ปริศนา "ZERO POINT"... แหล่งพลังงานแห่งการดำรงอยู่ของสรรพสิ่ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย kindred, 4 มกราคม 2010.

  1. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เป็นคำถามจริง ที่ต้องการให้พวกเราตอบ?
    หรือเป็นวลี สะกิดใจ ให้ตีความเอาเอง?

    ท่านหนุมาร ผู้นำสาร ต้องการจะสื่อเรื่องอันใดฤา ผู้น้อยไม่เก๊ท ค่ะ
    ถ้าไม่เป็นการรบกวนกันเกินไป เชิญมาขยายความหน่อยได้ไหมคะ
    ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  2. ธรรมจิตต์

    ธรรมจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +419
    ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านถามใคร เผอิญติดตามอ่านกระทู้นี้อยู่ก็เลยอยากทราบว่าท่านต้องการทราบนิสัยใคร? และเพื่ออะไร?

    แต่ถ้าจะให้ทายนิสัยของท่านล่ะก็พอจะทายได้อยู่

    สวัสดีครับคุณเดรด
    ขอขอบคุณในสิ่งดีๆที่นำมาแบ่งปัน...ติดตามอยู่ครับ
     
  3. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    สวัสดีค่ะ คุณธรรมจิตต์ ไม่ได้คุยกันนานเลยนะคะ
    คุณธรรมจิตต์ สบายดีนะคะ ขอบคุณที่ตามอ่านค่ะ
    เดี๋ยว...มาเริ่มกันต่อเลยค่ะ
     
  4. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    [​IMG]

    [​IMG]

    เงื่อนไขของจิตวิญญาณผู้นำทางโดยทั่วไปอ้างอิงถึง รูปธรรมหนึ่งหรือมากกว่านั้น
    ที่คอยเฝ้าดู สั่งสอน เยียวยา และช่วยให้เราและการเดินทางในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ
    เพื่อไปสู่การตื่นรู้ของจิตวิญญาณ พวกเขาเหล่านั้น อยู่ในคลื่นความถี่ที่สูงกว่า
    ในขณะที่ประสบการณ์ทางกายภาพของเราอยู่ในสภาวะที่ต่ำกว่า

    การติดต่อสื่อสารเป็นไปในรูปแบบของการโทรจิตการได้ยินเสียง(clairaudience..หูทิพย์)
    ด้วยรูปแบบดั่งเดิมและการมองเห็นในจินตภาพ การมีตาทิพย์(clairvoyance)
    ผ่านการทำสมาธิ ความฝัน หรือ เพียงแค่การเรียนรู้ในการจดจ่อ มองดูและคอยฟัง ข่าวสารที่ได้รับ

    บางคนเรียกวิธีการเหล่านี้ว่า การเชื่อมต่อ การ channeling
    ยิ่งฝึกฝนมากเท่าใด การรับก็จะเกิดง่ายขึ้นเท่านั้น

    มีจิตวิญญาณผู้นำทางจำนวนมากมาย ในแต่ละประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
    การติดต่อที่มีพลังอำนาจที่สุดจะเป็นเป้าหมายของจิตวิญญาณของคุณ
    อาจหมายถึง Twin Flame รูปธรรมคู่แฝดทางจิตวิญญาณของคุณ
    ในรูปแบบการค้นหาสิ่งที่เหนือขึ้นไป(รูปธรรมที่สูงส่งกว่า)และเบื้องล่าง(กายภาพ)

    [​IMG]

    เพื่อที่รวมกันเป็นหนึ่ง คู่แฝดทางจิตวิญญาณหมายถึงจิตวิญญาณผู้นำทางของคุณ
    จะคงอยู่กับคุณจนกระทั่งคุณสามารถรวมตัวกับเขาได้
    เมื่ออยู่นอกร่างกายเนื้อหนังนี้(การละจากประสาทสัมผัสทั้ง5 หรืออายตนะ5)

    จิตวิญญาณผู้นำทาง อาจมีหลายชื่อ บ่อยครั้งที่พวกเขาเหล่านั้นติดต่อมาในรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน
    คุณจะรู้สึกถึงความสบายอกสบายใจในการติดต่อสื่อสารนั้นๆ
    จิตวิญญาณผู้นำทาง
    อาจไม่มีร่างทางกายภาพให้มองเห็นได้ บางทีอาจเป็นมนุษย์ต่างดาว
    อย่างไรก็ตาม เราจะรู้สึกถึงพวกเขาเหล่านั้นได้

    แต่ละจิตวิญญาณผู้นำทาง จะเข้ามาหาคุณเป็นกรณีเฉพาะตามแต่เป้าหมาย
    – มาสร้างสรรค์ความสามารถ สอนวิธีการเยียวยา หรือมาเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณ ฯลฯ
    จิตวิญญาณผู้นำทาง จะปกป้องภยันตรายจากอุบัติเหตุ
    โดยเข้าไปในร่างกายคุณ(การดลใจ) หรือหยุดเวลา

    ฉัน(หมายถึง..ELLIE CRYTAL)ค้นพบว่า
    คนที่มีชีวิตอยู่อย่างสมดุลย์ จะมีผู้นำทางที่เบิกบาน
    และมักจะมีสิ่งที่ปรากฏทางกายภาพเป็นไปในทางบวกเร็วขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
    และมีสุขภาพที่สมบูรณ์

    ผู้ที่มีความป่วยทางจิต แม้แต่ความจำเสื่อม หรือยังไม่มีสติสัมปชัญญะพอ
    เขาเหล่านั้นจะดึงดูด ประสบการณ์ในทางลบเข้ามา
    และตำหนิว่านั่นเป็นการกระทำของผู้นำทางของเขา
    หรือ เป็นพลังงานด้านมืด ส่วนใหญ่มันไม่เป็นความจริง
    ผู้นำทาง ...จะอยู่ที่นั่น และแค่แนะนำคุณในด้านที่เป็นบวกเท่านั้น

    [​IMG]

    ถ้าเสียงในหัวของคุณทำให้คุณสับสน ทำให้คุณอยู่ในสถาณการณ์ที่ขัดแย้ง
    และทำให้คุณเป็นบ้า
    โปรดค้นหาการช่วยเหลือของมืออาชีพ และ ประเมินสถานการณ์
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าสิ่งที่คุณเกี่ยวข้องอยู่ในสถาณการณ์ที่เป็นโทษ


    เพื่อที่จะช่วยให้ข้ามพ้นจุดนี้ไป จิตวิญญาณผู้นำทางของคุณ
    จะทำงานอยู่เหนือคุณขึ้นไปโดยการสร้างสรรค์เหตุการณ์ต่างๆให้งอกเงย
    เหมือนเป็นการบังเอิญที่เหมาะเจาะ(Synchronicities)
    ให้เกิดขึ้นข้างล่าง(โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ)

    การบังเอิญที่เหมาะเจาะ โดยทั่วไป เป็นประสบการณ์ที่ถูกสร้างด้วยจิตวิญญาณของคุณ
    เพื่อที่จะนำคุณไปสู่การตื่นรู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า<o></o>




    <hr width="100%" align="center" size="2">
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  5. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Meeting Your Spirit Guides
    การพบกับจิตวิญญาณผู้นำทางของคุณ<o></o>​

    บทฝึกฝนข้างล่างนี้ จะใช้งานได้ด้วยการเชื่อมต่อกับการทำสมาธิ
    หรือวิธีการอื่นที่ทำให้คุณสื่อสารได้ ถ้าคุณชอบเขียน
    คุณอาจใช้วิธีการ automatic writing
    ถ้าคุณถนัดทางโทรจิต ก็โปรดอย่าลืมจดสิ่งที่คุณได้รับมา
    เมื่อสิ้นสุดการติดต่อ เพราะคุณอาจจะลืมมันได้
    ถ้าการติดต่อมาเป็นแบบเสียงหรือภาพ
    ให้บันทึกเทปสิ่งที่คุณได้ยินหรือมองเห็น
    ถามคำถามเพียงแค่ครั้งเดียว และยอมรับเฉพาะคำตอบแรก

    ต่อไปนี้เป็นบทฝึกฝน 11 ข้อ....<o></o>

    <hr width="100%" align="center" size="2">
    Lesson 1 - Listening and Viewing<o></o>

    บทที่ 1 – การฟัง และการมองเห็น<o></o>​

    นี่เป็นเวลาที่คุณจะพบผู้นำทางของคุณ<o></o>
    วันนี้คุณจะถามผู้นำทางของคุณซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว
    และสามารถได้รับคำตอบ เพียงใช่ หรือไม่ เท่านั้น<o>

    • จดจ่อไปที่กลางกระหม่อม – จักระ7 กำลังเปิดออก<o></o>
    • ทำความรู้สึกไปที่ ด้านซ้ายของ ร่างกายหรือใบหน้า
    • รับจากซ้าย, ส่งออกไปขวา
    • จากสมองซีกซ้าย สู่สมองซีกขวา, ด้านของปัญญาญาณ
    • ก่อนที่คุณจะเริ่ม คุณควรจะรู้สึกว่าผู้นำทางของคุณอยู่ตรงนั่น
    หาที่ๆ เงียบสงบปราศจากสิ่งรบกวนใดๆ ผ่อนคลายและสบายที่สุด
    ทำใจให้ว่าง พุ่งความสนใจไปยังผู้นำทางของคุณ<o></o>

    ส่งความคิดออกไป ... Hello! <o></o>

    คุณอาจได้ยินเสียงทักทายกลับมา แต่นั่นไม่จำเป็น <o>

    ส่งคำถามสำหรับคำตอบ แค่ ใช่ หรือ ไม่
    คิดในใจหรือส่งเสียงออกมา เช่น วันนี้วันจันทร์ใช่ไหม? <o></o>

