ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. spthong2000

    spthong2000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +3,967
    เอาบุญมาฝากครับ ไปนมัสการและสักการะรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฏมาครับไปคืนวันศุกร์ถึงเที่ยงคืนและขึ้นไปบนเขากว่าจะกลับลงมาก็แปดโมงจะครึ่งของวันเสาร์เดินตั้งแต่ตีหนึ่งตีสองยันเช้าเลยครับ และร่วมทำบุญซื้อที่ดิน สร้างพระพุทธรูป สร้างศาลา มหาวิหาร ค่าน้ำค่าไฟ ชำระหนี้สงฆ์ ถ้าใครยังไม่ได้ไปนมัสการและไปทำบุญนะครับ เขาเปิดให้ขึ้นได้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ถึง 16 มีนาคมครับ ปีละสองเดือนครับ ถ้าว่างหาโอกาสไปนมัสการครับ ขอบอกทางขึ้นลงสุดยอดมาก
     
  2. ขาโจ๋ข้าเอง

    ขาโจ๋ข้าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +4,856

    คำถามนี้ยากนักสำหรับการตอบ ครั้นจะตอบให้ถูกต้องเลยซักทีเดียวนั้นก็เห็นว่าจะยากเกินกำลังของตัวข้าน้อย แต่ครั้นไม่ตอบก็เห็นว่าถามไปไม่มีคนช่วยตอบ หรือขาดคนดูแล หรือต่างๆนาๆแล้วแต่บุคคลจะสรรหาที่จะคิดตามประสาปุถุชนคนธรรมดามากด้วยจริตคิดฟุ้งกันไปมากมาย

    เอาเป็นว่าตามความเข้าใจของกระผมก็แล้วกันนะขอรับ ผิดถูกโปรดใช้พิจารณาหรือรอคำตอบจากผู้ที่เข้าใจมากกว่ากระผมนะขอรับ

    แม้แต่ไข่ ๑ ใบก็ห้ามทุบ ที่สั่งห้ามทุบนั้นเพราะ เจ้าของงานต้องหาไข่มาทุบ ครั้นจะซื้อมาจากตลาด๑ใบหรือ๒ใบก็คงจะไม่พอในการใช้ปรุงอาหาร เจ้าของงานผู้สั่งก็ต้องสั่งคนโน้นคนนี้ให้ไปหาไข่มาเพื่อใช้ในงาน ในการสั่งหาไข่มาใช้ในงานก็เหมือนการสั่งคนไปฆ่าสัตว์มาเพื่อทำอาหาร

    ไข่ไม่เป็นตัวบาปมั้ย คนท้องประมาณ๑เดือนแล้วไปรีดท้้องออก ถามว่า๑เดือนเด็กในท้องเป็นตัวเป็นรูปเป็นร่างหรือยังขอรับ บาปมั้ย

    ลูกอิฉันยังเล็กจะกินอะไร เมื่อเรายังต้องอาศัยไข่ในการปรุงอาหาร แต่คุณได้ซื้อในตลาดที่เขานำมาวางขาย คุณก็ซื้อไปเถอะขอรับอย่าไปคิดมากว่ามันจะเป็นหรือจะตายเพราะเขานำมาขายเราไม่ได้ไปสั่งเขาให้นำมาขาย คุณต้องนำไข่มาขายให้เรานะ อย่างนี้คือการสั่งให้เขาฆ่าสัตว์ เจตนาเราคือให้เขาฆ่า

    ครั้นคุณคิดมากไป ฟุ้งปรุงแต่งเกินไป มันบาปมั้ย มันเป็นตัวหรือยัง เราสั่งเขาให้ขายไข่หรือเปล่า คิดมากไปเกินพอดีปวดหัวได้นะขอรับ ถ้าเราคิดจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ต้องอย่าลืมยอมรับผลของกรรม หรือ กฎของกรรมด้วยนะขอรับ

    เพราะเขาสร้างกรรมไว้ กรรมจากปาณาติบาตทำให้เขาต้องมามีกรรมเช่นนี้ ได้เกิดแต่ยังไม่ได้เห็นดูโลกก็ต้องตาย ได้เรื่มเป็นตัวเป็นรูปเป็นร่าง แต่ยังไม่ลืมตาก็ยังต้องตาย ได้มาอยู่ในท้องของแม่ แม่ยังเอาเราออกไปรีดท้องออก ยังไม่ได้ดูโลกก็ต้องตายลงเสียแล้ว เพราะอะไร

