สมเด็จองค์ปฐม 400 บาท ยอดเยี่ยมการคุ้มครอง มีผลในอนาคตอันใกล้

<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ตามที่คุณTackledว่ามาก็ถูกต้อง
เมื่อสมัยก่อนอยากได้พระวัตถุมงคลอย่างเดียวไม่ได้นึกเรื่องทำบุญ
พอมาตอนนี้ก็เพิ่งนึกออกว่าเราทำบุญแล้วได้พระมาไว้บูชาด้วย
ส่วนมากในนี้ก็มีความเคารพศรัทธาในหลวงพ่อวัดท่าซุงกัน มีสิ่งดีๆก็มาบอกกล่าวกัน
</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมเคยได้ยินหลวงพ่อท่านเทศน์ที่ซอยสายลมครั้งหนึ่ง จำได้แม่นยำว่าตอนนั้นมีผู้สอบถามว่าทำไมคุณลุงยกทรงถึงห้อยพระมากมายขนาดนั้น แถมแขวนระโยงระยางไปทั่ว(ภาพ1-2) หลวงพ่อท่านเทศน์สอนว่า เหตุที่เวลาเราถวายสังฆทานกับท่านทีไร ท่านจะให้พระของขวัญกลับมา 1 องค์ทุกครั้งไป ท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเมตตาว่า คราใดที่ลูกเห็นพระของขวัญ ลูกจะได้ระลึกได้ว่า ครั้งหนึ่งได้เคยทำบุญ ได้เคยถวายสังฆทาน การที่เห็นพระของขวัญ 2 องค์คือ ได้ทำบุญสังฆทาน 2 ครั้ง แบบนี้เรื่อยไป ...ผมเลยถึงบางอ้อ และแอบปิติกับคุณลุงยกทรงมากๆ

เมื่อหลวงพ่อฤาษีฯมรณภาพลง ผมยังขุดเอากรุพระเครื่องมานับดูว่า ตั้งแต่ได้มีโอกาสรู้จักกับท่าน เราได้ถวายสังฆทานโดยตรงกับมือท่านกี่ครั้ง การถวายสังฆทานกับท่าน เราคงไม่ต้องบอกกันนะครับว่า บุญใหญ่ และบุญหนักขนาดไหน ศิษยานุศิษย์ต่างเล็งว่าคราใดที่ท่านออกจากนิโรธสมาบัติเมื่อไหร่ ต่างเฮโลกันพัลวัลเพื่อจะได้ใส่ย่ามท่าน ตอนนั้นไม่มีใครไปคิดว่าท่านจะให้พระหรือไม่ ต่างอยู่ในอารมณ์ปิติถึงบุญใหญ่ที่กำลังจะได้รับ ที่ปิติกว่านั้นคือ นอกจากท่านจะแนะนำแบบนี้แล้ว ท่านยังแนะนำถึงพระสงฆ์องคเจ้ามาที่วัดท่าซุง ให้เราได้ทำสังฆทานกับพระองค์นั้นๆ ผมได้เคยถวายสังฆทานกับหลวงปู่ฟื้น วัดสามพระยา ซึ่งหลวงพ่อเคารพนับถือท่านมากๆ(มีภาพประกอบรูปท่าน) หลวงปู่เกี่ยว วัดสระเกศ หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี อีกมากมายเลยที่ท่านแนะนำ หลวงพ่อท่านทราบด้วยจิตว่าพระที่ท่านแนะนำเจตนาต้องการมาช่วยหลวงพ่อ และต้องถวายคืนวัดท่าซุงในตอนท้ายทุกครั้ง เท่ากับว่า เราทำบุญผ่านพระอริยสงฆ์ และท่านนำไปถวายหลวงพ่อของเราอีกครั้ง เท่ากับได้ 2 ต่อครับ อีกทั้งบุญที่เกี่ยวกับโดยเสด็จพระราชกุศลนั้นอานิสงค์แรงมากๆ เป็นการเร่งรัดบารมี รวดเร็วกว่าเดิมหลายเท่า ยิ่งผ่านวันฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปีของท่านบารมีท่านยิ่งมากกว่าเดิมหลายเท่า

รักพ่อ...

