเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขสืบไป

    เช่นเดียวกับ นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ที่นำประชาชนกว่า 10,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 999 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล และร่วมฟังสัมโมทนียคาถาจากพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ อวยพรให้ประชาชนอยู่ดี มีสุข ให้ทุกคนดำรงชีวิตอยู่อย่างมีสติ ปัญญา มีความสุจริต จริงใจ และตั้งใจให้มั่นคงต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ ประกอบแต่คุณงามความดี ตลอดปี 2553.- สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 11:32:36

    วัชระ ชี้การเมืองปี 53 มีแนวโน้มรุนแรง

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 1 ม.ค. - นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง ในปี 2553 ว่า แนวโน้มจะมีความรุนแรง และสร้างเงื่อนไข มากกว่าปีที่ผ่านมา และ ผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นจุดแตกหักของการเคลื่อนไหว

    โดยจะมีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์ เพื่อเป็นเครื่องต่อรองไม่ให้ทรัพย์สินถูกยึด ขณะเดียวกัน การทำงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ผลงานเริ่มชัดเจน เศรษฐกิจขยายตัว และเป็นบวกได้ในปีนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง จะต้องเร่งปิดเกม ไม่เช่นนั้น จะไม่มีแรงจูงใจในการเคลื่อนไหว

    อย่างไรก็ตาม นายวัชระ เชื่อว่า รัฐบาลจะสามารถรับมือได้ เพราะจะมีประชาชนกลุ่มหนึ่ง ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง แต่ส่วนตัวเห็นว่า แนวทางสมานฉันท์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดย พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้ใหญ่ในบ้านเมือง หันหน้าพูดคุยกันได้ ทุกอย่างก็จะจบ ที่สำคัญคือ รัฐบาลจะต้องไม่เป็นคู่กรณี แต่เป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย ควาสมานฉันท์ก็จะเกิดขึ้นได้ ส่วนจะต้องออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยหรือไม่นั้น นายวัชระ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติ ไม่สามารถทำได้ เพราะมีเงื่อนไขมาก. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-01 13:12:31

    นราฯ กู้ระเบิดเคโมซุกรางรถไฟเส้นทางระแงะ

    [​IMG]

    นราธิวาส 30 ธ.ค.- พ.ต.ท.เลียบ พรหมจันทร์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมนายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอระแงะ และ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นำกำลังเข้าเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยอยู่บริเวณรางรถไฟบ้านบ่อทอง ม.13 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ เช้าวันนี้ (30 ธ.ค.) พร้อมประสานหัวหน้าสถานีรถไฟตันหยงมัส เพื่อขอหยุดเดินรถไฟทุกขบวนชั่วคราว และใช้เวลานานกว่า 10 นาที จึงเก็บกู้ไว้ได้อย่างเรียบร้อย

    จากการตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบเคโมใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนายปรีชา ลัดดาชาติ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ่อทอง ให้การว่า ขณะนำชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ระแงะ รวม 10 นาย ใช้รถจักรยานยนต์ 5 คัน ตระเวนตรวจตราความเรียบร้อยตามเส้นทางให้กับครูโรงเรียนบ้านบ่อทอง สังเกตเหตุวัตถุต้องสงสัยแนบอยู่กับไม้หมอน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการ เพราะใกล้เวลาที่ขบวนรถไฟ 453 ต้นทางสถานีรถไฟยะลา ปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จะมาถึง.-สำนักข่าวไทย

    2009-12-30 10:33:16

    อส.ชุดคุ้มครองครูปัตตานีถูกลอบวางระเบิดเสียชีวิต 2 นาย

    [​IMG]

    ภูมิภาค 30 ธ.ค.- อส.ปะนาเระ ถูกลอบวางระเบิดเสียชีวิต 2 นาย เจ็บอีก 3 ขณะลาดตระเวนเส้นทางคุ้มครองครู ด้าน ผบ.ศชต.กำชับ 3 จังหวัดชายแดนใต้คุมเข้มพื้นที่ช่วงเทศกาลปีใหม่

    เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (30 ธ.ค.) พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดบนถนนสายบ้านบางมะรวด-เตราะหัก ม.4 ต. น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ มีเจ้าหน้าที่ อส.ประจำอำเภอ เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 3 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลปะนาเระ เบื้องต้นทราบว่าขณะที่ชุด อส. 6 นาย ใช้รถยนต์ลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยครู เมื่อถึงบริเวณดังกล่าวผู้ก่อเหตุจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ใต้ผิวถนน

    ด้าน พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชษฐ์ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบ.ศชต.) กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มมาตรการเข้มข้นดูแลรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการตั้งด่านตรวจค้นในจุดที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องปรามผู้ไม่หวังดีก่อเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งวันนี้ (30 ธ.ค.) จะมีการประชุมเน้นย้ำอีกครั้ง เพื่อความไม่ประมาท แม้จะมีกระแสข่าวลือใด ๆ เกิดขึ้น ซึ่งทุกฝ่ายต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน.-สำนักข่าวไทย

    2009-12-30 11:17:05

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2010
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำเตือนจากพระอาจารย์วัดท่าไม้
    โดยคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->vex<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2796638", true); </SCRIPT> สมาชิกเว็บพลังจิต

    [​IMG]

    ปี 2553 เกิด 5 ครั้ง!! 'สัญญาณฟ้า' อุปราคา 'ลางอันตราย'


    พระอาจารย์ที่วัดท่าไม้ ก็บอกคล้ายๆแบบนี้ไว้ครับ

    ในช่วงก่อนสวดมนต์ข้ามปี

    บอกว่าปี 2552 เผาหลอก ปีนี้ 2553 เผาจริง

    ทำอะไรให้มีสติ ท่านแนะนำให้อย่าไปรวมกลุ่มที่ใดๆ

    ที่จะส่อให้เกิดความรุนแรงได้

    เพราะจะมีการฆ่าฟันกัน เลือดตกยางออก

    แล้วก็ให้ระวังเรื่องโรคไข้หวัด 2010 ซึ่งจะร้ายแรงกว่าเดิม

    แล้วก็ให้ระวังเรื่องเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ เงินฝืด

    ขอให้ทุกคนตั้งใจประกอบกรรมดี สร้างแต่บุญดี ละเว้นการสร้างกรรม(ไม่ดี)

    แล้วแต่วิจารณญาณครับ<!-- google_ad_section_end -->


    01-01-2010, 02:51 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ปี2553เกิด5ครั้ง-สัญญาณฟ้า.220681/page-2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...