    เพราะเรายังเห็นว่าโลกมนุษย์ยังเป็นของดีอยู่อีกนั้นหรือ การมีสังขารหรือขันธ์๕ เป็นของดีอีกนั้นหรือ การเวียนว่ายตายเกิด ยังเป็นของสนุกกับเราอีกกระนั้นหรือ ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความทรมาน นั้นเป็นสิ่งที่เรายังพึงพอใจอีกกระนั้นหรือ ความอยากให้รูปสวย รูปหล่อ ยังเป็นสิ่งที่เราต้องการในโลกอีกนั้นหรือ ครั้นตายลงคุณแน่ใจแล้วหรือคุณจะได้เกิดมาเป็นคนอีกครั้งแล้วกระนั้นหรือ แล้วถ้าคุณได้เกิดเป็นสัตว์จะเป็นอย่างไร หรือคุณแน่ใจตายลงคุณจะไปสวรรค์เป็นแน่แท้กระนั้นหรือ แล้วถ้าเกิดว่าลงนรกละจะได้เกิดอีกมั้ย เมื่อไหร่ละที่จะได้เกิด

    ถ้าอยากสบายใจก็แผ่เมตตาให้เขาเถิดขอรับ เขาได้เกิดมาแต่ไม่ได้ลืมตาดูโลก ถึงเราจะไม่ได้สั่งฆ่าเขา เราซื้อเขาจากตลาด แต่เขาก็ได้ตายลงก่อนวาระอันสมควร นั้นคือกฏของกรรม ผลของกรรมที่เกิดขึ้นนั้นจึงตกอยู่ที่ผู้กระทำ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกล้วนมีที่มาจาก กฏของกรรม ผลของกรรม กรรมเหล่านั้นทำให้เกิดการเป็นทุกข์ นั้นคือที่มาของการพ้นทุกข์ ตามที่องค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ ที่ที่แห่งการพ้นทุกข์นั้นคือพระนิพพาน
     
  3. ขาโจ๋ข้าเอง

    ขาโจ๋ข้าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +4,856
    ผมมีตัวตนแต่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ
    เรื่องต่อไปนี้จะเป็นตัวบอกว่าทำไมผมจึงบอกไม่ได้

    ประมาณสองสัปดาห์หลังปีใหม่ ภรรยาผมลางานเพื่อไปติดต่องานราชการ
    เสร็จแล้วแวะ Central ลาดพร้าว เพื่อหาซื้อหนังสือแนวที่เธอชอบอ่านที่ B2S

    ระหว่างที่กำลังเลือกหาซื้อหนังสืออยู่นั้น ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ
    สามสิบเข้ามาทักทาย
    บอกว่าชอบหนังสือแนวสืบสวนสอบสวนเช่นกันและ
    มี หนังสือที่น่าสนใจหลายเล่มที่น่าอ่านมาก การสนทนาก็เป็นไปอย่างมีมิตรไมตรีต่อกัน จากลักษณะท่าทางและการแต่งตัว ดูเหมือนเป็นคนทำงานทั่วไป
    แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ให้นามบัตรภรรยาผมมา
    ส่วนภรรยาผมก็ให้เบอร์มือถือเธอไปเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน

    การติดต่อพูดคุยก็มีขึ้นเป็นระยะๆ
    และมีนัดเจอกัน! เพื่อให้หนังสือภรรยาผมมาอ่าน แล้วก็บอกว่า
    จะรีบไปทำงาน

    แต่หนังสือที่ให้มาเป็นหนังสือแนวสืบสวนธรรมดาที่ภรรยาผม
    เคยอ่านมาแล้ว จึงอยากจะคืนกลับไป


    การนัดเจอกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
    แต่คราวนี้ผู้หญิงคนนั้นชวนทานข้าวเพราะเป็นช่วงเกือบเที่ยงวันแล้ว

    และได้แนะนำให้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ที่ Food Center
    เธอบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานชอบอ่านหนังสือแนวนี้เช่นกัน

    ผู้ชายคนนั้น ถามภรรยาผมและผู้หญิงคนนั้นว่า จะทานอะไรจะไปซื้อมาให้
    ด้วยความเกรงใจ จึงทานเหมือนกันเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู
    ภรรยาผมพยายามจะขอตัวไปซื้อน้ำมาให้ แต่ทางผู้หญิงคนนั้นชิงเดินไปซื้อมาให้ก่อน

    พอนั่งทานไปได้ประมาณ ครึ่งชามและดื่มน้ำไปหน่อย
    ภรรยาผมก็เกิดอาการมึนๆ และเริ่มง่วงนอน

    เพียงอีกไม่กี่นาทีต่อมา เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
    ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาประคองตัวภรรยาผม แล้วพูดบอกผู้ชายว่า
    คงเป็นลมช่วยพาออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย
    ตอนนั้น ภรรยาผมบอกว่าไม่สามารถพูดอะไรได้ ร่างกายยืนแทบไม่ไหว
    ระหว่างเดินผ่านตัวห้างมาลานจอดรถ เห็นผู้ชายโทรศัพท์เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที
    รถตู้สีขาวก็มาจอด