 

ใครๆก็อยากได้ของที่ทันท่านปลุกเสกทั้งนั้น ถ้าให้เลือกระหว่างทันท่านกับไม่ทัน ยังไงผมก็เลือกของที่ท่านทำครับ ถึงแม้อานุภาพไม่ต่างกันแต่ความรู้สึกมันต่างกัน ที่นำมาบอกกล่าวกันนั้นไม่ต้องการให้ท่านที่ยังไม่มี สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 1 รุ่น 2 ที่ราคาสูงมาก ต้องเสี่ยงกับของทำเลียนแบบ เลยแนะนำรุ่นนี้ครับ

 

ก่อนที่หลวงพ่อฤาษีฯท่านจะมรณภาพลง ช่วงการถวายสังฆทานที่ซอยสายลม ท่านได้พูดถึงอาการป่ายของท่าน ท่านเบื่อหน่ายขันธ์ 5 ของท่านมาก หลายๆท่านก็เป็นห่วงอาการของท่าน ท่านได้พูดถึงก้อนเสลดในคอของท่านซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่เอาไม่ออก ท่านได้เอ่ยถึงการช่วยเหลือของท่านว่าท่านทำไม่ได้มากในตอนนี้เนื่องจากกายสังขารของท่านไม่สามารถจะสงเคราะห์ได้มาก (ขนาดท่านว่าไม่มาก เรายังรู้สึกว่ายิ่งใหญ่มากเลยนะ แล้วหากว่าใหญ่มากในความหมายของหลวงพ่อ จะใหญ่มากในความรู้สึกของเราขนาดไหนนะ!!!) ท่านบอกลูกทุกคนว่าหากท่านไปแดนพระนิพพาน ท่านสามารถจะสงเคราะห์พร้อมๆกันได้มากเลยมุมนั้นมุมนี้ของโลกท่านก็เดินทางไปได้...ขอให้เชื่อในวาจาสิทธิ์ของท่าน เชื่อในมโนมยิทธิที่เป็นสมบัติชิ้นงามของพ่อที่ได้มอบไว้ครับ คราใดที่อยากพบพ่อ มโนมยิทธิ จะพาเราไปนั่งกราบแทบเท้าท่านครับ....

 

ตามที่ผมได้อ่านมา จากคุณ woottiponและคุณมหาหิน ก็สามารถสรุปได้แล้ว หรือว่าคุณ poem ยังไม่ได้อ่าน ยังไงก็ลองกลับไปอ่านดูใหม่อีกรอบก็ดีนะครับ

 

ขอขอบพระคุณ คุณ woottipon คุณมหาหิน คุณ เพชร และท่านอื่นๆ ที่ช่วยกันให้ข้อมูล ซึ่งผมเองก็ได้เช่าบูชาสมเด็จองค์ปฐมรุ่นนี้มาไว้ด้วยจำนวนหนึ่งแล้ว และตั้งใจว่าจะเก็บไปเรื่อยๆทุกเดือน จนกว่าพระที่วัดจะหมดครับ

และสำหรับในวันที่ 2-3 กันยายน ท่านสามารถไปเช่าบูชาได้ที่บ้านสายลม ซึ่งในครั้งนี้ พระเจ้าหน้าที่จะนำมามากกว่าปรกติ เพราะมีผู้สนใจกันเยอะมาก และเพื่อความมั่นใจ ให้ท่านลองถามพระเจ้าหน้าที่ดูอีกครั้งก็ได้ครับ ว่าทันหลวงพ่อหรือไม่ และได้ข่าวว่าตอนนี้มีหลายท่านก็ได้เริ่มเก็บกันแล้วครับ

 

อืม ไปเช่ามาเดือนที่แล้วที่บ้านซอยสายลม ยังมีอีกนี่ ลองๆไปดูกันอาทิตย์หน้า

 

ผมเพิ่งไปวัดท่าซุงมาเมื่อวันที่ 26 ถามหลวงพี่ที่ท่านให้บูชา บอกว่าเหลือไม่มากแล้วครับแค่หลักพัน รีบบูชากันนะครับ

 

วันที่ 28 ส.ค.2549 แวะวัดท่าซุง....
(กลับจากวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ ลำพูน)

เพื่อน ๆ ฝากบูชาสมเด็จองค์ปฐม อีก 38 องค์
เมื่อแวะเข้าไปบูชาวัตถุมงคล ได้กราบพระ และกราบองค์หลวงพ่อฯ

ก็คุ้มค่า....
...........