    ผ่อนคลาย และ ยอมให้คำตอบผ่านเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติ<o>

    ถามคำถามที่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวต่อไป ใช่ หรือ ไม่ จนกระทั่ง คุณรู้สึกสบายๆ
    ฝึกฝนไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน! จิตวิญญาณไม่มีตารางนัด<o></o>

    คุณอาจใช้บทฝึกฝนนี้ กับผู้นำทางอื่นๆได้อีก<o>

    <hr width="100%" align="center" size="2">
    Lesson 2: Getting to Know your Spirit Guide<o></o>

    บทที่ 2: ทำความรู้จักกับผู้นำทางของคุณ<o></o>​

    เตรียมกระดาษและปากกา<o></o>

    ส่งข้อความ ท่านชื่ออะไร? <o></o>

    ถ้าคุณพบชื่อที่เข้าใจยาก จดจ่อ แล้วพยายามฟังเท่าที่คุณสามารถจะได้ยินได้
    จิตวิญญาณจะยอมรับชื่อที่คุณตั้งให้ไม่ว่าคุณจะเรียกว่าเขาว่าอะไรก็ตาม
    ชื่อนั้นอาจสั้นหรือยาวก็ได้ อาจมีชื่อมากกว่า1 ชื่อ เช่น Spirit Eagle. <o>

    เรื่มการสนทนา จงเชื่อมั่นสิ่งที่คุณได้ยิน <o></o>
    ส่งข้อความ (ชื่อของผู้นำทาง) ท่านพร้อมที่จะตอบคำถามแล้วหรือไม่? <o></o>
    รอ...การยืนยันคำตอบรับ<o>

    ตัวอย่างคำถาม<o>
    • ท่านรู้หรือไม่? <o></o>
    • ท่านเคยช่วยข้าพเจ้าบ้างหรือเปล่า? ถ้าเคย, อย่างไร? <o></o>
    • ฉันมีจิตวิญญาณผู้นำทางกี่ท่าน? <o></o>
    • อะไรคือจุดมุ่งหมายในการติดต่อของเรา? <o></o>
    • ท่านเป็นคู่แฝดทางจิตวิญญาณของฉันหรือ? <o></o>
    • ภาระกิจของข้าพเจ้าคืออะไร? <o></o>
    • ท่านเป็นผู้นำทางของฉันแต่เพียงผู้เดียวใช่หรือไม่? <o></o>
    • ฉันมีผู้นำทางกี่ท่าน? <o></o>
    • อื่นๆ
    <hr width="100%" align="center" size="2"><o></o></o></o></o></o></o></o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Lesson 3 - Other Lifetimes Together

    บทที่ 3 – ชาติภพอื่นที่อยู่ด้วยกัน<o></o>

    ตระเตรียมคำถาม ทำจิตใจให้สบายๆ ทักทายจิตวิญญาณของท่าน <o></o>​

    ตัวอย่างคำถาม
    • พวกเรา(จิตวิญญาณ)รู้จักกันและกันในชาติภพอื่นๆอีกหรือไม่?
    • มีชาติภพกี่ชาติภพที่เราสามารถติดต่อได้? ในความสัมพันธ์แบบไหน?<o></o>
    • เราสามารถเปลี่ยนกฏนี้ให้กลับกันได้หรือไม่
    • ในที่ซึ่งฉันจะกลายเป็นจิตวิญญาณผู้นำทางของท่านในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้?
    • <o>ท่านเคยจุติมาในร่าง(บุคคล)อื่นๆในชีวิตของฉันหรือเปล่า?</o>​
    • อื่นๆ
    ------------------------------------------------------------------------------

    Lesson 4 - The Universe, Creation, Reality

    บทที่ 4 – จักรวาล, การสร้าง, ความเป็นจริง<o></o>​

    เตรียมคำถามที่เกี่ยวกับเรื่องของจักรวาล
    ให้เวลากับการประชุมมากเท่าที่จิตวิญญาณต้องการ<o></o>​

    ตัวอย่างคำถาม:
    • คำอธิบาย เรื่อง ความเป็นจริง <o></o>
    • จักรวาลกว้างใหญ่เพียงไหน? <o></o>
    • มันถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไหร่และอย่างไร? <o></o>
    • มีสิ่งมีชีวิตในดาวดวงอื่นหรือไม่?
    • <o></o>รูปธรรมเหล่านั้นเฝ้ามองดูเรา จากยาน UFO หรือ ที่อื่นๆใช่หรือไม่? <o></o>
    • ท่านทราบไหมว่าเอเลี่ยนมาจากไหน? <o></o>มีเทพยดาอยู่จริงหรือ? <o></o>
    • พระเจ้าคือใคร? (หลับตาลงแล้วคิด โปรดแสดงให้ฉันดู!) <o></o>
    • มี มิติอื่นๆ อยู่อีกมากมายใช่หรือไม่? (หลับตาลงแล้วคิด โปรดแสดงให้ฉันดู!)
    • <o></o>จิตวิญญาณสามารถมีอยู่ เป็นอยู่ ได้มากว่า 1 มิติ หรือไม่? <o></o>
    • อดีต ปัจจุบัน และอนาคต คงอยู่ร่วมกันใช่หรือไม่?
    • <o>พวกเรามีอิสระตามปรารถนาใช่หรือไม</o>​
    ------------------------------------------------------------------------------

    Lesson 5 - Getting Personal With Your Guide<o></o>​

    บทที่ 5 – ให้ความเป็นกันเองกับจิตวิญญาณผู้นำทางของคุณ<o>

    ในตอนนี้คุณต้องรู้สึกสบายใจกับผู้นำทางของคุณ
    และสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างความคิดของเขาหรือเธอ
    และ ความคิดของคุณ <o></o>​

    ในเวลานี้คุณอาจพบผู้นำทางของคุณมากกว่า1
    และเรียนรู้ในแต่ละทิศทางของผู้นำทางเหล่านั้น <o></o>

    ในบทฝึกฝนต่อไปนี้ ให้ลองพยายามถามคำถามส่วนตัว
    แต่โปรดจงจำไว้ว่า ต้องตรวจสอบด้วยว่า
    คำตอบนั้นมาจากพื้นฐานความต้องการส่วนตัว หรือเปล่า
    <o>
    </o>​
    คำถามทางจิตวิญญาณ :
    • ทางเดินแห่งจิตวิญญาณที่ฉันกำลังดำเนินไปนี้บนถูกต้องหรือไม่? <o></o>
    • ท่านมีคำแนะนำสำหรับเส้นทางต่อไปของการเดินทางของจิตวิญญาณ สำหรับฉันหรือไม่?
    • <o>ฉันควรจะทำงานเป็นผู้คอยบำบัดเยียวยาหรือไม่? </o>
    • <o>ท่านจะแนะนำหนังสือ หรือหน้าเวบไซด์ที่ควรจะเข้าไปเรียนรู้ต่อไปได้หรือไม่? <o></o></o>
    • ครูคนปัจจุบันนี้ดีสำหรับฉันแล้วใช่ไหม?
    • ฉันควรค้นหาท่านอื่นอีกหรือไม่?
    • <o>ฉันจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ในที่ใหม่ๆเพื่อค้นพบชะตาชีวิตของตนเองหรือไม่? คำแนะนำคือ..? <o></o></o>
    • ฉันจำเป็นต้องออกเดินทางเพื่อเติมเต็มชะตาชีวิตของตนเองหรือไม่? ที่ไหน?
    • นี่คือทิศทางอื่นๆของ ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณของฉัน
      ในโลกแห่งความเป็นจริง ในตอนนี้ใช่หรือไม่?
    ความเห็นส่วนตัว...ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ ของแต่ละบุคคล
    อาจมีหลายทิศทาง ส่วนใหญ่มักหาคำอธิบายไม่ได้ว่าทำไม
    เราจึงสนใจในศาสตร์ที่ ลี้ลับเช่นนี้
    อาจเป็นช่องทางการสื่อสารที่เราสามารถจะเข้าถึงได้มากกว่า
    ด้านอื่นๆก็เป็นได้ จึงไม่ใช่การหลงทาง หรือเสียเวลา
    แต่เพื่อให้เกิดประสบการณ์และตื่นรู้
    เพิ่มมากขึ้นไม่มีหนทางใดที่เป็นทางลัด โดยไม่ต้องทดลองทำ


    <hr width="100%" align="center" size="2">
    </o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    <hr width="100%" align="center" size="2">
    Lesson 6 - Biological, Adopted, or Foster Family Relationships<o></o>

    บทที่ 6 – ทางชีววิทยา, การถูกรับไว้เป็นบุตรบุญธรรม
    ความสัมพันธ์ของครอบครัวที่อุปการะเลี้ยงดูมา<o></o>​

    กรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ (การเรียนรู้บทเรียน และความรับผิดชอบ)
    คือครอบครัวของคุณ หรือ สิ่งแวดล้อมใกล้ชิดคุณที่เหมือนกับเป็นครอบครัวของคุณ
    ในบางครั้ง บุคคลเหล่านี้ยังคงอยู่ในชีวิตคุณตลอดไป
    และในบางครั้งพวกเขาก็อยู่แค่ช่วงขณะและจากไป

    ตัวอย่างคำถาม:

    สมาชิกครอบครัวทางกายภาพของฉันมาจากอดีตใช่หรือไม่?