    แล้วทั้งคู่! ก็พาภรรยาผมขึ้นรถ

    วินาทีนั้นภรรยาผมบอกว่าเธอพยายามขัดขืน
    แต่ทั้งคู่ก็ใช้กำลังพาเธอขึ้นรถแล้วปิดประตูรถ
    บนรถมีผู้ชายสองคนนั่งมาในรถด้วย
    เมื่อรถวิ่งออกจากห้างภรรยาผมพยายามร้องขอความช่วยเหลือ
    แต่ก็ไม่มีเสียง และผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเอามือมาปิดปากเธอไว้

    พอรถวิ่งออกมาระยะหนึ่งผู้ชายที่เจอกันที่ Food Center
    เริ่มปลดเสื้อผ้าภรรยาผม

    เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือและต่อสู้แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง

    ผู้ชายอีกสองคนที่นั่งรออยู่บนรถก็ช่วยกันถอด

    สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคงไม่ต้องบรรยายกันอีก โดยมีผู้หญิงเป็นคนเก็บภาพเป็นระยะๆ

    เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบ รู้สึกตัวอีกที่ภรรยาผมถูกนำมาทิ้ง
    ที่ห้องน้ำหญิงของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวสุขาภิบาลสองย่านบางกะปิ

    ผมไปรับเธอแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
    เธอไม่พูดอะไรได้แต่ร้องไห้และไม่ไปทำงานอีกเลย นั่งซึมอยู่กับบ้าน

    สามวันต่อมาคุณแม่ของภรรยาโทรมาบอก ว่ามีจดหมายลงทะเบียนส่งมาที่บ้าน
    ให้ไปรับ ผมก็ไปรับแล้วเปิดออกดู

    มีภาพถ่ายพร้อมขอเงินสดสี่แสนบาทเป็นค่าฟิล์มและภาพถ่ายทั้งหมด

    ผมพูดไม่ออก ทุกความรู้สึกวิ่งพุ่งเข้ามาในใจ สับสน เสียใจแค้นใจเจ็บใจ
    ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อและเพื่อนท่านที่เป็นนายตำรวจ
    มีความเห็นเหมือนกันว่าต้องแจ้งความกับตำรวจ

    เพราะเงินสี่แสนครอบครัวเราคงหามาให้ได้ยาก ผมกับภรรยาเป็นเพียงลูกจ้าง
    กินเงินเดือนเท่านั้น

    ในวันส่งเงินตามนัดหมายตำรวจกองปราบวางแผนอย่างดีและสามารถจับ
    พวกเดนสังคมได้สองคน ได้ฟิล์มและภาพจำนวนหนึ่ง

    และตำรวจกำลังตามจับพวกที่เหลืออีกสามคน
    แต่ก็ไม่แน่ใจว่าภาพถ่ายยังคงมีเหลืออยู่อีกหรือเปล่า

    ซึ่งหลังจากพวกมันถูกจับผมก็ได้รับโทรศัพท์ขู่ว่าจะนำภาพลง
    internet
    สองครั้ง

    ทุกวันนี้ภรรยาผมไม่ได้ทำงานอีกแล้ว
    อยู่บ้านด้วยอาการซึมเศร้าและไม่ต้องการ
    พบปะกับใครเลย

    ส่วนผมก็ไม่กล้าออกไปไหนเช่นกันทำงานเสร็จก็กลับบ้าน
    ชีวิตความเป็นอยู่มีแต่ความกลัว ระแวง คิดมาก เหมือนเป็นโรคประสาท
    ผมจึงอยากฝากบอกเรื่องราวของผมให้เป็นข้อมูลกับทุกคน

    ทุกวันนี้การหากินบนความทุกข์ร้อนของคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วครับ
    ขอบุญกุศลในการให้ข้อมูลนี้ ทำให้ชีวิตครอบครัวผมดีขึ้นด้วยเถอะ


    กรุณาส่งต่อไปด้วยครับ และอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า

    กระผมได้รับ Fw. mail พวกนี้บ่อยๆ คิดว่าพวกเราเกือบทุกคนคงจะเคยได้รับกันบ้างไม่มากก็น้อย แล้วกระผมเอามาลงให้อ่านทำไม

    ข้อคิดขอรับกระผม เหตุที่เกิดนั้นมาจากผลของกรรมที่ได้กระทำไว้ กรรมต่างๆล้วนแต่ทำให้เกิดเหตุต่างๆขึ้นมา ย้อนอดีตกันได้ตามที่หลวงพ่อได้สอนไว้ก็ลองย้อนกลับไปดูนะขอรับอะไรคือเหตุที่ทำให้เกิด