 

มีเรื่องตลก "ร้าย"
เพื่อน ได้โทร.เข้ามาบอกว่า....

มีบางคน กล่าวว่า.. ตั้งประเด็นว่า....
ผมเป็นคนที่ "ปั่นราคา" เพื่อให้ "พระ" หมดไปจากวัดฯ

แล้วจะได้เก็งกำไร....

ผมคิด ๆ ดู.... มันก็เป็นไปได้(หากเป็นจิตของ "คนเลวระยำ")
หากผมเป็น เช่นนั้น.... ผมก็ตรองดู.... อืมมม.... ผม นี่คงเลวแท้ ๆ

......................................................................

แต่ที่ผมบอกว่า เป็น "เรื่องตลก" สำหรับผมเอง....
เพราะว่า.... วันที่ ผมได้โพส ภาพ และแจ้งข่าวในรายละเอียด นั้น....

ให้ผมชักดิ้นตาย ต่อหน้าพระ และที่หน้าจอคอมพิเตอร์ เดี๋ยวนี้เลยครับ...


วันที่ผมโพส นั้น ผมมี "สมเด็จองค์ปฐม" รูปหล่อลอยองค์ เพียงองค์เดียว
ก็คือ.. องค์ที่ผมโพสภาพ นั่นแหละครับ.


แล้วผมจะไป "ปั่นราคา" ทำไมกัน ในเมื่อ.. ผมมีเพียงองค์เดียว....
โถ.. ช่างน่าสงสาร.. ตัวเอง....

................................................................

แต่ถึงวันนี้(1 ก.ย.2549) ผมมีกว่า 10 องค์แล้ว เพราะว่า....
เพื่อน ๆ เขาเมตตา.. คุณพัฒนาฯ และคุณณรงค์ฯ มอบให้ผม ท่านละ 5 องค์
ทั้ง 2 คน นี่ รวมกัน ก็ 10 องค์

แล้วที่ผมพอที่จะกระเบียด กระเสียน เพียรหาทางบูชาด้วยตนเอง.ได้อีกนิดหน่อย

ถึงจะมี 10 กว่าองค์ แล้วจะไปปั่นราคาได้ไงกันเนี่ยยยยะ

ผมถึงว่า เป็นเรื่อง"ตลก"

ก็เป็นจริงตามที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสแสดงไว้ เกี่ยวกับเรื่อง "นินทา"

จากจุดมุ่งหมาย มุ่งหวัง อันดี ต่อพี่ ๆ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ....
กลายเป็นเรื่องร้าย เลวอย่างบัดซบ ไปได้เหมือนกัน....
(โลกนี้ มันไม่เที่ยง มันไม่มีความแน่นอน จริง ๆ ด้วย)

แสดงว่า กรรมเลวของเรามีจริง.. มีมาก.. ทีเดียว
ก็ไม่เป็นไร หากเรายอมรับในกรรมของเราเองเสียได้.. ก็ไม่หนักใจ....

วันหนึ่ง ข้างหน้าอันใกล้ ๆ นี้ ก็คงจะรู้ผลกันได้ ถึงความปรารถนาดี(ที่กลายเป็นเลว)

แล้วถ้าหาก ผมมีกะตังค์ เหมือนกับเขาบ้าง....
ผมจะมาบอกอีกครั้งว่า ผมบูชามาแล้ว ทั้งหมดกี่องค์....

ฮึ.. ไม่โกรธ.. ไม่โกรธ.. ไม่โกรธ..
(เพียงแต่ว่า.. ก็จำๆ ไว้บ้าง ก็เท่านั้น)
.....................................