    ถามถึงชื่อ และข้อมูลอื่นๆถ้าถูกรับเป็นบุตรบุญธรรม หรือมีผู้อุปการะเลี้ยงดูอยู่
    ให้ใช้สภาพทางชีวภาพนี้ และให้ถือว่าเป็นสมาชิกในครอบครัว<o></o>
    • คำถามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวของคุณ
    • ทั้งของตัวคุณเอง และคนอื่นๆ
    การตัดสินใจที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่จะมาช่วยนำทางคุณ
    โดยทั่วไปพวกเขาเหล่านั้นมักเป็นคนนอก แต่อาจเชื่อมต่ออยู่รอบๆ

    และรู้สึกว่าเป็นผู้นำทางให้คุณได้บ้างในบางเส้นทาง <o></o>
    • กรรมหลักของฉันในชาติภพนี้คือ เพื่อเป็นผู้คอยดูแล….
    • (ชื่อคนๆนั้น – โดยปกติคือพ่อและแม่ของเรา) ใช่หรือไม่?
    • ถ้าคุณเชื่อว่าคุณคือ คนที่เพียงเดินผ่านเข้าไปในครอบครัวนี้
    ให้ถามถึงสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดของคุณที่คุณจะต้องมีในชาติภพนี้
    – ชื่อของพวกเขาเหล่านั้นและของคุณ

    <hr width="100%" align="center" size="2">
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Lesson 7 - Your Career and Job

    บทที่ 7 – งานและอาชีพของคุณ<o></o>

    ผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนงาน ในช่วงชีวิตหนึ่งๆหลายครั้ง หลายๆคนกลับไปเรียนหนังสือต่อ
    จิตวิญญาณผู้นำทางของคุณจะโน้มน้าว ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น <o></o>


    ตัวอย่างคำถาม:

    • ฉันสามารถเลือกอาชีพการงานได้หรือไม่ หรือตอนนี้ ฉันกำลังเป็นผู้แสวงหาอยู่?
    • อาชีพการงานที่ฉันเลือกคือ อาชีพของ ชาติภพหนึ่งใช่หรือไม่? <o></o>
    • ฉันสามารถที่จะค้นพบอาชีพที่ตนเองปรารถนาได้หรือไม่? <o></o>
    -หากว่าฉันต้องการทำงานเกี่ยวกับอภิปรัชญา
    จะสามารถหารายได้จากการทำงานในด้านนี้ได้หรือไม่?
    -ฉันสามารถทำงานนอกเวลาเกี่ยวกับงานทางอภิปรัชญาได้ไหม?
    -ฉันควรจะทำงานหรือควรจะเรียนหนังสือและฝึกฝนงานอาชีพ?
    -<o></o>งานของฉันถึงทางตันแล้วหรือไม่ มันจะดีขึ้นได้ไหม?

    -ความก้าวหน้าไหม? ทำเงินได้มากขึ้นไหม?
    -เจ้านายของฉันประทับใจงานของฉันหรือไม่?
    -<o></o>ฉันกำลังถูกแทงข้างหลังในที่ทำงานใช่หรือไม่?
    ฉันควรจะเริ่ม มีเรื่องรักๆใคร่ๆในที่ทำงานหรือไม่? <o></o>
    • ผู้หญิง: จริงๆแล้วฉันควรจะมีความสุขกว่าไหม?
    • ถ้าจะเป็นแม่บ้านอยู่บ้าน และแค่คอยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก? <o></o>
    • ฉันจะมีความสุขกว่าไหม..ถ้าทำงานนอกเวลา? <o></o>
    • ฉันสามารถทำงานนอกเวลาได้สองอย่างในเวลาเดียวกันด้วยตนเองได้ไหม? <o></o>
    • ฉันดีที่สุดสำหรับการเป็น... ร่างรายการงานที่คุณปรารถนาจะทำ <o></o>
    • ฉันควรจะเริ่มมีธุรกิจเป็นของตนเองไหม? คนเดียว? หรือมีหุ้นส่วน?
    • ธุรกิจของฉันจะรุ่งไหม? และพัฒนาไปเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่? หรือล้มเหลวไม่เป็นท่า? <o></o>
    • เชื้อชาติ หรือพื้นเพของฉัน เป็นสิ่งซึ่งมาขวางกั้นโอกาส
    • ในการพบกับอาชีพที่เหมาะสมสำหรับฉันใช่หรือไม่?
    • – หรือเป็นตัวช่วยให้ได้งาน?

    -ฉันมีความมุ่งมั่นน้อยไป ในสิ่งที่ฉันจะสามารถทำได้…

    เพราะฉันมีปัญหาทางอารมณ์ ไม่ค่อยให้ความเคารพตนเอง

    หรือไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้ ใช่ไหม??

    • ฉันเป็นคนที่ฉลาดกว่าที่ฉันคิดไว้ใช่ไหม? <o></o>
    • ฉันสามารถจะสำเร็จการศึกษาได้หลังจากขาดการเรียนไปไหม? <o></o>
    • ฉันสามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ไหม ? ทางเลือก ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  9. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Lesson 8 - Your Love Life

    บทที่ 8 – ชีวิตรักของคุณ<o></o>

    คุณพร้อมที่จะถามคำถามเกี่ยวกับชีวิตรักของคุณแล้ว
    ตอนนี้ จะมีอัตตาตัวตนที่คอยหลอกล่อคุณอยู่เสมอๆอยู่ที่นี่
    และคุณต้องเชื่อมต่อให้เป็นหนึ่งให้ได้

    ตัวอย่างคำถามถ้าตอนนี้คุณมีคู่อยู่แล้ว <o></o>
    • คู่ครองของฉันใช่คู่แท้ใช่หรือไม่?
    ------------------------------------------------------------------------------

    เสริม...

    คู่แท้...Soul Mate เนื้อคู่...หมายถึง

    อีกส่วนของจิตวิญญาณที่ขาดหายไป
    และเพื่อมาเติมเต็มให้จิตวิญญาณเราสมบูรณ์
    ช่วยให้เราก้าวหน้าและมีความพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณ

    อาจไม่จำเป็นต้องเป็นคู่รัก หรือสามีภรรยา แต่เป็นผู้ที่เรามีความผูกพันมากๆ
    ส่วนใหญ่เรามักถูกผูกพันไว้ด้วยความรักระหว่างเพศ จึงมักมองไปว่า
    ผู้ที่จะมาเติมเต็มให้เราได้นั้นต้องเป็นคู่ครอง

    Soul Mate หรือTwin Flame นั้นอาจเป็นผู้ที่อยู่ต่างมิติ
    หรือผู้ที่ไม่มีร่างกายเป็นกายเนื้อ หรือ ผู้ที่อยู่รอบๆตัวเรา คนใดคนหนึ่ง

    ...เงื่อนไขคือ เขาต้องเป็นผู้ที่ทำให้เราไม่เป็นทุกข์
    ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม ยิ่งพบเจอยิ่งมีแต่ความกลมกลืน
    นั่นเพราะว่า เขาได้รัเกราอย่างไม่มีเงื่อนไขนั่นเอง

    --------------------------------------------------------------------------------

    เราอยู่ด้วยกัน เพราะว่า เรามีกรรมที่ต้องมาชดใช้ร่วมกันใช่หรือไม่?
    ในเรื่องใด? หนี้กรรมที่ต้องใช้นั่นอยู่ตรงไหน? <o></o>
    คู่ครองของฉันคือส่วนที่เหลือของชีวิตฉันใช่หรือไม่
    (คล้ายๆว่ามีคนนี้คนเดียว หมดโควต้าแล้วหรือ...)?
    ฉันจะมีคู่ครองอื่นอีกหรือไม่
    • คู่ครองของฉันกำลังเติบโตทางจิตวิญญาณไปในทางเดียวกับฉันใช่หรือไม่?
    เราต่างเติบโตขึ้นเพื่อแยกห่างจากกันใช่หรือไม่? <o></o>
    ฉันกำลังรั้งความสัมพันธ์นั้นไว้ทั้งๆที่มันสิ้นสุดลงแล้วใช่หรือไม่? <o></o>

    คู่ครองของฉันยังคงรักฉันอยู่หรือไม่?
    ความนับถือตนเองของฉันทำให้ฉันยังคงอยู่ในความสัมพันธ์นี้ใช่หรือไม่? <o></o>
    เหตุผลที่ฉันมาอยู่กับคู่ครองของฉัน?
    เพื่อฐานะการเงิน? การสร้างครอบครัว?กลัวการอยู่คนเดียว? อื่นๆ?