    ถ้าย้อนไม่ได้อย่างกระผม ก็แค่คิดพิจารณาเล็กๆน้อยๆ สาเหตุที่เกิดล้วนมีที่มาจากการเกิดมามีสังขารร่างนี้ เพราะเรามีสังขารร่างนี้กรรมต่างๆจึงกลับมาส่งผลให้เกิดเหตุๆกลับตัวเราที่ได้เคยสร้างกรรมต่างๆเหล่านั้นไว้ ความพึงพอใจ ความไม่พอใจ ความอยาก ความโกรธ ความลุ่มหลง ตัวกูเป็นของกู กูคือร่างกาย ร่างกายคือกู สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นที่มาของความทุกข์

    ยังต้องการกันอีกหรือ....

    ขาโจ๋ก็ได้แค่พิจารณาเล็กๆน้อยๆ เปรียบได้กับผายลมออกมาแล้วกลิ่นยังไม่ทันได้หายหมดไป อย่างหยาบๆไม่ละเอียด ปัญญาของขาโจ๋ยังกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่ก็อยากนำมาให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้อ่านกัน เผื่อกระทำอะไรออกไปแล้วนึกขึ้นได้มาบ้าง เผื่อเป็นสติเตือนใจในภาคหน้า สิ่งๆต่างเหล่านี้มิใช่ความดีของขาโจ๋ แต่เป็นความดีของพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้รู้แล้ว เห็นแล้ว แล้วขาโจ๋ก็ขอความดีของพระองค์มาใส่กระหม่อมบางๆเผื่อขจัดความเลวให้สิ้นไป ด้วยที่ความเลวยังมากโขนัก

    ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยขอรับ
     
  4. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ขอบคุณ คุณขาโจ๋ เจ้าค่ะ
     
  5. คาเรีย

    คาเรีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +3,611
    เอาบุญมาฝากเจ้าค่ะ

    วันนี้ได้ไปร่วมเวียนเทียนที่วัดไตรรัตน์ (ใกล้ๆม.ค่ะ) รับศีล 5
    ได้ร่วมทำบุญสร้างพระอุโบสถ จุดเทียนถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา


    ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าและทุกท่านในกระทู้จงถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเถิด หากบารมียังไม่ถึงแต่ประการใด ขอคำว่าไม่มีจงอย่าได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าและกัลยาณมิตรในเรือธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ....สาธุ
     
  6. พรพิสุทธิ์

    พรพิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +3,811
    เอาบุญมาฝากค่ะ
    วันมาฆบูชา ไปวัดถวายภัตตาหารเช้ากับครอบครัว
    ถวายดอกไม้ ถวายปัจจัย 410 บาท
    ทำบุญกับวัดพระบาทน้ำพุ 100 บาท
    1/3/53 ไปเยี่ยมและให้เงินช่วยเหลือป้าช้อย(น้องสาวร่วมช่วยเหลือด้วย)500 บ.
    ขอเชิญอนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ
     
  7. คนหลงเงา

    คนหลงเงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +541
    ส่งข้อความตอนแรกตัวเล็กไปขอส่งใหม่ครับ

    ขอฝากตัว

    ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกในกระทู้ทุกๆท่านนะครับ โดยเฉพาะคุณสาว คุณฝน คุณอ้อย คุณหนิง และท่านอื่นๆ ทุกๆท่านที่ได้เขียนเล่าเรื่องประสบการณ์ของแต่ละคน อยากจะบอกว่าผมใช้เวลาอ่านกระทู้นี้นานมาก กว่าจะอ่านจบ ต้องยอมรับว่ามีประโยชน์มากมายครับ บ่อยเหลือเกินที่อ่านไปก็ยกมือไหว้สาธุไปเรื่อยๆ หลายเรื่องเป็นความรู้ที่หาได้ยากยิ่ง เป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคลซึ่งมีประโยชน์มากทุกตอนของทุกท่าน ได้ทั้งความรู้ แนวทางในการปฏิบัติ ข้อมูลใหม่ๆที่ไม่เคยพบ ขอถือโอกาสนี้อนุโมทนาในกุศลเจตนาของทุกท่านที่ผ่านมาและขอฝากตัวกับทุกคนด้วยนะครับ

    จากการอ่านมาทั้งหมดผมมีคำถามจึงขอโอกาสนี้เรียนถามคุณสาวหรือคุณอ้อยช่วยหาคำตอบให้ด้วยนะครับ ผมไม่มีความสามารถไปทูลถามพระพุทธองค์ ต้องขอรบกวนคุณทั้งสองช่วยด้วยครับ