 

ขอน้อมอัญเชิญคำสอนของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ วัดเทพศิรินทร์
มาเป็นกำลังใจให้พี่มหาหินและทุก ๆ ท่านที่ทำความดี ดังนี้

คนเราเมื่อมีลาภ ก็มีเสื่อมลาภ
เมื่อมียศ ก็มีเสื่อมยศ
เมื่อมีสุข ก็มีทุกข์
เมื่อมีสรรเสริญ ก็มีนินทา
เป็นของคู่กันมาเช่นนี้
จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์
ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม
นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐเลิศยิ่งกว่ามนุษย์และเทวดา
ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน
ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกะธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้
ต้องคิดเสียว่า เขาจะติก็ช่าง ชมก็ช่าง
เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดเนื้อร้อนใจ
ก่อนที่เราจะทำอะไร เราคิดแล้วว่า
ไม่เดือดร้อนแก่ตัวเราแลคนอื่น เราจึงทำ
เขาจะนินทาว่าใส่ร้ายอย่างไรก็ช่างเขา
บุญเราทำ กรรมเราไม่สร้าง
พยายามสงบกาย สงบวาจา สงบใจ
จะต้องไปกังวนกลัวใครติเตียนทำไม
ไม่เห็นมีประโยชน์ เปลืองความคิดเปล่า ๆ

 

ใจเย็นครับท่านพี่ มหาหิน
คำว่า"มหาหิน" แปลว่าอะไรครับ
ในทัศนะผม น่าจะแปลว่าสุดเข้มแข็งๆๆๆๆ....นะครับ
เข็มแข็งไว้พี่......
คำๆนี้น่าจะใช้ได้กับสถานการณ์ครับ "มารไม่มี บารมีไม่เกิด"
เป็นกำลังใจให้พี่มหาหินครับ
ภัทร.... (verygood)

 

ผมว่าถ้าพี่มหาหินจะปั่นราคาอย่างน้อยๆ แกก็ต้องมีสมเด็จองค์ปฐมอยู่ในมือมากพอสมควรแล้วถึงมาแจ้งข่าวเพื่อสร้างกระแสปั่นราคา แล้วก็รอราคาขึ้นค่อยปล่อย นั่งคิดนอนคิดยังไงก็ไม่คุ้ม ถ้าพี่เค้าจะทำจริงๆผมว่าเอาพระคำข้าวพระหางหมากที่แกบริจาคบ่อยๆ มาปล่อยราคาแพงๆ เอาเงินเข้ากระเป๋าเองไม่ดีกว่าหรือครับ คุ้มกว่าเยอะนะผมว่า คิดไปได้ไง

การอิจฉาความเลวของผู้อื่นเป็นบาป
การอิจฉาความดีของผู้อื่นบาปยิ่งกว่า

 

มารบ่มีบารมีบ่เกิด.....

 

นั่นคงเป็นที่มาของคำว่า "มหาหิน" กระมังครับ นั่นแสดงว่าหลวงปู่ชื้นท่านคงจะทราบดี จึงได้ตั้งชื่อนี้ให้ เพื่อให้พี่เข้มแข็งให้เหมือนหิน

 

ผมคิดว่าพอพี่มหาหินได้ฟังเขาว่ามาอย่างนั้น ก็คล้ายๆกับผมคือยิ้มอย่างมีความสุข ว่าโอ้หนอนี้คำสอนของพระพุทธเจ้าท่านว่าไว้จริง องค์หลวงพ่อท่านสอนไว้แล้วเราก็ได้เจอของจริงแบบนี้ยิ่งยิ้มใหญ่และก็โมทนากะบุญของพี่มหาหินทั้งหมดด้วยน่ะครับ

 

เป็นกำลังใจให้ครับ ไม่ต้องสนใจนะครับ

ถึงราคาพระหลวงพ่อจะขึ้นหรือไม่จะหมดหรือไม่ ผมก็ยังคิดว่าเพื่อพระพุทธศาสนาแล้ว เพื่อองค์พระพุทธ พระธรรม และองค์หลวงปู่หลวงพ่อแล้ว
ผมก็ยังเชื่อและศรัทธาในตัวพี่มหาหินว่าทำเพื่อพระพุทธศาสนาจริงๆเงินทุกๆบาทก็ทำเพื่อศาสนา