    --------------------------------------------------------------------------------
    ตัวอย่างคำถาม สำหรับผู้มีความเบี่ยงเบนทางเพศ

    (ทั้งหญิงและชาย)

    • มันมีเหตุผลใช่ไหมที่ฉันเป็นเกย์?
    ใช่เรื่องพันธุกรรมหรือไม่ ? หรือเรื่องของกรรม? <o></o>
    ฉันมีอคติกับสิ่งใดในอดีตที่ผ่านมาหรือไม่? <o></o>

    มีบทเรียนให้เรียนรู้ในเรื่องนี้ใช่ไหม?
    จิตวิญญาณของฉันชอบที่จะสวมบทบาทเป็นผู้หญิง(ผู้ชาย) ใช่หรือไม่?
    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเป็นเกย์ใช่หรือไม่? <o></o>

    **เหตุที่ฉันต้องเป็นเกย์ผู้ชาย ที่ยึดถือคลื่นความถี่ของเพศหญิง
    เพราะถ้าฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ ฉันจะไม่สามารถทำอะไร
    หรือเป็นอะไรบางอย่างได้?
    --------------------------------------------------------------------------------
    เสริม...
    ปกติ มนุษย์จะมีความเป็นขั้วทางเพศอยู่ในตัวอยู่แล้ว
    หยินและหยาง ทำให้เกิดทวิภาวะ ถ้าข้างใดข้างหนึ่งแสดงพลังอำนาจออกมาเหนืออีกข้าง

    ผู้ที่เพศไม่ตรงกับภาวะทางกายภาพ จึงค่อนข้างมีความสมดุลย์ในขั้วมากกว่า
    เขาเหล่านั้นมักจะมีความเป็นทั้งสองขั้ว อยู่ภายในที่ลึกซึ้งกว่า

    สังเกตเห็นได้จาก ผู้ที่มีความเป็นอัจฉริยะในด้านต่างๆ อาทิ เช่น ศิลปิน
    นักออกแบบ วงการแฟชั่น วงการบันเทิง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้สมองซีกขวา
    อันเป็นด้านปัญญาญาณ มากกว่าการใช้สมองซีกซ้ายที่เป็นตรรกะ

    พวกเขามักฟังเสียงจากหัวใจมากกว่าเสียงที่มาจากสมอง
    พวกเขาเหล่านั้นมักจะมีมุมมองผ่านทั้งความเป็นหญิงและความเป็นชายได้พร้อมๆกัน

    -------------------------------------------------------------------------------

    คำถามสำหรับคนโสด

    • ฉันจะได้แต่งงานไหม? <o></o>
    • ฉันจะได้อยู่กับใครบางคนหรือไม่? <o></o>
    • ฉันจะได้พบคู่แท้ของฉันไหม? <o></o>
    • คู่แท้ของฉันอาศัยอยู่บนโลกนี้หรือเปล่า?
    ฉันจะแต่งงานไหม? – อยู่กับใครบางคน - ?

    ฉันจะต้องฉายเดี่ยวใช่ไหม? <o></o>
    ฉันจำเป็นต้องได้รับการบำบัดเยียวยาความสัมพันธ์ของฉันหรือไม่?

    • ฉันได้ก่อวินาศกรรมต่อความสัมพันธ์ของฉันเองหรือไม่?
    <o></o>ฉันจะได้มีบุตรไหม?
    ชะตาชีวิตของฉันคือการแต่งงานและมีลูกใช่ไหม? <o></o>

    ในฐานะที่เป็นผู้นำทางของฉัน ท่านสามารถทำให้ฉันได้พบคู่ครองได้หรือไม่? <o></o>
    ต้องพึ่งพาพิธีกรรมใดหรือไม่ในการที่จะได้พบคู่ครองของฉัน?

    • สิ่งที่ดีที่สุดที่จิตวิญญาณของฉันต้องการคือการอยู่คนเดียวใช่ไหม? หรือการมีคู่?
    ฉันหาคู่มาตลอดชีวิตฉัน และตอนนี้ถ้าฉันอายุมากแล้ว
    และไม่เคยพบคู่ครองที่สมบูรณ์แบบเลย เป็นเพราะฉันช่างเลือกเกินไป
    หรือ จริงๆแล้วคู่ของฉันไม่ได้อยู่ข้างนอกนั่น?(อยู่ภายใน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  10. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Lesson 9 - Your Love Life

    บทที่ 9 – ชีวิตรักของคุณ

    เพียงคำตอบแรกเท่านั้นที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
    สำหรับผู้ที่กำลังค้นหาความรัก


    • ฉันมีคู่แท้หรือไม่?
    • เราจะพบกันได้อย่างไร?
    • เขาผู้นั้นจะจำ(ระลึกถึง)ฉันได้ไหม?
    • เขาผู้นั้นพร้อมที่จะเป็นความผูกพันอย่างเต็มเวลาสำหรับฉันหรือไม่?
    (โลกของเขา มีแต่ฉัน ฉัน และฉัน...
    อืมม!!! เป็นคำถามที่เสี่ยงมาก!!!...คห.ผู้เขียนกระทู้)

    • ฉันกำลังออกเดท - - - - - คนนี้คือคู่แท้ของฉันใช่หรือไม่?
    • ถามเจาะรายละเอียด... เขาแต่งงานแล้วหรือยัง?
    • ทำไมฉันและคู่ของฉันต้องมาอยู่ด้วยกัน? เพราะกรรม?
    • เพราะความรัก? เพราะเป็นคู่แท้? เพราะเรื่องเงิน?
    • ต่างคนต่างกลัวที่จะอยู่คนเดียว?
      อื่นๆ
    ---------------------------------------------------------------------------
    Lesson 10 - My Goals in Life

    บทที่ 10 – เป้าหมายในชีวิตของฉัน


    ตัวอย่างคำถาม.
    • เป้าหมายของฉันคือการมีชีวิตอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงนี้ใช่หรือไม่ ?
    • การแต่งงาน? การทำงาน? อื่นๆ?
    • อะไรคือเป้าหมายที่ฉันต้องทำให้สำเร็จลุล่วง?
    • อื่นๆ
    ---------------------------------------------------------------------------

    Lesson 11 - Connecting with Spirit Guides While 'On the Go' ...

    บทที่ 11 – การติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณผู้นำทาง ในขณะเดินทาง...

    จิตวิญญาณพี่เลี้ยง อยู่ที่นั่นเสมอและพร้อมที่จะพูดคุยกับคุณถ้าคุณจดจ่อพอ
    ในทุกช่วงขณะการดำรงชีวิตในแต่ละวันของคุณ
    การตัดสินใจของคุณจะก่อให้เกิดประสบการณ์แก่คุณ

    คุณสามารถส่งคำถามทางโทรจิตนี้ได้อยู่เสมอ และคุณจะได้รับคำตอบ
    การขับรถเป็นเวลาสำคัญที่จิตวิญญาณจะเฝ้ามองคุณและพูดคุยด้วย
    โปรดจำไว้ว่า จงให้ความสนใจ และกระทำอย่างรวดเร็ว

    ถ้าหากว่า มีสัญญาณที่แผ่วเบา ส่งเสียงเตือนเข้ามาอย่างเร่งด่วน ข้างในหัวคุณ
    ในระหว่างการขับรถของคุณ คุณอาจจะสามารถพูดคุย กับจิตวิญญาณพี่เลี้ยงของคุณก็ได้


    • มีการจราจรที่ติดขัดอยู่ข้างหน้าไหม ? ตรงไหน?
    • ฉันจะสายเกินไปหรือไม่?
    • อื่นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2010
  11. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Spirit Guide Reunion

    [​IMG]


    จิตวิญญาณผู้นำทางของคุณคือคู่แฝดทางจิตวิญญาณ

    ผู้ที่คุณสามารถค้นหาได้ตลอดกาล<o></o>

    การเชื่อมต่อกันใหม่ เพื่อความสมดุลย์และการรวมเป็นหนึ่ง<o></o>

    <o>
    </o>

    ส่วนหนึ่งของคู่แฝดทางจิตวิญญาณ ผู้คอยนำทางให้กับการดินทางของคุณ<o></o>


    กลับเข้าสู่การตื่นขึ้นแห่งความตระหนักรู้ และความถี่แห่งแสงสว่างที่สูงขึ้น<o></o>

    ผ่านทะลุโครงข่ายที่สร้างสรรค์ความเป็นจริง
    ....................................................................

    ตระเตรียม...เหมือนดั่ง คุณกำลังจะทำสมาธิ<o></o>​


    ผ่อนคลาย...จิตใจ...ร่างกาย<o></o>

    หลับตา ผ่านเข้าสู่ความรู้สึก นึกคิด ด้านในของคุณ

    เดินเข้าสู่ความงามแห่งจินตภาพ

    ช่างเป็นวันที่สว่างสไสว และ แสนสดใส <o></o>


    มวลดอกไม้เบ่งบานอย่างอ่อนโยนสดชื่น ท่ามกลางสายลม<o></o>

    ส่งกลิ่นหอมชวนดม อย่างเบิกบาน <o></o>

    สายน้ำไหลเรื่อยๆอ้อยอิ่งและอ่อนโยน<o></o>

    เหมือนดั่งได้ยินเสียงระลอกคลื่นแห่งสายน้ำ<o></o>

    สู่ความสงบ...และ สมดุลย์

    ...........................................................

    ไกลแสนไกล ที่ มองเห็น<o></o>

    ใกล้แสนใกล้ เคลื่อน เข้าหา

    จิตวิญญาณผู้นำทางเคลื่อนเข้ามา<o></o>

    แฝดวิญญา จิตวิญญาณแห่งเธอ<o></o>

    เคลื่อนเข้าไป อย่างใกล้ชิด แนบสนิทกันและกัน
    <o></o>
    [​IMG]

    เมื่อนั้น ความทรงจำระหว่างเรา ปะทุจุดติดขึ้นและลุกขึ้นดั่งเปลวไฟ<o></o>

    จักระแห่งหัวใจพลันเปิดออก ด้วยพลังแห่งรัก...