    เป็นคำถามเรื่องของคุณชบากับคุณลำดวนกับคำตอบของคุณอ้อยที่ว่า
    พี่ลำควนและพี่ชบาท่านเป็นพระโสดาบันยังไม่ถึงขั้นพระอรหันต์

    แต่ก่อนหน้านี้คุณสาวเคยสนทนากับคุณชบากล่าวว่า "แต่พวกเราหมดแล้ว"
    ดังข้อความข้างล่างนี้

    ดิฉัน- เหรอ..ก็ยังงงๆอยู่ดี แล้วบนนิพพานนี่มีบริวารด้วย เออ..แปลกแต่ที่เห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับพวกที่อยู่สวรรค์ คนพวกนั้นชอบสนุกสนานเฮฮาเนอะ แต่พวกที่อยู่บนนิพพานนี่ ดูสงบเรียบร้อยสมถะดีจัง แตกต่างจากพวกบนสวรรค์โดยสิ้นเชิงเลยเนอะ
    ชบา-ค่ะ เพราะพวกนั้นเขายังมีกิเลส แต่พวกเราหมดแล้วไม่ต้องไปเกิดใหม่อีกแล้วค่ะ

    จากข้อความทั้งสองตอนจึงไม่ตรงกัน ฝากคุณสาวและคุณอ้อยทูลถามพระบรมศาสดาขอความกระจ่างในเรื่องนี้ด้วยครับ

    เรื่องของคุณชบาและคุณลำดวนมีประโยชน์มาก อยากฝากคุณสาว คุณอ้อยและท่านอื่นๆที่มีความสามารถช่วยหาข้อมูลถึงเหตุที่สามารถไปนิพพานของบุคคลต่างๆ ให้ท่านเหล่านั้นได้เล่าถึงเหตุที่ไปนิพพาน ว่าท่านเหล่านั้นสร้างเหตุอย่างไร และถ้าเป็นไปได้ช่วยแวะไปดูวิมานอื่นๆ ไปสนทนาถึงเหตุที่แต่ละท่านได้ไปนิพพานด้วยจักมีประโยชน์อย่างมหาศาลครับ

    ผมมีคำถามอีกมาก วันนี้ขอรบกวนแค่นี้ก่อนนะครับ ขอให้ทุกท่านมีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นครับ

    จากคนหลงเงา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2010
  8. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    มาขอต้อนรับขึ้นเรือก่อนท่านอื่นๆครับ คุณคนหลงเงา

    รับตั๋วแล้ว สักครู่พี่หนิง คงจะนำไม้พายมาให้

    เดินชิดซ้ายครับ ที่ว่างเยอะ

    พร้อมแล้ว ก็พายเลยครับ

    อ่านมาครบทุกหน้า คงจะทราบเรื่องราวทั้งหมดนะครับ

    ส่วนคำถามที่ถามไว้ สักครู่คงจะมีท่านผู้รู้มาตอบคำถามครับ

    Welcome on Board

     
  9. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    นำบุญมาฝากครับ

    สวัสดีครับท่านกัลยาณมิตร ที่น่ารัก ท่านผู้เจริญทุกท่าน

    วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ณ วัด ราชธรรมวิริยาราม ๔ เมืองคัลการี่ ได้จัดงานมาฆบูชา หลวงพ่อวิริยังค์ได้มาเป็นประธาน

    ผมได้ไปถวาย พระบรมสารีริกธาตุ สังฆทาน จีวร ข้าวสารสองถุง (ข้าวสารข้าวสวย และ ข้าวสารขาวเหนียว) เทียน อาหารแห้ง กระดาษทิชชู กระดาษ A4 น้ำยาล้างจาน และปัจจัย ที่วัดกับหลวงพ่อวิริยังค์ ครับ

    กุศลผลบุญใดที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกท่านที่เป็นสมาชิกในเรือลำนี้ และไม่เป็นสมาชิก ทั้งขาจร ขาประจำ ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ขอให้ทุกท่านได้รับผลบุญนี้ด้วยเทอญ