ผมคนนึงละที่สนับสนุนพี่มหาหินต่อไปและจะร่วมทำบุญเสมอๆครับ
เป็นกำลังใจให้และขออนุโมทนาในบุญที่ทำไว้ดีแล้วของพี่ด้วยครับ

 

ผมก็ธนาณัติไปบูชาเหมือนกันอาทิตย์หนึ่งแล้วยังไม่ได้รับของเลย ไม่รู้ต้องรอนานเท่าไหร่ครับ

 

สร้างบารมีครับพี่มหาหิน อย่างที่พี่เคยบอกกับผมไว้ ธรรมะย่อมชนะอธรรม

 

ขอกราบขอบพระคุณ ทุกความคิดเห็น ที่สร้างกำลังใจ ที่ดีต่อกันเสมอมา....

................................................

ความจริง.. ผมก็ยอมรับได้แล้วครับในเรื่องนี้....

อะไรจะเกิด มันก็ย่อมเกิด.. ใครจะห้ามกรรมได้....
หากว่าจะหนีกรรม ก็พอจะได้อยู่..

แต่มันก็ลบ ก็ล้างกรรม ไม่ได้....

ใครมีกำลังบุญดีอย่างยิ่ง ก็หนี เข้าพระนิพพานไปเถิดครับ....
(บุญใหญ่สุดในพระศาสนา ก็คือ.. บุญที่เนื่องด้วย สมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา)

อย่าได้หวังการเกิด กันอีกเลย....
เกิดอีก ก็ทุกข์อีก....
เมื่อมีขันธ์ 5 มีร่างกายขึ้นมา ก็ล้วนแต่เป็น "รัง" ของโรค .. อันเป็นทุกข์ทางกาย
เมื่อมีร่างกาย จิต หรืออทิสมานกาย ก็ต้องมาคอยสั่งการ และรับรู้ ความต้องการ
จากระบบประสาท และธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ

ต้องมารับอารมณ์อันขุ่นใจ อันเกิดจากตัวเอง และผู้อื่นแสดงส่งผลมาถึงเรา....
ก็คือ กรรมเลว ที่เราทำไว้นั้นเอง หากเราไม่เลวมาก่อน ก็ไม่มีใครทำให้ทุกข์ใจ....

ก็ลองคิดดูง่าย ๆ ว่า....
หากเราไม่ได้ กู้เงินใครเขา มาใช้.. ไม่เคยเป็นหนี้ใคร ๆ
แล้วจะมีใครละครับ ที่หน้าด้าน มาทวงเงินเรา ทั้งที่เราไม่ได้กู้เขามา....

ใช่ไหมครับ....

ไม่กู้เขาก่อน.. ก็ไม่มีเจ้าหนี้คนไหน มาคอยทวงถาม....
ไม่ได้สร้างกรรมไว้.. ก็ไม่ต้องมานั่งใช้หนี้กรรม....

หากเรามีความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ขึ้นมาเมื่อใด....
นั่นก็แสดงว่า กรรมเก่า เขาส่งผล....

หากเราไปจับ ไปยึดมั่น ถือมั่น.. มันก็ทุกข์กาย ทุกข์ใจ....

หากเรา "วาง" เสียได้ ไม่ยึด ไม่ถือ.. ช่างมัน.. จิตก็คลาย สบายใจ สบายจิต....

ความสุขในจิต.. ก็ปรากฏ....
อย่างนี้ ก็ใกล้ พระนิพพานกันแล้ว ครับ....
สาธุ โมทนายิ่งนัก....

................................

เอ.. ยังไง มาทางนี้ได้ละเนี่ย....

ขอกราบต่อคำตรัสสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระจอมไตร....
ที่องค์หลวงพ่อฯ เมตตา นำมาสอนสั่ง....

กราบ..
กราบ..
กราบ..
........................................