    .....................................................<o></o>

    คุณกำลังเดินทางอยู่บนหนทางอันศักดิ์สิทธิ์
    สู่การตื่นรู้ กับแสงแห่งความสว่างไสว และ มีรักโดยปราศจากข้อแม้
    เพลิดเพลิน สนุกสนาน ไปกับ การท่องเที่ยวของคุณ
    มันจะกลายเป็นความจริงได้ ...ในไม่ช้า

    ที่มา...http://www.crystalinks.com/spirit_guides.html<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  12. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279

    ว้าวววว แหล่มเลย บทความอันนี้ดีมากๆ ครับ ควรเอาไปให้

    ผู้ชาย ที่เสียงทุ้มๆ นุ่มๆ อ่านเสียงแบบยานคาง อัดเป็น CD
    ช่วงพักระหว่าบท ก็หาเพลงที่ฟังแล้วโล่งหัว อาจจะมีเสียง
    คลื่น ลม ทะเล ประกอบด้วยจะแหล่มมากเลยจ้า


    ในกรณีเรื่อง คู่แฝดต่างมิติ ตรงนี้ผมพยายามอ่านแล้วทำความเข้าใจ
    อยู่นาน ตั้งแต่กระทู้คุณ ชยุต แล้วนะ พยายามเทียบเคียงกับหลักเหตุผล
    ของศาสนาพุทธ แล้ว รู้สึกว่า ที่บอกไว้ตรงๆ ไม่มี

    เลยทำได้แค่จินตนาการ ในแบบ ที่อยุ่ในหลักการพุทธ พอได้ว่า

    คนทุกคน ย่อมไปสู่จุดจบของ ชาติ และ ชีวิต ด้วยการ ปรินิพพาน

    ดังนั้นมันจะเป็นไปได้มั๊ยว่า คู่แฝดต่างมิติ คือตัวเราเองที่เป็นอรหันต์
    ในอนาคตของเรานั่นเอง โดยที่พระอรหันต์ในชาติอนาคตของเรานั้น
    พยายามดลใจเรา ข้ามกาลเวลาย้อนอดีตส่งถึงเรา ในชาติปัจจุบันนี้
    เพื่อให้เราทำกรรมที่ส่งผลต่อการบรรลุธรรม ให้ก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ
    จนถึงชาติที่เป็นพระอรหันต์ในที่สุด

    แบบนี้มันจะเป็นไปได้มั๊ยนะ สิ่งที่เราพอรู้อยู่บ้างคือ พระพุทธเจ้า
    รู้อดีต และ อนาคต แบบไม่มีที่สิ้นสุด แล้วเราล่ะ ที่จะได้เป็น
    พระอรหันต์ในอนาคต จะทำได้เหมือนกันหรือเปล่านะ

    ในกรณีที่ทำได้ แล้ว เราที่เป็นอรหันต์ในอนาคต จะดลใจข้ามเวลา
    ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ในหลักการพุทธแบบตรงๆ ไม่มีบอกไว้เลยอ่ะ

    สุดท้ายนี้ พระอรหันต์ คือ ผู้ที่หยุดแล้ว ดังนั้นเมื่อหยุดแล้วจึงหมายความว่า
    เวลาทุกเวลา อันไม่มีที่สิ้นสุด จะเป้นเวลาของพระอรหันทั้งหมดด้วยหรือเปล่า
    ดังนั้น พระอรหันต์ จึงสามารถรู้เหตุการในเวลาต่างๆ ได้ไม่มีที่สิ้นสุด


    ปล.เต๋าบอกว่า ให้ทำตัวว่างๆ และ นิ่งๆ เหมือนแกนกลางของล้อเกวียน
    เพื่อจะได้ดูเหตุการณ์รอบๆ ตัวเราหมุนเวียนเปลี่ยนไป ดั่งล้อเกวียนที่หมุนอยู่
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อิทส กู๊ดไอเดีย...รับอาสา อ่านเองเลยไหมคะ...^ ^

    อืมม์ จริงๆ ไม่อยากไปพาดพิงกับศาสนาเลย อะคะ
    เพราะไม่อยาก ให้เป็นการเทียบเทียบ ข้อมูลตรงนี้ไม่ใช่ศาสนา
    ถ้าจะบอกว่า เป็นศาสนาเปรียบเทียบก็คงไม่ได้
    แต่ถ้าจะให้ลอง ไต่ไปแถวๆขอบแนวของศาสนา
    ลองอ่านบทความนี้ดูหน่อยไหมค่ะ แล้วคิดว่าอย่างไร ค่อยมาว่ากันอีกที

    ไม่ใช่ผู้รู้ และ ตอบคำถาม นะคะ
    แต่มาคุย และออกความเห็น นิหน่อย เจ๋ยๆ...จ้า

    โพสต์ ถัดไปนะ ยาวนิดส์นึง...
     
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอแบ่งเป็น 3 โพสต์
    ยาวเกินไปจะอ่านลำบากค่ะ

    1.
    จิต พุทธะ ปัญญา ธรรมชาติ จิตเดิมแท้ (Essence of Mind) ของเรา
    ซึ่งเป็นเมล็ดพืชหรือแก่นของการตรัสรู้นั้น เป็นของบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ (Pure by Nature)
    และต้องอาศัย จิตเดิมแท้ นี้เท่านั้น มนุษย์เราจึงจะเข้าถึงความเป็นพุทธะได้โดยตรงๆ

    เมื่อผู้ใดผู้หนึ่งไม่ได้มีจิตเลื่อนลอยไป จาก จิตเดิมแท้ (Esssence of Mind) ของตนแล้ว
    ก็ควรจะเรียกเขาผู้นั้นว่า ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลกเหมือนกัน
    แม้ว่าจะมีคนชราเหนือและคนชราใต้ถึงก็จริง แต่ทิศเหนือหรือทิศใต้นั้น
    หาได้ทำให้ความเป็นพุทธะ ซึ่งมีอยู่ในคนนั้นๆ แตกต่างกันได้ไม่

    การที่ใครจะบรรลุอนุตตรสัมโพธิได้นั้น ผู้นั้นจะต้องสามารถรู้แจ้งด้วยใจเอง
    ในธรรมชาติแท้ของตัวเอง หรือที่เรียกว่า จิตเดิมแท้
    อันเป็นสิ่งที่ใครสร้างขึ้นไม่ได้ อันเป็นสิ่งที่ใครสร้างขึ้นไม่ได้
    หรือทำลายให้สูญหายไปก็ไม่ได้ ไม่มีต้นโพธิ์
    ทั้งที่ไม่มีกระจกเงาอันใสสะอาด

    เมื่อทุกสิ่งว่างเปล่าแล้ว ฝุ่นจะลงจับอะไร
    เมื่อท่านทำในใจไม่คิด ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว (รู้จักสิ่งที่ไม่ดีและไม่ชั่ว) แล้ว
    ในเวลานั้นเป็นอะไร ท่านที่นับถือ นั่นคือธรรมชาติแท้ของท่าน
    (ตามตัวหนังสือเรียก หน้าตาดั้งเดิมของท่าน) มิใช่หรือ?

    ธรรมชาติแท้ของเรานั้น คือธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะ
    และนอกไปจากธรรมชาติอันนี้แล้ว หามีพุทธะที่ไหนอีกไม่เลย
    ท่านผู้คงแก่เรียนทั้งหลาย เพราะเหตุที่ใจนั้นมีรัศมีทำงานกว้างขวางใหญ่หลวง
    เราจึงไม่ควรใช้มันทำงานกระจิริดไร้เดียงสา

    ท่านผู้คงแก่เรียนทั้งหลาย ปัญญาที่ทำสัตว์ให้ลุถึงการตรัสรู้นั้น
    มีอยู่ในตัวเราทุกๆ คนแล้ว แต่เป็นเพราะมีอวิชชาความมืดบอดที่ครอบงำใจของเราไว้
    เราจึงไม่มองเห็นมันด้วยตัวเอง จนเราต้องเที่ยวเสาะแสวงคำแนะนำตักเตือนจากผู้อื่น

    ท่านผู้คงแก่เรียนทั้งหลาย ปัญญาที่ทำสัตว์ให้ลุถึงการตรัสรู้นั้น
    มีอยู่ในตัวเราทุก ๆ คนแล้ว แต่เป็นเพราะมีอวิชชาความมืดบอดที่ครอบงำใจของเราไว้
    เราจึงไม่มองเห็นมันด้วยตัวเอง จนเราต้องเที่ยวเสาะแสวงคำแนะนำตักเตือนจากผู้อื่น

    ปัญญาดวงเดียวเท่านั้น จะสร้างความรอบรู้ขึ้นถึงแปดหมื่นสี่พันวิถี
    คือเท่ากับจำนวนของกิเลสที่เราจะต้องผจญ
    ปรัชญาซึ่งมีประจำอยู่ใน จิตเดิมแท้ ของทุกๆ คนนั้นแล้ว
    อาจจะเปรียบกันได้กับฝน ซึ่งความชุ่มชื้นของมัน
    ย่อมทำความสดชื่นให้แก่สิ่งที่มีชีวิตทุก ๆ สิ่ง
    รวมทั้งต้นไม้และพืชพันธุ์ธัญญาหาร ตลอดถึงสัตว์ทุกชนิด

    ปรัชญานั้น ไม่แตกต่างกัน แม้ว่าตัวบุคคลจะแตกต่างกัน
    ข้อที่แตกต่างกันนั้น อยู่ตรงที่ว่าหัวใจของเขาสว่างไสว หรือมืดมนเท่านั้นเอง

    จิตเดิมแท้ของเรา เป็นของบริสุทธิ์โดยเด็ดขาด
    และถ้าเราแจ้งชัดว่า ตัวธรรมชาติแท้ของเราคืออะไรแล้ว

    เราจะลุถึงพุทธภาวะได้ทุก ๆคน (ที่มีความรู้เช่นนั้น)
    เมื่อเราใช้ปรัชญา (ปัญญาดั้งเดิม) ของเรา ในการเพ่งพิจารณาในภายใน
    เราย่อมมีความสว่างแจ่มแจ้งภายในและภายนอก
    และเราอยู่ในฐานะที่จะรู้จักใจของเราเอง