    ขอให้ทุกท่านมีความสุขยิ่งๆขึ้นไป ปราศจากทุกข์โศก โรค ภัย
    ขอให้สำเร็จทุกสิ่งตามที่ท่านได้ปรารถนา
    คำว่า ไม่มี ไม่รู้ ไม่สำเร็จ อย่าได้เกิดกับทุกท่าน
    ขอให้เข้าพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  10. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เอ...คำตอบของน้องอ้อย ทำไมถึงผ่านสายตาดิฉันไปได้นะคะเนี่ย จริงๆที่ถูกต้อง บุคคลที่เข้านิพพานแล้วเป็นอรหันต์ทั้งหมดนะคะ ไม่ใช่โสดาบันค่ะ ได้โทรไปถามน้องอ้อยเหมือนกัน เห็นน้องอ้อยว่า สงสัยจะรีบเขียนเกิน จริงๆอยากจะบอกว่า ตอนมีชีวิตอยู่ทั้งคู่เป็นโสดาบัน พอตอนจะตายก็ละสังขารได้ไม่สนใจอีกแล้ว จิตตรงต่อนิพพานก็เลยสำเร็จอรหันต์เข้านิพพานไปน่ะค่ะ

    ส่วนเรื่องให้ไปดูวิมานคนอื่นๆนี่ ดิฉันไม่ค่อยอยากทำนะคะ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เรื่องการไปนิพพานของแต่ละคนก็เอามาลงให้ดูพอเป็นตัวอย่างค่ะ คงไปถามทั้งหมดไม่ไหวละค่ะ ในหนังสือของหลวงพ่อฤาษีท่านก็เล่าไว้เยอะแยะ ลองไปหาอ่านดูนะคะ ครูบาอาจารย์ท่านเล่าไว้ให้เป็นตัวอย่าง ถ้าใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมต้องไปศึกษาปฏิบัติเอาเองค่ะ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน ต่อให้เล่าเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง ถ้าไม่ปฏิบัติเอง มันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดีละค่ะ

    ขออนุโมทนาในข้อสงสัยนะคะ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
     
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พอดีช่วงที่ไปบวชที่ศูนย์พุทธศรัทธาตอนเดินจงกรมอยู่ก็ได้เอาปัญหานี้ไปถามพระศาสดามาเหมือนกันค่ะคำตอบก็ได้มาดังนี้

    <O:p</O:p---------------------------------------------------------------<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ดิฉัน - นมัสการพระศาสดาค่ะ<O:p
    <O:p
    พระศาสดา - เจริญพร<O:p
    <O:p
    ดิฉัน - มีปัญหามาถามอีกแล้วค่ะ เรื่องไข่ การที่เราทุบไข่นี่บาปไหมเจ้าคะ<O:p
    <O:p
    พระศาสดา - ถ้าไข่มีตัวก็บาป ไม่มีตัวไม่บาป<O:p
    <O:p
    ดิฉัน - แล้วทำไมหลวงพ่อถึงบอกว่าแม้แต่ไข่ลูกนึงก็ห้ามทุบ ถึงเขาบอกว่าไข่ไม่มีตัวก็ไม่ได้ใจมันไม่สบาย<O:p
    <O:p
    พระศาสดา - สมัยก่อนนั้นการเลี้ยงไก่ก็เป็นไปแบบชาวบ้านธรรมดาๆไม่ได้มีเครื่องมืออะไรล้ำหน้าเหมือนสมัยนี้การที่จะดูว่าไข่นั้นมีตัวหรือไม่มีตัวก็ทำได้ยากหลวงพ่อท่านเกรงว่าไข่ที่เอามาทำอาหาร อาจจะเป็นตัวก็ได้ถึงแม้ใครจะบอกว่าไม่มีตัวก็ตามดังนั้นเพื่อความสบายใจท่านก็เลยสั่งห้ามซะเลยดีกว่าเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม<O:p
    <O:p
    ดิฉัน - อ๋อ...ค่ะ งั้นไข่ที่ไม่มีตัวก็ทานได้ <O:p
    <O:p
    พระศาสดา - ใช่ สมัยนี้วิวัฒนาการมันก้าวหน้าไข่ที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นไข่ที่เกิดจากการเลี้ยงให้ไม่เป็นตัว เป็นไข่ที่ไม่มีเชื้อไม่สามารถไปฟักเป็นตัวได้ อีกอย่างก็ดูเจตนาของเราด้วยถ้าเราไม่ได้มีเจตนาจะทำลายชีวิตใคร เราก็ไม่บาปหรอก<O:p
    <O:p
    ดิฉัน - ค่ะกราบแทบเท้าพระศาสดาในความกระจ่างเรื่องนี้ค่ะ<O:p
    <O:p
    พระศาสดา - เจริญพร<O:p
    <O:p
    ----------------------------------------------------------------------
    <O:p
    <O:p
    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มีนาคม 2010
  12. คนหลงเงา

    คนหลงเงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +541
    ขอขอบคุณ กับคำตอบของคุณสาวมากนะครับ สบายใจครับ ไม่ขัดกัน ตรงกับคำสอนของพระพุทธองค์ในพระไตรปิฏก
    และขอขอบคุณในการต้อนรับของทุกคนด้วยครับ
    ผมจะพยายามศีกษาและปฏิบัติให้มากขึ้นครับ
    จากคนหลงเงา
    ..........................................
    พร้อมตายทุกเวลา อยู่กับขณะจิตปัจจุบันให้ดีที่สุด ชาตินี้สุดท้าย ไปนิพพานอย่างเดียว
     
  13. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
  14. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
  15. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ต้องกราบขอบพระคุณพี่สาว me,myself มากๆเลยนะคะที่กรุณามาตอบให้
    และต้องกราบขออภัยท่านกัลยาณมิตรรวมถึงคุณคนหลงเงาด้วยนะคะกับความสะเพร่าเบาปัญญาของดิฉันทำให้เกิดการเข้าใจผิด

    คำตอบที่กระจ่างนั้น พี่สาวได้กรุณาตอบไปเรียบร้อยแล้วนะคะ ^_^
     
  16. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ช่วงนี้หลายๆท่านได้เดินทางไปทำบุญและปฏิบัติธรรมกันหลายๆที่ รวมถึงท่านกัปตันและทีมงานตลอดจนสมาชิกของพวกเราที่ล่าสุดได้ไปช่วยงานที่ศูนย์พุทธศรัทธา จ.สระบุรี

    เห็นพี่สาวเล่าให้ฟังว่ามีสมาชิกหลายคนได้ไปเจอกันและฝึกมโนมยิทธิและญาณ8กันที่นั่น ใครมีประสบการณ์ยังไงมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ หรือจะช่วยกันโพสต์รูปก็ได้นะคะ เผื่อคนที่ไม่ได้ไปจะได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ^^

    ส่วนอ้อยเองอยู่เชียงใหม่ ที่บ้านเกิดก็มีประเพณี 6 เป็ง(วันเพ็ญเดือน6เหนือ) ซึ่งปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชาพอดี ที่นี่มีพระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้(เป็นพระเกศาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันจำนวน8เส้น) ก็เลยมีการบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยค่ะ
    ขอเชิญท่านกัลยาณมิตรโมทนาบุญกุศลร่วมกันนะคะ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Doughnut

    Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    Happy Birthday กระทู้ค่ะ

    ฮ่า.. ว่าจะเข้ามาเขียนเรื่องที่ไปบวชเนกขัมมะ ที่ศูนย์พุทธศรัทธาช่วงมาฆบูชา

    แต่ว่า.. นึกได้.. ว่า .. วันนี้เป็นวันครบรอบ ๑ ปี ของกระทู้นี้ซะ..

    (f)HBDs

    เป่าเค็กพร้อมๆ กันนะคะ ท่านสมาชิก หยิบไปท่านละ ๑ ชิ้นคะ.. เค็กเราไม่มีวันหมด ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2010
  18. Doughnut

    Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    บวชเนกขัมมะบารมี วันมาฆบูชา ๒๗ กุมภาพันธ์-๑ มีนาคม ๒๕๕๓

    ในช่วงวันมาฆบูชา ๒๗ กุมภาพันธ์ ถึง ๑ มีนาคมที่ผ่านมาพวกเรา(คุณสาว, น้องเบน, จอร์จ,นารูฟอส, น้องอ้อยปาริชาติ, พี่กุ้งจากกลุ่มภัยพิบัติฯ, น้องหมอ assume) ไปบวชเนกขัมมะบารมี ณ ศูนย์พุทธศรัทธา ในวันมาฆบูชา ๒๗กุมภาพันธ์-๑ มีนาคม ๒๕๕๓ มาค่ะขอให้ทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันนะคะ

    ออกตัวว่า หนิงดึงชื่อตัวเองออกมาก่อนเนื่องจากมีเหตุให้กลับมารับพ่อและแม่ไปงานแต่งงานญาติค่ะช่วงที่ขับรถกลับมาก็ขึ้นไปขอลากับพระ ช่วงเช้าก็ขึ้นไปขอบวชใหม่กับพระอีกเช่นกัน