    มันเป็นของฝืดในการที่จะไปถือคติว่า ถ้าปราศจากคำแนะนำของผู้คงแก่เรียนและมีใจอารีแล้ว
    เราไม่สามารถจะลุถึงวิมุติ เพราะเหตุไร? เพราะเหตุว่า
    มันเป็นเพราะปัญญาภายในของเราเองต่างหาก ที่ทำให้เราเกิดความสว่างไสวได้

    โพธิ เป็นสิ่งที่ประจำอยู่แล้วภายใน จิตเดิมแท้ ของเรา
    การพยายามมองหาโพธิจากที่อื่นนั้น เป็นความเขลาฯ
    จิตที่บริสุทธิ์นั้น จะหาพบได้ภายในจิตอันไม่บริสุทธิ์ของเรา นั่นเอง
    เนื้อกายของเรานี้ เป็นนครแห่งหนึ่ง ตา หู จมูก ลิ้น ของเราเป็นประตูเมือง

    ประตูนอกมี ๕ ประตู ประตูในมี ๑ ประตู ได้แก่อำนาจปรุงแต่ง สำหรับคิดนึก
    ใจนั้นเป็นแผ่นดิน จิตเดิมแท้เป็นเจ้าแผ่นดิน
    ซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลแห่งใจ ถ้าจิตเดิมแท้อยู่ข้างใน ก็แปลว่าเจ้าแผ่นดินยังอยู่
    แล้วกายและใจของเราก็ชื่อว่ายังมีอยู่ เมื่อจิตเดิมแท้ออกไปเสียแล้ว
    ก็ชื่อว่าเจ้าแผ่นดินไม่อยู่

    กายและใจของเราก็ชื่อว่าสาบสูญไปแล้ว ถ้าเรามีความเพียร
    รอคอยจนได้ไฟอันเกิดจากการเอาไม้มาสีกัน เมื่อนั้น บัวสีแดง (พุทธภาวะ)
    ก็จะโผล่ออกมาเองจากตมสีดำ (ความมืดมนก่อนตรัสรู้)
    ในวันหนึ่ง ๆ ที่ชีวิตล่วงไป เราควรปฏิบัติความไม่เห็นแก่ตัวอยู่ตลอดเวลา
    แต่ว่าพุทธภาวะนั้น

    ไม่มีหวังที่จะได้มาจากการให้เงินเป็นทาน โพธิปัญญานั้น
    หาพบได้เฉพาะจากภายในของเราเอง และไม่มีความจำเป็นที่จะเสาะหาความจริง
    อันเด็ดขาดของพระศาสนาจากภายนอก น้อยคนเหลือเกิน ที่จะยอมเห็นด้วยว่า
    ในเรือนที่ไฟกำลังไหม้นั่นเอง มีพระธรรมราชา ซึ่งเราจะหาพบได้
    ธรรมนั้นไม่เป็นของคู่ และจิตก็ฉันนั้น มรรคนั้นบริสุทธิ์
    และอยู่เหนือรูปทั้งมวล
     
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    2.

    เมล็ดพืชแห่งพุทธะ แฝงอยู่ในจิตของเรา
    ย่อมงอกตามสายฝน ที่ซึมซาบไปในทุกสิ่ง
    ดอกไม้แห่งหลักธรรม เมื่อได้ผลิออกมาด้วยปัญญาญาณ
    ผู้นั้นย่อมแน่แท้ ที่จะเก็บเกี่ยวผลแห่งการตรัสรู้
    พุทธะก็อยู่ที่เรา เราะจะไปค้นหาพุทธะข้างนอกนั้นไม่พบหรอก
    เพราะเหตุที่พุทธนั้น ก็คือ ภาวะในตัวเรานี้เอง

    พระพุทธเจ้าทั้งปวงและสัตว์โลกทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นอะไรเลย
    นอกจากเป็นเพียง จิตหนึ่ง (One mind)
    นอกจาก จิตหนึ่ง นี้แล้ว มิได้มีอะไรตั้งอยู่เลย
    จิตหนึ่ง นั่นแหละ คือ พุทธะ ไม่มีพุทธะอื่นใดที่ไหนอีก
    ไม่มีจิตอื่นใดที่ไหนอีก จิต เป็นเหมือนความว่าง
    ซึ่งภายในนั้นย่อมไม่มีความสับสนและความไม่ดีต่างๆ

    จิตนี้ มิใช่จิตซึ่งเป็นความคิดปรุงแต่ง
    มันเป็นสิ่งซึ่งอยู่ต่างหากปราศจากการเกี่ยวข้องกับรูปธรรมโดยสิ้นเชิง
    ฉะนั้นพระพุทธเจ้าทั้งหลายและสัตว์โลกทั้งปวง จึงไม่แตกต่างกันเลย
    ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะ ดั้งเดิมของเรานั้น

    โดยความจริงอันสูงสุดแล้ว
    เป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายแห่งความเป็นตัวตนแม้แต่สักปรมาณูเดียว

    สิ่งนี้เป็น ความว่าง เป็นสิ่งที่อยู่ในที่ทุกแห่ง
    สงบเงียบและไม่มีอะไรเจือปน มันเป็นศานติสุขที่รุ่งเรืองและเร้นลับ
    และก็หมดกันเพียงเท่านั้นเอง ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะนั้น
    เป็นเหมือนกับความว่าง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอะไรทำลายไป

    จงเหวี่ยงคตินิยมไปเสียให้พ้น รวมทั้งความชอบและความไม่ชอบของเธอด้วย
    สิ่งที่มีอยู่จริงๆ เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น คือ จิตหนึ่ง นี้เท่านั้น
    ธรรมชาติแท้ของ จิต นั้น ถ้าเข้าใจซึมซาบแล้ว
    คำพูดของมนุษย์ ไม่สามารถหว่านล้อม หรือเปิดเผยมันได้

    ความตรัสรู้ คือความไม่มีอะไรให้ใครต้องลุถึง และผู้ซึ่งได้ตรัสรู้แล้ว ก็ไม่พูด ว่าเขารู้อะไร
    แม้เราได้ถ่ายทอดให้แล้ว ซึ่งธรรมะแห่ง จิต ธรรมะก็จะเป็นธรรมะไปได้อย่างไรกัน?
    เพราะว่า ไม่ใช่ทั้งธรรมะ ไม่ใช่ทั้ง จิต ที่สามารถมีอยู่อย่างมีความเป็นตัวเป็นตน
    เข้าใจข้อนี้เท่านั้น เธอจึงจะเข้าใจ ธรรมะซึ่งถ่ายทอดด้วย จิต ถึง จิต

    ไม่มีอะไรเลยสักสิ่งเดียวที่มีอยู่ ดังนั้นฝุ่นสกปรกจะจับได้ที่ตรงไหน
    ถ้าท่านเข้าใจถึงหัวใจของความจริงเรื่องนี้ ทำไมจะต้องพร่ำถึงความสุขขั้นเลิศด้วยเล่า

    จิต ของเธอ คือพุทธะ พุทธะคือ จิต
    จิต กับพุทธะ เป็นสิ่งที่ไม่แยกจากกันได้
    เพราะฉะนั้นจึงมีคำจารึกไว้ว่า “สิ่งซึ่งได้แก่ จิตนั้นแหละคือพุทธะ”

    ถ้ามันเป็นสิ่งอื่นนอกไปจาก จิต มันก็เป็นสิ่งอื่นนอกไปจากพุทธะ โดยแน่นอน
    ถ้าพวกเราทราบโดยประจักษ์ว่า สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเป็นของอันเดียวกัน
    กับโพธิมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเธอจะหยุดคิดถึงโพธิ

    ในฐานะเป็นสิ่งที่ต้องลุถึง จิต ซึ่งเป็นตัวธรรมชาติแท้ของคนเรานั้น
    เป็น ครรภ์ ซึ่งมิได้มีใครทำให้เกิดขึ้น
    และเป็นสิ่งทำลายไม่ได้ ในการทำปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ นั้น
    มันเปลี่ยนรูปตัวมันเองออกมาเป็นปรากฏการณ์ต่างๆ

    ธรรมะแต่ละชนิด ทุกชนิดเป็นเพียงการสร้างสรรค์ของ จิต
    อะไรคือใจสงบ? ใจที่ได้ฝึกฝนและทราบซึ้งในธรรม คือใจที่สุขสงบ
    หากปล่อยใจตามปรารถนา โดยไม่รู้ธรรมเป็นเครื่องประกอบ
    เท่ากับเราหลงมัวเมาอยู่ในความมืดอย่างไม่รู้สึกตัว
    แท้จริงใจคนเราดั้งเดิมงดงาม สะอาดบริสุทธิ์ ไม่สกปรกแปดเปื้อน

    แต่ต่อมาเกิดกิเลสตัณหาหรือความอยาก ทำให้จิตใจเปลี่ยนโฉมหน้าไป
    กิเลสที่เกิดขึ้นนี้สร้างความกลัดกลุ้ม รำคาญใจ จริงหรือไม่?
    เราสามารถพิสูจน์ได้โดยการสำรวมใจตนเองดูแล้วจะเห็นจริง

    จิตนั้นรวมตัวได้เมื่อทุกอย่างเงียบสงบ จึงเห็นชัดในการเกิดและการดับ
    ในท่ามกลางความรู้สึกนึกคิด มันถูกสร้างเพื่อลิขิตชีวิต

    ครั้งเห็นธรรมจิตก็สงบ ไม่เคลื่อนย้ายสับส่ายร้อนรน
    ใจกับความว่างไม่แตกต่าง ที่พูดว่าใจว่าง เป็นการจำกัดขอบเขตใจว่าเอง
    เพราะจริง ๆ แล้วความว่างของใจ อยู่ตรงกลางสิ่งมีชีวิตที่มีใจ
    มองเห็นจิตเดิมแท้ของตน นี่คือจุดหมายของวิปัสสนาญาณ

    ใจกว้างใหญ่เป็นอนัตตาหาขอบเขตไม่ได้ ฟากฟ้าว่าสูงสุดตา แต่ใจสูงยิ่งว่านั้น
    พื้นแผ่นดินที่ว่าหนาสุดคณา แต่ใจสามารถเจาะผ่านได้อย่างสบาย
    เราไม่สามารถไล่ตามแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ทัน
    มีแต่ใจเท่านั้นที่นอกจากจะไล่ทันแล้ว ยังสามารถไปรออยู่หน้าแสงได้
    ทุกคนล้วนมีจิตแห่งพุทธะ เมื่ออยู่ในศีลในธรรม ย่อมปราศจากความกลัว

    ใจที่รู้ย่อมอาจหาญไม่กลัว สามารถ ละวางได้
    และรู้ว่าชีวิตภายใต้ท้องฟ้านี้ไม่อาจฝืนอนิจจังได้
    ถ้าหากใจเรามีราคาแพง ก็ต้องมีใจที่ราคาถูก
    ถ้าใจเรามีการทำถูก ก็ต้องมีใจที่ทำผิด

    ถ้าใจคิดว่าสิ่งนั้นดีถูกต้อง ก็ต้องมีใจคิดว่าสิ่งอื่นทั้งหมดไม่ดีผิด
    ถ้าใจเอียงเอนโดยมีความสนิทสนมกับสิ่งนั้น สิ่งอื่นก็ห่างไกล ไม่เป็นที่ชอบใจ
    หากมีใจที่แบ่งแยก ก็จะเห็นธรรมทั้งหลายแบ่งแยกอยู่ในที่ต่างๆ
    เช่น ความโลภ ความโกรธ และการตัดสินใจผิดพลาด

    สิ่งที่ถูกต้องเข้าใจว่าไม่ดีไม่ถูกต้อง นี่คือการมองธรรมที่เกิดขึ้น
    หรือไม่พบธรรมที่เกิดขึ้นก็ไม่มีความแตกต่าง
    นี่คือการบำเพ็ญธรรม แท้จริงใจคือธารธรรม
    ผู้เข้าใจปฏิบัติ ย่อมบรรลุธรรมได้อย่างรวดเร็วฉับพลัน

    ถ้ารู้ว่าตนเกิดหลงเวลาใด ต้องพิจารณาให้เห็นธรรมความจริงอันยิ่ง
    ใจคนที่ยังมีการแบ่งแยกเป็นอื่น ย่อมคิดถึงสรรพสิ่ง
    แต่ถ้าสำนึกว่าใจแท้คือสงบว่างเปล่า ใจย่อมไม่คิดถึงสรรพสิ่ง

    และใจไม่เกาะเกี่ยวสิ่งใด สรรพสิ่งใดไม่ใช่สรรพสิ่ง ใจตนและวางอิ่มพอ
    และรู้ว่าไม่มีอยู่จริง จึงเข้าถึงความรู้แจ้งปล่อยวาง

    ปัญญาอันแท้จริงนั้นถ่ายทอดให้กันไม่ได้ ต้องเกิดขึ้นแก่ตัวเองเจ้าเอง
    มันจึงจะอยู่และไม่ลืมไปได้ง่ายๆ จิตเกิด รูปธรรมทั้งหลายก็เกิด
    จิตดับ รูปธรรมทั้งหลายก็ดับ บาปเกิดขึ้นที่จิต
    จะดับก็ต้องดับที่จิต บาปบุญมาจากจิต
     
  16. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    3.
    ฉะนั้นจิตคือพุทธะ สรรพสัตว์ที่มีความรู้สึกนึกคิดแล้ว
    ย่อมมีธาตุแห่งความเป็นพุทธะอยู่ในตัวสัตว์เหล่านั้นมาแล้วทุกๆ ตัว
    มิได้ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย อาศัย ๔ มหาภูตรูป ใช้ทำกาย
    จิตเดิมไม่มีเกิด เหตุสภาวะจึงมี ปัจจุบันสภาวะถ้าไม่มี จิตก็ไม่มี
    บาปและบุญเหมือนมายา เกิดก็ดับ เห็นกายไม่มีแท้ เป็นพุทธกาย
    รู้จิตเหมือนมายา เก็บพุทธมายา รู้ได้ว่ากายและจิตเดิมนิสัยว่าง

    บุคคลนี้กับพุทธะ อะไรแตกต่างกัน

    พุทธะไม่เห็นกาย รู้เป็นพุทธะ ถ้าหากว่ามีรู้ ต่างก็ไม่มีพุทธะ
    ปัญญาที่สามารถรู้บาปนิสัยว่าง ฉะนั้นไม่หวาดกลัวต่อเกิดตาย
    จงปล่อยคอยให้เหตุปัจจัยเขาปรุงแต่งพร้อมขึ้นไปเอง
    แล้วตอนบัวจะบานผลจะเกิดขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ

    จงทำหน้าที่หว่านเมล็ดพืชพันธุ์แห่งพุทธะไปเรื่อยๆ
    จงอย่าทำหน้าที่คอยยืดหวังเก็บเกี่ยวผลแห่งพุทธะ

    จิตใจที่แท้ของมนุษย์นั้น ปราศจากเสียง ปราศจากกลิ่น
    ผู้ซึ่งเมื่อเวลาถูกเรียกชื่อแล้วขานรับนั้น

    จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากขโมย

    ในคำสอนของเซ็น
    คำว่า “ธรรม” หมายถึง “ธรรมชาติที่แท้แห่งตน”
    “ธรรมชาติที่แท้แห่งตน”

    ไม่สามารถจะเป็นอย่างที่เห็นหรือพบได้ด้วยความคิด เพราะมันเป็นภาวะว่างเปล่า
    ท่านเคยให้โอกาสแก่ตัวเองพิจารณาเรื่อง “ที่เก็บขยะ” ของท่านบ้างไหม ?
    (นิสัยต่าง ๆ ของท่าน ความคิดของท่าน
    อคติต่างๆ ของท่าน และความเชื่อที่ท่านยึดถือไว้)

    จิตใจที่ถูกครอบงำไว้แล้วด้วยการสั่งสมความคิดต่างๆ
    ย่อมจะถามคำถามด้วยจิตใจที่ถูกกำหนด และถูกครอบงำไว้แล้วเท่านั้น

    คำตอบก็แสดงถึงการถูกครอบงำความคิดของผู้ตอบ
    คำตอบของผู้ตอบจะแสดงออก

    ปัญญาที่แท้นั้น ความคิดเชิงตรรกถึงทางตันแล้ว
    บางทีอาจจะเป็นโอกาสของปัญญาญาณได้ปรากฏขึ้น
    ธรรมชาติได้ประทานพลังชีวิตและความสามารถ ที่จะตอบโต้กับสภาวะต่างๆ
    ด้วยสมรรถนะอันสมบูรณ์แก่เราอยู่แล้ว
    เพียงแต่ตระหนักในข้อนี้ก็จะค้นพบเพชรล้ำค่าในกายตน

    นี่เป็นก้าวแรกสู่การปฏิบัติตัวเอง มีเพียงผู้ที่ควบคุมร่างกานได้เท่านั้น
    จึงจะดึงสติปัญญาความสามารถอันดีเด่นออกมาใช้ได้ ในใจของคนทุกคนต่างก็มีพระอยู่
    วิธีการปลุกเร้ากายใจในสดชื่นนั้น คือ ถึงเวลาอ่อนเพลียก็นอน
    ถึงเวลาหิวก็กินข้าว เป็นท่วงทำนองธรรมชาติ
    ที่ตัวตนจะดำรงอยู่ ณ ที่นี้อย่างแท้จริงอยู่เสมอ

    บนตัวของคนเรา มีคนจริง (พุทธะ)
    ที่ไร้ตำแหน่ง (มีพลังอันเต็มเปี่ยม อยู่ท่านหนึ่ง
    ความคิดของฉันตลอดมา จิต พระพุทธะ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    ไม่แตกต่างกันเลย ตลอดคืน ฉันถูกรบกวนด้วยความคิด
    เรื่องนิพพานและสังสาระ (ช่างเป็นผู้ฝันที่เหน็ดเหนื่อยเสียนี่กระไร ! )

    เห็นได้ชัดว่าฉันมีพระพุทธอยู่ เหนือภูเขาหิมะ (หิมาลัย)
    ดวงดารายังคงฉายส่อง สุกใสเมื่อพระพุทธะได้เห็นเรื่องนานมาแล้ว
    (แต่ อนิจจา ! พวกเราบางคนไม่เห็น) จงมองให้ลึกในธรรมชาติแห่งตน
    ธรรมชาติแห่งพุทธะของสุนัขนั้น เป็นประกาศิตจากเบื้องบน มีอยู่แน่แท้

    แต่หากมัววุ่นวายอยู่ ด้วยความคิดว่ามีหรือไม่มี ชีวิตก็จะสูญเปล่าได้เสีย
    ความคิดเกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติแท้ อาจกลายเป็นอุปสรรคของผู้ฝึกฝนเซ็น
    ที่เป็นจุดมุ่งหมายอันสูงสุดของเซ็น จิตของปุถุชน

    เมื่อได้มาก็ดีใจ ไม่ได้ก็เสียใจ
    พระพุทธเจ้าแท้จริง อยู่ที่ใจที่หมดสงสัยลังเลต่อชีวิตแล้ว
    พระพุทธรูปภายนอกนั้นพาให้ลังเล