    <O:p</O:pเป็นครั้งแรกในรอบ ๒๐ กว่าปีที่ได้เวียนเทียนเคยคิดไว้หลายปีแล้วค่ะ ว่าอยากไปเวียนเทียนที่วัด แต่ชวนใครๆไม่เห็นมีใครสนใจเราเลย ครั้งนี้เลยสมใจนึก..<O:p</O:p
    <O:p
    น้องหมอ Assume เดินทางมาจากนครศรีธรรมราช (สุดยอดจริงๆ คนนี้)ออกเดินทางจากท่าศาลา มาตั้งแต่วันที่ ๒๕ ก.พ. มาถึงกรุงเทพฯเช้าตรู่ หนิงนัดน้องว่าจะไปรับที่หัวลำโพงตอนประมาณ ๖.๔๕ น.แล้วจะกลับมารับน้องชายไปทำงาน (ทางผ่านต้องรับใช้เจ้านายที่บ้านก่อนค่ะ บอกแล้วว่าเป็นแจ๋วมาแต่กำเนิด ฮา)
    <O:p</O:p<O:p
    น้องหมอโทรมาหา ช่วงใกล้เวลานัดก็บอกสถานที่ไปว่าให้เดินมาตรงที่มีรถเมล์จอดเยอะๆ หันหน้าออกไปทางเข้าหัวลำโพงอยู่ทางด้านขวามือ แถวๆ ที่จอดรถ บอกน้องว่าแถวๆ คลองอ่ะ (ฮา..เข้าใจผิดกันนิดนึงคลองหนะ มีสองฝั่ง เกือบไปแล้ว) หนิงนำรถไปจอดที่จอดรถเอะใจเหมือนกันว่าน้องจะข้ามฝั่งป่าวหว่า โทรไปหา โชคดีนะ ที่เดินไปไม่ไกล
    <O:p</O:p<O:p
    เจอหน้ากันหมอบอกว่าหลวงปู่ฤาษีบอกน้องว่าหนิงใส่เสื้อสีชมพู จริงๆ คือสีเบจคล้ายๆ กันป่าวไม่รู้นะคะ (อดนึกไปถึง ช่วงกฐินวัดกู่เสือไม่ได้ ที่ร้านพี่สาวน้องริคฯตอนที่รู้ว่าคณะเราไม่เคยเจอหน้าค่าตากันมาก่อน ทำหน้าแบบตกใจ)

    <O:pจากนั้นก็ไปวัดท่าซุงปีนี้หนิงไปวัดท่าซุงมานับรวมครั้งนี้ เป็น ๔ รอบแล้วค่ะ เดือนละ ๒ ครั้ง..ฮ่า..เดือนหน้าไปอีก แต่ว่า..ของแท้..ย่อมหลงทางเป็นปกติ ครั้งนี้ก็หลงทางค่ะคุยกับน้องหมอให้ช่วยมองทาง อ่างทอง-นครสวรรค์ ไหง..ไปๆ มาๆ ป้ายหายเข้ามาทางเส้นสระบุรีซะนี่.. เลยต้องอ้อมเข้าทางลพบุรี, สิงห์บุรีผ่านเส้นทางค่ายบางระจัน..บอกน้องหมอว่าเข้าใจหรือยัง ว่าทำไมต้องหลงทาง
    <O:p</O:p<O:p
    ดูเวลากันแล้วเราไปเฉียดฉิวกับเวลาที่วัดท่าซุงจะปิดแต่เรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาสำหรับเราค่ะ ไปที่แรก คือวิหารสมเด็จองค์ปฐมแต่ปิด.. ไม่ทันเวลา ไปถามผู้ที่เฝ้าวิหาร ท่านว่าให้ไปที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรไปกราบหลวงพ่อฤาษีก่อนสิ ยังทัน อีก ๕ นาที ควบกันน่าดู
    <O:p</O:p<O:p
    รวมๆ แล้ว เราไปได้ครบหมดทุกจุดตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ กว่าจะออกจากวัดท่าซุง มุ่งไปที่ศูนย์พุทธศรัทธา บ้านหมอ ก็เย็นพอควร ที่รับปากว่าจะไปช่วยงาน.. ก็เหมือนทำไม่ได้เลยค่ะ _/\_ กราบขอโทษอจ.ชนะ และอจ.แม่ด้วยนะคะ <O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • page_13.jpg
      page_13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      271.7 KB
      เปิดดู:
      55
    • page_12.jpg
      page_12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      173.1 KB
      เปิดดู:
      45
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  19. squrez

    squrez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +2,987
    อนุโมทนากับทุกท่านครับ
    วันนี้ เวลา ๒๐.๐๘ น. ได้โอนเงินร่วมทำบุญเลี้ยงพระและญาติโยมวันเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน จำนวน ๒๐๐.๑๑ บาท ครับ อนุโมทนาด้วยกันนะครับ ^^
    ป.ล. เสียดายจริงๆ ครับไม่ได้งานบวชเนกขัมมะบารมี
     
  20. คาเรีย

    คาเรีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +3,611
    ^
    ^

    เห็นพี่เขียนถึงเรื่องเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน หนูว่าปีนี้จะไปแหละค่ะ (ไม่เคยไปเลย หนูขอไปสักที) มีพี่ๆในกระทู้ไปไหมคะ? แหะๆ เผื่อจะได้ไปด้วยกันน่ะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...