    ถ้าพบ “พระ” ในใจแล้ว “พระ” นั้นคุ้มครองในทุกแห่งหน
    จิตเดิมนั้นประภัสสรอยู่ปรกติเป็นกลางๆ มิได้คด มิได้มีกิเลส
    “กิเลสต่างหากคิด” และคนเข้าใจผิด “จิตคด” เหมือนน้ำซึ่งไม่คด
    แต่แม่น้ำหรือคลองต่างหากคด

    ข้อนี้หมายถึงต้องกำจัดกิเลสที่จู่เข้ามาเป็นครั้งคราว
    ไม่ใช่ไปทรมานจิตเดิมแท้ที่ประภัสสรอยู่เองแล้ว
    เพราะเหตุที่วิธีการแสดงออซึ่งปรีชาญาณแห่งปรัชญา มิได้นานาแบบอย่างไม่จำกัด

    ดังนั้นคำตอบที่ตอบให้แก่ปัญหาที่อาจารย์ตั้งขึ้ จึงมิได้หลายแบบอย่างไม่จำกัดด้วย
    ไม่เป็นแบบแผนที่ตายตัวหรือจำเจ เซ็นมีปรัชญาอยู่ในเนื้อหาของมันมากมายยิ่งนัก
    แต่ไม่ใช่ปรัชญาในความหมายธรรมดาสามัญทั่วๆไป สรรพสัตว์เป็นพุทธะอยู่แต่เดิมแล้ว
    มันเหมือนน้ำแข็งกับน้ำ คือปราศจากน้ำที่จะไม่มีน้ำแข็ง

    โลกนี้เป็นแดนดอกบัว และกายนี้เป็นพุทธะ ว่างเปล่าจากความคิด ฉันนั่งอยู่อย่างเงียบๆ
    ที่โต๊ะเขียนหนังสือ ให้ห้องทำงานของฉัน ด้วยจิตที่ดุจน้ำพุ อันไม่ถูกรบกวน
    และสดใสเหมือนน้ำ
    เสียงฟ้าร้องเปรี้ยงเกิดขึ้นทันใด โดยมิได้คาดหมาย ประตูแห่งจิตก็ระเบิดเปิดออก
    และดูซิ ! นั่งอยู่นั่น คือ ท่านผู้เฒ่า ผู้อยู่ในความเรียบๆ ง่ายๆ
    ฉันมีพลอยอยู่เม็ดหนึ่ง ส่งประกายสดใส มันถูกฝังไว้นานแล้วภายใต้ความกังวลอย่างโลกๆ

    เช้าวันนี้ ม่านฝุ่นที่คุลมอยู่ได้หลุดออกไป และความแวววาวของมันก็ได้กลับคืนมาอีก
    ส่องภูเขาสีน้ำเงินให้สว่างไสวอยู่ในความเคลื่อนไหว ดุจลูกคลื่นอันไม่มีสิ้นสุด
    ก็ในเรื่องสมองของท่าน
    เต็มไปด้วยความคิดและทฤษฎีออกอย่างนั้น

    ข้าพเจ้าจะอธิบายเรื่องเซ็นให้เข้าใจได้อย่างไร ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
    ในจิตที่ถูกกลบอยู่ภายใต้โมหะนั้น ก็ไม่ผิดอะไรกับเพชรที่จมอยู่ใต้ตม
    เมื่อใดตมถูกเปิดออก ความแพรวพราวของเพชรนั้นจะปรากฏออกมาทันที

    ฉะนั้นจงช่วยกันลอกตาม คือ โมหะ ของตนเองออกเสียเถิด
    หากไม่ดูจิตก็จะไม่เห็นจิต จะไม่รู้จักตัวเอง
    ดูกายเท่าไรก็จะไม่มีทางเห็นตัวเอง ไม่มีทางรู้จักตัวเองแน่นอน

    ปัญญาในทางพระพุทธศาสนานั้นที่รู้อริยสัจสี่
    เป็นสำคัญรู้อะไรมากมายแต่ไม่รู้อริยสัจสี่ก็เท่ากับเหลว
    เท่ากับไม่รู้อะไรเลยในทางศาสนา

    สรรพสัตว์คือองค์พุทธะแต่ปฐม เปรียบประดุจน้ำและน้ำแข็ง
    จะมีน้ำแข็งโดยปราศจากน้ำหาได้ไม่
    จะมีองค์พุทธะโดยปราศจากสัตว์โลกหาได้ไม่.

    หากเธอหันมาเพ่งมองภายใน เพื่อสัมผัสถึงสัจจะธรรมชาติแห่งตน
    ธรรมชาติแห่งตนซึ่งปราศจากธรรมชาติ
    เธอย่อมไปพับขอบเขตอันจำกัดของความรอบรู้ทั้งหลาย

    ท่านเปรียบเทียบว่า ปัญญา หรือการรู้แจ้ง นั่นก็เหมือนกับหน่อไม้
    คือเมื่อผุดขึ้นมาพ้นดินได้แล้ว ก็มีแต่จะเติบโตพุ่งพรวด
    สูงขึ้นไปเป็นลำไผ่สถานเดียว ชาล้นถ้วยยังพอมีน้ำชาอยู่บ้าง
    แต่ไอ้ถ้วยไม่รับชานี่น่าสงสาร

    พุทธะ คือจิตของท่าน และ “ทรง” ก็ไม่ได้พาไปไหน
    อย่าค้นหาสิ่งใดนอกเหนือจากนี้
    ถ้าท่านมุ่งหน้าไปเหนือ เมื่อต้องการจะไปใต้
    ท่านจะไปถึงจุดหมายได้อย่างไร? ธรรมก็เช่นเดียวกับสิ่งไม่ใช่ธรรม
    ไม่ใช่ดำรงอยู่ หรือไม่ดำรงอยู่ ใครที่เข้าใจความข้อนี้อย่างถ่องแท้
    ย่อมประจักษ์วาทุกสรรพสัตว์คือพุทธ แม้ว่าวัตถุอันประณีต
    จะนำความสุขสำราญมาให้ แต่ โดยไม่มีสิ่งที่ผิดและการลวงหลอก
    ฉันปรารถนาจะอยู่กับความยากจนมากกว่า
    พร้อมด้วยหัวใจที่แกว่งไกวในศานติ

    ที่มา : วาทะเซ็น / สัจจานันทะ รวบรวม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2010
  17. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
    ต่อไปคงต้องพกสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆไปด้วย :)

    ปกติจะถนัดติดต่อทางช่องทางความฝันซะมากกว่าครับ

    ข้อความในฝันนั้น เค้าบอกว่า เค้าอยู่กับเราทุกคนตลอดเวลา
    แต่เราสัมผัสเค้าไม่ได้
    เหมือนกับในบ้านที่เราอยู่ประจำ แต่มีห้องลับที่เราไม่เคยได้เยี่ยมเยือน

    เค้าบอกว่า การติดต่อนั้น ต้องใช้จักระ 4 และ 6 ครับ

    คงต้องลองพิสูจน์กันต่อไปครับ
     
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ตามความเชื่อ ในแนวทางพุทธศาสนา เป้าหมายชาวพุทธ
    คงไม่มีใครบอกว่า ไม่ใช่การไปถึง ภาวะของพระอรหันต์
    ซึ่งเป็นภาวะที่ เรียกว่านิพพาน แต่แม้แต่พระอรหันต์ ถ้ายังไม่ละสังขาร
    ก็ยังคงเป็นนิพพานดิบยังต้องอยู่ในร่าง มีกาย และ ดำเนินชีวิตต่อ
    จนกว่าจะเข้านิพพานสุก อันหมายถึงการละสังขาร และ ไม่เกิดอีก

    เพียงแต่ ไม่ทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้น (ใช้ภาษาแบบปริยัตฺไม่เป็นขออภัยนะคะ)

    แล้วกว่าจะไปถึงตรงนั้น ตอนนี้ เราอยู่ตรงนี้ เลยคิดว่า
    ถ้าเรายังดำเนินชีวิตด้วยการขาดสติ อยู่กันแบบมึนๆ และชีวิตมันยังแย่ๆอยู่
    อย่าพึงไปนึกถึงเลยดีไหมค่ะ มาทำตอนนี้ ให้ดีที่สุดกันก่อน

    คนละไม้คนละมือ....ช่วยกู้โลกได้ด้วยนะคะ

    ส่วนคำถามนี้ เป็นคำถามเรื่องที่เกี่ยวกับเวลา
    คงต้องพึ่ง นักฟิสิกส์แล้วอะค่ะ เผอิญ ฉล๊าด ฉลาด มากเรื่องควอนตัม เนี่ย...:'(

    ที่ยกมาท้างหมดเนี่ย...(โพสต์ ซ้า) ถึงแม้จะแก้ข้อสงสัยได้ หรือไม่
    แต่บทความเค้าก็ดีนะ อ่านแล้วได้คิดดีเหมือนกัน อ่านๆไปเถอะนะคะ

    ...^ ^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2010
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ท่าน ช่วยอธิบาย หน่อยได้ไหมละคะ สั้นไป ไม่เก็ทค่ะ...อิอิ
     
  20. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    จักระ 7 เป็นจุดสะท้อนของทุกๆจักระ

    จักระที่ 4 แทน ความรัก ความเมตตา ที่อยู่บริเวณหัวใจ

    ลองจินตนาการถึงความรัก ความสุข ในชีวิต จักระที่ 4 จะสั่นสะเทือนมากขึ้น
    ส่งผลให้รู้สึกว่า ตรงกลางกระหม่อมเปิดออก

    เพราะตรงกระหม่อม บริเวณจักระที่ 7 เป็นที่ตั้งของจักระที่ 4 ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...